รีวิว Soundpeat Clear

หูฟังสำหรับฟังเพลงและคุยโทรศัพท์เริ่มเป็นแบบไร้สายมาตั้งแต่ apple ทำ airpod ออกมา แต่ราคาก็สูงหลายพันบาท ขณะที่ยี่ห้ออื่นต่างก็ทะยอยทำตามและปรับปรุงพัฒนามาเรื่อยๆ ผ่านมาหลายปีราคาก็ต่ำลงเรื่อยๆ และในปีนี้เราสามารถใช้งานหูฟังคุณภาพดีในราคาต่ำกว่า 1000 บาท และรุ่นหูฟังตัวนี้นี้ยี่ห้อ Soundpeat รุ่น clear ก็ราคาแค่ 799 บาท เท่านั้น

20250113162855_IMG_1550

หูฟัง Soundpeat Clear เป็นหูฟังไร้สายระบบบลูทูธ 5.3 เชื่อมต่อง่าย มีหลายสี กล่องชาร์จก็ทำฝาใสๆให้เห็นดูก็รู้ว่าหูฟังครบไหม หายไหม ผมชอบฝาใสมากกว่าฝาทึบ

ลองดูสเป็คคร่าวๆ ซึ่งทั้งหมดเป็นเพียงตัวหนังสือที่ไม่ได้หมายถึงคุณภาพเสียง เราจะรู้ว่าเสียงดีหรือไม่ดีก็ต้องทดลองฟังเท่านั้น ส่วนเรื่องลูกเล่นต่างๆ หรือแม้แต่ระบบตัดเสียงรบกวนผมก็ไม่ได้สนใจ เพราะอยากจะซื้อใส่เพื่อฟังเพลงและฟังคอนเท้นท์ต่างๆที่ให้ความคล่องตัวไม่ต้องมีสายพะรุงพะรัง

  • 12mm Dynamic Driver for Immersive Sound
  • 7 Hrs Single Playtime & 40 Hrs Full Playtime
  • Clear Call with Dual Mics  (FF+FB Mic) 
  • BT5.3 Faster One-Step Pairing
  • Game Mode & App Control

Bluetooth: Bluetooth5.3

Profiles: HFP/A2DP/AVRCP

Chipset: JL6973D8

Supported Bluetooth Codec: SBC, AAC

Battery Capacity: 400mAh(Case)

Battery Capacity: :38mAh*2(Earbuds)

Earbuds Charging Time: 1.5 hours

Charging Case Charging Time: 2 hours

Charging Port: Type-C

Total Playtime: 40 hours

การพูดคุยโทรศัพท์ทำได้ดี ได้ยินเสียงชัด เราพูดกลับไปปลายทางก็สื่อสารกับเรารู้เรื่อง สามารถคุยได้นาน สามารถแยกใช้แค่ตัวเดียวก็ยังคุยได้ ทำให้เราสามารถยืดเวลาการใช้งานได้ยาวนานขึ้นด้วยการใช้ทีละตัว ส่วนตัวชาร์จมีพอร์ต usb-c เอาไว้ชาร์จไฟ

หูฟังตัวนี้ให้จุกยางมาหลายคู่ เราต้องเลือกขนาดจุกยางให้เหมาะสมกับขนาดรูหูของเรา ถ้าใส่จุกยางเล็กเกินไปเสียงจะบางและน้ำเสียงแย่มาก ถ้าใส่จุกยางขนาดใหญ่เกินไปเสียงจะมีเบสเยอะและทำให้เจ็บหูเมื่อใส่นานๆ รวมถึงน้ำเสียงเน้นเบสมากไปทำให้ฟังแล้วอีดอัด เราควรเลือกขนาดจุกยางให้เสียงถูกใจเราและใส่สบายเป็นหลัก

น้ำเสียงการฟังเพลงทำได้ดีมาก เสียงกลาง เสียงสูงทำได้เหมือนหูฟังราคาแพง ส่วนเสียงต่ำเมื่อใช้จุกที่พอดีกับหูเราแล้วจะให้เสียงเบสที่ใหญ่แต่ไม่ล้น การฟังเพลงด้วยหูฟังตัวนี้ไม่มีระบบการเพิ่มเสียงสิ่งแวดล้อม มันกลับเป็นการกันเสียงอื่นไม่ให้เข้าสู่หูเรามากกว่า การพูดคุยกับคนอื่นรอบข้างขณะใส่หูฟังตัวนี้อาจจะไม่รู้เรื่อง เพราะหูฟังลดเสียงภายนอกลงจนฟังยาก เกือบทุกครั้งที่ผมต้องถอดหูฟังมาถือไว้ในมือเพื่อคุยกับคู่สนทนาที่กำลังคุยกัน

ลำโพงสวย เสียงดี Ikea Eneby20

IMG_2954

ลำโพงบลูทูธได้รับความนิยมมาก ทั้งแบบตั้งโต๊ะ ตั้งพื้นและในแบบหูฟังไร้สาย คุณภาพลำโพงในช่วงสิบปีหลังมานี้ดีขึ้นเรื่อยๆ ดีขึ้นจนน่าทึ่งที่ลำโพงดอกเล็กนิดเดียวแต่ให้พลังเสียงที่ยอดเยี่ยมเหมือนลำโพงตัวใหญ่ ในครั้งนี้ก็จะทดสอบใช้งานลำโพงพกพาอีกตัวหนึ่งที่มีขายใน ikea ห้างขายของแต่งบ้านที่มีสาขาในไทย

ลักษณะทั่วไป

eneby20 เป็นลำโพงพกพาที่วางขายใน ikea อยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะหมดและไม่มีขายอีก หน้าตาเป็นทรงสี่เหลี่ยมเหมือนกล่องแบนๆ หน้ากว้าง 20x20cm ลึกประมาณ 8 cm มีหูหิวเป็นเหล็กยึดติดตายตัว ไม่สามารถพับได้ มีหน้ากากลำโพงที่ถอดออกได้ เมื่อถอดหน้ากากแล้วจะพบว่าลำโพงจะมี 2 ตัวขับ คือวูฟเฟอร์ขนาดประมาณ 3.2 นิ้ว และทวีตเตอร์ขนาดประมาณ 1 นิ้ว แหล่งพลังงานของลำโพงตัวนี้จะใช้ได้ทั้งแบบเสียบปลั๊ก รองรับไฟ 100-220v และแบบใช้แบตเตอรี่ ซึ่งจะต้องซื้อเพิ่ม

IMG_2943

ลำโพงมีปุ่มเดียว เป็นปุ่มหมุนได้และกดลงไปได้ เสียบปลั๊กแล้วกดปุ่มลงไปหนึ่งครั้งเป็นการเปิดเครื่อง กดอีกครั้งสั้นๆจะเป็นการปิดเครื่อง เมื่อเปิดเครื่องแล้ว ลำโพงจะเข้าสู่โหมดการจับคู่กับมือถือหรือคอมพิวเตอร์ เมื่อจับคู่ได้แล้วก็ลองเปิดเพลงกันเลย ปุ่มหมุนจะใช้ปรับระดับเสียงดังเบา และถ้ากดปุ่มค้างไว้ประมาณ 3 วินาทีจะเข้าสู่การปรับโทนเสียงทุ้ม กดอีกครั้งสั้นๆจะเข้าสู่การปรับเสียงแหลม และเมื่อปรับเสร็จก็ให้กดปุ่มอีกครั้งเพื่อกลับสู่การใช้งาน ตอนเปิดเครื่องแล้ว หากจะกดให้ยกเลิกการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เก่าให้กดปุ่มค้างไว้ 10 วินาที

คุณสมบัติทางไฟฟ้า
มาตรฐานบลูทูธ 4.2
ถ้าใช้ไฟ 100v จะกินไฟ 640ma
ถ้าใช้ไฟ 220v จะกินไฟ 300ma
เพาเวอร์แอมป์ขับลำโพงวูฟเฟอร์มีกำลังขับ 15 วัตต์
เพาเวอร์แอมป์ขับลำโพงทวิตเตอร์มีกำลังขับ 5 วัตต์
ลำโพงสามารถรับสัญญาณเสียงทางช่อง Aux ได้ ความไวขาเข้า 1.65V
ตอบสนองความถี่ 57-20,000Hz

คุณภาพเสียง

สิ่งที่ได้ยินจากลำโพงตัวนี้ก็คือเสียงกลางแหลมที่ชัด เสียงทุ้มย่านต่ำพอมีให้ได้ยิน ด้านหลังของลำโพงจะเป็นช่องอากาศ ลำโพงถูกออกแบบเป็นลำโพงตู้เปิด รูระบายเสียงเบสที่ด้านหลังจะสะท้อนกับผนังห้องแล้วกลับมาเสริมกับเสียงด้านหน้าเพื่อให้มีเสียงทุ้มที่มากขึ้น เราสามารถเลือกวางลำโพงให้ห่างผนังได้ตามใจ วางชิดเบสจะเยอะ วางห่างผนังเบสจะน้อย เป็นไปตามลักษณะของคลื่นเสียงที่สามารถเสริมกันให้ปริมาณเยอะขึ้นได้

เมื่อวางในระยะที่พอดี เราจะได้เสียงเพลงผ่านลำโพงที่มีย่านเสียงทุ้มกลางแหลมที่พอดี น้ำเสียงมีเบสให้ได้ยินพอสมควร ไม่มีเสียงที่บวมเบลอ เสียงกลางฟังได้ชัดเจน ชัดเหมือนเป็นลำโพงบ้านเลย ส่วนเสียงแหลมก็มีลักษณะที่ใส ไม่กัดหู ฟังดนตรีอคูสติกให้เสียงกลางที่สดน่าฟัง เสียงสะบัดคอร์ดกีต้าร์ให้น้ำเสียงน่าฟัง เพลงกีต้าร์เพราะๆฟังผ่านลำโพงตัวนี้ได้สบายมาก

น้ำหนักเบสไม่มาก เสียงสายกีต้าร์ที่เป็นโน้ตต่ำๆจะไม่ใหญ่โตมาก หากเทียบกับลำโพงตัวโปรดอย่าง fender newport เจ้าตัว eneby จะให้เสียงต่ำที่บางกว่า แม้จะลองปรับทุ้มแหลมช่วยแล้วก็ยังบางกว่า แต่ก็ต้องเข้าใจว่าราคาของ eneby แค่สองพันบาท ไม่มีทางจะไปชนะลำโพงระดับหลักห้าพันหรือหมื่นได้อยู่แล้ว การจัดวางชิดผนังจะทำให้เสียงเบสเยอะขึ้นเป็นเท่าตัว จุดที่ดีที่สุดอาจจะเป็นการวางลำโพงชิดผนังไปเลย

น้ำเสียงออกไปในทางนุ่มฟังสบาย เสียงดีกว่าลำโพงแถมทุกตัวที่เคยได้แถมมา ใช้งานฟังในห้องเล็กๆทำงานได้เป็นอย่างดี ใช้ฟังคนเดียวกำลังดี ระยะที่ให้น้ำเสียงถูกใจคือการฟังห่างประมาณ 2 เมตร เสียงร้องชัดมากจนน่าขนลุก ยิ่งได้ฟังกับเพลงที่บันทึกมาโชว์เสียงร้องเน้นๆยิ่งทำได้ดี โดยรวมแล้วเสียงดีกว่าลำโพงคอมฯทั่วไปเยอะ

ถ้าเปิดอยู่แต่ไม่เสียงส่งไปให้ลำโพงประมาณ 20 นาที ลำโพงจะตัดการทำงานและปิดตัวเองลง ต้องเปิดใหม่เองด้วยการกดปุ่มที่ลำโพง

สรุป

ลำโพง eneby เป็นลำโพงบลูทูธที่พกพาได้ มีหูหิ้ว ใช้พลังงานจากไฟบ้านได้ แต่ถ้าจะใช้แบตเตอรี่ก็ต้องสั่งซื้อแบตเพิ่มมาใส่เอง คุณภาพเสียงเพลงที่ถ่ายทอดออกมาจัดว่าเป็นลำโพงเสียงดี น้ำเสียงเหมือนลำโพงบ้าน ฟังเอาคุณภาพเสียงได้เลย ข้อเสียที่พบคือ เสียงย่านต่ำลึกได้ยินน้อยไปหน่อย แต่ก็เข้าใจได้ว่ามันเป็นของราคาไม่แพง และดอกลำโพงก็ไม่ใหญ่ ฟังเพลงร้องได้ดีมาก ฟังเพลงป๊อปทั่วไปก็ดี ฟังเพลงออดิโอไฟล์กลับยิ่งดี ฟังเสียงพูด รายการทอล์คได้ดี การวางชิดผนังช่วยเพิ่มปริมาณเสียงในย่านต่ำได้เยอะมาก มันอาจเป็นลำโพงวางหิ้งที่ดีมากกว่าจะเป็นลำโพงพกพา

ภาพจากเว็บ ikea

รีวิว Fender Newport2 ลำโพงสวยเสียงดี

ลำโพงบลูทูธที่พกพายกไปไหนมาด้วยกันได้เป็นลำโพงที่ได้รับความนิยมมาก แต่ส่วนมาก็จะมาในขนาดที่เล็กกระทัดรัด และก็จะมีผลติตตามมาด้วยคุณภาพเสียงที่ดีไม่สุด นั่นคือมักจะมีแต่เสียงกลางแหลมโดยที่เบสในย่านลึกและต่ำไม่ค่อยมาก

fender newport2 image

Fender Newport รุ่นที่ 2 นี้ เป็นลำโพงพกพาที่ตัวใหญ่ ยกด้วยมือเดียวเกือบจะไม่ได้แล้ว ก่อนหน้านี้ก็มีรุ่นที่ 1 ออกมาขาย และก็ขายดี สะสมชื่อเสียงได้ดีมาก ทำให้มีรุ่น 2 ออกมาในที่สุด หน้าตาเหมือนกันแทบทุกประการ แต่เพิ่มลูกเล่นการใช้งานเข้าไปอีกเล็กน้อย และเมื่อฟังผ่านๆก็ต้องบอกว่า น้ำเสียงเหมือนกันเลย

Newport2 เป็นลำโพงพกพามีสวิตซ์เปิดเปิดเป็นก้านโยก มีลูกบิดแบบหมุนให้ปรับระดับเสียง ปรับเสียงทุ้ม ปรับเสียงแหลม เป็นการออกแบบที่ดูย้อนยุคแต่ให้คุณภาพการใช้งานที่ดี และถูกใจนักเล่นเครื่องเสียงแน่นอน เพราะผมก็หลงใหลสวิตซ์และปุ่มหมุนแบบนี้มาตั้งแต่รุ่นที่แล้ว

dpp - fender newport2 2023 -IMG_3905

ขนาดของ Newport 2 ใช้พื้นที่วางใหญ่กว่าโทรศัพท์มือถือเล้กน้อย น่าเสียดายที่ไม่มีช่องวางหรือหนีบมือถือบนตัวมันด้วย แต่ก็เข้าใจได้ว่าอาจจะทำให้ความสวยงามของลำโพงลดลง ตัวถังลำโพงทำสีตัดกับตะแกรงโลหะ รุ่น 2 นี้มี ให้เลือก 4 แบบ ก็เลือกได้ตามใจ ผมรู้สึกว่ารุ่น 2 ทำสีสวยขึ้น ดูสนุก ดูเป็นของแต่งบ้านแนวทางสดใส แต่ก็แล้วแต่ความชอบ เพราะรุ่น 1 ที่เคยได้มารีวิวก็เป็นสีโทนดำที่ดูขรึมกว่า

