รีวิว วิทยุพกพา Rysamton

เครื่องรับวิทยุเป็นแหล่งบันเทิงราคาประหยัดที่สุดในยุคอินเทอเน็ต และเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่อดีต เราสามารถฟังเพลง ฟังรายการพูดคุย ฟังข่าวสาร ได้รับข้อมูลทางเสียงโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่ต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอเน็ต ในประเทศที่มีภัยธรรมชาติรุนแรงอย่างประเทศญี่ปุ่นก็ยังคงมีวิทยุขาย เพราะเป็นอุปกรณ์จำเป็นสำหรับการสื่อสารกับประชาชนในตอนที่ระบบไฮเทคมีปัญหานั่นเอง

20240229223252_IMG_1465

เครื่องรับวิทยุได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เป็นอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ที่ยังคงถูกใช้งานอยู่ทุกมุมโลก จากการรับคลื่นวิทยุด้วยระบบมือหมุนแบบอนาลอก ก็พัฒนาไปสู่การรับคลื่นด้วยวงจรเลือกสถานีแบบดิจิทัล ใช้วงจรอิเล็คทรอนิกส์ทันสมัยมารับคลื่นความถี่อนาลอก ทำให้มีความแม่นยำ และมีคุณภาพเสียงที่ดี รวมกับการพัฒนาชิพไอซีต่างๆที่มีความสามารถสูงขึ้น หน่วยความจำมากขึ้นในราคาที่ถูกลง ทำให้การใส่ลูกเล่นต่างๆลงในเครื่องรับวิทยุเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายดาย

20240229223137_IMG_1463

รูปลักษณ์ภายนอก

Rysamton เป็นเครื่องรับวิทยุ สามารถรับคลื่น FM AM และ SW มีการควบคุมการรับด้วยระบบดิจิทัล มีหน้าจอขนาดใหญ่ มีไฟสีส้มเรืองแสงให้ดูได้ง่ายในตอนกดใช้งาน ไฟจะสว่างอยู่ประมาณ 2 วินาทีแล้วดับทุกครั้งที่มีการกดปุ่มใดๆบนเครื่อง ด้านหน้าเครื่องเป็นปุ่มกดจำนวนมาก มีปุ่มเปิดปิดอยู่ด้านขวาบน ปุ่มปรับระดับเสียงอยู่ใต้ปุ่มเปิดปิด ที่เหลือปุ่มด้านหน้าทั้งหมดเอาไว้สแกนคลื่นความถี่ เปิดเครื่อง ดึงเสาให้ยืด แล้วกดปุ่ม scan เครื่องจะสแกนความถี่ที่รับได้ในพื้นที่นั้นแล้วบันทึกไว้ทั้งหมด กดเลือกบันทึกสถานีที่ชอบมากๆได้ 3 สถานี โดยจะอยู่ในปุ่มแยกพิเศษ CH-01 CH-02 CH-03 เลือกฟังสถานีที่บันทึกไว้ทั้งหมดได้ผ่านทางปุ่ม M+ และ M-

20240229223338_IMG_1466

ด้านข้างของตัวเครื่องเป็นปุ่มหมุนเพื่อเปลี่ยนคลื่น เป็นลูกกลิ้งที่หมุนขึ้นหรือจะหมุนลงได้อิสระ ไม่มีสิ้นสุด การหมุนจะทำให้เครื่องเปลี่ยนความถี่ที่จะรับไปทีละ 0.1 MHz เราก็เพียงแค่หมุนปุ่มหาคลื่นไปเรื่อยๆจนเจอสถานีที่อยากฟัง การสั่งเปลี่ยนคลื่นแบบมือหมุนแต่เป็นการทำงานแบบดิจิทัลทำให้การเลือกรับคลื่นทำได้แม่นยำ ชัดเจน และเครื่องรับวิทยุเครื่องนี้ก็มีคุณภาพการรับคลื่นที่ไวมาก แม่นยำมาก สถานีที่รับยากที่เคยลองใช้กับเครื่องรับวิทยุมือหมุนอื่นๆเครื่องนี้ก็รับได้ดีกว่า ถัดจากปุ่มหมุนหาเคลื่อนแล้ว ก็มีช่องเสียบไฟ 3V dc ทำให้เราสามารถใช้อแด๊ปเตอร์ได้นอกเหนือจากการใส่แบตเตอรี่ และมีช่องเสียบหูฟัง 3.5มม. ซึ่งเสียงในช่องนี้จะส่งออกมาเป็นสเตอริโอ ฟังเพลงเพราะใช้ได้เลย

20240229223414_IMG_1467

ด้านหลังมีเสารับสัญญาณสามารถยืดออกมาได้ยาวมากเพื่อช่วยรับคลื่น มีช่องใส่ถ่านหรือแบตเตอรี่ขนาด AA จำนวน 2 ก้อน ใช้แบตอัลคาไลน์ได้ ใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จเครื่องก็ทำงานได้ แต่ยังไม่ได้ลองว่าถ้าเสียบไฟเลี้ยง 3V แล้วจะชาร์จไฟในตัวได้ไหม และด้านหลังก็ยังมีขาตั้งอีก 1 จุด เอาไว้กางออกมาเพื่อจัดวางวิทยุให้อยู่ในมุมเอียง เพื่อใช้วางบนโต๊ะแล้วตั้งแบบเอียงวิทยุเข้าหาคนฟังได้ เป็นการออกแบบที่ดีมากสำหรับการใช้งานในบ้าน

คุณภาพการใช้งาน
เครื่องรับวิทยุที่สั่งการด้วยระบดิจิทัลจะให้ความแม่นยำในการเลือกสถานีได้มากอยู่แล้ว และเสียงที่ได้ยินแต่ละสถานีที่รับชัดก็จะมีน้ำเสียงน่าฟัง ลำโพงบนเครื่องจะเน้นเสียงกลางและเสียงสูง แต่ถ้าใช้หูฟังเสียบช่อง 3.5มม. เสียงที่ได้ยินในหูฟังจะมีน้ำเสียงที่อิ่ม ใส ความถี่เสียงย่านต่ำจะถูกถ่ายทอดออกมาอย่างชัดเจนในหูฟัง ถ้าเราใช้หูฟังที่มีขนาดใหญ่ น้ำเสียงในหูฟังจะมีความนุ่มนวลน่าฟังมาก

สรุป
นับว่าเป็นเครื่องรับวิทยุราคาไม่แพงอีกเครื่องหนึ่งที่เหมาะกับการใช้งานประจำวัน สามารถพกพาได้ง่าย ใส่ถ่าน AA ได้ ทำให้การใช้งานนอกสถานที่หรือย้ายที่วางเป็นเรื่องสะดวก และหากจะใช้งานยาวๆในบ้านก็สามารถเลือกเสียบไฟเลี้ยงได้ ทำให้ประหยัดค่าถ่านไปได้อีกมาก คุณภาพเสียงดีเพียงพอสำหรับการฟังข่าวและเพลง เสียงจะดีขึ้นเมื่อต่อหูฟัง สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับเครื่องรับวิทยุเครื่องนี้คือการหมุนรับคลื่นด้วยแป้นหมุน มันเป็นการปรับคลื่นความถี่ที่ถูกจริตกับมือคน คนใช้งานวิทยุจะชอบการหมุนหาคลื่นมากกว่าการกดปุ่ม เพราะคนที่เคยใช้วิทยุจะโตมากับการหมุนหาคลื่น ลองหามาใช้แล้วจะพบว่า ฟังวิทยุก็ดีเหมือนกัน


ถ้าสนใจก็ซื้อตามลิงค์นี้ได้เลย https://s.lazada.co.th/s.mHdlF


รีวิวกล้อง SONY ZV-1F

รีวิวกล้องน่าใช้ Sony ZV-1F.

1707829233240-01

สำหรับช่างภาพที่ฝึกฝนการถ่ายภาพมาระยะหนึ่ง บางคนอาจมีอาชีพเป็นช่างภาพ บางคนอาจมีอาชีพอื่นที่ต้องถ่ายภาพจำนวนมาก ก็จะมีบางเวลาที่ไม่อยากจับกล้องตัวใหญ่ที่ใช้ทำงาน บางครั้งก็อยากได้กล้องตัวเล็กพกง่าย หยิบได้เร็ว เก็บได้เร็ว เอาไว้ถ่ายภาพในวันสบายๆ แต่วันสบายๆนั้นก็ต้องได้ภาพที่ดีซึ่งหมายถึงดีตามมาตรฐานระดับสูงของช่างภาพ ก็คืออยากได้กล้องเล็ก เบา และให้ภาพดีเหมือนกล้องโปรนั่นเอง

IMG_1176

ในยุคสมัยของโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่แสนเฟื่องฟู ตั้งแต่กล้องในโทรศัพท์คุณภาพดีเท่ากับกล้องคอมแพ็คหรือกล้องดิจิทัลตัวเล็กๆ กล้องคอมแพ็คก็โดนแย่งตลาดไป คนส่วนใหญ่ซื้อโทรศัพท์ราคาระดับกลางไปถึงสูงเพื่อให้มีกล้องคุณภาพดีอยู่ในโทรศัพท์และใช้แทนกล้องถ่ายภาพไปเลย พอตลาดมวลชนหันไปใช้โทรศัพท์แทน กล้องคอมแพ็คก็ทะยอยเลิกผลิตกันไป ถ้าเป็นสักห้าปีก่อน บางทีเรานึกไม่ออกเลยว่าจะมีกล้องคอมแพ็คดิจิทัลราคาย่อมเยาให้ซื้อหรือไม่  ตามร้านกล้องในห้างก็ไม่มีวางขายกล้องคอมแพ็คหลักพันบาทแล้ว เหลือแต่หลักหมื่นจนไปเป็นหลายๆหมื่น บางรุ่นก็เป็นแสน

ในอดีตผมมีความรู้สึกชอบกล้องคอมแพ็คที่เป็นกล้องฟิล์มอยู่หลายตัว Leica Minilux ก็เป็นกล้องคอมแพ็คใช้ฟิล์มของไลก้าที่ราคาไม่แพงเท่าตัวอื่นของยี่ห้อนี้ ก็มีไว้ใช้อยู่พักหนึ่ง ถ่ายเล่นพอสนุกๆแล้วก็วางเก็บไว้ ถือว่าเป็นกล้องฟิล์มที่มีขนาดตัวเล็กกว่ากล้องระดับโปร ตอนใช้งานก็หยิบขึ้นมากดถ่าย วัดแสงได้แม่นยำ ให้ภาพที่ดี  แต่พอเข้าสู่ยุคฟิล์มแพงและการใช้งานต้องรอล้างฟิล์มและสแกนภาพหลายวันก็เลยไม่ค่อยได้ใช้อีก 

กล้อง Contax T3 ก็เป็นกล้องฟิล์มตัวท๊อปตัวหนึ่ง ให้คุณภาพที่ดีมาก โฟกัสเร็วมาก วัดแสงแม่นมาก ใช้ถ่ายภาพอยู่หลายม้วน หลังๆก็ไม่ค่อยได้ใช้เพราะขี้เกียจรอเวลาส่งฟิล์มล้าง แถมระยะหลังฟิล์มราคาแพงจนไม่น่าคบ ก็เลยวางยาวไว้ในกระเป๋ากล้อง แทบไม่ได้แตะอีกเลย

Nikon L35AF เป็นกล้องคอมแพ็คค่ายญี่ปุ่นที่ออกแบบดี แข็งแรง และคุณภาพดีเช่นกัน เรื่องกล้องผมว่าญี่ปุ่นไม่เป็นรองเยอรมันเลย หามาใช้เพราะได้ข่าวว่าดี ลองใช้แล้วก็พบว่าดีจริงและราคาไม่แพงมาก ทั้งสามตัวที่กล่าวถึงก็จะมีรีวิวเขียนไว้ในเว็บนี้แล้ว ลองหาอ่านดูได้

IMG_0046
ฟิล์มขาวดำที่ผ่านการล้างแล้ว รอนำไปอัดเป็นภาพ

กล้องคอมแพ็คใช้ฟิล์มที่กล่าวถึงนี้ใช้งานได้ดี แต่ก็มีค่าใช้จ่ายเรื่องค่าล้างฟิล์มและการสแกนภาพ ปัจจัยกำหนดคุณภาพของภาพต้องคิดตั้งแต่เลือกฟิล์ม เลือกกล้องเลือกเลนส์ เลือกร้านล้างฟิล์มและสแกน กว่าจะได้ภาพที่ถูกใจต้องเสี่ยงวัดดวงกันหลายอย่าง สุดท้ายเมื่อได้ภาพมาก็ดูภาพสแกนในโทรศัพท์มือถือหรือไม่ก็ในคอมพิวเตอร์ แถมเอาไปโพสท์ในโซเชียลเน็ตเวิร์คก็ส่งดิจิทัลไฟล์ออกไป แทบไม่ได้อัดขยายออกมาเป็นภาพบนกระดาษเลย

พอไม่คิดจะอัดภาพเป็นกระดาษก็เลยมองหากล้องดิจิทัลคอมแพ็คกันอีกครั้งในรอบสิบปี ผมเคยมีกล้องคอมแพ็คตัวเจ๋งอย่าง Fuji x100 ที่ราคาไม่ถูกเลย แต่ก็ใช้อยู่ปีกว่าก็ขายออกไปก่อน เพราะว่าโฟกัสช้า ไม่สามารถถ่ายภาพลูกที่กำลังหัดคลานหัดเดินได้ทัน กล้องดิจิทัลไม่ได้มีอายุการใช้งานนานเหมือนกล้องฟิล์ม เก็บไว้โดยไม่ได้ใช้ก็ดูเป็นทางเลือกที่ไม่ดีนัก มาช่วงนี้ที่ไม่ต้องถ่ายภาพเด็กคลานและเดินแล้ว เพราะลูกโตเปลี่ยนเป็นวิ่งแทน ก็แทบจะเลิกใช้กล้องคอมแพ็คหรือกล้องฟิล์มถ่ายไปเลย ต้องเปลี่ยนไปใช้กล้อง DSLR แทนเพื่อให้ถ่ายภาพตอนเคลื่อนไหวเร็วๆได้ทัน ประกอบกับมีเรื่องของการถ่ายคลิปวิดีโอเพิ่มเข้ามาด้วย กล้องAction camera อย่าง gopro ที่ลงน้ำได้ด้วย ก็ต้องหามาใช้ประกอบกัน  การหากล้องถ่ายภาพมาใช้อีกครั้งก็เลยคิดเผื่อความสามารถเรื่องการถ่ายวิดีโอเพิ่มเติม คืออยากได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอที่ดีในกล้องตัวเดียวกัน

IMG_1203

ด้วยความชอบสีสันของภาพถ่ายที่มีลักษณะของฟิล์ม ทั้งโทนสีและโทนขาวดำของกล้องฟิล์มมีบุคลิกที่เด่นชัดและยากจะทำเลียนแบบด้วยคอมพิวเตอร์ การค้นหากล้องดิจิทัลที่ให้ภาพคล้ายฟิล์มเป็นเป้าหมายในใจช่างภาพยุคหัดถ่ายฟิล์มมายาวนานหลายปี บางครั้งก็ลองไปปรับแต่งตัวเลขสีในกล้องดิจิทัลทั้งกล้อง DSLR รวมถึงกล้อง mirrorless หลายตัวก็ยังไม่ถูกใจ แต่พอมีข่าวว่า sony ทำกล้องที่สามารถเลือกปรับสีให้ดูเพี้ยนคล้ายภาพจากฟิล์มได้ ก็เลยสนใจ และก็ติดตามอ่านมาเรื่อย จนเกิดเป็นรีวิวกล้อง Sony ZV-1F ตัวนี้

สั่งซื้อที่นี่ https://shope.ee/9eyuQHL1zl

ข้อมูลกล้อง

กล้องอนุกรม ZV ของ Sony เริ่มจาก ZV-1 เป็นกล้องคอมแพ็คเซ็นเซอร์ 1 นิ้ว มาสู่กล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ ZV-E10 เซ็นเซอร์ aps-c ต่อมาก็มี ZV-E1 ที่เป็นกล้องเปลี่ยนเลนส์ขนาดเซ็นเซอร์ Full frame แล้วก็มาสู่ กล้องคอมแพ็ค ZV-1F แล้วก็มาถึงกล้องคอมแพ็ค ZV-1 ii จุดเด่นของตัวกล้องกลุ่ม ZV ก็คือมีไมโครโฟนรับเสียงคุณภาพดี และมีลูกเล่นการโฟกัสสิ่งของหรือ Product show case ที่เอาไว้ใช้กับการ live ขายของ หยิบสินค้าชิ้นเล็กๆขึ้นมาโชว์แล้วกล้องสามารถโฟกัสไปที่สิ่งของแทนหน้าคนขายได้ จุดเด่นสองอย่างนี้ทำให้ ZV ทุกตัวได้รับความนิยมมาก

ZV-1F เป็นกล้องดิจิทัลคอมแพ็ค ติดเลนส์ฟิกซ์ 20f2 ซึ่งเป็นเลนส์เดี่ยวคุณภาพสูง รูรับแสงกว้าง เซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1 นิ้ว เป็นขนาดที่ไม่เล็กมาก สามารถให้ภาพที่มีคุณภาพดีกว่าโทรศัพท์มือถือและกล้องคอมแพ็คทั่วไป การทำงานภายในกล้องถูกออกแบบมาให้เป็นกล้องที่ทำงานได้เร็ว โฟกัสแม่น และถ่ายวิดีโอได้สเป็คบิทเรทที่สูงมาก การออกแบบเป็นเลนส์ฟิกซ์ทำให้กล้องมีขนาดเล็ก เลนส์ติดกล้องไม่มีชิ้นส่วนยื่นเข้าออกตอนเปิดปิด ทำให้ลดโอกาสความเสียหายเรื่องสายแพรเสียหายในระยะยาว และพอไม่มีการยืดตัวของเลนส์ก็ทำให้มันมีขนาดกระทัดรัดที่สุดตอนทำงาน เหตุที่กังวลเรื่องสายแพรเพราะว่ากล้องคอมแพ็คที่มีเลนส์ยื่นเข้ายื่นออกได้จะมีอาการสายไฟในเลนส์เสียหาย ซึ่งกล้องคอมแพ็คฟิล์มที่เคยใช้มีปัญหานี้แทบทุกตัว แม้แต่เลนส์ซูมที่ใช้กับกล้อง DSLR ก็เคยมีปัญหาสายไฟในเลนส์ขาดเช่นกัน

