ในอดีตที่ผ่านมาในยุคที่ยังไม่มีอินเทอเน็ต สิ่งแรกที่คนทำธุรกิจต้องคิดก่อนจะเริ่มขายก็คือต้องหาที่ทางในการเปิดร้าน จะขายอะไรสักอย่างหนึ่งเราก็ต้องหาทำเล เราจะไปเปิดร้านที่ไหนที่ลูกค้าถึงจะคิดถึงและแวะไปหาเราได้ ถ้าเราจะขายต้นไม้ คนซื้อจะแวะไปดูที่ไหน ก็คงเป็นสวนจตุจักร ถ้าเราจะขายคอมพิวเตอร์ คนซื้อก็มักจะไปดูที่ห้างไอที สมัยก่อนก็พันทิพย์ ฟอร์จูน ถ้าลูกค้าอยากได้ของแห้งจากต่างประเทศเขาก็น่าจะแวะไปดูแถวเยาวราช เจริญกรุง ถ้าจะซื้อเครื่องดนตรีก็แวะไปเวิ้งนครเกษม ถ้าซื้ออุปกรณ์สังฆภัณฑ์ก็น่าจะไปย่านเสาชิงช้า ลูกค้าจะถามจากคนเคยซื้อว่าต้องไปดูที่ไหน คนทำธุรกิจก็ต้องตามไปเปิดร้านที่นั่น โลกเราถึงมีคำว่าทำเลทอง
ลูกค้าสนใจจะซื้อของก็จะเดินทางไปยังทำเลทองของสินค้าตัวนั้น เมื่อไปถึง ลูกค้าจะเลือกสุ่มเดินเข้าไปสักร้าน ร้านค้าในย่านทำเลทองก็จะมีสินค้าแนวเดียวกัน แวะร้านไหนก็ได้ ลูกค้าสุ่มเข้าสักร้าน แล้วก็คุยกับคนขาย ถ้าถามตอบคุยกันไม่ถูกใจ ก็ออกมา แวะร้านต่อไป ถ้าคุยกันดี ตอบคำถามดี ก็ค่อยตัดสินใจซื้อ
แนวทางการขายของก่อนจะมีอินเทอเน็ต ลูกค้าจะพบกับคนขายก่อน แล้วก็เกิดการพูดคุย การพูดคุยที่เกิดขึ้นมันก็คือ Content ข้อมูลสินค้า ข้อดี ข้อเสีย เรื่องเล่า รีวิวจากคนอื่นๆที่เล่าต่อๆกันมา เจ้าของร้านยกตัวอย่างการใช้งานของลูกค้าคนอื่นให้ฟัง นี่คือขั้นตอนที่เกิดการแสดง Content เจ้าของร้านกำลังแสดง Content และลูกค้ากำลังเสพ Content ซึ่งๆหน้า จนกระทั่งเกิดความพอใจ ได้รับข้อมูลที่ถูกใจจึงตัดสินใจซื้อ
ถ้ามีลูกค้าห้าคนเข้ามาที่ร้าน เจ้าของร้านก็แสดง Content 5 ครั้ง ถ้ามา 20 คน ก็แสดง Content 20 ครั้ง พอปิดร้านก็บ่นให้ลูกเมียคนในบ้านฟังว่า วันนี้ทำงานหนัก ลูกค้าเข้าไม่หยุดเลย
พอเปลี่ยนมาเป็นยุคอินเทอเน็ตในแบบปัจจุบัน ทุกคนสามารถสั่งซื้อสินค้าได้จากโทรศัพท์มือถือ ทุกคนซื้อของจากใครก็ได้ โอนเงินให้ใครก็ได้ วิธีการซื้อจะมีลักษณะขั้นตอนดังนี้ คือ เมื่อเกิดความสนใจสินค้า เกิดความรู้สึกว่าอยากได้ อยากมี ก็จะค้นหาข้อมูลก่อน หาจาก search engine ว่าสินค้าที่เราอยากได้มีใครขาย เราจะดูแลหรือใช้งานสินค้านี้ยังไง มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร ถ้าเป็นสัตว์เลี้ยงต้องระวังเรื่องอะไร มันกินอะไร ห้ามกินอะไร คนอื่นที่เคยใช้เขาเคยชมว่าอย่างไร เคยบ่นว่าอย่างไร ขั้นตอนที่ลูกค้ากำลังเสพข้อมูลเหล่านี้ก็คือการ เสพ Content
