ทนายความผู้มากความสามารถเป็นที่ปรึกษาทางกฏหมายให้กับนักธุรกิจต่างชาติจำนวนมาก ทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษที่มาคู่กับความรู้ทางกฏหมายทำให้มีชาวต่างชาติต่อคิวรอใช้บริการอย่างต่อเนื่อง หลักการของทนายความที่ป้องกันทุกปัญหาให้ลูกค้าด้วยวิธีแสนฉลาดคือทำให้ถูกกฏหมายตั้งแต่ต้น ไม่ต้องแกว่งเท้าหาเรื่อง ไม่ต้องทะเลาะกับใคร ลูกค้าบอกต่อจึงเยอะขึ้นเรื่อยๆ
ทนายพงศ์เป็นคนกรุงเทพ เกิดและเรียนหนังสืออยู่ในกรุงเทพมาตลอด เรียนมัธยมปลายได้ปีเดียวก็สอบเทียบม.6 ผ่าน ทำให้สามารถสมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้ตั้งแต่อายุ 15 โดยสาขาที่เลือกเรียนคือคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ด้วยความมุ่งมั่นว่าอยากจะมีอาชีพที่ดูท้าทายเหมือนในภาพยนต์ที่เคยดูตอนเด็ก การเรียนเร็วและข้ามชั้นไปหลายชั้นทำให้เรียนจบปริญญาตรีตั้งแต่อายุ 18 จากนั้นก็ไปสอบใบอนุญาตทนายความ แม้จะสอบผ่านแล้วแต่ยังขึ้นทะเบียนทนายความไม่ได้ เพราะกฏหมายกำหนดไว้ว่าใบอนุญาติทนายความผู้ขอต้องมีอายุ 20 ปี ขึ้นไป เมื่อยังไม่สามารถประกอบอาชีพทนายความได้ ก็เลยตัดสินใจไปสมัครทหาร เพื่อที่จะได้ทำหน้าที่ตามกฏหมายให้ครบถ้วน และเมื่อสิ้นสุดงานทหาร ก็ออกมาเป็นทนายความได้พอดี
เริ่มงานเป็นลูกจ้างบริษัท รับงานผ่านบริษัท รับเงินเดือนบ้าง รับเป็นค้าจ้างบ้าง รับงานส่งต่อบ้าง ช่วงแรกของชีวิตการทำงานชอบทำคดีอาญา เพราะติดภาพความเท่ห์มาจากการดูหนัง การได้ช่วยจำเลยออกมาจากคุกเป็นความรู้สึกที่ท้าทายความสามารถ แม้ว่าการทำคดีอาญาจะสนุก แต่ความจริงของการทำงานคือ ส่วนมากแล้วคนก่อคดีอาญามักจะเกิดจากการไม่มีเงิน พอไม่มีเงินก็เลยทำผิดกฏหมาย เช่น ลักทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย โกงเงิน ประกอบกับรายได้จากการเป็นพนักงานของบริษัทก็ไม่ค่อยพอใช้ เพื่อนฝูงหลายคนที่เติบโตมาพร้อมกันเริ่มขยายธุรกิจ เริ่มทำงานตำแหน่งใหญ่โตขึ้น ประกอบกับลูกค้าคดีอาญาส่วนมากจะไม่ค่อยมีเงินจ่ายค่าทำคดี สุดท้ายก็ทำต่อไม่ไหวจึงเริ่มมองหาแนวทางคดีลักษณะอื่น อย่างเช่นคดีเกี่ยวกับธุรกิจ เริ่มรับทำคดีแพ่งและอาญาคู่กัน สะสมประสบการณ์เป็นลูกน้องในสำนักงานกฏหมายอยู่ประมาณ 10 ปี พอมีความชำนาญเพิ่มขึ้น ประสบการณ์เยอะขึ้น ก็เริ่มมีลูกค้าส่วนตัว ในที่สุดก็ตัดสินใจลาออกมาเปิดสำนักงานกฏหมายของตัวเอง
การเปิดสำนักงานกฏหมายจะมีความไม่มั่นคงในช่วงต้น เพราะงานทนายความไม่ได้มีคนมาจ้างงานง่ายๆ การเปิดสำนักงานแบบไม่มีคนรู้จักก็มักจะอยู่ไม่นาน ธุรกิจไปไม่รอด เพื่อนร่วมอาชีพหลายคนเปิดสำนักงานแล้วแล้วปิดภายในเวลาไม่กี่ปี คนที่จริงจังและมีจุดเด่นจริงๆเท่านั้นถึงจะอยู่รอด
ส่วนมาก คดีแนวธุรกิจมักจะเป็นลูกค้าที่มีรายได้สูง คนกลุ่มนี้จะไม่ค่อยทำผิดอาญา อย่างมากก็เป็นเรื่องภาษี คดีส่วนมากก็จะเป็นคดีแพ่ง พอทำคดีแพ่งบ่อยขึ้นอัตราการว่าความชนะก็เพิ่มขึ้น ทำให้มีลูกค้านักธุรกิจเยอะขึ้น และเกือบทุกคนก็จะมาจากการบอกต่อ ปัญหาในคดีแพ่งมักจะเกิดขึ้นกับธุรกิจตลอดเวลา จบคดีแรกก็มีคดีถัดไปรออยู่ เมื่อคุ้นเคยกันกับลูกค้า ลูกค้ากลุ่มธุรกิจนี้จะเริ่มปรึกษาก่อนดำเนินกิจการหรือก่อนจะต้องตัดสินใจทางธุรกิจ ผลก็คือ การให้คำปรึกษาก่อนช่วยทำให้ป้องกันผลเสียหายจากการเป็นคดี ซึ่งลูกค้าก็ชอบผลลัพธ์แบบนี้ งานที่ปรึกษาก็เริ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นงานหลักของสำนักงานไปเลย
