อารีย์ สวัสดิ์มูล เป็นคนจังหวัดนนทบุรี ที่บ้านเป็นชาวสวนทุเรียน ปลูกไม้ดอก ไม้ประดับ ชีวิตวัยเด็กจะช่วยเก็บดอกไม้ไปส่งขายแม่ค้าพวงมาลัย ตอนเช้าไปส่งดอกไม้เก็บเงินแล้วค่อยไปเรียน ตอนเย็นกลับไปขายดอกไม้ต่อที่ตลาด สองทุ่มก็เก็บแผง กลับบ้าน เป็นคนขายของทำธุรกิจตั้งแต่เด็ก
สมัยเรียนก็เป็นทั้งนักวิ่ง นักวอลเล่บอล เป็นคนเล่นกีฬาและเรียนดี จนมีทุนการศึกษาจากหลายสถาบัน ในที่สุดก็ได้เลือกไปเรียนที่ช่างกลนนทบุรี โดยเลือกไม่เรียนสายวิชาการช่วงมัธยมปลาย เนื่องจากอยากเรียนรู้เกี่ยวกับสาขาอิเล็กทรอนิกส์ เรียนจบวุฒิ ปวช. เรียนต่อ ปวส. ทางด้านคอมพิวเตอร์ที่ราชมงคลพระนครเหนือ เรียนสองปีก็จบและได้ไปสอบเข้าเพื่อเรียนต่อที่คณะวิศวกรรมไฟฟ้า เทคโนบางมด ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี จนจบเป็นวิศวกร ไฟฟ้า
ที่บางมดช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ อาจารย์มีรับจ๊อบเดินสายไฟตามตึก ก็เลยติดไปรับจ๊อบด้วย ทำให้ไม่ได้กลับบ้านในช่วงวันหยุดเลย งานรับจ๊อบได้ค่าแรงวันละ 700 บาท พอมีรายได้เป็นของตัวเองก็แทบไม่ได้ขอเงินทางบ้านใช้ เป็นการฝึกทำงานตั้งแต่สมัยเรียน เรียนจบคณะวิศวะไฟฟ้า เอกด้านสื่อสาร ในยุคนั้นจะเน้นเรียนเรื่องระบบสายอากาศ ระบบการสื่อสารไร้สาย โทรศัพท์มือถือเริ่มเข้าสู่ประเทศไทย
ตอนเรียนจบ ก็มีบริษัท 3bb กับ ais มาช็อปปิ้งนักศึกษาไปแทบหมดคณะ นศ.ผู้ชายได้เข้าทำงานบริษัทใหญ่ ส่วนผู้หญิงบริษัทอยากให้ไปเป็นเซลส์ทุกคนได้งานง่ายมากพี่อารีย์ไม่อยากเป็นเซลส์ เลยรองานอยู่ช่วงหนึ่ง ต่อมาการสื่อสารแห่งประเทศไทย มีการทดสอบเพื่อเข้าทำงาน พี่อารีย์สอบผ่าน ได้ทำงาน แต่ก็ทำได้ไม่นานเพราะรู้สึกว่างานไม่ตรงสายเลยไปสมัครไปทำงานกับบริษัทเทเลคอมเอเซีย ซึ่งเป็นบริษัทแนวเทคโนโลยีการสื่อสาร ดูแลโครงข่ายโทรศัพท์บ้าน ได้เป็นคนมอนิเตอร์สายสัญญาณ จนมีโอกาสใหม่เข้ามาอีกครั้ง มีคนชวนไปทำงานกับบริษัทดีแทคซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ
ที่ดีแทค เริ่มดูแลเกี่ยวกับซอร์ฟแวร์ เริ่มมีมือถือที่ต้องเขียนโปรแกรม เริ่มมีเทคโนโลยีเสียงรอสาย มีระบบ sms mms และ application หัวหน้าเลยชวนออกมาตั้งบริษัท แล้วเขียนซอร์ฟแวร์ส่งดีแทค เลยได้เปิดบริษัทซอร์ฟแวร์เต็มรูปแบบ โดยที่งานหลักบริษัทก็จะทำ applcation ที่ทำงานบนโทรศัพท์มือถือ แถมบริษัทยังได้งานดูแลระบบ back office ของค่ายมือถืออีกด้วย หน้าที่โดยตรงของพี่อารีย์คือ system analist ดูฝ่ายขาย รับบรีฟลูกค้า เขียนสเป็ค ทำราคา ช่วงเวลานี้เป็นจังหวะที่รายได้บริษัทดีมาก และช่วงนี้เองก็ได้ไปเรียนปริญญาโทด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์เพื่อเพิ่มเติมความรู้ด้านซอร์ฟแวร์
