รีวิวหูฟัง sony mdr-zx110ap ของดีราคาถูก

IMG_5807

หูฟังทรงคลาสิคยังคงได้รับความนิยมในกลุ่มนักเล่นเฉพาะทาง  เพราะเป็นหูฟังที่ให้คุณภาพเสียงได้เที่ยงตรงมากถึงมากที่สุด  พื้นที่ของตัวหูฟังเป็นชิ้นใหญ่  สามารถใส่ตัวกำเนิดเสียงที่ดีได้  จะทำให้ดีในราคาย่อมเยาก็ไม่ยาก

76256

วันหนึ่งที่เดินผ่านมุมเครื่องเสียงในห้าง  เหลือบไปเห็นหูฟังราคาถูกตัวหนึ่งที่แขวนโชว์ไว้ให้ลองฟัง  พอเดินผ่านก็ลองหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเสียบกับหูฟัง แล้วลองฟังดูก็พบว่า น้ำเสียงทำได้ดีน่าสนใจ  เสียงร้องชัด  เสียงเครื่องเคาะจังหวะหลายๆชิ้นก็ได้ยินชัดตลอดเพลง   ดูราคาแล้วไม่แพงมาก  เลยซื้อมาใช้เป็นหูติดกับคอมพิวเตอร์ หรือเอาไว้พกไปฟังนอกสถานที่ และตัดสินใจเขียนเป็นรีวิวเอาไว้

IMG_5798

ลักษณะทั่วไป

สายแจ็คเสียบกับเครื่องเล่นเป็นแบบ mini 3.5  มีขีดดำ 3 ขีด หรือจะเรียกว่าเป็นแจ๊ค 4 ชั้น(ตัวนำไฟฟ้า 4 ช่อง)  ตัวสายออกแบบเช่นนี้หมายถึงมันถูกออกแบบมาให้ใช้กับโทรศัพท์เป็นหลัก ตัวสายมีไมค์โครโฟนให้มาด้วย  มีปุ่มกดรับสาย  เราสามารถใช้หูฟังเส้นนี้คุยโทรศัพท์ได้

IMG_5829

ทดลองใช้หูฟัง mdr-zx110ap กับเครื่องเล่นเพลงอย่าง ipod shuffle gen1 ก็ทำงานได้ดีเยี่ยม ipod รุ่นต่างๆสามารถใช้งานกับหูฟัง sony รุ่นนี้ได้ปกติ  ซึ่งหูฟังบางรุ่นที่เป็นขาเสียบแบบ 4 ชั้นจะทำงานไม่ได้กับ ipod รุ่นเก่า เนื่องจากขั้วสัมผัสของ ipod ออกแบบมาให้ใช้กับแจ๊คหูฟัง 3 ชั้น  แม้แต่หูฟัง earpod ที่แถมมากับ iphone ก็ทำงานกับ ipod เก่าๆไม่ได้  แต่ sony ตัวนี้ทำงานได้ นับเป็นเรื่องโชคดีมากๆ

IMG_5834

ลองเสียบกับเครื่องเล่นเพลงตัวอื่นที่เป็นเครื่องเล่นที่ออกแบบมาให้ใช้กับหูฟังสเตอริโอขั้วสัมผัส 3 ขั้นบางเครื่องก็ทำงานได้ปกติ  บางเครื่องก็มีปัญหา  ตัวที่มีปัญหาก็อย่างเช่นการใช้กับ aune m1 ถ้าเสียบแจ๊คลงไปสุดจะได้ยินเสียงก้องๆ ต้องเสียบให้สุดแล้วดึงออกเล็กน้อย  เสียงก็จะดังเป็นสเตอริโอปกติ

IMG_5810

หูฟังชนิดนี้เป็นหูฟังประเภท on-ear คือจะแปะกับใบหูไว้  ไม่ได้ครอบหูสนิทแบบหูฟังขนาดใหญ่  ฟองน้ำนุ่มๆสีขาวสะอาดให้สัมผัสที่นุ่มจริงๆ  และอาการบีบหัวมีน้ำหนักบีบที่มากนิดหน่อยเมื่อใช้งานครั้งแรก แต่ฟองน้ำนิ่มๆก็ช่วยให้ความรู้สึกบีบไม่ค่อยแรงมาก  เมื่อฟังไปหลายวันน้ำหนักบีบหัวจะน้อยลงจนเรียกได้ว่าเบา คาดว่าพลาสติกคงจะอยู่ตัวตามสภาพหัวของผู้ฟังแล้ว

IMG_5802

Specification

น้ำหนัก 4.3 oz

ขนาดไดรเวอร์ 30 มม.

ตอบสนองความถี่ 12Hz – 22,000Hz

อิมพีแดนซ์  24 โอห์ม

ความไว 98dB/mW

รองรับกำลังขับ 1000 mW

ความยาวสาย 3.94 ฟุต

คุณภาพเสียง

น้ำเสียงของหูฟังรุ่นนี้ออกไปทางเสียงที่น่าฟัง  มีแนวเสียงคล้ายลำโพงชั้นดี  แต่การแยกแยะมิติแต่ละเสียงยังไม่เด็ดขาด  หากฟังกับดนตรีน้อยชิ้นหูฟังตัวนี้ก็แยกตำแหน่งเสียงร้องกับเสียงดนตรีได้ชัดเจน  แต่หากฟังกับเพลงที่เล่นเต็มวง มีเสียงเครื่องดนตรีหลายชนิดขึ้นมาพร้อมกันก็จะฟังเหมือนเนื้อเสียงแต่ละส่วนติดกันไปหมด  ฟังผ่านๆก็ไม่ได้เสียหายอะไร  แต่หากฟังจับผิดหรือฟังเพื่อแกะเพลง ฟังโน้ตของเครื่องดนตรีแต่ละชนิดก็จะแยกแยะได้ยากหน่อย ซึ่งนี้เป็นผลจากการฟังเพลง mp3 หรือเพลงไทยทั่วไปที่มีอยู่ตามเน็ต รวมถึงเพลงเก่าๆที่เคยสะสมไว้

แต่หากฟังจากไฟล์ที่เป็น lossless อย่างเช่นฟังผ่าน aune m1 ที่เป็น wave player  ก็ให้คุณภาพเสียงที่ดี ชัดเจน แยกแยะเสียงร้อง เสียงดนตรีแต่ละชิ้นออกจากกันได้เด็ดขาด  เพลงบันทึกมาอย่างไรก็ฟังออกและติดตามทุกเสียงได้หมด  โทนเสียงกลางแหลมอยู่ในระดับที่ดีน่าฟังเหมือนหูฟังราคาหลายพัน  โทนเสียงเบสให้ความอิ่ม อ้วน เบสเยอะเหมือนเราเปิด loundness ให้กับเครื่องเสียง  เสียงเบสจากการฟังไฟล์ lossless ผมเรียกว่าน่าฟัง เรียกว่าเป็นเบสอร่อยเหาะเลย เหมาะกับเพลงร็อค เพลงโชว์เสียงกลอง

หากฟังกับไฟล์เพลง mp3 บิทเรทต่ำ หรือดนตรีที่บันทึกมาไม่ดีเสียงย่านต่ำที่ดังขึ้นและจบลงไม่เร็วเท่าที่ควร  แต่เสียงกลางยังทำได้ชัดเจนดี  สามารถดึงดูดคนฟังให้อยู่กับเสียงร้องและเสียงพูดได้  การฟังเพลงร้อง หรือการฟังรายการวิทยุ จะได้เสียงร้องที่น่าฟัง  เสียงดีเจพูดบรรยายฟังเพลินมาก

เสียงย่านสูงก็ให้ความใสที่พอดี  ไม่ได้เป็นเสียงสูงแสบหู หรือ เสียงห้วนทึบ  เสียงโซโล่กลองทำได้ชัดเจนและน่าฟังมาก  เสียงกีต้าร์ก็ให้ความใส มีเนื้อเสียงที่อิ่มแน่น  หูฟังตัวนี้ฟังเพลงอคูสติกได้เพราะดี  เราสามารถพกหูฟังตัวนี้ตัวเดียวเพื่อใช้กับโทรศัพท์ของเราทั้งการคุยและการฟังเพลง  จะบอกว่ามันเป็นหูฟังที่ใช้สำหรับฟังเพลงจริงๆ  ไม่ใช่แค่ทำเพื่อคุยโทรศัพท์

