ขอบฟ้าเป็นเด็กชานเมือง นานๆก็จะติดแม่เข้าเมืองไปนั่งเล่นซักที แม่ทำงานที่สุขุมวิท เวลาไปทำงานแล้วขอบฟ้างอแงขอตามไปด้วยก็จำเป็นจะต้องมีพี่เลี้ยงไปด้วย บางวันก็เป็นป้า แต่ส่วนใหญ่จะเป็นพ่อนั่นเอง
ผมพาขอบฟ้าไปนั่งรถไฟฟ้าเล่นๆเวลาที่รอแม่ทำงาน บางทีก็นั่งเล่นไปสุดสาย นั่ง BTS ที่สถานีพร้อมพงษ์ไปถึงสุดทางที่บางนาแล้วก็นั่งกลับ บางทีก็นั่งไปต่อเล่น mrt เพื่อให้ขอบฟ้าได้รู้จักว่ารถไฟใต้ดินและบนดินต่างกันอย่างไร
ขอบฟ้าขอบ MRT มาก อาจจะเป็นเพราะคิดไปเองหรือมีใครไปบอกว่า MRT วิ่งเร็วกว่า BTS และวิ่งเร็วกว่ารถไฟโบราณอย่าง thomas มาก ขอบฟ้าเลยชอบ MRT ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ติดแม่ไปที่ทำงาน ผมก็เลยพานั่งรถไฟเล่น คิดไม่ออก ไม่อยากซ้ำกับหลายสัปดาห์ก่อน ก็เลยพานั่ง BTS ต่อ MRT เพื่อไปเดินเล่นที่สวนลุม
การเดินทางในครั้งนี้ทำให้ผมค้นพบเรื่องราวหลายอย่าง ถ้าเราไม่มาเอง ไม่เดินเองเราคงไม่เข้าใจ เริ่มจาก สถานที่ MRT ต้องซื้อตั๋วเป็นเหรียญพลาสติก ผมก็ตรงไปที่เครื่องขายตั๋ว และใส่แบ๊งค์ร้อยเข้าไป กดสถานีลุมพินี เหลือบดูราคา เห็นตัวเลขขึ้น 21 บาท พอกดไปก็เหลือบไปดูช่องรับตั๋วและเงินทอนซึ่งเป็นช่องเดียวกัน ก็เพิ่งจะเห็นป้ายบอกว่า ทอนเป็นเหรียญเท่านั้น ผมก็ตกใจเลย และ มีเวลาให้ตกใจแค่หนึ่งวินาที เหรียญเงินทอนก็พร่างพรูออกมาที่ช่องเงินทอน ผมได้บทเรียนแล้วว่า ถ้าจะหาที่แลกเหรียญและต้องเดินทางที่ MRT อยู่แล้วก็เอาแบงค์ใหญ่ๆมาซื้อตั๋วที่นี่ซะเลย
จะไปสวนลุมเลยเลือกตั๋วไปลงสถานีลุมพินี พอออกจากสถานีถึงจะพบว่าเราไม่ได้อยู่ที่สวนลุม เราอยู่ฝั่งตรงข้ามสวนลุม มองเห็นฝั่งตรงข้ามรู้ว่าต้องข้ามถนน ถ้าเราตัวคนเดียวก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่นี่ อุ้มลูกมาด้วยการข้ามถนนแบบมีลูกติดมือมันต้องระวังเยอะ และเราก็ได้เรียนรู้อีกอย่างหนึ่งในการข้ามถนนที่แยกวิทยุ ซึ่งเป็นแยกที่ถนนพระรามสี่ตัดกับถนนสาธร
เมื่อหลายปีก่อนเราเคยดูข่าว มีชาวบ้านทำป้ายขอให้รถช่วยหยุดให้คนข้ามถนนที่แยกวิทยุแห่งนี้ ตอนเราดูข่าวเราก็ไม่เข้าใจเพราะว่าทุกทีที่เดินผ่านเราก็ขับรถผ่านไป แต่พอมาเป็นคนที่ต้องข้ามถนนเสียเองเราก็เขาใจแล้ว เลี้ยวซ้ายผ่านตลอดที่แยกวิทยุแห่งนี้มีรถไหลผ่านจำนวนมาก ต่อเนื่องมาก ในวันทำงานแทบจะไม่มีเวลาว่างๆให้เดินข้ามได้เลย ต้องอาศัยการวิ่งแย่งชิงจังหวะกับรถยนต์ ซึ่งรถยนต์ในประเทศไทยก็เป็นรถที่ไม่เคยได้รับการสั่งสอนให้หยุดให้คนข้าม นานๆอาจจะเจอคนจิตใจดีสักที ยิ่งผมอุ้มลูกยืนรอ แม้ในวันหยุดอย่างวันอาทิตย์ก็ยังรู้สึกว่าข้ามยาก แทบอยากจะอุ้มลูกลงไปกราบรถที่วิ่งผ่านมากันเลย แล้วเทวดาก็เมตตา ทำให้รถมีจังหวะเว้นว่างให้พ่อกับลูกสามขวบได้กระเตงกันผ่านถนนวัดใจแห่งนี้ไปได้ แต่ว่า …..