ทำงานให้ดีแทคอยู่ 10ปี ทั้งบริษัทมีลูกค้าหลักแค่ดีแทค เติบโตไปกับดีแทค ตอนที่ดีแทคเปลี่ยนเจ้าของก็เกิดการเปลี่ยนนโยบายครั้งใหญ่ งานที่เคยได้เริ่มน้อยลง ดีแทคเริ่มหาบริษัทซอร์ฟแวร์รายอื่นมารับงาน ทำให้รายได้ลดลงไปกว่า 50% สุดท้ายต้องลดขนาดบริษัท ลดคนเหลือ 30% กลายเป็นบริษัทเล็กๆ พอจังหวะงานน้อยลงทำให้เริ่มมีเวลาว่าง เลยได้มาลองทำงานกับบริษัทของแฟนเต็มเวลา ซึ่งเป็นบริษัทรับผลิตและติดตั้งเครื่องจักรโรงงานอุตสาหกรรม ชื่อบริษัท Professional Service United. หรือ PSU
ตอนทำงานบริษัท PSU ที่เน้นงานติดตั้งเครื่องจักร จากตอนแรกที่รู้สึกเชย ดูเลอะเทอะ พอลงรายละเอียดกับธุรกิจเครื่องจักรแล้วรู้สึกว่า งานเครื่องจักรน่าจะง่ายกว่าซอร์ฟแวร์ เครื่องจักรไม่ซับซ้อน บางเครื่องไม่มีหน้าจอก็ยังใช้งานกันได้ แทบไม่เคยเปลี่ยนเครื่อง ไม่ต้องปรับปรุงอะไรเลย เลยรู้สึกน่าสนใจ เพราะงานเครื่องจักรจะอยู่ได้นานมาก ไม่เหมือนซอร์ฟแวร์โทรศัพท์ที่ต้องเปลี่ยนเร็วมาก เขียนอะไรออกมาปีเดียวต้องปรับรุ่น หรืออาจต้องเขียนใหม่เลย ดังนั้นงานเครื่องจักรง่ายกว่ามากในแง่ของการทำธุรกิจ
จุดเด่นของงานเครื่องจักรอีกแง่มุมหนึ่งคือ ลูกค้าต้องรับส่งมอบงาน การทำงานมีเดทไลน์ชัดเจน เพราะโรงงานของต้องใช้ เครื่องจักรต้องเริ่มผลิต ต่อให้มีความต้องการเพิ่มขึ้นแม้จะทำไม่ทันก็ยังต้องรับส่งมอบ รับงานแล้วค่อยไปปรับปรุงได้ ไม่เหมือนซอร์ฟแวร์ถ้าต้องการฟีเจอร์เพิ่มแล้วทำไม่เสร็จ ก็เลื่อนส่งมอบ ผลคือทำให้เก็บเงินไม่ตรงเวลา และจะมีปัญหาการบริหารเงินในบริษัท
เมื่อคลุกคลีกับการสร้างและติดตั้งเครื่องจักรได้สักพักก็ตัดสินใจว่าน่าจะพัฒนาเครื่องจักรของตัวเองขึ้นมา ไม่ควรทำงาน custom ตลอดไป เลยลองไปดูว่าสายการผลิตใช้เครื่องจักรอะไรบ้าง ไปดูแต่ละโรงงานจะพบว่าใช้เครื่องจักรคล้ายๆกัน ของต้องผ่านสายพานมาติดฉลาก เรียงลงกล่อง ยกกล่องไปวาง ทุกที่ใช้คล้ายกันหมด ถ้าออกแบบเครื่องที่ใช้ในหลายโรงงานได้ ก็จะมีโอกาสขายให้กับทุกโรงงาน