แนวเสียงของหูฟังตัวนี้จะเหมือนเป็นน้องเล็กของ sennheiser hd650 ตัวละหมื่นปลาย  แต่เบสเยอะกว่า  น้องกลางของน้ำเสียงแนวนี้คือ creative aurvana live ตัวละสองพันกว่า  ส่วน sony mdr-zx110ap ตัวนี้ไม่ถึงพันบาท

สรุป

ถือเป็นหูฟังที่คุ้มค่าตัว  เหมาะกับการฟังเพลงกับเครื่องเล่นเพลงและคอมพิวเตอร์   ใช้พกพาออกนอกบ้านไปนั่งฟังเพลงเพลินๆ  คุณภาพเสียงที่ดีทำให้เราฟังเพลงได้นาน เสียงเบสที่เด่นจากไฟล์เพลงคุณภาพดีจะทำให้เราฟังเพลงเพราะขึ้น  ไม่ล้าหูง่ายๆ  น้ำหนักบีบหัวชั่วโมงแรกจะรู้สึกบีบแรงหากไม่คุ้นเคยกับหูฟังแนวนี้ แต่เมื่อผ่านไปหลายวัน น้ำหนักบีบจะน้อยลงจนเรียกได้ว่าเป็นหูฟังที่ไม่บีบหัวให้รำคาญ  ซื้อไว้ใช้อเนกประสงค์ก็ดี  ใช้ฟังเพลงจริงจังก็ได้  เป็นหูฟังน้ำเสียงดีที่ใช้เป็นตัวพกพาออกนอกบ้านแทนหูฟังไฮเอนด์ตัวโปรดได้  แถมยังไม่เรื่องมากไม่ต้องการแอมป์ขับเฉพาะทางก็ทำงานได้แล้ว

สั่งซื้อ Sony MDR-ZX110AP

อัพเดทปี 2025 หลังจากใช้มา 6 ปี คุณภาพเสียงยังดีเหมือนเดิม แต่ผ้าที่หุ้มสลายตัวไปตอนไหนก็จำไม่ได้ ฟองน้ำไม่ฟูเหมือนเดิมแล้ว

IMG_20250908_134213513

12nov2025 เราสามารถสั่งซื้อฟองน้ำมาเปลี่ยนได้ โดยสั่งจากร้านในเน็ต ซึ่งจะเป็นฟ้องน้ำหน้าตาเหมือนเดิมตอนที่ยังใหม่อยู่ และสามารถใช้กับหูฟังได้หลายรุ่น ผมสั่งซื้อจากลิงค์นี้ https://s.shopee.co.th/5VNRrM6KBy?share_channel_code=6

IMG_20251112_110649234

เริ่มใช้เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi

IMG_0126

 

Xiaomi air purifier 2s ตัวนี้ผมเพิ่งได้มาหมาดๆในวันนี้เลย  สืบเนื่องมาจากช่วงนี้เป็นช่วงฝุ่นปกคลุมประเทศไทย  และกรุงเทพก็อาการหนักมาก  ฝุ่นชนิด pm2.5 มันปกคลุมซะจนถนนหนทางมองไปเจอแต่ฝุ่นสีขุ่นๆ  เลยอยากได้เครื่องฟอกอากาศสักเครื่องมาใช้งาน

IMG_0128

ติดต่อซื้อกับเพื่อนแล้วก็ได้มาในวันนี้  จัดการรื้อออกจากกล่องแล้วก็เสียบปลั๊กๆ เริ่มต้นใช้งานเครื่องฟอกตัวนี้ก็เลยบันทึกภาพเก็บไว้  เมื่อเริ่มเปิดเครื่องโดยการกดปุ่มเพาเวอร์เพียงครั้งเดียวตัวเลขที่แสดงบนจอภาพก็ขึ้นมาระดับ 104 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร   ระบบการทำงานของ Xiaomi 2s ตัวนี้ถูกตั้งให้ทำงานอัตโนมัติ พัดลมดูดอากาศด้านในจะหมุนเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับปริมาณฝุ่น  กดปุ่มเปิดเครื่องครั้งแรก เครื่องจะทำงานในโหมด Auto ทันที  ถ้าฝุ่นเยอะพัดลมจะหมุนเร็ว ได้ยินเสียงชัดเจน แต่ยังไม่รำคาญมาก  และถ้าเข้าสู่ระดับฝุ่นน้อย ไฟแสดงสถานจะจะเปลี่ยนจากแดงเป็นเขียว  พัดลมก็จะหมุนช้าลง

 

ระดับเสียงของพัดลมตอนทำงานปกติแทบไม่ได้ยินเสียงเลยหากเราใช้งานในห้องแอร์  เพราะแอร์ในห้องจะทำงานเสียงดังกว่า Xiaomi ชัดเจน  ทำให้เราไม่ได้ยินเสียงจากเครื่องกรองอากาศเลย  ส่วนในโหมดเบา ตอนที่ฝุ่นน้อยๆ จะต้องนั่งฟังใกล้ๆถึงจะได้ยินเสียงกว่าเครื่องทำงานอยู่  หากเราอยู่ห่างจากเครื่อง 1 เมตร เราแทบไม่ได้ยินเสียงการทำงานของมันเลย  และหากเรากดให้เครื่องทำงานในแบบ night mode เสียงที่ว่าเบาแล้ว ก็จะเบาลงไปอีกเท่าตัว  ต้องเงี่ยหูฟังใกล้ๆ หรือเอามือไปจ่อด้านบนเพื่อสัมผัสดูว่าลมออกไหม ซึ่งลมก็ยังคงออกอยู่ตลอดเวลา  ดังนั้นในเรื่องของเสียง ถือว่า Xiaomi ทำงานได้เบามาก  เบาที่สุดเมื่อเทียบกับเครื่องกรองอากาศอื่นๆที่ผมเคยใช้งานมา

 

จุดเด่นของ  Xiaomi air purifier 2s ก็คือ มีปุ่มเปิดเครื่องแค่ปุ่มเดียวด้านบน  กด1 ครั้งเพื่อเปิด  กด 1 ครั้งเพื่อเปลี่ยนโหมด  หากอยากปิดเครื่องให้กดค้างสัก 3 วินาที เครื่องก็จะปิดตัวเองลง  การมีปุ่มเดียวมันเข้าใจง่าย  เครื่องอื่นๆที่เคยใช้งานมีปุ่มจำนวนมาก  การมีปุ่มมากทำให้เกิดอาการมึนงงว่ามันคืออะไรบ้าง  มันอาจจะเอาไว้ใช้ปรับให้ละเอียดตรงกับความต้องการ  แต่ความต้องการจริงๆในการใช้งานเครื่องกรองอากาศคือ กรองอากาศให้ฝุ่นน้อยที่สุด และอย่าส่งเสียงดัง นั่นก็ใช้แค่ปุ่มเดียวก็พอ ถือว่า Xiaomi เข้าใจความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างแท้จริง

 

ลูกเล่นอื่นๆของ Xiaomi 2s ตัวนี้ ก็มีเรื่องหน้าจอแสดงสถานะฝุ่น  pm2.5 และสามารถเชื่อมต่อกับ wifi ในบ้านเพื่อสั่งงานและมอนเตอร์ค่าฝุ่นจาก app  ในโทรศัพท์มือถือได้  แม้ว่าเราจะไม่ใช้อินเทอเน็ต ไม่ได้อยากเชื่อมเข้า wifi เครื่องก็ยังทำงานได้  ยังคงเปิดปิดได้  และยังคงเปลี่ยนโหมดการทำงานด้วยปุ่มกดได้  การมี app เอาไว้สั่งการก็เป็นเพียงทางเลือกอำนวยความสะดวกเท่านั้น

 

ไส้กรองของ Xiaomi เป็นรุ่นที่กรองฝุ่นในระดับ hepa หรืออนุภาคขนาดเล็กได้  ฝุ่น pm2.5 ที่สร้างปัญหาให้กับทั่วโลกก็จะโดนดักเก็บด้วยฟิลเตอร์ตัวนี้ได้  การใช้เครื่องกรองอากาศรุ่นนี้จึงช่วยแก้ปัญหาฝุ่นควันในกรุงเทพได้ดีมาก  หากฝุ่นภายนอกบ้านอยู่ในระดับ ร้อยกว่า  ฝุ่นในห้องนอนก่อนเปิดเครื่องจะอยู่ที่ค่าประมาณ 60-90 หน่วย  และเมื่อเปิดเครื่องทำงาน ภายในเวลาประมาณ 20 นาที ค่าฝุ่นในห้องก็จะลดลงไปเหลือระดับประมาณ 20-30 หน่วย และหากผ่านไปหลายชั่วโมง ค่าฝุ่นก็จะลดลงไปเหลือที่ระดับ 10-20 หน่วย ซึ่งหากเป็นวันที่ฝุ่นด้านนอกน้อย  ค่าฝุ่นในห้องนอนตอนเช้าจะอยู่ระดับไม่ถึง 10 เท่านั้น

