ไสกาวหนังสือ 500 หน้า

วันนี้มีลูกค้าที่ได้รับการแนะนำจากลูกค้าเก่ามาท่านหนึ่ง โทรคุยกันเรื่องการไสกาวหนังสือความหนาประมาณ 500 หน้า ลูกค้าไปถ่ายเอกสารหรือพิมพ์เป็นงานกระดาษ A4 ความหนา 80g แต่ว่าร้านนั้นไม่สามารถเข้าเล่มงานที่มีความหนาประมาณ 3.5cm ได้ ซึ่งความหนาระดับนี้ควรจะต้องทำเป็นงานไสกาวเท่านั้น และการทำงานไสกาวก็จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรเฉพาะทาง

ทางโรงพิมพ์มีเครื่องไสกาวที่สามารถทำงานได้ความหนาระดับ 5cm ซึ่งโรงพิมพ์ก็ยังไม่เคยได้ลองทำงานที่หนาระดับนี้ แต่กับงานลูกค้าท่านนี้ 3.5cm เราก็คิดว่าน่าจะทำได้ แต่ก่อนจะยืนยันว่ารับงานทางโรงพิมพ์ก็ทดลองทำด้วยการใช้เสษกระดาษมาลองเข้าเล่มดู โดยกะประมาณความหนาของเศษกระดาษให้ใกล้เคียงงานจริง จากนั้นก็ทดลองไสกาวดู และเมื่อพบว่าทำได้ ก็แจ้งกับลูกค้า ลูกค้าก็ยืนยันให้ทำได้เลย

เครื่องจักรที่เราใช้ก็ดูได้จากในคลิปวิดีโอได้เลย ผลการทำงานก็ประสบความสำเร็จ ลูกค้าให้ทางโรงพิมพ์ด้วยพิมพ์ปกให้ด้วย เรารับไฟล์งานปกหนังสือจากลูกค้า จากนั้นปรับแต่งให้ปกมีความหนาของสันหนังสือเท่ากับเนื้องานตัวจริงด้วย เมื่อทุกอย่างพร้อม ก็เริ่มทำงาน

หนังสือที่ไสกาวเสร็จแล้ว รอเวลาแห้งตัวสัก 3 ชม. แล้วก็ทดลองถือแบบในคลิปดู พบกว่า หนังสือมีความแข็งแรง และไม่หลุดร่อน ก็ถือว่าจบงานได้เรียบร้อย

IMG_20220318_100231

IMG_20220318_100420

พิมพ์การ์ดแต่งงานสวยๆอีกใบ

ก่อนจะเริ่มอ่าน เปิดเพลงแรกนี้ไว้เลย แล้วค่อยๆอ่าน เพื่ออรรถรสครับ


วันหนึ่ง

มีข้อความมาทางโปรแกรม line ติดต่อเข้ามาเพื่อสอบถามเรื่องการพิมพ์การ์ดแต่งงานด้วยระบบ letterpress ซึ่งผมก็รับข้อมูลแล้วคำนวณราคาแจ้งกลับไป การ์ดของเจ้าสาวท่านนี้จำนวนน้อย แต่เราก็รับทำ เพราะว่าเราชอบทำการ์ดแต่งงาน การได้เห็นการ์ดที่ออกแบบสวย และได้ทำมันออกมาอย่างตั้งใจเป็นสิ่งที่ช่วยให้โรงพิมพ์ของเราพัฒนา

IMG_20220224_173644

การ์ดคุณไหมเป็นการ์ดที่เลือกพิมพ์ด้วยส่วนที่เป็นหมึกพิมพ์ 1 สี และฟอยล์สีทองอีก 1 สี โดยหมึกพิมพ์ทางเจ้าภาพเลือกสีจากสมุดสีแพนโทน และเลือกฟอยล์สีทองเข้มจากตัวอย่างที่เรามีในโรงพิมพ์ ส่วนกระดาษก็จะเป็นกระดาษชานอ้อยสีขาว ซึ่งเราก็ใช้งานบ่อยกับหลายๆงาน เมื่อเลือกทุกอย่างลงตัว เราก็พิมพ์ตัวอย่างด้วยระบบดิจิทัลออกมาเป็นตัวอย่างที่เป็นขนาดเท่าจริงแล้วให้คุณไหมได้ลองจับถือดู ดูขนาดเมื่อถือขนาดจริง ดูขนาดตัวหนังสือที่พิมพ์ออกมาแล้วใหญ่หรือเล็กแค่ไหน เมื่อเห็นภาพจริงทั้งหมดแล้วก็ตกลงเริ่มพิมพ์