ยังมีจุดเด่นด้านอื่นที่ทำให้กล้อง ZV-1F ตัวนี้น่าสนใจคือ ช่องเสียบสาย usb เป็นชนิด usb-c สามารถชาร์จไฟได้ด้วยทำให้เราไม่ต้องถอดแบตออกมาชาร์จข้างนอก สามารถเสียบชาร์จด้วย powerbank ได้ ซึ่งข้อนี้เป็นข้อดีมากๆ โดยเฉพาะคนที่ต้องเดินทางบ่อยๆ เที่ยวต่างประเทศบ่อยๆ จะมีประโยชน์โดยตรง 

ยังมีลูกเล่นการปรับโทนสีภาพให้ดูสีสวยแปลกตาหลายแบบ อยู่ในเมนู creative look ทำให้เราสามารถปรับโทนสีของคลิปวิดีโอและภาพนิ่งได้ ซึ่งผมเลือกซื้อกล้องตัวนี้เพราะลูกเล่นการการปรับโทนสีโดยเฉพาะเลย 

หลังจากเริ่มใช้งานมาหลายวันก็ทะยอยค้นพบข้อดีเพิ่มขึ้นทีละอย่าง เชื่อว่าทีมพัฒนาโซนี่น่าจะทำแบบสำรวจหรือขอข้อมูลจากผู้ใช้งานจำนวนมากจะปรับปรุงและใส่ลูกเล่นต่างๆมาในกล้องได้อย่างน่าประทับใจ เริ่มจาก

DSC00104_1
ZV-1F ถ่ายด้วยรูรับแสงกว้างสุด ตอนกลางคืน แสงสว่างในห้องนอน

เลนส์ไวแสง 20 f2.0 เป็นเลนส์ที่เหมาะกับการถ่ายภาพในที่แสงน้อย ทำให้มันเหมาะกับการถ่ายภาพแทบทุกสถานการณ์ ประกอบกับการทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์รับแสงขนาดใหญ่ 1 นิ้ว กล้องที่ผลิตในยุคใหม่เป็นกล้องที่มีสัญญาณรบกวนต่ำกว่ากล้องสเป็คเดียวกันในอดีต คุณภาพของภาพตอนถ่ายในที่แสงน้อยจะดูดีกว่ากล้องเมื่อยี่สิบปีที่แล้วอย่างมาก 

06-ZV-1F_top_white

ปุ่มชัตเตอร์และปุ่มถ่ายวิดีโอเป็นปุ่มกดวางแยกกัน ไม่สับสนในการใช้งาน และการจัดวางปุ่มก็เลือกวางได้อย่างเข้าใจ การใช้งานระหว่างสองโหมดนี้ไม่สับสนเลย 

DSC00136

เครื่องพิมพ์ตีธง เป็นเครื่องพิมพ์แบบ letterpress ที่ดัดแปลงไปทำงานปั๊มเจาะรู และทำเส้นปรุได้

ระหว่างที่กำลังเล็งจะถ่ายภาพนิ่ง หากเราอยากเปลี่ยนเป็นถ่ายวิดีโอเราก็กดปุ่มถ่ายวิดีโอ กล้องจะเริ่มบันทึกภาพวิดีโอเลย ตรงนี้เป็นการทำงานที่ไม่ต้องย้ายโหมด ไม่ต้องเปลี่ยนโหมด ไม่ต้องเข้าเมนูใดๆ เป็นความรวดเร็วที่ควรทำได้มาตั้งนานแล้ว แต่ก็เพิ่งพบกับกล้องรุ่นนี้

DSC00164
ภาพใบไม้ถ่ายด้วยเลนส์ 20f2 บนกล้อง ZV-1F
DSC00165
กล้อง ZV-1F กดซูมภาพแบบดิจิทัล 2X

กล้องมีระบบดิจิทัลซูมที่ทำให้เลนส์ฟิกซ์ก็สามารถมีภาพขยายใหญ่เหมือนมีเลนส์ซูมได้ การทำดิจิทัลซูมก็คล้ายกับการคร็อปภาพ ซึ่งหากเลนส์มีคุณภาพ การคร็อปภาพก็จะเหมือนเลนส์มีทางยาวโฟกัสเพิ่มขึ้นนั่นเอง จากเลนส์ 20มม. ก็จะกลายเป็นเลนส์ 40มม. ในทางปฏิบัติแม้จะเป็นการคร็อปภาพ แต่การคร็อปภาพจากภาพที่ใหญ่มาก ก็ยังคงให้ภาพขนาดกลางที่มีคุณภาพอยู่ sony ออกแบบให้ขยายภาพหรือซูมได้ถึง 4เท่า ซึ่งภาพที่คร็อป4เท่า ก็ยังพอใช้งานได้

ซ้อมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาที่สนามฟุตบอล

ระบบการซูมดิจิทัลสามารถตั้งค่าความเร็วในการซูมได้ เราสามารถค่อยๆซูมเข้าไปช้าๆที่ตัวบุคคลเพื่อสร้างมุมมองภาพเหมือนการถ่ายทำสารคดีหรือถ่ายหนัง การซูมอย่างนุ่มนวลให้ภาพวิดีโอที่สวยงามนุ่มนวลไม่กระตุก ลูกเล่นการซูมนี้ช่วยทำให้การถ่ายคลิปวิดีโอเป็นเรื่องสนุก เรามีตัวเลือกซูมช้า ปานกลาง และเร็ว รวมถึงมีปุ่มบนหน้าจอที่ 1x 2x 4x ให้เลือกด้วย กดแล้วได้ระยะซูมที่ต้องการทันทีไม่ต้องรอ ระบบการซูมดิจิทัลแบบนี้ใช้เป็นเครื่องมือสร้างภาพเคลื่อนไหวที่น่าดูได้

DSC00110
ของไหว้เทศกาลตรุษจีน

การที่กล้องมีจอภาพแบบ flip สามารถกางออกมาดูในมุมมองอื่นได้ ทำให้เราสามารถถ่ายภาพเงย หรือก้ม หรือมุมมองแปลกๆได้ ซึ่งกล้อง DSLR ในอดีตการจะถ่ายมุมมองก้มลงอย่างแม่นยำ ก็อาจจะต้องใช้อุปกรณ์เสริมเพิ่ม แต่จอภาพแบบ flip ทำให้การถ่ายภาพทุกองศาการถือกล้องเป็นเรื่องง่าย จัดวางกล้องได้อิสระมาก

DSC00019
ภาพเครื่องพิมพ์ ถ่ายเป็นโหมดขาวดำจบหลังกล้อง

ภาพขาวดำตั้งค่าจากในกล้องเลย ปรับแต่งค่าคอนทราสต์นิดหน่อย เราก็จะได้ภาพขาวดำที่ให้โทนสีดำที่ลึก เข้มข้น เป็นแนวทางใกล้เคียงกับการทำงานขาวดำด้วยฟิล์ม ใกล้เคียงกับการอัดขยายภาพขาวดำบนกระดาษ สไตล์สีขาวดำที่สวยงามต้องเกิดกับคนที่เคยมองภาพขาวดำบนกระดาษอัดภาพจริงๆถึงจะบอกได้ว่าขาวดำแท้จริงเป็นอย่างไร ในอดีตยังไม่เคยมีกล้องดิจิทัลที่ทำภาพขาวดำได้ใกล้เคียงเลย มีตัวนี้แหละที่ดูใกล้ขึ้น และพอยอมรับได้ (ผมยังไม่เคยใช้ Leica monochrome)

DSC00029
ภาพเครื่องพิมพ์ถ่ายในโหมด สี ปรับแต่งสีให้เป็นโทนฟิล์ม ทำเสร็จในกล้องเลย

การถ่ายภาพสีในสถานที่ที่แสงไม่แรงมาก หรือแดดไม่จัด หรือถ่ายในที่ร่ม ภาพจะมีความนุ่มนวลโดยธรรมชาติ และหากรวมกับการปรับแต่งฟิลเตอร์สีที่กล้องมีมาให้ ก็จะทำให้เราได้ภาพคล้ายกับงานที่ถ่ายด้วยกล้องฟิล์ม 

DSC00131
บรรยากาศในโรงพิมพ์

ภาพขาวดำที่สวยคือภาพที่มีโทนสีขาว เทา ดำ ครบ และส่วนสีดำที่สุดมีความดำที่ดำสนิท ในทางเทคนิคคือภาพมีคอนทราสต์สูง มีส่วนขาวสุดและส่วนดำสุด แต่โทนเทาจะต้องต่อเนื่องคือไล่อ่อนไปเข้มได้นุ่มนวล

DSC00114
แม่ลูกคู่กัน

โหมดสีแบบฟิล์มกลายเป็นโหมดที่ปรับแต่งทิ้งไว้และใช้โหมดนี้ถ่ายภาพเกือบตลอดเวลา เพราะสไตล์สีแบบฟิล์มเป็นสีที่น่ามอง ดูมีเสน่ห์เมื่อเป็นภาพถ่าย ไม่แปลกใจที่จะมีคนชอบภาพสไตล์อินสตาแกรม หรือ มีคนชอบการปรับสีของ app VSCO ซึ่งโซนี่ก็เอาใจเต็มที่ด้วยการใส่โทนสีพิเศษแนวนี้เข้ามาให้เลือกใช้

DSC00104_1
ลองคร็อปภาพเป็นพาโนราม่า

สิ่งที่ชอบอีกอย่างก็คือระบบ app ที่ทำงานได้รวดเร็ว เชื่อมต่อง่าย สามารถใช้ app เพื่อโหลดไฟล์ได้สะดวก แถมยังมีระบบเก็บภาพบน cloud ให้ใช้ด้วยอีกขนาด 25Gb ซึ่งพอจะใช้เป็นที่แบ็คอัพภาพนิ่งได้ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าระบบ app ที่เชื่อมต่อกับ cloud จะมีปัญหาในภายหลังไหม เพราะระบบอื่นๆจากประสบการณ์ที่เคยใช้มา ส่วนที่เป็น cloud มักจะทำงานดีเมื่อปีแรก และเมื่อเริ่มไม่ได้รับความนิยมของระบบบน cloud ก็มักจะหายไป

DSC00083
ถ่ายภาพโต๊ะทำงาน เลนส์มุมกว้าง 20mm เก็บสิ่งที่มองเห็นครอบคลุมเหมือนสายตาจริงของเรา
DSC00028
ถ่ายระยะใกล้ๆหรือมาโคร รูรับแสง f2 ให้ภาพวัตถุชัดขณะที่ฉากหลังเบลอได้
DSC00125
เก็บภาพมุมกว้างเหมือนตาเห็น เรายืนมองอะไร เราก็ยกถ่ายสิ่งนั้นได้ ไม่ต้องถอย
ระบบดิจิทัลซูม ปรับความเร็วในการซูมไว้ที่ระดับช้า ให้ความนุ่มนวลในการซูมเหมือนมืออาชีพ
บันทึกคลิปได้ไม่ต่างจาก gopro แต่จะได้สีสันตามการปรับแต่งที่กล้องเลย ไม่ต้องไปทำสีอีกครั้งในคอมพิวเตอร์

DSC00177
ภาพสนามฟุตบอล ยืนดูแล้วก็ถ่ายสิ่งที่เห็น ภาพมุมกว้างเหมือนสายตามนุษย์
DSC00162
ทุ่งนาปลูกข้าวกำลังออกรวงสวยงาม 

ข้อจำกัด หรือ อาจจะเรียกว่าเป็นข้อเสียก็ได้

กล้องตัวนี้มีข้อดีเยอะ ขณะเดียวกับก็มีข้อจำกัดที่เยอะเช่นกัน การจะเลือกใช้กล้องตัวนี้ควรจะรู้ว่ามีข้อจำกัดอะไรบ้าง

ด้วยความที่เป็นเซอร์เซอร์ไม่ได้ใหญ่เท่ากับ Full flame หรือเทียบกับ aps-c ก็ยังถือว่าเล็กกว่า มันทำให้กล้องมีสัญญาณรบกวนที่สูงเมื่อเทียบกับเซ็นเซอร์ที่ใหญ่กว่า ผลก็คือภาพจะไม่เนียนใสในแบบที่เคยได้จากกล้อง Fullframe ถ้าเราเทียบกับมุมใกล้เคียงกัน ZV-1F กับกล้อง aps-c เราก็จะเห็นว่าสัญญาณรบกวนของ ZV-1F มีเยอะกว่าอย่างชัดเจน 

มุมรับภาพของเลนส์ 20mm เทียบเท่า Fullflame ทำให้มันเป็นเลนส์ไวด์หรือเลนส์มุมกว้าง เหมาะกับการถ่ายภาพวิว และถ่ายคลิปวิดีโอเสียมากกว่า การเอาไปถ่ายภาพบุคคล ภาพครึ่งตัวแนวพอร์ตเทรดติดฝาบ้าน หรือภาพเฮดช็อตเน้นใบหน้าและไหล่จะไม่เหมาะเพราะเป็นมุมที่ไม่สวย ถ้าต้องการภาพบุคคลอย่างจริงจังควรไปใช้เลนส์ Tele หรือ 85มม. บนกล้อง Fullflame ไปเลยจะเหมาะกับงานมากกว่า

ZV-1F ถ่ายภาพนิ่งได้เป็น jpg เท่านั้น ไม่มีโหมดไฟล์ raw มาให้ใช้ ทำให้เราหมดโอกาสการปรับแต่งในภายหลังอย่างยืดหยุ่น หากเราชินกับการถ่ายภาพที่ผิดพลาดได้บ้าง หรือ ยังลังเลใจในการแต่งภาพ อยากเลือกโทนสีในภายหลัง เราจะอยากถ่ายเป็น raw ซึ่ง ZV-1F ไม่มี บางคนจะไม่ชอบต้องปรับตัวพอสมควร การมาใช้กล้องที่ถ่ายได้แต่ไฟล์ jpg อย่างเดียวจะบังคับให้เราเลือกสไตล์สีตั้งแต่ตอนถ่าย ซึ่งก็ไม่ได้แย่หากเทียบกับการใช้ฟิล์ม เพราะการเลือกสไตล์สีก็เหมือนการเลือกยี่ห้อฟิล์ม เราเพียงแค่ต้องถ่ายโดยวัดแสงอย่างแม่นยำด้วย เพื่อจะได้ไม่ต้องปรับแต่งหลังถ่ายอีก เนื่องจากแก้ไขความสว่างของภาพและสีกับไฟล์ jpg ทำได้ไม่มาก และยิ่งแก้ไขก็ยิ่งสูญเสียรายละเอียดของไฟล์

การถ่ายสิ่งของหรือสินค้าแบบจัดฉากหรือจัดไฟถ่ายจะค่อนข้างลำบาก เพราะเลนส์เป็นเลนส์ไวด์ แม้จะเข้าใกล้วัตถุได้ แต่ก็จะมีสัดส่วนความเพี้ยนสูง ช่างภาพแนวสินค้าหรือโฆษณามักจะไม่ใช้เลนส์มุมกว้าง เลนส์มาโครระดับโปรจะเป็นเลนส์ทางยาวโฟกัสเยอะหรืออยู่ในระยะ Tele กันทั้งสิ้น ส่วนมากเลนส์มาโครจะมีระยะประมาณ 100มม.

อีกข้อหนึ่งที่เป็นข้อเสียที่ใหญ่หลวงเลยก็คือ กล้องมีความเร็วชัตเตอร์ช้าสุดแค่ 1/4 วินาที คือเปิดหน้ากล้องนานกว่านี้ไม่ได้ แค่ 1 วินาทีก็ยังทำไม่ได้ จุดนี้ช็อคพอสมควรเลย การเปิดชัตเตอร์นานไม่ได้มันจะทำให้เราไม่สามารถถ่ายภาพ ด้วยเทคนิค long exposure  การจะเอาไปถ่ายพลุเป็นเส้นทำไม่ได้ เอาไปถ่ายไฟรถยนต์ที่วิ่งเป็นเส้นทำไม่ได้ เอาไปถ่ายน้ำตกให้สายน้ำนุ่มๆ เปิดหน้ากล้องนานๆก็ทำไม่ได้ มีเทคนิคการถ่ายภาพอีกหลายอย่างที่ต้องเปิดหน้ากล้องนานๆหลายวินาที น่าเสียดายมากที่ ZV-1F จะทำไม่ได้ ขนาดกล้องคอมแพ็คฟิล์มตัวอื่นในอดีตที่เคยผ่านมาบางตัวยังถ่ายได้ที่ 4 วินาที หรือ 8 วินาที 

การกดล๊อคค่าแสงหรือ Ae lock หาไม่เจอในเมนูปกติ มันถูกซ่อนอยู่ด้านไหนเมนู ต้องตั้งค่าให้ปุ่มคัสต้อมเพื่อใช้คำสั่ง Ae lock ซึ่งกว่าจะค้นหาจนเจอ ผมต้องพยายามหาอยู่หลายครั้งและเรียนรู้การตั้งค่าปุ่มคัสต้อม ใช้กล้องมาเป็นเดือน บอกตรงๆว่ายังตั้งค่าปุ่ม ตั้งค่าเมนูส่วนตัวในกล้องยังไม่เป็นเลย

สรุป

กล้อง Sony ZV-1F เป็นกล้องคอมแพ็คที่มีเลนส์ 20มม. ไวแสง เลนส์คุณภาพสูงมาก ให้ภาพใสกริ๊ง สามารถถ่ายภาพได้เหมือนตาเห็น สามารถใส่สีให้ดูคล้ายโทนภาพจากฟิล์ม ใช้ถ่ายวิดีโอได้คล่องตัว ใส่สีสันในวิดีโอให้ดูเป็นหนังอาร์ตได้ไม่ยาก จบหลังกล้องได้ไม่ต้องไปย้อมสีในโปรแกรมตัดต่อ แต่ก็มีลูกเล่นที่บันทึกไฟล์สำหรับตัดต่อได้แบบโปรด้วย ใช้เป็นกล้องไลฟ์ขายของแสดงสินค้าตัวเล็กๆแล้วกล้องโฟกัสสินค้าเล็กๆได้ นับว่าเป็นกล้องสารพัดประโยชน์ที่ราคาไม่แพงเลย 

ไปดูตัวอย่างภาพจากกล้อง ZV-1F เพิ่มเติมได้ที่นี่

สนใจสั่งซื้อได้ที่นี่ https://shope.ee/5V7Q4wN5Mx

หรือที่นี่ https://shope.ee/9eyuQHL1zl

Farm to table รีวิวร้านลับที่น่าแวะย่านปากคลองตลาด

Farm to table รีวิวร้านลับที่น่าแวะย่านปากคลองตลาด

วันนี้พาลูกไปสอบพรีเทสที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยย่านปากคลองตลาด เพื่อเป็นการซ้อมทำข้อสอบสำหรับการสอบเข้า ม.1 จะได้วัดผลด้วยว่ามีความรู้ระดับไหน ต้องเรียนเพิ่มเติมเรื่องอะไร การสอบจัดขึ้นที่โรงเรียนสวนกุหลาบ พ่อแม่ก็ต้องพาไปส่ง แล้วก็รอสามชั่วโมงเพื่อรับกลับ