 

สรุป

Xiaomi air purifier 2s ทำงานกำจัดฝุ่น pm2.5 ได้จริงในห้องที่ขนาดไม่เกิดสเป็คที่ระบุไว้  แม้จะเอาไปใช้กับห้องที่ใหญ่ขึ้น ปริมาณฝุ่นในห้องก็ลดลงได้เช่นกัน  ก็คือว่าทำงานได้ผลดีมาก  ราคาไม่แพง และเสียงรบกวนของพัดลมเราแทบไม่ได้ยินเลย  นับว่าเป็นของที่ออกแบบมาได้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้อย่างแท้จริง

 

 

ลดน้ำหนักง่ายๆแบบคนขี้เกียจ ตอนที่8 โบนัสที่ได้รับ

หลังจากอดทนกินครึ่งเดียวมายาวนานหลายสัปดาห์ ผลลัพธ์ที่เราเห็นตอนชั่งน้ำหนักจะเริ่มส่งผลด้านอื่นตามมา น้ำหนักที่น้อยลงไปสัก 10 กิโลจะมีผลทำให้เราใส่เสื้อผ้าได้ง่ายขึ้น ไม่อึดอัดไม่แน่นเท่าเดิม ตอนนี้แหละ เสื้อผ้าต่างๆที่เคยใส่ไม่ได้จะเริ่มกลับมาใส่ได้ เสื้อผ้าที่เคยใส่ประจำตอนตัวอ้วนก็เริ่มเหมือนผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว

เสื้อผ้าอีกครึ่งตู้ที่เราไม่ได้ใส่มานานเราก็จะเริ่มหยิบมาใส่ได้ นอกจากประหยัดเงินจากการไม่กินน้ำหวานและกาแฟแล้ว เรายังประหยัดเงินค่าเสื้อผ้าได้อีก เสื้อผ้าสิบปีที่แล้วเราจะหยิบมาใส่ได้อย่างสบายใจ เหมือนเรามีเสื้อผ้าเพิ่มขึ้นอีกเพียบเลยและไม่ต้องเสียเงินซื้อด้วย

IMG_4625

จากน้ำหนัก 91 ถ้าไปถึงจุดที่น้ำหนักที่ลดไปประมาณ 15 กิโลกรัมเราจะใส่เสื้อผ้าอะไรก็ดูดี ใส่ได้แทบทุกตัวในตู้เสื้อผ้าของเรา มีความสบายใจที่จะแต่งตัวยังไงก็ได้ สิ่งที่ค้นพบคือ คนรูปร่างดีใส่อะไรก็ดูดี ไม่ได้เกี่ยวกับแบรนด์เนม ไม่ได้เกี่ยวกับราคา ดังนั้นเมื่อความพยายามพาเรากลับไปตัวเล็กอีกครั้ง ตอนนี้แหละคือตอนที่เราจะได้ตักตวงความสุขกายสบายใจจากการมีน้ำหนักตัวในระดับที่่เราพอใจ

IMG_20170429_075239

แล้วหลังจากนี้เราจะกลับไปกินเยอะอีกได้ไหม ก็ต้องบอกว่า เราจะกินเยอะเท่าเดิมตอนที่ทำให้อ้วนไม่ได้ เพราะถ้ากินแบบตอนกำลังอ้วนเราก็จะอ้วนขึ้นไปแบบเดิม แต่เราสามารถกินอาหารเต็มมื้อ เต็มจานได้ เพราะเราไม่ต้องการให้น้ำหนักติดลบอีกคือออกจากการลดน้ำหนักไปสู่โหมดการกินพอดี ไม่อิ่มเกินไป ตอนนี้รูปร่างเราจะกลับไปสู่ตอนที่ยังไม่อ้วน สิ่งที่ได้ติดตัวมาก็คือการไม่กินน้ำหวานพร่ำเพรื่อคือการได้หัดกินกาแฟดำ ส่วนตัวผมเองผมได้ค้นพบโลกของกาแฟ มีเรื่องให้หลงใหลอีกมากในวงการกาแฟ เมล็ดกาแฟ บดกาแฟ ชงด้วยการดริ๊ป หรือชงด้วยเครื่องชง การค้นหาเมล็ดกาแฟที่เราถูกใจ


บุฟเฟ่ต์ล้างผลาญยังคงมีได้เช่นเดิม สัปดาห์ละครั้ง ไม่มากไม่น้อยเกินไป มีความสุขกับการกินอะไรก็ได้ที่อยากกินแต่ให้กินแบบสัปดาห์ละ 1 มื้อก็พอ จะกินมากกว่า 1 มื้อก็อาจจะได้แต่มันเปลืองเท่านั้นเอง

หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจการลดน้ำหนัก สิ่งต่อไปที่แนะนำให้ทำก็คือ เรียนรู้เรื่องโภชนาการ เลือกกินสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และลองหากิจกรรมการออกกำลังกายสักอย่างดู เพราะการออกกำลังกายทำให้เรามีความกระฉับกระเฉง และการใช้แรงมากขึ้นในการออกกำลังจะทำให้เรามีโควต้าไปกินอาหารเยอะขึ้นด้วยเช่นกัน จะวิ่ง จะเตะฟุตบอล จะเล่นโยคะ จะแอโรบิค เลือกที่สบายใจเลย ขอลาด้วยภาพ before after ที่ผมไม่คิดว่าผมจะเป็นนายแบบเสียเองในการลดน้ำหนัก ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบครับ

PHOTO_COLLAGE1498116443367

ทำประกันสุขภาพเด็ก เพราะอะไรถึงควรทำให้ลูกเรา

ทำไมเราต้องทำประกันสุขภาพให้ลูก ในอดีตเราก็เติบโตมาแบบไม่เห็นต้องมีประกันสุขภาพเลย เราก็ไม่ค่อยป่วยหรอก ถึงป่วยก็ไปหาหมอได้ไม่ได้แพงอะไร แล้วใครจะป่วยบ่อยกัน คำตอบเหล่านี้เป็นคำตอบที่เป็นจริงกับบางครอบครัวครับ และผมก็โตมากับครอบครัวที่มีคำตอบแบบนี้ แต่ตอนผมมีลูก มันไม่ใช่แบบนี้แล้วครับ

IMG_0943

การมีลูกคนนึงจะมีค่าใช้จ่ายตามมาอีกมาก มันไม่ใช่แค่ค่านม ค่าอาหาร แต่มันมีค่าใช้จ่ายข้างเคียงที่เราต้องจ่ายโดยเราคาดไม่ถึง ผมเองก็คาดไม่ถึง หลายครั้งก็ห่อเหี่ยวอยู่เหมือนกันเวลาที่ควักเงินจ่าย ย่อหน้าแรกที่บอกว่าเป็นจริงกับบางครอบครัวก็คือ ถ้าคุณเป็นคนที่มีเงินมากมายคุณก็ไม่จำเป็นต้องทำประกันอะไรเลย เพราะคุณมีเงินมาก แต่กับพ่อแม่รุ่นต่อมา รุ่นที่ต้องเลี้ยงลูกในยุคอินเทอเน็ต มันก็มีค่าใช้จ่ายแวดล้อมเต็มไปหมด แล้วค่าบริการทางการแพทย์ยุคนี้ก็ไม่ธรรมดา การประกันสุขภาพให้ลูกจะช่วยเราลดภาระบางอย่างลงได้

