ตลอดเวลาที่เรากำลังลดน้ำหนักด้วยการกินน้อย  เราเลือกกินเพียงครึ่งจานเพื่อให้ร่างกายรับแคลอรี่น้อยลงครึ่งหนึ่ง  ร่างกายเราจะค่อยๆลดน้ำหนักลงไป  หากเรากินน้อยทุกวัน วันละ 3 มื้อ ในหนึ่งสัปดาห์เราก็จะกินทั้งหมด 21 มื้อ  ตัวเลขนี้ผมจะแบ่งเป็น 20 และ 1

หากเรากินน้อยไป 20 มื้อ  เราสามารถให้รางวัลตัวเองด้วยการกินเยอะให้หายอยากในมื้อพิเศษ 1 มื้อ  ซึ่งผมเลือกจะกินในวันอาทิตย์ที่อยู่กับครอบครัว  ผมจะเลือกไปกินมื้อเย็นวันอาทิตย์  กินบุฟเฟ่ต์ที่อยาก  ซึ่งที่ผ่านมา บางทีผมก็กินชาบู  กินเนื้อวากิว  กินสุกี้จนแน่นท้อง หรือ กินปลาดิบบุฟเฟ่ต์ จะหัวละกี่ร้อยบาทหรือหลักพันบาทก็ช่างมัน  หรืออาหารไขมันสูงอย่างพิซซ่าหมดถาดก็กินได้  ซีฟู้ดก็ไม่ต้องกังวล  แล้วมันจะไม่ทำให้การลดน้ำหนักของเราล้มเหลวหรือ ผมตอบเลยว่า ไม่ล้มเหลวแน่นอน

การกินเยอะมากเพียง 1 มื้อ จาก 21 มื้อ เทียบเป็นเปอร์เซ็นแล้วประมาณ 5% เท่านั้น  ซึ่งผลจาก 5% มันเปลี่ยนผลของ 95% ไม่ได้  แล้วยิ่งเป็นเรื่องการกินด้วยแล้ว 5% ยิ่งเปลี่ยนผลไม่ได้เลย การกินเราจะมีข้อจำกัดทางกายภาพของร่างกาย   1 มื้อของคนไม่สามารถกินได้เท่าช้างกิน  เพราะกระเพาะอาหารของคนเรามันมีขนาดไม่ใหญ่มาก  การกินบุฟเฟ่ต์จนท้องแตก หรือการกินจนอ้วก เราจะไม่ได้แคลอรี่จากทุกคำที่เข้าปาก  เพราะ ประการแรก  ตอนที่เรากินมากจนตัวแตก ตอนอิ่มมากเราจะไม่อยากอาหาร และมันจะทำให้เราเลิกกินไปเอง  แม้ว่าใจเราอยากจะกินต่อให้ล้างผลาญร้านเจ๊งกันไปข้างนึง  แต่การรับรสของเราจะไม่อร่อยแล้ว  อิ่มมากร่างกายจะรู้สึกทรมาน  แปลว่า เราไม่สามารถกินเยอะเท่าช้างได้เลย  และประการที่ 2  ร่างกายจะขับถ่ายอาหารส่วนเกินออกไปเองโดยมีการย่อยไม่ครบขั้นตอน  บางทีก็ท้องเสีย บางทีก็ขับถ่ายออกมาเห็นผักเป็นใบเลยก็มี  การกินเยอะมากเพียง 1 มื้อ สรุปสั้นๆว่าเราไม่ได้แคลอรี่ทั้งหมดของที่กินเข้าไปแน่นอน

มื้อพิเศษ 1 มื้อที่ไม่เปลี่ยนผลลัพธ์ของเรา  ก็ขอให้เลือกร้านที่เราอยากกิน  เลือกร้านอร่อย และไม่ต้องคิดอะไรมาก  อร่อยให้สมอยาก  การกินน้อยมาทั้งสัปดาห์จะทำให้เราเรียนรู้ความอร่อย  ตอนนี้ลิ้นเรากินอะไรก็อร่อย  แต่ถ้าจะเน้นคุณภาพอาหารด้วยก็จะยิ่งดี  ส่วนใหญ่ผมจะเลือกกินปลาดิบในร้านอาหารญี่ปุ่น  ร้านที่มีบุฟเฟ่ต์แซลม่อนราคาหลักร้อยผมก็ตามไปกินเกือบทั่วแล้วในระแวกบ้าน  ชาบูหรือสุกี้ก็มีสลับกัน  ซีฟู้ด ปูเผา กุ้งเผา กุ้งแม่น้ำ มีบ่อยๆในวันอาทิตย์ของครอบครัว