IMG_8052

ถือโอกาสเดินเล่นปากคลองตลาดเสียเลย เพราะไม่ได้แวะมาย่านนี้นานแล้ว ปากคลองตลาดในยุคนี้ดูโล่งขึ้น เดินดูของต่างๆได้สะดวก ร้านค้ามีระเบียบ ดอกไม้หน้าร้านดูสวยงามชวนให้ถ่ายรูป คนชอบถ่ายรูปมาเดินก็มักจะต้องหามุมสวยดูดีและบันทึกภาพเก็บไว้

IMG_8053

วันนี้ตั้งใจเดินไปให้ถึงร้านอาหารแห่งหนึ่ง เป็นร้านอาหารแนวคาเฟ่ มีกาแฟ ขนม ไอศครีม อาหาร ข้าว มีของกินหลากหลายและที่สำคัญคือเป็นร้านที่ซ่อนตัวอยู่ในซอกหลืบของปากคลองตลาด อยู่ในพื้นที่แทบจะใจกลางตึกแถวในตลาด เป็นส่วนที่ผมไม่เคยคิดจะเดินเข้าไปเลยตั้งแต่สมัยยังเป็นนักเรียนที่เดินเล่นอยู่ในย่านนี้

1705227517967-01

ร้าน Farm to Table เป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในตึกแถวเก่าโบราณ เจ้าของร้านบอกว่าเป็นบ้านเก่าที่อยู่กับพ่อแม่มาตั้งแต่เด็ก และก็มีการปรับปรุงให้ดูสวยงามน่าอยู่ และได้เปิดเป็นร้านอาหาร ความสวยของตึกสไตล์เก่า พร้อมเฟอร์นิเจอร์เก่า จัดการที่ว่างและมุมปลูกต้นไม้ได้ลงตัว เดินมาเห็นด้วยตาเปล่าต้องยกกล้องเก็บภาพกลับไปโดยอัตโนมัติ

IMG_8093

อาหารในร้านก็มีหลากหลาย ทั้งเมนูข้าว เมนูของหวาน ไอศครีม ขนมไทย กาแฟ ออกแบบหน้าตาและจัดจานได้ดูน่ากินมาก ราคาก็ไม่แพงแบบร้านอาหารหรูหราอื่นๆ เป็นราคาที่ยอมรับได้สำหรับพื้นที่ท่องเที่ยว ถือว่าราคาถูกเลยสำหรับผู้ใหญ่วัยทำงาน ยิ่งถ้าเทียบกับรสชาติแล้วถือว่าคุ้มราคามาก 

IMG_8099

อาหารเมนูข้าวให้มาเยอะ ผู้ใหญ่กินอิ่ม เด็กเล็กอาจจะกินเหลือ สิ่งสำคัญที่รู้สึกได้ก็คือ อาหารดูมีคุณภาพ เลือกให้ลูกกิน หรือซื้อฝากคนที่บ้านก็สบายใจ คำว่า Farm to Table น่าจะสื่อถึงผักคุณภาพและอาหารต่างๆก็คัดมาแล้วว่ากินได้มีประโยชน์ 

1705227193218-01

ขนมและของหวานเป็นไฮไลท์ที่ต้องลองกิน ขนมไทยก็จัดออกมาดูสวยและรสชาติดี ของหวานอย่างลอดช่องที่มีไอศครีมวางไว้ก็ออกแบบมาลงตัว ถ้าเลือกไอศครีมรสเปรี้ยวแล้วคู่กับความหวานของน้ำกระทิมันอร่อยเข้ากันดีมาก เป็นส่วนผสมที่เพิ่งเคยได้ลอง และกินแล้วก็อร่อยจริง

IMG_8113

กาแฟตามยุคสมัย อเมริกาโน่ปกติ หรือ อเมริกาโน่น้ำส้มก็มีให้สั่ง ของหวานเต็มร้าน ไอศครีมเต็มตู้ สั่งอะไรก็ดูอร่อยไปหมด เจอของหวานและขนมขนาดนี้ ต่อให้เป็นร้านออแกนิคแค่ไหน ก็ต้องอดใจอย่ากินเยอะ

1705227147433-01

ร้านนี้มีสองจุดใกล้ๆกัน ร้านแรกอยู่ปากซอย ร้านที่สองอยู่ในซอย เมนูเหมือนกัน ผมแวะทั้งสองร้าน เพราะร้านในซอยที่เป็นร้านใหญ่ มีคนเยอะมากในวันที่ผมเข้าไปชิม ร้านเปิดเก้าโมง คนเต็มก่อนร้านเปิด ผมได้แต่ทึ่งว่าทำบุญด้วยอะไรถึงขายดีขนาดนี้ กินอร่อย ถ่ายรูปสวย เก็บภาพจนพอใจ ผมกินอิ่มจากร้านในซอยแล้วทนสายตาอีก10คู่กับ 20เท้า ของคิวที่ยืนดูผมกินไม่ได้ สุดท้ายก็เดินออกจะได้แบ่งโต๊ะให้คนที่อยากมาสัมผัส แล้วเดินมากินขนมหวานที่ร้านปากซอยแทนซึ่งคนน้อยกว่า

IMG_8043

คนที่อยากแวะมาร้านนี้แนะนำให้มารถไฟฟ้า ดำดินมาโผล่ที่สถานีสนามไชย ทางออก 4 ออกมาจะเจอคลองหลอด แล้วเดินนิดหน่อย หากใครขับรถมาแนะนำให้จอดรถที่กรมที่ดินจะใกล้ที่สุด เจ้าหน้าที่นิสัยดีโบกรถอำนวยความสะดวก จอดซ้อนก็ช่วยเข็น ค่าจอด 40 บาท จอดแล้วเที่ยวปากคลองตลาดให้คุ้มเลย แถมภาพมุมมองจากที่จอดกรมที่ดิน มองข้ามคลองหลอดไปจะเจอตลาดส่งเสริมเกษตรไทยปากซอยคือร้านเล็ก ร้านใหญ่อยู่ในซอย

1705227385200-01

รีวิวเม้าส์ Signo WG-902BLK

เม้าส์ Signo เป็นเม้าส์แนว Gaming อีกตัวหนึ่งที่ผมตัดสินใจซื้อมาใช้อย่างฉุกเฉิน เนื่องจากความหงุดหงิดจากการใช้เม้าส์ตัวหนึ่งที่เสียกระทันหันแล้วต้องทำงานแบบไม่มีเม้าส์อยู่หลายวัน จนในที่สุดต้องไปหาซื้อตัวใหม่มาใช้

เม้าส์ตัวนี้เป็นเม้าส์ขนาดใหญ่ปกติ สีดำ มีไฟ RGB ที่โลโก้สามารถเปลี่ยนสีไฟได้ ที่ปุ่มด้านบนสามารถกดเปลี่ยนค่า DPI ได้ถึง 6 ระดับ สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ 3 วิธี คือ

1 เชื่อมต่อผ่านบลูทูธ 
2 เชื่อมต่อผ่านระบบ usb ไร้สาย คลื่นความถี่ 2.4Ghz
3 เชื่อมต่อผ่านสาย usb-c ได้

เม้าส์มีแบตเตอรี่ในตัว สามารถชาร์จไฟผ่านช่อง usb-c แม้ว่าแบตหมดก็สามารถต่อสายเพื่อใช้งานได้ ด้านข้างเม้าส์มีอีก 2 ปุ่มทำหน้าที่ foward และ reverse โดยปุ่มทั้งหมดตั้งค่ามาจากโรงงานให้ใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องลงซอร์ฟแวร์เพิ่มเติม ด้านล่างมีอีก 1 ปุ่มสำหรับกดเปลี่ยนสีไฟภายใน และมีสวิตซ์เปิดปิด ที่ทำหน้าที่เลือกใช้เม้าส์เชื่อมต่อด้วยวิธีไหนก็เลื่อนไปเลย จะใช้ผ่านบลูทูธก็เลื่อนสวิตซ์เปิดไปทางสัญลักษณ์บลูทูธ จะใช้ผ่านการเชื่อมต่อ usb ไร้สาย ก็เลื่อนไปด้าน usb-c. และหากจะใช้งานผ่านสายก็ปรับสวิตซ์อยู่ในตำแหน่งปิด แล้วเสียบสายใช้งานได้เลย

ตัวส่งสัญญาณ usb ไร้สายเป็นตัวเสียบที่สามารถเก็บซ่อนไว้ในตัวเม้าส์ได้ และมีฝาเปิดปิดตัวเม้าส์เพื่อเปิดเข้าไปหยิบตัวเสียบ ฝาเปิดปิดเป็นแม่เหล็กออกแบบได้ดีมาก

จุดที่ประดับใจลำดับแรกคือการเชื่อมต่อที่หลากหลาย ส่วนจุดที่สองที่ชอบมากๆก็คือเราสามารถเปลี่ยนความเร็วของการลากเม้าส์ได้โดยไม่ต้องลงซอร์ฟแวร์เพิ่มเติม เพียงแค่กดปุ่มกลางบนตัวเม้าส์ค่าความไวก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ และมีระดับความไวให้เลือกถึง 6 ระดับ ทำให้มันสามารถปรับความไวให้เหมาะสมกับงานที่ใช้ หรือตามเกมส์ที่เล่นได้

สเป็คจากผู้ผลิต

  • 6 MACRO KEYS
  • 5 BACKLIGHTING MODE
  • HUANO SWITCH TECHNOLOGY (20 MILLION CLICKS)
  • PIXART PMW3325 SENSOR TECHNOLOGY
  • 2.4G+BLUETOOTH+TYPE-C TRI-MODE
  • 10M. WIRELESS RANGE
  • DPI SWITCHING TECHNOLOGY WITH 200-10000 DPI
  • RGB 16.8 MILLION COLORS BACKLIGHTING
  • USB TO TYPE-C INTERFACE
  • CORD LENGTH 1.8 M.
  • PLUG & PLAY

หลังจากใช้งานมาได้ประมาณ 2 สัปดาห์ก็ยังไม่พบอาการผิดปกติ และหวังว่าจะไม่โชคร้ายเหมือนเม้าส์ตัวที่แล้วที่ใช้งานไม่นานก็ต้องส่งเคลม และใช้เวลารอของคืนมาอีกประมาณ 1เดือนกันเลย สิ่งที่ชอบอย่างหนึ่งในเม้าส์ตัวนี้คือเสียงคลิกไม่ดังมาก มีความนุ่มนวลกว่าเม้าส์ของ nubwo เยอะมาก น่าจะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบเสียงดัง รีวิวแบบไม่ตั้งใจ แต่ก็ทำให้พบกับของดีน่าใช้ หวังว่าเม้าส์ตัวนี้จะทนทานมาก เพราะราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ

อัพเดทหลังจากใช้งานนานๆ

ปุ่มมาโครจะต้องตั้งค่าผ่านซอร์ฟแวร์เฉพาะ และเมื่อตั้งค่าเสร็จแล้ว เม้าส์จะจดจำคำสั่งการกดต่างๆไว้ในตัว เราสามารถใช้เม้าส์กับเครื่องอื่นแล้วกดมาโครได้เลยโดยไม่ต้องลงซอร์ฟแวร์ในเครื่องคอมฯที่ใช้งาน นับว่าเป็นความฉลาดในการออกแบบมาก ยกตัวอย่าง ผมตั้งค่ามาโครไว้กับปุ่มตรงนิ้วโป้ง ค่าปกติของปุ่มนี้ทำหน้าที่อะไรจำไม่ได้แล้ว แต่ผมตั้งค่าให้เป็นการเรียกใช้งานเครื่องคิดเลขในระบบปฏิบัติการวินโดส์ เมื่อตั้งค่าเรียบร้อยสามารถกดปุ่มตรงนิ้วโป้งเพื่อเรียกใช้เครื่องคิดเลขได้ทันที และนำเม้าส์นี้ไปใช้กับคอมพิวเตอร์ตัวอื่นที่เป็นวินโดส์ ก็กดปุ่มนิ้วโป้งแล้วเรียกใช้โปรแกรมเครื่องคิดเลขได้เช่นกัน

จุดเด่น
เชื่อมต่อได้ 3 วิธี
มีแบตในตัว
ลูกกลิ้งนุ่ม ไม่มีเสียงตอนคลึงเลย
มีช่องเก็บตัวส่งสัญญาณ​usb-c ไร้สายอยู่ในตัวเม้าส์ และหยิบเข้าออกได้สะดวกมาก
มีไฟ RGB เล้กๆ พอสวยงาม
เปลี่ยนความไว dpi ได้สะดวก
เม้าส์ตัวใหญ่ สำหรับคนชอบเม้าส์ดั้งเดิม
สายแถมเป็นสายถักมีความนิ่ม
มีปุ่ม Macro ที่สามารถตั้งค่าให้ทำงานเฉพาะอย่างได้ และจดจำคำสั่งไว้ใน mouse

จุดด้อย
ยังไม่พบ

ราคา 990 บาท

IMG_20231209_152238

รีวิวไมค์ Boya BY-MM1

boya-by-mm1-image

ไมค์รูปทรง shotgun เป็นไมค์ที่ออกแบบมาเพื่อรับเสียงด้านหน้า เหมาะกับการทำคลิปที่เน้นการพูดหน้ากล้อง อย่างการทำ vlog ก็เป็นสิ่งที่ควรใช้ไมค์ shotgun ติดบนหัวกล้อง คุณภาพการรับเสียงจะดีเมื่อเราพูดห่างจากไมค์ไม่เกิน 1 เมตร หรือ ระยะเอื้อมถึงนั่นเอง และการใช้งานไมค์ shotgun หากเอาไปใช้ในที่โล่ง ก็ควรจะใส่ตัวป้องกันเสียงลมเอาไว้ด้วย Boya BY-MM1 จะให้ตัวขนแมวสีเทามาด้วย เอาไว้สวมบนกระบอกไมค์ การสวมตัวป้องกันลมไว้จะช่วยลดเสียงลมประทะ ทำให้ฟังเนื้อหาที่พูดได้รู้เรื่อง แต่หากไม่ใส่เราจะได้ยินเสียงลมกระแทกดังจนฟังเสียงพูดไม่รู้เรื่องเลย

ลองดูในคลิปเป็นตัวอย่าง บันทึกด้วยโทรศัพท์มือถือ ต่อไมค์เข้าทางช่อง Aux 3.5 ซึ่งจะต้องเชื่อมต่อด้วยสายแจ๊คที่เป็น TRRS สวนการใช้ไมค์ตัวนี้กับกล้องวิดีโอ กล้องดิจิทัลที่มีพอร์ตไมค์ ก็จะต้องเสียบด้วยสายอีกเส้นหนึ่งที่เรียกว่าสาย TRS ซึ่งทั้งสองเส้นนี้มีแถมมากับไมค์ด้วย ดังนั้นซื้อไปใช้ก็รับรองว่าใช้งานร่วมกับกล้องถ่ายภาพ กล้องวิดีโอ และโทรศัพท์มือถือที่มีช่อง Aux 3.5mm ได้แน่นอน

Specifications:

Frequency Response: 35-18KHz +/-3dB

Sensitivity: -42dB +/-1dB / 0dB = 1V/Pa, 1KHz

Signal to Noise Ratio: 76dB SPL

Jack : 3.5mm

TRS & TRRS Connector

Weight: 50g

อุปกรณ์ในชุด

1x Windshield

1x Shock Mount

1x สายต่อ 3.5 แบบ TRRS (สมาร์ทโฟน)

1x สายต่อ 3.5 แบบ TRS (กล้อง)

1x ถุงผ้า

หากสนใจ ก็สั่งซื้อได้ที่นี่ https://s.lazada.co.th/s.Q4Pr0?cc

การงานพื้นฐานอาชีพของ ป4 ปี 2565

เมื่อพูดคำว่าการงานพื้นฐานอาชีพ ทำให้เรานึกย้อนไปในสมัยประถม เราเรียนวิชานี้ และแทบจะจำไม่ได้เลยว่าสมัยนั้นเราเรียนอะไรกันบ้าง แต่จากชื่อเราก็คงพอเดาได้ว่าก็น่าจะเป็นงานฝีมือที่ทำเป็นอาชีพได้ ยุคสมัยของพ่อแม่เมื่ออยู่ในวัยเด็กคงจะเรียนเรื่องเกี่ยวกับ เย็บปักถักร้อย ผมนึกออกแค่นี้จริงๆ

ปีนี้ ปี พศ 2565 โลกเราพัฒนาไปไกลมาก พวกนักการตลาดคุยกันถึงเรื่องเมตาเวิร์ส ระบบการสื่อสารอินเทอเน็ตคือหัวใจของธุรกิจ การดูสื่อภาพและเสียงจะดูผ่าน youtube และ social network มีอาชีพใหม่หลากหลายที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันก็มีอาชีพที่สูญหายเพราะหมดสมัย และการงานพื้นฐานอาชีพของเด็ก ป4 ในพศ.นี้ทำให้ผประหลาดใจและรู้สึกชื่นชมพร้อมกัน

ลูกมาขอยืมกล้องถ่ายรูปไปโรงเรียน เพื่อจะเอาไปเรียนวิชาการงานพื้นฐานอาชีพ ลูกเล่าให้ฟังว่าโรงเรียนมีอาชีพให้เลือกเยอะมาก แต่ลูกบอกกับผมแค่ว่า เขาเลือกอาชีพ รีวิว และถ่ายภาพ ซึ่งครูจะจัดกลุ่มให้ตามที่เหลือ และสุดท้ายก็ได้วิชารีวิว ส่วนถ่ายภาพนั้น บังเอิญได้เรียนเพราะมีการเลื่อนวิชากันเล็กน้อยทำให้ได้ไปเรียนถ่ายภาพ 1 คาบ

IMG_0344

1คาบของลูกที่เรียนถ่ายรูปจะต้องใช้กล้อง ก็เลยมาขอยืมจากพ่อ ด้วยความที่พ่อมีกล้องหลายตัวก็เลยเอามาเรียงให้เลือก มีกล้อง DSLR ตัวใหญ่เลนส์ใหญ่ที่พ่อเอาไว้ถ่ายภาพรับจ้าง มีกล้อง mirrorless ตัวเล็กเลนส์เล็กที่พกพาง่าย มีกล้องโพราลอยด์ด้วยที่เอามาให้ดูแต่ไม่ให้เลือก เพราะต้องใช้ฟิล์มโพลารอยด์ซึ่งมีราคาแพงมาก สุดท้ายลูกเลือกกล้องตัวเล็ก อย่าง eos m พร้อมเลนส์ตัวเล็ก 22f2 ซึ่งเป็นชุดกล้องและเลนส์ที่ขนาดเล็กแต่คุณภาพสูงมาก ลูกเลือกเพราะได้ลองถ่ายภาพแล้วเทียบกันแล้ว พบว่าภาพจาก eos m ให้ภาพสวยกว่า eos 6d