IMG_3675

ตะแกรงด้านหน้าเข้าใจว่าเป็นพลาสติก แต่ทำสีให้ดูมันวาวเป็นสีทองอ่อนๆ ต้องได้มุมสะท้อนแสงที่พอดีจะเห็นความวาวสวยงามของสีที่เลือกทำมา ตัวหนังสือ Fender ดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มาก เป็นการออกแบบลำโพงที่สวยที่สุดตัวหนึ่งที่เคยเห็น มันทำให้ลำโพงเป็นของแต่งบ้านได้ไปในตัวเลย ยกไปวางตรงไหนก็ดูน่ารักน่ามอง

สั่งซื้อได้ที่นี่ https://s.shopee.co.th/g45usXzIP

สเป็คจากโรงงาน

  • Bluetooth 5.0 Enabled: 33-foot range
  • Superior Sound: 30W tri-driver system – two woofers, one tweeter
  • Rechargeable: Up to 12 hours of playback time
  • Portable: USB port to charge external devices
  • Compact: 3.2lbs / 7.4”L x 2.8”W x 5.2”H
  • Includes: Bluetooth Speaker, AC Power Adapter, 3.5mm Auxiliary Cable, Micro USB Cable
IMG_4308

กำลังขับของลำโพงระบุไว้ 30 วัตต์ ประกอบด้วยทวิตเตอร์ 1 ดอก และ วูฟเฟอร์ 2 ดอก โดยวูฟเฟอร์ทั้ง 2 ดอกก็เป็นขนาดเล็กๆที่ยัดไว้ในลำโพงตัวเล็ก เทคโนโลยีการผลิตดอกลำโพงในยุคนี้พัฒนาไปไกลกว่าเมื่อยี่สิบปีที่แล้วคนละเรื่องเลย ดอกลำโพงเล็กๆแต่สามารถสร้างเสียงเบสลงลึกได้อย่างมหัศจรรย์ ทำเอาคนอายุเยอะอย่างผมแปลกใจทุกครั้งที่ได้ฟังได้เห็น

IMG_4309

หม้อแปลงไฟ DC ที่มากับลำโพงเป็นหม้อแปลงเสียบกำแพง จ่ายไฟ 15V 2.8A ซึ่งคำนวณกำลังไฟออกมาก็จะได้ 42 วัตต์ ซึ่งก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่สามารถส่งพลังเสียงได้ 30 วัตต์ ช่องเสียบไฟ DC เป็นชนิดกลม ด้านหลังของตัวเครื่องนอกจากช่องไฟ DC แล้วก็มีช่องเสียบ Aux ขนาด 3.5มม. สำหรับรับเสียงเข้าลำโพงเมื่ออยากจะต่อสัญญาณเพลงด้วยสาย และมีช่อง usb ที่จ่ายไฟออกมาได้ 1A สามารถใช้ลำโพงตัวนี้เป็นเพาเวอร์แบงค์ได้ เราสามารถชาร์จไฟให้โทรศัพท์ได้ แบตเตอรี่ที่มีในตัวจะทำให้เครื่องใช้งานได้ประมาณ 12 ชม.

IMG_4312

คุณภาพเสียง

เมื่อเปิดเครื่องจะได้ยินเสียงคอร์ดกีต้าร์ 1 คอร์ด เป็นเสียงตีคอร์ดที่เท่ห์มาก ให้ความรู้สึกถึงความตั้งใจจะทำมาเพื่อคนฟังเพลง และตอนเชื่อมต่อบลูทูธเข้ากับโทรศัพท์เรียบร้อยจะมีเสียงคอร์ทอีกแบบหนึ่งให้ได้ยินเหมือนเป็นการยืนยันว่าลำโพงเชื่อมต่อกับเครื่องเล่นแล้ว และเมื่อเปิดเพลงจากมือถือ ส่วนมากก็จะเป็นเพลงจาก youtubeหรือ ไม่ก็ app เล่นเพลงระบบ streaming ทั้งหลาย น้ำเสียงก็น่าฟังมาก

IMG_3700

เสียงร้องชัดเจนเป็นจุดเด่นแรกที่รับรู้ เสียงกลางชัด จะนักร้องชายหรือหญิง จะได้ยินเสียงร้องที่ชัดและไม่โดนเสียงย่านเบสมากลบ จุดเด่นลำดับถัดมาคือเสียงเบสที่มีปริมาณเยอะและยังคงชัด ไม่เบลอหรือรบกวนเสียงกลางเลย ส่วนเสียงแหลมหรือย่านสูงก็มีประกายเล็กๆน่าจะเป็นผลจากการมีทวิตเตอร์แยกเฉพาะทำให้เสียงปลายแหลมต่างๆยังคงมีและชัดเจน จะบอกว่ามันชัดทุกเสียงเลยก็ไม่ผิด เพลงป๊อปทั่วไปก็ฟังได้เพลินๆ หากฟังเพลงออดิโอไฟล์ที่เน้นย่านเสียงกว้างๆ เบสลึก ทุ้มเด่นๆแน่นๆ มันก็ทำได้ดี เสียงฟาดกลองโชว์ความฉับไวก็ถ่ายทอดออกมาให้ได้ยินและรู้สึกรุนแรงตามแรงฟาด เป็นลำโพงตัวเล็กที่ฟังเพลินมาก

ลำโพงพกพายกไปยกมา วางได้ทุกที่แบบนี้ บางคนจะบอกว่ามันเป็นระบบโมโน ถ้าโมโนคือมีลำโพงตู้เดียวก็ไม่ผิด Newport2 รวมถึงรุ่นที่แล้ว จะรวมเสียงสเตอริโอซ้ายและขวาแล้วส่งออกไปที่ดอกลำโพงของตัวมันทั้งหมด ถ้าเราเปิดเพลงทดสอบที่เป้นสัญญาณซ้ายและขวา เราจะได้ยินเสียงซ้ายและขวาตามเพลงทดสอบ แม้จะฟังตัวเดียวก็ให้เสียงครบซ้ายและขวา แต่ลูกเล่นของ Newport2 ก็คือ มันสามารถทำงานร่วมกัน 2 ตัว เพื่อแบ่งหน้าที่ให้ตัวนึงเป็นซ้ายและอีกตัวเป็นขวา เอาไปวางคู่เป็นลำโพงสเตอริโอปกติได้ด้วย

ลำโพงที่ดีควรจะให้เสียงได้ครบทุกย่านความถี่ แม้ว่าจะเป็นลำโพงขนาดเล็ก แต่ก็พยายามจะส่งเสียงให้ได้ทุกย่าน เป็นเรื่องน่าชื่นชมมากที่พยายามทำและทำได้ค่อนข้างดี เสียงเบสที่ออกจาก Newport2 เป็นจุดเด่นที่ชัดเจนที่สุด แต่การวางลำโพงในพื้นที่ต่างๆก็สำคัญ การเลือกวางให้ใกล้กำแพงจะทำให้ได้เสียงเบสที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น การปรับเสียงเบสก็ช่วยให้การจัดวางทำได้ง่ายขึ้น หากสถานที่ไม่มีกำแพงมาช่วยสะท้อนเสียงเบส

ลำโพงตัวนี้ตั้งแต่รุ่น1 เคยราคาเกือบหมื่นบาท และก็มีโปรโมชั่นลดราคาอยู่เรื่อยๆ ใครอยากได้ก็ลองดูโปรฯ ดูจังหวะลดราคา รุ่นที่แล้วราคาลงมาอยู่ที่ระดับประมาณ 4500-4900 บาทแล้วก็หายไป รอเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ สำหรับรุ่น 2 นี้ ก็คิดว่าน่าจะเดินไปในแนวทางเดียวกัน.

ถ้าสนใจอยากซื้อ แวะไปที่นี่

https://s.shopee.co.th/g45usXzIP

ลองกลับไปอ่านรีวิว newport รุ่น 1

รีวิวหูฟังไร้สาย Apple Airpod Gen1 Gen2

IMG_5404

หูฟังชนิดไร้สายที่ส่งสัญญาณผ่านระบบบลูทูธได้รับความนิยมอย่างมาก ใครที่ต้องการหูฟังสำหรับฟังเพลง หรือ สำหรับการพูดคุยโทรศัพท์และการประชุมจะพยายามหาหูฟังไร้สายเป็นลำดับแรก หูฟังไร้สายระบบบลูทูธที่มาพร้อมกล่องเก็บป้องกันหายและยังเป็นกล่องที่ชาร์จไฟได้ในตัวกลายเป็นแพ็คเกจมาตรฐานของหูฟังบลูทูธในยุคนี้ไปเสียแล้ว และผู้ที่นำเสนอหูฟังไร้สายพร้อมกล่องชาร์จไฟได้ในตัวเป็นเจ้าแรกก็คือ Apple นั่นเอง โดยหูฟังไร้สายรุ่นแรกของค่ายนี้ที่มาพร้อมกล่องชาร์จก็คือ Apple Airpod ซึ่งภายหลังเราจะเรียกเพิ่มเติมว่า Airpod Gen1 เพราะว่าในอีกหลายปีต่อมาก็มี Gen2 ออกมา และมี Airpod pro ตามออกมาด้วย

20220116171445_IMG_0795

Apple Airpod Gen1 เป็นหูฟังที่นำหูฟัง Earpod ดั้งเดิมที่เป็นรุ่นมีสายมาตัดสายออก แล้วยัดแบตเตอรี่ไว้ในหูฟัง พร้อมทั้งออกแบบกล่องเก็บหูฟังให้มีแบตเตอรี่ในกล่อง ทำให้ตอนเก็บหูฟัง ตัวกล่องสามารถส่งพลังงานไฟฟ้าเข้าไปชาร์จหูฟังได้ และตัวกล่องก็มีช่องเสียบสาย lightning แบบเดียวกับ iphone เอาไว้ชาร์จไฟเข้ากล่อง

IMG_5402

คุณภาพเสียงของหูฟัง Earpod เป็นหูฟังเสียงดี ให้ความเป็นกลาง มีเบสชัดเจน มีปลายแหลมพอใช้ สามารถใช้ฟังดนตรี ฟังเสียงทั่วไปได้เป็นอย่างดี และคุณสมบัติทางเสียงเหล่านี้ก็ได้รับการถ่ายทอดไปสู่หูฟังไร้สายอย่าง Airpod ด้วยเช่นกัน เราคาดหวังว่า Earpod จะให้เสียงเป็นอย่างไร หูไร้สายก็เสียงเหมือนแบบมีสายแทบไม่ต่างกันเลย มันจึงเป็นหูฟังไร้สายที่จัดว่าเสียงดีมาก นักฟังเพลงที่ชอบดนตรีชัดๆ น่าจะชอบหูฟังอย่าง Airpod ได้ไม่ยาก เจ้าของ iphone ทุกคนก็จะคุ้นเคยกับเสียงเดิมนี้เช่นกัน

20220116171144_IMG_0790

ด้วยความที่ได้รับความนิยมล้นหลาม และขายดีทั่วโลก ก็มีผลทำให้มีอุปกรณ์เสริมอย่างเคสสำหรับใส่กล่องชาร์จออกมาขายจำนวนมาก และผมก็เลือกซื้อเคสหน้าตาเหมือนแอมป์กีต้าร์มาใช้ มันก็ดูน่ารักดี ผมซื้อ Airpod Gen1 มาก่อนหลายเดือนให้ภรรยาใช้ และซื้อ Airpod Gen2 มาเพิ่มเติม ทั้งสองรุ่นหน้าตาเหมือนกัน ถ้าวางปนกันจะแยกไม่ออกเลย และกล่องชาร์จของทั้งคู่ก็ยังมีรูปร่างและขนาดเหมือนกันอีก ถ้าไม่ใส่เคสที่แตกต่างกันจะดูไม่ออกเลย สิ่งที่แตกต่างระหว่าง Airpod Gen1 กับ Gen2 ก็คือ กล่องชาร์จของรุ่น Gen2 จะเป็นกล่องที่ชาร์จระบบไร้สายได้ นั่นคือเราสามารถวางกล่องชาร์จของ Gen2 บนที่ชาร์จไร้สายได้เพื่อชาร์จไฟเข้ากล่อง เป็นความสะดวกที่มาตามยุคสมัย

IMG_4829

ผลการทดลองฟัง

น้ำเสียงของ Airpod ให้ความสมดุลย์ของเสียงทุกย่านพอกัน เป็นแนวทางของเสียงที่เราเรียกว่าเสียงมอนิเตอร์ เราสามารถใช้หูฟังตัวนี้ในการฟังเปรียบเทียบ หรือ ฟังตรวจสอบงานบันทึกเสียงได้ดี มันให้เสียงกลางที่ชัด ให้น้ำหนักแรงประทะของเสียงกลองได้กระชับ ให้เบสได้ลงลึกและไม่มากเกินไป เสียงย่านต่ำไม่บวม เป็นสัดส่วนทุ้มกลางแหลมที่ลงตัวมาก หูฟังไร้สายยี่ห้ออื่นมักจะมีเสียงไม่โปร่ง ไม่ใส ไม่ชัด ขาดบ้าง เกินบ้าง บางยี่ห้อก็เบสเยอะมาก บางยี่ห้อก็ใส่ไม่สบาย Airpod ของ Apple นี่แหละที่ใส่ได้สบายที่สุด ใส่หลายๆชั่วโมงก็ยังไม่รู้สึกรำคาญหรืออึดอัด

ผมทดลองใช้งานกับโทรศัพท์ android ของ Xiaomi ซึ่งก็เชื่อมต่อได้ดี แต่มีปัญหาหนึ่งที่พบก็คือ Airpod Gen1 ต่อกับ Android แล้วเสียงฟังเพลง รวมถึงดู Youtube ต่างก็ให้เสียงที่เบามาก แต่เสียงพูดคุยตอนโทรศัพท์ยังดังปกติ ส่วน Airpod Gen2 ให้เสียงที่ดังปกติทั้งการฟังเพลงและคุยโทรศัพท์ ไม่พบอาการเสียงเบาแบบ Gen1 ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกอยู่ ดังนั้น ใครใช้ Android เมื่อจะหาหูฟัง Airpod มาใช้ ต้องระวังอย่าไปเลือกใช้ Gen1 เพื่อจะได้ไม่ต้องพบปัญหาเสียงเพลงเบา ความเบานี้เป็นระดับ่ที่เบาจนฟังแทบไม่รู้เรื่องถ้าไม่อยู่ในที่เงียบจริงๆ ถ้าเราเดินอยู่ในที่สาธารณะ หรือ ขับรถ นั่งรถอยู่ เราจะฟังเสียงเบาๆนี้ไม่รู้เรื่องเลย คือเบาจนใช้งานไม่ได้นั่นเอง

แต่กับการใช้ Airpod ทั้ง Gen1 และ Gen2 กับโทรศัพท์ iphone กลับไม่มีปัญหาใดๆเลย ทั้งคู่ให้เสียงที่เหมือนกันมากจนแยกแยะไม่ออกว่าตัวไหนเป็น Gen1 หรือ Gen2 ผมพยายามหาข้อมูลในเน็ตแล้วว่าจะทำยังไวให้ตั้งค่า Gen1 กับมือถือ Android ให้มีระดับเสียงที่ดังปกติ แต่ก็ไม่พบวิธีทำที่ได้ผล

