ลำโพงสวย เสียงดี Ikea Eneby20

IMG_2954

ลำโพงบลูทูธได้รับความนิยมมาก ทั้งแบบตั้งโต๊ะ ตั้งพื้นและในแบบหูฟังไร้สาย คุณภาพลำโพงในช่วงสิบปีหลังมานี้ดีขึ้นเรื่อยๆ ดีขึ้นจนน่าทึ่งที่ลำโพงดอกเล็กนิดเดียวแต่ให้พลังเสียงที่ยอดเยี่ยมเหมือนลำโพงตัวใหญ่ ในครั้งนี้ก็จะทดสอบใช้งานลำโพงพกพาอีกตัวหนึ่งที่มีขายใน ikea ห้างขายของแต่งบ้านที่มีสาขาในไทย

ลักษณะทั่วไป

eneby20 เป็นลำโพงพกพาที่วางขายใน ikea อยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะหมดและไม่มีขายอีก หน้าตาเป็นทรงสี่เหลี่ยมเหมือนกล่องแบนๆ หน้ากว้าง 20x20cm ลึกประมาณ 8 cm มีหูหิวเป็นเหล็กยึดติดตายตัว ไม่สามารถพับได้ มีหน้ากากลำโพงที่ถอดออกได้ เมื่อถอดหน้ากากแล้วจะพบว่าลำโพงจะมี 2 ตัวขับ คือวูฟเฟอร์ขนาดประมาณ 3.2 นิ้ว และทวีตเตอร์ขนาดประมาณ 1 นิ้ว แหล่งพลังงานของลำโพงตัวนี้จะใช้ได้ทั้งแบบเสียบปลั๊ก รองรับไฟ 100-220v และแบบใช้แบตเตอรี่ ซึ่งจะต้องซื้อเพิ่ม

IMG_2943

ลำโพงมีปุ่มเดียว เป็นปุ่มหมุนได้และกดลงไปได้ เสียบปลั๊กแล้วกดปุ่มลงไปหนึ่งครั้งเป็นการเปิดเครื่อง กดอีกครั้งสั้นๆจะเป็นการปิดเครื่อง เมื่อเปิดเครื่องแล้ว ลำโพงจะเข้าสู่โหมดการจับคู่กับมือถือหรือคอมพิวเตอร์ เมื่อจับคู่ได้แล้วก็ลองเปิดเพลงกันเลย ปุ่มหมุนจะใช้ปรับระดับเสียงดังเบา และถ้ากดปุ่มค้างไว้ประมาณ 3 วินาทีจะเข้าสู่การปรับโทนเสียงทุ้ม กดอีกครั้งสั้นๆจะเข้าสู่การปรับเสียงแหลม และเมื่อปรับเสร็จก็ให้กดปุ่มอีกครั้งเพื่อกลับสู่การใช้งาน ตอนเปิดเครื่องแล้ว หากจะกดให้ยกเลิกการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เก่าให้กดปุ่มค้างไว้ 10 วินาที

คุณสมบัติทางไฟฟ้า
มาตรฐานบลูทูธ 4.2
ถ้าใช้ไฟ 100v จะกินไฟ 640ma
ถ้าใช้ไฟ 220v จะกินไฟ 300ma
เพาเวอร์แอมป์ขับลำโพงวูฟเฟอร์มีกำลังขับ 15 วัตต์
เพาเวอร์แอมป์ขับลำโพงทวิตเตอร์มีกำลังขับ 5 วัตต์
ลำโพงสามารถรับสัญญาณเสียงทางช่อง Aux ได้ ความไวขาเข้า 1.65V
ตอบสนองความถี่ 57-20,000Hz

คุณภาพเสียง

สิ่งที่ได้ยินจากลำโพงตัวนี้ก็คือเสียงกลางแหลมที่ชัด เสียงทุ้มย่านต่ำพอมีให้ได้ยิน ด้านหลังของลำโพงจะเป็นช่องอากาศ ลำโพงถูกออกแบบเป็นลำโพงตู้เปิด รูระบายเสียงเบสที่ด้านหลังจะสะท้อนกับผนังห้องแล้วกลับมาเสริมกับเสียงด้านหน้าเพื่อให้มีเสียงทุ้มที่มากขึ้น เราสามารถเลือกวางลำโพงให้ห่างผนังได้ตามใจ วางชิดเบสจะเยอะ วางห่างผนังเบสจะน้อย เป็นไปตามลักษณะของคลื่นเสียงที่สามารถเสริมกันให้ปริมาณเยอะขึ้นได้

เมื่อวางในระยะที่พอดี เราจะได้เสียงเพลงผ่านลำโพงที่มีย่านเสียงทุ้มกลางแหลมที่พอดี น้ำเสียงมีเบสให้ได้ยินพอสมควร ไม่มีเสียงที่บวมเบลอ เสียงกลางฟังได้ชัดเจน ชัดเหมือนเป็นลำโพงบ้านเลย ส่วนเสียงแหลมก็มีลักษณะที่ใส ไม่กัดหู ฟังดนตรีอคูสติกให้เสียงกลางที่สดน่าฟัง เสียงสะบัดคอร์ดกีต้าร์ให้น้ำเสียงน่าฟัง เพลงกีต้าร์เพราะๆฟังผ่านลำโพงตัวนี้ได้สบายมาก

น้ำหนักเบสไม่มาก เสียงสายกีต้าร์ที่เป็นโน้ตต่ำๆจะไม่ใหญ่โตมาก หากเทียบกับลำโพงตัวโปรดอย่าง fender newport เจ้าตัว eneby จะให้เสียงต่ำที่บางกว่า แม้จะลองปรับทุ้มแหลมช่วยแล้วก็ยังบางกว่า แต่ก็ต้องเข้าใจว่าราคาของ eneby แค่สองพันบาท ไม่มีทางจะไปชนะลำโพงระดับหลักห้าพันหรือหมื่นได้อยู่แล้ว การจัดวางชิดผนังจะทำให้เสียงเบสเยอะขึ้นเป็นเท่าตัว จุดที่ดีที่สุดอาจจะเป็นการวางลำโพงชิดผนังไปเลย

น้ำเสียงออกไปในทางนุ่มฟังสบาย เสียงดีกว่าลำโพงแถมทุกตัวที่เคยได้แถมมา ใช้งานฟังในห้องเล็กๆทำงานได้เป็นอย่างดี ใช้ฟังคนเดียวกำลังดี ระยะที่ให้น้ำเสียงถูกใจคือการฟังห่างประมาณ 2 เมตร เสียงร้องชัดมากจนน่าขนลุก ยิ่งได้ฟังกับเพลงที่บันทึกมาโชว์เสียงร้องเน้นๆยิ่งทำได้ดี โดยรวมแล้วเสียงดีกว่าลำโพงคอมฯทั่วไปเยอะ

ถ้าเปิดอยู่แต่ไม่เสียงส่งไปให้ลำโพงประมาณ 20 นาที ลำโพงจะตัดการทำงานและปิดตัวเองลง ต้องเปิดใหม่เองด้วยการกดปุ่มที่ลำโพง

สรุป

ลำโพง eneby เป็นลำโพงบลูทูธที่พกพาได้ มีหูหิ้ว ใช้พลังงานจากไฟบ้านได้ แต่ถ้าจะใช้แบตเตอรี่ก็ต้องสั่งซื้อแบตเพิ่มมาใส่เอง คุณภาพเสียงเพลงที่ถ่ายทอดออกมาจัดว่าเป็นลำโพงเสียงดี น้ำเสียงเหมือนลำโพงบ้าน ฟังเอาคุณภาพเสียงได้เลย ข้อเสียที่พบคือ เสียงย่านต่ำลึกได้ยินน้อยไปหน่อย แต่ก็เข้าใจได้ว่ามันเป็นของราคาไม่แพง และดอกลำโพงก็ไม่ใหญ่ ฟังเพลงร้องได้ดีมาก ฟังเพลงป๊อปทั่วไปก็ดี ฟังเพลงออดิโอไฟล์กลับยิ่งดี ฟังเสียงพูด รายการทอล์คได้ดี การวางชิดผนังช่วยเพิ่มปริมาณเสียงในย่านต่ำได้เยอะมาก มันอาจเป็นลำโพงวางหิ้งที่ดีมากกว่าจะเป็นลำโพงพกพา

ภาพจากเว็บ ikea

รีวิว Fender Newport2 ลำโพงสวยเสียงดี

ลำโพงบลูทูธที่พกพายกไปไหนมาด้วยกันได้เป็นลำโพงที่ได้รับความนิยมมาก แต่ส่วนมาก็จะมาในขนาดที่เล็กกระทัดรัด และก็จะมีผลติตตามมาด้วยคุณภาพเสียงที่ดีไม่สุด นั่นคือมักจะมีแต่เสียงกลางแหลมโดยที่เบสในย่านลึกและต่ำไม่ค่อยมาก

fender newport2 image

Fender Newport รุ่นที่ 2 นี้ เป็นลำโพงพกพาที่ตัวใหญ่ ยกด้วยมือเดียวเกือบจะไม่ได้แล้ว ก่อนหน้านี้ก็มีรุ่นที่ 1 ออกมาขาย และก็ขายดี สะสมชื่อเสียงได้ดีมาก ทำให้มีรุ่น 2 ออกมาในที่สุด หน้าตาเหมือนกันแทบทุกประการ แต่เพิ่มลูกเล่นการใช้งานเข้าไปอีกเล็กน้อย และเมื่อฟังผ่านๆก็ต้องบอกว่า น้ำเสียงเหมือนกันเลย

Newport2 เป็นลำโพงพกพามีสวิตซ์เปิดเปิดเป็นก้านโยก มีลูกบิดแบบหมุนให้ปรับระดับเสียง ปรับเสียงทุ้ม ปรับเสียงแหลม เป็นการออกแบบที่ดูย้อนยุคแต่ให้คุณภาพการใช้งานที่ดี และถูกใจนักเล่นเครื่องเสียงแน่นอน เพราะผมก็หลงใหลสวิตซ์และปุ่มหมุนแบบนี้มาตั้งแต่รุ่นที่แล้ว

dpp - fender newport2 2023 -IMG_3905

ขนาดของ Newport 2 ใช้พื้นที่วางใหญ่กว่าโทรศัพท์มือถือเล้กน้อย น่าเสียดายที่ไม่มีช่องวางหรือหนีบมือถือบนตัวมันด้วย แต่ก็เข้าใจได้ว่าอาจจะทำให้ความสวยงามของลำโพงลดลง ตัวถังลำโพงทำสีตัดกับตะแกรงโลหะ รุ่น 2 นี้มี ให้เลือก 4 แบบ ก็เลือกได้ตามใจ ผมรู้สึกว่ารุ่น 2 ทำสีสวยขึ้น ดูสนุก ดูเป็นของแต่งบ้านแนวทางสดใส แต่ก็แล้วแต่ความชอบ เพราะรุ่น 1 ที่เคยได้มารีวิวก็เป็นสีโทนดำที่ดูขรึมกว่า

IMG_3675

ตะแกรงด้านหน้าเข้าใจว่าเป็นพลาสติก แต่ทำสีให้ดูมันวาวเป็นสีทองอ่อนๆ ต้องได้มุมสะท้อนแสงที่พอดีจะเห็นความวาวสวยงามของสีที่เลือกทำมา ตัวหนังสือ Fender ดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มาก เป็นการออกแบบลำโพงที่สวยที่สุดตัวหนึ่งที่เคยเห็น มันทำให้ลำโพงเป็นของแต่งบ้านได้ไปในตัวเลย ยกไปวางตรงไหนก็ดูน่ารักน่ามอง

สั่งซื้อได้ที่นี่ https://s.shopee.co.th/g45usXzIP

สเป็คจากโรงงาน

  • Bluetooth 5.0 Enabled: 33-foot range
  • Superior Sound: 30W tri-driver system – two woofers, one tweeter
  • Rechargeable: Up to 12 hours of playback time
  • Portable: USB port to charge external devices
  • Compact: 3.2lbs / 7.4”L x 2.8”W x 5.2”H
  • Includes: Bluetooth Speaker, AC Power Adapter, 3.5mm Auxiliary Cable, Micro USB Cable
IMG_4308

กำลังขับของลำโพงระบุไว้ 30 วัตต์ ประกอบด้วยทวิตเตอร์ 1 ดอก และ วูฟเฟอร์ 2 ดอก โดยวูฟเฟอร์ทั้ง 2 ดอกก็เป็นขนาดเล็กๆที่ยัดไว้ในลำโพงตัวเล็ก เทคโนโลยีการผลิตดอกลำโพงในยุคนี้พัฒนาไปไกลกว่าเมื่อยี่สิบปีที่แล้วคนละเรื่องเลย ดอกลำโพงเล็กๆแต่สามารถสร้างเสียงเบสลงลึกได้อย่างมหัศจรรย์ ทำเอาคนอายุเยอะอย่างผมแปลกใจทุกครั้งที่ได้ฟังได้เห็น

IMG_4309

หม้อแปลงไฟ DC ที่มากับลำโพงเป็นหม้อแปลงเสียบกำแพง จ่ายไฟ 15V 2.8A ซึ่งคำนวณกำลังไฟออกมาก็จะได้ 42 วัตต์ ซึ่งก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่สามารถส่งพลังเสียงได้ 30 วัตต์ ช่องเสียบไฟ DC เป็นชนิดกลม ด้านหลังของตัวเครื่องนอกจากช่องไฟ DC แล้วก็มีช่องเสียบ Aux ขนาด 3.5มม. สำหรับรับเสียงเข้าลำโพงเมื่ออยากจะต่อสัญญาณเพลงด้วยสาย และมีช่อง usb ที่จ่ายไฟออกมาได้ 1A สามารถใช้ลำโพงตัวนี้เป็นเพาเวอร์แบงค์ได้ เราสามารถชาร์จไฟให้โทรศัพท์ได้ แบตเตอรี่ที่มีในตัวจะทำให้เครื่องใช้งานได้ประมาณ 12 ชม.

IMG_4312

คุณภาพเสียง

เมื่อเปิดเครื่องจะได้ยินเสียงคอร์ดกีต้าร์ 1 คอร์ด เป็นเสียงตีคอร์ดที่เท่ห์มาก ให้ความรู้สึกถึงความตั้งใจจะทำมาเพื่อคนฟังเพลง และตอนเชื่อมต่อบลูทูธเข้ากับโทรศัพท์เรียบร้อยจะมีเสียงคอร์ทอีกแบบหนึ่งให้ได้ยินเหมือนเป็นการยืนยันว่าลำโพงเชื่อมต่อกับเครื่องเล่นแล้ว และเมื่อเปิดเพลงจากมือถือ ส่วนมากก็จะเป็นเพลงจาก youtubeหรือ ไม่ก็ app เล่นเพลงระบบ streaming ทั้งหลาย น้ำเสียงก็น่าฟังมาก

IMG_3700

เสียงร้องชัดเจนเป็นจุดเด่นแรกที่รับรู้ เสียงกลางชัด จะนักร้องชายหรือหญิง จะได้ยินเสียงร้องที่ชัดและไม่โดนเสียงย่านเบสมากลบ จุดเด่นลำดับถัดมาคือเสียงเบสที่มีปริมาณเยอะและยังคงชัด ไม่เบลอหรือรบกวนเสียงกลางเลย ส่วนเสียงแหลมหรือย่านสูงก็มีประกายเล็กๆน่าจะเป็นผลจากการมีทวิตเตอร์แยกเฉพาะทำให้เสียงปลายแหลมต่างๆยังคงมีและชัดเจน จะบอกว่ามันชัดทุกเสียงเลยก็ไม่ผิด เพลงป๊อปทั่วไปก็ฟังได้เพลินๆ หากฟังเพลงออดิโอไฟล์ที่เน้นย่านเสียงกว้างๆ เบสลึก ทุ้มเด่นๆแน่นๆ มันก็ทำได้ดี เสียงฟาดกลองโชว์ความฉับไวก็ถ่ายทอดออกมาให้ได้ยินและรู้สึกรุนแรงตามแรงฟาด เป็นลำโพงตัวเล็กที่ฟังเพลินมาก

ลำโพงพกพายกไปยกมา วางได้ทุกที่แบบนี้ บางคนจะบอกว่ามันเป็นระบบโมโน ถ้าโมโนคือมีลำโพงตู้เดียวก็ไม่ผิด Newport2 รวมถึงรุ่นที่แล้ว จะรวมเสียงสเตอริโอซ้ายและขวาแล้วส่งออกไปที่ดอกลำโพงของตัวมันทั้งหมด ถ้าเราเปิดเพลงทดสอบที่เป้นสัญญาณซ้ายและขวา เราจะได้ยินเสียงซ้ายและขวาตามเพลงทดสอบ แม้จะฟังตัวเดียวก็ให้เสียงครบซ้ายและขวา แต่ลูกเล่นของ Newport2 ก็คือ มันสามารถทำงานร่วมกัน 2 ตัว เพื่อแบ่งหน้าที่ให้ตัวนึงเป็นซ้ายและอีกตัวเป็นขวา เอาไปวางคู่เป็นลำโพงสเตอริโอปกติได้ด้วย

ลำโพงที่ดีควรจะให้เสียงได้ครบทุกย่านความถี่ แม้ว่าจะเป็นลำโพงขนาดเล็ก แต่ก็พยายามจะส่งเสียงให้ได้ทุกย่าน เป็นเรื่องน่าชื่นชมมากที่พยายามทำและทำได้ค่อนข้างดี เสียงเบสที่ออกจาก Newport2 เป็นจุดเด่นที่ชัดเจนที่สุด แต่การวางลำโพงในพื้นที่ต่างๆก็สำคัญ การเลือกวางให้ใกล้กำแพงจะทำให้ได้เสียงเบสที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น การปรับเสียงเบสก็ช่วยให้การจัดวางทำได้ง่ายขึ้น หากสถานที่ไม่มีกำแพงมาช่วยสะท้อนเสียงเบส

ลำโพงตัวนี้ตั้งแต่รุ่น1 เคยราคาเกือบหมื่นบาท และก็มีโปรโมชั่นลดราคาอยู่เรื่อยๆ ใครอยากได้ก็ลองดูโปรฯ ดูจังหวะลดราคา รุ่นที่แล้วราคาลงมาอยู่ที่ระดับประมาณ 4500-4900 บาทแล้วก็หายไป รอเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ สำหรับรุ่น 2 นี้ ก็คิดว่าน่าจะเดินไปในแนวทางเดียวกัน.

ถ้าสนใจอยากซื้อ แวะไปที่นี่

https://s.shopee.co.th/g45usXzIP

ลองกลับไปอ่านรีวิว newport รุ่น 1

รีวิวหูฟังไร้สาย Apple Airpod Gen1 Gen2

IMG_5404

หูฟังชนิดไร้สายที่ส่งสัญญาณผ่านระบบบลูทูธได้รับความนิยมอย่างมาก ใครที่ต้องการหูฟังสำหรับฟังเพลง หรือ สำหรับการพูดคุยโทรศัพท์และการประชุมจะพยายามหาหูฟังไร้สายเป็นลำดับแรก หูฟังไร้สายระบบบลูทูธที่มาพร้อมกล่องเก็บป้องกันหายและยังเป็นกล่องที่ชาร์จไฟได้ในตัวกลายเป็นแพ็คเกจมาตรฐานของหูฟังบลูทูธในยุคนี้ไปเสียแล้ว และผู้ที่นำเสนอหูฟังไร้สายพร้อมกล่องชาร์จไฟได้ในตัวเป็นเจ้าแรกก็คือ Apple นั่นเอง โดยหูฟังไร้สายรุ่นแรกของค่ายนี้ที่มาพร้อมกล่องชาร์จก็คือ Apple Airpod ซึ่งภายหลังเราจะเรียกเพิ่มเติมว่า Airpod Gen1 เพราะว่าในอีกหลายปีต่อมาก็มี Gen2 ออกมา และมี Airpod pro ตามออกมาด้วย

20220116171445_IMG_0795

Apple Airpod Gen1 เป็นหูฟังที่นำหูฟัง Earpod ดั้งเดิมที่เป็นรุ่นมีสายมาตัดสายออก แล้วยัดแบตเตอรี่ไว้ในหูฟัง พร้อมทั้งออกแบบกล่องเก็บหูฟังให้มีแบตเตอรี่ในกล่อง ทำให้ตอนเก็บหูฟัง ตัวกล่องสามารถส่งพลังงานไฟฟ้าเข้าไปชาร์จหูฟังได้ และตัวกล่องก็มีช่องเสียบสาย lightning แบบเดียวกับ iphone เอาไว้ชาร์จไฟเข้ากล่อง

IMG_5402

คุณภาพเสียงของหูฟัง Earpod เป็นหูฟังเสียงดี ให้ความเป็นกลาง มีเบสชัดเจน มีปลายแหลมพอใช้ สามารถใช้ฟังดนตรี ฟังเสียงทั่วไปได้เป็นอย่างดี และคุณสมบัติทางเสียงเหล่านี้ก็ได้รับการถ่ายทอดไปสู่หูฟังไร้สายอย่าง Airpod ด้วยเช่นกัน เราคาดหวังว่า Earpod จะให้เสียงเป็นอย่างไร หูไร้สายก็เสียงเหมือนแบบมีสายแทบไม่ต่างกันเลย มันจึงเป็นหูฟังไร้สายที่จัดว่าเสียงดีมาก นักฟังเพลงที่ชอบดนตรีชัดๆ น่าจะชอบหูฟังอย่าง Airpod ได้ไม่ยาก เจ้าของ iphone ทุกคนก็จะคุ้นเคยกับเสียงเดิมนี้เช่นกัน

20220116171144_IMG_0790

ด้วยความที่ได้รับความนิยมล้นหลาม และขายดีทั่วโลก ก็มีผลทำให้มีอุปกรณ์เสริมอย่างเคสสำหรับใส่กล่องชาร์จออกมาขายจำนวนมาก และผมก็เลือกซื้อเคสหน้าตาเหมือนแอมป์กีต้าร์มาใช้ มันก็ดูน่ารักดี ผมซื้อ Airpod Gen1 มาก่อนหลายเดือนให้ภรรยาใช้ และซื้อ Airpod Gen2 มาเพิ่มเติม ทั้งสองรุ่นหน้าตาเหมือนกัน ถ้าวางปนกันจะแยกไม่ออกเลย และกล่องชาร์จของทั้งคู่ก็ยังมีรูปร่างและขนาดเหมือนกันอีก ถ้าไม่ใส่เคสที่แตกต่างกันจะดูไม่ออกเลย สิ่งที่แตกต่างระหว่าง Airpod Gen1 กับ Gen2 ก็คือ กล่องชาร์จของรุ่น Gen2 จะเป็นกล่องที่ชาร์จระบบไร้สายได้ นั่นคือเราสามารถวางกล่องชาร์จของ Gen2 บนที่ชาร์จไร้สายได้เพื่อชาร์จไฟเข้ากล่อง เป็นความสะดวกที่มาตามยุคสมัย

IMG_4829

ผลการทดลองฟัง

น้ำเสียงของ Airpod ให้ความสมดุลย์ของเสียงทุกย่านพอกัน เป็นแนวทางของเสียงที่เราเรียกว่าเสียงมอนิเตอร์ เราสามารถใช้หูฟังตัวนี้ในการฟังเปรียบเทียบ หรือ ฟังตรวจสอบงานบันทึกเสียงได้ดี มันให้เสียงกลางที่ชัด ให้น้ำหนักแรงประทะของเสียงกลองได้กระชับ ให้เบสได้ลงลึกและไม่มากเกินไป เสียงย่านต่ำไม่บวม เป็นสัดส่วนทุ้มกลางแหลมที่ลงตัวมาก หูฟังไร้สายยี่ห้ออื่นมักจะมีเสียงไม่โปร่ง ไม่ใส ไม่ชัด ขาดบ้าง เกินบ้าง บางยี่ห้อก็เบสเยอะมาก บางยี่ห้อก็ใส่ไม่สบาย Airpod ของ Apple นี่แหละที่ใส่ได้สบายที่สุด ใส่หลายๆชั่วโมงก็ยังไม่รู้สึกรำคาญหรืออึดอัด

ผมทดลองใช้งานกับโทรศัพท์ android ของ Xiaomi ซึ่งก็เชื่อมต่อได้ดี แต่มีปัญหาหนึ่งที่พบก็คือ Airpod Gen1 ต่อกับ Android แล้วเสียงฟังเพลง รวมถึงดู Youtube ต่างก็ให้เสียงที่เบามาก แต่เสียงพูดคุยตอนโทรศัพท์ยังดังปกติ ส่วน Airpod Gen2 ให้เสียงที่ดังปกติทั้งการฟังเพลงและคุยโทรศัพท์ ไม่พบอาการเสียงเบาแบบ Gen1 ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกอยู่ ดังนั้น ใครใช้ Android เมื่อจะหาหูฟัง Airpod มาใช้ ต้องระวังอย่าไปเลือกใช้ Gen1 เพื่อจะได้ไม่ต้องพบปัญหาเสียงเพลงเบา ความเบานี้เป็นระดับ่ที่เบาจนฟังแทบไม่รู้เรื่องถ้าไม่อยู่ในที่เงียบจริงๆ ถ้าเราเดินอยู่ในที่สาธารณะ หรือ ขับรถ นั่งรถอยู่ เราจะฟังเสียงเบาๆนี้ไม่รู้เรื่องเลย คือเบาจนใช้งานไม่ได้นั่นเอง

แต่กับการใช้ Airpod ทั้ง Gen1 และ Gen2 กับโทรศัพท์ iphone กลับไม่มีปัญหาใดๆเลย ทั้งคู่ให้เสียงที่เหมือนกันมากจนแยกแยะไม่ออกว่าตัวไหนเป็น Gen1 หรือ Gen2 ผมพยายามหาข้อมูลในเน็ตแล้วว่าจะทำยังไวให้ตั้งค่า Gen1 กับมือถือ Android ให้มีระดับเสียงที่ดังปกติ แต่ก็ไม่พบวิธีทำที่ได้ผล

สรุป Apple Airpod ทั้ง Gen1 และ Gen2 ให้คุณภาพเสียงที่ดีมาก ให้น้ำหนักเสียงทุ้มกลางแหลมที่พอดีทุกย่าน สามารถใส่เพื่อฟังเป็นเวลานานก็ได้ การชาร์จไฟเต็มกล่องชาร์จแล้วหมั่นใช้หมั่นวางหูฟังเก็บเข้ากล่องก็จะทำให้หูฟังสามารถใช้งานได้หลายชั่วโมง บางครั้งหากธุระการพูดคุยไม่มาก เราก็พกหูฟังพร้อมกล่องโดยไม่ต้องเสียบชาร์จตัวกล่องได้หลายวัน แต่ถ้าเล่นโทรศัพท์เยอะ ใช้งานทั้งวันก็ทำให้เราต้องชาร์จไฟเข้ากล่องประมาณวันเว้นเว้น และหากใครจะซื้อเพื่อใช้งานกับโทรศัพท์ระบบ Android ควรได้ทดลองก่อนซื้อ เพื่อป้องกันกรณีเสียงเบาเร่งไม่ขึ้นด้วย

สั่งซื้อได้ที่นี่ https://shope.ee/AUY1dBdQqg

รีวิวลำโพงสวย Syitren N-100

ลำโพงบลูทูธกลายเป็นของจำเป็นสำหรับคนชอบฟังเพลงผ่านโทรศัพท์มือถือไปเสียแล้ว และยิ่งถ้าเราชอบฟ้งรายการ podcast หรือ รายการทอล์คใน youtube ก็จะยิ่งทำให้อยากได้ลำโพงที่ใช้เปิดฟังรายการต่างๆโดยเฉพาะ เพราะการใช้หูฟังสำหรับฟังรายการ podcast เป็นเรื่องที่น่ารำคาญมากหากเราต้องฟังเป็นเวลานาน และหลายๆโอกาส แม้จะฟังรายการอยู่ก็ยังคงอยากได้ยินเสียงเรียกจากผู้อื่นด้วย การมีลำโพงแยกเฉพาะที่ไม่ได้มาอุดไว้ที่หูจึงเป็นแนวทางที่ดูเหมาะสมกว่า ผมมีหูฟังบลูทูธที่เสียงดีใช้ฟังเพลงได้ดีมาก แต่พอจะฟังรายการทอล์ค หรือ podcast ที่ยาวนานเกิน 30 นาที ก็เริ่มรู้สึกว่าอึดอัด แม้จะเปิดเสียงไม่ดังมาก แต่ระยะเวลาที่ยาวนานหลายสิบนาทีทำให้รู้สึกปวดหู จึงพยายามหาลำโพงบลูทูธอีกตัวหนึ่งมาใช้งานแทน

ลำโพงบลูทูธส่วนมากจะออกแบบมาให้เป็นปุ่มกดเพื่อเปิดและกดเพื่อปิดเท่านั้น ยิ่งลำโพงในระดับราคาไม่แพง การเปิดปิดจะทำผ่านปุ่มกดเพียงปุ่มเดียว และหากเราจะเพิ่มหรือลดระดับเสียง เราอาจจะต้องไปปรับที่โทรศัพท์มือถือแทน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเบื่อและอันตรายมากหากเรากำลังขับรถอยู่ ลองคิดดูว่าเราเลือกรายการ podcast ความยาวประมาณ 45 นาที เราเปิดแล้วเราก็ฟังในรถ ระหว่างทางเราอาจจะมีจังหวะที่อยากเบาเสียง หรือ อยากหยุดรายการชั่วคราว ถ้าเราใช้ลำโพงบลูทูธทั่วไปที่ออกแบบมาแบบปุ่มกดน้อยๆ เราก็จะต้องแตะที่หน้าจอมือถือ แล้วเล็งหาส่วนที่จะหยุดการเล่น มันต้องใช้สายตาในการสั่งงานด้วย ระหว่างที่ขับรถอยู่ก็จะทำให้เกิดความลำบาก และมาพร้อมอันตรายที่ต้องละสายตาไปกดหน้าจอโทรศัพท์

พอมาเจอลำโพงตัวนี้ด้วยหน้าตาที่สวยงามและดูแปลก เลยทดลองสั่งซื้อมาใช้และก็ได้พบกับความสะดวกที่ค้นหามานาน Syitrend n-100 เป็นลำโพงรูปทรงเหมือนปุ่มกดคีย์บอร์ด แต่ขยายใหญ่ให้ใกล้เคียงฝ่ามือของผู้ใหญ่ บนตัวลำโพงมีปุ่มกด 2 ปุ่ม และมีปุ่มหมุนวอลลุ่มเพื่อปรับระดับเสียงอีก 1 ปุ่ม การเปิดปิดจะทำผ่านปุ่มวอลลุ่มที่บิดสุดทางซ้ายจะเป็นการปิด การเปิดเครื่องก็ต้องบิดวอลลุ่มเพื่อเปิดเล็กน้อย เราจะได้ยินเสียงกลไกดังคลิก แล้วลำโพงก็ฺจะทำงาน วอลลุ่มวงกลมนี้จะใช้เป็นตัวปรับระดับเสียง อยากได้ดังก็หมุนตามเข็มนาฬิกาไปเลย การเลือกระดับเสียงด้วยฮาร์ดแวร์แบบนี้ถูกใจมาก เพราะสามารถเพิ่มลดระดับเสียงได้ตรงกับความต้องการ

dpp-IMG_6143

ปุ่มเล็กๆด้านซ้ายเป็นปุ่ม pair เราต้องกดเพื่อเริ่มจับคู่กับโทรศัพท์ ปุ่มสีขาววงกลมถัดมาจะเป็นปุ่มเล่นและหยุดเล่นชั่วคราว ปุ่ม Play นี้เป็นกลไกที่ต้องกดลงไปด้วยน้ำหนักพอสมควร เราต้องกดให้ดังคลิกปุ่มถึงจะทำงาน เป็นระบบการกดทางกลที่แม่นยำ ให้น้ำหนักการกดที่ชัดเจน กดแต่ละครั้งจะดังคลิกให้เราได้ยิน ทำให้รู้สึกว่าลำโพงตัวนี้ตั้งใจออกแบบมาอย่างมาก ลำโพงออกแบบให้ยิงเสียงขึ้นด้านบน ตัวถังลำโพงมีการเคลือบแผ่นยางเอาไว้ทำให้มีความหนืดไม่ลื่น และจุดสัมผัสพื้นก็มีปุ่มนูนเล็กๆยื่นออกมา ทำให้การวางลำโพงไว้บนโต๊ะแข็งๆลำโพงจะไม่ลื่นบนโต๊ะ เราสามารถเอาโทรศัพท์มือถือไปวางพิงลำโพงตัวนี้ได้โดยลำโพงจะไม่คลื่อนที่เลย

สเป็ค

Playback duration >4 hours (volume 70%)

Speaker power 5Wx2

Signal to noise ratio (a weighted55dB

Distortion <1%

Net weightabout 400g

Product size 105mm*105mm*50mm

Battery Specification 2000mAH

Bluetooth version 5.0

Charging time 3 hours

dpp-IMG_6145

ด้านหลังของลำโพงเป็นช่องเสียบสายต่างๆ ประกอบไปด้วยช่องเสียบสายสัญญาณแบบ Aux 3.5มม. สำหรับเสียงสัญญาณเสียงจากเครื่องเล่นเพลง และมีช่องเสียบสาย usb-c ที่เอาไว้ชาร์จไฟให้ลำโพง เราสามารถใช้สาย usb-c ที่เราเอาไว้ชาร์จโทรศัพท์มาชาร์จลำโพงตัวนี้ได้ แบตเตอรี่ภายในที่ให้มาก็ไม่ได้ใหญ่มาก ใช้งานได้ประมาณ 3-4 ชั่วโมงก็คิดว่าต้องชาร์จไฟแล้ว ปุ่ม Play ทำหน้าที่สั่งให้เล่นเพลง หรือ หยุดเพลงชั่วคราว ไม่ว่าเราฟังรายการทอล์คหรือเพลงเพียงแค่เรากดปุ่มนี้ปุ่มเดียวลำโพงก็จะทำหน้าที่เล่นและหยุดชั่วคราวเสมอ นับว่าเป็นความสะดวกอย่างมากสำหรับคนชอบฟังรายการทอล์ค ส่วนเรื่องการคุยโทรศัพท์ไม่สามารถทำได้ เข้าใจว่าไม่มีไมค์ติดมาด้วย

dpp-IMG_6148

คุณภาพเสียง

น้ำเสียงของลำโพงตัวนี้ออกมาในแนวทาง ชัด ใส และเน้นเสียงพูดให้ฟังชัดเจนมากๆ เสียงเบสพอมีแต่ลงไม่ลึกแบบลำโพงตู้ใหญ่ๆ ฟังเพลงแจ๊สอย่างนอร่าโจนส์ ก็ได้ยินเสียงเบสบางๆไม่ได้ลงลึกแบบเบสลำโพงใหญ่ที่ให้เสียงลึกและอิ่มใหญ่โต ลองมองลอดผ่านตะแกรงด้านหน้าเข้าไปด้านในจะเห็นดอกลำโพงขนาดเล็ก 2 ดอกวางไว้คู่กัน ถ้าจะหาซื้อมาใช้เพื่อฟังรายการพูดก็นับว่าใช้งานได้ดีมาก ถ้าจะหาซื้อมาใช้เพื่อฟังเพลงก็พอไหว แต่จะไม่มีเบสเท่าที่ควร เพราะน้ำเสียงยังห่างไกลกับเครื่องเสียงบ้านอยู่มาก ที่ซื้อใช้ก็เพราะเหตุผลทางด้านหน้าตาและฟังค์ชั่่นการควบคุมเป็นหลัก

สรุป

Syitren n-100 เป็นลำโพงบลูทูธ คุณภาพดี มีลูกเล่นที่เหมาะสมกับการใช้งานเพื่อฟังรายการทอล์คหรือ podcast ปุ่มกดเล่นเพลง Play Pause เป็นปุ่มกดที่มีเอกลักษณ์ กดเพื่อหยุดเพลงและกดอีกทีเพื่อเล่นต่อ ขนาดตัวลำโพงใหญ่เท่าฝ่ามือผู้ใหญ่ มีน้ำหนักภายในที่หนักพอสมควร สามารถเอาโทรศัพท์มือถือไปวางพิงแล้วลำโพงไม่เคลื่อนที่ การควบคุมสั่งการสามารถทำได้โดยไม่ต้องมอง มีความแม่นยำสูง ปรับระดับเสียงดังหรือเบาได้ตรงกับใจมาก ถือว่าเป็นลำโพงหน้าตาแปลกสำหรับตลาดเมืองไทย แต่ก็หาซื้อได้ง่ายๆในเว็บ aliexpress ถ้าเน้นฟังเพลงผมจะเลือก jbl ทรงกระบอก หรือไม่ก็เพิ่มงบไปซื้อ fender ไปเลย แต่ขนาดตัวลำโพงก็จะใหญ่ขึ้น ความน่ารักลดน้อยลง

ลำโพงคู่นี้เหมาะกับใครบ้าง

คนที่ชอบฟังรายการทอล์ค หรือ podcast

คนอยากแต่งโต๊ะคอมสวยๆ

รีวิว eyewear แว่นตาติดลำโพง

เมื่อสักหลายปีก่อนผมพบว่ามีแว่นตาติดลำโพงวางขายแล้ว นั่นคือยี่ห้อ Bose และมีเพื่อนได้ซื้อไว้ใช้ ผมได้มีโอกาสลองไม่กี่นาทีเพราะเกรงใจเพื่อน ซึ่งในวันนั้นรู้สึกว่าราคาสูงเกินไป และคุณภาพเสียงไม่ได้ดีแบบที่คาดหวัง เนื่องจาก Bose ทำลำโพงเสียงดีไว้เยอะมาก และหูฟัง Bose ก็เสียงดีเช่นกัน พอลำโพงถูกติดตั้งไว้ในแว่นตา ก็แอบคิดว่าเสียงจะดี แต่ลองแล้วก็ไม่อยากซื้อ

20211008111714_IMG_0003

ผ่านมาถึงปีนี้ แว่นตาติดลำโพงอยู่ในเว็บขายของ ราคาระดับ 800บาท ซึ่งถูกกว่า Bose ถึง 10 เท่า ผมลืมไปแล้วว่าเสียง Bose เป็นยังไง แต่พอเห็นว่าราคาไม่ถึงพันก็เลยตัดสินใจซื้อมาใช้ โดยคาดหวังว่าเสียงจะดีขึ้นกว่ารุ่นแรกๆเมื่อหลายปีก่อน แต่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะเหมือนเสียงจากหูฟังแท้ๆ

20211008111752_IMG_0006

ลักษณะทั่วไป

แว่นตาสีดำ ติดกระจกพลาสติกเกรดต่ำ ตัวกรอบแว่นทำจากพลาสติก จุดที่ใช้ชาร์จไฟเป็นขั้วไฟฟ้าแบบมีแม่เหล็กดูด สายชาร์จจะถูกดูดติดกับแว่นเมื่อเสียบชาร์จไฟ สายชาร์จที่แถมมาด้านหนึ่งเป็นแม่เหล็ก ส่วนอีกด้านเป็น usb เพื่อเสียบกับอแด๊ปเตอร์ กำลังไฟสำหรับชาร์จระบุไว้ที่ 100ma เท่านั้น หลังจากได้ลองชาร์จก็พบว่า หากเราชาร์จแว่นด้วยเพาเวอร์แบงค์ เมื่อเริ่มชาร์จได้สักพักไม่กี่นาที เพาเวอร์แบงค์ก็จะตัดการทำงาน เพราะว่ากระแสไฟไหลน้อยเกินไป น้อยจนเพาเวอร์แบงค์ตัดสินใจหยุดจ่ายไฟ ดังนั้นหากเราจะชาร์จเราควรชาร์จผ่านอแด๊ปเตอร์จ่ายไฟจริงๆ

20211008111656_IMG_0002

น้ำเสียงของแว่นตาพร้อมลำโพงจะให้น้ำเสียงไม่ดีมาก อาการเสียงเหมือนเปิด speaker phone แล้วเอาโทรศัพท์มาวางไว้ใกล้ๆหู ฟังเสียงกลางรู้เรื่อง เสียงสูงมีให้ได้ยิน แต่เสียงต่ำแทบไม่มีเลย ซึ่งมันคงเป็นข้อจำกัดอย่างหนึ่งของลำโพงเล็กๆบางๆที่ซ่อนอยู่ในขาแว่น

ไมโครโฟนรับเสียงก็อยู่บนขาแว่น จากการสอบถามคู่สนทนาก็ได้ความว่า เสียงพูดของเราปลายทางได้ยินปกติ ไม่ได้รู้สึกว่าเสียงเบาหรือดังเกินไป เสียงที่ได้ยินเหมือนเกิดขึ้นอยู่กลางศรีษะ นั่นก็พอจะคาดเดาได้ว่า เสียงข้างซ้ายและขวาออกมาใกล้เคียงกันมาก ทำให้มิติเสียงอยู่ตรงกลางในหัวเราเป๊ะๆ หากเราใช้ฟังเสียงเพลงสเตอริโอทั่วไป เราก็จะได้ยินมิติเสียง รับรู้ตำแหน่งซ้าย กลาง ขวา ได้แม่นยำตามเจตนาของเพลง ระบบสเตอริโออิมเมจของหูฟังทำได้ดีมาก มันติดแค่เสียงเบสไม่มีเหมือนหูฟังทั่วไปเท่านั้น

การใช้งานหูฟังบนแว่นตาจะไม่มีอะไรไปอุดหูเลย ดังนั้น เสียงดังจากภายนอก เสียงบรรยากาศต่างๆจะยังคงวิ่งเข้าหูเรา เรายังได้ยินเสียงแวดล้อมเป็นปกติ ถ้าเราไปยืนอยู่ใกล้เครื่องจักร หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กำลังส่งเสียงดังน่ารำคาญ ก็จะทำให้เราไม่ได้ยินเสียงจากหูฟังเลย ดังนั้นการใช้งานหูฟังตัวนี้จะต้องเลือกสถานที่คุยด้วย การได้ยินเสียงภายนอกเล็ดลอดเข้าไป และสามารถรบกวนการพูดคุยกับปลายทางด้วยนั้น ทำให้เราปลอดภัยมากยิ่งขึ้นจากการใส่หูฟัง ถ้ามีคนเรียกเราก็หันไปหาได้ มีรถวิ่งผ่านก็ได้ยิน เราใช้ชีวิตปกติได้แม้จะฟังเสียงข่าวอยู่ในหูฟัง

เมื่อใช้ประชุมออนไลน์ก็ทำงานได้ปกติ ประสิทธิภาพการสื่อสารทำได้เต็มร้อย ใช้ทำงานได้เลย ใครคิดจะนำกรอบไปใส่เลนส์สายตาสำหรับตัวเองจริงๆก็ทำได้ มันเป็นอุปกรณ์ของใช้ที่ใช้งานได้ตามหน้าที่หลักของมัน

nakamichi musicone+ ลำโพงสวย เสียงดี หายากมาก

20160502134111_IMG_0139

การฟังเพลงในยุคปัจจุบันเป็นการฟังเพลงที่เน้นความสะดวกสบายเป็นหลัก ตลาดของเครื่องเสียงระดับมวลชนจะเทไปทางลำโพงระบบบลูทูธ ซึ่งทุกยี่ห้อทำออกมาขายกันถ้วนหน้า  เรียกได้ว่าใครไม่ทำขายก็พลาดรายได้มหาศาล  และการค้นหาลำโพงเสียงดีที่หน้าตาดีผมก็ได้ค้นพบอีกตัวเลือกหนึ่งที่ได้มาด้วยความบังเอิญ

นากามิชิเป็นบริษัทที่ทำเครื่องเสียงมายาวนาน ในยุคยี่สิบปีที่แล้วเครื่องเสียงบ้านยี่ห้อนากามิชิถือเป็นเครื่องเสียงเกรดไฮเอนด์  เป็นสินค้ายี่ห้อญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมระดับโลก  เครื่องเสียงชิ้นสร้างชื่อของนากามิชิจะเป็นเครื่องเล่นเทปคาสเซ็ทที่แพงระยับและว่ากันว่าเป็นเครื่องเล่นเทปที่ดีที่สุดในโลกที่เคยมีมา  ส่วนเครื่องเล่นซีดีของนากามิชิก็จะออกไปแนวเครื่องเล่นที่ใส่ได้หลายแผ่น ระบบมิวสิคแบงค์ที่สามารถเปลี่ยนแผ่นได้เร็วที่สุดในโลกอีกเช่นกัน  ซึ่งสองอย่างนี้ทำให้นากามิชิเป็นเครื่องเสียงระดับหรูหราไฮเอนด์ไปอย่างไม่มีใครปฏิเสธ

20160502134125_IMG_0141

ลำโพงในครั้งนี้ผมได้ลองฟังและติดใจในน้ำเสียงถึงกับต้องอุ้มกลับมาจากสิงคโปร์ก็คือ nakamichi music one+ อ่านว่า นากามิชิมิวสิควันพลัส  จะขอเรียกว่ามิวสิควันเพื่อความสะดวกนะครับ  เจ้าตัวนี้วางโชว์อยู่ในสนามบินของสิงคโปร์  ตอนที่ผมรอจะขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพก็ได้เดินผ่านร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าจำพวกไอทีและเครื่องเสียงต่างๆ  เจอลำโพงวางอยู่บนโต๊ะหลายตัว  หนึ่งในนั้นที่สะดุดตาก็คือ มิวสิควันตัวนี้

20160502131338_IMG_0134

ข้อมูลทั่วไป

หน้าตาของลำโพงออกมาสไตล์หน้ากลมมีขาตั้งเป็นเสากลาง  ดูเป็นการออกแบบที่เน้นความสวยงามเป็นหลัก  ซึ่งผมก็สะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น  ยืนพิจารณารอบตัวก็จะเห็นช่องเชื่อมต่อด้านหลัุงมีช่องเสียบไฟเลี้ยง  มีช่องเสียบสัญญาณเสียงชนิด aux ขนาด 3.5มม.  และมีปุ่มควบคุมอยู่ด้านหน้านิดหน่อย เอาไว้เลือกฟังระหว่างบลูทูธ และช่องเสียง aux และมีปุ่มปรับระดับเสียงดังเบา มีปุ่มเปิดปิดตัวเครื่อง ด้านข้างตู้ลำโพงมีสัญลักษณ์ nfc ที่หมายความว่าเราสามารถใช้อุปกรณ์มือถือ tablet และโน้ตบุ๊คที่มี nfc มาเชื่อมต่อได้อย่างง่ายดาย

20160502141358_IMG_0148

หน้าตากลมๆ ส่วนของตู้ลำโพง มีความลึกพอสมควร คาดว่าภายใต้ความลึกนั้นก็คงเป็นวงจรขยายเสียง ตัวลำโพงสีเทาเข้ม ตัดกับตะแกรงหน้าลำโพงสีเทาอ่อน ทำให้มันดูเป็นลำโพงที่หรูหราและดูแพง  แม้ค่าตัวมันจะอยู่ในระดับไม่กี่พันบาทก็ตาม  นั่นทำให้คนรู้จักนากามิชิในอดีตอย่างผมสนใจที่จะลองฟัง และอยากได้มันนิดๆตั้งแต่แรกเห็น และเมื่อได้ทดลองฟังที่ร้านอยู่สิบนาที  ก็ตัดสินใจอุ้มกลับมาด้วยกัน

20160502134154_IMG_0142

ระบบการขยายเสียงภายในเข้าใจว่าเป็นการขยายเสียงแบบดิจิทัล และมีดอกลำโพงด้านหน้าแบบฟูลเร้นจ์ขนาดประมาณ 4 นิ้ว  ด้านหลังลำโพงเป็นแผ่นลำโพงเรียบๆทำหน้าที่เป็นพาสซีพเรดิเอเตอร์ ช่วยปรับจูนโทนเสียงทุ้มให้นุ่มนวลน่าฟังมากยิ่งขึ้นกว่าการเปิดเป็นช่องธรรมดาแบบลำโพงตู้เปิด  ข้อดีของมิวสิควันก็คือ มันสามารถเชื่อมต่อกับพวกเดียวกัน หรือมิวสิควันอีกตัวหนึ่งได้ ทำให้มันกลายเป็นลำโพงสเตอริโอ คือตัวแรกเป็นช่องเสียงซ้าย ตัวที่สองเป็นช่องเสียงขวา ทำให้เราสามารถใช้ฟังเพลงแบบสองลำโพงได้เหมือนเครื่องเสียงบ้านทั่วไป  แต่นั่นก็หมายความว่าเราต้องซื้อมันสองตัว

20160502141344_IMG_0146

ตัวลำโพงมาพร้อมกับรีโมทคอนโทรลขนาดเล็กกระทัดรัด ในรีโมทใช้ถ่านกระดุมรุ่น 2032  ที่รีโมทสามารถสั่งการได้ทุกการทำงาน  ตั้งแต่การไล่เปิดเครื่องไปจนปิดเครื่อง  รีโมทสีขาวหน้าตาดูไม่ค่อยเข้าพวกเท่าไหร่  ลำโพงใช้ไฟเลี้ยง 18V dc และกินกระแสไฟ 1.6a ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่ค่อยได้พบกับเครื่องเสียงตัวอื่นๆนั่นหมายความว่า ห้ามทำอแด๊ปเตอร์หายเด็ดขาด  ถ้าพังขึ้นมายังไม่รู้ว่าจะส่งซ่อมที่ไหน เพราะในประเทศไทยยังไม่มีใครนำเข้ามาขายเลย

2018-10-11_08-17-05

ผลการทดลองฟัง

มาถึงเรื่องการใช้งานกันบ้าง  การเชื่อมต่อสัญญาณบลูทูธจากโทรศัพท์มือถือไปยังลำโพงทำได้ง่ายดาย ไร้ความซ้ำซ้อน  แถมมือถือบางรุ่นหรือโน้ตบุ๊คบางรุ่นมีระบบ nfc แค่เอามือถือไปแตะใกล้ๆลำโพงฝั่งที่มีสัญลักษณ์ nfc ทั้งสองตัวก็จะเชื่อมกันได้อัตโนมัติ  นับว่าเป็นความสะดวกสบายเต็มที่  ส่วนคุณภาพเสียงก็ถือว่าทำได้ไพเราะสมราคา  น้ำเสียงโดยรวมจะออกแนวนุ่มและเบสใหญ่  เบสไวเป็นจุดเด่น ไม่คลาง ไม่แห้งเกินไป  การฟังเพลงร้อง เพลงแจ๊ส เพลงที่โชว์เสียงเบสจะเข้าทางลำโพงตัวนี้  เบสอึ๋มๆคลอเคลียร์กับเสียงร้องไปตลอดเพลง  พอฟังเพลงจากลำโพงตัวนี้นานๆแล้วกลับไปฟังเสียงจากโทรทัศน์ก็จะเสียอารมณ์อย่างมาก  เพราะสไตล์เสียงจากโทรทัศน์จะเบสน้อย  พอหูฟังมิวสิควันจนชิน ไปฟังลำโพงตัวอื่นจะเหมือนมีอะไรหายไป  ซึ่งมันก็คือความถี่ย่านต่ำหายไปนั่นเอง

20160502134117_IMG_0140

เสียงกลางส่งเสียงร้องได้ชัด  แต่ก็ยังไม่เทียบเท่ากับลำโพงสองทางที่ให้ความคมของน้ำเสียงมากกว่า  ส่วนมิวสิควันจะมาโทนหนาและไม่กรุ๊งกริ๊ง ไม่มีเสียงตัวเอสที่บาดล้นเกินไป  ใครที่ชอบเสียงความถี่สูง ชอบเสียงเพอคัสชั่น  อาจจะไม่ชอบเสียงจากมิวสิควันตัวนี้  เพราะปลายความถี่สูงมันห้วนกว่า จบเร็วกว่าลำโพงสองทางทั่วไป  แต่มันก็ไม่ได้ทำให้อรรถรสการฟังเพลงหายไป   ดูเหมือนมิวสิควันจะพยายาททำแนวเสียงให้คล้ายๆกับ bose

การฟังเพลงจากลำโพงบลูทูธยุคนี้จะให้ความสมดุลย์น้ำเสียงได้ดี  เสียงต่ำย่านเบส เสียงกลางและเสียงแหลมที่มีอยู่ในเพลงจะได้รับการถุ่ายทอดออกมาสมดุลย์กันทั้งหมด  และมีจุดเด่นได้เปรียบลำโพงบ้านนิดหน่อยตรงที่ เมื่อเราฟังเสียงในระดับเบา เราจะยังคงได้ยินเสียงเบสลึกๆ ที่ช่วยปกคลุมบรรยากาศของเพลงอยู่ด้วย  ดูเหมือนมิวสิควันจะจูนเสียงให้เน้นเบสมากขึ้นเมื่อฟังในระดับความดังน้อยๆ  ตรงนี้จะแตกต่างไปจากลำโพงบ้านอย่างสิ้นเชิง คือ ลำโพงบ้านจะมีจุดที่ได้น้ำหนักสมดุลย์เสียง เบส กลาง แหลมครบก็ต่อเมื่อเราจะต้องเปิดให้ดังระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นระดับการฟังที่จริงจังและเป็นระดับที่เราไม่สามารถพูดคุยกันแข่งกับเสียงจากลำโพงได้   และหากเราเปิดเครื่องเสียงบ้านเบากว่านี้ หรือเปิดในระดับแบ็คกราวน์มิวสิค  น้ำหนักของดนตรีก็จะมาไม่ครบซึ่งเป็นเรื่องปกติของเครื่องเสียงชุดใหญ่

ในไทยผมไม่พบว่ามีใครขายนากามิชิตัวนี้  เคยพยายามเดินดูตามห้าง  ตามร้าน istudio ที่มักจะมีลำโพงดีๆเจ๋งๆมาขายในร้าน  ก็ยังไม่พบรุ่นนี้  nakamichi musicone+ คงไม่มีใครนำเข้ามาขายจริงๆ ผมเลยตั้งชื่อโพสท์นี้ไว้ว่าเป็นลำโพงหายากมาก  มาถึงวันนี้ ต่อให้ผมอยากได้ลำโพงรุ่นนี้อีกตัวเพื่อมาใช้งานเป็นระบบสเตอริโอสองลำโพง ทำงานแยกซ้ายตัวนึง ขวาตัวนึง ก็ทำไม่ได้  ต้องไปหิ้วมาจากเมืองนอกเท่านั้น
ข้อมูลผลิตภัณฑ์
ระบบBluetooth รองรับโหมดสเตอริโอ 4.0+EDR, A2DP;
With DSP Audio Process, and DRC;
ระบบเชื่อมสัญญาณผ่าน NFC
อัตรากินไฟ 20 วัตต์
ความเพี้ยน THD 1%
การตอบสนองความถี่ : 80Hz – 18KHz;
มีช่องรับสัญญาณ Aux
อแด๊ปเตอร์ไฟตรง 18V 2A
ขนาด 28.8×18.7×18.8 cm

ปล ผมเขียนรีวิวหลังจากที่ได้ใช้งานมาประมาณ 1 ปี

รีวิว ลำโพงบลูทูธ sony btx300

20141224094419_IMG_0045

ลำโพงบลูทูธเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆตามติดไปกับยอดขายของสมาร์ทโฟนและแท็บเบล็ตที่ยึดตลาดไอทีไว้แล้ว แม้ลำโพงระบบบลูทูธจะมีมาหลายปี แต่คุณภาพของลำโพงระบบบลูทูธเพิ่งจะมีการพัฒนาการแบบก้าวกระโดดเมื่อไม่นานมานี้ ย้อนกลับไปก็น่าจะเป็นลำโพงของ bose รุ่น soundlink ที่ทำลำโพงบลูทูธมีแบตเตอรี่ในตัวออกมาซึ่งมีคุณภาพเสียงที่ดีมากจนผู้ใช้เริ่มอยากได้ และทำให้ตลาดลำโพงบลูทูธนี้ร้อนแรงขึ้นทันที

20141224094333_IMG_0042

เมื่อก่อน การทำลำโพงเล็กๆให้สามารถส่งเสียงเบสได้ดีเกินตัว จะใช้เทคนิคการประมวลผลของ DSP มาช่วยแบ่งความถี่เสียงออกด้วยสูตรคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน และสร้างความถี่ฮาร์โมนิคหลายๆลูกเพื่อทดแทนการสร้างความถี่ต่ำตัวจริง เพื่อให้ลำโพงสามารถถ่ายทอดเสียงต่ำได้ราวกับว่ามันเป็นซับวูฟเฟอร์หรือเป็นดอกลำโพงขนาดใหญ่

20141224094340_IMG_0043

ผมเคยมีลำโพงบางๆที่เป็นระบบบลูทูธ มันสามารถให้เสียงกลางแหลมที่พอใช้ได้ และมีเสียงเบสที่พอทนฟังได้ ถ้าเราฟังแค่ลำโพงตัวนี้ตัวเดียวเราก็คงพอใจกับมัน แต่พอเรากลับไปฟังเครื่องเสียงบ้าน เราก็จะค้นพบว่า เสียงเบสที่เราฟังกับลำโพงบลูทูธตัวบางๆตัวนั้นเป็นเสียงเบสที่ไม่เป็นธรรมชาติ จนวันหนึ่ง bose ออกแบบลำโพงบลูทูธเอง และได้ใช้เทคนิคการสร้างคลื่นความถี่ต่ำด้วยระบบ passive radiator เป็นผลทำให้คุณภาพเสียงออกมาดีมาก ฟังผ่านๆแล้วรู้สึกว่ามันใกล้เคียงลำโพงบ้านแล้ว นั่นทำให้ลำโพงบลูทูธเริ่มได้รับความสนใจ และในเวลาไม่นาน ลำโพงทุกยี่ห้อก็ทำลำโพงบลูทูธออกสู่ตลาด

20141224094537_IMG_0050

ณ เวลานี้ที่กำลังจะหมดปี คศ 2014 ลำโพงบลูทูธขนาดพกพาได้ที่ได้รับการกล่าวถึงว่าเสียงดีจะเป็นลำโพงที่มีลักษณะการออกแบบให้เป็นระบบ 2.1 กันเสียเป็นส่วนใหญ่ เพราะการสร้างความถี่ต่ำด้วยระบบซับวูฟเฟอร์แท้ๆนั้นให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่า เป็นธรรมชาติกว่าการประมวลผลที่ใช้ DSP แบ่งความถี่ต่ำออกเป็นความถี่ฮาร์โมนิคที่สูงขึ้นหลายๆลูกแล้วค่อยนำมารวมกันในตอนสร้างคลื่นเสียง ระบบเสียง 2.1 ในลำโพงพกพาจึงสร้างความพอใจได้ และทำให้ขายดีมาก

ลำโพงที่เราเอามาลองฟังกันในวันนี้เป็นของ sony รุ่น btx300 เป็นลำโพงพกพา มีแบตเตอรี่ในตัว ใช้ไฟเลี้ยง 12.5โวลท์ มีช่องรับสัญญาณเสียงแบบ Aux และ bluetooth มีปุ่มปรับเสียงให้เลือกลักษณะเสียง 3 แบบ มีช่องต่อสาย usb out ที่ทำหน้าที่จ่ายไฟแต่เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถอ่านไฟล์จาก thumbdrive ได้ และที่สำคัญคือ มีระบบ NFC เอาไว้ให้ใช้ช่วยติดตั้งได้ง่ายขึ้น

ในกล่องจะมีเพียงแค่ตัวลำโพง อแด๊ปเตอร์ ซองผ้ากันกระแทก และคู่มือเท่านั้น ไม่มีสายสำหรับ Aux มาให้ การเชื่อมต่อด้วยบลูทูธทำได้ไม่ยาก แถมยังมีระบบ NFC ช่วยอำนวยความสะดวกให้ติดตั้งเข้ากับอุปกรณ์ที่มี NFC ด้วยกันได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

20141224094526_IMG_0049

btx300 เป็นลำโพงที่มีขาตั้งในตัว ขาตั้งด้านขวาจะต้องกางออกมาเพื่อเปิดให้กดปุ่ม power ได้ และจะต้องกางแบบนี้ตลอดการทำงาน ถ้าเราหุบขาต้้งเครื่องก็จะปิดตัวเองไปด้วย วัสดุที่ใช้ประกอบตัวลำโพงให้สัมผัสที่รู้สึกแพง ไม่มีคำว่าก๊องแก๊ง การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนทำได้ง่าย ลำโพงสามารถใช้พูดคุยโทรศัพท์ได้ด้วยเพราะมีไมค์รับเสียงในตัว ผมลองเชื่อมเข้ากับมือถือ Asus Zenphone5 และ tablet Samsung note8 ก็สามารถเชื่อมได้ง่ายทั้งคู่ ลองกับโน้ตบุ๊คที่มีระบบ NFC ก็ทำได้ง่ายดายเช่นกัน ซึ่งที่ผ่านมา notebook acer w511 ของผมเป็นโน้ตบุ๊คที่ผมไม่เคยเชื่อมต่อบลูทูธเพื่อฟังเพลงผ่านหูฟังบลูทูธได้เลย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่พอเชื่อมกับ sony btx300 ด้วยการสัมผัสแบบ NFC กลับทำได้ภายในไม่กี่วินาที ทำให้ผมรับรู้ได้ว่าระบบ bluetooth ในโน้ตบุ๊คไม่เสีย

20141224094445_IMG_0046

คุณภาพเสียงของ btx300 อยู่ในเกณฑ์ที่เสียงดี การฟังเพลงผ่าน btx300 ไม่สร้างความรำคาญใดๆให้กับผู้ฟัง เสียงกลางแหลมที่คมชัด เป็นเรื่องไม่ยากสำหรับลำโพงเล็กๆในยุคนี้ ส่วนเสียงเบสหรือเสียงทุ้มมาในแนวนุุ่ม น่าฟังมาก ไม่กี่วินาทีที่เสียงเพลงเล่นออกมา เราก็รับรู้ได้ถึงเสียงเบสที่กลมกล่อม ระบบ 2.1 ทำงานได้สมราคา คุณภาพเสียงโดยรวมให้ความรู้สึกน่าฟังมากกว่าลำโพงเล็กๆทั่วไป การจัดวางลำโพง btx300 ต้องพิถีพิถันพอสมควร เพราะมันให้เสียงที่เปลี่ยนไปเมื่อย้ายที่วาง วางบนหิ้งหรือโต๊ะไม้ก็เสียงแบบหนึ่ง บางบนพื้นกระเบื้องพื้นปูนก็อีกแบบหนึ่ง

btx300 มีปุ่มปรับเสียงให้ 1 ปุ่ม เมื่อเปิดเครื่องมาปกติ จะเป็นเสียงแบบที่หนึ่งหรือเสียงแบบ flat ซึ่งก็จะให้เสียงเบสที่พอใช้ได้แล้วสำหรับเพลงส่วนใหญ่ แต่หากไม่พอใจก็สามารถกดเพื่อเปลี่ยนเสียงให้มีเบสเยอะขึ้น เสียงเบสนุ่มใหญ่ก็จะเหมือนพองตัวใหญ่ขึ้น และถ้ากดอีกครั้งจะเป็นเสียงระบบเซอราวด์ มีเสียงแอมเบี้ยนส์และย่านเสียงสูงโอบล้อมมากขึ้นหากเรานั่งฟังหน้าตรงกับลำโพง ปุ่มปรับเสียงนี้มีประโยชน์มากเมื่อเราย้ายที่วางลำโพง เพราะแต่ละที่จะมีการตอบสนองของเสียงไม่เหมือนกัน ถ้าเรารู้สึกว่าเสียงบางเราก็กดปุ่มเพิ่มเบส แค่นี้เราก็ได้เสียงที่ดีขึ้นแล้ว

ข้อดีคือ เสียงดี แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 8 ชั่วโมง มีซองผ้ามาให้แล้วไม่ต้องซื้อเพิ่ม มีปุ่มปรับเสียงเพิ่มเบสได้ มีช่อง usb ที่จ่ายไฟได้ 1 A ใช้แทน powerbank ได้

ข้อเสียที่พบก็คือ มันมีขนาดใหญ่กว่าลำโพงพกพาของยี่ห้ออื่น น้ำหนักก็ค่อนข้างหนักมาก ถ้าจะต้องหิ้วติดตัว ใส่เป้ มันก็เป็นภาระพอสมควรเลย แต่ถ้ามันถูกใช้งานในบ้าน ย้ายไปมาระหว่างห้องบ้าง มันก็ยอดเยี่ยมครับ

P_20150513_103132

spec

GENERAL

Bluetooth Profiles

Advanced Audio Distribution Profile (A2DP), Audio/Video Remote Control Profile (AVRCP), Hands-Free Profile (HFP), Headset Profile (HSP)

Audio System Nominal Output Power (Total)

20 Watt

Frequency Response

20 – 20000 Hz

Connectivity Technology

wired, wireless

Rechargeable Battery

rechargeable

Run Time (Up To)

8 hour(s)

Power Consumption Operational

31.5 Watt

Power Source

battery

USB charging

Connectivity Interfaces

Bluetooth 3.0, Near Field Communication (NFC)

ลำโพงสำหรับการพกพา เสียงดีและไฮเทค Altec lansing imt525

ท่าทางผมจะเป็นคนบ้าลำโพงเอามากๆ เวลาเจอลำโพงที่เสียงดีก็มักจะดีใจและถ้ามีเงินในกระเป๋าก็แทบจะซื้อเก็บไว้เสมอ ตั้งแต่มีคอมพิวเตอร์เป็นของตัวเอง(เกือบยี่สิบปี) ผมก็ทะยอยมีลำโพงในครอบครองมากขึ้นเรื่อยๆ ค่าเฉลี่ยอาจจะไม่ถึงปีละคู่ แต่มันก็เยอะพอที่จะทำให้สมาชิกในบ้านเริ่มมองอย่างเอือมระอา

ครั้งหนึ่งสมัยเขียนบล็อกใหม่ๆผมเคยแนะนำลำโพงพกพาเสียงดีมากไว้ตัวหนึ่ง มันมีรูปทรงเป็นกระบอก มาวันนี้ ผมกำลังจะรีวิวลำโพงสำหรับพกพาตัวใหม่ ที่ผมถูกใจมากกว่า ทั้งในแง่คุณภาพเสียงซึ่งเป็นประเด็นหลัก และในแง่ความสะดวกในการพกพาซึ่งเป็นประเด็นลำดับสอง ลำโพงที่กำลังจะพูดถึงนี้ทำให้ลำโพงคู่เก่า(กระบอก)กลายเป็นลำโพงเสียงไม่ดีไปเลย เป็นอาการได้ใหม่ลืมเก่าอย่างสิ้นเชิง

ลำโพงคู่ที่ว่านี้ก็คือ Altec lansing imt525 ซึ่งเป็นลำโพงแบบแบนบาง นอกจากจะเอาไว้ต่อกับคอมพิวเตอร์หรือเครื่องเล่น mp3 ทั่วไปแล้ว ยังมีการรับสัญญาณเสียงอ่านระบบ Bluetooth อีกด้วย ซึ่งมันทำหน้าที่เป็น Handfree ไปได้ในตัว สามารถใช้คุยโทรศัพท์ได้เลย หน้ากล่องยังมีรูปโทรศัพท์มือถือโชว์อยู่อีกต่างหาก ทำนองว่าเน้นการใช้งานร่วมกับโทรศัพท์มือถือนั่นเอง

เปิดภายในออกมาก็จะมีอุปกรณ์ต่างๆมาอยู่จำนวนหนึ่ง ประกอบไปด้วยตัวลำโพง หม้อแปลงไฟ 9 โวลท์ สายสัญญาณ mini3.5 to mini3.5 ถุงผ้า และคู่มือ ซึ่งผมค่อนข้างตื่่นเต้นกับถุงผ้าเป็นพิเศษ เพราะตั้งแต่ซื้อลำโพงมาหลายชนิด ไม่เคยได้แถมถุงผ้ากับเขาเลย

ตัวลำโพงเป็นทรงแบนบาง ปุ่มควบคุมอยู่ด้านบน มีช่องวงกลมเหมือนรูขนาดเล็กเป็นไมโครโฟนเพื่อรับสัญญาณเสียงพูดซึ่งจะใช้ตอนคุยโทรศัพท์ ช่องเสียบหม้อแปลงไฟอยู่ด้านหลัง ระบุไว้ว่าต้องใช้แรงดัน 9V 1600ma ช่องเสียบสายสัญญาณเสียง line-in อยู่ด้านหลัง สามารถใส่ถ่าน AA ได้ 6 ก้อน หมายความว่ามันถูกออกแบบมาให้พกพาจริงๆ ดอกลำโพงคู่ matched pair ขนาด 2 นิ้ว ขนาดน่ะผมเชื่อ แต่ matched pair อันนี้ไม่ค่อยแน่ใจ

ที่ด้านหลังมีจุดที่กดเพื่อให้ขาตั้งเด้งออกมา เมื่อกางขาตั้งแล้วมันจะวางบนโต๊ะได้สวยงาม มุมเอียงหน้าขึ้นเล็กน้อย จะวางบนหัวเตียงก็ไม่มีใครว่าอะไร แต่ผมคิดว่าผมอาจจะเอาไปวางไว้ในรถยนต์ของผมเอง เพราะเครื่องเสียงที่แถมมากับรถคุณภาพค่อนข้างต่ำ ซึ่งถ้าเอาไปใช้ในรถจริงๆก็จะได้ประโยชน์จากการโทรศัพท์ด้วย เพราะจะใช้งานเป็นแบบ Handfree ได้เลย ซึ่งมีประโยชน์ต่อการขับรถไปคุยโทรศัพท์ไปด้วยอย่างยิ่ง

แต่ผมก็คงไม่เอาไปไว้ในรถจริงๆหรอก เพราะว่ามันพกง่าย และผมก็มักจะพับเก็บและขนลำโพงตัวนี้ไปพร้อมกับกระเป๋าโน้ตบุ๊ค เพราะความหนาของมันเท่ากับโน้ตบุ๊คขนาดมาตราฐานทั่วไป การพกพาใส่กระเป๋าไปพร้อมโน้ตบุ๊คจึงเป็นสิ่งที่ทำได้ทันที ไม่ต้องหากระเป๋าโน้ตบุ๊คใบใหม่ และพอมันอยู่ในกระเป๋าโน้ตบุ๊คแล้ว ผมก็ขี้เกียจหยิบมาวางไว้หน้ารถนั่นเอง

พกพาง่ายแล้วคุณภาพเสียงเป็นอย่างไร เสียงของมันมีจุดเด่นที่เสียงกลาง มีความคมชัดของเสียงร้องค่อนข้างมาก เสียงคนกับเสียงกีต้าร์เป็นเสียงถนัดของลำโพงตัวนี้เลย ความใสก็มีอยู่ค่อนข้างดี ลำโพงราคาถูกทั่วไปมักจะส่งเสียงได้ เปิดดังได้ แต่เสียงจะไม่ค่อยใส ความใสที่ว่านี้เป็นความใสที่ทำให้น้ำเสียงมีประกาย มีน้ำมีนวล ด้วยความบางของลำโพงทำให้การส่งเสียงเบสจะต้องอาศัยเทคโนโลยีมาช่วยอยู่บ้าง นั่นคือลำโพงนี้มีระบบ SRS Tru-bass ซึ่งเป็นวงจรเพิ่มเสียงเบสให้มากขึ้น มันเป็นเทคโนโลยีที่ถูกนำมาช่วยลำโพงเล็กให้ส่งเสียงทุ้มได้มากขึ้น มันเป็นการประมวลผล DSP แนวทางหนึ่งที่ช่วยให้คนฟังได้ยินเสียงเบสที่เกินตัว ไม่น่าเชื่อว่าจะมาจากลำโพงตัวเล็ก แต่เสียงเบสที่ผ่าน DSP ของลำโพงตัวนี้ก็ทำได้ในระดับหนึ่ง เพราะข้อจำกัดทางกายภาพที่อยากจะให้ลำโพงมันเล็กและบาง ทำให้เสียงเบสที่พยายามใช้ DSP ช่วยแล้วก็ยังน้อยไปอยู่ดีเมื่อเทียบกับลำโพงที่มีซับวูฟเฟอร์ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่เท่าที่ได้ยินก็ถือว่า Altec lansing ทำได้ตามที่โม้ไว้ว่า speaker phone ก็ทำแบบเสียงดีได้

การที่ลำโพงนี้สามารถใช้เป็น Handfree ได้ด้วย หมายความว่ามันจะต้องออกแบบมาให้สามารถคุยกันได้รู้เรื่อง ไมโครโฟนรับเสียงที่อยู่ติดกับลำโพงส่งเสียงจะต้องมีการออกแบบไม่ให้มีเสียงหอน หรือ ฟี้ดแบ็ค ซึ่ง imt525 ก็ทำได้ดีน่าชื่นชม เหตุที่ทำได้ก็เพราะเทคโนโลยีอีกตัวหนึ่งที่ชื่อว่า echo-canceling ผมสามารถรับสายระหว่างฟังเพลงได้ และคุยธุระจนจบโดยที่ไม่ได้รู้สีกเหมือนใช้ handfree ในมือถือเลย สามารถคุยกันรู้เรื่อง พูดแทรกกันก็ค่อนข้างได้ยินชัด ไม่ใช่เสียงหายเหมือนสื่อสารทางเดียว

ปุ่มกดจำนวนมากที่ด้านบนลำโพงทำหน้าที่เป็นปุ่มควบคุมการเล่นเพลง เพราะลำโพงตัวนี้เป็น Speaker Bluetooth ที่สนับสนุนโปรโตคอล A2DP หรือการส่งเสียงผ่าน Bluetooth และยังสามารถควบคุมการเล่นได้ด้วย จะหยุด จะเปลี่ยนเพลงทำได้ที่ฝั่งลำโพงเลย โดยในการทดสอบกับโทรศัพท์ผมใช้โทรศัพท์ Samsung รุ่น Monte เมื่อทำการ paired กันเรียบร้อยแล้ว ผมเปิดโปรแกรมเล่นเพลงในมือถือแล้วเลือกรายการเพลงที่ต้องการ กด play บนมือถือปุ๊ป เพลงก็ไปดังที่ลำโพงทันที และพอไปกดเปลี่ยนเพลงที่ลำโพงโดยการกด next มันก็เปลี่ยนเพลงจริงๆ หน้าจอมือถือก็แสดงรายชื่อเพลงใหม่ที่กำลังเล่นทันทีเช่นกัน แบบนี้ก็ถือว่าสะดวกดี ผมรู้สึกว่ามันเหมาะกับการนำโทรศัพท์ที่มี Bluetooth A2DP มาใช้เป็นเครื่องเล่น MP3 แทน iPod ไปเสียเลย ยิ่งถ้าเป็นมือถือรุ่นใหม่ๆที่สามารถเพิ่มหน่วยความจำเข้าไปได้ยิ่งทำให้ลำโพงตัวนี้น่าใช้งานมากยิ่งขึ้น

พอลองกับมือถือเสร็จแล้วก็เอามาลองกับโน้ตบุ๊คบ้าง โน้ตบุ๊คที่มี ฺBluetooth ก็สามารถใช้งานกับลำโพงนี้ได้ ผมลองทั้งเครื่อง macintosh รุ่น macbook pro และลองกับเครื่องที่เป็น windows อย่าง acer aspire1 ก็ทำงานได้ดี สามารถเปิดเพลงจากคอมพิวเตอร์ให้ไปออกที่ imt525 ได้อย่างไม่ยากเย็น คุณภาพเสียงก็ไม่แตกต่างไปจากการเล่นกับโทรศัพท์มือถือ

เอา imt525 ไปลองกับ iPodtouch Gen2 ซึ่งผมก็เพิ่งรู้ว่า iPod Touch รุ่นนี้มี Bluetooth เช่นกัน แต่ใช้งานได้แค่ส่งสัญญาณเสียงเท่านั้น ไม่สามารถใช้สื่อสารเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลอื่นๆได้ เมื่อเชื่อมต่อกับ ipod touch แล้ว เสียงต่างๆของ iPod Touch ก็จะมาออกที่ลำโพง ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง หรือฟังเพลง ทุกเสียงจะวิ่งเข้าลำโพงทั้งหมด นับว่าสะดวกมาก มีข้อจำกัดอย่างเดียวที่ iPod Touch Gen2 ยังทำไม่ได้ก็คือ มันยังไม่รองรับระบบ A2DP ทำให้กดเปลี่ยนเพลงที่ลำโพงแล้วเสียงเพลงยังไม่เปลี่ยน

ผมใช้งานลำโพงตัวนี้มาประมาณ 1 เดือน ถือว่าคุณภาพถูกใจ การพกพาก็เป็นเรื่องง่าย ราคาก็ไม่แพงเกินไป ที่บอกว่าไม่แพงก็เพราะผมซื้อมาในราคา 2490 บาท ที่ร้าน iStudio สาขาเซ็นทรัลพระรามสาม หลังจากที่ซื้อกลับมาแล้วก็มาหาข้อมูลเพิ่มก็พบว่ามันเคยมีราคาอยู่ที่ระดับ 7-8 พันบาทกันเลย ก็ทำให้หลงดีใจว่าได้ของถูกอยู่หลายวัน แล้ววันดีคืนดีผมก็เห็นลำโพงตัวนี้อยู่ในร้านขายของร้านหนึ่ง เขาติดราคาไว้ที่พันกว่าบาท ผมเห็นแล้วก็รู้สึกมืนๆเล็กน้อย เสียดายที่ไม่เห็นราคานี้ก่อนจะได้ไม่ต้องเสียเงินเยอะเกินจำเป็น แต่คิดอีกที ถ้ามันถูกๆแค่พันกว่าบาท ผมอาจจะไม่ได้สนใจที่จะหามาฟังก็เป็นไปได้