IMG_6111

ผ่านไปสองวัน ลูกกลับมาพร้อมกับภาพในเมมโมรี่ 4 ภาพ ภาพที่ส่งงานคือภาพก้อนหินในถุง หัวข้อการถ่ายภาพคือ สิ่งลึกลับ ครูชมว่าขอบฟ้าถ่ายภาพได้ดี ขอบฟ้าบอกครูว่าเพราะพ่อผมเป็นตากล้องครับ ก็นับว่าเป็นเรื่องน่าดีใจที่ลูกรู้ว่าพ่อเป็นตากล้อง พ่อชอบถ่ายภาพนั่นเอง สอบถามลูกอีกนิดเกี่ยวกับวิชาที่ครูสอน ครูไม่ได้สอนการถ่ายภาพเบื้องต้น ให้เด็กไปถ่ายเลย ซึ่งจุดนี้น่าสนใจ เพราะลูกเรียนวิชาถ่ายภาพ เจตนาเพื่อให้เล่าเรื่องด้วยภาพ ประเด็นนี้ผมคิดเอง ก็เห็นว่า ถูกต้องแล้วที่ไม่ได้สอนการถ่ายภาพเบื้องต้น เพราะกล้องถ่ายภาพเป็นแค่อุปกรณ์ การใช้งานอุปกรณ์ให้ถูกต้องจะต้องเป็นสิ่งที่ค้นหามาเอง วิชาเรียนควรมุ่งเน้นที่วัตถุประสงค์ ซึ่งก็น่าจะเป็นการเล่าเรื่อง ส่วนการรีวิวที่ลูกเลือกจริงๆ เดี๋ยวคงได้รู้ว่าเรียนอะไรกันบ้าง และได้ถามลูกแล้วว่าอยากจะรีวิวอะไร ลูกบอกว่าจะรีวิวส์เม้าส์

IMG_6091

การงานพื้นฐานอาชีพในยุคนี้มีอาชีพรีวิว มีอาชีพช่างภาพ ถือว่าเป็นเรื่องประหลาดใจสำหรับพ่อแม่รุ่นผมมาก เพราะว่าเป็นสิ่งที่เกินคาด เป็นพัฒนาการอย่างหนึ่งที่โรงเรียนพยายามทำ เป็นเรื่องน่าชื่นชม ก็หวังว่าจะมีอาชีพที่สนุกและน่าสนใจอีกหลายๆอาชีพที่เลือกมาอยู่ในหลักสูตร ผมคาดหวังว่าจะมีอาชีพนักวิเคราะห์ข้อมูล สตรีมเกมส์ นักแข่งอีสปอร์ต เขียนเว็บ เขียนโปรแกรม ทำคอนเท้นต์หลายๆแบบ รวมถึงอาชีพทางเกษตรที่มาพร้อมเทคโนโลยีอย่างสมาร์ทฟาร์มด้วย สิ่งเหล่านี้ไม่รู้จะมีจริงไหมสำหรับเด็กประถม แค่หวังว่าจะมีอาชีพใหม่ๆให้เด็กได้ลอง

รีวิว หูฟังไร้สาย Happy Plugs Air1

หูฟังสำหรับการฟังเพลงได้รับการพัฒนามาตลอดหลายปี ตั้งแต่เริ่มต้นเป็นหูฟังชนิด ear bud ที่แถมมากับเครื่องเล่นเพลง และพัฒนาต่อมาให้เป็นหูฟังที่ใช้งานกับโทรศัพท์มือถือ การใช้งานหูฟังกับโทรศัพท์ก็จะมีหลายวัตถุประสงค์ ตั้งแต่ใช้ฟังเพลง กับ ใช้พูดคุยซึ่งจะต้องทำหน้าที่กดรับสายหรือวางสายได้ด้วย หูฟังที่ใช้กับโทรศัพท์จะถูกเรียกว่าสมอลทอล์คและคำว่าสมอลทอล์คก็กลายเป็นคำศัพท์ทั่วไป เป็นตัวแทนของสายหูฟังไปในที่สุด

ในยุคแรกหูฟังสมอลทอล์คจะเป็นหูฟังคุณภาพต่ำพร้อมไมโครโฟนบนตัวสาย ใช้เสียบกับโทรศัพท์เพื่อการพูดคุยกัน ไม่ได้ออกแบบเอาไว้ฟังเพลง และพอโทรศัพท์เริ่มพัฒนาคุณภาพเสียงให้พอฟังเพลงได้ เราก็มีหูฟังสมอลทอล์คสำหรับคุยและฟังเพลงได้ แต่ยังเป็นแบบมีสายอยู่ และหูฟังสมอลทอล์คที่มีคุณภาพดีระดับพอใช้ได้ก็คือหูฟังที่แถมมากับโทรศัพท์ราคาสูงอย่าง iphone นับได้ว่าบริษัท apple ได้วางรากฐานอุปกรณ์ด้านนี้เอาไว้หลายอย่าง

IMG_0465

ส่วนหูฟังที่เน้นการพูดคุยแต่เพียงอย่างเดียวก็ถูกพัฒนาออกมาเป็นหูฟังบลูทูธ เป็นหูฟังข้างเดียวที่ใช้คุยเป็นหลัก โลกเราใช้หูฟังบลูทูธข้างเดียวอยู่เกือบ 20 ปี จนมีคนเริ่มทำหูฟังสำหรับฟังเพลงแบบไร้สายให้คุยโทรศัพท์ได้ พวกเราเลยมีหูฟังสำหรับฟังเพลงและพูดคุยในชิ้นเดียวกัน และสามารถทำเป็นระบบสเตอริโอสำหรับใช้งานสองหูได้ด้วย

จากการพัฒนาการไม่หยุดยั้งของโทรศัพท์มือถือ ก็ผลักดันให้หูฟังกลายเป็นระบบไร้สาย และ apple ก็ออกแบบหูฟังไร้สายออกมาขาย หน้าตาเป็น earbud แบบเดิมที่เคยมีขาย แต่กลายเป็นไร้สาย หรือ ไม่มีสายแล้ว เอา earbud มาถอดสายออกหน้าตาจะดูตลก แต่ใช้งานได้ดีมาก คุณภาพเสียงดีเหมือนเดิม แถมได้มีการออกแบบวิธีการใช้เสียใหม่ ลดความยุ่งยากที่เคยพบกับการเปิดปิด ลดปัญหาการการเชื่อมต่อลงไปหมดสิ้น แม้แต่การชาร์จไฟก็ออกแบบวิธีใหม่ให้ด้วย

เราเรียกหูฟังไร้สายที่ใช้สำหรับฟังเพลงและคุยโทรศัพท์ว่าเป็นหูฟังชนิด true wireless และจากการใช้งานแสนยุ่งยากของหูฟังบลูทูธในอดีต apple ก็ปรับปรุงวิธีการใช้ วิธีการพก วิธีการชาร์จไฟเสียใหม่ กลายมาเป็นหูฟ้งไร้สายที่มีกล่องใส่ มีแบตเตอรี่ในตัวหูฟังและมีแบตเตอรี่ในตัวกล่องใส่ กล่องนี้ทำงานเหมือนเพาเวอร์แบ๊งค์คอยจ่ายไฟชาร์จตัวหูฟัง เมื่อใช้งานหูฟังจนแบตลดต่ำลงเกือบหมด เราก็แค่เอาไปวางเก็บไว้ในกล่อง กล่องก็จะชาร์จไฟให้กับตัวหูฟัง และเมื่อใดที่เราหยิบหูฟังออกจากกล่อง หูฟังก็จะไปเชื่อมตัวเองเข้ากับโทรศัพท์โดยอัตโนมัติ และกล่องใส่หูฟังที่มีไฟในตัวก็เป็นกล่องที่ต้องอาศัยการเสียบสายชาร์จด้วย วิธีการออกแบบแนวนี้ทำให้หูฟังชนิดนี้น่าใช้งานมาก และลดปัญหาการลืมชาร์จไฟให้กับหูฟังได้อย่างยอดเยี่ยมเลย

apple ออกแบบหูฟังไร้สายใหม่ แล้วก็ขายได้ถล่มทลาย ทุกคนที่เปลี่ยนจากหูฟังแบบสายมาเป็นไร้สายก็จะชอบทุกคน เพราะสะดวกและไม่ต้องปวดหัวกับการต่อสาย ทำให้มีผู้ผลิตรายอื่นเข้ามาร่วมออกแบบ ร่วมผลิตเพื่อแบ่งยอดขายกันเป็นจำนวนมาก และยี่ห้อ Happy plugs ก็ทำหูฟัง true wireless หน้าตาเหมือนของ apple ออกมาขายเช่นกัน โดยใช้ชื่อรุ่นหูฟังนี้ว่า Air1

ลักษณะทั่วไป

หูฟัง Air1 เป็นหูฟังชนิด earbud มีแบตเตอรี่ในตัว เชื่อมต่อกับโทรศัพท์หรือเครื่องเล่นเพลงด้วยระบบ Bluetooth ในเว็บผู้ผลิตมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกหลายสีหลายลาย ส่วนในการทดสอบครั้งนี้เราได้สีดำมาลอง การหยิบออกจากกล่องจะเป็นการเปิดการทำงาน และเมื่อวางกลับลงไปในกล่องก็จะเป็นการปิดสวิตซ์ และเข้าสู่การชาร์จไฟอัตโนมัติ ในการควบคุมสั่งการหูฟังรุ่นนี้ ต้องใช้วิธีแตะที่ก้านหูฟัง เป็นการสั่งงานด้วยระบบสัมผัส โดยมีวิธีแตะอยู่หลายรูปแบบ แต่ละแบบก็จะไปทำงานแตกต่างกัน บนตัวกล่องจะมีช่องเสียบสาย micro usb เอาไว้ชาร์จไฟด้วย

IMG_0477

Specification

การเชื่อมจต่อ Bluetooth Version: 5.0

ระยะเวลาการใช้งานรวม 14h

ระยเวลาการใช้งานต่อการชาร์จหูฟัง 1 ครั้ง 3.5ชั่วโมง

Standby Time: 90h

ความจุแบตเตอรี่ในหูฟัง 30mAh

ความจุแบตเตอรี่ในกล่อง 400mAh

ขนาดดอกลำโพง 12mm

ควาไว 95dB ± 3dB

การตอบสนองความถี่ 20-20kHz

ความต้านทาน 16Ω

ขนาดกล่อง 51x63x20mm

น้ำหนักหูฟัง 3.75g

น้ำหนักกล่อง 35g

IMG_0467

ทดลองฟัง

โทรศัพท์ที่ใช้ทดสอบเป็นรุ่น Redmi note7pro และ โน้ตบุ๊ค asus Asus ใช้ซีพียูรุ่น Ryzen5

การสวมใส่กับหูทำได้ดีมาก สบายมาก เพราะพื้นฐานของรูปทรงของ Air1 เป็นหูฟัง earbud ดังนั้นใครคุ้นเคยกับการใช้ earbud ก็จะใช้ Air1 ได้สบายๆ ใส่นานเป็นชั่วโมงก็ไม่รู้สึกหูร้อนหรืออึดอัด ส่วนคุณภาพเสียงก็อยู่ในระดับที่เรียกว่าเสียงดี ลักษณะเสียงจะโปร่งฟังสบาย โทนเสียงย่านเบสมีให้ได้ยินพอดีๆ การตอบสนองของทุกย่านเสียงมีความดังพอๆกัน เสียงกลางเป็นเสียงที่ฟังได้ง่าย เสียงกลางจาก Air1 เป็นเสียงกลางที่ชัด ใส ราบรื่น ส่วนเสียงย่านแหลมก็มีประกาย และไม่เสียดหู

คุณภาพเสียงที่ได้ยินจะคล้ายกับหูฟัง earpod ที่แถมมากับ iphone แต่เพิ่มเบสและความกระฉับกระเฉงขึ้นไปอีกนิด ซึ่งโดยส่วนตัวผมชอบเสียงของหูฟัง earpod อยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ฟังเสียงจากคลิป youtube ก็ให้น้ำเสียงพูดของคนเป็นธรรมชาติ ฟังเพลงก็ได้ความโปร่งและชัด น้ำหนักเสียงเบสจะเหมาะกับการฟังเพลงป๊อป และอคูสติก

IMG_0471

ฟังเพลงร็อคหรือเพลงที่โชว์เสียงย่านต่ำเราจะได้เสียงต่ำที่กระชับ ไม่ล้น ไม่บวม Air1 เป็นหูฟังที่ให้เนื้อเบสไม่ใหญ่ แต่มีความรวดเร็วและไว เสียงกีต้าร์อคูสติกมีความใสและแรงประทะที่ชัด น้ำเสียงของนักร้องผู้หญิงหวานและไม่มีความรู้สึกบีบหรือเสียงอยู่ในกล่อง สามารถติดตามฟังเสียงลม เสียงเอื้อน เสียงลูกคอและเทคนิคการร้องต่างๆได้ชัดเจน มิติเสียงร้องทำได้ดีมาก

ใช้งานหูฟังตัวนี้จะฟังคลิปต่างๆได้เพลินมาก เผลอแป๊ปเดียวหมดเวลาไปเป็นชั่วโมง การสั่งการจะใช้วิธีการสัมผัส วิธีการสัมผัสมีหลายวิธี และหูด้านซ้ายและขวาต่างก็แยกกันรับคำสั่ง จะให้ดีอ่านคู่มือการใช้งานจากผู้ผลิตให้เข้าใจเสียก่อนจะดีที่สุด

การพูดคุยก็ทำได้ดีไม่มีปัญหา ระหว่างที่ฟังเพลง หากมีสัญญาณโทรเข้า เราสามารถแตะที่หูขวา 1 ครั้งเพื่อรับสายได้ และการพูดคุยก็ทำได้รู้เรื่อง ไมโครโฟนที่ติดกับหูฟังรับเสียงคนพูดได้ชัดเจน

touch control air1

มีข้อสังเกตุเรื่องคุณภาพสัญญาณบลูทูธ ตลอดเวลาที่ได้ทดสอบหูฟังตัวนี้ในบ้าน ในรถ ก็พบว่าเป็นหูฟังที่ใช้งานได้ง่าย สะดวก และสัญญาณค่อนข้างดี อาการสายหลุดหรือเสียงหายจะมีน้อย แทบจะไม่ผิดพลาดเลย แต่พอนำหูฟังตัวนี้ติดไปเดินห้าง โดยเสียบหูฟังเพื่อฟังเพลง แล้วเครื่องเล่นหรือโทรศัพท์อยู่ในกระเป๋ากางเกง เสียงจากหูฟังจะติดๆดับๆ มีอาการเหมือนสัญญาณหาย แนะนำว่า หูฟังตัวนี้ไม่เหมาะกับห้าง และไม่เหมาะที่จะใช้ในบริเวณที่มีคนจำนวนมาก ยิ่งหากเราใช้งานในบริเวณที่ขายเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือ ขายสมาร์ททีวีเยอะๆ อาการสะดุดจะยิ่งชัด หากเจอสถานการณ์เสียงสะดุดจะต้องใช้วิธีถือโทรศัพท์แทนการใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง เพื่อให้โทรศัพท์กับหูฟังไม่มีสิ่งใดกั้นไว้ จะช่วยให้รับสัญญาณในที่คนเยอะมากๆได้

ส่วนการนั่งกินอาหารในห้าง เราวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ ก็ทำงานได้ปกติดี อาการเสียงสะดุดหรือสัญญาณหาย จะเกิดกับบริเวณที่มีคนเยอะมากๆ เข้าใจว่าเป็นเพราะโทรศัพท์ของคนอื่นๆมีการส่งสัญญาณคลื่นความถี่ที่รบกวนหูฟังที่เราใช้งานอยู่ ผมลองโทรถามเพื่อนที่ใช้งานหูฟังบลูทูธเป็นประจำว่าเวลาเดินห้างมีปัญหาแบบนี้ไหม เพื่อนบอกของเขาก็มีอาการเดียวกัน เปลี่ยนมาหลายยี่ห้อก็ยังไม่หาย เชื่อว่าการรบกวนในห้างเป็นสิ่งที่เลี่ยงได้ยากมากสำหรับหูฟัง true wireless

ทดลองให้ภรรยาไปใช้ลองดูซีรีส์จากมือถือ iphone 6s ภรรยาแจ้งว่า เสียงดี และเสียงไม่ดีเลย์ ส่วนการฟังเพลงมีความเห็นว่า เสียงไม่แบน ปกติหูฟังสายที่ใช้ดูหนังฟังเพลงจะให้เสียงแบน ฟังเอาข้อความไม่ได้ฟังเอาความไพเราะ (ผมให้เขาใช้ oker ds300 เส้นละ 120บาท ไม่ใส่ฟองน้ำ) แต่กับ Air1 เขาได้ยินเสียงร้อง แยกจากเสียงดนตรี ตำแหน่งดนตรีมีซ้าย กลาง ขวา มีตัวตน ไม่แบน พอรู้ราคาว่าประมาณสามพันบาท เขาบอก “ไม่แพง ซื้อได้”

ข้อดี

เสียงดี โปร่ง ฟังสบาย ฟังได้นานไม่อึดอัด ใช้ดูหนังได้ไม่ดีเลย์ แบตใช้ได้นาน คุยโทรศัพท์รู้เรื่องดี

ข้อด้อย

สัญญาณสะดุดในที่ชุมชนคนเยอะ ต้องแก้ปัญหาด้วยการถือโทรศัพท์ด้วยมือ แทนที่การใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง

สรุป

หูฟัง Air1 เป็นหูฟัง earbud ระบบไร้สาย หรือ true wireless ที่สวมใส่ได้สบายมาก คุณภาพน้ำเสียงตอบสนองได้ราบลื่น น้ำเสียงน่าฟัง เสียงร้องหวานใส เสียงเบสกระชับ สามารถฟังได้นานโดยไม่ล้าหู สามารถสั่งการได้ด้วยระบบสัมผัส คุณภาพเสียงดีสำหรับการฟังดนตรี ใช้พูดคุยได้รู้เรื่อง มันยอดเยี่ยมมากสำหรับการใช้งานระหว่างขับรถและระหว่างการทำงาน ส่วนการใช้งานในที่มีคนเยอะหรือมีอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์เยอะอย่างในห้างก็จะมีอาการเสียงสะดุด แต่ก็แก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยการถือโทรศัพท์ไว้ในมือได้ เมื่อเดินผ่านจุดที่สร้างปัญหาเราจะกลับมาได้ยินเสียงที่ปกติ

