แบตเตอรี่ที่ใช้เป็นแบตแบบบางซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่ใช้ในโทรศัพท์มือถือโนเกียหลายๆรุ่นในอดีต ชื่อรุ่นของแบตเตอรี่คือ BL-5c ความจุที่ข้างกล่องเขียนไว้ประมาณ 1000ma ไฟเลี้ยงเข้าตัวเครื่องเป็นพอร์ต micro-usb ทั้งสายชาร์จและแบตเตอรี่มีแถมมาในกล่อง แต่ไม่มีอแด๊ปเตอร์ usb power ไม่มีหูฟัง ไม่มีสายสัญญาณช่วยรับคลื่น fm
ช่องเชื่อมต่อด้านหลังหลากหลาย เปิดโอกาสให้ Model 2 ถูกนำไปใช้ได้สนุกสนาน มันมี sub out เอาไว้ต่อซับวูฟเฟอร์ มี Aux เพื่อรับสัญญาณเพลงจากเครื่องเล่น หรือรับเสียงจากคอมพิวเตอร์ มีช่องหูฟังเพื่อฟังแบบไม่รบกวนใคร มี balance เพื่อปรับเสียงซ้ายขวาให้สมดุลย์ มีช่องต่อเสาอากาศภายนอกเพื่อเพิ่มคุณภาพการรับสัญญาณ มีช่องรับไฟเลี้ยงแบบ 12v dc สามารถใช้กับอแด๊ปเตอร์ได้ และช่องรับแบบ 220V ac หรือไฟบ้าน
คุณภาพการรับสัญญาณ fm อยู่ในเกณฑ์ดี ลูกบิทปรับคลื่นเป็นลักษณะการหมุนแบบทดรอบมีอัตราส่วนการหมุนอยู่ที่ 5:1 นี่ทำให้การเลือกคลื่นทำได้สะดวกแม่นยำมาก การเลือกสถานีที่จะฟังจะมีระยะหมุนที่กว้าง ทำให้การแยกแยะแต่ละสถานีค่อนข้างเด็ดขาด ความชัดเจนในการฟัง fm เทียบได้กับการฟังในรถยนต์ แต่ได้น้ำเสียงที่ไพเราะชวนฟังระดับเครื่องเสียงไฮเอนด์
ผมใช้ model 2 บนโต๊ะทำงาน ใช้เปิดเพลงเป็นหลัก ผมเชื่อว่าการเลือกใช้งานกับคอมพิวเตอร์ก็น่าจะดี เราจะได้ฟังเพลงผ่านคอมฯได้เพราะๆ ส่วนคนทำดนตรีหรือ งานตัดต่อวิดีโอก็เหมาะ หรือแม้แต่จะวางหน้า TV ใช้แทน sound bar ก็น่าสนใจ มันสามารถเปิดเพลงเสียงดังได้ ฟังเสียงคนจากลำโพงคู่นี้ถือเป็นงานเหมาะที่สุด มันเหมาะมากสำหรับคนชอบฟังข่าวและรายการสัมภาษณ์ต่างๆ
แถมคลิปทดสอบ tivoli model1 bluetooth โดยการเปิดเพลงจาก youtube ใช้ huawei p9 เชื่อมบลูทูธกับ Tivoli แล้วถ่ายวิดีโอด้วย กล้อง DSLR canon รุ่น Eos 6d ติดเลนส์ 50mmf1.4 ใช้ไมค์รับเสียงของ Zoom รุ่น H1 ต่อสายไมค์เข้ากล้องทางช่อง mic in
ทดลองฟังเพลง
ผมใช้คอมพิวเตอร์ต่อกับ usb dac ใช้ชิปถอดรหัสเสียง ESS ES9018K2Mแปลงสัญญาณเสียงเป็นอนาลอกแล้วต่อสาย rca to mini 3.5 ไปเข้ายัง Tivoli model1 ที่ช่อง Aux ก็คือใช้ Tivoli เป็นลำโพงขยายเสียงนั่นเอง เพลงของ norah jones ชุด come away with me เสียงร้องชัดๆ ฟังออกทุกถ้อยคำ เสียงเบสกลมๆเล่นคลอไปกับเปียโน ทุกเสียงได้ยินชัดเจน ตัว tivoli ไม่มีปุ่มปรับทุ้มแหลม เสียงที่ได้ยินจะคงที่สไตล์เดียว คือ ชัดและนุ่ม เสียงโซโล่เบสได้ยินทุกโน้ต อัลบั้มนี้บันทึกเสียงได้ดีน่าฟังทุกเพลง
ฟังเพลง jazz ที่เน้นเสียงร้อง ฟังแล้วเคลิ้มทุกเพลง มันชัดถ้อยชัดคำ เหมาะกับงานที่มีเสียงอคูสติกเต็มเพลง ลองกับเพลงในอัลบั้มของ Jennifer Warnes ชุด The Hunter ก็ให้เสียงร้องที่หวานใส เสียงกีต้าร์อคูสติกเล่นเกาโน้ตชัดๆ ยิ่งเป็นเพลงแนวออดิโอไฟล์ก็ยิ่งฟังเพราะ