20220224164122_IMG_0009

เราใช้เวลาเตรียมแม่พิมพ์ทั้งสองชิ้นประมาณ 7 วัน เพราะขั้นตอนการทำแม่พิมพ์จะใช้เวลานานเกือบจะที่สุดของการพิมพ์ letterpress เมื่อได้แม่พิมพ์มาแล้วเราก็ทะยอยพิมพ์หมึกด้วยสีเทาอมเขียวตามค่าสีแพนโทนที่เลือกเสียก่อน ซึ่งการผสมสีตามสีแพนโทนค่อนข้างจะต้องใช้เวลาพอสมควร สีเขียวขี้ม้าเข้มๆแนวนี้ผสมยากกว่าที่คิด เราผสมครั้งแรกได้สีที่ไม่ใกล้เคียงเลย ช่างพิมพ์ต้องล้างสีทิ้งแล้วผสมใหม่อีกรอบ โดยรอบสองนี้ทำได้ใกล้เคียงมาก เพื่อตรวจด้วยสายตาแล้วแทบจะตรงเป๊ะกับในเล่มแพนโทน ขั้นตอนนี้พิมพ์การ์ดไม่กี่ใบ เราใช้เวลากับเครื่องพิมพ์และขั้นตอนการผสมสีรวมๆกันเกือบ 6 ชั่วโมง จะเรียกว่าเกือบเต็มวันก็ได้

20220224163830_IMG_0003

เมื่อทำสีแรกจบแล้วเราก็วางการ์ดตากไว้อย่างนั้น 1 วันเต็มๆเพื่อให้หมึกแห้งตัวสนิท เพราะขั้นตอนต่อไปคือการพิมพ์ด้วยฟอยล์สีทอง การพิมพ์ด้วยเทคนิคของฟอยล์จะเป็นเครื่องพิมพ์ที่ต้องใช้มือจับการ์ด ดังนั้นการ์ดต้องแห้งสนิทเพื่อไม่ให้เกิดการเปื้อนนั่นเอง เมื่อทำจบครบทุกชั้นตอนแล้วเราก็จะได้การ์ดตรงกับที่ออกแบบไว้ ซึ่งการ์ดตัวนี้ออกแบบมาแบบเรียบง่ายแต่ดูสวย ตัวหนังสือไม่มากเกินไป ทำให้การ์ดสวยงามมาก

เราถ่ายคลิปวิดีโอตอนพิมพ์การ์ดเอาไว้ด้วยซึ่งแต่ละขั้นตอนก็ไม่ได้ซับซ้อน การที่มีเครื่องพิมพ์ทุกตัวอยู่ในโรงงานทำให้เราควบคุมคุณภาพและเวลาได้ตามที่ต้องการ ปัญหาอะไรที่อาจจะเจอเราก็จะได้เจอและแก้ปัญหาได้ทันที หลังจากที่ส่งมอบการ์ดให้กับเจ้าภาพเรียบร้อยแล้วทางโรงพิมพ์ก็ขออนุญาตถ่ายรูปชิ้นงานเพื่อนำมาเขียนลงในเว็บด้วย และทางเจ้าภาพก็ยินดี ขอบคุณคุณไหมที่มาใช้บริการของเราครับ

ครบ 10 ปี เครื่องพิมพ์อ๊อพเซ็ท

IMG_0089

โรงพิมพ์ของผมซื้อเครื่องพิมพ์อ๊อพเซ็ท 4 สี มือสองเข้ามาใช้งานตั้งแต่ช่วงปี 2554 ซึ่งเป็นปีที่ประเทศไทยมีภัยน้ำท่วมใหญ่ และเป็นปีที่พ่อผมเสียชีวิตจากโรคมะเร็งในช่วงปลายปี พ่อผมมีโอกาสได้เห็นเครื่องพิมพ์ 4 สี วางอยู่ในโรงพิมพ์ ผมรู้สึกว่ามันเป็นความสำเร็จของคนปากกัดตีนถีบคนนึงที่ดิ้นรนทำมาหากินและสร้างครอบครัว ส่งลูกเรียนจบและมีอาชีพทิ้งไว้ให้ลูกหลาน

DSCF4375


เครื่องพิมพ์ไฮเดลเบิร์ก เป็นเครื่องพิมพ์มือสอง ผมไม่รู้ประวัติของเครื่องนี้เท่าไหร่นัก แต่มันมาตั้งในโรงพิมพ์ในตอนที่มิเตอร์บนเครื่องชีไปไป 47327770 รอบ ซึ่งผมถ่ายภาพนี้ไว้ในวันที่ 16ธันวาคม2554