ขอขอบคุณร้าน ร้านมั่นคงแก็ดเจ็ท ที่เอื้อเฟื้อให้ยืมสินค้ามาทดสอบนะครับ

รีวิว เครื่องเล่นเพลง Sony NW-A105

เครื่องเล่นเพลงพกพาเรามีมานานประมาณ 40 ปี ซึ่งในปัจจุบันเราผ่านการใช้งานเครื่องเล่นเพลงเหล่านี้มาหลายรูปแบบ ตั้งแต่เทปคาสเซ็ท แผ่นซีดี แผ่นมินิดิสก์ และปรับเปลี่ยนมาเป็นเครื่องเล่นไฟล์ที่ใช้สื่อบันทึกเป็นหน่วยความจำ ทั้งแบบแผ่นเมมโมรี่และหน่วยความจำภายใน เครื่องเล่นเพลงที่ฮิตที่สุดในโลกก็คือ ipod ของ apple แต่ในปัจจุบัน ipod แทบจะหยุดพัฒนาแล้ว ส่วน Sony มีออกเครื่องเล่นมาแล้วทุกรูปแบบ และในปัจจุบันก็เป็นเครื่องเล่นเพลงของ Sony ก็มีทั้งแบบที่ใช้ระบบปฏิบัติการเฉพาะกิจและใช้ระบบปฏิบัติการ android ของ Smartphone ด้วย

IMG_0370

Sony NW-A105 เป็นเครื่องเล่นตัวล่าสุดของปี คศ 2020 ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 9 โดยเป็นเครื่องเล่นที่มีความสามารถเล่นเพลงระดับ Hi-res ได้เกือบทุกชนิดเท่าที่โลกเราเคยมี วงการเพลงอยู่กับระบบเสียงดิจิทัลชนิด 16bit 44.1k มาหลายสิบปี และเริ่มมีมาตรฐานการเล่นที่ใช้ไฟล์ละเอียดขึ้นในช่วงสิบปีนี้ ความละเอียดเพิ่มจาก 16bit ไปเป็น 24 บิท อัตราแซมปลิ้งเพิ่มเป็น 96k จนไปถึง 192k และในที่สุด มาตรฐานไฟล์เสียงชนิดความละเอียดสูงตัวล่าสุดอย่าง DSD ก็ปล่อยออกมาให้นักเล่นได้ลองใช้งานกันแล้ว เครื่องเล่นเพลงยุคใหม่จะต้องเล่นเพลงได้ทุกระดับความละเอียด และ A105 ก็ทำได้ครบถ้วน

A105 เป็นเครื่องเล่นเพลงที่มีความสามารถเหมือนโทรศัพท์ Smartphone เครื่องหนึ่งที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android แต่ตัดช่องใส่ ซิมการ์ด และกล้องถ่ายภาพออกไป และใส่ความสามารถในการเล่นไฟล์ความละเอียดสูงเข้ามาเพิ่มเติม ใส่ชิพเสียงแปลงสัญญาณเสียงดิจิทัลเป็นอนาลอกที่ทันสมัยที่สุด ทำให้มันมีความสามารถเรื่องเพลงที่เหนือกว่าโทรศัพท์อย่างชัดเจน

ลักษณะทั่วไป

IMG_0371

A105 มีขนาดหน้าจอประมาณ 3.6 นิ้ว ความละเอียด 1280x720pixel ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องเล่นที่เล็กมากเมื่อเทียบกับโทรศัพท์ในยุคนี้ แต่หน้าจอเล็กและความละเอียดต่ำก็ไม่ได้เป็นปัญหาใดๆในการใช้งานเป็นเครื่องเล่นเพลง หน้าจอเป็นระบบสัมผัสไม่มีปุ่มด้านหน้าเลย โครงสร้างหลักของตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียมแข็งแรง ด้านขวาเป็นปุ่มกดที่ทำหน้าที่สำหรับการควบคุมการเล่นเพลง โดยมีสวิตซ์ Hold เอาไว้ล็อคการทำงานไม่ให้หน้าจอสัมผัสรับคำสั่ง ถัดมาจะเป็นปุ่มย้อนเพลง ปุ่มเล่น/หยุดชั่วคราว ปุ่มข้ามเพลง ตามมาด้วยปุ่มวงกลมที่ใหญ่กว่าปุ่มอื่นเป็นปุ่มลดเสียง ปุ่มเพิ่มเสียง และปุ่มสุดท้ายจะเป็นปุ่ม power กดเพื่อปิดหน้าจอ หรือ กดเพื่อเปิดเครื่องและปิดเครื่อง

IMG_0365

ส่วนด้านล่างของตัวเครื่องจะเป็นช่องเสียบหูฟัง ขนาด 3.5มม. ตามมาด้วยช่องร้อยสายสำหรับแขวน ช่องชาร์จไฟและสื่อสารข้อมูลเป็นพอร์ตชนิด usb-c และขวาสุดจะเป็นช่องใส่แผ่นหน่วยความจำชนิด microSD โดยมีแผ่นยางปิดทับช่องนี้โดยเฉพาะ ส่วนด้านซ้ายและด้านบนของตัวเครื่องเป็นแบบผิวเรียบไม่มีช่องต่อใดๆ ตัวเครื่องที่ขายในไทยเป็นแบบที่ไม่มีหูฟังแถมมาด้วย ซึ่งคงมีเหตุผลหลายอย่างที่ไม่แถมมา คาดว่ากลุ่มลูกค้าที่ซื้อ A105 จะเป็นนักฟังเพลงที่เน้นเรื่องคุณภาพเสียงเป็นประเด็นสำคัญ และนักเล่นกลุ่มนี้น่าจะมีหูฟังตัวโปรดอยู่แล้ว ทาง Sony เลยไม่มีการแถมหูฟังให้

สเป็คตัวเครื่อง

ระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 9

กำลังขับ 35+35 มิลลิวัตต์

ตอบสนองความถี่ 20-40,000 Hz

ซีพียู ARM cortex A53 quad -core Rom16 Ram4gb (ข้อมูลจาก Gizmodo)

ใส่หน่วยความจำเพิ่มเติมได้ 1 ช่อง เป็น ชนิด : Micro SD Micro SDHC Micro SDXC

ระบบ bluetooth เวอร์ชั่น 5 มีระบบ NFC มี wifi

ขนาด ประมาณ 55.9 มม. x 98.9 มม. x 11.0 มม.

น้ำหนัก 103g

ไฟล์เสียงที่เล่นได้ MP3 (.MP3): 32 – 320kbps (สนับสนุนอัตราบิตแปรผัน (VBR)),/ 32, 44.1, 48kHz,WMA ( .WMA): 32 – 192kbps (สนับสนุนอัตราบิตแปรผัน (VBR) ) / 44.1kHz,FLAC ( .flac): 16, 24 บิต / 8-384kHz,WAV ( .WAV): 16, 24, 32 บิต (Float / Integer) / 8-384kHz,AAC ( .mp4, .m4a, .3gp): 16-320kbps / 8-48kHz,HE-AAC ( .mp4, .m4a, .3gp): 32-144kbps / 8-48kHz,Apple Lossless ( .mp4, .m4a): 16, 24 บิต / 8-384kHz,AIFF ( .aif, .aiff, .afc, .aifc): 16, 24, 32 บิต / 8-384kHz,DSD ( .dsf, .dff): 1bit / 2.8224, 5.6448, 11.2896 MHz *เอาต์พุตคือเสียงที่ถูกแปลงเป็น Linear PCM,APE ( .ape): 8, 16, 24 บิต / 8-192kHz (Fast, Normal, High) ,MQA ( .mqa.flac): สนับสนุน

ทดลองฟัง

เพลงที่ใช้ทดสอบส่วนใหญ่เป็นเพลง 16bit 44.1kHz และมีเพลงความละเอียดสูงระดับ 24bit รวมถึงไฟล์ DSD ด้วย แต่มีข้อมูลต้องแจ้งเบื้องต้นก่อนว่า ระบบปฏิบัติการ android จะมี app เล่นเพลงที่ติดมามีความสามารถในการเล่นไฟล์เสียงได้แค่ระดับ 16bit 48kHz เท่านั้น หากจะเล่นไฟล์เพลงความละเอียดสูง ต้องใช้ app เฉพาะของ Sony ที่มีมาให้พิเศษ และนั่นหมายความว่า ใครเอา A105 ไปฟัง youtube หรือ spotify หรือระบบ stream ใดๆทุกชนิด จะได้คุณภาพเสียงที่ไม่เกิน 16bit 48kHz หรือ cd quality เท่าน้ัน

A105 ให้ระบบ Noise Canceling มาด้วย แต่ไม่ได้ให้หูฟังมา และระบบนี้ต้องใช้กับหูฟังรุ่นที่ออกแบบมาเฉพาะให้ใช้กับเครื่องนี้ ซึ่ง ผมไม่มี และคงไม่มีใครมีเพราะไม่ได้มีขายมาพร้อมเครื่อง หูฟังรุ่นนี้คือ  IER-NW510N หากไม่ใช้กับรุ่นนี้ เราก็ต้องข้ามไปใช้หูฟังระบบบลูทูธบางรุ่นที่ sony ระบุว่าใช้ได้อย่าง WH-XB900N กับ MH-1000XM3 ส่วนระบบการปรับแต่งเสียงมีให้อีกหลาย 6 แบบ ซึ่งลองแล้วบางอย่างก็ฟังออก บางอย่างก็ฟังไม่ออก โดยในการทดลองฟังผมจะเลือกไปที่ direct soundเป็นหลัก คือไม่ปรับแต่งเสียงเลย การเลือกหูฟังมาฟังทดสอบผมเลือกใช้ Koss KSC35 ต่อตรงกับเครื่องเล่น ส่วนอีกชุดใช้ AKG K701 ผ่านแอมป์หูฟัง ใช้สองตัวเป็นหลัก

A105 ต่อตรงกับ KSC35 ให้น้ำเสียงที่กลมกล่อมพอใช้ได้ เสียงเบส กลาง แหลม ออกมาอย่างครบถ้วน คุณภาพเสียงจากไฟล์ 16bit 44.1k ให้น้ำเสียงที่คมชัด เสียงย่านเบสลึกจะพอมี แต่ไม่ค่อยได้ยินชัดเท่าเสียงกลาง ส่วนกลางแหลมให้น้ำหนักที่ดี เสียงร้องมีความใหญ่และโฟกัสชัด ติดตามได้ง่าย เสียงโดยรวมจะออกไปทางหนา ไม่มีอาการเสียงจัดหรือสากเสี้ยนเล็ดลอดมาให้ได้ยินเลย เพลงอคูสติก ของ ธีร์ ไชยเดช ให้ความนุ่มนวลละมุนละไม ฟังเพลินๆ หรือ เพลงโชว์เสียงร้อง over the rainbow จากอัลบั้ม audiophile voice ก็ได้เสียงร้องที่ชัดมาก เสียงลำคอเสียงลูกคอได้ยินทุกเม็ดเลย

เสียงนักร้องหญิงหวานใส เพลง fly me to the moon ที่ร้องโดย Susan Wong มีโฟกัสชัด และได้ยินเสียงหายใจระหว่างที่กำลังร้อง เสียงเปียโนที่เล่นบางๆอยู่ในหลายๆเพลงก็เป็นเสียงที่กังวาล เสียงย่านเบสคลุมเครือเล็กน้อย เข้าใจว่าเป็นผลจาก KSC35 ที่เป็นหูฟังเน้นเบสลูกใหญ่

ฟังกับเพลงป๊อปร๊อคของไทย ก็พบว่า คู่ A105 กับ KSC35 ให้น้ำหนักเสียงที่แน่นและเบสไม่ขาดแคลน ฟังได้นาน หน้าจอของเครื่องจะเปลี่ยนเป็นภาพเทปคาสเซ็ททุกครั้งที่มีการเล่นเพลง ถือว่าเป็นลูกเล่นหน้าตาดีอีกอย่างหนึ่งของเครื่องเล่นตัวนี้

IMG_0382

แบตเตอรี่หมดค่อนข้างเร็วเมื่อเทียบกับโทรศัพท์ทั่วไป แม้แต่การชาร์จเต็มแล้วถอดสาย ปล่อยไว้ทั้งคืนโดยไม่ได้ใช้งานแบตก็ลดลงไปเร็วกว่าโทรศัพท์ อาจจะเป็นเพราะตัวเครื่องให้แบตเตอรี่ความจุต่ำกว่าปกติก็เป็นไปได้ เพราะตัวเครื่องมีขนาดเล็กกว่าโทรศัพท์มาก สิ่งหนึ่งที่ชอบในเครื่องเล่นเพลงตัวนี้นอกจากเสียงที่ดีแล้วคือการมีปุ่มบังคับเพลงเป็นปุ่มเฉพาะทำให้ใช้งานได้สะดวก และยิ่งสะดวกมากเมื่อนำไปใช้งานบนรถยนต์ เพราะว่าเราสามารถกดข้ามเพลง ได้ง่ายโดยไม่ต้องละสายตามาดู ใช้มือคลำแล้วสัมผัสปุ่มที่เราจำได้ แล้วก็กดได้เลย การสั่งการข้ามเพลง ลดเสียง เพิ่มเสียง หรือ หยุดเล่น ทำได้แบบไม่ต้องมองทำให้การขับรถของเราปลอดภัย คนที่ใช้เครื่องเล่นเพลงแบบนี้ต่อไว้ในรถน่าจะชอบ

ผมใช้เครื่องเล่นเพลงตัวเก่าอย่าง Aune M1 มาหลายปี สิ่งที่ชอบคือคุณภาพน้ำเสียงที่ได้ เจ้า A105 ก็ให้เสียงที่ดีได้ไม่ต่างกัน การเล่นไฟล์เพลง 16bit ที่ rip ออกจากแผ่นซีดีมีคุณภาพที่ดีมากทั้งคู่ แต่สิ่งที่คิดมาตลอดก็คือ ถ้า Aune M1 เล่นไฟล์เพลงชนิดอื่นได้ก็คงสะดวกดี นั่นทำให้ A105 น่าใช้มากกว่า Aune M1 ในปัจจุบันก็มีเครื่องเล่นอีกหลายเครื่องที่เล่นได้ทั้ง mp3 wav flac แต่ระยะหลัง ผมมีการโหลดคลิปจาก youtube มาฟังด้วย การโหลดบางครั้งเป็นไฟล์ video บางครั้งก็ดูจาก youtube เลย รวมถึงการฟังเพลงผ่านระบบ stream ก็มีเพลงมากมายมหาศาลให้เราเสพ ก็คิดต่อว่า ถ้าเครื่องเล่นเพลงเราสามารถต่อเน็ตได้ ถ้าเครื่องเล่นเพลงเราเล่นได้ทุกอย่างเหมือนมือถือก็คงดี นั่นก็คือ Sony A105 ตัวนี้เลย

IMG_0416

การมีเครื่องเล่นที่เก่งเหมือนโทรศัพท์มือถือยุคปัจจุบัน และมีคุณภาพเสียงระดับสูงเพื่อการฟังเพลงจริงจัง ผลรวมความสามารถและคุณภาพที่ต้องการออกมาเป็น A105 ก็เป็นจุดที่ดีน่าใช้งาน เพลงอะไรที่มีที่เคยสะสมไว้เอาไปใส่ A105 ก็เล่นได้ทุกชนิด แบบนี้สะดวกมาก และเมื่อลองเอาไปฟังกับชุดเครื่องเสียงบ้าน ต่อสายสัญญาณ mini to RCA เข้ากับแอมป์บ้าน ฟังผ่านลำโพงคู่หลัก น้ำเสียงใสและอิ่มหวานก็ออกมาได้ง่ายๆ เสียงนักร้อง เสียงเครื่องดนตรี เรียงตัวอยู่หลังลำโพง ซาวด์สเตจทางลึกยอดเยี่ยม มีลำดับชั้นที่ชัด และแยกแต่ละเครื่องดนตรีมีช่องไฟห่างกันพอดี ติดตามฟังแต่ละชิ้นดนตรีได้ง่าย ผมสามารถถอดเมมโมรี่จากเครื่องเล่นเพลงตัวเก่ามาใส่ A105 แล้วใช้งานต่อได้เลย เพราะมันเปิดไฟล์ได้ทุกชนิด ไม่เหมือนกับการเพิ่มเพลงเข้า Aune M1 ที่เล่นได้แต่ wav

แม้ว่าการฟังเพลงจากระบบ stream จะได้คุณภาพเสียงระดับ 16bit เท่านั้้น ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายของเครื่องเล่นเพลง hi-res เพราะว่า ต้นทางก็ส่งสัญญาณมาไม่เกิน 16bit อยู่แล้ว เสียงอนาลอกที่ออกจาก A105 มีความไพเพราะ ละมุนละไมมากกว่าโทรศัพท์ธรรมดา คราวนี้เครื่องเสียงชุดใหญ่ในบ้านของเราก็สามารถเปิดฟังระบบ stream ได้คุณภาพสูงแล้วจากการใช้ผ่าน A105

A105 ต่อตรงกับหูฟัง AKG K701 ให้เสียงธรรมดา เรียกว่าไม่พอก็ได้ กำลัง 35มิลลิวัตต์น้อยเกินไปสำหรับการขับหูฟังตัวใหญ่ น้ำเสียงที่ได้มีอาการอั้นๆ เสียงกลองหนักๆจะมีน้ำเสียงไม่กระชับ บางครั้งมีเสียงเสียดหูในบางจังหวะ แต่ถ้ามีแอมป์หูฟังมาต่อใช้งานช่วยขับ K701 เราก็จะได้คุณภาพเสียงที่ดีตามปกติกลับมา เสียงย่านเบสที่เคยคลุมเครือเมื่อฟังผ่านหูฟังแบบต่อตรง พอใช้ K701 พร้อมแอมป์ก็ให้ความคมชัดแยกแยะได้ดีขึ้นมาก A105 เป็นเครื่องเล่นเพลงที่ถ่ายทอดคุณภาพเสียงตรงไปตรงมา ผมได้ฟังเสียงที่ดีมากจากไฟล์เพลงคุณภาพสูง และได้ยินเสียงที่ไดนามิคแคบๆจากเพลง mp3 บิทเรทต่ำ