TEAC R1 เป็นเครื่องรับวิทยุที่มีลำโพงในตัว สามารถรับคลื่น FM และ AM ได้ ใช้พลังงานจากหม้อแปลง 12 โวลท์ และมีแบตเตอรี่ในตัวสามารถชาร์จไฟขณะใช้งานได้ ถ้าใช้พลังงานจากแบตเตอรี่จะใช้งานได้ประมาณ 7 ชั่วโมง สามารถต่อสัญญาณขาเข้าจากแหล่งโปรแกรมอื่นๆได้ทางช่อง Aux มีวงจรขยายในตัว สามารถเปิดใช้งานได้ค่อนข้างดังในห้องทำงานทั่วไป หรือในห้องนอนก็กำลังเหมาะสม
ด้านบนตัวเครื่องมีปุ่มอยู่ 4 ปุ่มดังนี้ ซ้ายสุดเป็นปุ่มเปิดปิดและทำหน้าที่เลือกรับคลื่น FM AM และ เลือกฟังช่องสัญญาณขาเข้า Aux ปุ่มที่สองจากซ้ายเป็นปุ่มปรับเสียง Bass ถ้าบิดไว้ที่ตำแหน่งตรงกลางจะมีคลิกหยุดเป็นตำแหน่ง Flat ส่วนปุ่มที่สามเป็นปุ่มปรับเสียงสูงหรือ Treble มีตำแหน่งกลางเป็น Flat เช่นกัน ปุ่มสุดท้ายหรือทางขวาเป็นปุ่มกลมขนาดใหญ่ที่สุดทำหน้าที่ปรับความดังของเสียง ใต้ปุ่มซ้ายจะมีหลอดไฟแสดงสถานะการทำงาน ตอนเปิดจะติดสว่างเป็นหลอดไฟสีน้ำเงิน ตอนปิดถ้าเสียบหม้อแปลงไฟไว้แล้วเครื่องกำลังทำการชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่อยู่หลอดไฟดวงนี้จะกระพริบตลอดเวลา และจะดับไปเองเมื่อแบตเตอรี่เต็ม
ด้านหลังมีช่องสำหรับเสียบสายต่างๆ และมีช่องระบายอากาศสำหรับลำโพงภายในด้วย นั่นก็หมายความว่าเครื่องเล่นเครื่องนี้เป็นลำโพงชนิดตู้เปิด เดาว่าภายในใช้ดอกลำโพงดอกเดียวทำงานเป็นแบบ Full range คือส่งเสียงทุกย่านความถี่ด้วยดอกลำโพงเพียงดอกเดียว อาศัยช่องระบายอากาศเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในย่านเสียงเบส ตรงกลางเครื่องด้านหลังเป็นช่องเสียบสายอากาศ ซึ่งมีแถมมาให้ในกล่องด้วย
ถัดลงมาเป็นช่องต่อสัญญาณขาเข้า Aux in ซึ่งแถมสาย mini 3.5mm สองหัวมาให้ด้วยเช่นกัน ช่องถัดลงมาเป็นช่องเสียบหูฟัง สามารถใช้งานกับหูฟังทั่วไปได้ หมายความว่าเราสามารถใช้เครื่องเล่นเครื่องนี้เป็นแอมป์ขยายสัญญาณเสียงให้กับหูฟังที่เราต้องการได้ ช่องด้านล่างสุดเป็นช่องเสียบหม้อแปลงไฟ หม้อแปลงที่แถมมาให้เป็นแบบแปลงไฟ 220v แปลงเป็น 12V คิดว่าถ้านำ TEAC R1 ไปเสียบกับไฟในรถยนต์ก็คงสะดวกดีเพราะแรงดันไฟตรงกัน ด้านขวาเหนือช่องระบายอากาศเป็นเสาอากาศแบบชัก การชักเสาอากาศยืดขึ้นมาจะช่วยให้รับคลื่นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น มีผลมากในการใช้งานที่อยู่ในตึกอาคารต่างๆ ซึ่งคลื่นวิทยุจะรับค่อนข้างยาก เสาชักในตัวทำงานได้ดีเยี่ยม แทบไม่พลาดการรับคลื่นเลย จะมีเพียงบางสถานีเท่านั้นที่เสียงค่อนข้างเบา หรือมีการทับซ้อนกันบ้างเนื่องจากคลื่นวิทยุชุมชนในกรุงเทพค่อนข้างจะถี่ พาลเบียดคลื่นหลักไปบ้างก็มี