20111216_173452

เวลาเลยผ่านมาเหมือนไม่นาน รู้ตัวอีกทีก็ครบ 10 ปี มันเป็น 10 ปีที่มีความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เรามีช่วงเวลาที่ทำงานไม่ทัน งานล้นมือ เรามีช่วงเวลาที่งานซบเซา บางวันต้องปิดเครื่อง ปิดไฟโรงงาน และในช่วงที่มีโควิดระบาดหนักๆ ช่างพิมพ์หลายคนในโรงพิมพ์ก็ต้องหยุดงานเพราะติดเชื้อ โรงพิมพ์ทำงานต่อไม่ได้ งานบางงานต้องไปขอให้โรงพิมพ์อื่นช่วยเหลือช่วยพิมพ์ให้

วันที่ครบ 10 ปี คือ 16ธันวาคม2564 ผมถ่ายภาพนี้เก็บไว้อีกครั้ง

2021-12-16_05-02-45

มิเตอร์ขึ้นเลข 77740023 ซึ่งพอนำมาคิดหักลบกับตัวเลขเริ่มต้นแล้ว ก็จะได้

77740023 – 47327770 = 30412253 หรือประมาณ 30 ล้านรอบ

ตัวเลข 30 ล้านรอบนี้บอกอะไรเราบ้าง

ถ้านับงานกระดาษใบปลิว A4 พิมพ์ 2 หน้า เราจะพิมพ์งานนี้ไปแล้ว 60 ล้านใบ ผมก็ไม่รู้ว่ามันมากหรือน้อย เครื่องพิมพ์เครื่องนี้ทำเงินให้เราเกินค่าตัวของมัน แม้ว่าธุรกิจสิ่งพิมพ์จะเป็นดาวร่วงในมุมมองของนักบริหารและนักการตลาด แต่เราก็ยังคงต้องทำอาชีพนี้อยู่ และปรับเปลี่ยนงานพิมพ์ไปพิมพ์สิ่งที่ผู้คนยังต้องใช้งาน หนังสือพิมพ์ไม่มีคนซื้อแล้ว เราก็ไม่ต้องพิมพ์ นิตยสารขายไม่ได้แล้วเราก็ไม่ต้องพิมพ์ ซึ่งสองอย่างนั้นก็ไม่เคยเป็นงานของโรงพิมพ์เราอยู่แล้ว แต่ประเทศเรายังต้องการกล่องใส่อาหาร กล่องใส่ขนม อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ ยังต้องการโบรชัวร์ ยังต้องมีเอกสาร คู่มือผลิตภัณฑ์ ยังต้องมีหนังสือให้ความรู้ พ็อกเก็ตบุ๊ค นิยาย การ์ตูน หนังสือเรียน ยังมีสติ๊กเกอร์อีกหลายชนิดสำหรับติดกล่อง ติดขวด ติดตามสินค้าและกล่องต่างๆ

เทคโนโลยีทางการพิมพ์ของโลกเราเริ่มต้นจากการเรียงพิมพ์ด้วยตัวหนังสือโลหะ จาก letterpress สู่การพิมพ์ offset และเป็นระบบดิจิทัลในปัจจุบัน ที่น่าทึ่งก็คือ ทุกเทคโนโลยียังคงมีอยู่ในปัจจุบัน ไม่มีของใหม่ที่ไปทำลายของเก่า ในโรงพิมพ์เรายังมี letterpress ที่ขาดไม่ได้ ยังมี offset ที่เป็นกำลังหลักของวงการพิมพ์ และมีดิจิทัลสำหรับงานเร่งด่วนและพิมพ์ข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงไปทุกใบได้ ทุกเทคนิคการพิมพ์ในปัจจุบันยังคงมีบทบาทอยู่ วงการพิมพ์ไม่ได้ล่มสลาย การปรับตัวของผู้บริโภคทำให้ความจำเป็นในการใช้สิ่งพิมพ์เปลี่ยนรูปแบบไป สิ่งที่แน่นอนก็คือ ไม่มีใครซื้อขนมที่ไม่มีแพ็คเกจห่อหุ้ม ไม่มีใครซื้อยากินเป็นเม็ด ทุกคนต้องการของกินที่อยู่ในหีบห่อหรือในกล่อง ไม่ใช่แค่ของกิน แต่ของขายในห้างในมาเก็ตเพลสก็ต้องการหีบห่อและเอกสารประกอบทั้งนั้น โลกเรายังต้องมีสิ่งพิมพ์