สรุป Apple Airpod ทั้ง Gen1 และ Gen2 ให้คุณภาพเสียงที่ดีมาก ให้น้ำหนักเสียงทุ้มกลางแหลมที่พอดีทุกย่าน สามารถใส่เพื่อฟังเป็นเวลานานก็ได้ การชาร์จไฟเต็มกล่องชาร์จแล้วหมั่นใช้หมั่นวางหูฟังเก็บเข้ากล่องก็จะทำให้หูฟังสามารถใช้งานได้หลายชั่วโมง บางครั้งหากธุระการพูดคุยไม่มาก เราก็พกหูฟังพร้อมกล่องโดยไม่ต้องเสียบชาร์จตัวกล่องได้หลายวัน แต่ถ้าเล่นโทรศัพท์เยอะ ใช้งานทั้งวันก็ทำให้เราต้องชาร์จไฟเข้ากล่องประมาณวันเว้นเว้น และหากใครจะซื้อเพื่อใช้งานกับโทรศัพท์ระบบ Android ควรได้ทดลองก่อนซื้อ เพื่อป้องกันกรณีเสียงเบาเร่งไม่ขึ้นด้วย

สั่งซื้อได้ที่นี่ https://shope.ee/AUY1dBdQqg

รีวิวลำโพงสวย Syitren N-100

ลำโพงบลูทูธกลายเป็นของจำเป็นสำหรับคนชอบฟังเพลงผ่านโทรศัพท์มือถือไปเสียแล้ว และยิ่งถ้าเราชอบฟ้งรายการ podcast หรือ รายการทอล์คใน youtube ก็จะยิ่งทำให้อยากได้ลำโพงที่ใช้เปิดฟังรายการต่างๆโดยเฉพาะ เพราะการใช้หูฟังสำหรับฟังรายการ podcast เป็นเรื่องที่น่ารำคาญมากหากเราต้องฟังเป็นเวลานาน และหลายๆโอกาส แม้จะฟังรายการอยู่ก็ยังคงอยากได้ยินเสียงเรียกจากผู้อื่นด้วย การมีลำโพงแยกเฉพาะที่ไม่ได้มาอุดไว้ที่หูจึงเป็นแนวทางที่ดูเหมาะสมกว่า ผมมีหูฟังบลูทูธที่เสียงดีใช้ฟังเพลงได้ดีมาก แต่พอจะฟังรายการทอล์ค หรือ podcast ที่ยาวนานเกิน 30 นาที ก็เริ่มรู้สึกว่าอึดอัด แม้จะเปิดเสียงไม่ดังมาก แต่ระยะเวลาที่ยาวนานหลายสิบนาทีทำให้รู้สึกปวดหู จึงพยายามหาลำโพงบลูทูธอีกตัวหนึ่งมาใช้งานแทน

ลำโพงบลูทูธส่วนมากจะออกแบบมาให้เป็นปุ่มกดเพื่อเปิดและกดเพื่อปิดเท่านั้น ยิ่งลำโพงในระดับราคาไม่แพง การเปิดปิดจะทำผ่านปุ่มกดเพียงปุ่มเดียว และหากเราจะเพิ่มหรือลดระดับเสียง เราอาจจะต้องไปปรับที่โทรศัพท์มือถือแทน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเบื่อและอันตรายมากหากเรากำลังขับรถอยู่ ลองคิดดูว่าเราเลือกรายการ podcast ความยาวประมาณ 45 นาที เราเปิดแล้วเราก็ฟังในรถ ระหว่างทางเราอาจจะมีจังหวะที่อยากเบาเสียง หรือ อยากหยุดรายการชั่วคราว ถ้าเราใช้ลำโพงบลูทูธทั่วไปที่ออกแบบมาแบบปุ่มกดน้อยๆ เราก็จะต้องแตะที่หน้าจอมือถือ แล้วเล็งหาส่วนที่จะหยุดการเล่น มันต้องใช้สายตาในการสั่งงานด้วย ระหว่างที่ขับรถอยู่ก็จะทำให้เกิดความลำบาก และมาพร้อมอันตรายที่ต้องละสายตาไปกดหน้าจอโทรศัพท์

พอมาเจอลำโพงตัวนี้ด้วยหน้าตาที่สวยงามและดูแปลก เลยทดลองสั่งซื้อมาใช้และก็ได้พบกับความสะดวกที่ค้นหามานาน Syitrend n-100 เป็นลำโพงรูปทรงเหมือนปุ่มกดคีย์บอร์ด แต่ขยายใหญ่ให้ใกล้เคียงฝ่ามือของผู้ใหญ่ บนตัวลำโพงมีปุ่มกด 2 ปุ่ม และมีปุ่มหมุนวอลลุ่มเพื่อปรับระดับเสียงอีก 1 ปุ่ม การเปิดปิดจะทำผ่านปุ่มวอลลุ่มที่บิดสุดทางซ้ายจะเป็นการปิด การเปิดเครื่องก็ต้องบิดวอลลุ่มเพื่อเปิดเล็กน้อย เราจะได้ยินเสียงกลไกดังคลิก แล้วลำโพงก็ฺจะทำงาน วอลลุ่มวงกลมนี้จะใช้เป็นตัวปรับระดับเสียง อยากได้ดังก็หมุนตามเข็มนาฬิกาไปเลย การเลือกระดับเสียงด้วยฮาร์ดแวร์แบบนี้ถูกใจมาก เพราะสามารถเพิ่มลดระดับเสียงได้ตรงกับความต้องการ

dpp-IMG_6143

ปุ่มเล็กๆด้านซ้ายเป็นปุ่ม pair เราต้องกดเพื่อเริ่มจับคู่กับโทรศัพท์ ปุ่มสีขาววงกลมถัดมาจะเป็นปุ่มเล่นและหยุดเล่นชั่วคราว ปุ่ม Play นี้เป็นกลไกที่ต้องกดลงไปด้วยน้ำหนักพอสมควร เราต้องกดให้ดังคลิกปุ่มถึงจะทำงาน เป็นระบบการกดทางกลที่แม่นยำ ให้น้ำหนักการกดที่ชัดเจน กดแต่ละครั้งจะดังคลิกให้เราได้ยิน ทำให้รู้สึกว่าลำโพงตัวนี้ตั้งใจออกแบบมาอย่างมาก ลำโพงออกแบบให้ยิงเสียงขึ้นด้านบน ตัวถังลำโพงมีการเคลือบแผ่นยางเอาไว้ทำให้มีความหนืดไม่ลื่น และจุดสัมผัสพื้นก็มีปุ่มนูนเล็กๆยื่นออกมา ทำให้การวางลำโพงไว้บนโต๊ะแข็งๆลำโพงจะไม่ลื่นบนโต๊ะ เราสามารถเอาโทรศัพท์มือถือไปวางพิงลำโพงตัวนี้ได้โดยลำโพงจะไม่คลื่อนที่เลย

สเป็ค

Playback duration >4 hours (volume 70%)

Speaker power 5Wx2

Signal to noise ratio (a weighted55dB

Distortion <1%

Net weightabout 400g

Product size 105mm*105mm*50mm

Battery Specification 2000mAH

Bluetooth version 5.0

Charging time 3 hours

dpp-IMG_6145

ด้านหลังของลำโพงเป็นช่องเสียบสายต่างๆ ประกอบไปด้วยช่องเสียบสายสัญญาณแบบ Aux 3.5มม. สำหรับเสียงสัญญาณเสียงจากเครื่องเล่นเพลง และมีช่องเสียบสาย usb-c ที่เอาไว้ชาร์จไฟให้ลำโพง เราสามารถใช้สาย usb-c ที่เราเอาไว้ชาร์จโทรศัพท์มาชาร์จลำโพงตัวนี้ได้ แบตเตอรี่ภายในที่ให้มาก็ไม่ได้ใหญ่มาก ใช้งานได้ประมาณ 3-4 ชั่วโมงก็คิดว่าต้องชาร์จไฟแล้ว ปุ่ม Play ทำหน้าที่สั่งให้เล่นเพลง หรือ หยุดเพลงชั่วคราว ไม่ว่าเราฟังรายการทอล์คหรือเพลงเพียงแค่เรากดปุ่มนี้ปุ่มเดียวลำโพงก็จะทำหน้าที่เล่นและหยุดชั่วคราวเสมอ นับว่าเป็นความสะดวกอย่างมากสำหรับคนชอบฟังรายการทอล์ค ส่วนเรื่องการคุยโทรศัพท์ไม่สามารถทำได้ เข้าใจว่าไม่มีไมค์ติดมาด้วย

dpp-IMG_6148

คุณภาพเสียง

น้ำเสียงของลำโพงตัวนี้ออกมาในแนวทาง ชัด ใส และเน้นเสียงพูดให้ฟังชัดเจนมากๆ เสียงเบสพอมีแต่ลงไม่ลึกแบบลำโพงตู้ใหญ่ๆ ฟังเพลงแจ๊สอย่างนอร่าโจนส์ ก็ได้ยินเสียงเบสบางๆไม่ได้ลงลึกแบบเบสลำโพงใหญ่ที่ให้เสียงลึกและอิ่มใหญ่โต ลองมองลอดผ่านตะแกรงด้านหน้าเข้าไปด้านในจะเห็นดอกลำโพงขนาดเล็ก 2 ดอกวางไว้คู่กัน ถ้าจะหาซื้อมาใช้เพื่อฟังรายการพูดก็นับว่าใช้งานได้ดีมาก ถ้าจะหาซื้อมาใช้เพื่อฟังเพลงก็พอไหว แต่จะไม่มีเบสเท่าที่ควร เพราะน้ำเสียงยังห่างไกลกับเครื่องเสียงบ้านอยู่มาก ที่ซื้อใช้ก็เพราะเหตุผลทางด้านหน้าตาและฟังค์ชั่่นการควบคุมเป็นหลัก

สรุป

Syitren n-100 เป็นลำโพงบลูทูธ คุณภาพดี มีลูกเล่นที่เหมาะสมกับการใช้งานเพื่อฟังรายการทอล์คหรือ podcast ปุ่มกดเล่นเพลง Play Pause เป็นปุ่มกดที่มีเอกลักษณ์ กดเพื่อหยุดเพลงและกดอีกทีเพื่อเล่นต่อ ขนาดตัวลำโพงใหญ่เท่าฝ่ามือผู้ใหญ่ มีน้ำหนักภายในที่หนักพอสมควร สามารถเอาโทรศัพท์มือถือไปวางพิงแล้วลำโพงไม่เคลื่อนที่ การควบคุมสั่งการสามารถทำได้โดยไม่ต้องมอง มีความแม่นยำสูง ปรับระดับเสียงดังหรือเบาได้ตรงกับใจมาก ถือว่าเป็นลำโพงหน้าตาแปลกสำหรับตลาดเมืองไทย แต่ก็หาซื้อได้ง่ายๆในเว็บ aliexpress ถ้าเน้นฟังเพลงผมจะเลือก jbl ทรงกระบอก หรือไม่ก็เพิ่มงบไปซื้อ fender ไปเลย แต่ขนาดตัวลำโพงก็จะใหญ่ขึ้น ความน่ารักลดน้อยลง

ลำโพงคู่นี้เหมาะกับใครบ้าง

คนที่ชอบฟังรายการทอล์ค หรือ podcast

คนอยากแต่งโต๊ะคอมสวยๆ

รีวิวหูฟังไร้สายเสียงดี ฟังค์ชั่นครบ Logitech g435

IMG_20220604_074425

การใช้งานคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์ในยุคสมัยนี้อยู่กับชีวิตเราแทบตลอดเวลา เป็นยุคที่เรามีโทรศัพท์มือถือกันแทบทุกคน มือถือจะฟังเพลงจากระบบสตรีมได้ ข้อมูลภาพและเสียงมาจากอินเทอเน็ต เราแทบจะไม่มีใครเก็บไฟล์เพลงไว้ในเครื่องอีกแล้ว และหูฟังนอกจากทำหน้าที่ฟังเพลง ก็ยังทำหน้าที่สำหรับการสื่อสารด้วย ใช้ฟัง ใช้พูดคุยผ่านระบบอินเทอเน็ต หูฟังจึงเป็นสิ่งจำเป็นมากยิ่งขึ้น


หูฟังแบบครอบหูเป็นหูฟังที่ดูอลังการ ใหญ่โตและดูจริงจัง เมื่อก่อนเราจะพบเห็นการใช้งานหูฟังแนวนี้ในสตูดิโอระดับมืออาชีพ แต่การใช้งานในปัจจุบัน ยุคสมัยของการสื่อสารหลังโควิด เราใช้หูฟังพร้อมไมค์โครโฟนกันมากขึ้น การเล่นเกมส์ผ่านคอมพิวเตอร์ก็นิยมใช้หูฟังมานานแล้ว ทุกวันนี้เราพบหูฟังขนาดใหญ่หรือ Full Size เป็นเรื่องปกติ

ScreenClip

Logitech g435 เป็นหูฟังครอบหูขนาด full size ออกแบบมาให้เป็นหูฟังระบบไร้สาย 2 ระบบ คือเป็นไร้สายแบบรับสัญญาณไร้สายคลื่นความถี่ 2.4gHz ผ่านตัวส่งสัญญาณ usb ที่มีมากับชุดหูฟังเลย และแบบที่สองคือรับสัญญาณผ่านบลูทูธ นั่นหมายความว่า เราใช้งานหูฟังตัวนี้กับโทรศัพท์ผ่านบลูทูธได้ ใช้กับคอมพิวเตอร์ที่มีพอร์ต usb ก็ได้ ซึ่งเป็นความยืนหยุ่นที่ดีมาก

การใช้งานกับคอมพิวเตอร์ผ่านพอร์ต usb จะมีตัวเสียบ usb เอาไว้รับส่งสัญญาณไร้สายโดยเฉพาะ จะทำให้คุณภาพเสียงดีที่สุดตามสเป็คของหูฟัง เพราะการสื่อสารผ่าน 2.4 gHz จะเป็นการสื่อสารที่เน้น sound quality หากต้นฉบับเสียงของเราเป็นสัญญาณระดับ cd quality เราก็จะได้ยินเสียงคุณภาพสูงเกือบเท่าต้นฉบับ Logitech ยังไม่ได้เปิดเผยว่า protocal ในตัวส่ง usb นั้นเป็นการสื่อสารชนิดใด แต่เดาว่าจะเป็นระบบที่ออกแบบให้ดีเลย์ต่ำและมีบิทเรทที่สูงเพียงพอสำหรับการเน้นเรื่องคุณภาพเสียง ส่วนการใช้งานผ่านระบบ Bluetooth จะเป็นการส่งสัญญาณแบบบีบอัด เพราะแบนด์วิดธ์การสื่อสารข้อมูลหรือ bite rate ของ bluetooth จะน้อยในระดับ 300-990bps แล้วแต่มาตรฐาน แม้เราจะเล่นเพลงจากไฟล์คุณภาพสูง แต่การที่ต้องแปลงข้อมูลให้บิทเรตน้อยลงเพื่อให้วิ่งผ่าน bluetooth ก็จะทำให้ข้อมูลเพลงถูกลดทอนและมีการสูญเสียไปในการแปลงข้อมูลกลับไปกลับมา

ScreenClip

หูฟัง g435 มีพอร์ต usb-c บนตัวมันเพื่อเอาไว้ชาร์จไฟ แบตเตอรี่ในตัวสามารถถอดเปลี่ยนได้โดยดูจากคู่มือ นับว่าเป็นการออกแบบหูฟังไร้สายที่ใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมมาก เพราะหลายๆค่ายที่ทำหูฟังไร้สาย มักจะไม่ค่อยบอกว่าเปลี่ยนแบตได้ไหม จริงๆต้องบอกว่าหลายยี่ห้อไม่ได้คิดจะให้ลูกค้าเปลี่ยนแบตเตอรี่ภายในเลยด้วยซ้ำ

Driver Type40mm 
Impedance45 Ohms
Frequency Response20 – 20,000 Hz
Microphone TypeDual-beamforming on-cup; 100Hz – 8,000 Hz frequency response
Connectivity OptionsLightspeed wireless (2.4 GHz USB Type-A dongle), Bluetooth
CablesUSB Type-C to Type-A charging cable (6 feet/ 1.8 m)
Weight0.36 pounds /165 g 
สเป็ค

