ซูซูกิสวิฟท์คือรถของคุณภรรยา เป็นรถที่ใช้งานมาประมาณเกือบสิบปีแล้ว นับว่าเป็นรถที่มีคุณภาพที่ดีและน่าใช้งาน เป็นรถที่สมรรถนะดีและประหยัดน้ำมันมาก ตอนนี้อายุรถเยอะเริ่มมีชิ้นส่วนเสียหายต้องเปลี่ยนแล้ว อยู่ๆก็เปิดแอร์ไม่ติด ตอนเช้าเปิดติด ตอนบ่ายบางทีก็ไม่ติด อาการติดบ้างไม่ติดบ้างเกิดขึ้นแบบนี้มาหลายวัน จนกระทั่งระยะหลังๆมักจะเปิดไม่ติดแล้ว
ตรวจสอบเบื้องต้น ลองสตาร์ทรถ แล้วเปิดแอร์ดู พัดลมหม้อน้ำทำงาน คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงาน เพราะว่าตอนเปิดแอร์ก็รู้สึกได้ว่าเครื่องยนต์หน่วงลงตามปกติของการเปิดแอร์ รอบเครื่องตกลงเล็กน้อยซึ่งเป็นสัญญาณปกติของการเปิดแอร์ แต่ที่ผิดปกติคือไม่มีลมออกมา ก็เลยสันนิษฐานว่าพัดลมแอร์ภายในรถน่าจะมีปัญหา
เข้าไปหาข้อมูลต่อใน youtube ก็ได้ความรู้มาว่า ตัวควบคุมการหมุนของแอร์ในรถจะถูกสั่งการผ่านวงจรไฟฟ้าในแอร์ และสัญญาณไฟฟ้าจะวิ่งมาผ่านตัวรีซีสแตนท์ก่อนแล้วค่อยต่อไปยังพัดลม ไฟควบคุมพัดลมจะถูกสั่งให้หมุนแรงหรือหมุนเบา ไฟจะวิ่งผ่านตัวต้านทานรีซีสแตนท์ตัวนี้ก่อน ดังนั้น ถ้าพัดลมไม่หมุน ก็เป็นไปได้ว่า พัดลมพัง หรือ รีซีสแตนท์พัง ถ้าจะเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยนทั้งสองตัวเลยเพราะมันก็เก่าไปตามอายุรถ ราคาพัดลมแอร์ในศูนย์ 1388 บาท ราคารีซีสแตนท์ในศูนย์ก็ 1220 บาท ราคานี้ได้มาจากการเอารถเข้าศูนย์ให้ช่วยตรวจเช็คว่าแอร์ไม่ติดเพราะอะไร ซึ่งศูนย์ก็ทำงานได้ดี ตรวจเช็คระบบแอร์ และแจ้งอาการ ทำใบเสนอราคามาให้ด้วย เลยได้รู้ราคาของแต่ละชิ้น
เพียงแต่ศูนย์สั่งเปลี่ยนหลายชิ้นเหลือเกิน รวมอะไหล่ รวมค่าแรง จะจบที่ราคาประมาณ 9พันกว่าบาท ซึ่งผมรู้สึกว่าราคาแรงเกินไป แต่ก็เข้าใจว่าศูนย์ต้องเปลี่ยนตัวที่เกี่ยวข้องกับอาการแอร์ไม่เย็นหลายตัว และค่าแรงการทำงานก็เป็นหลักสองพันบาท ดังนั้น ผมก็เลยไม่ทำในศูนย์ จ่ายค่าแรงตรวจเช็ค 250 บาทเอารถออกแล้วหาอะไหล่เปลี่ยนเองดีกว่า เพราะว่า ระหว่างที่ช่างเช็ค ผมก็อ่านในเว็บ ดู youtube ไปหลายคลิปเลย เลยพอจะรู้คร่าวๆแล้วว่าพอเปลี่ยนเองได้ ต้องขอบคุณศูนย์และขอโทษที่ไม่ได้อุดหนุนศูนย์ด้วย