ปฏิทิน 365+1 วัน

20211209174712_IMG_0170

ในทุกเทศกาลปีใหม่ เราจะได้พบเห็นปฏิทินหลายชนิดที่ทำมาแจกเพื่อให้เราได้ใช้งานปฏิทินปีถัดไป ปฏิทินที่มีอยู่เราจะเริ่มต้นวันที่ 1 มกราคมเสมอ ไม่ว่าจะเป็นของใครทำแจก และจะมีวันที่เรียงไปถึง 31 ธันวาคมของปีถัดไป ก็จะครบ 1 ปี หรือบางครั้งเราก็จะพบว่า บางเล่ม ให้วันที่เลยไปถึง 31 มกราคมของปีถัดไป หรือเป็นปฏิทิน 13 เดือนนั่นเอง

จริงๆปฏิทินแค่มีวันที่เกิน 12 เดือน ก็น่าจะใช้งานได้แล้ว และไม่จำเป็นจะต้องเริ่มต้นวันที่ 1 มกราคมเสมอไป ผมอธิบายเรื่องนี้กับคู่แต่งงานคู่หนึ่ง ถ้าวันแต่งงานเป็นวันที่ดีสำหรับครอบครัวเรา เราก็นับหนึ่งวันแต่งงาน แล้วปฏิทินของคู่รักก็นับไป 12 เดือน ไปครบรอบวันสุดท้ายของเล่มตรงกับวันนี้ปีหน้าก็ได้นี่นา นี่คือที่มาของคำว่า 365 +1

ผมก็เลยทำปฏิทินให้คู่รักคู่หนึ่งที่มาพิมพ์การ์ดแต่งงานกับผม เมื่อแจกการ์ดแล้ว จัดงานผ่านไปแล้ว มีภาพประทับใจในวันงานแล้ว ผมก็ไปเลือกภาพจากเฟสบุ๊คของเจ้าบ่าวเจ้าสาว เลือกภาพที่เขายอมให้เผยแพร่ได้มาเขียนบทความ และขอนำไปใช้ทำของที่ระลึก ทางเจ้าภาพไม่ขัดข้อง ก็เลยนำมาทำปฏิทินเล่มนี้

วันแรกของวันดีๆของคู่รักคู่นี้อย่างเป็นทางการคือวันแต่งงาน ผมเริ่มวันแรกของเล่มด้วยวันแต่งงาน และทำปฏิทินไปอีก 12 เดือน + 1 วัน ก็คือ จะมี 13 เดือนนั่นเอง วันสุดท้ายของเล่มคือวันครบรอบแต่งงาน เจ้าภาพบอกว่าเก๋ดี เขาก็ชอบไอเดียนี้ ผมก็รู้สึกดีใจที่มีคนชอบ และมันก็จะช่วยเตือนคู่รักด้วยว่า วันครบรอบแต่งงานจะมาถึงเมื่อไหร่ ผมทำ 2 เล่มให้คู่รักเผื่อเขาอยากจะเก็บยาวๆเล่มนึง และใช้งานเล่มนึง


ทำนามบัตรแบบมี qr code

Qr code ได้รับความนิยมในการใช้งานอย่างมากในยุค 5g ทั้งระบบการเงิน ระบบการบอกตำแหน่ง และการใช้งานอเนกประสงค์ หาเราบันทึกข้อมูล contact ที่มีรายละเอียด ชื่อ เบอร์โทร อีเมล เป็น qr code แล้ว เราก็สามารถนำไปวางไว้ในนามบัตรได้ และผู้ที่รับนามบัตรไปก็สามารถใช้โทรศัพท์มือถือหรือแท็บเบล็ตสแกน ข้อมูลก็จะแสดงขึ้นมา และสามารถเลือกยันทึกลงโทรศัพท์ได้เลย

ลองทำหนังสืออ่านเล่น

หลังจากที่ได้เขียนบล๊อกแห่งนี้มาประมาณสิบปี มีบทความหลากหลายชนิด ก็เลือกบางอย่างมารวมเป็นเป็นเล่ม แล้วลองจัดวางออกแบบให้เป็นหนังสือ เนื้อหาที่เลือกมาจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอวกาศและดวงดาว เป็นการรวมเรื่องมาใส่หนังสือทันทีเลย ยังไม่ได้ปรับแต่ง หรือดัดแปลงสิ่งที่เขียน เพราะอยากรู้ว่า เนื้อหาเกี่ยวกับดวงดาวที่เคยเขียนนั้นจะเยอะพอไหมสำหรับการรวมเล่มเป็นหนังสือ