IMG_1082

ลองไล่ตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ลูกผมเกิดจนอายุ 6 ขวบเมื่อไม่กี่วันนี้ ลองคิดเล่นๆ ลูกผมหลังคลอด แทบไม่ป่วยหนักเลย ป่วยเล็กน้อย ป่วยธรรมดาก็ได้แม่ดูแลอย่างดี เพราะแม่เป็นหมอ ค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ปละปลายไม่เคยต้องจ่าย เราก็ซื้อยาตามที่แม่(หมอ)สั่ง แต่ก็มีจังหวะที่ลูกป่วยหนัก จากการติดเชื้อไวรัสที่เราควบคุมไม่ได้ ลูกผมเข้าโรงพยาบาลครั้งแรกตอนอายุยังไม่ถึงขวบ ค่าใช้จ่ายในรอบนั้น 3 วัน 2 คืน เกือบสามหมื่นบาท บิลนี้ประกันจ่ายให้ เพราะผมซื้อประกันให้ลูกไว้แล้วตั้งแต่เกิด ประกันสุขภาพเด็กจะเริ่มดูแลเราหลังจากซื้อ 1 เดือน

fuji-20jul-19oct2013-DSCF8277-bw

การ admit ครั้งที่ 1 นี้เป็นการ admit แบบเขียมๆ เราเลือกห้องแอร์ที่เล็กที่สุดในโรงพยาบาลเพื่อให้เราไม่ต้องจ่ายเพิ่มในกรณีที่เกินเพดานของประกัน แต่สุดท้ายก็ไม่เกิน เราเห็นบิลแล้วก็ตกใจ ถ้าเราต้องจ่ายเองก็หน้ามืดอยู่ เพราะสมัยผมซื้อประกันให้ตัวเอง ค่าห้องพักในโรงพยาบาลอยู่ระดับ2พันบาท แต่ค่าห้องพักของยุคนี้คุยกันที่ 4-8 พันบาทสำหรับโรงพยาบาลเอกชนเกรดกลางๆไม่ใช่แบรนด์เนม เรียกว่า ค่าห้องกับค่ารักษาจะอยู่ที่ประมาณคืนละ 15000-20000 บาทต่อวัน ตัวเลขนี้ไม่มากไม่น้อย

fuji-20jul-19oct2013-DSCF8243-bw

การ admit ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นตอน 1 ขวบ3เดือน ลูกผมป่วยอีกแล้ว ไข้ขึ้นสูง ส่งโรงพยาบาลดีกว่า เพราะการไปนอนโรงพยาบาลนั้นดีกว่าการนอนที่บ้าน การนอนในบ้านเราจะต้องมีการมอนิเตอร์ตลอดเวลา เช็ดตัวตอนไข้ขึ้นสูง ต้องใช้ยาตามเวลา การอดหลับอดนอนเป็นภาระของแม่และพ่อที่คอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ การไปนอนที่โรงพยาบาลก็คือการให้พยาบาลมาช่วยมอนิเตอร์แทนเรา เราจะได้หลับเต็มตาสักชั่วโมง ไม่งั้นก็จะพะวง พอพะวงมากๆก็เครียดนอนไม่หลับ เลยหอบลูกไปเข้าโรงพยาบาล และดูระดับราคาห้องพักที่แพงขี้นอีกนิดโดยที่ยังไม่เกินเพดานของประกัน ผมก็เลยเลือกห้องใหญ่ที่สามารถวางของได้เยอะ มีที่ให้ลูกเดินเล่นถ้าเขาเดินไหว และลูกยังไม่เข้าใจว่าป่วยคืออะไร พอตื่นนอนก็อยากจะเล่น ต้องเดินเล่นเข็นรถเล่น และที่สำคัญเลือกห้องที่มีพื้นที่ให้ผมนั่งทำงานได้ด้วย คอมพิวเตอร์ แท็บเบล็ท อุปกรณ์การทำงานพร้อมกันบนโต๊ะ ผมเปลี่ยนห้องพักให้เป็นห้องทำงาน และเราก็อยู่กับลูกเกือบ 24 ชม. ค่าใช้จ่ายออกมา 4วัน ประมาณ 6หมื่นบาท

set2-PDSC0144

การ admit ครั้งที่ 3 พอรู้ว่าต้องเข้าโรงพยาบาล ผมก็เลือกห้องใหญ่ จัดกระเป๋าราวกับไปพักรีสอร์ตต่างจังหวัด ลูกเมียและผมเดินทางไปนอนโรงพยาบาลแทบจะลากกระเป๋าเข้าไปเลย การพักในโรงพยาบาลรอบนี้ไม่เครียดอีกแล้ว เพราะลูกไม่ได้ป่วยอะไรที่น่ากลัว แต่ไข้สูงและต้องมอนิเตอร์ตลอดเวลา ซึ่งพยาบาลก็ทำหน้าที่ได้ดี เจ้าหน้าที่ใจดี จำลูกผมได้แล้ว ขาประจำป่วยด้วยโรคยอดฮิต โรคอะไรที่กำลังเป็นข่าวอีกไม่นานก็มาถึงลูกผมเสมอ 3วันในครั้งนี้ค่าใช้จ่ายประมาณ 3 หมื่นบาท

IMG_20171003_114219

มีอีกครั้งที่ลูกตกบันได เย็บที่หัวกี่เข็มก็ลืมไปแล้ว ตอนลูกตกแล้วเราอุ้มขึ้นมา เลือดไหลคามือ ขับรถไปโรงพยาบาลไปถึงโรงพยาบาลเท่าไหร่ก็จะจ่ายให้ได้ รีบเอาลูกไปปฐมพยาบาล รีบทำแผลเถอะ ผ่านชั่วโมงนั้นไปก็หายเครียด ลูกเย็บแผล แล้วก็กลับมานอนบ้านได้ตามปกติ ค่าหมอดูแผลแล้วเย็บ 6 พันบาท นี่คือราคาแถวบ้าน ประกันจ่าย เราไม่ต้องควักเงิน ควักแต่บัตรประจำตัวผู้เอาประกัน มันโอเคมากๆ ไม่มีใครอยากให้อุบัติเหตุเกิดขึ้นหรอก แต่ถ้าเกิดแล้วเราก็อยากได้การรักษาที่ดีและเร็วที่สุด

P_20160401_121118

IMG_1358.JPG

โรคมือเท้าปาก โรค RSV เฮอแปง… เจ้าโรคเหล่านี้เป็นโรคที่แพร่อยู่ในเด็กเล็ก สลับกันเป็น ถ้าคนในบ้านเป็น คนที่เหลือในบ้านก็อาจจะเป็น ถ้าลูกเพื่อนเป็น ลูกเราก็อาจจะเป็น ลูกคนอื่นเป็น พ่อแม่เขาก็เป็นพาหะ พอผู้ใหญ่เป็นพาหะ ผู้ใหญ่กับผู้ใหญ่ก็ทำตัวเป็นพาหะ ไม่ป่วยเอง แต่ส่งเชื้อไปติดเด็กคนอื่นในบ้านได้ เด็กไปโรงเรียน เพื่อนในห้องก็ติด เรียกได้ว่าอะไรฮิตมันติดถึงลูกเราแน่นอน

IMG_20171003_092505

ลูกผมโดนสั่งปิดห้องเรียนยกห้องทุกปี เพราะมีกติกาสากลอยู่ว่า ถ้าห้องเรียนห้องไหนมีคนป่วยเกิน 3 คน ห้องนั้นต้องปิด 1 สัปดาห์เพื่อทำความสะอาดห้อง ฆ่าเชื้อ แล้วค่อยให้เด็กมาเรียนใหม่ ระหว่างที่หยุด ก็จะได้เป็นการรอเวลาให้เด็กคนนั้นหายป่วยด้วย เพราะชื้อพวกนี้จะติดอยู่ในร่างกาย 7-10 วัน เลยทีเดียว
ขนาดวันสุดท้ายของรอบประกัน ยังอุตส่าห์ได้ใช้ประกันอุบัติเหตุ กระโดดเล่นแล้วตกลงมา กล้ามเนื้อบาดเจ็บลูกเดินกระเผกอยู่ในบ้านจนต้องพาไปหาหมอ หมอตรวจอยู่สามนาที วิเคราะห์ว่ากล้ามเนื้อบาดเจ็บอยู่ด้านใน ต้องพักอย่าใช้แรง 7 วัน ให้ยาแก้ปวดกลับบ้าน บิลออกมา พันสี่ร้อยบาท

IMG_20170226_094411

คนใช้เงินเดือนชนเดือนจะซาบซึ้งในระบบประกันมาก เพราะมันทำให้เราไม่ต้องควักเงินก้อนจ่ายไป ไม่ต้องแบกหน้าไปยืมใคร คนยืมเงินจะเปลี่ยนเพื่อนเป็นคนแปลกหน้าได้ง่ายๆ เราได้รับการดูแลอย่างดีจากโรงพยาบาลเอกชน คุณภาพสูง โดยไม่ต้องไปต่อคิวที่โรงพยาบาลรัฐบาล เพราะเรามีคนจ่ายให้ ประกันสุขภาพในเด็กมันเหมาะกับคนที่ยังไม่รวย ถ้าคุณมีพ่อแม่หรือปู่ย่าตายายที่รวย หรือคุณหาเงินได้เยอะ มีเก็บเหลือเฟือ ก็ไม่ต้องสนใจประกันสุขภาพก็ได้ แต่คนเงินน้อย การทำประกันสุขภาพนี่แหละที่ช่วยให้เราเลี้ยงลูกได้อย่างไม่ทุกข์ใจมาก ผมไม่ได้บอกว่าประกันดี แต่มันช่วยให้เราไม่ทุกข์มาก เพราะเราจ่ายล่วงหน้าจำนวนไม่มากให้กับประกัน แล้วประกันก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายให้เราตอนที่เราต้องการ ยิ่งเดี๋ยวนี้ประกันสุขภาพสามารถผ่อนได้ด้วย จะผ่อน 10 เดือน หรือ 12 เดือนก็เจรจาได้ ไม่มีดอกเบี้ย แล้วพอเด็กอายุเข้าสู่ปีที่ 6 เบี้ยประกันจะลดราคาลงไปเกือบครึ่งในการคุ้มครองดีเท่าเดิม ก็คงอุดหนุนกันต่อไปครับ

IMG_5027

ติดต่อคนขายประกันใกล้ตัวคุณ แล้วให้เขาเลือกแพ็คเกจที่คุ้มครองการรักษาประมาณ 60000-100000 บาท สำหรับโรคยอดฮิตในเด็ก เพราะโรคเหล่านี้ รักษาหาย ลูกคงนอนโรงพยาบาลไม่เกิน 5 วัน ผมคิดว่าลูกเราคงไม่โชคร้ายโดนผ่าตัดใหญ่ๆ แต่ถ้าจะเผื่อผ่าตัดใหญ่ คุณต้องดูวงเงินที่ใหญ่ระดับ 5 แสน ถึง 1 ล้านบาท ซึ่งเบี้ยก็จะหลายหมื่นบาท เลือกเอาตามที่เหมาะสมครับ.

fuji-20jul-19oct2013-DSCF8253-bw

รีวิวกล้อง kodak easyshare c140 ในวันที่มันกลายเป็นของโบราณไร้ราคา

กล้องตัวนี้เป็นกล้องดิจิทัลคอมแพ็ค ตัวเล็ก ผมตั้งใจซื้อเพื่อใช้พกพา ใช้สารพัดประโยชน์ ปกติก็มีกล้อง DSLR ใช้อยู่แล้ว แต่ก็อยากมีกล้องตัวเล็กอีกสักตัวที่เอาไว้พกติดตัวตลอดเวลา และกล้องตัวนี้ต้องราคาไม่แพง หายก็ไม่เสียดาย ใช้หน่วยความจำเป็นแบบ SD card และต้องใช้ถ่าน AA เท่านั้น เนื่องจากเบื่อหน่ายกับกล้องที่ใช้แบตเตอรี่เฉพาะยี่ห้อของตัวเอง เพราะเมื่อแบตเสื่อมจะต้องเสียเงินซื้อแบตอีกเกือบพันบาท มันเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงทีเดียวเมื่อเทียบกับราคากล้อง

วันนี้ผ่านมาเกือบสิบปี กล้องตัวนี้ยังคงอยู่ ก็เลยย้อนนึกถึงวันแรกที่ซื้อมันมา และก็ถือโอกาสเขียนรีวิวให้กับเจ้าตัวเล็กสักหน่อย เพราะกล้องรุ่นนี้อยู่กับผมมาอย่างยาวนาน และ มันก็ยังคงใช้งานได้ดีอยู่ถึงทุกวันนี้ และมันได้รับใช้ลูกของผมด้วย ปีนี้ลูกผมอายุ 6 ขวบ และได้ใช้กล้องตัวนี้ออกไปเที่ยวกันเต็มทริป พ่อกับแม่มีรูปคู่กันจากกล้องคอมแพ็คตัวนี้ด้วย

IMG_20141226_214855

กล้อง kodak c140 มีสัญลักษณ์ Youtube บนตัวกล้องด้วย เจตนาให้ถ่ายวิดีโอแล้วอัพโหลดเข้าสู่ youtube ได้ง่ายๆ ผมจำได้ลางเลือกนว่า มีซอร์ฟแวร์ของกล้องแถมมาด้วย และซอร์ฟแวร์แถมมีคำสั่งพื้นฐานในการก็อปปี้ภาพลงคอมพิวเตอร์ รวมถึงเลือกไฟล์วิดีโอเพื่อส่งเข้าสู่ youtube แต่ในการใช้งานตลอดหลายปี ผมไม่เคยใช้ซอร์ฟแวร์แถมตัวนี้เลย เพราะใช้วิธีถอดแผ่นหน่วยความจำมาก็อปปี้ลงเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นหลัก

IMG_8296

ขนาดกล้องเล็กใส่กระเป๋ากางเกงได้พอดี ผมมีโอกาสเจอ accessory น่าใช้ชิ้นหนึ่งคือ ฝาขวดน้ำที่มีหัวบอลเอาไว้ติดกล้องถ่ายรูป ก็เอามาลองติดใช้งานเล่นๆ จะเห็นว่ากล้องขนาดเล็กมาก

100_0002

นี่คือภาพที่ทดลองกล้องในวันที่ซื้อออกจากร้าน ผมซื้อกล้องตัวนี้ที่งานโฟโต้แฟร์ปี 2009 ซึ่งผ่านมาถึงวันนี้ มันกำลังจะอายุครบ 10 ปีพอดี

100_1470
100_1320
100_1135
100_1212
100_0991

คุณภาพของภาพออกมาก็ถือว่าพอใช้งานได้ ในยุคที่มือถือยังถ่ายภาพไม่สวยนัก กล้องคอมแพ็คตัวเล็กสักตัวก็ให้ภาพที่ดีกว่ามือถือทุกตัวในท้องตลาด และมันก็เป็นจริงอยู่อย่างนั้นหลายปี ต้องรอจนถึงช่วงที่ iphone 4 วางตลาด มือถือกับกล้องคอมแพ็คก็มีคุณภาพสูสีกัน และตั้งแต่ iphone5 เป็นต้นไป คุณภาพของมือถือก็เริ่มแซงกล้องคอมแพ็คเล็กๆไปแล้ว จนทำให้จุดจบของกล้องคอมแพ็คราคาถูกก็มาถึงในเวลาไม่นาน

100_0478
100_0520

ผมใช้ c140 ติดตัวไปดูคอนเสิร์ตที่เขาใหญ่ ภาพงานตอนกลางคืนก็พอยอมรับได้ ถ่ายติด และให้ภาพที่ดูรู้เรื่อง เหตุที่ใช้กล้องตัวเล็กก็เพราะอยากจะใช้เวลากับบรรยากาศและเสียงเพลง ไม่ได้อยากจะเป็นช่างภาพที่คิดแต่เรื่องภาพสวย เพลงเพราะๆ อากาศเย็นสบายเป็นสิ่งที่ผ่อนคลาย ก็เลยเลือกกล้องตัวเล็กไปแทน DSLR แล้วก็ใช้มันตลอดงาน

100_0589
100_0613

ภาพตอนกลางวันเป็นของง่ายของกล้องถ่ายรูปแทบทุกตัว ถ้าอากาศดี ท้องฟ้าสดใส แดดออกชัดเจน ภาพก็จะสวยเสมอไม่ว่าจะถ่ายด้วยกล้องอะไร

100_0663
100_0670
100_0719

แผงขายผลไม้ข้างถนนก็เต็มไปด้วยสีสรร การหยิบกล้องตัวเล็กออกมาถ่ายก็ทำได้ง่าย เร็ว และดูไม่เอิกเริก แม่ค้าไม่ไล่ ไม่ว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อของจากร้านเขา รูปผลไม้กองกันเต็มร้านก็ลองถ่ายใกล้ๆให้ดูเป็นงานลวดลายหรือ texture ภาพพุทราก็ดูสวยดี องุ่นสีม่วงก็มีสีสรรที่ใกล้เคียงกับตาเห็น จบงานเที่ยวคอนเสิร์ตด้วยกล้องตัวเล็กๆ ราคาไม่แพง หายก็ไม่เสียดาย

ต่อไปนี้เป็นภาพที่ลูกเป็นผู้ถ่าย บางภาพก็สวย บางภาพก็เบลอ

100_3775
100_3734
143_2190

การใช้งาน mi router 3 โหลดบิท

IMG_20180402_233911

mi router 3 เป็นตัวปล่อย wifi ในบ้านที่มีราคาย่อมเยาแต่สเป็คสูงและความสามารถสูงมาก ราคาขายในเมืองไทยอยู่ในระดับ 1050-1200 บาท แล้วแต่ร้านค้าและเว็บที่ขาย  ผมซื้อมาใช้แทน wifi ในบ้านที่ใช้ของแถมจากผู้ให้บริการอินเทอเน็ตมาตลอด  พอได้ mi router 3 มาก็เสียบสายแลนเชื่อมเข้า modem ตัวที่ต่ออินเทอเน็ต  แล้วก็ตั้งค่าให้ปล่อยเป็น wifi ซึ่งมีระดับความถี่ wifi ให้ใช้ถึง 2 ย่าน คือ 2.4 และ 5Ghz

IMG_20180402_233844

router 3 ยังมีช่องให้เสียบสายแลนอีก 2 ช่อง  มี่อง usb ให้เสียบฮาร์ดดิสก์ external ได้

original-xiaomi-mi-router-3

ดูการเชื่อมสายต่างๆตามภาพด้านบนนี้ได้เลย.

ScreenClip

wifi router ตัวนี้มีช่อง usb สามารถเสียบฮาร์ดดิสก์ได้ ทำให้เรามีระบบเก็บภาพส่วนกลาง อุปกรณ์ต่างๆที่เชื่อมต่อเข้ากับ wifi router ตัวนี้สามารถเข้าถึงข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ได้. ใช้เก็บภาพ เก็บหนัง เก็บเพลงก็ได้. การเข้าถึงก็ต้องอาศัยลงโปรแกรมเพิ่ม. ถ้าใช้คอมฯ ก็โหลดโปรแกรมมาติดตั้ง ถ้าใช้มือถือก็โหลด app มาติดตั้ง.   ในหน้าการจัดการ router มันบอกเราว่า มันสามารถดาวน์โหลดไฟล์ได้ด้วย ซึ่งมันก็คือการโหลดบิทนั่นเอง.   กดที่ปุ่มdownload client ก็จะเข้าสู่หน้าต่อไป

ScreenClip

กดปุ่มโหลด เราจะเข้ามาพบหน้าที่เราอ่านไม่ออก ดูจากภาพก็เดาว่าคงเป็นซอร์ฟแวร์เอาไว้ติดตั้งในอุปกรณ์. ผมจะโหลดซอร์ฟแวร์มาลงในเครื่อง pc ระบบ windows ผมก็เลือกซ้ายบนเลย กดปุ่มแล้วมันก็เริ่มโหลดไฟล์

ScreenClip

เมื่อโหลดเสร็จก็จะขึ้นเป็นชื่อไฟล์ นามสกุล .exe ในเครื่องเรา จากภาพจะเห็นว่า ผมโหลดซ้ำมา 4 ครั้งแล้ว ไฟล์ชื่อ xqpc_client.exe คือไฟล์ที่ต้องการ  ผมโหลดซ้ำ 4 ครั้งมันเลยตั้งชื่อเป็น xqpc_client (4).exe ให้  ได้มาแล้วก็กดดับเบิ้ลคลิกเพื่อ install เลย. เมื่อติดตั้งเสร็จ ก็เปิดทำงาน จะเห็นเป็นโปรแกรมหน้าต่างเล็กๆขึ้นมา  เราต้อง login.    และอย่าลืมว่า เราต้องเสียบฮาร์ดดิสก์ usb ที่ช่อง usb ของ router ด้วยนะครับ. ในการใช้งานของผม ผมลงเสียบด้วยทรัมไดร์ฟ 16 g เอาไว้ทดสอบ

30043

เข้ามาที่การทำงานโปรแกรม  ดูงงๆ และไม่มีคำอธิบายอะไร ก็กดที่รูปเครื่องหมาย +. มันจะเป็นการเพิ่มไฟล์เข้าไปในโปรแกรม  เมนูภาษาจีนขึ้นมาถาม อ่านไม่ออก ผมก็กดมั่วไป มันก็จะไปให้เราเลือกไฟล์ ในช่องชื่อไฟล์มันขึ้นเป็น.torrent  ก็เลยเข้าใจในบัดดลว่ามันจะโหลดบิทแทนเรา.  ก็เลยหาไฟล์ torrent มาให้ซะ. ผมไปโหลดไฟล์ torrent จากเว็บที่ปล่อยระบบปฏิบัติการ linux ตระกูล mint มา. ก็เลือกไฟล์นี้ให้ router. ชื่อไฟล์ที่ถูกโหลดก็แสดงในหน้าโปรแกรม และขึ้นแถบสถานะการโหลด. ไม่กี่นาที ไฟล์ก็เริ่มวิ่ง ไชโย มันโหลดบิทแทนเราได้แล้ว ไฟล์ที่โหลดอยู่ในฮาร์ดดิสก์ที่เสียบกับ router

mi router3 มีความสามารถสูง มากเมื่อเทียบกับ router เมื่อ 5 ปีก่อน ในราคาแค่พันต้นๆ ผมถือว่าคุ้มค่ามาก. router เปิดทิ้งไว้ทั้งวันทั้งคืน มันก็ควรจะเพิ่มความสามารถในการโหลดบิทด้วย จะได้ไม่ต้องเปลืองเครื่องคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่ง. เพราะหากจะตั้งคอมฯเอาไว้โหลดบิท ผมรู้สึกมันเปลืองพลังงานมากเกินไป  สิ่งที่อยากให้มีต่อไปก็คือ ให้เพิ่มความสามารถในการขุดบิทคอยด้วยจะดีมาก ดูเพ้อเจ้อ แต่ใครจะรู้ วันนี้เราใช้ router โหลดบิทแทนคอมฯได้แล้ว ทั้งที่ 15 ปีที่แล้วเรายังทำไม่ได้

จบรีวิวครับ

รีวิว tivoli model2

2018-02-23 06.52.10 1

ผมกำลังนั่งฟังเพลง jazz  มีแซ็กโซโฟน เปียโน เบส กลอง เล่นกันนุ่มๆ ล่องลอย ถ้าแทนด้วยภาพผู้หญิงสักคน ก็คงเป็นผู้หญิงที่กำลังเต้นบัลเล่ย์ช้าๆ   เสียงโอบล้อมผ่านออกมาจากลำโพง 1 คู่  ลำโพงฟูลเร้นจ์คู่นี้จัดวางบนโต๊ะทำงาน  ดอกลำโพงแค่ 3 นิ้ว กับตู้ไม้ที่ใหญ่พอๆกับกล่องใส่กระดาษทิชชู่  และนี่คือลำโพงในชุดเครื่องเสียงยี่ห้อ Tivoli  รุ่น model 2

Model 2 เป็นเครื่องเสียงพร้อมวิทยุ fm am ที่เป็นชุดใหญ่กว่า Model 1 โดยจะมีลำโพงมาให้ 2 ตัว เพื่อเปิดเป็นเสียงสเตอริโอ  เสียงดนตรีเต็มวง เต็มย่านความถี่ ถูกขับออกมาจากลำโพงวางหิ้งหรือวางบนโต๊ะแม้ลำโพงจะขนาดเล็ก  แต่น้ำเสียงและสมดุลย์เสียงทัดเทียมกับลำโพงตัวใหญ่ แนวเสียงเหมือนหูฟังชั้นดี  การจัดวางบนโต๊ะทำงานแล้วไปนั่งฟังระหว่างทำงาน ทำให้เราได้รับคุณภาพเสียงระดับยอดเยี่ยม  เพราะเรากำลังฟังระยะใกล้  ระยะห่างระหว่างลำโพงสองตัว กับระยะห่างของหูจากลำโพงทั้งคู่เกือบจะเท่ากัน  มันแทบจะเป็นสามเหลี่ยมด้านเท่าเลย  ซึ่งเป็นวิธีจัดวางที่ใกล้เคียงอุดมคติของการฟังเพลงของนักฟังระดับหูทอง