ทางออกลุมพินีที่ใกล้สวนลุมคือทางออกด้าน สวนลุมไนท์บาร์ซ่าเดิมที่ตอนนี้รื้อไปแล้ว ผมโผล่มายังตำแหน่งศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ที่มีอยู่ทั่วประเทศไทยและมีอยู่หน้าสถานที่ลุมพินี จะข้ามถนนไปสวนลุมต้องไปวิ่งเสี่ยงตายกับรถเลี้ยวซ้ายผ่านตลอดสองครั้ง และที่ตรงกลางที่เป็นรถทางตรง และรถเลี้ยวขวา เราก็ต้องรอสัญญาณไฟที่นานมาก ผมอุ้มลูกยืนรออยู่เกือบสิบนาที ไม่มีต้นไม้ มีแต่แดดที่ร้อนส่องหัวร้อนถึงปลายเท้า คิดไปถึงสถานการณ์ว่า ถ้าเป็นฝนตก คนที่ต้องข้ามถนนตรงนี้จะทำอย่างไร
ไปเดินเล่นสวนลุมตอนสิบโมงกว่า อากาศเริ่มร้อน ส่วนที่เป็นร่มไม้ก็เย็นสบายดี ส่วนที่ไม่มีร่มไม้ก็เดินกันตัวร้อนเลย ลูกผมก็ออกอาการง่วงๆเหนื่อยๆ เล่นอยู่ไม่นานก็หมดแรง สุดท้ายก็กระเตงกันกลับ เราจะกลับไปยังจุดเริ่มต้นที่เรามาก็คือสถานที่พร้อมพงษ์ ซึ่งเราจะต้องเดินย้อนกลับไปนั่ง MRT และไปต่อ BTS แค่คิดว่างต้องเดินย้อนไปถนนวัดใจเส้นที่เราเพิ่งเสี่ยงตายผ่านมาก็บอกลาแล้ว ไม่ไหว ไม่อยากเสี่ยง เลยเรียกแท็กซี่กลับแทน นั่งรถแท็กซี่แอร์เย็นๆค่าบริการไม่กี่สิบบาท สบายกว่าความพยายามไปนั่ง MRT ต่อ BTS และต้องอุ้มลูกเดินรวมกันไม่รู้กี่กิโล ยังไงแท็กซี่ก็น่าจะเป็นคำตอบของการเดินทางใกล้ๆมากกว่า
ฝากถึงผู้ว่ากทม. แยกวิทยุข้ามถนนยากมาก ขอสะพานลอยครับ ขอสะพานลอยหรือขออุโมงค์ก็ได้ จากศาลกรมหลวงชุมพรฯ ข้ามไปสวนลุม สร้างสะพานลอยได้ ไม่ทับเส้นใคร
หลังจากที่กลับมาแล้วและได้บ่นไปทางทวิตเตอร์ว่าสถานีลุมพินีเดินไปสวนลุมยากมากไม่มีทางข้ามถนนดีๆ ก็มีเพื่อนรุ่นพี่ในทวิตเตอร์ตอบกลับมาว่า จะไปสวนลุมให้นั่งรถ MRT ไปลงศาลาแดง แล้วจะมีทางออกไปหน้าสวนลุมเลย…. เพิ่งรู้นะเนี่ย ขอบพระคุณมากๆที่ชี้แนะ ไว้โอกาสหน้าจะลงศาลาแดงครับ ส่วนคนที่ไม่เคยลงสถานีรถไฟฟ้าแถวนี้ใครจะรู้ เห็นชื่อลุมพินีก็กดลุมพินี ไม่คิดว่าจะไปสวนลุมต้องไปลงศาลาแดง
Discover more from Pockethifi's Blog
Subscribe to get the latest posts sent to your email.