IMG_20211020_072459

เมื่อลองพิมพ์เป็นเล่มออกมาก็ได้หนังสือความหนาประมาณ 65หน้า โดยมีรูปประกอบอยู่บ้าง ด้วยความที่มีเครื่องพิมพ์ดิจิทัลใช้งานอยู่ การพิมพ์หนังสือแค่เพียง 1 เล่มเพื่อทำเป็นตัวอย่างก็เป็นเรื่องง่าย แถมยังมีเครื่องไสกาวอีกด้วย ทำให้หนังสือแบบพ็อกเก็ตบุ๊คเข้าเล่มไสสันทากาวแบบนิตยสารก็ทำได้ไม่ยากเลย

ลองเอาหนังสือให้ลูกอ่าน ลูกก็อ่านแล้วยิ้มๆ บางตอนเป็นเนื้อหาที่พ่อคุยกับลูกในตอนที่เขาอายุสัก 6 ขวบ พอมาอ่านตอน 9 ขวบ บางตอนก็ทำให้เขาหันหน้าขึ้นมายิ้ม แล้วถามกลับมาว่า วันนั้นพ่อหลอกเขาเหรอ ผมก็บอกเปล่า บางเรื่องตอนนั้นต้องเล่าแบบนั้น งานเขียนต้องเลือกเขียนสิ่งที่น่าอ่าน งานเล่าต้องเล่าสิ่งที่น่าฟัง มารยาของช่างภาพก็ต้องทำให้ภาพสวย มารยาของนักเขียนก็ต้องชักจูงให้คล้อยตาม บรรยายให้เห็นภาพ งานหนังสือเป็นงานศิลปะการเล่าเรื่อง

เนื้อหาในหนังสือตามภาพคือเรื่องนี้

ภาพคู่รัก

วันนี้ได้มีโอกาสถ่ายภาพของคู่รักที่กำลังจะแต่งงานกัน ท่ามกลางวิกฤตโควิด รัฐบาลมีคำสั่งล็อคดาวน์ ห้ามการเดินทาง ห้ามการจัดงาน ห้ามการรวมตัว ตั้งแต่ปี 2020 ถึง 2021 เดี๋ยวเปิด เดี๋ยวปิด ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวสูญสลาย งานสัมมนาและงานบันเทิงต่างๆเลือนหาย คู่แต่งงานบางคู่ก็ไม่ได้จัดงาน ซึ่งน้องคนนี้ เป็นอีกคู่หนึ่งที่วางแผนแต่งงานกัน

1633670648436-01

เมื่อหลายเดือนก่อนผมเคยทำการ์ดแต่งงานของคู่แต่งงานคู่หนึ่ง หลังจากส่งมอบการ์ดเรียบร้อยแล้ว และเหลือเวลาอีกประมาณ 30 วันที่จะจัดงาน ก็เกิดการระบาดครั้งใหญ่และรัฐบาลสั่งล็อคดาวน์ ผลเป็นอย่างไรผมก็ไม่กล้าถามลูกค้า แต่ว่า ส่งข้อความไปบอกลูกค้าว่า ถ้าต้องเลื่อนจัดงาน และหากต้องพิมพ์การ์ดใหม่ ผมจะพิมพ์ให้ในราคาต้นทุนเลย ไม่คิดราคาเต็ม หรือจะให้แถมการ์ดระบบดิจิทัลพิมพ์แบบราคาย่อมเยาเร่งด่วนให้ก็ได้ แต่ลูกค้าก็ไม่ได้ตอบอะไร

20211007155528_IMG_0530

น้องคนในภาพเป็นน้องที่กำลังจะแต่งงานกัน น้องและเจ้าบ่าวสั่งพิมพ์การ์ดแต่งงานกับทางโรงพิมพ์ และเข้ามาดูใบทดสอบว่าโทนสีเป็นอย่างไร เลือกกระดาษที่ถูกใจ แล้วก็ดำเนินการเลย จากการสอบถามก็ทราบว่า กำหนดการแต่งงานถูกเลือกอย่างกระชั้นมาก เพราะช่วงนี้เป็นจังหวะที่รัฐบาลผ่อนคลาย อนุญาตให้เดินทางและจัดงานได้แต่ต้องจำกัดจำนวนคน เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็เลยต้องเตรียมตัวกันอย่างเร่งด่วน เวลาที่ไม่นาน กับสิ่งที่ต้องทำต้องเตรียมอีกมาก

เมื่อมาถึงโรงพิมพ์ก็ขอถ่ายภาพคู่เอาไว้เป็นที่ระลึก ผมอยากถ่ายภาพคู่รัก อยากมีภาพที่ดูมีความน่ารักน่ามองเก็บไว้ และก็ได้เลือกภาพนี้มาอัดเป็นภาพเล็กๆให้กับเจ้าภาพเพื่อเป็นของที่ระลึก หวังว่าการเตรียมงานของทั้งสองคนจะลุล่วงและสนุกกับการจัดงาน