ข้อดี

เล่นไฟล์เพลงได้หลากหลาย

เสียงดี ใช้กับเครื่องเสียงบ้านชุดใหญ่ก็ดี

มีปุ่มกดข้ามเพลง เพิ่มลดเสียง ทำให้ปลอดภัยต่อการใช้งานตอนขับรถ

ข้อเสีย

แบตหมดเร็ว

สายชาร์จต้องเลือกคุณภาพดี สายบางเส้นชาร์จไม่เข้า

IMG_0425

สรุป

Sony A105 เป็นเครื่องเล่นเพลงคุณภาพสูง สามารถเล่นไฟล์เพลงได้หลากหลายมาก นอกจากไฟล์เพลงคุณภาพสูงแล้ว มันยังเล่นเพลงจากระบบ stream เพลงได้อีกด้วย เป็นข้อดีที่เพิ่มขึ้นจากเครื่องเล่นไฟล์เพลงทั่วไป ขนาดที่เล็กทำให้เหมาะสมในการพกพา แม้ว่าแบตเตอรี่จะหมดเร็วไปหน่อย แต่ก็ยังน่าใช้เพราะมันเสียงดีจริง ปุ่มกดด้านข้างตัวเครื่องมีประโยชน์มากสำหรับการสั่งงานแบบไม่มองหน้าจอ ถูกใจคนฟังเพลงตอนขับรถมาก

ขอขอบคุณร้าน ร้านมั่นคงแก็ดเจ็ท ที่เอื้อเฟื้อให้ยืมสินค้ามาทดสอบนะครับ

รีวิว Dac-Amp หูฟัง iBasso DC02

IMG_0319

โลกเรามีหูฟังเพื่อใช้งานกับเครื่องเสียงต่างๆ แจ๊คเสียบหูฟังส่วนใหญ่เป็นแบบขากลม 3.5มม. ซึ่งเป็นแบบนี้แต่ไหนแต่ไร เป็นมานานสี่สิบปีแล้ว ส่วนโทรศัพท์มือถือในยุคแรกๆที่สามารถฟังเพลงได้ก็มีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม. มาให้ เราสามารถใช้หูฟังตัวเดิมที่เคยมีอยู่นำมาเสียบกับโทรศัพท์ได้เลย หรือแม้แต่การซื้อหูฟังอัพเกรดเป็นรุ่นที่แพงขึ้นเพื่อคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นเราก็สามารถซื้อหูฟังที่ใช้แจ็คเสียบขากลมแบบ 3.5มม.มาใช้ได้ทันที

IMG_0329

แล้ววันดีคืนดี ผู้ผลิตโทรศัพท์ก็ดันเอาช่องเสียบ 3.5 มม. ออกจากโทรศัพท์ ด้วยเหตุผลว่ามันเปลือง มันไม่ได้ใช้ อยากจะผลักดันให้ลูกค้าไปใช้หูฟังบลูทูธแทน ซึ่งโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆก็ค่อยๆทะยอยเอาช่องเสียบแบบ 3.5มม.ออกไป ผลก็คือ เราใช้หูฟังทั่วไปกับโทรศัพท์รุ่นใหม่ไม่ได้แล้ว ยิ่งเป็นโทรศัพท์รุ่นท๊อปถึงรุ่นกลางๆก็ไม่มีช่องเสียบ 3.5 มม.แล้วด้วย นี่เป็นปัญหาสำหรับนักฟังเพลงที่มีหูฟังตัวโปรดอยู่แล้วไม่สามารถนำไปใช้กับโทรศัพท์รุ่นใหม่ได้

IMG_0361

iBasso เป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงพกพามาหลายปี ผมรู้จัก iBasso จากเครื่องขยายเสียงสำหรับหูฟัง หรือที่เราเรียกกันว่า แอมป์หูฟัง ในเวลาเริ่มต้น iBasso พบปัญหาว่า เครื่องเล่นเพลงที่มีอยู่ไม่สามารถทำงานกับหูฟังเกรดสูงๆหรือสเป็คโหดๆได้ ทำให้จำเป็นต้องมีแอมป์หูฟัง iBasso ก็เลยออกผลิตภัณฑ์แอมป์หูฟังออกมาสู่ตลาด และก็ได้รับความนิยมมากในกลุ่มนักฟังเพลง

ต่อมา iBasso ก็เริ่มมีเครื่องเล่นเพลงและหูฟังของตัวเองด้วย นักเล่นสามารถเลือกเครื่องเล่นเพลงคุณภาพสูงของยี่ห้อนี้ได้ สามารถใช้หูฟังของเขาเองได้ แต่ iBasso ก็ยังไม่ทิ้งแอมป์หูฟังที่เคยทำ ได้มีการปรับปรุงแอมป์หูฟังใหม่ให้สามารถใช้งานกับโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่ไม่มีช่องสัญญาณขาออกแบบ 3.5มม. นั่นคือโทรศัพท์รุ่นใหม่ใช้พอร์ต usb-c เป็นช่องเชื่อมต่อหลัก iBasso เลยออกแอมป์หูฟังที่สามารถเสียบกับช่อง usb-c แล้วเปลี่ยนสัญญาณเสียงดิจิทัลจากเครื่องโทรศัพท์ให้เป็นสัญญาณขาออกแบบ 3.5มม. เพื่อให้ใช้งานกับหูฟังระบบเก่าได้ พร้อมทั้งยังมีการใส่วงจรแปลสัญญาณดิจิทัลเป็นอนาลอกหรือ DAC ให้เป็นชิพเสียงรุ่นที่ทันสมัยที่สุดอีกด้วย

IMG_0317

สเป็คของ iBasso dc02

ขนาด 12cm

น้ำหนัก 8กรัม

ตัวแปลงสัญญาณเสียงดิจิทัล AK4490 PCM 32bit/384kHz และถอดรหัสสัญญาณดิจิทัล DSD 256x

แรงดันไฟขาออก 0.9V

กำลับขับ 113 mw ที่ 32 โอห์ม

ตอบสนองความถี่ 20-40000 Hz +-0.5db

ผลการทดลองฟัง

ผมใช้ DC02 เสียบเข้าไปกับโทรศัพท์ Redmi note 7 ที่ใช้ android เวอร์ชั่น9 โดยโทรศัพท์เครื่องนี้มีช่องหูฟัง 3.5มม. อยู่แล้ว การเสียบ DC02 เข้าไปก็จะทำให้เรามีช่องเสียบหูฟังเพิ่มขึ้นอีกช่อง และได้ทดลองฟังแบบต่อหูฟังเข้ากับช่องบนโทรศัพท์เทียบกับต่อเข้ากับ DC02

หูฟังที่ใช้ก็มีหลากหลาย ตั้งแต่ KSC35 ที่เป็นหูฟังแปะใบหู กับ AKG K701 ที่เป็น Fullsize ความต้านทานสูง ความไวต่ำ และ หูฟัง Yuin PK1 ที่เป็นหูฟัง ear-bud ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหูฟังขับยากอีกตัวแถมยังความต้านทานสูงอีกต่างหาก

IMG_0331

น้ำเสียงของ DC02 ให้ความโปร่งใสมากกว่าช่องเสียบเดิมบนเครื่องโทรศัพท์ ความโปร่งใสทำให้เราได้ยินเสียงกลางที่ไพเราะกว่า เสียงใสกว่า เสียงหวานกว่า และมีน้ำหนักของจังหวะดนตรีต่างๆที่หนักแน่นขึ้น เสียงกลองเสียงเครื่องเคาะต่างๆได้ยินชัดและมีแรงประทะที่แรงขึ้น ส่งผลให้ดนตรีน่าฟังยิ่งขึ้นในระดับเสียงที่ดังเท่ากัน แสดงว่าภาค dac ใน DC02 มีคุณภาพสูงกว่า Dac ในโทรศัพท์เยอะ และ ภาคแอมป์ของ DC02 ก็เป็น headphoneamp ที่ดีกว่าโทรศัพท์

ฟังกับ AKG K701 น้ำเสียงของ DC02 ผ่านหูฟังขนาดใหญ่ก็ฟังได้เพลิดเพลิน เสียงเดิมก่อนใช้ก็จะฟังแค่พอใช้ได้ แต่พอเสียบหูฟังเข้ากับ DC02 ก็กลายเป็นเสียงที่มีความกระฉับกระเฉงยิ่งขึ้น เสียงร้องมีแอมป์เบี้ยนหรือประกายมากขึ้น เรียกว่าเสียงร้องหวานขึ้นได้เลย

ทดลองกับ Yuin PK1 ก็ให้ผลลัพธ์ไปทางเดียวกัน โทรศัพท์มือถือธรรมดากลายเป็นเครื่องเล่นเพลงคุณภาพดีขึ้นทันที เป็นการอัพเกรดโทรศัพท์ให้เสียงดีในงบประมาณแค่ไม่ถึงสองพันบาท ซึ่งผมชอบเสียงของ pk1 บน DC02 มากกว่า เสียงจาก K701 เสียอีก เหมือนกับว่าเสียงจาก DC02 จะขับ K701 ไม่สุด เพราะยังคงเหลือปลายเสียงจัดจ้านปะปนมาบ้าง แต่กับ PK1 จะให้ความนุ่มนวลมาก สากเสี้ยนเสียงรอดไรฟันจะไม่แทงหูเลยเมื่อฟังผ่าน PK1

ข้อเสียอย่างเดียวของ DC02 ก็คือ มันเสียบอยู่บนพอร์ตซึ่งใช้พลังงานจากโทรศัพท์ ขณะที่เราใช้งาน DC02 เราจะไม่สามารถชาร์จไฟให้กับโทรศัพท์ได้ ตรงนี้เป็นสิ่งที่เราต้องยอมแลก และมันก็หมายความว่า ถ้าแบตเหลือน้อย หรือเกือบหมด เราจะอยากชาร์จไฟมากกว่าเสียบ Dac เพื่อฟังเพลง และมันมันจะทำให้เราเสียบ DC02 เอาไว้ตลอดเวลาไม่ได้ ต้องมีเวลาเอาพอร์ตนี้ไปเสียบชาร์จไฟด้วย

IMG_0325

ผมทดลองเอา DC02 ไปเสียบกับโน้ตบุ๊ค Asus รุ่นใหม่ที่มีพอร์ต usb-c มาให้ใช้ด้วย โดยระบบปฏิบัติการเป็นวินโดส์10 ผลการทำงานก็ทำงานได้ราบลื่น เสียบแล้วฟังเพลงได้เลย ไม่ต้องลงไดรเวอร์ใดๆ วินโดส์จัดการเพิ่มไดรเวอร์และติดตั้งให้ในเวลาไม่นาน คุณภาพของ DC02 บนโน้ตบุ๊ควินโดส์ก็มีคุณภาพที่ดีขึ้นชัดเจน เสียบแล้วก็ไม่อยากเอาออก ทดลองฟังด้วยโปรแกรมเล่นเพลงอย่าง spotify ก็ให้น้ำเสียงที่น่าฟัง เสียงแนวอคูสติกหรือแนวออดิโอไฟล์ก็ได้พลังเสียงที่กระฉับกระเฉงขึ้น น่าฟังขึ้น เช่นกัน การใช้งานกับคอมพิวเตอร์น่าจะเป็นข้อดี ไม่มีข้อเสีย เพราะคอมพิวเตอร์ใช้พลังงานจาก อแด๊ปเตอร์โดยตรง เราใช้พอร์ต usb-c กับ DC02 ได้ยาวๆเลย

ผมลองกับโทรศัพท์ Huawei P9 ซึ่งเป็นโทรศัพท์รุ่นเก่าที่ซื้อเมื่อปี คศ2016 ก็ปรากฏว่าใช้งานไม่ได้ ไม่มีเสียงออก ดังนั้นก่อนที่จะซื้อ DC02 ต้องลองเอาโทรศัพท์ที่จะใช้งานมาลองเสียบดูเสียก่อน ถ้ามีเสียงก็ค่อยซื้อ

IMG_0313

สรุป

ibasso DC02 เป็น DAC-AMP ที่มีคุณภาพแตกต่างจากฮาร์ดแวร์ที่ติดเครื่องโทรศัพท์มา ใช้สำหรับอัพเกรดระบบเสียงของโทรศัพท์ให้ดีขึ้น และใช้กับโทรศัพท์บางรุ่นที่ตัดช่องเสียบหูฟังชนิดกลม 3.5มม.ออกไป ทำให้เราสามารถใช้หูฟังขากลมกับโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่ไม่มีช่อง 3.5มม.ได้ คุณภาพเสียงของ DC02 มีความคมชัด โปร่ง ใส และ ฉ่ำหวานมากกว่าเสียงที่ได้จากโทรศัพท์โดยตรง ภาค DAC เลือกใช้ชิพแปลงสัญญาณที่มีคุณภาพสูง มีความสามารถสูง สามารถแปลงสัญญาณดิจิทัลได้ที่ระดับ PCM 32bit/384kHz และถอดรหัสสัญญาณดิจิทัล DSD 256x ได้ คนที่ชอบฟังเพลงจาก youtube และ เพลงจากระบบ stream ของค่ายไหนก็ตาม ก็จะได้รับคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน และดูเหมือนกับว่า DC02 จะเข้ากันได้กับ pk1 เป็นพิเศษ

ขอขอบคุณร้านมั่นคงแก็ดเจ็ทที่เอื้อเฟื้ออุปกรณ์ในการทดสอบครับ

รีวิว หูฟัง Yuin PK1 หูฟังผ้าขี้ริ้วห่อทอง

หูฟังที่ได้รับความนิยมในการแถมมากับเครื่องเล่นเพลงตั้งแต่ยุคสมัยของเครื่องเล่นเทปวอล์คแมน จนมาถึงยุคของเครื่องเล่นซีดีพกพาก็จะเป็นหูฟังชนิด earbud ซึ่งรูปทรงของหูฟังแนวนี้จะมีหน้าตาคล้ายๆกัน ตัวส่งเสียงขนาดเล็กจะมีขนาดใกล้เคียงกับเหรียญบาท มีก้านยาวๆยื่นออกมาสัก 1 นิ้ว เวลาใช้งานก็จับยัดใส่ช่องหู แล้วก็ฟังเพลง

IMG_0312

เครื่องเล่นเพลงที่เป็นชนิดไฟล์ดิจิทัลยุคแรกก็แถมหูชนิด earbud นับได้ว่าหูฟังทรงนี้เป็นหูฟังรูปแบบแรกๆของเครื่องเสียงพกพา แม้ในระยะหลังภายใน 10 ปีล่าสุดนี้หูฟังชนิดยัดจมเข้าไปในหูอย่าง in-ear จะเป็นของที่ได้พบเจอมากขึ้น แต่หูฟัง earbud ก็ยังได้รับความชื่นชมในกลุ่มนักฟังเพลงอยู่ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง

Yuin เป็นบริษัทจากจีนที่ทำหูฟัง earbud พิมพ์นิยมออกมาขาย มีชื่อรุ่นว่า pk1 pk2 pk3 แต่ละรุ่นก็เป็น earbud ที่มีความสามารถและบุคลิกเสียงต่างกัน โดย pk3 จะเป็นรุ่นล่างสุด pk2 เป็นรุ่นกลาง และ pk1 เป็นรุ่นสูงสุด และแพงที่สุดด้วย

IMG_0309

ในไทยมีความนิยม earbud มายาวนานแล้ว แต่มานิยมมากๆในยุคที่เครื่องเล่น ipod รุ่งเรืองสุดขีด เพราะมีนักเล่นหลายคนที่อัพเกรดหูฟังให้ดีกว่าของแถมก็ต้องหาซื้อหูฟังตัวใหม่มาใช้ และในตลาดก็มีหูฟังยี่ห้อฝรั่งอย่าง sennheiser และ ยี่ห้อญี่ปุ่นอย่าง sony ที่มี earbud หลายรุ่นให้เลือกใช้งาน เพราะเป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยมมากโดยเฉพาะในประเทศไทย ส่วนหูฟังยี่ห้อจีนจะไม่มีใครสนใจเลยยกเว้น pk1 ที่ราคาสูงเอาเรื่อง แต่สิ่งที่ทำให้มันดังก็คือ คุณภาพเสียงนั่นเอง

นักเล่นเครื่องเสียงที่ชอบฟังเพลงผ่านหูฟังในระดับที่จริงจังก็จะยกให้ pk1 เป็นหูฟังระดับหัวแถวของวงการ ทั้งในแง่ของการใช้งานที่ต้องเลือกเครื่องเล่นที่มีพละกำลังสูงสักหน่อย หรือต้องมีแอมป์หูฟังคุณภาพสูงมาต่อกับมัน ก็คือต้องพิถีพิถันในการเล่นหูฟังตัวนี้มากเป็นพิเศษ ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงก็ลือกันว่า เสียงดี เสียงกลางชัด เสียงเบสลึกมาก เลยเป็นที่มาของการฟังทดสอบในครั้งนี้

pk1 ขึ้นชื่อว่าเป็นหูฟังที่ขับยาก เพราะความต้านทานที่สูงมากของตัวมันทำให้เครื่องเล่นพกพาบางเครื่องที่มีกำลังขับน้อยนิดถึงกับใช้งานร่วมกันแล้วได้เสียงที่ห่วยไม่น่าฟังเลย แต่หากได้ลองใช้กับแอมป์หูฟัง หรือเครื่องเล่นไฟล์เพลงที่มีภาคขยายคุณภาพสูงแล้วล่ะก็ จะได้ผลลัพธ์เป็นเสียงที่ดีได้ไม่ยาก บางคนต้องหาแอมป์ทั้งแบบพกพาและแบบตั้งโต๊ะมาเพื่อใช้กับมัน และการฟังทดสอบครั้งนี้เราก็ลองฟังทั้งแบบต่อตรงและต่อผ่านแอมป์หูฟังด้วย

สเป็คของหูฟัง pk1

ความต้านทาน 150 โอห์ม

ตอบสนองความถี่ 20-24000 Hz

ความไว 109db

แจ็คเสียบขนาด 3.5 มม. ชนิด 3 ขั้ว (มีขีดดำ 2 ขีด)