เมื่อเสพ Content ได้ถึงระดับที่พอใจ ก็ตัดสินใจ ใครตอบคำถามดี ให้ข้อมูลแวดล้อมได้ถูกใจ ก็ลองดูว่าเขาขายอยู่ใช่ไหม ตัดสินใจซื้อจาก Content ที่เราชอบ เพราะเจ้าของเว็บ เจ้าของร้าน น่าจะรู้เรื่องดี คงบริการเราได้ ตัดสินใจได้แล้วก็เดินทางไปซื้อ หรือ สั่งซื้อออนไลน์เลย กรณีนี้ ลูกค้าตัดสินใจซื้อก่อนเจอหน้าเจ้าของร้าน
การที่ใครสักคนจะซื้อของจากเรา จะมีเหตุผลแค่ 3 อย่างที่เขาคิดในหัว มีแค่ข้อใดข้อหนึ่งก็ทำให้เกิดการซื้อได้แล้ว ยิ่งมีหลายข้อยิ่งดีนั่นคือ ลูกค้าซื้อเราเพราะ
1 รู้จักกันมาก่อน รู้จักมานาน รู้จักมาตั้งแต่สมัยเรียน ตั้งแต่สมัยทำงานด้วยกัน เป็นความสนิทสนมที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
2 ถูกชะตา คุยกันถูกคอ ลูกค้าแวะมาคุยกับคนขายแล้วรู้สึกว่าร้านนี้ตอบคำถามดี มีข้อมูลละเอียด
3 แก้ปัญหาได้ ช่วยเหลือลูกค้าได้ เข้าใจสินค้าและเข้าใจความต้องการของลูกค้า รู้ข้อดี ข้อเสีย ข้อจำกัดของสินค้า และแนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้ลูกค้าได้
ซึ่ง 3 ข้อนี้คือสิ่งที่เราต้องพยายามทำให้เกิดขึ้น เพื่อให้ลูกค้าเลือกเรา เราต้องทำให้ลูกค้าเห็นเรามานาน เราต้องเป็นคนนิสัยดี คุยดี อัธยาศัยดี เราต้องให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าตัวนี้ได้เป็นอย่างดี แก้ปัญหาตอบข้อสงสัยได้ครบถ้วน และ 3 อย่างนี้เราต้องทำโดยที่เรายังไม่พบลูกค้า เพราะลูกค้าจะตัดสินใจก่อนเจอเรา นั่นหมายความว่าเราต้องแสดง 3 อย่างนี้ก่อนที่ลูกค้าจะทักมาหาเรา ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้เลยในยุคอดีต แต่ปัจจุบันเราทำได้ ผ่านสิ่งที่เรียกว่า Content นั่นคือการทำ Content
ลูกค้ามาซื้อเราวันนี้ เพราะลูกค้าเสพ content ของเราเมื่อวาน หรืออาจจะอ่านเรื่องที่เราเขียนเมื่อสัปดาห์ก่อน หรืออาจจะดูรีวิวเมื่อเดือนก่อน เหมือนกับที่เรามีผลไม้กินเพราะมีคนลงมือปลูก และการทำ Content ให้ลูกค้าอ่านหรือดู ก็จะเป็นการทำให้คนเป็นพันเป็นหมื่นคนได้ดู อัดคลิปครั้งเดียว เขียนข้อมูลครั้งเดียว มีคนอ่านคนดูซ้ำเป็นหมื่นคน เราไม่ต้องพูดซ้ำๆ วันละ 20 เที่ยวอีกแล้ว เราเล่าเรื่องที่ต้องเล่าแค่ครั้งเดียว แล้วอินเทอเน็ตจะนำพาทุกอย่างต่อจากเรา อินเทอเน็ตจะพาลูกค้ามาหา Content ของเรา และพา Content ของเราไปผ่านสายตาลูกค้า