Screen Shot 2564-11-15 at 11.11.50

ข้อมูลการถ่ายภาพ

กล้อง canon eos 6d เลนส์ ef 100 macro เลือกใช้รูรับแสง f2.8 เพื่อให้ภาพมีระยะชัดตื้นน้อยๆ เน้นให้ฉากหลังเบลอ บอกเจ้าสาวกับเจ้าบ่ายให้โพสท์แบบเอาหัวชนกัน แล้วก็ถ่ายไว้ 2 ภาพ ผมเลือก 1 ภาพมาปรับแต่งด้วย app ชื่อ snapseed ที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือ เลือกปรับโทนสีของภาพให้ดูเก่าๆและสีเพี้ยนไปทางสีอมเขียวเล็กน้อย ภาพออกมาก็ถูกใจคนถ่าย และได้อัดภาพนี้เป็นกระดาษโดยเลือกกระดาษพิเศษเป็นกระดาษชานอ้อยสีขาว ซึ่งเป็นกระดาษที่นิยมใช้ทำงานการ์ด letterpress

และเมื่อใกล้วันจัดงาน เจ้าภาพอยากมีภาพแสดงที่งานแต่งงานด้วย โดยจะพิมพ์ภาพไปใส่กรอบวางหน้างาน โรงพิมพ์ก็แถมภาพถ่ายขนาดใหญ่ให้อีก 1 ใบ

250762132_5129998143682185_8544724725221955556_n

ภาพขนาดเท่าใดที่จะใช้ทำสิ่งพิมพ์คุณภาพสูง

การพิมพ์ภาพในโรงพิมพ์ให้ได้คุณภาพมีความคมชัดเราไม่จำเป็นต้องถ่ายภาพด้วยความละเอียดสูงลิบ เพราะคุณภาพของสิ่งพิมพ์จะเปลี่ยนไปตามขนาดที่เราสั่งพิมพ์ หากเราพิมพ์ภาพเต็มกระดาษ A4 เราต้องใช้ภาพที่มีจุดภาพหรือ pixel ขนาด 2400×3600 pixel ซึ่งเทียบเท่ากับความละเอียดภาพ 8 ล้านพิกเซล

แต่หากเราพิมพ์แค่ภาพขนาด โปสการ์ด 4×6 นิ้ว ภาพที่ใช้ก็จะต้องการพิกเซลเพียง 1200×1800 pixel เท่านั้น ซึ่งนับเป็นความละเอียดประมาณ 2 ล้านพิกเซล ดังนั้น ภาพที่เราจะใช้ทำอาร์ตเวิร์คเพื่อส่งโรงพิมพ์ ไม่ยจำเป็นต้องเป็นภาพความละเอียดสูงที่สุด

โชคดีที่ทุกวันนี้กล้องจากโทรศัพท์มือถือสามารถถ่ายภาพได้ละเอียดเกินกว่า 8 ล้านพิกเซลไปเกือบหมดแล้ว นั่นหมายความว่า ถ้าภาพถ่ายจากมือถือมีความคมชัด มีสภาพแสงที่สวย เราก็ใช้ภาพจากมือถือไปทำงานสิ่งพิมพ์ได้เลย แต่ขอให้ส่งภาพละเอียดนั้นๆผ่านระบบอีเมลโดยไม่ย่อภาพ อย่าส่งผ่านโปรแกรม line หรือ โปรแกรมchat ต่างๆ เพราะโปรแกรม chat ทุกชนิด จะย่อขนาดภาพของเรา ทำให้คุณภาพลดลง.

พิมพ์กระดาษห่อขนมแบบระวังโควิด

โควิด19 ระบาดทั่วโลก ในไทยก็ยับเยิน ติดเชื้อกันวันละหลายหมื่นคน เดือนสิงหาคมปี พศ 2564 นี้มีคนตายวันละสองร้อยกว่าคน เป็นเรื่องเศร้าของทุกครอบครัว ธุรกิจหลายอย่างชะงักงัน งานโรงพิมพ์ก็หดหาย แถมมีช่วงเวลาที่พนักงานในโรงงานมีการติดเชื้อ ต้องหยุดรักษาตัว คนยังไม่ติดก็ต้องกักตัว ถึงเราจะยังไม่ตาย แต่รายได้ก็หยุด ไม่ตายจากโควิดก็อาจจะตายจากการไม่มีรายได้