ทดลองฟัง

IMG_0258

ผมได้รับหูฟังมาจากร้านมั่นคงแก็ดเจ็ท โดยได้มาเฉพาะตัวหูฟังเป็นเส้นเลย ไม่ได้แพ็คเกจและกล่องมาด้วย เลยไม่ได้ถ่ายภาพกล่องใส่ให้ดูซึ่งเป็นกล่องดูเชยๆและดูไม่น่าจะเป็นของราคาแพงเลย แต่ราคาขายของหูฟังรุ่น pk1 ตัวนี้อยู่ในระดับ 4990 บาท (ราคาปี พ.ศ.2563) อุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันทดสอบมีหลากหลาย ตั้งแต่ ipod shuffle gen1 เป็นเครื่องเล่นเพลงที่ผมชอบมานานและมั่นใจว่าเป็น ipod ที่มีกำลังขับสูงที่สุดในบรรดา ipod ทุกรุ่น คุณภาพเสียงไว้ใจได้ มี ipod nano gen6 ที่เป็นตัวเล็กพกง่าย และมีความจุเพียงพอสำหรับการบรรจุเพลงให้ฟังได้นานทั้งวัน เครื่องเล่นเพลงตัวอื่นที่ใช้ก็ยังมี Aune M1 ซึ่งเป็นเครื่องเล่นไฟล์ชนิด wav เท่านั้้น เครื่องนี้จะมีคุณภาพสูงมาก และมีกำลังขับในตัวที่มากเพียงพอจะขับหูฟังที่ขึ้นชื่อว่าขับยาก

IMG_0253

ส่วนแอมป์หูฟังที่ใช้ก็จะเป็นแอมป์ Diy ทำเองสร้างเอง ซึ่งเป็นแอมป์ที่สามารถใช้ขับหูฟังขนาดใหญ่หรือหูฟังความต้านทานสูงได้เป็นอย่างดี และใช้งานเป็นแอมป์หูฟังตัวหลักอยู่ในชุดตั้งโต๊ะ กำลังขับ 1 วัตต์ สามารถใช้ขับลำโพงขนาดใหญ่ได้เลย กับบางเวลาก็ใช้ Aune B1 ซึ่งเป็นแอมป์หูฟังคุณภาพสูงอีกตัวหนึ่ง ตัวนี้ได้ขอยืมเพื่อนมาลองฟังทดสอบด้วย

มาเริ่มที่คุณภาพเสียงของ pk1 กันดีกว่า pk1 ชั่วโมงแรกที่ทดลองฟัง ผมรู้สึกอยากเขวี้ยงทิ้งเลย เพราะว่าน้ำเสียงย่านทุ้มมีความบวมและล้นจนคล้ายๆกับหูฟัง in-ear คุณภาพต่ำ ส่วนเสียงกลางกับเสียงสูงก็พอใช้ได้ ผมสงสัยว่าหูฟังตัวนี้สภาพใหม่มาก ไม่แน่ใจว่าถูกใช้งานมายาวนานแค่ไหน แต่วันแรกที่ผมใช้ ผมรู้สึกว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติ หูฟังที่ได้รับคำชมจากนักฟังทั่วโลกทำไมถึงมีเสียงเบสที่ล้นขนาดนี้

ด้วยความไม่แน่ใจในสิ่งที่ได้ยินเลยยังไม่ฟังทดสอบทันที เปิดเพลงด้วยเครื่องเล่นไฟล์เพลงสารพัดที่มีอยู่ สลับหมุนเวียนกันขับหูฟังตัวนี้ทั้งวันทั้งคืนโดยหวังว่ามันจะผ่านการเบิร์นอินในระยะเวลาไม่กี่วันแล้วให้เสียงเข้าที่เข้าทาง ผ่านไปสามวันมันก็มีอาการดีขึ้น เสียงเบสหนักๆบวมๆ ลดลงเป็นเสียงอิ่มและมีความกระชับขึ้น จนกระทั้งสามารถฟังได้ทุกเพลงยาวนานเป็นชั่วโมงก็เลยเริ่มทดลองฟังจริงจัง

IMG_0327

เพลงที่ใช้ทดลองบ่อยๆก็ค่อยๆถูกเรียงเข้ามาเปิด เพลงอะคูสติกจากงานเพลงแนว cover ที่ทำออกมาเป็นเสียงนักร้องผู้หญิง เสียงร้องหวานๆ เสียงเบสใหญ่ๆแน่นๆ เสียงเคาะอุปกรณ์เพอคัสชั่นหรือกลองแต่ละใบก็มีความชัดละเอียด เสียงที่ดังขึ้นมาแล้วจางหายไป เป็นไปตามแนวของลำโพงวางหิ้งราคาสูงเลย

จุดเด่นของ pk1 คือโฟกัสเสียงแต่ละเสียงได้ชัดและตำแหน่งแม่นยำ เป๊ะมาก เสียงร้องจากหูซ้ายและขวามารวมกันตรงกลาง เกิดเป็นโฟกัสเสียงคนที่ตรงเป๊ะ อยู่ตรงกลางค่อนไปทางด้านหน้า (เหมือนโฟกัสเสียงร้องมาอยู่ที่ปลายจมูก) เสียงกลางหรือเสียงคน ทั้งชายและหญิงให้น้ำเสียงที่ฟังสบาย เสียงร้องมีขนาดใหญ่ และไม่มีอาการเหมือนร้องอยู่ในกล่องเลย เรียกได้ง่ายๆว่ามีมิติ มีซาวสเตทจ์ที่กว้าง จัดวางแต่ละเสียงในตำแหน่งที่ชัดเจนมาก อะไรอยู่ซ้าย อะไรอยู่กลาง อะไรอยู่ขวา จัดวางตำแหน่งแต่ละเสียงเอาไว้อย่างยอดเยี่ยม ไม่มีอาการวูบวาบใดๆ

ฟังเพลง Enter sandman ของวง Metalica เป็นเพลงเฮฟวี่เมทัลที่บันทึกดี จังหวะเสียงกลอง Pk1 ก็ถ่ายทอดออกมาได้เป็นอย่างดี มีความกระชับคึกคัก เสียงฟาดสแนร์ลงไปกระทบหนังกลองที่คมชัด และมีประกายเสียงที่ค่อยๆจางลง เสียงประกายนี้ทำให้น้ำเสียงโดยรวมมีความสดใส

เสียงกีต้าร์อคูสติกของเพลง cover ให้เสียงกีต้าร์ที่สด มีประกายเสียงสูงของกีต้าร์ ความคมชัดของสายกีต้าร์ที่ถูกดีดมีหัวโน้ต มีหัวเสียงที่ฟังเสียงปิ๊กกีต้าร์กรีดผ่านสายฟังได้ชัดเจน ความฉับไวของเสียงกีต้าร์ใกล้เคียงกับการฟังเสียงจากกีต้าร์จริงๆ ส่วนโทนเสียงทุ้มที่เป็นน้ำหนักเสียงของกีต้าร์ก็หนักแน่นและไวใช้ได้เลย

IMG_0359

การตอบสนองความถี่ของ pk1 ทำได้ดีตลอดทุกย่าน เสียงทุ้ม กลาง แหลม มาพร้อมๆกันอย่างลงตัว มีเสียงย่านเบสที่ดูจะมีมากกว่าปกติเล็กน้อยทำให้เสียงมีความนุ่มนวล อบอุ่น ฟังเพลงช้าก็มีความไพเราะยิ่งขึ้น ฟังเพลงเร็วก็ได้จังหวะสนุกสนาน เสียงกลางของ pk1 คือจุดเด่น เพราะเป็นเสียงกลางที่คมชัด มีเนื้อเสียงที่ใหญ่โต น้ำเสียงของคนเป็นไปตามแนวทางลำโพงบ้านขนาดใหญ่ ส่วนเสียงย่านสูงก็ถ่ายทอดออกมาใสๆ และค่อยๆลาดลงอย่างนุ่มนวล เสียงฉาบที่ลากยาวแล้วค่อยๆจางเป็นแนวเสียงยังกับลำโพงบ้าน การฟังเสียงนักร้องด้วยหูฟังที่ให้โฟกัสเสียงได้ชัด เราจะได้ยินเทคนิคการร้องต่างๆที่นักร้องใส่มากับการร้อง เสียงลมผ่านคอ เสียงเอื้อนเล็กๆน้อยๆได้ยินทั้งหมด เสียงสั่นของลูกคอ เสียงหายใจก็รับรู้ได้ชัด

หูฟังตัวนี้ไม่ได้ป้องกันเสียงภายนอกเข้า ความสามารถในการป้องกันเสียงจะด้อยกว่าหูฟัง in-ear นั่นทำให้การฟังเพลงด้วยหูฟังตัวนี้บนรถ หรือ ในที่สาธารณะจะไม่ได้คุณภาพที่สูงเหมือนนั่งฟังในบ้านที่มีเสียงของสิ่งแวดล้อมที่เงียบกว่า และการใช้งานร่วมกับแอมป์หูฟังก็จะช่วยให้หูฟังมีเสียงที่ดีมากขึ้นด้วย ความกระชับ ความฉับไว ความกระฉับกระเฉงจะชัดเจนจะแจ้งมากขึ้น เสียงบรรยากาศรอบๆตัวโน้ตจะมากขึ้นเมื่อได้ใช้กับแอมป์หูฟังที่ดีพอ โดยส่วนตัวผมชอบ ear-bud มากกว่าแบบ in-ear เพราะเวลาที่เราใส่ in-ear เหมือนจะได้ยินเสียงลมหายใจตัวเอง เหมือนดำน้ำอยู่ ซึ่งเป็นความรู้สึกที่อึดอัดมาก แต่กับ ear-bud จะรู้สึกสบายและใช้งานต่อเนื่องหลายชั่วโมงได้สบายหูกว่า

IMG_20200120_132247

สรุป

หูฟัง pk1 เป็นหูฟังคุณภาพสูงตัวหนึ่งที่ดีสมคำร่ำลือ เป็นหูฟังที่ให้ความสมดุลย์ของทุ้มกลางแหลมที่พอดี ลักษณะเสียงคล้ายลำโพงบ้านที่ใช้วูฟเฟอร์ดอกใหญ่ๆ ตลอดเวลาที่ฟังทดสอบหลายวันก็ยิ่งชอบมากขึ้นเรื่อยๆ การใช้งานกับชุดพกพาอย่างการต่อกับเครื่องเล่น ipod ตัวเล็กอย่าง shuffle gen1 ก็ยังให้คุณภาพเสียงที่ดีมากในขณะที่ไม่เป็นภาระในการพกพา ค่าตัวของ pk1 รู้สึกว่ากลายเป็นของถูกไปเลยเมื่อเทียบกับคุณภาพและความเล็กของมัน เพราะว่าเราสามารถใช้งานมันได้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน ยิ่งการใช้งานนอกบ้านยิ่งทำให้เราได้ใช้บ่อยมาก เราสามารถพกไปฟังตอนเดินทาง ตอนนั่งรอ ตอนไหนๆก็ตามมันทำให้เราได้ใช้ สำหรับคนชอบฟังเพลง เราจะได้ใช้หูฟังตัวเล็กแบบนี้บ่อยกว่าชุดตั้งโต๊ะที่ราคาแพงกว่าด้วยซ้ำ จะเรียกว่าเป็นเครื่องเสียงคุณภาพไฮเอนด์ที่ยัดใส่กระเป๋ากางเกงได้ก็ไม่ผิดเลย

IMG_0326

ขอขอบคุณร้าน ร้านมั่นคงแก็ดเจ็ท ที่เอื้อเฟื้อให้ยืมสินค้ามาทดสอบนะครับ

สั่งซื้อ Yuin PK1 ที่ร้านมั่นคงใน Shopee

รีวิวหูฟัง AKG k701 หูฟังขนาดใหญ่ เสียงดี ใส่สบาย

IMG_0088

AKG เป็นบริษัที่ทำผลิตภัณฑ์จำพวกไมโครโฟนและหูฟังเอาไว้เยอะมาก โดยหูฟังขนาดใหญ่ตัวหนึ่งที่มีรูปร่างหน้าตาใหญ่โต ตัวหูฟังมีรูปร่างเป็นวงกลม ตัวนี้ชื่อรุ่น k701 ซึ่งเป็นรุ่นหูฟังรุ่น referrence ระดับ ultra หรือ เป็นหูฟังระดับอ้างอิงที่เน้นเรื่องคุณภาพเสียงเป็นหลัก ฟองน้ำหรือตัวนวมที่จะรองรับการกดลงบนหัวผู้ฟังเป็นฟองน้ำหนา นุ่ม และ กดทับบนหัวแล้วไม่รู้สึกหนักเลย กลับรู้สึกว่าสบายขึ้น และยิ่งใช้งานไปยาวนาน ตัวนวมยิ่งนุ่มยิ่งย้วยยิ่งทำให้รู้สึกสบายกว่าของใหม่

IMG_0105

การทำงานบันทึกเสียงในห้องอัด สิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งก็คือการมอนิเตอร์เสียง เราควรจะมีลำโพงหรือหูฟังมอนิเตอร์สักตัวหนึ่งที่ให้คุณภาพเสียงที่ไม่เน้นย่านใดย่านหนึ่งเป็นพิเศษ หรือ เรียกกันในวงการนักเล่นเครื่องเสียงว่าเป็นหูฟังที่ flat หรือ ตอบสนองราบเรียบนั่นเอง

แต่คำว่าราบเรียบหรือ flat ไม่ได้หมายความว่าเสียงจืดชืด มีหลายครั้งที่ลำโพงและหูฟังถูกวิพากษ์วิจารณ์เอาไว้ว่าให้เสียงจืดชืด ไม่น่าฟัง บางทีไม่ได้เป็นเพราะมันออกแบบมาผิดพลาด แต่มันต้องไปพิจารณาเรื่องแอมป์ที่ขับลำโพง หรือ ตัววงจรขยายที่ส่งสัญญาณที่ขยายเสียงแล้วให้กับลำโพงหรือหูฟังคู่นั้นว่าออกแบบแอมป์มาดีไหม

IMG_0120

AKG k701 เป็นหูฟังระดับมอนิเตอร์ที่ได้รับความนิยมใช้ในห้องบันทึกเสียงมายาวนาน ด้วยเหตุผลว่ามีความสามารถในการแจกแจงรายละเอียดได้ดี และสิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดของหูฟังตัวนี้คือ ความราบเรียบในการตอบสนองต่อสัญญาณดนตรีที่ตรงไปตรงมา ไม่เน้นย่านใดย่านหนึ่งเป็นพิเศษ บุคลิกนี้เป็นสิ่งที่ผู้ควบคุมการบันทึกเสียงหรือ ซาวด์เอนจิเนียร์ต้องการเป็นลำดับแรกๆของการทำงาน

K701 ให้แท่นวางหูฟังมาด้วย มีประโยชน์ในการใช้งานประจำวันอย่างมาก เพราะเราไม่ต้องซื้อแท่นวางแยกต่างหาก และยังให้ความสวยงามของการจัดวางได้อีกด้วย นักเล่นที่พิถีพิถันและชอบจัดวางให้ดูสวยงามสบายตาน่าจะชอบกับที่วางแบบนี้

IMG_0110

สเป็คของหูฟัง AKG K701

IMG_0101

ความต้านทานหูฟัง 62 โอห์ม

การตอบสนองความถี่ 10-39,800 Hz

ความไว 105 spl/V

น้ำหนัก 293 กรัม

ทนกำลังขับ 200 mW

สายหูฟังยาว 10 ฟุต แจ๊คหูฟังขนาด 6.3mm แถมอแด๊ปเตอร์ 3.5 to 6.3mm สีทอง

2020-01-09_09-53-38-01

อุปกรณ์ทดลองฟัง

เครื่องคอมพิวเตอร์ intel i3 ระบบปฏิบัติการ windows7

โปรแกรมเล่นเพลง itune พร้อมไฟล์เพลงที่ rip จาก CD เป็นไฟล์ชนิด wav

โปรแกรมเล่นเพลง spotify เล่นไฟล์จากอินเทอเน็ต

แอมป์หูฟัง Aune B1 และ แอมป์หูฟังที่ทำเอง

Dac ใช้ชิพ  SA9023 + ES9018K2M Audio DAC

NAD Dac1

เครื่องเล่นเพลง Aune M1

ก่อนการลองฟังจริงก็เบิร์นอินหูฟังอย่างยาวนานด้วยการเปิดเพลงให้ทั้งวันทั้งคืน สลับกับการเปิดกับรายการวิทยุด้วยเครื่องรับวิทยุ tivoli model1 ใช้เวลารวมกันจนมั่นใจว่าเกิน 200 ชั่วโมงไปแล้ว

IMG_0252

ผลการทดลองฟัง

เมื่อซื้อมาใช้ใหม่ๆ ลองเปิดตั้งแต่ชั่วโมงแรกก็พบว่า เสียงต่างๆที่ได้ยินมีความชัดเจน เสียงแหลมใสก็คมชัดและไม่บาดหู เสียงกลางชัดมาก เสียงเบสก็มีให้ได้ยินชัดเจน เสียงทุ้มกลางแหลมมีความพอดีซึ่งกันและกัน แนวโน้มแบบนี้ค่อนข้างมั่นใจว่าหูฟังตัวนี้ให้เสียงที่ดีสมคำล่ำลือแน่ๆ เพราะแค่ชั่วโมงแรกก็น่าฟังแล้ว

เมื่อผ่านเวลาการเบิร์นไปเกิน 200 ชั่วโมงก็ทดลองฟังจริงจัง เลือกต่อระบบเสียงจากคอมพิวเตอร์ผ่าน dac 9018 แล้วนำสัญญาณอนาลอก LR มาเข้า headphone amp รุ่น DIY แล้วต่อ K701 เข้าเสียบที่ช่องหูฟัง 6.3mm

บางครั้งก็ใช้ NAD Dac1 บางครั้งก็ใช้แอมป์หูฟัง Aune B1 ส่วนแหล่งโปรแกรมที่เป็นเครื่องเล่นไฟล์เพลงดิจิทัลก็จะเป็น Aune M1 ซึ่งเป็นเครื่องเล่นที่เล่นไฟล์ wav ระดับ 16bit 44.1kHz และไฟล์ที่ใช้กับเครื่องเล่นนี้ก็มาจากการ rip จากแผ่นซีดี

ทดลองฟังเพลงแนวออดิโอไฟล์ก่อนเลย  Jennifer Warnes ชุด The Hunter เป็นอัลบั้มยอดนิยมของวงการเครื่องเสียง เพลงชุดนี้เป็นแนวอคูสติกป๊อป หวานๆ และโชว์ความสามารถทั้งการร้องและการเล่นดนตรีรวมถึงแนวทางการออกแบบดนตรีที่น่าฟัง แม้เวลาจะผ่านมากว่าสามสิบปีเพลงเหล่านี้ก็ยังคงน่าฟังอยู่ เสียงร้องที่ได้มีความใส ชัดเป็นตัวเป็นตน โฟกัสน้ำเสียงนิ่งมาก ติดตามลูกคอและเสียงริมฝีปากกระทบกันได้ชัดเจนสุดๆ ส่วนเสียงย่านเบสที่เป็นจุดเด่นของอัลบั้มนี้ก็มีออกมาเยอะมาก แต่ไม่ล้น ไม่เกิน ไม่บวม เสียงเบสปกคลุม แสดงตัวเป็นสัดเป็นส่วนกับดนตรีทั้งหมด เบสชัดแต่ไม่กระเทือนเสียงร้องเลย ยิ่งเป็นเพลงที่มีการเหยียบกระเดื่องกลองให้หนักแน่นพร้อมกับเล่นโน้ตเบสพร้อมด้วยเสียงไม้กลองเคาะขอบสแนร์ที่คมกริบ ให้น้ำหนักเสียงที่ลงลึกพร้อมกับความฉับไวของแรงกระแทก ฟังแล้วฟินมากสำหรับหูฟังตัวนี้ หูฟังให้เสียงการกระทบกันของวัสดุแข็งได้อย่างคมชัดและมีน้ำหนัก เสียงทุ้มและแหลมออกเสียงมาพร้อมกันและได้ยินทุกอย่างในระดับความดังที่พอดี