ทดลองฟัง

ต่อตัวส่งสัญญาณเข้าทางพอร์ต usb บนคอมพิวเตอร์ ใช้ระบบไร้สายแบบ 2.4gHz ฟังเพลงป๊อปทั่วไปทำได้ดีมาก เสียงกลางชัด เสียงแหลมใสมีประกาย เสียงเบสมีเพียงพอ ติดไปทางอิ่มๆหนาๆเล็กน้อย แต่เสียงเบสไม่ได้บังเสียงกลางแหลมให้รู้สึกทึบห้วน เป็นเบสใหญ่ๆที่ทำให้ฟังเสียงกลอง เสียงเครื่องเคาะต่างๆมีพละกำลังมาก หากฟังเพลงร็อคที่เน้นจังหวะกลองสนุกๆก็ทำได้สนุกจริงๆ เสียงแหลมที่เป็นเครื่องเคาะโลหะไม่มีอาการเสียดหูหรือทิ่มแทง เสียงแนวอบอุ่นฟังสบายเป็นเสียงที่ทำให้เราใช้งานหูฟังได้นานโดยที่เราไม่ปวดหู แต่หูฟังแนวครอบหูมักจะมีข้อจำกัดเรื่องความรู้สึกเมื่อใส่นานๆแล้วจะร้อนใบหู เพราะตัวครอบหูมันคลุมใบหูไว้ทั้งใบ

หากเทียบกับหูฟังอย่าง AKG K701 ที่เป็นหูฟังเกรดมอนิเตอร์ นิยมใช้ในห้องบันทึกเสียงและนักเล่นเครื่องเสียงที่เน้นเสียงสดเป็นธรรมชาติ เสียงของAKG จะใสกว่า กลางแหลมจะชัดกว่า เบสจะคมและไม่ได้มีบรรยากาศห่อหุ้มใหญ่เท่า G435 ถ้าเทียบเฉพาะเสียงกลาง G435 จะสู้ไม่ได้ แต่ G435 ก็ทำได้ดีน่าทึ่งมากๆ ยิ่งเป็นระบบไร้สายยิ่งมีความน่าสนใจ เพราะทำให้เราใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

1687522970057

ใช้เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ผ่านระบบ Bluetooth ก็ทำได้ดีเช่นกัน รองรับ codec ชนิด AAC เสียงคู่สนทนาได้ยินชัดเจน เสียงไมโครโฟนที่เราพูดเข้าไปปลายทางได้ยินชัดเจน แม้ว่าหูฟังจะไม่ได้มีก้านไมค์ยื่นออกมารับเสียง แต่มันก็มีระบบการรับเสียงพูดที่ดีมากเรียกว่าระบบ beam forming ที่จะช่วยให้การรับคลื่นเสียงทำได้อย่างชัดเจนและมีคุณภาพสูง

เราสามารถใช้ไมโครโฟนของ g435 เพื่อทำ content ได้เลย เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ด้วย usb แล้วบันทึกเสียงด้วยไมค์ในตัวของหูฟังตัวนี้ ให้เสียงดีมาก มีความเป็นธรรมชาติมาก สามารถทำรายการแนวพูดคุย แนวเล่าเรื่องได้เลยไม่ต้องปรับแต่ง ยิ่งเมื่อเทียบกับราคาค่าตัวประมาณ 2000 บาท ก็ทำให้มันเป็นหูฟังที่ดีเลิศในระดับราคานี้และแทบไม่ต้องไปค้นหาหูฟังที่คุ้มค่ายิ่งกว่านี้เลย เพราะตลอดเวลาที่ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับหูฟังมา ก็มีตัวนี้นี่แหละที่ให้คุณภาพสูง ราคาต่ำ และฟังค์ชั่นเยอะมาก

ให้ลูกลองบันทึกการเล่มเกมส์แบบนักสตรีมเกมส์ ก็เก็บเสียงพูดได้ชัดถ้อยชัดคำ น้ำเสียงเป็นธรรมชาติ ส่วนใครชอบเสียงแนวใหญ่ หรือแนวแหลมเพื่อให้ฟังชัดเจนยิ่งขึ้นก็ไปปรับแต่งในซอร์ฟแวร์ได้ สิ่งสำคัญคือไมโครโฟนของหูฟังเก็บเสียงที่ดีให้เราได้จริงๆ ลองฟังเสียงพูดในคลิปนี้ดูครับ

อยู่บ้านก็ใช้ g435 กับคอมพิวเตอร์ ออกนอกบ้านเราก็เปลี่ยนไปใช้ g435 กับโทรศัพท์ ก็ทำงานได้กับอุปกรณ์ที่หลากหลาย การเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เป็นมาตรฐานของ usb หมายความว่า เครื่องคอมพิวเตอร์หรือเครื่องเล่นเกมส์ หรือเครื่องฟังเพลงเครื่องไหนที่รองรับการเชื่อมต่อ usb เราเอา g435 ไปเสียบใช้งานได้เลย ผมลองกับกล่องดูทีวีของ ais play เมื่อเสียบเข้าไปที่พอร์ต usb ด้านหลังกล่อง เราก็ได้ยินเสียงในหูฟังเลย ใครใช้กล่อง android เพื่อดูหนังฟังเพลง ก็เชื่อว่าใช้งานกับ g435 ได้ทันทีไม่ต้องลงไดรเวอร์ใดๆ

g435 ไม่ได้มีซอร์ฟแวร์ใดๆแถมมาด้วย นั่นก็หมายความว่ามันไม่มีลูกเล่นการสร้างเสียงรอบทิศทางในหูฟัง หรือไม่มีระบบ virtual 7.1 สำหรับหูฟัง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะวัตถุประสงค์ของหูฟังตัวนี้คือเน้นความเป็นหูฟังที่ใช้งานง่ายในระบบไร้สาย และมันทำได้ดีมาก

ข้อดี

1 ระบบไร้สายทางพอร์ต usb เป็นการเชื่อมต่อคุณภาพสูง ให้เสียงเต็มสเป็ค ทำให้ได้คุณภาพเสียงที่ดี

2 การเชื่อมต่อบลูทูธกับโทรศัพท์ แท็ปเบล็ต คอมพิวเตอร์ ก็ทำได้ดี ใช้พูดคุยได้ เสียงดังฟังชัด ไมโครโฟนรับเสียงพูดได้ชัดเจน คู่สนทนารู้เรื่อง

3 ระบบการชาร์ตไฟด้วยพอร์ต usb-c มาตรฐาน สะดวกในการชาร์จมาก

4 แบตเตอรี่ในตัวเป็นแบบเปลี่ยนเองได้ คู่มือก็สอนวิธีเปลี่ยน

ข้อเสีย

1 ปุ่มเปิดปิดอยู่ในตำแหน่งที่มักจะโดนกดเมื่อใส่หรือถอดหูฟังจากหัว บางครั้งเราแค่อยากหยิบใส่ หยิบออกชั่วคราว แต่ก็เผลอไปกดปุ่มแล้วเปลี่ยนโหมด

2 ปุ่มกดเพื่อเข้าฟังค์ชั่นพิเศษทำได้ลำบาก ซับซ้อน ถ้าไม่มีคู่มือจะไม่สามารถใช้ลูกเล่นพิเศษได้เลย

3 ขนาดใหญ่ พกพาในกระเป๋าใหญ่ๆเท่านั้้น ไม่สามารถยัดหูฟังไว้ในกระเป๋าเสื้อหรือกางเกงได้


สรุป

หูฟังไร้สาย Logitech G435 เป็นหูฟังไร้สายทำงานได้ 2 ระบบ สามารถใช้กับคอมพิวเตอร์ทางพอร์ต usb ได้ สามารถใช้กับโทรศัพท์มือถือทาง bluetooth ได้ มีคุณภาพเสียงในการฟังเพลงที่ดี ใช้ฟังเพลงเพื่อทำงานหรือเพื่อความบันเทิงได้ มีความสามารถในการรับเสียงพูดคุยได้ดี ใช้สื่อสารพูดคุยกันได้ชัดเจน ใช้บันทึกเสียงเพื่อทำรายการพอดคาสท์ได้ เป็นหูฟังที่คุ้มค่ามากๆในราคาแค่สองพันบาท ถ้าต้องเดินทาง อยู่หอพัก และอยากได้อุปกรณ์การทำงานและการดูหนังฟังเพลงตัวเดียวครบทุกความต้องการ ก็ต้องตัวนี้เท่านั้น

พาดพิงหูฟัง Akg K701 ลองกลับไปอ่านรีวิวได้ครับ

สั่งซื้อ logitech g435 เชิญที่นี่ครับ https://s.shopee.co.th/qNW7b5OBn

รีวิว Mi True wireless Earphones

Xiaomi ทำอะไรขายบ้างในตอนนี้เราคงไม่สามารถบอกได้แล้ว เพราะมีสินค้าหลากหลายชนิดออกมาในยี่ห้อนี้ นอกจากสินค้าเทคโนโลยีแล้วก็ยังมีสินค้าเครื่องใช้ในบ้านอีกด้วย แต่ละเดือน แต่ละสัปดาห์ที่ผ่านไปเราก็พบสินค้าใหม่ของยี่ห้อนี้อยู่เรื่อยๆ และหูฟังที่ใช้งานกับโทรศัพท์ก็มีทำขายด้วยเช่นกัน มีทั้งแบบสาย และแบบไร้สาย แบบไร้สายก็มีหลายรุ่น และในครั้งนี้เราก็จะทดสอบหูฟังไร้สายรุ่นหนึ่งชื่อว่ารุ่น Mi True Wireless Earphones กัน

2020-02-24_10-03-59

ข้อมูลทั่วไป

  • ไดรเวอร์ขนาด 7 มม.
  • เชื่อมต่อ Bluetooth 4.2
  • ระบบสัมผัสเพื่อควบคุมการทำงาน
  • กันน้ำ IPX4
  • กล่องมีช่องเสียบสายชาร์จ usb-C , จุกซิลิโคนติดหูฟังมา1 คู่ มีในกล่องอีก 2 คู่ รวมได้ 3 คู่
  • ใช้งานต่อเนื่องได้ 3 ชั่วโมง กล่องเก็บไฟจะชาร์จแล้วใช้ได้รวมเป็น 10 ชั่วโมง
  • ชาร์จไฟเข้ากล่องจนเต็มใช้เวลา 1 ชั่วโมง
  • ใช้ได้ทั้ง iOS / Android
  • น้ำหนัก 5.8 กรัม
IMG_20200226_080923
IMG_0235

ทดลองฟัง

หูฟัง Truewireless ยุคนี้มาพร้อมกล่องชาร์จไฟ การหยิบหูออกจากกล่องทำได้ลำบากมาก เพราะว่าหูฟังมีแม่เหล็กในกล่องดูดเอาไว้เพื่อกันหลุด ทำให้การหยิบออกเป็นเรื่องยาก

IMG_0243

คุณภาพเสียงเมื่อฟังเพลง ทำได้ดีน่าประทับใจมาก เสียงโดยรวมมีความเป็นกลาง ไม่เน้นย่านเสียงใดเป็นพิเศษ เสียงทุ้มจะบางกว่าหูฟังอินเอียร์ทั่วไปอย่างชัดเจน แนวทางเสียงจะไปทางหูฟัง earbud มากกว่า เสียงกลางชัด เสียงสูงใส และไม่เสียดหู ฟังนานๆไม่ล้า ความฉ่ำหวานมีน้อยไปหน่อย หูไร้สายแบบนี้ฟังนานๆสักสองชั่วโมงก็แบตเกือบหมดแล้ว ดังนั้นเราก็จะเหมือนโดนบังคับให้หยุดฟังเพื่อถอดหูไปชาร์จไฟ ทำให้ใส่นานๆไม่ได้อยู่แล้ว

ความสามารถที่น่าทึ่งของหูฟังคู่นี้คือการเชื่อมต่อสัญญาณที่ไม่สะดุดเลย ปกติจากที่เคยลองหูฟัง truewireless คู่ละ 3000 บาท ก็ทำคุณภาพเสียงไว้ได้ดี แต่ที่แย่คือ การเชื่อมต่อมีอาการสะดุดเมื่อผ่านสถานที่ที่มีคนเยอะ แต่ earphones ตัวนี้ไม่มีอาการเสียงหายหรือเสียงขาดตอน จะมีเพียงแค่อาการดีเลย์เล็กน้อยตอนดูคลิปเท่านั้น

กล่องชาร์จไฟสามารถเก็บไฟแล้วทำให้ชาร์จซ้ำใส่ตัวหูฟังได้หลายรอบ ระยะเวลาฟังทั้งหมดที่ใช้ไฟจนหมดกล่องจะได้ประมาณ 10 ชม. ช่องเสียบสายชาร์จไฟของกล่องเป็นชนิด usb-C

IMG_0233

การคุยโทรศัพท์ผ่านหูฟัง Earphones คู่นี้ให้เสียงดีมาก เสียงที่ได้ยินมีความใหญ่และชัด ส่วนปลายทางที่คุยด้วยก็ได้ยินเสียงของเราชัดเจน และแม้จะคุยผ่าน App อย่าง Line ก็ให้คุณภาพการคุยที่รู้เรื่องไม่ต่างกัน สิ่งที่ประทับใจก็คือเสียงเรียกเข้าที่ได้ยินในหูฟังเป็นเสียงกรุ๊งกริ๊งที่ไม่ทำให้สะดุ้ง เสียงดังในหูทำให้เรารู้ตัวแต่ไม่ตกใจ ถือว่าคุณภาพในด้านการใช้เพื่อคุยโทรศัพท์ทำได้ดีมาก

ระบบสัมผัสของหูฟังคู่นี้มีสองข้างที่รับการสัมผัสได้ เคาะสองครั้งที่หูขวาเป็นการเล่นเพลงและหยุดเพลง ส่วนเคาะ 2 ครั้งที่หูซ้าย จะเป็นการเรียก Assistant ขึ้นมา ส่วนการเคาะแบบอื่นๆผมไม่ได้ลองเลย

จุดเด่น

กล่องชาร์จไฟใช้งานรวมได้ 10 ชม.