ดูไลน์แพ็คของแล้วพบว่าทำง่ายกว่าระบบอื่น เพราะเครื่องจักรไม่ซับซ้อน ไม่เหมือนไลน์ผลิตที่จะมีเรื่องความสะอาด โรงงานของกินของใช้กับร่างกาย ต้องได้รับมาตรฐานหลายอย่างในการผลิต เครื่องจักรในไลน์ผลิตต้องมีความเฉพาะทาง ซึ่งยากกว่า แต่ไลน์แพ็คมันไม่ต้องสะอาดมาก ไม่อันตราย ไม่มีมาตรฐานอะไรควบคุม เลยเริ่มโฟกัสที่ระบบนี้
พอลูกค้าเริ่มใช้หุ่นยนต์ ทำให้สามารถลดกำลังคนได้ เพราะคนเป็นปัญหาใหญ่ของโรงงาน งานที่เคยใช้5 คนเพื่อผลิตสินค้าหนึ่งหมื่นชิ้น พอใช้หุ่นยนต์ ไม่ต้องใช้ถึง 5 คนแต่กำลังการผลิตได้ห้าหมื่นชิ้น เพิ่ม productivity ได้หลายเท่า จุดนี้เป็นจุดที่หุ่นยนต์หรือเครื่องจักรเข้ามาแก้ไขให้ได้ โรงงานที่มีกำลังซื้อจะซื้อหุ่นยนต์แน่นอน
PSU เริ่มพัฒนางานเครื่องจักรและหุ่นยนต์โดยการเอาความรู้ซอร์ฟแวร์มาเพิ่มลูกเล่นให้เครื่องจักร จากปุ่มควบคุมทื่อๆ ก็เปลี่ยนเป็นหน้าจอทัชสกรีน เปลี่ยนระบบมอนิเตอร์ที่เวลามีปัญหาจะแสดงสถานะหลอดไฟที่ดูเข้าใจยากให้เป็นระบบรายงานปัญหาเป็นข้อความ แสดงผลเป็นภาพส่วนที่ติดขัดขึ้นมาเลย สิ่งเหล่านี้คนทำงานหน้างานจะชอบมากเพราะเข้าใจง่าย แก้ปัญหาได้เร็ว แถมหัวหน้างานก็ชอบด้วยเพราะลูกน้องแก้ไขเองได้ ไม่ต้องตามหัวหน้า
ต่อมาก็เริ่มสร้างเครื่องติดสติ๊กเกอร์มาทำตลาด เดิมทีเครื่องติดสติ๊กเกอร์ที่โรงงานมีใช้จะเป็นเครื่องจากญี่ปุ่นและไต้หวัน แต่ PSU สร้างเครื่องติดสติ๊กเกอร์ พร้อมหน้าจอควบคุมและแสดงผลต่างๆ รวมถึงมอนิเตอร์ทุกอย่างบนหน้าจอ แสดงเป็นภาษาไทยหรือภาษาที่ลูกค้าต้องการ หากเครื่องมีปัญหาคนใช้เครื่องจะรู้ว่าเครื่องติดขัดและต้องแก้ไขเบื้องต้นอย่างไร เครื่องติดสติ๊กเกอร์ขายได้เพราะใช้งานง่าย ที่สำคัญราคาไม่แพงเท่าของต่างประเทศ ลูกค้าชอบในคุณภาพที่ดี บริการเร็ว มีบริการซัพพอร์ตภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าของโรงงานชอบ เพราะที่ผ่านมาโรงงานจะเจอแต่เครื่องจักรต่างประเทศที่ขายผ่านดีลเลอร์ ดีลเลอร์มักดูแลไม่เป็น เสียเวลาติดต่อซ่อมนาน แต่เครื่องไทย สร้างและดูแลโดยคนไทย ติดต่อได้เร็วคุยรู้เรื่อง ราคาเริ่มต้นของ PSU สองแสนแต่สามารถตีตลาดเครื่องจากต่างประเทศราคาห้าแสนได้สบายมาก
ต่อมา PSU เริ่มทำเครื่องแพ็คของขนาดใหญ่ เครื่องต่างประเทศราคาสิบล้าน เครื่องไทยของ PSU ทำได้ในงบ 3 ล้าน ลูกค้ากล้าซื้อเพราะไว้ใจว่าทำงานได้ จากผลงานที่ผ่านมา PSU พิสูจน์มาแล้วว่าเครื่องติดสติ๊กเกอร์ทำงานได้ดี บริการดี เครื่องจักรระบบที่ใหญ่ขึ้นก็เลยมีโอกาสได้นำเสนอ
