ออกจากถ้ำกันเถอะ
===============
นึกถึงวันที่เราลุยทำธุรกิจแบบที่เราไม่มีทีม ไม่มีเน็ตเวิร์คเจ๋งๆ เรามีสภาพอย่างไร
วันที่เราโชคดี เราก็มีงานดีๆที่ทำให้เรามีชื่อเสียง เราก็รับงานนั้นแล้วก็สร้างชื่อ เราทำดี ก็มีลูกค้าเก่าบอกต่อ สิ่งที่ตามมาก็คือ เราทำงานกันจนหน้ามืด ทำงานจนเราไม่มีเวลาไปพัฒนาหรือศึกษาตัวเอง ทำงานจนลืมที่จะพัฒนาองค์กร และในเวลาต่อมา ลูกค้าบอกต่อก็ค่อยๆหายไป เพราะไม่มีใครใช้งานเราตลอดไป ไม่มีใครสร้างบ้านทุกปี ไม่มีใครแต่งงานทุกปี ไม่มีใครเดินระบบไฟ กล้องวงจรปิด สายแลนด์ ลงเครื่องคอมฯยกอ๊อฟฟิศทุกปี เราอยู่ในธุรกิจของตัวเราเองมานานพอจนเรารู้แล้วว่าลูกค้าเก่าจะค่อยๆหายไป สิ่งที่เราต้องการคือลูกค้าใหม่
เราออกไปหาลูกค้าใหม่ เราทำอย่างไรกันบ้าง เราก็อาศัยว่า ลูกค้าเก่าแนะนำใครเราก็ไปหาเขา มีคนถามหาเราเราก็ไปหาไปแนะนำตัวกับเขา เราต่างคนต่างทำแบบนี้ ในขณะที่เราก็ไม่ได้มีนัดไปแนะนำตัวได้ทุกวัน เพราะเราทำงานหน้ามืดอยู่ เรากำลังทำงานให้ลูกค้าอยู่ แถมคนที่จะช่วยบอกต่อให้เราก็มีไม่เยอะ
แม้แต่วันที่เราไปงานเลี้ยงรุ่นไม่ว่าจะเป็นรุ่นมัธยม มหาวิทยาลัย แรกๆเราก็ไปพร้อมนามบัตรเป็นปึก แล้วเราก็ไม่ได้แจกนามบัตรซะเท่าไหร่ เราไม่ได้มีนิสัยช่างคุย เพื่อนๆที่เราคบก็มีเพื่อนสนิทเดิมๆที่เรารู้จักกันมาสิบปี และมันก็ไม่เคยซื้อของๆเรา เราก็ไม่เคยซื้อของๆมัน เราอาจจะมีธุรกิจต่อกันบ้าง แต่มันก็เข้าสู่คำพูดเดิมๆ ไม่มีใครสร้างบ้านทุกปี เพื่อนเราใช้สินค้าหรือบริการเราแค่ครั้งเดียว หรือจำนวนน้อยครั้งจนเรียกว่าธุรกิจไม่ได้
สิ่งที่เราเป็นเราเรียกว่า มนุษย์ถ้ำ เราใช้ชีวิตเป็นมนุษย์ถ้ำ เราออกไปหาอาหารแบบพอเพียงแล้วเราก็กลับเข้าถ้ำ สิ่งที่แย่ก็คือ อาหารรอบถ้ำเริ่มน้อยลง แถมยังมีมนุษย์ถ้ำมาหากินใกล้เรา มาตัดราคาเราอีก
กลับมาที่งานเลี้ยงรุ่น เราออกไปพบเพื่อน เราบอกเพื่อนว่าเราทำอะไร เพื่่อนบอกเราว่าเพื่อนทำอะไร แลกนามบัตร กินข้าว แล้วเราก็กลับบ้าน อีกไม่กี่วันเราก็ลืมไปแล้วว่าเราเอานามบัตรใครกลับบ้านบ้าง และเพื่อนก็เป็นแบบเรา มันก็ลืมเรา เวลาผ่านไปปีแล้วปีเล่า เราก็ไปเจอเพื่อนอีกที เพื่อนก็นึกออกว่าเราทำอะไร เราก็นึกออกว่าเพื่อนทำอะไร แต่ระหว่างปีเราดันนึกไม่ออก คือเราไม่คิดถึงกันเลย ธุรกิจก็ไม่เกิด เซ็งไหม มันเป็นเพราะคุณเป็นมนุษย์ถ้ำเดียวดาย ทำธุรกิจหัวเดียวกระเทียมลีบ และคุณมองหาแค่ใครจะซื้อของของคุณ และคุณก็รู้ว่าเพื่อนกลุ่มเดิมๆของคุณไม่ได้ต้องการธุรกิจของคุณบ่อยๆ คือมันไม่เกิดรายได้ที่จะหล่อเลี้ยงคุณและบริษัทเลย
แต่ตอนนี้ พวกเรา มารวมตัวกัน เรามาพบกัน เพราะเราต่างก็เห็นบางอย่างคล้ายๆกัน คือเราอยากได้วิธีการใหม่ๆที่จะรักษาและขยายธุรกิจ พวกเราไม่อยากเป็นมนุษย์ถ้ำเดียวดาย เราอยากมีชีวิตชีวาและสนุกกับการทำงาน…และเราอยากมีลูกค้าใหม่
บีเอ็นไอ พัฒนาพวกเราให้เป็นเน็ตเวิร์คที่มีคุณภาพ ถ้าคุณไปร่วมงานเลี้ยงรุ่นอีกครั้งด้วยทัศนคติแบบบีเอ็นไอแท้ๆ คุณจะสนุกกับงานเลี้ยงรุ่น เพราะคุณไม่เดียวดายอีกต่อไป คุณสามารถเป็นคนใหม่ที่มีคอนซัลห้าสิบอาชีพที่รู้ลึกรู้จริงติดตัวไปด้วย คุณจะเป็นคนที่มีคุณค่ามากกว่าเดิม เพราะคุณพกคนเก่งติดตัวคุณไปด้วยอีกทั้งแชปเตอร์ ในเวลาที่คุณคุยกับเพื่อนร่วมรุ่น หรือเพื่อนกลุ่มสนิท คุณก็จะได้แลกเปลี่ยนสารทุกข์สุกดิบกัน เพื่อนบ่นอะไรมาเกี่ยวกับธุรกิจ คุณจะนึกออกได้ในเวลาไม่นานว่าคุณรู้จักคนที่สามารถจัดการปัญหาเหล่านั้นได้
เช่นถ้ามีคนบ่นอยากขายบ้าน ขายคอนโด ด้วยความร้อนเงิน คุณรูู้แล้วว่าคุณจะแนะนำเพื่อนให้คุยกับใคร คุณก็แค่บอกว่าคุณรู้จักนักอสังหาริมทรัพย์ที่รู้ว่าควรจะขายบ้านให้เร็วนั้นทำอย่างไร ถ้าเพื่อนคุณบ่นว่าขโมยขึ้นบ้าน คุณก็เชื่อมเขาเข้ากับคนขายกล้องวงจรปิดได้ ถ้าคุณได้ยินว่าเพื่อนกำลังเดือดร้อนสรรพกรเรียกคุยเพราะบัญชีไม่เรียบร้อย คุณก็รู้ได้ในทันทีว่า คุณควรจะแนะนำให้เขาได้คุยกับคนทำบัญชีเก่งๆที่สามารถเจรจาต่อรองกับสรรพกรแทนเจ้าของบริษัทได้ ซึ่งคุณสามารถนำพาเพื่อนผู้ประสบปัญหามาพบกับคนเก่งๆโดยไม่ต้องคิดเรื่องเงินและราคาในเบื้องต้น เพราะอะไรคุณถึงทำได้รู้ไหม เพราะคุณมีทีม และทีมนี้ใหญ่พอ เก่งพอ และมีทัศนคติบวกเหมือนคุณ
คุณคนใหม่นี้จะมีทัศนคติที่เป็นนักแก้ปัญหาให้กับเพื่อนฝูง การมองไปยังปัญหาของเพื่อนๆและลูกค้าจะทำให้คุณได้มองหาธุรกิจให้กับทีมของตัวเอง แค่คุณเปลี่ยนวิธีคิดเล็กน้อย เปลี่ยนจากการมองหาธุรกิจให้ตัวเองเป็นการฟังปัญหาของผู้อื่นและมองหาโอกาสและธุรกิจให้ทีม คุณก็จะได้รับการขอบคุณจากลูกค้าเพราะคุณใส่ใจกับปัญหาของเขา และอาจจะเป็นโอกาสที่คุณจะได้ส่งธุรกิจเข้าแช็ปเตอร์
ขอให้ทุกคนออกจากถ้ำแล้วปรับทัศนคติใหม่เป็นนักฟัง นักแก้ปัญหา แทนที่เราจะออกไปหาธุรกิจให้ตัวเอง หนึ่งวันคุณมีโอกาสหาธุรกิจหนึ่งครั้ง แต่ถ้าคุณมองหาธุรกิจให้เพื่อนๆในแช็ปเตอร์ และเพื่อนสมาชิกทุกคนก็ทำแบบคุณ หนึ่งวันของคุณจะมีห้าสิบโอกาสทางธุรกิจ แบบนี้พอใช้ได้ไหมครับ การเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นนักฟัง นักแก้ปัญหา จะต้องอาศัยการฝึกฝน อาศัยเวลา แต่มันก็ไม่ได้ยากเกินไป
บีเอ็นไอมีความรู้ที่กลั่นกรองมาอย่างดีคุณสามารถใช้ความรู้เหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ได้ NEC จะค่อยๆเอาความรู้เหล่านี้มาเล่าให้ฟังครับ
ครั้งหน้า เราจะมาคุยกันเรื่อง นามบัตร วิธีทำให้นามบัตรเป็นกุญแจทางธุรกิจ แทนที่จะเป็นเศษกระดาษ
Discover more from Pockethifi's Blog
Subscribe to get the latest posts sent to your email.


อ่านที่จะหลับเลยครับ
LikeLike