เทศกาลจัดงานปาร์ตี้ส่งท้ายปีเก่า ก็เป็นวันรวมญาติ และเมื่อกินอิ่ม พูดคุยกันอิ่มหนำแล้ว ก็ได้เวลาถ่ายรูปหมู่ รูปนี้มีเบื้องหลังที่อยากบันทึกไว้ ว่ากว่าจะเป็นภาพนี้ใช้เทคนิคหลายชนิดรวมกัน ลองดูว่ามันมาจากความรู้เรื่องอะไรบ้าง คนที่ไม่สนใจเรื่องเทคนิคก็ข้ามไปได้เลย ส่วนคนที่อยากฝึกฝนให้ถ่ายภาพได้คุณภาพตามที่ต้องการเสมอในทุกๆภาพก็อ่านเล่นๆ ค่อยๆทำความเข้าใจไปได้
1 ภาพนี้แสงไฟในบ้านเป็นไฟสีเหลือง แต่กล้องปรับตั้งค่า white balance เป็นแบบ custom ก็คือมีการตั้งค่าให้สีถูกต้องสำหรับสภาพห้องนี้ หากเราตั้งค่าในกล้องเป็น auto whitebalance ภาพจะอมเหลืองมากกว่านี้ และหากตั้งค่าเป็น tungsten ภาพก็จะอมเหลืองหนักยิ่งกว่าเดิม สิ่งที่ดีที่สุดคือ custom whitebalance ดูตัวอย่างวิธีการตั้งค่า
2 ภาพนี้ใช้ขาตั้งกล้อง สภาพแสงในบ้านเป็นสภาพแสงที่ถือว่าน้อย หากกล้องปรับ iso ได้ไม่สูงพอ สปีดชัตเตอร์ก็จะต่ำ และภาพนี้ต้องการความชัดที่มากกว่าปกติ การใช้รู้รับแสงกว้างที่สุดของเลนส์จะทำให้คนส่วนใหญ๋ไม่ชัด เพราะยืนกันคนละระนาบ ถ้าไม่ใช้ขาตั้งกล้องในภาพนี้ ต้องดัน iso ให้สูง เพื่อให้สารมารถใช้รูรับแสงแคบได้ แต่การใช้ขาตั้งกล้องจะมีข้อดีมากกว่า เพราะจะช่วยให้องค์ประกอบภาพเป็นอย่างที่ต้องการ คือไม่เอียงและถ่ายภาพได้ไม่สั่น
3 ภาพนี้ใช้รูรับแสงแคบที่ f8 ทั้งๆที่เลนส์ตัวนี้เป็นเลนส์ f4 การถ่ายภาพหมู่ควรจะตั้งค่าให้รูรับแสงเล็กเพียงพอที่จะทำให้คนส่วนใหญ่ในภาพมีความชัดเจน โฟกัสที่กลางภาพแล้วเลือกรูรับแสงแคบไว้ แต่ภาพนี้เด็กอยู่ในตำแหน่งด้านหน้าและมีโผล่หน้าเข้ามาหากล้องเลยไม่ชัดเท่าที่ควร
4 ใช้รีโมทชัตเตอร์ ซึ่งกล้องรุ่น eos 6d สามารถตั้งค่าให้สั่งกดชัตเตอร์ผ่าน app ได้ การหัดเรียนรู้การใช้ app ในการสั่งการกล้องต้องใช้เวลาทำความเข้าใจสัก 30 นาที เพื่อให้รู้ว่าเราสั่งอะไรผ่าน app ได้บ้าง หากยังไม่เคยใช้ และไปกดมั่วหน้างาน รับรองได้มั่วแล้วเสียงาน หัดไว้ล่วงหน้าจะช่วยให้ภาพเป็นไปตามที่ตั้งใจได้
5 ใช้การชดเชยแสง +1ev การถ่ายภาพโทนสีอ่อนจะมีผลทำให้การวัดแสงของกล้องปรับตัวเองเพื่อรับแสงน้อยลง จะมีผลทำให้ภาพดูมืดกว่าความเป็นจริง อะไรที่เป็นสีขาวจะดูเป็นสีเทา กำแพงบ้านเป็นสีขาวและสีเสื้อคนส่วนใหญ๋ในภาพเป็นโทนอ่อน วัดแสงพอดีก็ได้ภาพหน้าดำกว่าปกติแน่นอน ดังนั้นการชดเชยแสงให้กล้องรับแสงมากขึ้นอีก 1 สต๊อป หรือ +1ev ก็จะช่วยให้ภาพสว่างขึ้น สิ่งที่ควรขาวก็จะขาวอย่างที่ควรจะเป็น
วิธีคิดแบบนี้จะมาโดยอัตโนมัติเพื่อเหตุการณ์นี้อยู่ในมือช่างภาพที่มีประสบการณ์การถ่ายมามากพอ คือมีประสบการณ์การถ่ายที่ผิดพลาดมาแล้ว เคยได้ภาพแย่ เคยได้ภาพเสีย เคยได้ภาพไม่น่าดูมาแล้ว ดังนั้นคำว่าผิดเป็นครูเป็นหนทางที่จะพัฒนาฝีมือการถ่ายภาพให้มีข้อผิดพลาดน้อยลง
Discover more from Pockethifi's Blog
Subscribe to get the latest posts sent to your email.