PSU สร้างชื่อเสียงมาหลายปี ทำให้ค่อยๆได้รับความน่าเชื่อถือ และเกิดการบอกต่อในแวดวงโรงงานอุตสาหกรรม PSU เริ่มขายเครื่องให้โรงงานฝรั่ง และ ญี่ปุ่น โดยการสร้างความไว้วางใจจากการใช้เครื่องเล็กๆ และค่อยๆนำเสนอเครื่องขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้โรงงานต่างชาติกล้าตัดสินใจลงทุนสูงขึ้นกับเครื่องจักรที่สร้างโดยคนไทย
โอกาสใหญ่เริ่มเข้ามาเรื่อยๆ PSU ได้รับงานจาก CP ทำหุ่นยนต์แพ็คของมูลค่า 19 ล้าน เป็นงานหุ่นยนต์ตัวแรก จากที่เคยขายเครื่องติดสติ๊กเกอร์ให้มาก่อน เครื่องจาก PSU ทำราคาต่ำกว่าราคาฝรั่ง 5 ล้าน ลูกค้าประหยัดเยอะมาก หลังจากส่งมอบแล้ว ทำให้ PSU มีโรงงานอ้างอิงและสามารถขยายลูกค้าหุ่นยนต์มาได้เรื่อยๆ
หุ่นยนต์ของ PSU มีจุดเด่น 3 อย่าง
1 PSU เป็นผู้ผลิต ไม่ใช่ผู้นำเข้าซื้อมาขายไป การผลิตเองทำให้ออกแบบเครื่องให้เหมาะกับลักษณะงานลูกค้าได้ และใช้งานง่าย
2 ทีมเอนจิเนียร์ที่เป็นของ PSU ทำเองทุกชิ้นส่วน ทำให้ลูกค้ามั่นใจว่าดูแลเครื่องได้ ซ่อมบำรุงได้ทุกชิ้น มีความรวดเร็วในการบริการ
3 PSU สร้างชิ้นงานของตัวเองทุกชิ้น ทำให้อะไหล่ทุกชิ้นถูกผลิตขึ้นมาอย่างแม่นยำ การประกอบอย่างปราณีตทำให้ เครื่องจักรเสถียร ทนทานมาก
ถ้าเป็นเครื่องจักรที่ต้องนำเข้าจะต้องรออะไหล่หลายวันเมื่อมีปัญหา ผลคือเครื่องต้องหยุดทำงานยาวนาน แต่เครื่องของ PSU ผลิตอะไหล่ได้ทันที ภายใน24 ชม. สามารถเริ่มซ่อมได้เลย ทำให้ไม่ต้องหยุดเครื่องจักรนานเกินไป ส่วนอะไหล่ไฟฟ้าที่ต้องใช้ ก็จะเลือกใช้ยี่ห้อที่ดีมีชื่อเสียง เน้นความทนทาน โชว์ยี่ห้ออะไหล่ ยี่ห้อเซ็นเซอร์ ลูกค้าสามารถซื้ออะไหล่เองเพื่อเปลี่ยนแบบเร่งด่วนได้เลย
ส่วนที่ยากที่สุดในธุรกิจผลิตเครื่องจักรและหุ่นยนต์ คือ การใส่ใจรายละเอียดทุกอย่างของเครื่อง หน้าตาภายนอกเครื่องจักรอาจจะดูเหมือนกัน แต่เวลาทำงาน เครื่องที่ออกแบบปราณีต ชิ้นส่วนทุกชิ้นจะถูกสร้างขึ้นอย่างแม่นยำ สามารถทำงานได้ดีกว่า ทนกว่า เครื่องจากจีนแม้จะถูก แต่เครื่องของ PSU ก็ยังขายได้ เพราะเครื่องราคาถูก มักมีอาการสั่น ทำให้การติดสติ๊กเกอร์ไม่แม่น หรือติดไม่ตรง ขณะที่เครื่องของ PSU ไม่สั่น เพราะการประกอบที่แม่นยำมากจะทำให้เครื่องจักรอยู่ในสภาพดี เมื่อประกอบแล้วก็ทดลองรัน 24 ชม. เพื่อดูประสิทธิภาพ ดูความนิ่ง ดูว่าไม่สั่น ทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบก่อนส่งมอบ