สัญญาณไม่สะดุดในที่คนเยอะ

คุยโทรศัพท์ฟังเสียงได้ชัดมาก และปลายทางก็ได้ยินเสียงเราไม่ติดขัด

คุณภาพเสียงในด้านการฟังเพลงให้น้ำเสียงเป็นกลางไม่เน้นย่านใดเป็นพิเศษ

จุดด้อย

หยิบหูฟังออกจากกล่องยากมาก

สรุป

Mi Earphones เป็นหูฟัง Truewireless ที่มีราคาย่อมเยา แต่มีคุณภาพดี หน้าที่การเป็นหูฟังไร้สายที่ดีก็คือการเชื่อมสัญญาณบลูทูธต้องไม่สะดุด หูฟังตัวนี้ก็ไม่สะดุด แม้จะใส่ไปเดินในห้างที่มีคนเยอะก็ไม่สะดุด แม้จะใส่มือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงก็ตาม น้ำเสียงที่เป็นกลางไม่เน้นย่านใดย่านหนึ่งอาจไม่ถูกใจนักฟังเพลงที่ชอบเพลงที่มีสีสันหรือมีแนวทางที่จัดจ้าน แต่ความเรียบง่ายของเสียงแบบนี้ทำให้เราใส่หูได้นาน สามารถฟังสิ่งที่ต้องการได้นาน

รีวิว Fender Indio ลำโพงที่จะพาเรากลับสู่ดนตรี

เครื่องเสียงบ้านในอดีตก็เป็นลำโพง ทำงานร่วมกับแอมป์ ทำงานร่วมกับแหล่งโปรแกรม ซึ่งอดีตเราก็จะเปิดแผ่นเสียง เปิดเทป เปิดแผ่นซีดี และปัจจุบันเราก็เปิดไฟล์จากเครื่องเล่นมัลติมีเดีย รวมถึงการฟังจากระบบ stream ที่มาทางอินเทอเน็ต เครื่องเสียงที่ใช้ก็เลยมีความสามารถเปลี่ยนแปลงไป และพัฒนาไปสู่รูปแบบใหม่ๆ ฟังค์ชั่นใหม่ๆ

เครื่องเสียงสเตอริโอในบ้านที่เราคุ้นเคย จะเป็นเครื่องเสียงที่ให้ความไพเราะ ให้ความดัง ให้ความถี่ตอบสนองที่เต็มย่าน เครื่องเสียงบ้านมักจะเป็นเครื่องเสียงที่มีคุณภาพสูงที่สุดในบรรดาอุปกรณ์ที่เราครอบครอง และมันก็เป็นเช่นนี้มาตลอด เวลาเราหาลำโพงมาใช้งานในฟังค์ชั่นอื่นๆ เช่น หาลำโพงมาเปิดร่วมกับคอมพิวเตอร์ หรือหาลำโพงพกพาเพื่อจะใช้เปิดอเนกประสงค์ ย้ายไปเปิดในสถานที่ต่างๆได้เราก็อยากจะได้ลำโพงเสียงดีเหมือนเครื่องเสียงบ้านด้วย แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีเครื่องเสียงพกพาตัวไหนที่คุณภาพดีทัดเทียมกับลำโพงบ้าน

20200209122747_IMG_0163

ตั้งแต่สมาร์ทโฟนเริ่มทำตลาดจนกลายเป็นอุปกรณ์จำเป็นของคนเรา ลำโพงฟังเพลงที่จะใช้กับมือถือหรือคอมพิวเตอร์ก็ค่อยๆพัฒนาขึ้น จากตัวเล็กเสียงเบาๆ ก็ปรับปรุงไปในทุกทาง มีทางตัวใหญ่ขึ้น เสียงดังขึ้น ใส่แบตเตอรี่ให้พกพาใช้งานได้สะดวกขึ้น หลายสิ่งหลายอย่างก็ปรับเปลี่ยนกัน แต่สิ่งหนึ่งที่พัฒนาไปช้ากว่าทุกเรื่องที่กล่าวมาคือคุณภาพเสียง คุณภาพเสียงของลำโพงพกพาไม่เคยดีเท่าลำโพงบ้านเลย เราหมายถึงลำโพงบ้านระดับกลางๆ ไม่ได้หมายถึงลำโพงไฮเอนด์ชุดละเป็นแสนเป็นล้าน

ผมใช้งานลำโพงมาหลายชนิด ลำโพงบ้านคู่หลักที่ใช้งานมานานก็ยังคงเป็นมาตรฐานการรับฟังที่พอใจ เวลาเจอลำโพงใหม่ๆก็มักจะเปรียบเทียบกับลำโพงในบ้านว่ามันดีเหมือนกันไหม เสียงกลางดีไหม เบสดีไหม เสียงสูงดีไหม ทุกอย่างก็จะใช้ความคุ้นเคยกับเครื่องเสียงหลักในบ้านมาเป็นตัวช่วยเปรียบเทียบ ลำโพงบลูทูธที่เคยใช้มาหลายตัวก็มีบุคลิกและจุดเด่นต่างกันไป ลำโพงตัวเล็กเน้นเอาแค่มีเสียงก็สะดวกในการพกพาแต่ฟังเพลงไม่เพราะ ลำโพงที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็มีแนวโน้มเสียงดี แต่กลางก็หุบ เบสอั้นและน้อยเมื่อเทียบกับลำโพงบ้าน หลายตัวที่ผ่านมาก็จะมีบทสรุปเบื้องต้นในด้านน้ำเสียงว่าไม่ดีแบบที่อยากได้ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องแปลกเลย

แล้ววันหนึ่งก็ได้เห็นลำโพงยี่ห้อหนึ่งที่เริ่มทำตลาดลำโพงบลูทูธระดับพรีเมี่ยม ชาวบ้านขายกันตัวละพันสองพัน ไปถึงหลายพันก็นับว่าราคาสูงแล้ว แต่ลำโพงตัวใหม่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ ยี่ห้อ Marshall ทำตลาดลำโพงบลูทูธ เริ่มขายกันที่ราคาหมื่นกลางๆ แล้วขายดี จนอีกไม่นานต่อมา ยี่ห้อ Fender ก็ทำลำโพงบลูทูธออกมาขายด้วย และทั้งสองยี่ห้อก็ค่อยๆออกรุ่นเล็กรุ่นกลางรุ่นใหญ่ ออกมาหลายรุ่นมาก ตอนนี้ก็มีระดับราคาหลักพันไปถึงสองหมื่นกว่า มีทั้งแบบตัวใหญ่ต้องเสียบปลั๊กขนาดที่ผู้หญิงอาจยกไม่ไหว จนถึงแบบพกพาหยิบง่ายยกง่าย

20200209122758_IMG_0164

Fender เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการทำกีต้าร์และตู้แอมป์กีต้าร์ มีนักดนตรีประมาณครึ่งโลกที่ถือกีต้าร์ของ Fender ทำมาหากินเลี้ยงชีวิต มีมือกีต้าร์ระดับ Guitar Hero ที่ใช้กีต้าร์ของ Fender และตู้ลำโพงสำหรับมือกีต้าร์ก็มีหลายขนาดตั้งแต่ขนาดเล็กสำหรับซ้อมในห้องไปถึงขนาดใหญ่ที่จะวางบนเวทีคอนเสิร์ต และหน้าตาของลำโพง Fender ก็มีเอกลักษณ์ที่เห็นแล้วบอกได้เลยว่ามันคือ Fender ส่วนกีต้าร์ที่แพงที่สุดในโลกก็เป็นกีต้าร์ของ Fender ซึ่งเจ้าของคือ David Gilmour สมาชิกวง Pink Floyd

ผมเคยคิดจะซื้อลำโพงเอาไว้ฟังเพลงแต่อยากได้หน้าตาที่ไม่เหมือนเครื่องเสียงบ้านก็เลยไปซื้อแอม์กีต้าร์ที่หน้าตาดูคลาสิคมาใช้แทน ผลก็คือ แอมป์กีต้าร์เสียงไม่ดีเลย ไม่สามารถใช้เป็นลำโพงเพื่อการฟังเพลงได้ เพราะลักษณะการออกแบบไม่ได้ทำมาให้เสียงนุ่มอิ่มปนหวานแบบลำโพงบ้าน ลำโพงกีต้าร์มักจะใช้ดอกลำโพงดอกเดียวที่ส่งเสียงตลอดย่านความถี่ของกีต้าร์ แตกต่างไปจากลำโพงบ้านที่ตอบสนองความถี่ตลอดย่านที่หูคนได้ยิน ซึ่งมันกว้างมากเมื่อเทียบกับเสียงกีต้าร์ พอเรามีลำโพงฟังเพลงที่เป็นยี่ห้อเดียวกับแอมป์กีต้าร์ ก็เลยสนใจขอลองฟัง เพราะหน้าตามันเป็นแอมป์กีต้าร์เลย

20200209122618_IMG_0157

ลักษณะทั่วไป

Fender indio เป็นลำโพงบลูทูธรุ่นกลางของยี่ห้อนี้ เป็นรุ่นที่ออกแบบเป็นลำโพงหิ้วได้ แต่น้ำหนักตัวไม่ธรรมดาเลย หูหิ้วขนาดใหญ่และหนาบ่งบอกถึงน้ำหนักตัวได้เป็นอย่างดี ปุ่มเปิดปิดและการควบคุมทั้งหลายอยู่ด้านบน ดูภายนอกเหมือนแอมป์กีต้าร์ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมอยากได้มานานแล้ว ขอไล่รายละเอียดแผงด้านบนไปเลยดังนี้

IMG_0539

ด้านซ้ายเป็นปุ่มกด ลักณะปุ่มเป็นสี่เหลี่ยมเล็กๆทรงสูง ดูโบราณมาก กดแล้วจะยุบลงไปอย่างชัดเจน ปุ่มลักษณะเหมือนกลไกแบบนี้ดูทนทานมาก เราสามารถกดปุ่ม play เพื่อสั่งงานเล่นเพลง มีปุ่มกดข้ามเพลง ปุ่มย้อนเพลง มีปุ่ม Pair กดปุ่มเพื่อจับคู่สัญญาณบลูทูธ มีปุ่ม Voice เพื่อกดใช้งานเรียก google assistant ขึ้นมาทำงาน ถ้าใช้คู่กับสมาร์ทโฟนค่าย apple ก็คงเป็นการเรียก SIRI ขึ้นมาแทน มีปุ่ม Duo เพื่อใช้เชื่อมต่อลำโพงสองตัวเข้าด้วยกันเพื่อให้แต่ละตัวทำงานร่วมกันส่งเสียงให้เป็นสเตอริโอ ที่บริเวณกลางของแผงควบคุมเป็นปุ่มหมุน 3 ปุ่ม ลักษณะปุ่มหมุนจะเป็นแบบอนาลอก เราหมุนไปจนสุดทางได้ หน้าที่แต่ละปุ่มประกอบด้วยปุ่ม Volume ปรับความดังของเสียง ปุ่มถัดมาเป็นตัวปรับเสียงแหลมหรือTreble ปุ่มถัดไปเป็นปุ่มปรับเสียง Bass ผ่านจากปุ่มไปจะเป็นไฟแสดงสถานะการทำงาน และสุดท้ายด้านขวาจะเป็นสวิตซ์คันโยกทำหน้าที่ power ปิด หรือเปิด ผมชอบปุ่มเปิดปิดแบบสวิตซ์โยกมาก เพราะมันทำให้เราสั่งปิด หรือ เปิดได้อย่างมั่นใจ และการสั่งการก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องเหลือบมอง การเปิดหรือปิดลำโพงสามารถใช้นิ้วดันสวิตซ์ได้โดยง่าย ไม่เหมือนระบบกดปุ่มทั่วไป

IMG_0541

ด้านหลังเป็นช่องเสียบไฟชาร์จ ให้รูเสียบแบบไฟ DC 2.8A 15V มีช่อง usb power ที่จ่ายไฟได้ 1000ma แต่ไม่ใช่ช่องที่จะอ่านไฟล์ใดๆ มีไว้จ่ายไฟเลี้ยงให้กับอุปกรณ์ที่ต้องเสียบชาร์จ ซึ่งคงเอาไว้ชาร์จโทรศัพท์หรือเครื่องเล่นเพลงพกพาเท่านั้น และอีกช่องจะเป็นช่อง Aux ขนาด 3.5มม. สำหรับต่อสัญญาณเสียงภายนอกเข้าเครื่อง

IMG_0544

ขนาดตัวลำโพง Fender indio มีขนาดใหญ่ประมาณกระดาษ A4 วางแนวนอน แต่หนักมาก ดอกลำโพงที่ใช้ภายในจะมี 4 ดอก ประกอบไปด้วยดอกลำโพงขนาด 3.5 นิ้ว 2 ดอก และดอกลำโพงขนาด 16 มม. อีก 2 ดอก กำลังขับ 60 วัตต์ มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ประมาณ 20 ชั่วโมง ระบบบลูทูธทำงานได้ระยะประมาณ 33 ฟุต และรอรับ codec หลายตัวดังนี้ SBC, aptX and a AC wireless audio CODEC

IMG_0532

ทดลองฟัง

แค่เปิดปุ่ม power ขึ้นมาเพื่อให้ไฟติด ก็จะได้ยินเสียงกีต้าร์เล่นคอร์ทเป็นสัญญาณการเปิดเครื่อง ซึ่งเป็นเสียงที่เท่ห์มาก ฟังแล้วรู้สึกทันทีว่าเสียงกีต้าร์เพราะขนาดนี้ ตอนฟังเพลงจะเพราะแค่ไหน ทำให้คนได้ยินเสียงเปิดเครื่องครั้งแรกแอบตั้งความหวังไปแล้วว่าเสียงอื่นๆที่เปิดเล่นจะต้องดีแน่นอน การเชื่อมต่อบลูทูธกับโทรศัพท์มือถือทำได้ง่าย เชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คก็ทำได้ง่าย ไม่มีงง ไม่มีรวน เมื่อสั่งให้เชื่อมต่อเสร็จก็จะมีเสียงกีต้าเล่นขึ้นมาอีกรอบหนึ่ง แต่คราวนี้มีความหมายว่า ลำโพงพร้อมใช้งานแล้ว

ฟังกับเพลง Norah Jones อัลับั้มแรกเลย เพลง Don’t know why เป็นเพลงดังของนักร้องคนนี้ Fender indio ก็ให้น้ำเสียงที่ชัดและนุ่มเป็นหลัก เสียงร้องมีความใสและมีเนื้อเสียงที่หนักแน่น เสียงทุ้มเป็นไปในแนวนุ่มลึกและมีปริมาณมาก เมื่อฟังกับดนตรีที่เป็นโชว์เสียงเบส เราจะได้ยินเบสที่ลงลึกและแผ่กระจายตัวปกคลุมพื้นที่ห้องฟังของเราให้ได้ยินเสียงเบสใกล้เคียงกันทั้งห้อง เป็นเสียงโทนต่ำที่มีเสน่ห์และน่าฟังอย่างยิ่ง

ทุ้มที่ใหญ่โตและอิ่มช่วยผลักดันเสียงให้มีพลัง หากเราถามหาน้ำเสียงแบบนี้ในยุคยี่สิบปีที่แล้ว เราต้องใช้ลำโพงซับวูฟเฟอร์เข้ามาสร้างเสียงแบบนี้เท่านั้น เป็นไปได้ยากมากที่จะหาชุดเครื่องเสียงบ้านที่ให้เบสลงลึกแบบนี้ในขนาดลำโพงพร้อมแอปม์ที่หิ้วด้วยมือเดียวได้ยิ่งยากมาก ฟังไปฟังมาก็เอะใจ นี่มันเสียงมาแนวเดียวกับห้องซ้อมดนตรีเลย มาแนวเดียวกับเวทีคอนเสิร์ตเลยนะ เพราะน้ำเสียงที่พุ่งและทุ้มที่โอบล้อมขนาดนี้มันจะอยู่กับเวทีคอนเสิร์ต มันจะเป็นเสียงที่เราได้ยินในห้องซ้อมที่บาลานซ์เสียงเครื่องดนตรีเอาไว้อย่างสมดุลย์แล้ว หากคุณเคยนั่งฟังเพื่อนเล่นในห้องซ้อม เสียงที่ได้ยินจากเพลงแต่ละเพลงเราได้ยินทุกเสียงในห้องซ้อมเลย เบสเล่นยังไง กีต้าร์เล่นยังไง กระเดื่องเหยียบหนักหน่วงด้วยความมั่นใจ บาลานซ์ของเสียงจาก Fender indio เป็นแบบนั้น แต่ย่อส่วนลงมา แต่ที่ดีมากๆก็คือเสียงทุ้มที่ Fender ทำให้ จะเป็นทุ้มที่นุ่มนวล มันนุ่มจนกลายเป็นจุดเด่นเลย