อาการหนึ่งที่ทำให้แน่ใจว่าพัดลมมีปัญหาแค่อย่างเดียวโดยที่ตัวควบคุมความเร็วอย่างรีซีสแตนท์ไม่น่าจะเสียเพราะว่า พัดลมติดบ้าง ไม่ติดบ้าง ถ้าติดก็จะทำงานได้ปกติและสามารถปรับแรงลมได้ด้วย ดังนั้น พัดลมน่าจะเสียแค่ตัวเดียว และรวมกับในคลิป youtube ก็มีแนะนำว่า ถ้าพัดลมมีฝุ่นจับทำให้มอเตอร์หมุนไม่สะดวก ถ้าเจออาการไม่หมุนให้ลองเอามือตบไปใกล้ๆพัดลมดู ซึ่งพัดลมจะอยู่ตรงกับช่องใส่ของหน้ารถด้านข้างคนขับ ให้ลองเคาะหรือตบที่ช่องใส่ของแรงๆดู แรงสั่นสะเทือนจะไปช่วยให้ใบพัดหมุนได้ ซึ่งลองทำแล้วก็เป็นจริงตามนั้น เลยมั่นใจว่าพัดลมหมุนไม่คล่องจริงๆ และน่าจะเสียแค่ตัวนี้ตัวเดียว
เริ่มหาอะไหล่ พัดลมแอร์ หรือ โบรเวอร์ หน้าตาเป็นพัดลมทรงกระบอก ดูในเว็บช็อปปิ้ง ราคาอยู่ที่ประมาณ 750-1200 บาท แน่นอนว่าผมก็เลือก 750 แล้วเลือกร้านที่ได้คะแนนรีวิวสูงๆ ส่วนรีซีสแตนท์ผมไม่ได้สั่งซื้อ เพราะว่าคาดว่ายังไม่พัง จะเปลี่ยนพัดลมก่อน ซึ่งจริงๆแล้วพัดลมก็ยังไม่พังจริงๆ แค่หมุนไม่สะดวกเพราะมีฝุ่นไปจับทำให้แกนหมุนมีความฝืด ถ้าอยากประหยัดจริงๆก็สามารถถอดพัดลมออกมาทำความสะอาดได้ แต่ผมเลือกจะถอดเปลี่ยนเลย เพราะไหนๆก็รื้อออกมาแล้ว และราคาพัดลมก็ไม่ได้แพงมาก แล้วยังทำเองไม่เสียค่าแรงอีก ก็เปลี่ยนเลยดีกว่า
พัดลมแอร์อยู่ด้านในใกล้ๆกับที่ใส่กรองแอร์ พัดลมจะติดกับช่องลมด้วยน็อต 3 ตัว ต้องใช้ไขควง 4 แฉกในการไข และควรเป็นไขควงที่สั้นที่สุดเท่าที่หาได้ เพราะตำแหน่งการหมุนน็อตออกนั้น อยู่ในส่วนที่แคบ อยู่ใกล้กับพื้นรถ ดังนั้นไขควงยาวๆจะแหย่เข้าไปไม่ได้ ซึ่งในที่สุดผมก็ไปหาซื้อไขควงก้านสั้นมาใช้จนได้ เลยถอดออกมาได้อย่างง่ายดาย หลายคันใน youtube ที่ถอดพัดลมออกมาแล้วจะพบกับเศษฝุ่น เศษกระดาษ เศษใบไม้อยู่ด้วย ซึ่งก็ไม่แปลกใจที่จะทำให้หมุนลำบาก
พัดลมตัวใหม่ถูกแทนที่เข้าไป แล้วทดลองเปิดแอร์ดู แอร์ทำงานได้ปกติตั้งแต่การสั่งเปิดครั้งแรก นั่นแสดงว่าพัดลมตัวเก่ามีปัญหาจริงๆที่อยู่ดีๆก็ไม่หมุน ผลการเปลี่ยนพัดลมแอร์ด้วยตัวเองประสบความสำเร็จ ประหยัดเงินไปได้เกือบหมื่นบาท
ภาพนี้คือพัดลมตัวเก่าที่เรื้อใบพัดออกมาดู ภายในมีแต่ฝุ่นจับ ซึ่งจริงๆแล้วใบพัดควรจะเป็นสีขาว ฝุ่นดำพวกนี้คือผงถ่านที่หลุดออกมาจากมอเตอร์ แสดงให้เห็นถึงการใช้งานที่ยาวนาน นานๆไปชิ้นส่วนแปรงถ่านในมอเตอร์ก็จะสึกและหลุดกระจายออกมาจนในที่สุดมอเตอร์ก็จะไม่หมุน ดังนั้น รถอายุเยอะระดับเกือบสิบปี ถ้าเปลี่ยนได้ก็เปลี่ยนเลย ไม่ต้องรอให้เสียกระทันหัน
ผมหาลิงค์เดิมที่สั่งซื้อไม่เจอแล้ว
หาให้ใหม่ที่นี่ https://shope.ee/504aQ4mdOL
Discover more from Pockethifi's Blog
Subscribe to get the latest posts sent to your email.