ทุกวันนี้ PSU ยังคงหาความรู้เพิ่มเติมตลอดเวลาเกี่ยวกับการออกแบบเครื่องจักร มีชิ้นส่วนหลายอย่างที่ต้องมีมาตรฐาน ต้องหาวิธีเชื่อมต่อสารพัดมาตรฐานให้ทำงานร่วมกันได้ เช่นเครื่องเคสแพ็คเกอร์ ต้องไปทำงานต่อจากเครื่องบรรจุ การทำงานให้ต่อเนื่องต้องใช้การเชื่อมต่อที่ออกแบบอย่างเหมาะสม สินค้าที่ผ่านจากหน่วยแรก ไปหน่วยที่สองจะต้องไม่ล้ม ไม่เสียหาย ไม่ทำลายชิ้นงาน เป็นการอินทิเกรตเครื่องของ PSU ไปเชื่อมกับเครื่องเดิมที่มีอยู่ เพื่อให้สายพานการผลิตไหลต่อเนื่อง
PSU ยังใช้ความรู้ทางคอมพิวเตอร์มากกว่าคู่แข่ง พัฒนาระบบออนไลน์มอนิเตอร์ให้ลูกค้าด้วย เช่นลูกค้าเปิดโรงงานใหม่ที่ต่างประเทศ ทีม PSU สามารถออนไลน์ไปแก้ไขปัญหาได้ตลอดเวลา มีระบบ alarm ที่จะแจ้งเตือน มีคำอธิบายเบื้องต้นให้แก้ไขเองได้ การมอนิเตอร์ละเอียดทำให้ระบบไม่เสียนานเกินไป สามารถแก้ไขเบื้องต้นได้เอง มีระบบการนับชั่วโมงการทำงานครบ 6000 ชั่วโมงก็ต้องแจ้งตรวจสอบเพื่อเมนเทนแนนซ์ จะได้แก้ไขเปลี่ยนอะไหล่ก่อนพัง
ผู้ประกอบการหรือโรงงานมักจะลงทุนกับหุ่นยนต์และเครื่องจักรอัตโนมัติเมื่อต้องเริ่มสายการผลิตใหม่ ส่วนถ้าโรงงานไหนมีระบบเก่าอยู่ ก็จะคิดเรื่องความคุ้มทุน ระบบเดิมจะใช้คนกี่คนสำหรับไลน์การผลิตนี้ ต้องทำงานกี่กะ ถึงจะได้เป้า เช่น ออเดอร์ 30000 ชิ้น ใช้คนทำจะต้องใช้กี่คน แรงงานกี่กะ เช่น 3กะ กะละ 4 คน แล้วก็เอาค่าแรงคนมาเทียบกับเครื่องจักร ถ้าทำงานไป 3 ปีทางเลือกไหนจะประหยัดกว่ากัน ส่วนมากถ้าคำนวณออกมาแล้ว คำตอบคือจะต้องใช้เครื่องจักรเสมอ
แนวโน้มการใช้หุ่นยนต์จะพัฒนาไปสู่จุดที่เป็นเป็นระบบ automation เกือบเต็มรูปแบบ เครื่องจักรจะมาแทนแรงงานคน เมื่อ 5 ปีก่อน สัดส่วนการใช้เครื่องจักร 32% แรงงานคน 68% ปัจจุบัน ใช้เครื่องจักรมากขึ้น เป็น 48% แรงงานคนเหลือ 52% ในห้าปีข้างหน้าเครื่องจักรจะแซงแรงงานคน ต่อไปอาจจะเป็น เครื่องจักร 70% แรงงานคน 30% ซึ่งเป็นจริงแล้วในแถบยุโรป ยกตัวอย่างโรงงานผลิตน้ำเกลือ ในประเทศไทยใช้คน 1000 คน แต่เมืองนอกใช้เครื่องจักรทดแทนทำให้เหลือแรงงานคนแค่ 20 คน เท่านั้น แต่ได้ผลผลิตเท่ากัน
อารีย์ สวัสดิ์มูน
บริษัท โปรเฟสชั่นแนล เซอร์วิส ยูไนเต็ด จำกัด
ผลิตและจำหน่ายเครื่องจักรบรรจุภัณฑ์อัตโนมัติ และระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติ