ทำสติ๊กเกอร์ติดข้าวกล่อง

ลูกค้าร้านอาหารโทรคุยกับเราว่าอยากได้สติ๊กเกอร์ชิ้นเล็กๆติดหน้ากล่องข้าว พิมพ์ด้วยคำว่า “ควรรับประทานก่อน 10.00น.” โรงพิมพ์ก็เลยทำอาร์ตเวิร์คคร่าวๆให้ดูว่าเข้าใจตรงกันไหม พร้อมกับตัดเป็นดวงมาถือถ่ายภาพให้ดู ลูกค้าดูก็คอนเฟิร์มว่าใช่ จะทำแบบนี้ ก็เลยได้ผลิตให้ เป็นสติ๊กเกอร์กระดาษมัน พิมพ์ข้อความ ไดคัทหรือตัดเป็นรอยให้ฉีกออกมาแปะได้

สติ๊กเกอร์1x6cm ควรรับประทานก่อน - บ้าน

IMG_20251201_150828849
IMG_20251201_150801411

งานพิมพ์ของเราเป็นงานพิมพ์ดิจิทัล หมึกบนกระดาษสติ๊กเกอร์ไม่ละลายน้ำ เพราะเราไม่ได้ใช้เครื่องพิมพ์แบบอิงค์เจ๊ตที่หมึกเป็นของเหลว งานพิมพ์ของเราจึงสามารถเปียกน้ำได้โดยหมึกจะไม่ละลาย ถ้าเอางานพิมพ์นี้ไปแช่น้ำ กระดาษสติ๊กเกอร์ก็ยังคงเปียกน้ำและเปื่อยได้ แต่ข้อความจะไม่เลือนไม่เบลอ ทำให้เราไม่ต้องเคลือบลามิเนตแบบงานอิงค์เจ๊ตทั่วไป ซึ่งจะประหยัดเวลาและต้นทุนมากกว่า ถือเป็นจุดเด่นของระบบการพิมพ์ที่เราเลือกใช้

ทางเทคนิคเราเรียกเครื่องพิมพ์ตัวนี้ว่าเครื่องพิมพ์ระบบอิเล็คโทรโฟโตกราฟี่ ภาษาทางการตลาดเรียกว่า เลเซอร์ปริ๊นท์ หมึกพิมพ์เป็นผงจะถูกหลอมละลายให้ติดกระดาษด้วยความร้อน จึงทำให้ไม่ละลายน้ำนั่นเอง นอกจากนี้โรงพิมพ์เรายังมีระบบการพิมพ์อ๊อพเซ็ทที่เหมาะกับการทำงานจำนวนมากซึ่งจะสามารถทำใบปลิวสีสันสวยงามแบบหนังสือภาพถ่ายได้ในต้นทุนที่ต่ำลงกว่าการพิมพ์ดิจิทัล

ทดลองทำนามบัตร RFID และ RFID Blocking

ในปัจจุบันเรามีการใช้งานบัตรเครดิต บัตรผ่านเข้าออกอาคาร หรือบัตรรถไฟฟ้า โดยใช้เซ็นเซอร์ RFID เป็นตัวส่งสัญญาณซึ่งจะติดตั้งไว้ในบัตร เครื่องอ่านจะอ่านค่าโดยไม่ต้องสัมผัส เพียงแค่นำบัตรไปวางไว้ใกล้ๆเครื่องอ่านเท่านั้น เมื่ออ่านค่าเจอบัตรแล้ว ถ้าเป็นบัตรเครดิตก็จะตัดเงินได้ทันที ถ้าเป็นบัตรผ่านไม้กั้นหรือประตูก็จะเปิด ความสะดวกเหล่านี้เป็นบริการขั้นเทพ แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่จะถูกขโมยข้อมูลด้วยเช่นกัน

RFID ทำงานด้วยความถี่วิทยุ มีมาตรฐานหลายความถี่ แต่ละความถี่แต่ละการใช้งานจะมีลักษณะที่แตกต่างกัน เช่นตรวจได้แบบห่างหลายเมตรก็จะใช้กับบัตรผ่านทางด่วน ตรวจผ่านระยะใกล้ๆเกือบสัมผัสก็จะใช้กับบัตรผ่านประตู หากใช้คลื่นความถี่ที่ 13.56Mhz และตรวจจับได้ในระยะใกล้ โดยถูกนำไปใช้ร่วมกับระบบของสมาร์ทโฟนด้วย จะเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า NFC หรือ Near Field Communication

การใส่ความสามารถในการส่งสัญญาณ RFID หรือ NFC ให้กับนามบัตร นอกจากใช้แจกเพื่อแนะนำตัวตามหน้าที่หลักแล้ว ยังสามารถใช้โทรศัพท์ที่มีตัวอ่าน NFC มาแตะเพื่อเข้าสู่หน้าเว็บได้ด้วย หรือจะบันทึกข้อมูล contact ของนามบัตรเอาไว้แล้วพอแตะเพื่ออ่านข้อมูล ก็จะมีข้อความขึ้นมาถามเพื่อบันทึกเบอร์โทรใหม่ลงเครื่องโทรศัพท์ก็ได้ การใช้งานอีกหลายแนวทางก็จะขึ้นอยู่กับการออกแบบของเจ้าของนามบัตร

ขณะเดียวกันก็มีความกังวลว่าหากการสื่อสารไร้สายแบบ contactless เช่นนี้ถูกโจรนำเครื่องสแกนหรือเครื่องอ่าน RFID มาเฉียดใกล้กับบัตรเครดิตของเราเพื่อดึงข้อมูล หรือ เพื่อตัดเงินเหมือนใช้บัตรเครดิตซื้อสินค้า แล้วจะทำให้โจรได้เงินไปง่ายๆ ปัญหาเหล่านี้ก็ถูกแก้ไขด้วยการป้องกันการอ่าน โดยการทำบัตรป้องกันมาใช้วางแนบกับบัตรเครดิตเพื่อให้เครื่องอ่าน RFID ไม่สามารถอ่านได้ บัตรป้องกันนี้เรียกว่า RFID Blocking Card เพียงเท่านี้ก็ลดความเสี่ยงที่จะถูกอ่านบัตรในกระเป๋าของเราได้

บัตรผ่านชนิด RFID ส่วนมากทำมาเป็นแบบสำเร็จรูป เป็นบัตรพลาสติกมีความหนา ทำให้ไม่ได้ถูกใช้งานในวงการสิ่งพิมพ์ การติดความสามารถในการสื่อสารแบบ RFID เข้าไปบนกระดาษทำให้เราสามารถผลิตบัตรผ่านด้วยเครื่องพิมพ์ระบบอ๊อพเซ็ทหรือดิจิทัลได้ ทำให้นามบัตรกระดาษมีความสามารถในการสื่อสารไร้สายได้ เป็นทางเลือกหนึ่งที่มีความสวยงาม แถมยังออกแบบให้สื่อสิ่งพิมพ์อื่นๆสามารถส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้ผู้อ่านได้อีกหลายวิธีขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์การทำสื่อของแต่ละคน

พิมพ์หนังสือพ็อกเก็ตบุ๊ค

รับพิมพ์หนังสือ - 1

หนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คที่พิมพ์ปกด้วยฟอยล์สีทอง จะให้ความแวววาว หากมีมุมสะท้อนแสงที่เหมาะสมเราจะเห็นเป็นสีทองอร่าม

เนื้อหาในหนังสือคือบันทึกความคิดของนักธุรกิจท่านหนึ่ง เป็นข้อความที่โพสท์อยู่ในเพจเฟสบุ๊ค เมื่อครบจำนวน 102 โพสท์ที่เนื้อหาครบถ้วนถูกใจแล้วก็นำมารวมเล่ม เจ้าของหนังสือส่งข้อมูลดิบมาคร่าวๆ โรงพิมพ์นำมาเรียงให้เป็นอาร์ตเวิร์คสำหรับจัดพิมพ์

ในส่วนหน้าปกเดิมทีเป็นการออกแบบคร่าวๆ มีส่วนที่จะเป็นงานปั๊มฟอยล์สีทอง โรงพิมพ์จะนำแบบร่างมาปรับแต่งใหม่ จัดวางภาพและองค์ประกอบสีทองให้สามารถแยกไปทำบล๊อกปั๊มทองได้ เมื่อทุกอย่างลงตัว และเนื้อหาภายในไม่แก้ไขแล้วก็จะทำตัวอย่างเหมือนจริงด้วยระบบดิจิทัลปริ๊นท์ เราจะได้หนังสือเล่มเหมือนจริงออกมาตรวจสอบก่อนพิมพ์จริง

IMG_1822

การพิมพ์จริงใช้เครื่องพิมพ์อ๊อพเซ็ทซึ่งเป็นเครื่องจักรที่เหมาะสำหรับทำงานจำนวนมาก หากเราจะใช้เพียง 10 เล่มก็ใช้ระบบการพิมพ์ดิจิทัลได้ แต่หากจำนวนหนังสือเป็นพันเล่ม ควรจะใช้การพิมพ์แบบอ๊อพเซ็ท เพราะจำทำให้ต้นทุนต่อเล่มถูกกว่า ยิ่งพิมพ์เยอะ ราคาต่อเล่มจะยิ่งถูก หนังสือที่วางขายในห้างจำนวนมากก็จะพิมพ์ด้วยระบบอ๊อพเซ็ทแทบทั้งสิ้น

ออกแบบโปสการ์ดพระพุทธรูป

พระพุทธรูปคือตัวแทนของพระพุทธเจ้า ถูกสร้างขึ้นจากความเลื่อมใส อยากมีรูปเคารพตัวแทนของพระพุทธเจ้า รูปแบบการสร้างพระพุทธรูปจะแตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาค ผสมผสานวัฒนธรรมไปตามความเจริญทางศิลปะของท้องถิ่น จะถือว่าเป็นการบันทึกประวัติศาสตร์ของศิลปะไว้บนพระพุทธรูปในแต่ละยุคสมัยก็ได้

preview postcard maker


เรามักจะได้เห็นพระพุทธรูปในวัด ในโบสถ์ เพราะเมื่อมีการสร้างวัดเพิ่มขึ้น ก็จะมีความต้องการให้มีพระพุทธเจ้าอยู่ในวัดด้วย พระพุทธรูปจึงถูกสร้างให้ตั้งอยู่ในวัดเป็นวัตถุประสงค์แรก ในประเทศไทยมีวัดอยู่เป็นจำนวนมาก เกิดจากความเลื่อมใสของประชาชนที่อยากสร้างวัด รวมถึงมีค่านิยมในการสร้างวัดของคนมีกำลังทรัพย์ และสถาบันกษัตริย์ก็นิยมสร้างวัดในช่วงเวลาที่ขึ้นครองราชย์เพื่อเป็นวัดประจำรัชกาล พระพุทธรูปจึงมีอยู่มากตามกัน และแต่ละวัด แต่ละรูปเคารพก็จะมีความแตกต่างกันไปตามช่างฝีมือที่ลงมือสร้าง บางรูปแบบของพระพุทธรูปก็จะถูกสร้างขึ้นอย่างเรียบง่าย ใช้วัสดุจากธรรมชาติ บางรูปแบบก็ใช้โลหะ

พระพุทธรูปที่มีความสวยงามและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มีอยู่จำนวนมาก และมีการบันทึกอย่างเป็นทางการโดยกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ซึ่งหนึ่งในพระพุทธรูปที่สวยงามที่สุดองค์หนึ่งคือพระพุทธชินราช ประดิษฐานอยู่ในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก จากการที่ได้เคยแวะไปเดินเที่ยว ได้เห็นและได้ไหว้พระถึงในวัดแห่งนี้ ก็พบว่า มีความสวยงามจริง ก็เลยทำเป็นภาพโปสการ์ด เพื่อเอาไว้เป็นที่ระลึก การจัดพิมพ์ภาพพระที่สวยงามออกมาดูก็ถือเป็นการเสพศิลปะภาพถ่ายและการพิมพ์แบบหนึ่ง

long-postcard-01

ภาพต้นฉบับเป็นถ่ายด้วยฟิล์มถ่ายภาพ ขนาดฟิล์ม 6×6 เซนติเมตร สแกนด้วยความละเอียดสูง ช่วงเวลาที่ถ่ายภาพนี้ผ่านมานานแล้ว ผลของการจัดแสงให้กับองค์พระในช่วงปีนั้น รวมกับการใช้ฟิล์มเพื่อบันทึก รวมกับการสแกนฟิล์มที่จะต้องปรับตั้งและแก้สีอย่างละเอียด ทำให้ลักษณะสีทองของพระมีความผ่อง นวล เหลืองอร่าม เวลาผ่านไปภาพพระที่สถานที่จริงได้รับการปรับปรุงและจัดแสงแตกต่างไปตามช่วงเวลาของคนดูแล ภาพปัจจุบันก็จะไม่เหมือนภาพที่บันทึกไว้ในอดีต ผมโชคดีที่ได้ภาพโทนสีแบบนี้เก็บไว้

พิมพ์หนังสือสวดมนต์

ผมได้รับงานให้ออกแบบและจัดพิมพ์หนังสือสวดมนต์ ก็เลยลองทำดู รวบรวมบทสวดที่มีอยู่จำนวนมากมาจัดทำเป็นรูปเล่ม ขนาดกระทัดรัด และได้เลือกภาพที่เคยถ่ายสะสมไว้มาทำเป็นหน้าปก ซึ่งก็โชคดีที่ผมเคยถ่ายภาพเกี่ยวกับพระพุทธศาสนามาอยู่บ้าง สมัยเป็นช่างภาพหัดถ่ายภาพก็มักจะต้องไปเที่ยววัด เที่ยวอยุธยา เมื่อมีโอกาสก็ถ่ายภาพพระพุทธรูปเก็บเอาไว้ จนวันหนึ่งได้ใช้งานจริงๆ เป็นความภาคภูมิใจเรื่องหนึ่งของการถ่ายภาพ

ก่อนจะเลือกภาพนี้ขึ้นปก ก็มีการคัดเลือกไว้หลายภาพ ผมเลือกใช้ภาพถ่ายจริงเป็นภาพขึ้นปก เพราะไม่ได้มีความสามารถในการวาดภาพประกอบแนวฟุ้งๆฝันๆ เลือกภาพถ่ายที่เคยถ่ายจะเข้าทางมากกว่า ภาพเหล่านี้ถูกคัดเลือกมาให้ลูกค้าดู และลูกค้าก็เลือกภาพเศียรพระสีทองภาพนี้เป็นเล่มหลัก

_MG_6858

ภาพอื่นๆก็มาจากหลายโอกาส ทุกภาพที่คัดมาก็ดูแล้วสามารถใช้ทำเป็นปกหนังสือสวดมนต์ได้ ในรอบนี้จะใช้สามปก รอบอื่นๆก็แล้วแต่ลูกค้าว่าจะเลือกใช้ภาพไหน เพราะทางโรงพิมพ์ก็มีภาพสต๊อคที่ถ่ายเองเก็บไว้จำนวนมาก เดี๋ยวจะทะยอยนำออกมาให้เลือกใช้ทำปก หนังสือสวดมนต์ที่มีภาพถ่ายสวยๆก็น่าจะทำให้คนซื้อไปบริจาคไม่รู้สึกจำเจ ใครสนใจก็ทักเข้ามาได้ เรารับผลิตหนังสือสวดมนต์ตามสั่ง ทั้งผลิตเพื่อขาย หรือ เพื่อให้เจ้าภาพซื้อไปบริจาค

IMG_20241004_135301

_MG_1634Full-ayutthaya-11nov2007

_MG_1576Full-ayutthaya-11nov2007

021-1228x1228

S__29351943
S__29351944

สั่งซื้อหรือสั่งผลิตได้ที่

3 สิ่งประดิษฐ์เปลี่ยนโลก

กาลครั้งหนึ่ง คนใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางสัตว์ป่า ต้องอาศัยและหาอาหารในพื้นที่ธรรมชาติ สิ่งมีชีวิตรอบตัวก็มีช้าง ม้า วัว ควาย กวาง สิงโต และสัตว์ป่าอีกมากมาย วันหนึ่งมีคนเดินทางด้วยเรือ และไปพบว่ามีปลาตัวใหญ่ยักษ์อยู่ในทะเล การจะเล่าเรื่องบอกว่าโลกเรามีปลาตัวใหญ่กว่าช้างหลายตัวรวมกันและปลาตัวนี้ปากกว้างมากน่าจะกินช้างได้ด้วยคำเดียวหมด การค้นพบแบบนี้คงจะถูกเล่าและบอกต่อกันในครอบครัว แต่การค้นพบนี้จะไม่ถูกรับรู้จากคนที่ห่างไกลเลย ยิ่งอยู่คนละพื้นที่ คนละภูมิประเทศ หรือ คนละซีกโลก ก็อาจจะไม่สามารถรู้เรื่องเล่านี้เลย และในที่สุด คนในครอบครัวก็อาจจะแก่ตายและการค้นพบก็สูญหาย โลกเราไม่เหลือคนเคยเห็นปลาวาฬตัวยักษ์อีก

อารยธรรมของมนุษย์เกิดขึ้นมาเพียงแค่หลักไม่กี่แสนปี ขณะที่สิ่งมีชีวิตบนโลกมีมาแล้วประมาณสามพันล้านปี สิ่งหนึ่งที่ทำให้มนุษย์สามารถพัฒนาอย่างก้าวกระโดดก็เพราะว่ามนุษย์สามารถจดบันทึกได้ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการส่งต่อความรู้ต่างๆ คนรุ่นหลังไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ การบันทึกว่าโลกเรามีปลาตัวใหญ่กว่าช้างก็จะเกิดการส่งต่อข้อมูลนี้ ต่อให้คนค้นพบจะแก่ตายไปแล้ว ข้อมูลก็ไม่สูญหาย

การบันทึกในอดีตเกิดขึ้นบนกำแพงถ้ำ ภาพวาดในถ้ำเป็นบันทึกฉบับแรกเริ่มของมนุษย์ และเมื่อมีวิวัฒนาการมากขึ้น มนุษย์ก็เริ่มบันทึกบนแผ่นดินเหนียว บันทึกลงบนกำแพงหินที่เป็นสิ่งก่อสร้างบ้านเรือน บันทึกบนใบไม้ ต้นไม้ แผ่นไม้ และในที่สุดก็มีการสร้างกระดาษขึ้นทำให้วัสดุจดบันทึกมีความบางลง สามารถบันทึกได้มากขึ้น สามารถเขียนด้วยตัวหนังสือที่เล็กลงได้ สามารถบันทึกข้อมูลจำนวนมากให้มีรายละเอียดครบถ้วน และการบันทึกเป็นกระดาษสามารถทำเป็นเล่มได้ ทำให้การจัดเก็บสมุดบันทึกสามารถรักษาข้อมูลได้นานขึ้น และสะดวกในการหยิบมาอ่าน สามารถส่งต่อความรู้เพื่อถ่ายทอดให้กับคนรุ่นต่อไป

กระดาษจึงนับว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ช่วยให้การบันทึกความรู้ต่างๆของโลกเป็นไปอย่างสะดวก เป็นรูปธรรม โดยชนชาติที่เริ่มทำกระดาษเป็นชาติแรกคือประเทศจีนเมื่อประมาณห้าพันปีที่แล้ว ถือเป็นสิ่งประดิษฐ์ตัวหนึ่งที่มีความสำคัญมากกับมนุษย์และเป็นปัจจัยสำคัญช่วยให้โลกเราเข้าสู่การพัฒนาอย่างจริงจังได้

เมื่อการจดบันทึกเริ่มทำให้โลกเรามีหนังสือ สามารถส่งต่อความรู้จากรุ่นเก่าสู่รุ่นใหม่ได้ แต่ก็ยังเป็นไปอย่างไม่เร็วนัก เพราะการคัดลอกหรือทำซ้ำหนังสือจะทำได้ช้า ความรู้จากหนังสือทั้งเล่มจะส่งต่อแค่ 1 คน การจะทำหนังสือเพิ่มขึ้นต้องคัดลอกใหม่ทั้งเล่มซึ่งเป็นสิ่งที่ใช้เวลามาก ในที่สุดก็มีคนคิดวิธีการพิมพ์ขึ้น โยฮันเนส กูเตนเบิร์กชาวเยอรมันคิดค้นเทคนิคการพิมพ์แบบที่เหมาะสมกับการทำเป็นอุตสาหกรรมและได้สร้างเครื่องพิมพ์ขึ้น การมีแท่นพิมพ์ทำให้หนังสือถูกทำซ้ำได้ง่ายและเร็วขึ้น ในที่สุดเราก็สามารถพิมพ์หนังสือจำนวนมากได้ในเวลาที่น้อยลงกว่าเดิม เทคโนโลยีทางการพิมพ์ทำให้สามารถส่งต่อความรู้ไปได้ในวงกว้าง เกิดการต่อยอดเพื่อสร้างความรู้ใหม่ มนุษย์สามารถพัฒนาสิ่งต่างๆได้รวดเร็วอย่างก้าวกระโดด ช่วงเวลาหลังจากโลกมีเครื่องพิมพ์จะเป็นช่วงที่มนุษย์มีพัฒนาการอย่างรวดเร็วในทุกด้าน เกิดการเรียนการสอนอย่างจริงจัง เกิดเป็นโรงเรียนที่มีระบบการจัดการที่ดีสามารถสร้างนักวิจัยจำนวนมาก การพิมพ์จึงนับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เกิดการพัฒนาเป็นอารยธรรมทรงภูมิปัญญา แตกต่างจากยุคสมัยของสัตว์โลกในอดีตทั้งหมด

ยังคงมีอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่แทรกอยู่ในการสร้างองค์ความรู้ก็คือการถ่ายภาพ ภาพถ่ายจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้บันทึกต่างๆ เรื่องเล่าทุกเรื่อง สารคดีความรู้ทุกแขนง ได้เห็นภาพประกอบเพื่อสร้างความเข้าใจที่สมบูรณ์ ภาพถ่ายเกิดขึ้นมาเกินร้อยปี มีกล้องถ่ายภาพที่ใช้งานได้ง่าย จากยุคสมัยที่ถ่ายภาพด้วยฟิล์มต้องผ่านการล้างและอัดภาพลงกระดาษก็พัฒนาไปสู่ระบบดิจิทัลที่ถ่ายภาพแล้วเห็นภาพทันที การถ่ายภาพมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องและตอนนี้ภาพถ่ายก็เป็นส่วนหนึ่งของความรู้ที่มนุษย์สะสมเอาไว้

สิ่งประดิษฐ์ที่เปลี่ยนโลกของเราให้ดีขึ้นคือ กระดาษที่ทำให้ข้อมูลไม่สูญหาย เทคโนโลยีทางการพิมพ์ที่ทำให้การเผยแพร่ความรู้ทำได้รวดเร็วและกระจายไปทั่วโลกได้ และสุดท้ายคือการถ่ายภาพที่เติมเต็มความสมบูรณ์ของข้อมูล สามสิ่งนี้จัดว่าเป็นเครื่องมือของนักคิด นักสร้างนวัตกรรม แถมยังใช้ถ่ายทอดงานศิลปะได้ การได้เป็นส่วนหนึ่งในการใช้งานเทคโนโลยีเหล่านี้ก็นับว่าเป็นเรื่องน่าภูมิใจ เพราะเราได้เป็นคนที่ช่วยส่งต่อความรู้อีกคนหนึ่งของโลกใบนี้

สิ่งที่ต้องทำเมื่อจะพิมพ์โบรชัวร์

โบรชัวร์ หรือ สื่อแผ่นพับ เป็นตัวกลางในการให้ข้อมูลแก่ลูกค้าหรือผู้ใช้งาน อาจจะเป็นตัวบอกข้อมูลสเป็คต่างๆของสินค้า ใช้บอกคุณสมบัติหรือความสามารถ ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนโบรชัวร์ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องมีไว้คู่กับสินค้า อดีตมันคือสื่อส่งเสริมการขายที่จะส่งให้ว่าที่ลูกค้า ปัจจุบันแม้เราจะอยู่ในยุคอินเทอเน็ตที่เอกสารต่างๆสามารถทำเป็นไฟล์ดิจิทัลและให้เปิดดูได้ในโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ แต่ลองนึกภาพดูว่า ถ้าคุณขายบ้าน คอนโด หรือรถยนต์ หรือสินค้าราคาสูง คุณจะไม่มีโบรชัวร์เป็นกระดาษส่งให้ลูกค้าถือหรือเปิดดูเลยหรือ 

หากต้องการพิมพ์โบรชัวร์เป็นกระดาษเพื่อใช้งานสิ่งที่จำเป็นต้องทำคือการสั่งผลิตกับโรงพิมพ์ และในการทำงานร่วมกับโรงพิมพ์ก็มีรายละเอียดต่างๆที่ควรทำ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของสินค้า หรือ เป็นเอเจนซี่โฆษณาที่รับจ้างเจ้าของสินค้าทำสื่อ ขั้นตอนการสื่อสารกับโรงพิมพ์มีดังนี้

IMG_0088

1 คุยกับโรงพิมพ์

คุณจะทำใบปลิวหรือโบรชัวร์กระดาษ คุณต้องคุยกับโรงพิมพ์ที่จะผลิตสิ่งนั้น โรงพิมพ์ที่ทำงานกระดาษก็จะมีระบบการพิมพ์ที่ทันสมัยอย่างดิจิทัลปริ๊นท์ที่สามารถใช้ทำปรู๊ฟหรือใช้ผลิตสื่อจำนวนน้อยได้ หรือหากจะพิมพ์โบรชัวร์ยอดเยอะ เพื่อแจกคนจำนวนมาก ก็ต้องใช้ระบบการพิมพ์อ๊อพเซ็ทเพื่อให้ต้นทุนต่อใบต่ำลง หรือแม้แต่คุณอยากจะทำป้ายไวนิลไปแขวนโชว์ คุณก็ต้องใช้โรงพิมพ์ที่มีเครื่องพิมพ์อิงค์เจ๊ต ซึ่งเป็นเครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่สำหรับทำงานไวนิลโดยเฉพาะ ดังนั้น สื่อของคุณจะออกมาในรูปแบบใด ให้คุยเบื้องต้นกับโรงพิมพ์ที่ทำสื่อตัวนั้นได้เสียก่อน เพื่อสอบถามถึงวิธีการเตรียมข้อมูลที่จะส่งให้โรงพิมพ์ จะได้ทำไฟล์อาร์ตเวิร์คได้ถูกต้องและทำงานร่วมกันได้

2 ตรวจสอบอาร์ตเวิร์คให้ละเอียด

ไฟล์งานที่จะใช้สั่งพิมพ์จะต้องถูกจัดวางในโปรแกรมจัดหน้า ซึ่งในยุคปัจจุบันเราก็มีโปรแกรมจัดหน้าหลายตัวให้เลือกใช้ได้ตามความถนัด เราอาจจะใช้ adobe illustrator ออกแบบโปสเตอร์ก็ได้ จะใช้โปรแกรม canva ช่วยออกแบบและจัดวางก็ได้ สิ่งสำคัญคือเมื่อจัดหน้าแล้วต้องตรวจสอบให้ละเอียดว่าภาพครบถ้วน ตัวหนังสือไม่ตกหล่น สะกดคำไม่ผิด ภาพและข้อความต้องถูกต้องตามการออกแบบ ต้องผ่านการตรวจละเอียดก่อนจะจัดส่งโรงพิมพ์

3 ตรวจสอบขนาดภาพที่ใช้ในอาร์ตเวิร์ค

เมื่อมีการใช้ภาพวางในอาร์ตเวิร์ค เราจะต้องใช้ภาพที่มีคุณภาพสูงและมีความละเอียดเพียงพอ เมื่อก่อนภาพถ่ายจะอยู่บนฟิล์ม การสแกนภาพจากฟิล์มจะต้องเลือกความละเอียดให้สูงเพียงพอต่อการทำงานสิ่งพิมพ์ ยุคสมัยของฟิล์มจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการตรวจสอบขนาดภาพ ต่อมาเมื่อกล้องดิจิทัลได้รับความนิยม และกล้องดิจิทัลสามารถถ่ายภาพความละเอียดสูงได้เกิน 10ล้านพิกเซลกันแล้วก็ทำให้ประเด็นขนาดภาพในสิ่งพิมพ์ดูไม่สำคัญมาก เพราะขนาดภาพจากกล้องดิจิทัลทะลุความต้องการขั้นต่ำไปไกลแล้ว แต่ก็ต้องระวังเรื่องการคร็อปภาพมาใช้ เพราะถ้าเราถ่ายภาพมาใหญ่เพียงพอ แต่เราเลือกคร็อปบางส่วนมาใช้ มันคือการลดขนาดภาพ ลดจำนวนพิกเซลลง มันทำให้ขนาดอาจจะเล็กเกินไปเมื่อนำมาพิมพ์ในงานพิมพ์บนกระดาษ หรือบางภาพที่ส่งต่อกันในโปรแกรมไลน์ หรือ โหลดจากโซเชียลเน็ตเวิร์คก็อาจจะได้ภาพขนาดเล็ก เราต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบ 

ตัวเลขคร่าวๆคือ ถ้าเราต้องการพิมพ์ภาพขนาดเต็มกระดาษ A4 ที่ดูคมชัดสวยงามระดับภาพถ่าย เราก็ควรจะใช้ภาพที่มีความละเอียด 300dpi หรือ 300จุดต่อนิ้ว   จำนวนพิกเซลที่ต้องการตามขนาดกระดาษ A4 (21×29.7cm.) คือขนาด 2480×3508 พิกเซล หรือเทียบกับกล้องดิจิทัล 8.7ล้านพิกเซลนั่นเอง 

4 ตรวจสอบเรื่องระบบสีของภาพ

ภาพในจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ และภาพจากกล้องดิจิทัลจะเป็นภาพในโหมดสี RGB ซึ่งใช้งานได้ดีในจอภาพ แต่การพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ออกมาเป็นกระดาษจะใช้หมึกพิมพ์ระบบสี CMYK ดังนั้นไฟล์ภาพ RGB จะต้องถูกแปลงให้เป็นไฟล์ชนิด CMYK เสียก่อน การจัดหน้าอาร์ตเวิร์ค การตั้งค่าซอร์ฟแวร์จัดหน้า เมื่อเราตั้งใจจะส่งพิมพ์ในโรงพิมพ์ เราต้องตั้งค่าซอร์ฟแวร์จัดหน้าให้เป็นค่า CMYK  งานถึงจะมีคุณภาพ ซอร์ฟแวร์สมัยใหม่จะมีโหมดการแปลงค่าสีให้เป็น CMYK ในขั้นตอนสุดท้ายก่อนจะบันทึกเป็นไฟล์สำหรับโรงพิมพ์ แต่เราก็ควรตรวจสอบไฟล์ภาพและงานอาร์ตเวิร์คให้ดีว่าเราจบงานเป็นระบบสี CMYK จริงๆ

Screen Shot 2565-10-10 at 11.16.07

5 ต้องมีตัดตก

คำว่าตัดตกคือการตัดขอบทิ้ง ถ้าเราต้องการงานนามบัตรขนาด 55×90 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานที่นิยมใช้กับนามบัตร ไฟล์อาร์ตเวิร์คที่เราทำส่งโรงพิมพ์ก็ควรจะทำมาให้ใหญ่กว่าขนาดที่ต้องการด้านละ 3 มิลลิเมตร นั่นก็คือขนาดไฟล์นามบัตรที่ส่งโรงพิมพ์ควรจะใหญ่ 61×96 มิลลิเมตร คือการบวกเข้าไปด้านละ 3 มิลลิเมตรทุกด้าน ไฟล์ที่มีตัดตกจะผ่านการพิมพ์และตัดขอบออกด้านละ 3 มิลลิเมตร ทำให้ได้ขนาดตามที่ต้องการ

6 บันทึกเป็นไฟล์ pdf 

ถ้าเราออกแบบและตรวจสอบทุกอย่างถูกต้อง ผ่านมาแล้ว 5 ข้อด้านบน เราก็จะพร้อมที่จะส่งไฟล์ให้โรงพิมพ์แล้ว การบันทึกไฟล์ชนิด pdf จะเป็นไฟล์ที่โรงพิมพ์นำไปใช้พิมพ์งานได้ หากจะพิมพ์ด้วยระบบอ๊อฟเซ็ทดั้งเดิมโรงพิมพ์จะใช้ไฟล์ pdf ไปทำเพลทหรือแม่พิมพ์ หากจะพิมพ์ด้วยระบบดิจิทัลปริ๊นท์ไฟล์สำหรับสั่งพิมพ์จะต้องใช้ pdf ตัวนี้เช่นกัน แต่ถ้าเราไม่ได้ตรวจบางอย่างที่ต้องตรวจ หรือละเลยบางข้อไป ไฟล์ pdf ก็จะเป็นไฟล์ที่บรรจุข้อผิดพลาดไปด้วยเช่นกัน ดังนั้น ตรวจสอบให้แน่ใจทุกข้อแล้วค่อย export หรือ save as ไฟล์ชนิด pdf เพื่อส่งโรงพิมพ์

นี่คือขั้นตอนคร่าวๆที่เราจำเป็นจะต้องตรวจสอบและแก้ไขให้ถูกต้องก่อนที่จะส่งไฟล์ให้โรงพิมพ์ ผลลัพธ์งานพิมพ์จะออกมาอย่างที่เราต้องการ ตัวหนังสือไม่ตกหล่น ภาพถ่ายคมชัด สิ่งพิมพ์มีคุณภาพสูงสุด แต่หากรู้สึกว่าลำบาก งานเหล่านี้ก็ยกให้เอเจนซี่ หรือ นักออกแบบที่มีประสบการณ์ทำงานส่งโรงพิมพ์แทนก็ได้



การทำตัวอย่างกล่องก่อนผลิตจริง

การออกแบบแพ็คเกจจิ้งหรือออกแบบกล่องเพื่อจัดจำหน่ายเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องพิถีพิถัน เราอาจจะต้องจ้างนักออกแบบกราฟิคที่มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบกล่องโดยเฉพาะ เพราะงานกล่องจะเป็นงานที่ต้องมีการตัดไดคัทเป็นรูปทรงด้วย มันมีความซับซ้อนกว่าการออกแบบใบปลิวทั่วไป

912281

การออกแบบกล่องที่สมบูรณ์ควรจะจบถึงการออกแบบเส้นไดคัท หรือเส้นตัดที่จะใช้สำหรับประกอบเป็นกล่องออกมา เส้นไดคัทนี้จะต้องมีรายละเอียดของส่วนพับ ส่วนติดกาว ภาพหรือข้อความที่ปรากฏบนกล่องที่จะแสดงผลแต่ละด้านต้องจัดวางแต่ละหน้าให้สอดคล้องกัน ด้านบนและด้านล่างกล่องอาจจะต้องกลับภาพหันหัวคนละทาง และต้องเลือกว่าจะทำฝากล่องเปิดด้านไหน ปิดด้านไหนของข้อความด้วย

20220609181802_IMG_0921

เมื่อได้อาร์ตเวิร์คกล่องที่สมบูรณ์แล้วก็ต้องพิมพ์ตัวอย่างพร้อมตัดออกมาเป็นทรงเหมือนจริง ต้องเลือกความหนากระดาษให้เหมาะสม และที่สำคัญต้องทดลองทำกล่องขนาดเท่าจริงออกมา เจ้าของงานควรจะเห็นกล่องขนาดเท่าจริง และถ้าเป็นไปได้ตัวอย่างกล่องก็ควรทำจากกระดาษจริงด้วย เพื่อที่จะนำไปใช้ทดลองใส่สินค้าจริงเพื่อให้มั่นใจว่าใส่สินค้าไปแล้วกล่องจะรับน้ำหนักสินค้าได้ หากเลือกกระดาษบางเกินไปแล้วสินค้าเป็นของหนักก็จะทำให้กล่องเสียรูปทรง ไม่สามารถคงรูปกล่องไว้ได้ กระดาษหนาเกินไปก็จะมีข้อเสียในเรื่องของต้นทุนการผลิต และการได้ตัวอย่างขนาดเท่าจริงก็ยังใช้ไปเป็นแบบถ่ายภาพเพื่อทำงานโฆษณาต่อได้ด้วย


เจ้าของสินค้าอยากออกแบบกล่อง
หรือ นักออกแบบอยากทำตัวอย่างกล่อง
ติดต่อได้ที่ โทร 0819373130 หรือ
https://line.me/ti/p/vGR_HrU7Cd

งานพิมพ์เร่งด่วน หนังสือที่ระลึกงานศพ

เพื่อนผมมีข่าวร้าย น้องชายเสียชีวิต และจัดงานศพอยู่ต่างจังหวัด เพื่อนผมอยากจะมีหนังสือที่ระลึกแจกให้กับแขกในงาน มีเวลาให้ทำประมาณ 1 วัน พอรู้ว่าจะต้องทำให้เสร็จในเวลาที่จำกัดมากๆ ก็เลยแจ้งกับเพื่อนว่า ผมขอไฟล์หนังสือแบบพร้อมพิมพ์ แล้วก็จะทำหนังสือประมาณ 100-300 เล่ม

IMG_1541

สิ่งที่ทางโรงพิมพ์จะต้องคิดทันทีคือ กระดาษจะสั่งจากโรงงานมาไม่ทันแน่ๆ ต้องใช้กระดาษที่มีสต๊อคอยู่ในโรงพิมพ์ ผมรีบเช็คทันทีว่าหนังสือจะต้องใช้ปกเป็นกระดาษหนา กระดาษ 260g เป็นกระดาษที่นิยมใช้ ส่วนเนื้อในก็มีทางเลือกเป็นกระดาษปอนด์ 70-80g ซึ่งเป็นสเป็คที่นิยมใช้ทำหนังสือ และก็จะมีกระดาษถนอมสายตา 75g ที่นิยมใช้เช่นกัน ผมให้ลูกน้องนับกระดาษทั้งหมดว่า เนื้อในเรามีเท่าไหร่ กระดาษทำปกเรามีเท่าไหร่ แล้วก็เช็คกับไฟล์ข้อมูลของเพื่อนว่า เนื้อในเมื่อทำเป็นหน้าหนังสือแล้วจะมีประมาณกี่หน้า นับหน้า แล้วก็คำนวณออกมา พบว่าเรามีสต๊อคกระดาษพอทำได้ 300 เล่ม

ปก 260g เนื้อใน 40 หน้า เล่มหนังสือประมาณ 5×7 นิ้ว ความหนาของเล่มนี้ก้ำกึ่งมาก ปกติหนังสือจำนวนหน้าไม่มากก็จะเหมาะกับการเย็บแม็กซ์มุงหลังคามากว่าไสกาว 40หน้า หรือ 20 แผ่น อาจจะไสกาวไม่สวย ผมเลยทำตัวอย่างออกมาทั้งสองแบบเพื่อดูว่าเย็บแม็กซ์สวยไหม หรือ ไสกาวสวยไหม กระดาษเกาะตัวกันเป็นเล่มได้ไหมเมื่อไสกาว และพบว่า ไสกาวก็ทำได้ เลยตัดสินใจทำเป็นระบบไสกาว

งานพิมพ์ปกใช้กระดาษ 260g พิมพ์ระบบดิจิทัล เมื่อทำเสร็จแล้วจะตัดแบ่งเป็นชิ้นๆ เพื่อไปทำเส้นพับด้วยเครื่องปั๊มแล้วรอประกอบเล่ม ส่วนตัวเนื้อใน ใช้กระดาษถนอมสายตา 75g พิมพ์ดิจิทัลขาวดำทั้งเล่ม แต่แทรกหน้าสี 1 หน้าในส่วนที่จะเป็นรูปของเจ้าของเรื่อง เพื่อให้หนังสือเล่มนี้มีภาพเจ้าของหนังสือเป็นภาพทางการซึ่งเป็นภาพสี ผมรู้สึกว่าหนังสือที่มีภาพสีธรรมชาติบางภาพเป็นหนังสือที่มีเสน่ห์มากกว่าสีขาวดำทั้งเล่ม เมื่อพิมพ์เนื้อในแล้วก็ตัดปลิวออกมาเรียงหน้า แล้วก็นำไปประกอบเล่ม เข้าเครื่องไสกาว

การไสกาวเราใช้เครื่องไสกาวสำเร็จรูป เครื่องจะหนีบเนื้อในไปวิ่งผ่านตัวไส แล้วจุ่มกาวในราง แล้วเดินไปประกบกับแผ่นปก งานไสกาวเป็นงานที่ทำด้วยเครื่องเสมอ หลังจากออกจากเครื่องไสกาวแล้วเราต้องรอเวลาประมาณ 30 นาทีเพื่อให้กาวแห้งสนิทแล้วจึงตัดเจียนให้จบเป็นหนังสือ งานนี้ พิมพ์ไป ปั๊ม ไสกาว ทำต่อเนื่องกัน และจบด้วยเครื่องตัด ใช้เวลาผลิตรวมประมาณ 8 ชั่วโมง

แกลลอรี่ สคส 2023 ขนาดใหญ่ A4 A5

สคส ขนาด A4 หรือ A5 แล้วแต่จะชอบ ซื้อไปแจกลูกค้า ลูกค้าจะเอาไปติดบอร์ด สคส เป็นของหายาก สมัยนี้อาจจะไม่ค่อยแจกกันแล้ว ใครแจกก็จะได้พื้นที่โฆษณาบนกำแพงของบริษัท ใครสนใจสั่ง สคส ไปแจกลูกค้า เลือกภาพแล้วแจ้งมาทางอีเมลหรือ ใส่คอมเม้นท์ไว้ใต้โพสท์นี้

การใช้ canva ทำงานส่งโรงพิมพ์

เวลาเราพูดถึงการทำอาร์ตเวิร์คเพื่อส่งโรงพิมพ์ เราจะนึกถึงไฟล์ดิจิทัลในคอมพิวเตอร์ ทำภาพหรือตัวหนังสือให้ได้อย่างที่ต้องการแล้วส่งทั้งไฟล์ที่ทำเสร็จไปให้โรงพิมพ์เลย และหลังจากนั้นเราก็คาดหวังว่าโรงพิมพ์จะพิมพ์งานได้เรียบร้อย ซึ่งนี่เป็นโลกอุดมคติ ทุกคนและโรงพิมพ์ก็อยากอยู่ในสถานการณ์แบบนี้

ในความเป็นจริงโรงพิมพ์ไม่ได้ทำงานได้ราบลื่นแบบที่คิด เพราะข้อมูลที่ส่งจากนักออกแบบด้วยคอมพิวเตอร์มักจะมาไม่ครบ ตั้งแต่ ไฟล์ภาพที่มาไม่ครบ บางครั้งมาครบก็ไฟล์คุณภาพต่ำ ความละเอียดน้อยเกินไปสำหรับงานพิมพ์ และที่มักเป็นปัญหาบ่อยครั้งคือ ตัวหนังสือเพี้ยน นักออกแบบมือสมัครเล่นส่วนมากจะเลือกใช้ตัวหนังสืออย่างอิสระ เพราะออกแบบเองจะเลือกใช้อะไรก็ได้ และมันก็ควรเป็นอย่างนั้น แต่ในตอนที่จะส่งไฟล์ให้โรงพิมพ์ก็มักจะลืมไปว่า ตัวหนังสือแปลกประหลาดหรือตัวหนังสือแสนสวยที่เราเลือก โรงพิมพ์อาจไม่มีตัวหนังสือแบบนี้อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของโรงพิมพ์ก็ได้ เพราะตัวหนังสือแสนสวยมักเป็นตัวหนังสือที่ต้องเสียเงินซื้อ และบางครั้งตัวหนังสือแสนสวยก็เป็นสิ่งหายาก นักออกแบบไปหามาจากไหนก็ไม่รู้ โรงพิมพ์ไม่สามารถหาตัวหนังสือเหล่านั้นได้ตามที่ลูกค้าต้องการ

นอกจากภาพที่มาไม่ครบ คุณภาพต่ำ และตัวหนังสือเพี้ยนแล้ว ยังมีอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดคือ ไฟล์ไม่ได้ทำตัดตกมา ในวงการออกแบบสิ่งพิมพ์จะเรียกว่า breed ซึ่งโรงพิมพ์ระดับมืออาชีพจะต้องการไฟล์ที่ออกแบบมาพร้อม breed นั่นคือไฟล์งานมีตัดตกเรียบร้อย แต่นักออกแบบมือใหม่ส่วนมากไม่เคยรู้ว่าต้องมีตัดตก และไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรให้มีตัดตก

Screen Shot 2565-10-10 at 11.14.30

คำว่าตัดตกคือสิ่งที่มีเอาไว้ตัดออกเมื่อตอนพิมพ์เสร็จ ยกตัวอย่างการทำงานนามบัตรจะได้เข้าใจ นามบัตรมาตรฐานจะมีขนาด 5.5x9cm ซึ่งเป็นขนาดที่ทุกคนรับรู้ และสมุดใส่นามบัตรก็ต้องใส่กระดาษชิ้นนี้ได้ ในการออกแบบนักออกแบบก็มักจะสร้างไฟล์ที่มีขนาด 5.5x9cm แล้วส่งให้โรงพิมพ์ ถามว่าโรงพิมพ์จัดพิมพ์ได้ไหม ตอบว่าได้ แต่จะตัดขอบให้สวยงามไม่ได้เลย เพราะการตัดกระดาษจะมีระยะการตัดที่ผิดพลาดได้ 0.1-0.5มม. ข้อมูลที่อยู่ในกระดาษใบนี้ก็อาจจะแหว่ง หรือ อะไรที่เคยถูกวางไว้ติดขอบกระดาษ เมื่อตัดออกมาก็อาจจะเห็นว่าไม่ติดขอบ อย่างนามบัตรที่มีรูปผลไม้ติดขอบซ้ายและขอบบน หากเราส่งภาพมะม่วงไม่เต็มลูกอย่างภาพบนไปให้โรงพิมพ์ โรงพิมพ์ก็จะพิมพ์มะม่วงไม่เต็มลูกออกมา แต่ตอนตัดขอบเป็นใบๆ มีโอกาสที่จะตัดแหว่งแล้วมีขอบขาวอยู่ด้านซ้ายของมะม่วง

Screen Shot 2565-10-10 at 11.16.07

ในโรงพิมพ์หากต้องงานขนาด 5.5x9cm เราจะพิมพ์มันในขนาด 6.1×9.6 cm แล้วตัดขอบออกด้านละ 3มม. นั่นก็หมายความว่าเราต้องออกแบบในโปรแกรมให้มีข้อมูลขนาด 6.1×9.cm ส่วนที่เกินไปจาก 5.5x9cm เราจะเรียกว่ามีตัดตก 3มม. หรือมี breed 3mm การตัดขอบออกเล็กน้อยเพื่อให้ได้งานตามที่ออกแบบเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับการทำงานสิ่งพิมพ์ โปรแกรมออกแบบที่นักออกแบบคุ้นเคยอย่าง Adobe illurtrator หรือ Adobe indesign ก็จะต้องมีการตั้งค่า breed เพื่อการทำงานที่จะส่งไปพิมพ์ได้ตรงตามมาตรฐานของการพิมพ์ ภาพนามบัตรที่มีมะม่วงเต็มใบพร้อมเส้นสีดำที่เป็นตำแหน่งตัดกระดาษคือภาพที่มีตัดตก งานมีตัดตกจะทำให้การผลิตทำได้ตามที่ออกแบบไว้

Screen Shot 2565-09-15 at 08.59.50

Screen Shot 2565-09-15 at 09.00.02

ในยุคปัจจุบันโลกเรามีคนทำซอร์ฟแวร์พวกนี้ให้ง่ายขึ้น เรามีเว็บไซต์ canva.com ที่ช่วยออกแบบได้อย่างรวดเร็ว นักออกแบบมือใหม่สามารถทำงานกราฟิคทางอินเทอเน็ต ไม่ต้องซื้อโปรแกรมให้สิ้นเปลืองก็สามารถออกแบบสิ่งพิมพ์ได้ และการใช้ canva ออกแบบนามบัตรก็ได้รับความนิยมมากเช่นกัน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาโรงพิมพ์ได้รับงานอาร์ตเวิร์คนามบัตรที่ทำจาก canva หลายงาน และทุกงานที่ส่งมาจะไม่มีตัดตกเลย เพราะ canva ตั้งให้ไม่มีตัดตกเป็นค่าเริ่มต้น ซึ่งหากเราตั้งใจจะทำไฟล์เพื่อส่งพิมพ์ในโรงพิมพ์ เราจะต้องตั้งค่า canva ในหน้าเว็บให้มีการ export ไฟล์ดิจิทัลแบบมีตัดตกเพื่อส่งโรงพิมพ์ และอ๊อพชั่นนี้ canva ก็เตรียมเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

การส่งไฟล์ที่ออกแบบมาอย่างเรียบร้อย มีตัดตกสำหรับการผลิตในโรงพิมพ์จะช่วยให้เจ้าของงานได้งานที่มีคุณภาพ เพราะโรงพิมพ์ทุกแห่งอยากผลิตงานที่มีคุณภาพที่สุดอยู่แล้ว ลองดูศึกษาวิธีทำตัดตกในโปรแกรมที่เราใช้งานออกแบบสิ่งพิมพ์ดูนะครับ