2018-02-07 05.06.14 1

Model 2 ให้ความใกล้เคียงอุดมคติหลายอย่าง  อย่างแรกคือ ระยะจัดวางบนโต๊ะที่เพิ่งกล่าวไป มันเป็นจุดที่ดีที่สุดสำหรับการฟังเพลงผ่านลำโพงระบบสเตอริโอ  อุดมคติที่ 2 คือ ดอกลำโพงฟูลเรนจ์ที่ให้เสียงย่านต่ำไล่ไปเสียงสูงที่ราบลื่นต่อเนื่อง  ไม่ต้องมีวงจรแบ่งความถี่  ไม่ต้องกังวลเรื่องทวิตเตอร์กับวูฟเฟอร์ว่าจะต้องทำงานร่วมกันหรือทับซ้อนกันอย่างไร  และอุดมคติที่ 3 คือ ลำโพงและภาคขยายเสียงหรือ amp เป็นสิ่งที่ถูกออกแบบมาคู่กัน  ออกแบบมาเพื่อให้ทำงานร่วมกันอย่างลงตัวที่สุด มันต่างชดเชยช่วยเหลือกันเองจนมันได้เสียงที่ลงตัว  มันเหมือนเป็นชุดเครื่องเสียงสำเร็จรูปหรือมินิคอมโปคุณภาพสูง    เป็นคุณภาพสูงสุดเท่าที่การออกแบบทางวิศวกรรมจะให้ได้บนงบประมาณและขนาดตัวที่จำกัด

IMG_20180207_142702

Model 2 เป้นดอกลำโพงฟูลเร้นจ์ที่ให้เสียงครบทุกย่านความถี่  ตั้งแต่ทุ้มต่ำสุด ไปจนเสียงสูงย่านแหลมสูงๆ  ความต่อเนื่องคือจุดเด่น แต่จุดด้อยที่ตามมาก็คือ มันไม่ใสเท่าลำโพงแยกทวิตเตอร์ ทั้งแบบ 2 ทาง 3 ทาง หรือกี่ทางก็ตาม  อีกจุดด้อยหนึ่งก็คือ เบสลึก ปริมาณเบสมหาศาลแบบวูฟเฟอร์ใหญ่ๆมันไม่มีให้ Model 2 มีเพียงเบสที่ห่อหุ้มรองเป็นฐานให้กับโน้ตต่างๆ นั่นทำให้สมดุลย์เสียงของลำโพงออกไปทางกลมกล่อม พอเพียงและฟังได้เรื่อยๆ

2018-03-02 08.26.14 1

Model 2 มีความน่าฟัง  เสียงย่านทุ้ม กลาง แหลม ผสมกันออกมาลงตัว  มันพอดีจนเราไม่อยากเปลี่ยนแปลงอะไร  ผมไม่คิดจะขอให้ Tivoli ทำลำโพง 2 ทางออกมาแทนฟูลเร้นจ์แบบนี้  เพราะสิ่งที่มีอยู่เราได้ยินกับหูแล้วว่าคุณภาพเท่านี้ ในราคาเท่านี้ มันน่าพอใจมากๆ

เสียงกลางโดดเด่น การฟังรายการข่าว รายการทอล์ค หรือ เสียงคนในเนื้อหาต่างๆเป็นเสียงพูดที่ฟังง่าย ได้ยินชัดเจน เพลงร้องก็มีความไพเพราะมากขึ้นจากเสียงกลางที่ชัด  การส่งเสียงคนออกมาจากลำโพงคู่นี้ทำได้อย่างน่าฟัง  ผมแอบนึกถึงแนวเสียงของลำโพง Roger LS 3/5 ที่ให้โทนเสียงกลางคล้ายกันมาก  แต่ความใสจะสู้ไม่ได้ เพราะ roger เป็นลำโพง 2 ทางนั่นเอง

ค่าตัว Model 2 ประมาณ 9000 บาท ถ้าหาส่วนลด รอราคาเคลียร์แลนซ์ ก็อาจจะทำให้ราคาจ่ายจริงเหลือแค่ 50% ก็ยิ่งทำให้น่าสนใจ  ในราคาเท่านี้เราจะได้ลำโพง + แอมป์คุณภาพดี  ได้วิทยุที่รับคลื่นได้ชัดเจนมาก  ซึ่งในตลาดเครื่องเสียงไม่น่ามีเครื่องรับวิทยุเครื่องไหนที่รับสัญญาณ fm ได้ดีเท่านี้อีกแล้ว ยกเว้นเครื่องของ Tivoli เอง

IMG_20180207_142829

ช่องเชื่อมต่อด้านหลังหลากหลาย  เปิดโอกาสให้ Model 2 ถูกนำไปใช้ได้สนุกสนาน  มันมี sub out เอาไว้ต่อซับวูฟเฟอร์  มี Aux เพื่อรับสัญญาณเพลงจากเครื่องเล่น หรือรับเสียงจากคอมพิวเตอร์           มีช่องหูฟังเพื่อฟังแบบไม่รบกวนใคร  มี balance เพื่อปรับเสียงซ้ายขวาให้สมดุลย์  มีช่องต่อเสาอากาศภายนอกเพื่อเพิ่มคุณภาพการรับสัญญาณ มีช่องรับไฟเลี้ยงแบบ 12v dc สามารถใช้กับอแด๊ปเตอร์ได้   และช่องรับแบบ 220V ac หรือไฟบ้าน

คุณภาพการรับสัญญาณ  fm อยู่ในเกณฑ์ดี  ลูกบิทปรับคลื่นเป็นลักษณะการหมุนแบบทดรอบมีอัตราส่วนการหมุนอยู่ที่ 5:1  นี่ทำให้การเลือกคลื่นทำได้สะดวกแม่นยำมาก  การเลือกสถานีที่จะฟังจะมีระยะหมุนที่กว้าง ทำให้การแยกแยะแต่ละสถานีค่อนข้างเด็ดขาด ความชัดเจนในการฟัง fm เทียบได้กับการฟังในรถยนต์  แต่ได้น้ำเสียงที่ไพเราะชวนฟังระดับเครื่องเสียงไฮเอนด์

2018-03-02 08.26.11 2

ผมใช้ model 2 บนโต๊ะทำงาน  ใช้เปิดเพลงเป็นหลัก  ผมเชื่อว่าการเลือกใช้งานกับคอมพิวเตอร์ก็น่าจะดี เราจะได้ฟังเพลงผ่านคอมฯได้เพราะๆ   ส่วนคนทำดนตรีหรือ งานตัดต่อวิดีโอก็เหมาะ  หรือแม้แต่จะวางหน้า TV ใช้แทน sound bar ก็น่าสนใจ  มันสามารถเปิดเพลงเสียงดังได้  ฟังเสียงคนจากลำโพงคู่นี้ถือเป็นงานเหมาะที่สุด  มันเหมาะมากสำหรับคนชอบฟังข่าวและรายการสัมภาษณ์ต่างๆ

รีวิว tivoli model 1 bluetooth วิทยุเสียงดี หน้าตาดีมาก

IMG_7231

ผมเป็นคนที่หลงใหลลำโพงมานานแล้ว ขอให้เป็นลำโพงที่สามารถเปิดเพลงได้ หากมันมีจุดเด่นบางอย่างก็ทำให้ผมหลวมตัวซื้อได้ไม่ยาก สมัยก่อนการเล่นเครื่องเสียงจะมีรูปแบบที่ค่อนข้างตายตัว คือต้องมีเครื่องเล่นเพลงซึ่งมักจะเป็นเครื่องเล่นซีดีหรือแผ่นเสียง แล้วก็ต้องมีแอมป์ ซึ่งเมื่อก่อนก็จะมีอินทิเกรตแอมป์ที่รวมปรีแอมป์และเพาเวอร์แอมป์ไว้ด้วยกัน กับอีกแบบคือ ปรีแอมป์+เพาเวอร์แอมป์เป็นชุดแยกชิ้น และสุดท้ายก็ต้องต่อกับลำโพงสักคู่หนึ่ง

การจะหาเครื่องเสียงที่ให้เสียงถูกใจ เราต้องมีเครื่องเล่น เครื่องขยายเสียง และลำโพงโดยที่ 3 อย่างนี้จะต้องเลือก ต้องคัด ต้องหา กว่าจะเจอสิ่งที่ลงตัว จนกว่าจะเจอสิ่งที่ถูกใจซึ่งใช้เงินเยอะและใช้เวลามหาศาล แต่ถ้าคุณรวยมาก มันก็แป๊ปเดียวเจอ ซึ่งผมไม่ใช่ และเมื่อได้เครื่องเสียงครบทุกชิ้นผมก็ใช้งานมันอยู่หลายปี จนโลกเราเข้าสู่การฟังเพลงรูปแบบใหม่ ซีดีขายไม่ได้ เครื่องเล่นซีดีแทบไม่ได้เปิดอีกเลย ผมเปลี่ยนไปฟังเพลงจากไฟล์ และฟังเพลงจากอินเทอเน็ต นั่นทำให้ชุดเครื่องเสียงเดิมหรือแผ่นไม่ค่อยได้ใช้ และเป็นที่มาของการใช้ลำโพงบลูทูธ ซึ่งเป็นลำโพงที่สามารถรับสัญญาณเสียงไร้สายจากคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์มือถือต่างๆได้นั่นเอง