การทำ Content จึงเป็นหนทางที่ธุรกิจควรทำ เป็นสิ่งจำเป็นที่สุดในยุคปัจจุบัน คนทำ Content คือคนที่จะถูกมองเห็นโดยลูกค้าทั่วประเทศและทั่วโลก คนที่ไม่ทำ Content จะเป็นอย่างไร ก็ให้ดูร้านค้าที่นั่งตบยุง อยู่ในทำเลทองที่ไม่ทองอีกต่อไป ลูกค้าไม่เข้า แล้วก็บ่นว่า เศรษฐกิจไม่ดี ดูสิ ไม่มีใครเดินเลย วันนี้ขายไม่ได้เลย
จริงๆแล้วสังคมมนุษย์ ประชากรเพิ่มขึ้น การบริโภคเพิ่มขึ้น อาหาร เสื้อผ้า สินค้าต่างๆ บริการต่างๆมีคนต้องการเพิ่มขึ้น เพราะคนเยอะขึ้นทุกวัน แต่เขาไม่ได้มาซื้อร้านเรา เพราะเขาตัดสินใจซื้อกับคนที่เขาชอบ และเขาชอบใคร เขาชอบคนเขียน Content ที่เขาได้เสพ ดังเช่นทุกวันนี้ที่เราหาที่พัก ที่เที่ยว ที่กินจากอินเทอเน็ต ที่พักห้าดาววิวหลักล้านไม่ได้ถูกค้นพบจากการขับรถไปมั่วๆ ทุกคนปักหมุดเลือกมาแล้วจากที่บ้าน โดยลูกค้าอ่าน Content หรือ อ่านรีวิวมาแล้ว นั่นเอง
พอเรารู้ว่าเราต้องมี Content เราถึงจะมีลูกค้า แต่ติดปัญหาตรงที่ส่วนมากเราจะนึกไม่ออกว่าจะทำ Content เรื่องอะไรดี ให้ลองคิดแบบนี้ครับ มี 5 ข้อที่แนะนำ
1 เปลี่ยนจากเรื่องของเราเป็นเรื่องของลูกค้า เลิกบอกว่าเราขายอะไร เลิกบอกว่าเราดีอย่างไร แต่ให้เปลี่ยนศูนย์กลางเป็นลูกค้า สนใจสิ่งที่ลูกค้าอยากรู้ ทำ Content ที่ไขข้อข้องใจ หรือ แก้ปัญหาให้ลูกค้าได้
2 ค้นหาว่าลูกค้ามีปัญหาอะไรบ้าง ลองรวบรวมคำถามออกมา ลูกค้าเคยถามอะไรเรา ตอนเราไปนำเสนองานเราโดนถามอะไรบ้าง
3 ลูกค้าเก่าคือที่มาของ Content เช่นกัน ลูกค้าจะมีปัญหาบางอย่าง แล้วเราแก้ปัญหาให้ได้ จนเขาอุดหนุนเรา เขาถึงเป็นลูกค้าเก่าของเรา ลองสำรวจหรือสอบถามลูกค้าไปเลยว่า เลือกเราเพราะอะไร
4 อยู่กับกลุ่มคนที่มีพลังงานล้นเหลือ มีไฟในการทำงาน อย่าอยู่กับกลุ่มที่อยู่อย่างหมดอาลัยตายอยาก หาความสดใส สดชื่นตลอดเวลา
5 ตั้งเป้าหมายว่าจะทำเพจหรือเว็บจนมีคนติดตาม
ใน 5 ข้อนี้คือสิ่งที่จะทำให้เราคิด Content ออก ลองทำทีละข้อไปเรื่อยๆ ทำซ้ำไปเรื่อยๆ เดี๋ยวเราก็จะได้ Content ที่ดีมีพลัง เปลี่ยนคนอ่านเป็นลูกค้าได้ไม่ยากเลย