IMG_0050

ในระหว่างที่เรายังอยู่ในวิกฤติโรคระบาด งานพิมพ์หลายอย่างก็ยังคงต้องทำ และเราก็ต้องปรับตัวด้วยเช่นกัน วันนี้เรากำลังพิมพ์งานกระดาษห่อขนม เป็นออเดอร์ลูกค้าใจดีจากพัทยา งานพิมพ์ใช้กระดาษเคลือบพิเศษสำหรับห่อหุ้มอาหาร เราระวังกันเต็มที่ที่จะไม่สัมผัสกระดาษเลย เพราะเราอยากให้กระดาษไม่สัมผัสมือใครเลยก่อนจะถึงลูกค้า เราก็พยายามใส่หน้ากาก ใส่ถุงมือยาง ช่างตัด ช่างพิมพ์ เด็กห่อของ ทุกแผนกต้องระวังเต็มที่ เราทำโดยคิดอยู่ในใจว่า ถ้าลูกเราไปซื้อขนมปังกิน เราอยากให้ลูกเราได้ห่อขนมแบบไหน แบบที่ปลอดเชื้อ หรือ แบบที่อะไรก็ได้ ไม่ต้องสนใจเรื่องเชื้อไวรัส แน่นอนเราอยากให้กระดาษไม่มีเชื้อ และเราก็พยายามจะทำกระดาษห่อขนมใบนี้ในแบบที่เราอยากได้

ขอบคุณลูกค้าใจดีอีกครั้งที่ช่วยอุดหนุนเรา ช่วยธุรกิจสิ่งพิมพ์ เราหวังว่าประเทศไทยจะผ่านพ้นโรคระบาดนี้ไปได้แบบเรายังพอมีอาชีพ มีงานทำ

ทำนามบัตรใช้

ผมทำงานสิ่งพิมพ์มายาวนานหลายปี แต่ไม่ค่อยมีนามบัตรของตัวเองใช้งานเลย หลายครั้งก็ทำนามบัตรแบบเร่งด่วนเพื่อนำไปใช้แจกแบบเร่งรีบ ทุกครั้งที่หยิบนามบัตรของตัวเองออกไปพบปะผู้คน นามบัตรใบนั้นก็มักจะถูกทำด่วนขึ้นมา และวิธีการออกแบบรวมถึงการผลิตก็ไม่ได้พิถีพิถัน เพราะมีเรื่องของเวลามากำหนดไว้ ทำให้ทำงานนามบัตรที่มีขั้นตอนหรือ มีความซับซ้อนไม่ได้

2021-05-25_09-07-24

ในช่วงเวลาที่ประเทศไทยประสบกับปัญหาโควิด19 ระบาด ทำให้เศรษฐกิจพัง ลูกค้าโรงพิมพ์เริ่มน้อยลง ผมมีเวลาว่างมากขึ้น เลยคิดถึงการออกแบบนามบัตรเพื่อใช้งานอย่างจริงจัง และจริงใจกับอาชีพตัวเอง ก็เลยเลือกวิธีผลิตนามบัตรด้วยเทคนิคการพิมพ์ที่พิเศษและไม่ค่อยมีใครทำ นั่นคือการพิมพ์นามบัตรด้วยเครื่องพิมพ์ Letterpress ซึ่งเทคโนโลยีการพิมพ์แบบนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นมาเมื่อประมาณสี่ร้อยปีที่แล้ว และในปัจจุบันก็ยังมีการทำงานด้วยเทคนิคแบบนี้อยู่บ้าง แต่ก็ไม่เป็นที่นิยมมากนัก

20210427163427_IMG_0339

เมื่อเลือกที่จะทำงานนามบัตรด้วยเทคนิคที่เรียกว่า Letterpress การออกแบบหน้าตาอาร์ตเวิร์คก็ต้องสอดคล้องไปกับวิธีการพิมพ์ งานพิมพ์แนวทางนี้ต้องใช้แม่พิมพ์ที่เป็นตัวหนังสือคมชัดหรือลายเส้นที่ชัดเจน การพิมพ์ไม่สามารถทำน้ำหนักอ่อนแก่ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่แตกต่างไปจากเทคนิคการพิมพ์อ๊อพเซ็ท งานจัดวางตัวหนังสือและเล่นกับสีสันที่ไม่เหมือนกันก็จะเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับเทคนิคนี้ ผมก็เลยเลือกพิมพ์ตัวหนังสือด้วยฟ้อนต์ที่เรียบง่ายและดูคล้ายๆกับตัวหนังสือที่อยู่ในเครื่องพิมพ์ดีด

20210427163201_IMG_0338

กระดาษที่ใช้ก็หาสต๊อคจากที่มีอยู่ในโรงพิมพ์ เป็นกระดาษลายผ้าเกรดสูงมาก ราคากระดาษเปล่าที่สั่งจากคนขายก็แพงมาก จนไม่ค่อยกล้าใช้กับงานทั่วไป แต่การทำนามบัตรไม่ได้ใช้กระดาษเยอะเหมือนงานใบปลิว และเราก็มักจะทำนามบัตรกันในจำนวนหลักหนึ่งร้อยหรือสองร้อยใบ นั่นก็จะไม่เปลืองนัก

