ทริปสงกรานต์ปีนี้ ครอบครัวเราเลือกที่จะไปเที่ยวที่กระบี่และภูเก็ต แนวทางที่เลือกก็คือเดินทางไปกลับด้วยเครื่องบิน ระหว่างที่อยู่ในกระบี่และภูเก็ตก็เช่ารถขับ นอนพักที่กระบี่ 2 คืน นอนที่ภูเก็ต 2 คืน และภารกิจสำคัญคือต้องพาลูกไปดำน้ำดูปะการังที่เกาะสวยๆ
เราเริ่มต้นการเดินทางที่สนามบินสุวรรณภูมิ เลือกใช้สายการบินของการบินไทย เที่ยวบินออก 8.30 ถึงกระบี่ 9.30 โดยประมาณ แล้วก็รับรถเช่าที่จองไว้ตั้งแต่กรุงเทพ เราใช้บริการของ hertz รับรถที่กระบี่ และคืนที่ภูเก็ตตอนขึ้นเครื่องวันกลับ
เราได้รถโตโยต้า yaris ปี 2018 ซึ่งเป็นรถ eco car ที่เครื่องยนต์เล็ก 1200cc การขับรถคันนี้ให้ความรู้สึกที่ดี มันวงเลี้ยวแคบมาก ถนนสี่เลนที่แคบๆเราสามารถกลับรถได้ในการวิ่งครั้งเดียว และช่วงล่างก็แน่นผสมความรู้สึกนุ่มกำลังดี ขับแล้วรู้สึกเหมือนรถขนาดใหญ่
ที่กระบี่ เราไปเที่ยวสุสานหอยเป็นจุดแรก ด้วยเหตุผลว่าเราอยากให้ขอบฟ้าได้แวะไปดูสิ่งที่หาไม่ได้ในกรุงเทพ สุสานหอยหน้าตาเป็นแผ่นๆ ผมดูไกลๆก็เหมือนแผ่นปูนที่เอาไว้ปูพื้นสนาม ปูพื้นถนน แต่ดูใกล้ๆก็พบว่ามีตัวเปลือกหอยติดอยู่ในแผ่นหินจำนวนมาก มันเลยถูกเรียกว่าสุสานหอย อายุของแผ่นหินนี้ประมาณ 75 ล้านปี เปลือกหอยเหล่านี้มันคงเคยโดนไดโนเสาร์เหยียบมาบ้างในยุคที่ 65 ล้านปีก่อน ในช่วงเวลาที่ไดโนเสาร์ยังไม่สูญพันธุ์
ออกจากสุสานหอยเราก็ตั้งใจจะขับไปร้านอาหาร เลยเลือกที่จะไปกินอาหารแถวอ่าวนาง แต่ขอบฟ้าอยากเล่นฟุตบอลแล้ว ตอนขับผ่านชายหาดเลยแวะลงไปเล่นบอลด้วยกัน ขอบฟ้าพกลูกฟุตบอลมาเองด้วย เลยได้ไปเตะเล่นกันริมทะเล พื้นที่ชายหาดอ่าวนางเป็นหาดทรายกว้างๆ ที่พักแถวนี้จะมีถนนกั้นระหว่างตึกกับทะเล คล้ายๆกับพัทยา พอเตะบอลได้พักใหญ่ รู้สึกเหนื่อยได้ที่ก็พักและไปแวะหาร้านกินข้าวแถวนั้น
เราหาร้านอาหารที่น่าสนใจในพื้นที่ใกล้ๆชายหาด หาข้อมูลจากอินเทอเน็ตได้ร้านครัวธาราที่มีคนแนะนำและรีวิวไว้น่าสนใจ เป็นร้านอาหารที่อยู่ริมหาด ไปถึงจริงๆก็พบกว่าที่จอดรถค่อยข้างน้อย พื้นที่จอดรถดูเหมือนเป็นที่สาธารณะที่มีแต่รถจอดเต็มไปหมด ในร้านไม่มีแอร์ และอาหารทำนาน และไม่อร่อย และ ราคาแพงอย่างน่าตกใจ ผมใช้เงินพันกว่าบาทกินสิ่งที่ไม่อิ่ม ไม่อร่อย และไม่คิดจะกลับมาอีกเลย ประสบการณ์การท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน เราไม่รู้ว่าเราจะเจอความประทับใจหรือผิดหวัง แต่ที่เราได้ก็คือ เราได้รู้ว่ารีวิวนั้นเป็นแค่รสนิยมที่หลากหลาย และคนที่แนะนำร้านนี้คงรวยมากและรสนิยมการกินไม่เหมือนเรา
ออกจากร้านอาหารเราก็ขับรถเข้าที่พักที่จองไว้ เป็นโรงแรมแนวบูทิคที่อยู่ติดหาดทราย ชื่อโรงแรม เดอะทับแขกซันเซ็ต ลักษณะบ้านพักเป็นหลังแยกอิสระ บ้านพักเรียกตัวกันอยู่เป็นตับ มีพื้นที่ชายหาดที่กว้างใหญ่ มีพื้นที่สำหรับเตะฟุตบอลด้วย ขอบฟ้าได้เล่นน้ำทะเล เล่นน้ำสระ และเตะบอลสนุกไปเลย
มื้อเย็นของวันนี้เราเลือกไปกินร้านอาหารที่แต่งร้านสวยงามน่ารักที่อยู่ใกล้โรงแรม ชื่อร้าน sabai ba bar เป็นร้านหน้าตาหรู ตกแต่งด้วยไม้ และไม่มีแอร์ แต่ชดเชยด้วยอาหารรสชาดดี ราคาสูงพอใช้ได้เลย แต่ก็เยอะกินอิ่ม ระหว่างที่รออาหารก็ได้ดูคู่แต่งงานที่มาจตัดงานอยู่ที่ริมหาดที่ติดกับร้านด้วย เป็นภาพงานแต่งงานที่น่ารักเหมือนกับหนังโรแมนติกคอมมีดี้ แผนที่ของร้านอาหาร sabai ba bar อยู่ด้านล่าง
ผมสงสัยอยู่เพียงอย่างเดียวกับร้านอาหารร้านนี้คือ เรือลำที่จอดอยู่กลางทะเลลำนี้ทางร้านได้จ้างให้มาจอดไว้หรือเปล่า เพราะตำแหน่งเรือเป็นตำแหน่งที่มองเห็นจากร้านแล้วอยู่ตรงกับพระอาทิตย์ที่ค่อยๆตกดินพอดี มันเป็นจังหวะและตำแหน่งที่ถ่ายรูปได้ลงตัวมากๆ ถ้าบอกว่าเรือเป็นของเจ้าของร้านผมก็เชื่อ
วันนี้จบวันแบบอิ่มและร้อนมาก กลับห้องพักแล้วเตรียมตัวเข้านอนเร็วหน่อย เพราะพรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวเกาะรอก และเกาะห้า กัน อ่านต่อได้ใน พาลูกเที่ยวกระบี่ ภูเก็ต 5วัน 4คืน ตอนที่2
ด้านล่างเป็นแผนที่ของสุสานหอย โรงแรมทับแขกซันเซ็ต และร้านอาหารสบายบาบาร์ ตามลำดับ
Discover more from Pockethifi's Blog
Subscribe to get the latest posts sent to your email.














