ก่อนจะซื้อเครื่องพิมพ์ดิจิทัลสักเครื่องมีเรื่องให้คิดเยอะมาก ตั้งแต่เรื่องการหมุนเงิน หางาน และการทำงานจริง
แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก่อนจะซื้อเป็นเรื่องที่ต้องจินตนาการ และการจินตนาการก็เป็นเรื่องคาดเดาไปก่อน มันอาจจะไม่จริงหรือมันอาจจะจริงยิ่งกว่า
ตอนนี้มีเครื่องพิมพ์อยู่ในครอบครองมาแล้ว 1 เดือน เป็นหนึ่งเดือนแห่งการเรียนรู้ แต่เป็นการเรียนรู้แบบมีประสบการณ์และมีสติ ก็เลยมีเรื่องเก็บเล็กผสมน้อยเอาไว้เป็นความรู้ เผื่อให้คนทั่วไปที่สนใจวงการพิมพ์จะได้เก็บเป็นอาหารสมอง
ค้นพบข้อที่ 1
สิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้ก็คือ เซลส์… หายไปจากชีวิตแล้ว ก่อนจะซื้อก็จะมีการโทรหา ติดตามบ่อย แต่พอติดตั้งเครื่องเสร็จแล้ว ทุกวันนี้ยังไม่เห็นหน้าเลย
ค้นพบข้อที่ 2
อาการข่าวลืมที่ว่าพิมพ์ไม่ตรง โดยเฉพาะพิมพ์สองหน้าแล้วด้านหน้ากับด้านหลังไม่ตรง ผมพบแล้วว่าจริงครึ่ง ไม่จริงครึ่ง ที่จริงก็คือมันไม่ตรงจริงๆ เพราะเส้นมาร์กสำหรับตัดมันไม่ตรงกันเป๊ะ ไม่เหมือนเครื่องพิมพ์ปกติ สิ่งที่ไม่จริงก็คือ มันสามารถปรับแต่งให้ใกล้เคียงกันได้ แต่คนอื่นอาจจะไม่ทำกันและไม่ได้ผ่านการวิเคราะห์ปัญหา
สาเหตุที่ทำให้งานพิมพ์สองหน้าแล้วไม่ตรงกัน เป็นเพราะเครื่องพิมพ์มันคำนวณระยะบนกระดาษด้วยหน่วยมิลลิเมตร หมายความว่า ถ้าเราบอกเครื่องว่ากระดาษเรายาว 483 มิลลิเมตร จุดกลางกระดาษหน้าแรก และหน้าสอง ควรอยู่ที่ 483/2 หรือ 241.5 มิลลิเมตร ซึ่งเครื่องพิมพ์มันทำงานตรงไปตรงมา และมันก็ควรจะเป็นอย่างนั้น แต่ปัญหามันเกิดตรงที่ เราหรือเจ้าของโรงพิมพ์ สั่งตัดกระดาษเป็นนิ้ว และเครื่องรับข้อมูลเป็นมิลลิเมตร การปัดเศษหรือการวัดไม่ละเอียดทำให้ความยาวกระดาษจริงไม่ตรงกับค่าที่ระบุไว้ในเครื่อง พอสองอย่างนี้ไม่เท่ากัน ผลลัพท์มันก็ไม่เป็นอย่างที่ต้องการ
Discover more from Pockethifi's Blog
Subscribe to get the latest posts sent to your email.
ผมเจอลิ้งค์นี้แบบฟลุคๆ ด้วยการ Search หาบทความอะไรบางอย่างเกี่ยวกับกรอบรูป แต่กลับมาเจอบทความเกี่ยวกับ Digital Print ของคุณซะนี่
อ่านมาตั้งแต่เรื่องการคำนวนต้นทุน และมูลค่างาน จนถึงหัวข้อนี้ คิดถึงตอนสมัยผมจะลงเครื่องเลย คิดแบบเดียวกันเป๊ะๆ ดีดลูกคิดก่อนว่า ซื้อแล้วต้องพิมพ์กี่แผ่นถึงจะได้ทุนคืน
ก่อนอื่นต้องบอกว่ายินดีด้วยที่ได้ลงเครื่องแล้ว มันทำอะไรได้มากพอสมควรและเหมาะกับธุรกิจ Digital Print จำนวนไม่มากนัก พวกนามบัตร การ์เชิญ Photo Book มากเลยทีเดียว
ส่วนผมลงเครื่อง Konica C6500 มาได้ปีกว่าๆ แล้วเหมือนกัน เครื่องในระดับ Production แบบนี้ทำงานได้ดีกว่าเครื่อง Multifunction มาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณภาพ เรื่องการปรับควบคุม Alignment เมื่อพิมพ์ 2 หน้า และการพิมพ์กระดาษหนาๆ อย่าง 300g ได้ (ถึงแม้จะไม่ค่อยได้ Print สักเท่าไหร่)
ในเรื่อง Alignment ด้านหน้าด้านหลัง เครื่องพวกนี้มักจะมีปัญหาเมื่อใช้กระดาษหนาขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือ ถ้ากระดาษบาง พิมพ์แล้ว Register ด้านหน้า-หลังมักจะตรงตามที่ตั้งค่าไว้ แต่พอเป็นกระดาษหนา มันจะเคลื่อนออกจากกัน ต้องตั้งค่า Alignment ให้กับมันใหม่
สำหรับ Xerox ผมเห็นเครื่องรุ่นใหม่ (พึ่งถูกเชิญไปดูเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา) สามารถบันทึกค่า Alignment กับกระดาษความหนาต่างๆ เก็บเอาไว้เรียกใช้ได้ด้วย ไม่แน่ใจว่าเครื่องของคุณทำได้หรือเปล่า ซึ่งน่าจะทำให้สะดวกมากขึ้น
สำหรับเครื่อง Konica ของผมจะมีปัญหาแปลกๆ เกี่ยวกับ Alignment คือ ถ้า Print เป็น Portrait การปรับชดเชย Alignment จะง่ายมาก แต่ถ้าเป็นแนว Landscape ละก็ ปรับกันมึนไปเลย เพราะปรับแกน X (ปรับใน Fiery RIP Driver) มันด้นเลื่อนทั้ง X และ Y เสียกระดาษเกือบ 10 แผ่นกว่าจะทำให้ Register Mark เข้าใกล้ที่ต้องการได้
สำหรับเครื่อง Production แบบนี้ สิ่งที่สำคัญจริงๆ ก็คือ บริการหลังการขาย ผมไม่เคยใช้ Xerox เคยใช้แต่ Konica และ Ricoh ก็ต้องบอกว่า ไม่ค่อยตรงตามคำสัญญาที่ให้ไว้ก่อนขายสักเท่าไหร่ เช่น เรื่องอะไหล่ บอกว่าจะสามารถส่งมาซ่อมได้ภายใน 3-4 วัน แต่บางครั้งผมต้องรอเป็นอาทิตย์ หรือมากกว่านั้น อย่าง Laser Printer (ไม่ใช่เครื่องถ่ายเอกสาร) ของ Ricoh นี่ ผมเคยต้องรอเคลมอะไหล่เกือบ 3 เดือน เนื่องจากของไม่มีในไทย ส่วนของ Konica นี่ดีขึ้นมาหน่อยคือประมาณ 1 เดือน แต่สำหรับเครื่องปัจจุบันของผม ผมคุยเอาไว้ก่อนแล้วว่า ผมไม่สามารถรอนานแบบนั้นได้ เค้าก็เลยยกเครื่อง multifunction รุ่นเล็กมาให้ใช้งานแก้ขัดถ้าต้องรออะไหล่นานเกิน 1 อาทิตย์ แต่มันก็ไม่สะดวกรวดเร็วเหมือนเครื่องใหญ่ครับ และต้องโทรไปเร่ง ถึงจะได้เครื่องสำรองมาใช้งาน ไม่งั้นก็จะทำเฉยๆ ให้เรารออะไหล่ไปเรื่อยๆ
เครื่องหน้า ผมอาจจะซื้อ Xerox มาใช้เพิ่มอีกเครื่อง ถ้า Trend งานทางด้านนี้ดีขึ้นเรื่อยๆ และเป็นการเปรียบเทียบบริการหลังการขายของ Xerox ที่คุยว่าเจ๋งกว่าเพื่อนว่าจริงหรือไม่ (ผมไม่ค่อยเชื่อหรอกนะ) แต่ตอนนี้คงรอฟัง Comment จากคุณก่อนจะดีกว่า
LikeLike
ขอบคุณครับที้่ฝากคอมเม้นดีๆเอาไว้ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมตั้งใจจะเขียนเพื่อให้เป็นข้อมูลสำหรับคนที่กำลังค้นหาข้อมูล ข้อเท็จจริง และความรู้ต่างๆ เพราะผมก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องการข้อมูลเหล่านี้เหมือนกัน ที่ผ่านมา ผมได้ข้อมูลในแง่ปัญหาน้อยเหลือเกิน จนต้องการใช้งานจริงถึงจะเจอสิ่งต่างๆ แม้จะไม่ได้มากมาย แต่ก็มีให้หงุดหงิดได้บ้าง แต่ยังแก้ปัญหาได้ทั้งหมดครับ ยังไม่เจอปัญหาร้ายแรง
เรื่องระยะเวลาในการบริการหลังการขาย ผมยังมีประสบการณ์ที่ดีครับ คือยังไม่เจอปัญหาอะไหล่เสีย ตอนนี้ผมสต๊อคดรัม และ หมึกไว้ 1 ชุด หมึกสั่งวันนี้ พรุ่งนี้ส่ง ดรัมก็เช่นกัน
ส่วนกรณีเครื่องเสีย เซลล์รับปากผมว่า จะให้ผมไปพิมพ์ที่โชว์รูมของฟูจิซีร๊อกส์เลย ถ้าเครื่องผมมีปัญหาจนพิมพ์ไม่ได้ และจะให้พิมพ์จนกว่าจะซ่อมเสร็จ ซึ่งผมก็วางใจระดับหนึ่ง
ยินดีที่มีคนมาแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันครับ
LikeLike
แปลกใจครับ คุณ pockethifi ทำไมถึงต้องสต๊อกดรัม และหมึกไว้ 1 ชุด มันน่าจะอยู่ใน Service Contact ไม่ใช่เหรอครับ
ใน Service Contact ตามปรกติเราสามารถขอหมึกเผื่อไว้ได้ 1 ชุดได้นะครับ เพราะผมเคยเจอกรณีงานเข้า ต้องพิมพ์งานประมาณ 20,000 หน้า A4 หมึกชุดเดียวไม่พอครับ ต้องมีเผื่อไว้อีก 1 ชุด
แต่อย่างลูกดรัม และ transfer belt นี่ อายุการใช้งานนานมากครับ ถึงจะหมดอายุแล้วส่วนใหญ่จะสามารถใช้งานต่อได้อีกระยะหนึ่งระหว่างรอเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ ถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุกระดาษติดจน Drum หรือ Belt เป็นรอยนะ
LikeLike