IMG_20191024_113424

แม่พิมพ์ถูกสั่งทำออกมา แบ่งเป็นแม่พิมพ์สีดำ กับ แม่พิมพ์สีขาว ตอนพิมพ์เราจะพิมพ์ด้วยแม่พิมพ์ทีละสี และตอนที่กำลังพิมพ์เราก็จะสามารถเพิ่มแรงกดของแม่พิมพ์ให้มากกว่าปกติ เพื่อให้มีลักษณะของตัวหนังสือที่กดจมลงไปในเนื้อกระดาษ ซึ่งเป็นบุคลิกของงานพิมพ์ Letterpress ที่ระบบการพิมพ์แบบอื่นให้ไม่ได้

พอทำงานเสร็จ ผมพอใจกับสิ่งที่ได้เห็น นามบัตรที่แสดงตัวตน มีข้อมูลการติดต่อครบถ้วน ต่อไปนี้ผมก็มีนามบัตรทางการใช้งานแล้ว

ขั้นตอนการพิมพ์แผ่นพับ

2020-08-11_08-35-37

แผ่นพับจำนวน 150000 ใบ เป็นงานพิมพ์ที่ใช้เวลาการจัดพิมพ์นานพอสมควร เพราะประกอบไปด้วยขั้นตอนการพิมพ์ รอแห้ง ตัด พับ และห่อ ซึ่งขั้นตอนการพับถึงห่อจะใช้เวลานานที่สุด

ด้วยความที่โรงพิมพ์ของเราเป็นโรงพิมพ์ขนาดเล็ก มีเครื่องพิมพ์ 4 สีเพียงเครื่องเดียว การพิมพ์งานจำนวน 150000 ใบ เราจะต้องพิมพ์บนเครื่องพิมพ์ของเราประมาณ 2 วันเต็มๆ นั่นทำให้งานอื่นๆจะไม่สามารถขึ้นเครื่องเพื่อพิมพ์ได้เลยจนกว่างานใบปลิวนี้จะเสร็จ

และเมื่อเราพิมพ์จบแล้ว กระดาษที่ออกจากเครื่องพิมพ์จะเป็นใบใหญ่ที่ต้องตัดแบ่งเป็นชิ้นๆ เรารอหมึกแห้ง 1 วันแล้วค่อยตัดแบ่ง แค่ระยะเวลาการตัดกระดาษเข้าเครื่องพิมพ์ และการตัดกระดาษเพื่อแบ่งเป็นชิ้นก่อนพับก็ใช้เวลาเป็นวันเช่นกัน

ขั้นตอนการพับเราใช้เครื่องพับใบปลิวที่สามารถพับ 3 ส่วนได้ เครื่องพับเครื่องนี้สามารถพับครึ่ง พับสามส่วน พับ 4 ส่วนได้ ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า เครื่องพับแนวนี้จะไม่เหมือนเครื่องพับสำหรับทำเล่มหนังสือ จากการจับเวลา เครื่องพับของเราสามารถพับกระดาษได้ประมาณ 40000 ใบสำหรับระยะเวลาประมาณ 8 ชั่วโมง โดยใช้คนพับ 1 คน คนเก็บกระดาษออกจากจากเครื่อง 1 คน และคนห่อของ 1 คน หรือเท่ากับใช้คน 3 คนในการทำงานพับนั่นเอง กว่าจะจบงาน 150000 ใบ เราใช้เวลาพับประมาณ 4 วัน รวมกับงานตัดกระดาษก่อนพับ 1 วัน งานพิมพ์ 2 วัน งานตัดกระดาษเข้าเครื่องพิมพ์อีกประมาณ 1 วัน เท่ากับ 4+1+2 +1 = 8 วันเต็มๆ

เอาสติ๊กเกอร์แช่น้ำ

สติ๊กเกอร์ที่เราผลิต เราใช้ระบบหมึกที่ไม่ละลายน้ำ ทำให้สติ๊กเกอร์ของเราสามารถโดนน้ำได้ เปียกน้ำได้ ลงน้ำได้ แช่น้ำได้ เหมาะกับงานติดกล่องอาหาร ข้อมูลที่อยู่บนสติ๊กเกอร์ไม่เลอะเลือน ไม่ละลายน้ำ

ติดต่อ วุฒิชัย โทร 0819373130
email:pockethifi@gmail.com
line:pockethifi