การทำให้เกิด visibility หรือการมีตัวตนของท่านแบบตรงไปตรงมาก็คือการแนะนำตัว การแจกนามบัตร ซึ่งเป็นวิธีปกติทั่วไปที่จะต้องทำกันอยู่บ่อยๆ นอกจากวิธีทางตรงเหล่านี้แล้ว ยังมีวิธีทางอ้อมอื่นๆที่ทำให้ท่านถูกมองเห็นและจดจำได้ และที่สำคัญ มันสร้างความประทับใจได้มากกว่าการแจกนามบัตรเสียด้วย
ลองนึกภาพถึงตอนที่คุณมาร่วมงานประชุมทางธุรกิจ หรืองานสังสรรค์ทางธุรกิจสักงานหนึ่ง คุณมาร่วมงาน แขกคนอื่นมาร่วมงาน เขาไม่รู้จักคุณ คุณก็ไม่รู้จักแขก ไม่มีอะไรเชื่อมโยงคุณกับแขกเลย มากที่สุดอาจจะเป็นการยัดเยียดนามบัตร ซึ่งเราก็รู้อยู่แก่ใจว่า ยัดเยียดนามบัตรไม่เกิดประโยชน์
แขกที่มาร่วมงานจะยังงงๆ ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ว่าใครจะมางานบ้าง ไม่รู้ว่ากำหนดการเป็นอย่างไร ต้องทำอะไรก่อน หลัง และส่วนมากไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นคุยกับคนอื่นๆอย่างไร จะดีไหมถ้ามีใครสักคนมาอาสาทำตัวเหมือนเป็นเจ้าภาพ มาชวนแขกคุย มาแนะนำว่างานจะดำเนินอย่างไร ใครจะมาบ้าง มีใครที่คุณอยากคุยด้วยไหม ของกินอยู่ด้านไหน ห้องน้ำอยู่ทางไหน แขกสามารถนั่งโซนไหนได้ คนที่จะทำเช่นนี้ หากคุณเป็นคนทำเอง แขกจะประทับใจและจดจำคุณได้ นั่นคือ visibility จะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ
สิ่งที่เราน่าจะลองทำในบทเจ้าภาพก็คือ มาถึงงานก่อนเวลา จดจำกำหนดการสำคัญในงาน ดูรายชื่อแขกว่าจะมีใครมาบ้าง เพื่อดูว่าเราอยากพบกับใครเป็นพิเศษ จำแผนผังที่นั่ง ห้องน้ำอยู่ทางไหน ของกินอยู่ทางไหน เราจะแนะนำแขกเพื่อให้แขกรู้สึกสบาย และอบอุ่น และจะทำให้แขกจำท่านได้ จำอาชีพของท่านได้
การเล่นบทเจ้าภาพที่รู้งาน เป็นคุณสมบัติเบื่องต้นของคนมีคอนเน็คชั่นเยอะ visibility ของท่านจะชัดเจนมากยิ่งขึ้นในสายตาของผู้คนในงาน โดยเฉพาะแขกที่ท่านมุ่งหวังอยากรู้จักเป็นพิเศษ

Discover more from Pockethifi's Blog
Subscribe to get the latest posts sent to your email.

Pingback: การตลาดแบบบอกต่อต้องมี Visibility | Pockethifi's Blog