ผมเปลี่ยนจากไฟล์เพลงออดิโอไฟล์ที่มักจะเตรียมไว้ทดสอบมาเป็นเพลงที่หาจาก online ทั้งจาก youtube และ spotify หาเพลงที่เล่นกีต้าร์เพราะๆ หาเพลงร็อคที่โซโล่เบสกลองกีต้าร์ ทั้งวงป๊อป วงร็อค หรือแม้แต่แนวเพลงโซโล่ของเหล่าเทพกีต้าร์ฮีโร่ทั้งหลาย หลายชั่วโมงต่อมาผมก็อิ่มไปด้วยเสียงดนตรี และชื่อวงดนตรี นักดนตรี ลำโพงตัวเดียวพาผมไปฟังเพลงอีกเป็นสิบเพลงที่ไม่เคยฟัง ความเป็นดนตรีมาเต็ม เปิดอะไรก็อยากฟัง จากความเคยชินที่ฟังแอมป์หลอดซิงเกิ้ลเอนด์ที่มีความละเมียดและเสียงทุ้มอิ่มหวาน มาเป็นเสียงที่รุกเร้าและเหมือนอยู่ในห้องซ้อม เหมือนอยู่หน้าเวทีคอนเสิร์ต มันให้อรรถรสคนละแบบ แต่มันดีทั้งคู่ และผมชอบอย่างหลังมากกว่านิดหน่อย

ในช่วงเวลากลางคืนที่เราไม่ควรเปิดเพลงดังๆ เสียงระดับเบาแค่พอได้ยินก็ยังคงมีเสียงทุ้มที่แน่นและใหญ่ และปกคลุมอยู่ เหมือนกับว่าผู้ออกแบบได้ออกแบบระดับความดังหรือระดับเสียงทุ้มไว้แล้วว่าต่อให้เปิดเบาแค่ไหน เสียงทุ้มต้องรู้สึก ผมใช้คำว่ารู้สึกเลยไม่ใช่แค่ได้ยิน ถ้าเราไปเปิดเครื่องเสียงบ้านในระดับความดังน้อยๆ เสียงทุ้มแทบจะหายไปจากการได้ยินเลย เพราะหูคนเราจะไม่ค่อยไวกับเสียงต่ำ การชดเชยให้การฟังที่ระดับเสียงเบาๆเราจะต้องมีการบูสเสียงเบสหรือเพิ่มลาวด์เนสให้กับเครื่องเสียง ในอดีตที่ผ่านมาเครื่องเสียงบางรุ่นมีปุ่มลาวน์เนสให้กดใช้งานหรือยกเลิกได้ เพื่อให้เราเพิ่มลาวด์เนสตอนฟังเบาๆ แต่กับเครื่องเสียงสมัยใหม่แทบจะไม่ใช้ปุ่มนี้แล้ว คือหลายยี่ห้อตัดทิ้งฟังค์ชั่นลาวด์เนสไปแล้ว แต่กับ Fender ตัวนี้ แม้ไม่มีปุ่มลาวด์เนส แต่ก็เหมือนมีการบูสเสียงเบสเพิ่มให้หรือเพิ่มลาวด์เนสให้ในการฟังที่ระดับความดังไม่มาก ทำให้เสียงทุ้มยังคงได้ยินอยู่

ความนุ่มของเบสมาพร้อมความกระฉับกระเฉงเหมือนการแสดงสด มันเป็นความนุ่มที่หนึบ ไม่รู้จะอธิบายให้ตรงความรู้สึกได้อย่างไร ฟังเพลินๆแล้วอยากบอกว่า เบสอร่อย เป็นเสียงเบสที่ไม่เคยได้ยินจากแอมป์หลอดคลาสเอ มันเป็นเสียงเบสที่ไวมาก มันคงเป็นความไวที่ได้จากโซลิทสเตท หรือดิจิทัลแอมป์ นับว่าเป็นลำโพงที่ฟังสนุกจริงๆ ถ้าผมต้องไปอยู่ในที่ห่างไกลห้ามเอาเครื่องเสียงชุดใหญ่ไปด้วย Fender indio ตัวนี้จะเป็นตัวที่ถูกเลือกไปแทน

ถ้าคุณกินขนมชั้น คุณจะได้ความนุ่มไม่มีความเด้ง ถ้าคุณกินวุ้นคุณจะได้ความเด้ง ไม่มีความนุ่ม เยลลี่คือตรงกลาง มีความนุ่มและความเด้ง เบสหนึบๆ นุ่มและไว เป็นบุคลิคของ Fender indio ตัวนี้

20200209122304_IMG_0147

ลำโพงตุัวนี้สามารถสร้างเสียงเบสลึกที่ใหญ่โตได้ด้วยตัวมันเอง ไม่จำเป็นต้องอาศัยห้องหรือกำแพงเลย ทดสอบได้จากการฟังในที่โล่งอย่างสวนสาธารณะ ผมลองพกไปฟังในสวน สถานที่โล่งกว้าง เสียงเบสยังคงมีอยู่ สามารถฟังได้ไม่แตกต่างไปจากในบ้าน เป็นลำโพงที่ไม่เลือกสถานที่การจัดวางเลย วางตรงไหนก็ได้

IMG_20200215_132151
IMG_20200215_132206

นอกจากการฟังในสถานที่โล่งแล้ว การฟังบนรถก็ให้เสียงที่ดีเช่นกัน เสียงกลางแหลมที่ชัดเจนช่วยให้ฟังเพลงได้เพราะขึ้น จะฟังข่าวหรือฟังรายการพูดก็ชัดเจน เสียงดนตรีที่ขับผ่านลำโพงตัวนี้แม้จะอยู่ในรถก็ยังคงได้ความนุ่มและเสียงทุ้มที่มากมายไม่ต่างจากในห้องหรือในบ้าน เป็นลำโพงที่ดีในทุกพื้นที่การใช้งานจริงๆ

IMG_20200215_134026

ข้อดี

เบสแน่น ลึก นุ่ม ใหญ่ เสียงกลางชัด เสียงแหลมชัด พลกำลังเหลือเฟือ เสียงฉับไวเหมือนเวทีคอนเสิร์ต พกพาได้ คุณภาพเสียงดีไม่เลือกสถานที่ ไม่จำเป็นต้องวางในห้องปิด หรือ ใช้กำแพงช่วยสะท้อนเสียงทุ้ม

ข้อด้อย

ต้องชาร์จแบต เป็นอุปกรณ์พกพาที่หนักมาก

สรุป

Fender indio ให้ประสบการณ์การฟังลำโพงบลูทูธที่แปลกใหม่ อัพเดทให้รู้ว่าเทคโนโลยีการออกแบบเครื่องเสียงยังคงเดินหน้า พัฒนาต่อไปได้ ดอกลำโพงเล็กๆใน Fender indio ตัวนี้ให้เสียงทุ้มกลางแหลมที่สมดุลย์มาก ทุ้มไม่กลบกลาง แหลมไม่บาดหู กลางชัดฟังเสียงร้องได้ชัดถ้อยชัดคำ เสียงเบสลึกเป็นจุดเด่น เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่เราสามารถรีดเสียงเบสที่สมบูรณ์ระดับนี้จากดอกลำโพงเล็กนิดเดียว การจัดวางตรงไหนก็ได้ ที่ไหนก็ได้ทำให้มันเป็นลำโพงที่น่าใช้มาก แบตเตอรี่จำนวนมหาศาลที่ให้ชั่วโมงการใช้งานที่ยาวนานมันทำให้เราพกไปไหนก็ได้ ฟังเพลงที่ไหนก็ได้ แต่อย่ารบกวนชาวบ้านก็พอ ลำโพงแบบนี้ เสียงแบบนี้ เหมาะกับคนที่ชอบฟังเพลง มันเป็นลำโพงที่พาเรากลับสู่ดนตรี พาให้เราสนใจดนตรีมากกว่าเครื่อง

ขอขอบคุณร้าน ร้านมั่นคงแก็ดเจ็ท ที่เอื้อเฟื้อให้ยืมสินค้ามาทดสอบนะครับ

รีวิว Fiio BTR3 Dac/Amp Bluetooth คุณภาพสูง

เมื่อพูดถึงอุปกรณ์ยี่ห้อ Fiio ผมจะรู้จักจุดเริ่มต้นในด้านของแอมป์หูฟัง และก็มีพัฒนาการออกมาเป็นเครื่องเล่นเพลงที่หลากหลาย มีตัวแปลงสัญญาณเสียงดิจิทัลเป็นอนาลอกให้ใช้ และในตอนนี้ก็มีอุปกรณ์บลูทูธออกมาให้ใช้งานร่วมกับหูฟังตัวโปรดของเรากับเครื่องเล่นเพลง

IMG_0529

อุปกรณ์ประเภทตัวรับสัญญาณบลูทูธแล้วมีช่องเสียบหูฟังมีมานานหลายปี คนที่ต้องการความสะดวกสบายในการฟังเพลงก็จะหาอุปกรณ์แนวนี้มาใช้งานร่วมกับหูฟังตัวโปรด บางคนใช้ตัวรับบลูทูธไปต่อกับเครื่องเสียงบ้านเพื่อทำให้ฟังเพลงจากมือถือผ่านเครื่องเสียงบ้านได้สะดวก ตลาดส่วนนี้มีอุปกรณ์ถูกๆและคุณภาพธรรมดาให้ใช้อยู่ แต่ก็ไม่เคยมีใครทำของดีออกมาขาย

IMG_0454

Fiio ฺทำ BTR 1 ออกมาก่อน เป็นอุปกรณ์รับสัญญาณบลูทูธที่ต่อหูฟังได้ มีไมโครโฟนเพื่อใช้พูดคุยด้วย ทำให้นักฟังเพลงสามารถใช้หูฟังที่ชอบมามาฟังเพลงแบบไร้สายกับโทรศัพท์ และสามารถพูดคุยรับสายได้ด้วยในตัว เป็นความสะดวกที่มาพร้อมคุณภาพเสียงที่ดี เพราะมีการใช้ชิพเสียงและวงจรขยายสัญญาณหรือแอมป์หูฟังที่มีคุณภาพ และในรุ่นใหม่อย่าง BTR3 ก็ออกมาตามรอยรุ่นพี่ อย่าง BTR1 แต่เพิ่มคุณภาพเข้าไปอีกหลายอย่างทำให้มันกลายเป็นอุปกรณ์ที่น่าสนใจมากขึ้น และที่สำคัญ ราคาไม่แพง

ระบบการส่งสัญญาณเสียงด้วยบลูทูธจะมีประเด็นที่เป็นตัวควบคุมคุณภาพเสียงอยู่ นั่นก็คือ ตัว codec ที่ใช้อยู่ในอุปกรณ์ codec ย่อมาจากคำว่า coder และ decoder คือการเข้ารหัสและถอดรหัสนั่นเอง ตัวส่งสัญญาณบลูทูธจะนำเสียงดิจิทัลมาเข้ารหัส แล้วส่งผ่านอากาศออกไป ตัวรับสัญญาณบลูทูธจะรับสัญญาณทางอากาศแล้วถอดรหัสออกมาเป็นเสียงดิจิทัล แล้วก็ส่งไปผ่านชิปแปลงสัญญาณเสียงดิจิทัลเป็นอนาลอกอีกครั้ง เมื่อได้สัญญาณอนาลอกก็อาจจะส่งไปผ่านวงจรขยายอีกทอดหนึ่งเพื่อส่งสัญญาณไปออกหูฟัง

codec พื้นฐานของการฟังเพลงผ่านบลูทูธคือ SBC ซึ่งเป็นมาตรฐานขั้นต่ำสุดของการใช้งาน เพลงที่ฟังผ่าน codec ตัวนี้จะมีคุณภาพกลางๆ คุณภาพเสียงของระบบนี้จะนำสัญญาณระดับ 16bit 44.1k มาย่อ แล้วส่งผ่านแบนด์วิธประมาณ 328kbps ปลายทางรับสัญญาณก็จะถอดรหัสคืนค่ากลับมา เรียกว่าพอใช้ได้ แต่ไม่ดีมาก ผู้ผลิตหลายรายก็จะมีความพยายามในการพัฒนา codec ให้มีคุณภาพเพิ่มขึ้น เพิ่มแบนด์วิธขึ้น เราก็จะได้ codec ใหม่ๆออกมาอีกหลายตัว และล่าสุด เราได้ LDAC ซึ่งเป็นผลจากการพัฒนาของค่าย sony โดยสามารถนำสัญญาณต้นทางระดับ 24bit/96k มาเข้ารหัสเพื่อส่งสัญญาณผ่านแบนด์วิธ 990 kbps และคืนค่าหรือถอดรหัสที่จุดรับออกมาเป็นเพลงระดับ 24bit/96k นั่นเอง โดยระบบ LDAC จะเป็นสิ่งที่ถูกออกแบบมาให้ใช้กับการฟังเพลงระดับ Hi-res เป็นหลัก

ขั้นตอนการทำ codec จะเป็นการย่อขนาดและขยายกลับคืนแบบ lossy compression คือมีการสูญเสียรายละเอียดบางส่วนไประหว่างทาง เพื่อให้แบนด์วิธ์ไม่สูงเกินไป หมายความว่าระบบการส่งเสียงผ่านบลูทูธทุกมาตรฐานจะมีการสูญเสียเสมอ การบีบอัดข้อมูลลักษณะนี้จะคล้ายกับภาพถ่ายชนิด Jpeg ที่ถูกลดทอนรายละเอียดลง และไม่สามารถกู้ข้อมูลกลับมาได้ การย่อขนาดเพื่อส่งผ่านช่องทางแบนด์วิธต่ำ ก็ต้องทิ้งข้อมูลไปเยอะมากกว่าการย่อแล้วส่งในช่องทางแบนด์วิธสูง การใช้แบนด์วิธที่มากขึ้นจะได้คุณภาพสัญญาณที่มากขึ้นนั่นเอง

ด้วยความสามารถของ codec ที่ทันสมัย รวมกับการเลือกใช้ชิปแปลงสัญญาณเสียงที่มีชื่อเสียงด้านการฟังเพลงอย่าง DAC รุ่น AK4376A ซึ่งมีผลทำให้อัตราส่วนสัญญาณเสียงต่อสัญญาณรบกวนสูงระดับ120db พร้อมด้วยการทำงานร่วมกับภาคขยายหรือ amp กำลังขับ 25 มิลลิวัตต์ที่ 32 โอห์ม ก็ทำให้ Fiio BTR3 เป็นตัวรับบลูทูธที่เสียงดีและมีกำลังขับที่ดีสำหรับหูฟังทั่วไป

Specification

  • Model : FiiO BTR3
  • Audio Input : Bluetooth V4.2
  • Supported Codec’s : AAC, SBC, aptX, aptX Low Latency, aptX HD, LDAC and LHDC
  • Bluetooth chip : Qualcomm CR8675
  • DAC : AK4376A
  • AMP : onboard AMP Included in AK4376A
  • Frequency Response : 20~20kHz(aptX connection), 20~40kHz(LDAC connection)
  • THD+N : 0.003%(LHDC 1kHz)
  • SNR : 120dB (A-weighted)
  • Output : 3.5mm Single Ended
  • Output Power : 33mW@16 Ohm & 25mW@32 Ohm
  • Output Impedance : 0.3 Ω(32Ω loaded)
  • Crosstalk : ≥ 75 dB(32Ω loaded)
  • Drivability : 16~100 Ω (recommended)
  • Battery : 300mAH
  • Battery Life : about 11hours
  • Charging Time : ≤1.5 h (DC 5V 500mA)
  • USB Port : USB Type C
  • Size : 58×25×10.4mm (exclusive of back clip)
  • Weight : 26 g (incl. battery)
IMG_0449

ลักษณะภายนอกของ BTR3 จะมีขนาดใหญ่ประมาณแท่ง usb-drive ทั่วไป มีคลิปหนีบสำหรับติดเสื้อ มีปุ่มอยู่ที่ด้านข้าง ประกอบไปด้วยปุ่มเปิดปิด มีรูเล็กๆเจาะไว้เป็นช่องรับเสียงของไมโครโฟน ต่อมาเป็นปุ่มกดเพื่อรับสายสามารถใช้สั่งเพื่อเล่นเพลงและหยุดเพลง ปุ่มถัดมาจะเป็นปุ่มมีเครื่องหมาย + และ ปุ่มเครื่องหมาย – เอาไว้ปรับความดัง ด้านล่างจะเป็นช่องเสียบสาย 2 ช่อง ก็คือช่อง usb-c กับช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5มม.