IMG_0253

ทดลองฟังกับวง Dream Theater ชุด image and words เป็นวงดนตรีแนวโปรเกรสซีพเมทัล กีต้าร์ไฟฟ้าแตกซ่านแต่เล่นได้กระชับแม่นยำ พร้อมกับเสียงกลองระดับยอดมนุษย์ เบสที่เล่นคมเป๊ะ ถือเป็นวงดนตรีระดับหัวแถวของดนตรีเฮฟวี่เมทัลของโลก เสียงกลองคมชัด กระเดื่องเป็นก้อนๆเลย สแนร์ฟาดเปรี๊ยะ ทุกอย่างชัดและบาลานซ์กันพอดี เสียงร้องก็ลอยอยู่ท่ามกลางเสียงดนตรีที่ดุดัน ผมมั่นใจเลยว่าถ้าใช้ k701 แกะเพลงจะทำได้เร็วมาก เพราะหากเราอยากจะโฟกัสกับเสียงอะไรเราก็ฟังด้วยหู k701 ตัวนี้ได้อย่างครบถ้วนทุกเสียง

จริงๆแล้วผมลองฟังกับเพลงแทบทุกชนิดเลยแต่จะยกตัวอย่างด้วยอัลบั้มที่นักเล่นเครื่องเสียงนิยมเป็นหลักให้เยอะหน่อย เพราะจะได้รู้ว่าแนวเสียงเป็นอย่างไรเมื่อเน้นเพลงแบบออดิโอไฟล์

มาที่ อัลบั้ม snow rose ที่เป็นนักร้องจีน เล่นเพลง cover จนดังอีกคน เสียงร้องหวานซึ้ง มีความชัดและใส ความใสของเสียงร้องแบบนี้เป็นความใสที่เราไม่ได้ยินจากหูฟังไอโฟน ความมีน้ำมีนวลของเนื้อเสียงเป็นบุคคลิกของเครื่องเสียงไฮเอนด์ที่เรามักจะได้พบตามงานแสดงเครื่องเสียง K701 ก็ให้เสียงแนวนี้ได้อย่างง่ายดาย

IMG_0287

ถ้าพิจารณาระดับเสียงเบสย่านลึกที่ฟังชัดเจน และ เสียงสูงที่ใสและมีระดับความดังที่พอดี เราจะเรียกว่าหูฟังตัวนี้ให้คอนทราสต์เสียงได้สูงมาก เหมือนภาพถ่ายที่มีระดับของสีดำและสีขาวในภาพ ทำให้ทั้งภาพมีความสว่าง ความใสที่ยอดเยี่ยม ดนตรีที่คอนทราสต์สูง ก็ให้น้ำเสียงที่ไพเราะและกลมกล่อมในเวลาเดียวกัน

ฟังกับเพลงที่ 4 Guess you had to be there ในชุด Breaking Silent ของ Janis Ian แล้วเคลิ้มและมันส์ไปพร้อมๆกัน เสียงเล่นกีต้าร์ไฟฟ้าเบาๆตอนต้นเพลงก็ชัดและมีความรู้สึกถึงเสียงปิ๊กกีต้าร์สะกิดสาย รวมถึงเสียงกลองกระเดื่องในตอนกลางเพลงที่เหยียบดังราวกับจะทุบหัว เป็นเพลงที่ฟังได้มันส์กว่าฟังผ่านลำโพงวางหิ้งพอควรเลย

ฟังเพลง The unforgiven ของ วง Metalica เสียงร้องชัด เสียงกีต้าร์อคูสติกเป็นเม็ดๆเลย ส่วนเสียงกลองก็หนักและเป็นก้อนใหญ่ๆ เสียงกีต้าร์ไฟฟ้าที่แตกพล่าก็เป็นเนื้อเสียงที่มีตัวตนมีหางเสียงจางหายไปแบบค่อยๆจาง ทุกเสียงไม่ตีกัน ได้ยินครบทุกเครื่องดนตรี เป็นอัลบั้มเฮฟวี่เมทัลที่บันทึกเสียงได้ไฮเอนด์มากๆ

ทั้งหมดเป็นเรื่องของน้ำเสียงที่ฟังผ่านหูฟัง K701 ที่ใช้ร่วมกับแอมป์หูฟังครับ ผมลองสลับแอมป์หูฟังอย่าง Aune B1 และ แอมป์ทำเอง ก็ให้น้ำเสียงไม่ต่างกัน โดย Aune B1 เป็นแอมป์หูฟังสำหรับการพกพาที่ออกแบบดีพอใช้ได้เลย คงได้รีวิวตามกันออกมาในบทความต่อไป

สรุป

หูฟัง AKG K701 เป็นหูฟังขนาด Full Size ที่สวมใส่สบาย สามารถใส่ฟังเพลงได้นานโดยเหงื่อไม่ออก ไม่รู้สึกว่าหูร้อน K701 ให้น้ำเสียงที่ราบเรียบต่อเนื่อง ให้บาลานซ์เสียงทุ้ม กลาง แหลม ที่พอดีทุกย่านความถี่ ทำให้เราฟังเพลงแล้วได้ยินทุกเสียงในระดับที่น่าฟัง ความรวดเร็วในการตอบสนองต่อเสียงเบสและเสียงแหลมทำได้รวดเร็ว ส่งผลให้เพลงมีความชัดเจนและนุ่มนวลไปพร้อมๆกัน เมื่อเล่นเพลงที่บันทึกมาดีจะได้ยินเสียงเพลงที่กลมกล่อมสุดๆ ฟังแล้วไม่อยากปิดเลย ส่วนเพลง mp3 ไทยๆทั้งหลายบางเพลงก็บันทึกดี บางเพลงก็บันทึกแย่ เราจะได้ยินของดีของแย่ตามไฟล์ที่ได้มา แต่เพลงไทยยุคหลังที่บันทึกทำกันในยุคสิบปีล่าสุดก็ได้คุณภาพเสียงที่ดีเป็นส่วนมาก

หากใครจะหาหูฟังระดับอ้างอิง ที่ฟังเพลงเพราะ ใส่สบาย K701 คือคำตอบที่ดีที่สุดในระดับงบไม่สูงเกินไป การนำ K701 ไปใช้กับเครื่องเล่นเพลงแบบพกพาก็ให้คุณภาพพอใช้ได้ แต่หากได้ต่อกับแอมป์หูฟังที่ออกแบบมาโดยตรงก็จะให้คุณภาพเสียงที่ดียิ่งขึ้น น้ำเสียงของ K701 ที่ผ่านแอมป์หูฟังจะให้ความมันส์ความไพเราะมากยิ่งขึ้น อะไรที่ดีพอใช้จะดีขึ้นไปอีกระดับหนึ่งจากการต่อแอมป์หูฟัง

หากสนใจสั่งซื้อได้ที่นี่ https://s.shopee.co.th/30S0hqGnj1

ซื้อฟองน้ำเปลี่ยน https://shope.ee/3L4r6Y8z2o

.

ฝากเพลงนี้เอาไว้ฟังเพลินๆ คลิปใน youtube ที่ฟังสบายๆและเหมาะกับ AKG k701 ตัวนี้

รีวิวหูฟัง sony mdr-zx110ap ของดีราคาถูก

IMG_5807

หูฟังทรงคลาสิคยังคงได้รับความนิยมในกลุ่มนักเล่นเฉพาะทาง  เพราะเป็นหูฟังที่ให้คุณภาพเสียงได้เที่ยงตรงมากถึงมากที่สุด  พื้นที่ของตัวหูฟังเป็นชิ้นใหญ่  สามารถใส่ตัวกำเนิดเสียงที่ดีได้  จะทำให้ดีในราคาย่อมเยาก็ไม่ยาก

76256

วันหนึ่งที่เดินผ่านมุมเครื่องเสียงในห้าง  เหลือบไปเห็นหูฟังราคาถูกตัวหนึ่งที่แขวนโชว์ไว้ให้ลองฟัง  พอเดินผ่านก็ลองหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเสียบกับหูฟัง แล้วลองฟังดูก็พบว่า น้ำเสียงทำได้ดีน่าสนใจ  เสียงร้องชัด  เสียงเครื่องเคาะจังหวะหลายๆชิ้นก็ได้ยินชัดตลอดเพลง   ดูราคาแล้วไม่แพงมาก  เลยซื้อมาใช้เป็นหูติดกับคอมพิวเตอร์ หรือเอาไว้พกไปฟังนอกสถานที่ และตัดสินใจเขียนเป็นรีวิวเอาไว้

IMG_5798

ลักษณะทั่วไป

สายแจ็คเสียบกับเครื่องเล่นเป็นแบบ mini 3.5  มีขีดดำ 3 ขีด หรือจะเรียกว่าเป็นแจ๊ค 4 ชั้น(ตัวนำไฟฟ้า 4 ช่อง)  ตัวสายออกแบบเช่นนี้หมายถึงมันถูกออกแบบมาให้ใช้กับโทรศัพท์เป็นหลัก ตัวสายมีไมค์โครโฟนให้มาด้วย  มีปุ่มกดรับสาย  เราสามารถใช้หูฟังเส้นนี้คุยโทรศัพท์ได้

IMG_5829

ทดลองใช้หูฟัง mdr-zx110ap กับเครื่องเล่นเพลงอย่าง ipod shuffle gen1 ก็ทำงานได้ดีเยี่ยม ipod รุ่นต่างๆสามารถใช้งานกับหูฟัง sony รุ่นนี้ได้ปกติ  ซึ่งหูฟังบางรุ่นที่เป็นขาเสียบแบบ 4 ชั้นจะทำงานไม่ได้กับ ipod รุ่นเก่า เนื่องจากขั้วสัมผัสของ ipod ออกแบบมาให้ใช้กับแจ๊คหูฟัง 3 ชั้น  แม้แต่หูฟัง earpod ที่แถมมากับ iphone ก็ทำงานกับ ipod เก่าๆไม่ได้  แต่ sony ตัวนี้ทำงานได้ นับเป็นเรื่องโชคดีมากๆ

IMG_5834

ลองเสียบกับเครื่องเล่นเพลงตัวอื่นที่เป็นเครื่องเล่นที่ออกแบบมาให้ใช้กับหูฟังสเตอริโอขั้วสัมผัส 3 ขั้นบางเครื่องก็ทำงานได้ปกติ  บางเครื่องก็มีปัญหา  ตัวที่มีปัญหาก็อย่างเช่นการใช้กับ aune m1 ถ้าเสียบแจ๊คลงไปสุดจะได้ยินเสียงก้องๆ ต้องเสียบให้สุดแล้วดึงออกเล็กน้อย  เสียงก็จะดังเป็นสเตอริโอปกติ

IMG_5810

หูฟังชนิดนี้เป็นหูฟังประเภท on-ear คือจะแปะกับใบหูไว้  ไม่ได้ครอบหูสนิทแบบหูฟังขนาดใหญ่  ฟองน้ำนุ่มๆสีขาวสะอาดให้สัมผัสที่นุ่มจริงๆ  และอาการบีบหัวมีน้ำหนักบีบที่มากนิดหน่อยเมื่อใช้งานครั้งแรก แต่ฟองน้ำนิ่มๆก็ช่วยให้ความรู้สึกบีบไม่ค่อยแรงมาก  เมื่อฟังไปหลายวันน้ำหนักบีบหัวจะน้อยลงจนเรียกได้ว่าเบา คาดว่าพลาสติกคงจะอยู่ตัวตามสภาพหัวของผู้ฟังแล้ว

IMG_5802

Specification

น้ำหนัก 4.3 oz

ขนาดไดรเวอร์ 30 มม.

ตอบสนองความถี่ 12Hz – 22,000Hz

อิมพีแดนซ์  24 โอห์ม

ความไว 98dB/mW

รองรับกำลังขับ 1000 mW

ความยาวสาย 3.94 ฟุต

คุณภาพเสียง

น้ำเสียงของหูฟังรุ่นนี้ออกไปทางเสียงที่น่าฟัง  มีแนวเสียงคล้ายลำโพงชั้นดี  แต่การแยกแยะมิติแต่ละเสียงยังไม่เด็ดขาด  หากฟังกับดนตรีน้อยชิ้นหูฟังตัวนี้ก็แยกตำแหน่งเสียงร้องกับเสียงดนตรีได้ชัดเจน  แต่หากฟังกับเพลงที่เล่นเต็มวง มีเสียงเครื่องดนตรีหลายชนิดขึ้นมาพร้อมกันก็จะฟังเหมือนเนื้อเสียงแต่ละส่วนติดกันไปหมด  ฟังผ่านๆก็ไม่ได้เสียหายอะไร  แต่หากฟังจับผิดหรือฟังเพื่อแกะเพลง ฟังโน้ตของเครื่องดนตรีแต่ละชนิดก็จะแยกแยะได้ยากหน่อย ซึ่งนี้เป็นผลจากการฟังเพลง mp3 หรือเพลงไทยทั่วไปที่มีอยู่ตามเน็ต รวมถึงเพลงเก่าๆที่เคยสะสมไว้

แต่หากฟังจากไฟล์ที่เป็น lossless อย่างเช่นฟังผ่าน aune m1 ที่เป็น wave player  ก็ให้คุณภาพเสียงที่ดี ชัดเจน แยกแยะเสียงร้อง เสียงดนตรีแต่ละชิ้นออกจากกันได้เด็ดขาด  เพลงบันทึกมาอย่างไรก็ฟังออกและติดตามทุกเสียงได้หมด  โทนเสียงกลางแหลมอยู่ในระดับที่ดีน่าฟังเหมือนหูฟังราคาหลายพัน  โทนเสียงเบสให้ความอิ่ม อ้วน เบสเยอะเหมือนเราเปิด loundness ให้กับเครื่องเสียง  เสียงเบสจากการฟังไฟล์ lossless ผมเรียกว่าน่าฟัง เรียกว่าเป็นเบสอร่อยเหาะเลย เหมาะกับเพลงร็อค เพลงโชว์เสียงกลอง

หากฟังกับไฟล์เพลง mp3 บิทเรทต่ำ หรือดนตรีที่บันทึกมาไม่ดีเสียงย่านต่ำที่ดังขึ้นและจบลงไม่เร็วเท่าที่ควร  แต่เสียงกลางยังทำได้ชัดเจนดี  สามารถดึงดูดคนฟังให้อยู่กับเสียงร้องและเสียงพูดได้  การฟังเพลงร้อง หรือการฟังรายการวิทยุ จะได้เสียงร้องที่น่าฟัง  เสียงดีเจพูดบรรยายฟังเพลินมาก

เสียงย่านสูงก็ให้ความใสที่พอดี  ไม่ได้เป็นเสียงสูงแสบหู หรือ เสียงห้วนทึบ  เสียงโซโล่กลองทำได้ชัดเจนและน่าฟังมาก  เสียงกีต้าร์ก็ให้ความใส มีเนื้อเสียงที่อิ่มแน่น  หูฟังตัวนี้ฟังเพลงอคูสติกได้เพราะดี  เราสามารถพกหูฟังตัวนี้ตัวเดียวเพื่อใช้กับโทรศัพท์ของเราทั้งการคุยและการฟังเพลง  จะบอกว่ามันเป็นหูฟังที่ใช้สำหรับฟังเพลงจริงๆ  ไม่ใช่แค่ทำเพื่อคุยโทรศัพท์

แนวเสียงของหูฟังตัวนี้จะเหมือนเป็นน้องเล็กของ sennheiser hd650 ตัวละหมื่นปลาย  แต่เบสเยอะกว่า  น้องกลางของน้ำเสียงแนวนี้คือ creative aurvana live ตัวละสองพันกว่า  ส่วน sony mdr-zx110ap ตัวนี้ไม่ถึงพันบาท

สรุป

ถือเป็นหูฟังที่คุ้มค่าตัว  เหมาะกับการฟังเพลงกับเครื่องเล่นเพลงและคอมพิวเตอร์   ใช้พกพาออกนอกบ้านไปนั่งฟังเพลงเพลินๆ  คุณภาพเสียงที่ดีทำให้เราฟังเพลงได้นาน เสียงเบสที่เด่นจากไฟล์เพลงคุณภาพดีจะทำให้เราฟังเพลงเพราะขึ้น  ไม่ล้าหูง่ายๆ  น้ำหนักบีบหัวชั่วโมงแรกจะรู้สึกบีบแรงหากไม่คุ้นเคยกับหูฟังแนวนี้ แต่เมื่อผ่านไปหลายวัน น้ำหนักบีบจะน้อยลงจนเรียกได้ว่าเป็นหูฟังที่ไม่บีบหัวให้รำคาญ  ซื้อไว้ใช้อเนกประสงค์ก็ดี  ใช้ฟังเพลงจริงจังก็ได้  เป็นหูฟังน้ำเสียงดีที่ใช้เป็นตัวพกพาออกนอกบ้านแทนหูฟังไฮเอนด์ตัวโปรดได้  แถมยังไม่เรื่องมากไม่ต้องการแอมป์ขับเฉพาะทางก็ทำงานได้แล้ว

สั่งซื้อ Sony MDR-ZX110AP

อัพเดทปี 2025 หลังจากใช้มา 6 ปี คุณภาพเสียงยังดีเหมือนเดิม แต่ผ้าที่หุ้มสลายตัวไปตอนไหนก็จำไม่ได้ ฟองน้ำไม่ฟูเหมือนเดิมแล้ว

IMG_20250908_134213513

12nov2025 เราสามารถสั่งซื้อฟองน้ำมาเปลี่ยนได้ โดยสั่งจากร้านในเน็ต ซึ่งจะเป็นฟ้องน้ำหน้าตาเหมือนเดิมตอนที่ยังใหม่อยู่ และสามารถใช้กับหูฟังได้หลายรุ่น ผมสั่งซื้อจากลิงค์นี้ https://s.shopee.co.th/5VNRrM6KBy?share_channel_code=6

IMG_20251112_110649234