ในประเทศไทยคนเรียนกฏหมายประมาณ 80 เปอร์เซ็นจะไม่ชอบวิชาคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ ทนายพงศ์เลยเลือกจุดที่ทักษะภาษาอังกฤษของทนายไทยจะไม่ดีนัก ทำการฝึกฝนพัฒนาเรื่องการสื่อสารภาษาอังกฤษให้ชำนาญมากขึ้นเพื่อรองรับตลาดต่างชาติ และจากประสบการณ์กว่าสิบปีพบว่าถ้าทำงานที่ปรึกษารัดกุมตั้งแต่ต้น ชาวต่างชาติจะไม่มีคดีในไทยเลย การป้องกันการทำผิดในไทยจะทำให้ชาวต่างชาติมีธุรกิจที่ยั่งยืน เป็นผลดีต่อทุกฝ่ายทั้งตัวเจ้าของธุรกิจและคู่ค้าคนไทย ประเทศไทยก็ได้ประโยชน์ด้วย
ส่วนสำนักงานกฏหมายขนาดใหญ่จะไปเข้าหาลูกค้าระดับบนหรือระดับนานาชาติซึ่งค่าใช้จ่ายก็จะสูงไปเลย ลูกค้าต่างชาติที่ยังเป็นธุรกิจเล็กหรือ sme ก็เลยจำเป็นต้องหาสำนักงานกฏหมายขนาดเล็ก และสำนักงานเล็กๆทั่วไปก็ไม่ค่อยชำนาญภาษาอังกฤษ ทนายพงศ์จึงได้ทำงานให้ต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเปิดโอกาศให้ทำงานกับต่างชาติได้จริง และต่างชาติก็ชอบที่จะใช้บริการหรือติดต่อกับทนายโดยตรง เนื่องจากไม่ได้อยากติดต่อผ่านล่าม เพราะบางทีการแปลความหมายทางด้านกฏหมายอาจจะไม่ชัดเจน ล่ามไม่ได้มีความเข้าใจในเรื่องกฏหมาย ทนายที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้จึงได้รับโอกาสเหล่านี้
คดีที่ทำบ่อยก็มักเป็นคดีพิพาทระหว่างต่างชาติด้วยกันแต่เป็นความผิดที่เกิดขึ้นในไทย ทนายพงศ์ก็ดำเนินการให้ งานแนวนี้ไม่ซับซ้อน ทนายก็ทำตามรูปแบบที่ต้องทำ ถูกผิดก็ว่าไปตามหลักฐาน เอกสาร ส่วนมากก็จะเจรจาไกล่เกลี่ยปิดคดีได้ ไม่ต้องเสียเวลาฟ้องร้อง ไม่ต้องขึ้นศาล หากจะให้แนะนำนักธุรกิจต่างชาติก็จะขอบอกว่า ให้ทนายดูแลทางกฏหมายก่อนจะเกิดปัญหา เป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับนักธุรกิจต่างชาติในไทย เพราะการไม่มีเรื่องนั้นดีที่สุด
อีกหลักการหนึ่งที่สำคัญมากสำหรับการทำงานกับกลุ่มนักธุรกิจต่างชาติก็คือ ทนายความจะพยายามไม่เป็นข่าว ไม่ออกสื่อ เพราะถ้าเกิดเป็นข่าว หรือ มีการจับตาจากสังคม จะทำให้คดีหรืองานที่ทำอยู่โดนจับตามอง อาจมีปัญหา และลูกความก็ไม่สบายใจที่ทนายของเขาเป็นคนดัง เนื่องจากส่วนมากลูกค้าธุรกิจมักจะมีปัญหาพิพาท เพราะลูกความก็กลัวจะโดนขุดคุ้ย
งานที่ทำบ่อยในช่วงปีนี้คือการเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทต่างชาติ พอปรึกษาก็จะมีงาน ขอวิซ่า ขอเวิร์คเพอมิทที่ต้องช่วยบริการตามมา หลังวิกฤตโควิดชาวต่างชาติเริ่มมองหาการเปิดบริษัทในประเทศไทยมากขึ้น การมองหาทนายในก้าวแรกของธุรกิจในไทยถูกมองว่าเป็นสิ่งจำเป็น
ปัจจุบัน ทนายพงศ์ เปิดเพจให้ความรู้สำหรับชาวต่างชาติที่จะตั้งใจมาทำธุรกิจในประเทศไทย รวมถึงความรู้ทางกฏหมายทั่วไปที่ประชาชนอาจเข้าใจผิดก็จะรวบรวมมาเล่าเรื่องในเพจ อย่างเช่น
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการขับรถ ถ้าเราขับรถไปเกิดอุบัติเหตุ มีคนมาชน แล้วเราไม่มีใบขับขี่ หลายคนจะบอกว่าไม่มีใบขับขี่จะเป็นฝ่ายผิด ความจริงแล้ว ต้องแยกข้อหา ขับรถไม่มีใบขับขี่ผิด 1ข้อหา แต่ขับแล้วเกิดอุบัติเหตุ จะเป็นอีกข้อหา
การที่ชาวต่างชาติจะทำธุรกิจในประเทศไทย ควรเริ่มต้นด้วยการทำทุกอย่างถูกกฏหมาย ควรได้รับการแนะนำอย่างตรงไปตรงมาโดยนักกฏหมาย เพราะการทำทุกสิ่งอย่างถูกต้องคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการทำงานระยะยาว
พงศ์ประพันธ์ มินสาคร
Pongprapan Minsakorn
Bangkok Law Firm
Mobile +66 86 604 2330
bangkok.lawfirm@hotmail.com
Discover more from Pockethifi's Blog
Subscribe to get the latest posts sent to your email.