IMG_0452

ช่อง usb-c ที่ให้มาสามารถใช้เสียบสาย usb-c เข้ากับเครืองคอมพิวเตอร์ BTR3 จะทำงานกลายเป็น usb dac สามารถใช้กับโน้ตบุ๊คหรือคอมพิวเตอร์เป็นเหมือนชุดตั้งโต๊ะ โดยคุณภาพเสียงของการฟังผ่าน usb-c จะได้คุณภาพสูงมากและไม่ผ่านการบีบอัดข้อมูล คุณภาพเพลงที่เล่นผ่านระบบ usb-dac แบบนี้จะได้คุณภาพเต็มที่ตามไฟล์ที่นำมาเปิด เป็นฟังค์ชั่นสุดยอดคุ้มค่าที่หาไม่ได้จากตัวรับบลูทูธยี่ห้ออื่น

IMG_0448

ทดลองฟัง

BTR3 จะใช้เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ Redmi note7pro ซึ่งทั้งคู่รองรับ codec แบบ LDAC และเมื่อเชื่อมต่อกันแล้วก็มีตัว status ในมือถือระบุเป็นคำว่า LDAC ด้วย มือถือเครื่องนี้จะเป็นต้นทางของการเล่นไฟล์เพลง โดยไฟล์เพลงที่ใช้เปิดจะเป็นไฟล์เพลงป๊อป ร็อค เพลงไทยทั่วไป รวมถึงไฟล์เพลงแนวออดิโอไฟล์บางเพลงด้วย ไฟล์ที่เน้นคุณภาพเสียงจะเป็นไฟล์ wav ความละเอียด 16bit 44.1k ซึ่งส่วนใหญ่ rip ออกจากแผ่นต้นฉบับ และในบางโอกาสก็นำ BTR3 ไปเสียบสายต่อกับเครื่องเสียงบ้านด้วย เพื่อใช้งานในห้องฟังเพลงปกติ

2020-02-08_02-19-23

คุณภาพเสียงเมื่อฟังด้วยการเชื่อมต่อแบบบลูทูธ เราได้เสียงนุ่มนวล สว่าง ใส เสียงกลางชัดและมีย่านเสียงสูงที่ชัดตามกัน ระดับความดังเพื่อฟังผ่านหูฟังที่ไม่โหดมากก็ได้เสียงดังลั่น ฟังเพลงป๊อปทั่วไปก็ทำหน้าที่ได้ดี เราฟังแล้วก็อยากจะร้องเพลงตาม ฟังกับแนวออดิโอไฟล์ก็ทำงานได้ดี น้ำเสียงแนวผู้ดี เบสลงได้ลึก แต่ไม่บวมไม่เบลอ หูฟังที่ใช้ฟังส่วนใหญ่จะเป็น Koss KSC35 ส่วนหูฟังขนาดใหญ่อย่าง AKG k701 ให้เสียงได้แต่ไม่ค่อยมีแรง กำลังของ BTR3 น้อยเกินไปสำหรับหูฟังขับยากความต้านทานสูงแบบนี้ แม้จะได้ยิน ฟังเพลงได้ แต่ไม่สนุก ใช้งานกับหูฟังเล็กจะได้เสียงที่สดกว่า น่าฟังกว่า

IMG_0440

ฟังเพลงร็อคของ metalica ก็ให้น้ำหนักเสียงกลองที่หนักหน่วง เสียงกลองขนาดใหญ่ที่ฟังได้อารมณ์มาก ฟังเสียงร้องของนักร้องเสียงหวานอย่าง susan wong ก็ให้ตำแหน่งโฟกัสนักร้องที่แม่นยำ วางตรงกลางไม่วูบวาบเลย เสียงอคูสติกกีต้าร์มีน้ำหนักเสียงรับรู้ได้ค่อนข้างชัด ฟังเพลง creep ของวง radiohead ก็ให้น้ำหนักเสียงกลองเบสที่นุ่มฟังเพลิน เสียงกีต้าร์ใส่ดีสทอร์ชั่นในตอนกลางเพลงก็แตกซ่านแต่ไม่แสบหู โดยรวมแล้วฟังผ่านบลูทูธจะไม่จัดจ้าน ไม่สดเท่าการฟังผ่านสายและแอมป์หูฟัง แต่ก็ไม่ใช่จืดชืดเนือยๆแบบของคุณภาพต่ำ

IMG_20200205_082912

เอา BTR3 ไปใช้งานร่วมกับเครื่องเสียงบ้าน โดยเทียบกับชุดหลักที่เปิดด้วย ipod mini วางบน Dock และใช้เพลง wav เป็นหลัก เปิดเพลงเดียวกันเทียบระหว่างชุดเดิมที่เป็น ipod กับ เปิดเสียงด้วยมือถือผ่านบลูทูธไปยัง BTR3 พบว่า เสียงที่ผ่านชุดเครื่องเสียงบ้านฟังใกล้เคียงกันมาก เปิดฟังเทียบอยู่หลายเพลงก็ให้น้ำเสียงที่ดีสูสีกัน มิติของเวทีเสียงก็เรียงตัวคล้ายๆกัน จะชี้ว่าใครดีกว่าหรือแย่กว่าทำได้ยาก เพราะมันคล้ายกันจริงๆ

ด้วยความสามารถทั้งรับบลูทูธและเป็น usb-dac ได้ เมื่อเราเชื่อมการใช้งานทั้ง 2 อย่างพร้อมกัน เราสามารถเปิดเพลงจากคอมพิวเตอร์ได้ตลอดเวลา และเมื่อเราเปิดเสียงเพลงจากมือถือเข้าไป เสียงที่ได้ยินจะเป็นเสียงจากช่องทางบลูทูธทันที โดย BTR3 จะส่งเสียงที่มาทางบลูทูธออกมาให้เราได้ยินเลย และเมื่อเรากดหยุดที่มือถือ เสียงจะกลับไปเป็นเสียงของคอมฯตั้งโต๊ะที่มาทางสาย usb-c ทั้งหมดทำงานโดยอัตโนมัติไม่มีจังหวะสัญญาณหลุดหรือต้องตั้งค่าใหม่เลย ว่าไปแล้วฟังค์ชั่นแบบนี้ก็เหมาะที่จะซื้อ BTR3 ติดหน้าคอมฯ เพื่อใช้เปิดเพลงคุณภาพดีๆ ผ่านการทำงานแบบ usb-dac และเมื่อเราอยากจะฟังเสียงจากโทรศัพท์ ก็สามารถทำได้เลยเพราะเชื่อมทางบลูทูธเอาไว้แล้ว

ข้อดี

เสียงดี รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธทันสมัย ใช้ codec ชนิด LDAC สามารถใช้ฟังเพลง hi-res แบบไร้สาย เสียงดีมากเมื่อเอาไปต่อกับเครื่องเสียงบ้าน

ข้อเสีย

ตัวเครื่องด้านหน้าเป็นหน้าจอกระจก ดูเหมือนจะต้องดูแลป้องกันพอสมควรเพื่อไม่ให้เป็นรอยขีดข่วน และด้วยความเล็กและมีผิวภายนอกเป็นผิวมันก็กลัวจะทำหลุดมือตอนหยิบใช้งาน

สรุป

Fiio BTR3 เป็นอุปกรณ์รับสัญญาณบลูทูธที่มีความอเนกประสงค์พร้อมด้วยคุณภาพเสียงที่ดี ซื้อตัวเดียวได้ใช้ 2 ฟังค์ชั่นการใช้งานเลยคือเป็น usb-dac และ เป็นตัวบลูทูธสำหรับเสียบหูฟังเพื่อฟังเพลง คุณภาพเมื่อใช้กับชุดเครื่องเสียงบ้านให้คุณภาพสูงมากใกล้เคียงกับชุดเครื่องเสียงตั้งโต๊ะ ส่วนคุณภาพการใช้งานเป็นบลูทูธ ก็ให้น้ำเสียงฟังง่าย ฟังสบาย ไม่มีเบสบวมหรือแหลมสากเสี้ยน และการได้ใช้ codec แบบ LDAC ก็นับเป็นข้อดีที่เราจะใช้มันกับการฟังเพลง hi-res ได้ในอนาคต

ขอขอบคุณร้าน ร้านมั่นคงแก็ดเจ็ท ที่เอื้อเฟื้อให้ยืมสินค้ามาทดสอบนะครับ

รีวิว หูฟังไร้สาย Happy Plugs Air1

หูฟังสำหรับการฟังเพลงได้รับการพัฒนามาตลอดหลายปี ตั้งแต่เริ่มต้นเป็นหูฟังชนิด ear bud ที่แถมมากับเครื่องเล่นเพลง และพัฒนาต่อมาให้เป็นหูฟังที่ใช้งานกับโทรศัพท์มือถือ การใช้งานหูฟังกับโทรศัพท์ก็จะมีหลายวัตถุประสงค์ ตั้งแต่ใช้ฟังเพลง กับ ใช้พูดคุยซึ่งจะต้องทำหน้าที่กดรับสายหรือวางสายได้ด้วย หูฟังที่ใช้กับโทรศัพท์จะถูกเรียกว่าสมอลทอล์คและคำว่าสมอลทอล์คก็กลายเป็นคำศัพท์ทั่วไป เป็นตัวแทนของสายหูฟังไปในที่สุด

ในยุคแรกหูฟังสมอลทอล์คจะเป็นหูฟังคุณภาพต่ำพร้อมไมโครโฟนบนตัวสาย ใช้เสียบกับโทรศัพท์เพื่อการพูดคุยกัน ไม่ได้ออกแบบเอาไว้ฟังเพลง และพอโทรศัพท์เริ่มพัฒนาคุณภาพเสียงให้พอฟังเพลงได้ เราก็มีหูฟังสมอลทอล์คสำหรับคุยและฟังเพลงได้ แต่ยังเป็นแบบมีสายอยู่ และหูฟังสมอลทอล์คที่มีคุณภาพดีระดับพอใช้ได้ก็คือหูฟังที่แถมมากับโทรศัพท์ราคาสูงอย่าง iphone นับได้ว่าบริษัท apple ได้วางรากฐานอุปกรณ์ด้านนี้เอาไว้หลายอย่าง

IMG_0465

ส่วนหูฟังที่เน้นการพูดคุยแต่เพียงอย่างเดียวก็ถูกพัฒนาออกมาเป็นหูฟังบลูทูธ เป็นหูฟังข้างเดียวที่ใช้คุยเป็นหลัก โลกเราใช้หูฟังบลูทูธข้างเดียวอยู่เกือบ 20 ปี จนมีคนเริ่มทำหูฟังสำหรับฟังเพลงแบบไร้สายให้คุยโทรศัพท์ได้ พวกเราเลยมีหูฟังสำหรับฟังเพลงและพูดคุยในชิ้นเดียวกัน และสามารถทำเป็นระบบสเตอริโอสำหรับใช้งานสองหูได้ด้วย

จากการพัฒนาการไม่หยุดยั้งของโทรศัพท์มือถือ ก็ผลักดันให้หูฟังกลายเป็นระบบไร้สาย และ apple ก็ออกแบบหูฟังไร้สายออกมาขาย หน้าตาเป็น earbud แบบเดิมที่เคยมีขาย แต่กลายเป็นไร้สาย หรือ ไม่มีสายแล้ว เอา earbud มาถอดสายออกหน้าตาจะดูตลก แต่ใช้งานได้ดีมาก คุณภาพเสียงดีเหมือนเดิม แถมได้มีการออกแบบวิธีการใช้เสียใหม่ ลดความยุ่งยากที่เคยพบกับการเปิดปิด ลดปัญหาการการเชื่อมต่อลงไปหมดสิ้น แม้แต่การชาร์จไฟก็ออกแบบวิธีใหม่ให้ด้วย

เราเรียกหูฟังไร้สายที่ใช้สำหรับฟังเพลงและคุยโทรศัพท์ว่าเป็นหูฟังชนิด true wireless และจากการใช้งานแสนยุ่งยากของหูฟังบลูทูธในอดีต apple ก็ปรับปรุงวิธีการใช้ วิธีการพก วิธีการชาร์จไฟเสียใหม่ กลายมาเป็นหูฟ้งไร้สายที่มีกล่องใส่ มีแบตเตอรี่ในตัวหูฟังและมีแบตเตอรี่ในตัวกล่องใส่ กล่องนี้ทำงานเหมือนเพาเวอร์แบ๊งค์คอยจ่ายไฟชาร์จตัวหูฟัง เมื่อใช้งานหูฟังจนแบตลดต่ำลงเกือบหมด เราก็แค่เอาไปวางเก็บไว้ในกล่อง กล่องก็จะชาร์จไฟให้กับตัวหูฟัง และเมื่อใดที่เราหยิบหูฟังออกจากกล่อง หูฟังก็จะไปเชื่อมตัวเองเข้ากับโทรศัพท์โดยอัตโนมัติ และกล่องใส่หูฟังที่มีไฟในตัวก็เป็นกล่องที่ต้องอาศัยการเสียบสายชาร์จด้วย วิธีการออกแบบแนวนี้ทำให้หูฟังชนิดนี้น่าใช้งานมาก และลดปัญหาการลืมชาร์จไฟให้กับหูฟังได้อย่างยอดเยี่ยมเลย

apple ออกแบบหูฟังไร้สายใหม่ แล้วก็ขายได้ถล่มทลาย ทุกคนที่เปลี่ยนจากหูฟังแบบสายมาเป็นไร้สายก็จะชอบทุกคน เพราะสะดวกและไม่ต้องปวดหัวกับการต่อสาย ทำให้มีผู้ผลิตรายอื่นเข้ามาร่วมออกแบบ ร่วมผลิตเพื่อแบ่งยอดขายกันเป็นจำนวนมาก และยี่ห้อ Happy plugs ก็ทำหูฟัง true wireless หน้าตาเหมือนของ apple ออกมาขายเช่นกัน โดยใช้ชื่อรุ่นหูฟังนี้ว่า Air1

ลักษณะทั่วไป

หูฟัง Air1 เป็นหูฟังชนิด earbud มีแบตเตอรี่ในตัว เชื่อมต่อกับโทรศัพท์หรือเครื่องเล่นเพลงด้วยระบบ Bluetooth ในเว็บผู้ผลิตมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกหลายสีหลายลาย ส่วนในการทดสอบครั้งนี้เราได้สีดำมาลอง การหยิบออกจากกล่องจะเป็นการเปิดการทำงาน และเมื่อวางกลับลงไปในกล่องก็จะเป็นการปิดสวิตซ์ และเข้าสู่การชาร์จไฟอัตโนมัติ ในการควบคุมสั่งการหูฟังรุ่นนี้ ต้องใช้วิธีแตะที่ก้านหูฟัง เป็นการสั่งงานด้วยระบบสัมผัส โดยมีวิธีแตะอยู่หลายรูปแบบ แต่ละแบบก็จะไปทำงานแตกต่างกัน บนตัวกล่องจะมีช่องเสียบสาย micro usb เอาไว้ชาร์จไฟด้วย

IMG_0477

Specification

การเชื่อมจต่อ Bluetooth Version: 5.0

ระยะเวลาการใช้งานรวม 14h

ระยเวลาการใช้งานต่อการชาร์จหูฟัง 1 ครั้ง 3.5ชั่วโมง

Standby Time: 90h

ความจุแบตเตอรี่ในหูฟัง 30mAh

ความจุแบตเตอรี่ในกล่อง 400mAh

ขนาดดอกลำโพง 12mm

ควาไว 95dB ± 3dB

การตอบสนองความถี่ 20-20kHz

ความต้านทาน 16Ω

ขนาดกล่อง 51x63x20mm

น้ำหนักหูฟัง 3.75g

น้ำหนักกล่อง 35g

IMG_0467

ทดลองฟัง

โทรศัพท์ที่ใช้ทดสอบเป็นรุ่น Redmi note7pro และ โน้ตบุ๊ค asus Asus ใช้ซีพียูรุ่น Ryzen5

การสวมใส่กับหูทำได้ดีมาก สบายมาก เพราะพื้นฐานของรูปทรงของ Air1 เป็นหูฟัง earbud ดังนั้นใครคุ้นเคยกับการใช้ earbud ก็จะใช้ Air1 ได้สบายๆ ใส่นานเป็นชั่วโมงก็ไม่รู้สึกหูร้อนหรืออึดอัด ส่วนคุณภาพเสียงก็อยู่ในระดับที่เรียกว่าเสียงดี ลักษณะเสียงจะโปร่งฟังสบาย โทนเสียงย่านเบสมีให้ได้ยินพอดีๆ การตอบสนองของทุกย่านเสียงมีความดังพอๆกัน เสียงกลางเป็นเสียงที่ฟังได้ง่าย เสียงกลางจาก Air1 เป็นเสียงกลางที่ชัด ใส ราบรื่น ส่วนเสียงย่านแหลมก็มีประกาย และไม่เสียดหู

คุณภาพเสียงที่ได้ยินจะคล้ายกับหูฟัง earpod ที่แถมมากับ iphone แต่เพิ่มเบสและความกระฉับกระเฉงขึ้นไปอีกนิด ซึ่งโดยส่วนตัวผมชอบเสียงของหูฟัง earpod อยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ฟังเสียงจากคลิป youtube ก็ให้น้ำเสียงพูดของคนเป็นธรรมชาติ ฟังเพลงก็ได้ความโปร่งและชัด น้ำหนักเสียงเบสจะเหมาะกับการฟังเพลงป๊อป และอคูสติก

IMG_0471

ฟังเพลงร็อคหรือเพลงที่โชว์เสียงย่านต่ำเราจะได้เสียงต่ำที่กระชับ ไม่ล้น ไม่บวม Air1 เป็นหูฟังที่ให้เนื้อเบสไม่ใหญ่ แต่มีความรวดเร็วและไว เสียงกีต้าร์อคูสติกมีความใสและแรงประทะที่ชัด น้ำเสียงของนักร้องผู้หญิงหวานและไม่มีความรู้สึกบีบหรือเสียงอยู่ในกล่อง สามารถติดตามฟังเสียงลม เสียงเอื้อน เสียงลูกคอและเทคนิคการร้องต่างๆได้ชัดเจน มิติเสียงร้องทำได้ดีมาก

ใช้งานหูฟังตัวนี้จะฟังคลิปต่างๆได้เพลินมาก เผลอแป๊ปเดียวหมดเวลาไปเป็นชั่วโมง การสั่งการจะใช้วิธีการสัมผัส วิธีการสัมผัสมีหลายวิธี และหูด้านซ้ายและขวาต่างก็แยกกันรับคำสั่ง จะให้ดีอ่านคู่มือการใช้งานจากผู้ผลิตให้เข้าใจเสียก่อนจะดีที่สุด

การพูดคุยก็ทำได้ดีไม่มีปัญหา ระหว่างที่ฟังเพลง หากมีสัญญาณโทรเข้า เราสามารถแตะที่หูขวา 1 ครั้งเพื่อรับสายได้ และการพูดคุยก็ทำได้รู้เรื่อง ไมโครโฟนที่ติดกับหูฟังรับเสียงคนพูดได้ชัดเจน

touch control air1

มีข้อสังเกตุเรื่องคุณภาพสัญญาณบลูทูธ ตลอดเวลาที่ได้ทดสอบหูฟังตัวนี้ในบ้าน ในรถ ก็พบว่าเป็นหูฟังที่ใช้งานได้ง่าย สะดวก และสัญญาณค่อนข้างดี อาการสายหลุดหรือเสียงหายจะมีน้อย แทบจะไม่ผิดพลาดเลย แต่พอนำหูฟังตัวนี้ติดไปเดินห้าง โดยเสียบหูฟังเพื่อฟังเพลง แล้วเครื่องเล่นหรือโทรศัพท์อยู่ในกระเป๋ากางเกง เสียงจากหูฟังจะติดๆดับๆ มีอาการเหมือนสัญญาณหาย แนะนำว่า หูฟังตัวนี้ไม่เหมาะกับห้าง และไม่เหมาะที่จะใช้ในบริเวณที่มีคนจำนวนมาก ยิ่งหากเราใช้งานในบริเวณที่ขายเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือ ขายสมาร์ททีวีเยอะๆ อาการสะดุดจะยิ่งชัด หากเจอสถานการณ์เสียงสะดุดจะต้องใช้วิธีถือโทรศัพท์แทนการใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง เพื่อให้โทรศัพท์กับหูฟังไม่มีสิ่งใดกั้นไว้ จะช่วยให้รับสัญญาณในที่คนเยอะมากๆได้

ส่วนการนั่งกินอาหารในห้าง เราวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ ก็ทำงานได้ปกติดี อาการเสียงสะดุดหรือสัญญาณหาย จะเกิดกับบริเวณที่มีคนเยอะมากๆ เข้าใจว่าเป็นเพราะโทรศัพท์ของคนอื่นๆมีการส่งสัญญาณคลื่นความถี่ที่รบกวนหูฟังที่เราใช้งานอยู่ ผมลองโทรถามเพื่อนที่ใช้งานหูฟังบลูทูธเป็นประจำว่าเวลาเดินห้างมีปัญหาแบบนี้ไหม เพื่อนบอกของเขาก็มีอาการเดียวกัน เปลี่ยนมาหลายยี่ห้อก็ยังไม่หาย เชื่อว่าการรบกวนในห้างเป็นสิ่งที่เลี่ยงได้ยากมากสำหรับหูฟัง true wireless

ทดลองให้ภรรยาไปใช้ลองดูซีรีส์จากมือถือ iphone 6s ภรรยาแจ้งว่า เสียงดี และเสียงไม่ดีเลย์ ส่วนการฟังเพลงมีความเห็นว่า เสียงไม่แบน ปกติหูฟังสายที่ใช้ดูหนังฟังเพลงจะให้เสียงแบน ฟังเอาข้อความไม่ได้ฟังเอาความไพเราะ (ผมให้เขาใช้ oker ds300 เส้นละ 120บาท ไม่ใส่ฟองน้ำ) แต่กับ Air1 เขาได้ยินเสียงร้อง แยกจากเสียงดนตรี ตำแหน่งดนตรีมีซ้าย กลาง ขวา มีตัวตน ไม่แบน พอรู้ราคาว่าประมาณสามพันบาท เขาบอก “ไม่แพง ซื้อได้”

ข้อดี

เสียงดี โปร่ง ฟังสบาย ฟังได้นานไม่อึดอัด ใช้ดูหนังได้ไม่ดีเลย์ แบตใช้ได้นาน คุยโทรศัพท์รู้เรื่องดี

ข้อด้อย

สัญญาณสะดุดในที่ชุมชนคนเยอะ ต้องแก้ปัญหาด้วยการถือโทรศัพท์ด้วยมือ แทนที่การใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง

สรุป

หูฟัง Air1 เป็นหูฟัง earbud ระบบไร้สาย หรือ true wireless ที่สวมใส่ได้สบายมาก คุณภาพน้ำเสียงตอบสนองได้ราบลื่น น้ำเสียงน่าฟัง เสียงร้องหวานใส เสียงเบสกระชับ สามารถฟังได้นานโดยไม่ล้าหู สามารถสั่งการได้ด้วยระบบสัมผัส คุณภาพเสียงดีสำหรับการฟังดนตรี ใช้พูดคุยได้รู้เรื่อง มันยอดเยี่ยมมากสำหรับการใช้งานระหว่างขับรถและระหว่างการทำงาน ส่วนการใช้งานในที่มีคนเยอะหรือมีอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์เยอะอย่างในห้างก็จะมีอาการเสียงสะดุด แต่ก็แก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยการถือโทรศัพท์ไว้ในมือได้ เมื่อเดินผ่านจุดที่สร้างปัญหาเราจะกลับมาได้ยินเสียงที่ปกติ

ขอขอบคุณร้าน ร้านมั่นคงแก็ดเจ็ท ที่เอื้อเฟื้อให้ยืมสินค้ามาทดสอบนะครับ

รีวิว xiaomi compact bluetooth speaker 2

IMG_0015




ลำโพงบลูทูธตัวใหม่ของ Xiaomi ที่ทำออกมาขนาดเล็กมาก และราคาถูกมาก รุ่นนี้ตัวถังเป็นพลาสติกเนื้อแข็ง มีเพียงปุ่มเดียวคือกดเพื่อเปิด และกดเพื่อปิด เป็นปุ่มกดอยู่ด้านล่าง ต้องยกลำโพงหงายท้องถึงจะเห็นปุ่มกด ตัวมันเองไม่สามารถต่อสัญญาณ Aux ได้ ดังนั้นมันจะถูกใช้งานด้วยการเชื่อมบลูทูธเท่านั้น

ผมเดินผ่านร้านขาย Mi ในห้าง เลยถือโอกาสมองหาว่ามีขายหรือยัง เพราะตั้งแต่ได้ข่าวว่าเปิดตัวก็ขายดีมาก ถามไปยังเพื่อนที่เป็นตัวแทนจำหน่ายก็ได้รับคำตอบว่าของเข้ามาก็หมดแทบตลอด วันนี้เดินผ่านเห็นว่าวางขายให้ซื้อได้ง่ายแล้วก็เลยจัดมา 1 ตัว

สอบถามคนขายว่าตัวใหม่รุ่น2 เทียบกับตัวเก่ารุ่น1 คุณภาพต่างกันไหม คนขายบอกเสียงเหมือนกัน ก็เลยซื้อรุ่นใหม่มา เพราะราคาถูกกว่ารุ่นแรก กลับมาถึงบ้านก็จัดการทดลองฟัง สิ่งที่ฟังทดสอบก็คือเพลงต่างๆในโทรศัพท์ และรายการที่ฟังทาง youtube เป็นหลัก

IMG_5985

หลังจากที่ทดลองใช้ได้ 2 วันก็ได้ข้อสรุปสำหรับตัวผมเองบันทึกไว้ให้อ่านกันดังนี้

1 Xiaomi เสียงดัง ฟังชัด แต่เบสน้อย เหมาะเอาไว้ฟังข่าว ฟังเสียงพูด ฟังเอาเนื้อหา ไม่ได้ฟังเอาอรรถรส

2 คุณภาพเสียงของ Mi ตัวนี้ยังไม่ดีกว่าลำโพงบลูทูธอย่าง JBL go ที่ให้เสียงได้ใหญ่กว่า เบสชัดกว่า ลงลึกกว่า ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะค่าตัวของ JBL go แพงกว่ากันหลายเท่าตัว

3 ลำโพง Mi ตัวนี้หน้าตาน่ารัก ดูแล้วอยากพก อยากเอามาร้อยเชือกแล้วติดเป็นพวงกุญแจ ซึ่งในกล่องที่มากับลำโพงมีสายคล้องมาให้ด้วย เจตนาน่าจะเอาไว้คล้องเพื่อติดตัวเจ้าของ

4 ใช้เป็นของขวัญ ของแจกได้ เพราะมันเป็นสินค้าที่น่ารักน่าใช้ แม้ว่าจะคุณภาพสู้ตัวราคาสูงไม่ได้ แต่มันก็ใช้งานในการฟังข่าวหรือฟังเพลงได้สมกับค่าตัว เมื่อหลายปีก่อนหากจะใช้ลำโพงบลูทูธสักตัว เราคงต้องมองหาของใหญ่ๆที่เกินกว่าจะพกพาได้ การที่ mi ทำออกมาเป็นตัวเล็กก็ต้องชื่นชมว่าพัฒนาของลำโพงเล็กทำได้น่าทึ่งมาก

IMG_20190415_194227


ลำโพงราคาเพียง 299 บาท เราคงไม่ต้องคาดหวังคุณภาพเสียงจากตัวมัน ส่วนฟังค์ชั่นที่มันทำได้ ก็คือมันเป็นลำโพงพกพาที่เล็กที่สุดในโลก

IMG_20170615_175140-01
ลำโพง jbl go เป็นลำโพงพกพาขนาดเล็กที่ผมยังเชื่อว่าดีที่สุดในตลาด



IMG_20170604_151458-01

การจัดถ่ายสินค้าอย่างง่าย

การถ่ายภาพสินค้าให้ชัดและดูสวยงามได้มาตรฐาน สามารถนำไปใช้เป็นภาพตัวอย่าง หรือ ทำสื่อสิ่งพิมพ์ ทำแค็ตตาล๊อคได้  ก็มีเทคนิกไม่ซับซ้อน  หากถ่ายด้วยแฟลช 1 ตัว กับกล่องไฟที่ดัดแปลงนิดหน่อยจากของเหลือ เราก็จะได้วิธีและอุปกรณ์สำหรับการถ่ายภาพสินค้าที่ให้คุณภาพระดับมืออาชีพได้ไม่ยาก

IMG_0047

กล่องไฟให้ใช้วิธีดัดแปลงกล่องกระดาษที่ใส่ของใหญ่ๆมา  เราเอากล่องเปล่ามาเจาะ 3 ด้าน  คือ ด้านบน  ด้านซ้าย และด้านขวา  เมื่อเจาะครบแล้วก็ทำการติดกระดาษเนื้อบางสีขาวลงไปในด้านที่เจาะ  เพื่อให้กล่องกระดาษทำหน้าที่เป็นเต๊นท์ถ่ายภาพ   แล้วก็ตัดกระดาษสีขาวยาวกว่าขนาดกล่องสัก 2 เท่า เอามาไว้ทำผนังด้านหลัง และลากยาวผ่านพื้นกล่อง ออกมาถึงด้านหน้ากล่องที่ปล่อยให้ยาวเลยออกมา

 

IMG_0038

 

จัดให้แสงแฟลชส่องจากด้านบนกล่อง แสงจะวิ่งผ่านกระดาษบางด้านบน  แสงก็จะมีความนุ่มมากขึ้น และเมื่อเข้าไปในกล่องก็จะสะท้อนกับกระดาษสีขาวทั้งหมด  แสงที่ตกไปถึงวัตถุก็จะมีความนุ่มนวลมาก

 

IMG_0036

 

การจัดแสงถ่ายในกล่องรูปแบบนี้ให้คุณภาพงานที่ดีเพียงพอสำหรับการถ่ายเพื่อเอาภาพสินค้าไปทำแค็ตตาล็อค  เพราะใช้ต้นทุนต่ำ  ใช้อุปกรณ์น้อย  และมีความเรียบง่าย  สามารถใช้ถ่ายภาพสินค้าส่วนใหญ่ได้ทันที  ขอเพียงให้สินค้านั้นมีขนาดไม่ใหญ่เกินกว่าขนาดกล่อง  วางในกล่องแล้วเหลือพื้นที่รอบตัวเล็กน้อย  ก็ทำงานได้แล้ว