ลำโพงตัวนี้ เป็นเครื่องรับวิทยุยี่ห้อ Tivoli ที่ได้ผลิตขายมาหลายปี รุ่นที่สร้างชือให้ Tivoli ก็คือรุ่น model1 ซึ่งเป็นเครื่องรับวิทยุ fm am ระบบมือหมุน ที่ออกมาขายในยุค mp3 และ ipod iphone เกลื่อนเมือง แต่ก็ขายได้แถมยังขายดีเสียด้วย และจากความนิยมในการใช้มือถือมีมากขึ้นจนกลายเป็นอวัยวะที่ 33 ของคนไปแล้ว การฟังเพลงจากมือถือเป็นสิ่งที่ต้องมี และของติดบ้านที่แทบทุกบ้านต้องมีก็คือ ลำโพงบลูทูธ Tivoli เลยใส่บลูทูธไว้ในเครื่องรับวิทยุของตัวเอง ทำให้มันกลายเป็นเครื่องรับวิทยุรุ่น model1 bluetooth

IMG_7226

ก่อนหน้านี้หลายปี ผมเคยลังเลใจระหว่างการซื้อวิทยุหน้าตาโบราณ ระหว่าง TEAC R1 กับ Tivoli model1 และสุดท้ายก็ไปเลือก R1 ด้วยเหตุผลสองอย่างคือราคาถูกกว่า และมีแบตเตอรี่ในตัว และก็ใช้ TEAC R1 มานานหลายปี และก็ยังคงสงสัยว่า TEAC R1 กับ Tivoli Model1 ตัวไหนเสียงดีกว่ากัน ซึ่งก็ไม่เคยมีโอกาสได้เทียบเลย เพราะร้านที่ขาย TEAC R1 ไม่มี Tivoli วางขาย และในเวลาไม่นาน TEAC ก็หมด ไม่มีผลิตขายอีก แต่ Tivoli ยังมีขายอยู่อย่างต่อเนื่อง

เวลาเดินผ่านในห้างแล้วได้ยินเสียงที่ Tivoli ส่งเสียง มันก็ทำให้ผมหยุดมอง หยุดฟังอยู่แทบทุกครั้ง วันที่ Tivoli ใส่บลูทูธรวมไว้ในเครื่องก็ทำให้ตื่นเต้นอยู่พอสมควร แต่ก็ยังไม่กล้าซื้อ จนวันนึงได้ยินเสียงรายการวิทยุที่เจ้า model1 bluetooth มันส่งเสียงอยู่ ผมฟังแล้วรู้สึกเหมือนมันเปิดจากมือถือ ผ่านบลูทูธ โดยใช้เพลง mp3 สักเพลง แต่พอถามพนักงานขาย พนักงานบอกว่ามันกำลังเปิดวิทยุอยู่ เท่านั้นแหละ โอ้โห ทำไมเสียงมันดีเหมือนเปิดจากไฟล์ขนาดนี้ เป็นเสียงจากวิทยุที่ผมไม่เคยได้ยินคุณภาพแบบนี้มาก่อน นั่นทำให้ Tivoli model1 bluetooth อยู่ใน wish list แต่ก็งก ไม่ซื้อ เพราะ ที่บ้านมีวิทยุอยู่ประมาณ 10 เครื่อง ไม่รวมมือถือ android ที่สามารถรับสัญญาณวิทยุได้ด้วยอีกหลายเครื่อง

IMG_7232

ความคันไม่ปราณีใคร และวันหนึ่งมันก็มาอยู่ในบ้านผมจนได้ มาดูสเป็คกันดีกว่า

  • model 1 bluetooth สามารถรับสัญญาณวิทยุ fm และ am
  • รับสัญญาณ input ได้ทางช่อง aux
  • สามารถเสียบหูฟังได้
  • มีช่อง rec out เพื่อต่อไปยังเครื่องขยายเสียงหรือเครื่องบันทึกเสียงอื่นๆ
  • สามารถเสียบสายเสาอากาศ am ได้ทางช่อง 3.5mm
  • สามารถเสียบเสาอากาศ fm แบบชักยืดหดได้ทางช่องเฉพาะ เป็นเสาเหล็กที่มีแจ็คเสียบ ซึ่งเสาภายนอกก็มีแถมมาให้ด้วย
  • มีสวิตซ์เลือกการใช้เสาอากาศเพื่อรับสัญญาณ fm ว่าจะใช้เสาในเครื่อง หรือเสานอก ลำพังความสามารถในการรับคลื่นด้วยเสาภายในก็ทำได้ดีอยู่แล้ว แต่หากมีบางคลื่นที่ยังรับได้ไม่ชัดเต็มที่ การเปลี่ยนมาใช้เสาภายนอกก็ช่วยให้รับได้เด็ดขาดมากขึ้น
  • สามารถเลือกใช้ไฟบ้าน 220V เสียบเข้าไปโดยตรงก็ได้
  • สามารถใช้ไฟ 12V จากอแด๊ปเตอร์ ก็สามารถทำได้ เพราะอแด๊ปเตอร์ 12V ในบ้านก็หาไม่ยาก ใครที่มีฮาร์ดดิสก์ external เก่าๆที่พังหรือความจุน้อยจนเลิกใช้ ก็จะมีของเหลือเป็นอแด๊ปเตอร์อยู่ในบ้าน หยิบมาใช้ได้เลย

ความสามารถในการรับคลื่นวิทยุของ Tivoli ทำได้ดีมาก ส่วนใหญ่ทุกคลื่นฟังได้อย่างชัดเจน และเลือกแต่ละสถานีได้ง่าย รอบหมุนของการหาคลื่นทำได้ละเอียดดีมาก จุดเด่นอีกข้อหนึ่งของ Tivoli คือลำโพงติดเครื่องที่เป็นแบบฟูลเร้นจ์ หรือเป็นลำโพงที่ตอบสนองความถี่ได้กว้างมากทั้งๆที่ขนาดแค่ 3 นิ้ว น้ำเสียงกลางโดดเด่น และมีการจูนเสียงของดอกลำโพงรวมกับตู้ลำโพงที่ให้น้ำหนักเสียงที่มีเสียงเบสที่ชัดเจนและให้แนวเสียงที่อิ่มเกินตัว ฟังเพลงที่บันทึกเสียงมาดีๆแค่นาทีเดียวก็ใจละลายแล้ว เสียงโฆษก เสียงดีเจ เสียงพูดของคนทำให้ผมนึกถึงลำโพงอย่าง roger LS3/5 ที่มันฟังเพลิน เป็นเสียงพูดเสียงคนที่น่าฟังมาก

การนำ Tivoli มาฟังดนตรีต่างๆก็เป็นเรื่องปกติของลำโพง เสียงเพลงป๊อป เสียงเพลงแจ๊ส เสียงเพลงอคูสติกก็ถูกจริต ถูกงาน ถ่ายทอดออกมาได้น่าฟัง เสียงเบสที่ห่อหุ้มเป็นฐานของเสียงทั้งวงก็มีให้ฟังแบบพอดีๆ ซึ่งหากย้อนไปสักสิบปี การที่เราจะฟังเสียงทุ้มที่อิ่มเอิบขนาดนี้ต้องไปหาจากลำโพง 2.1 หรือ ซับวูฟเฟอร์ หรือไม่ก็ไปหาจากลำโพงฟังเพลงที่ใช้วูฟเฟอร์ระดับ 6-8 นิ้วขึ้นไป กับดอกฟูลเร้นจ์แบบ Tivoli 3 นิ้วนี้ ทำให้ประหลาดใจ และพอใจอย่างมาก

แล้วผมก็ได้โอกาสทดสอบ TEAC R1 กับ Tivoli model1 bluetooth ว่าใครเสียงดีกว่ากัน ผมเลือกเปิดสถานนีที่กำลังถ่ายทอดเสียงพูดคุย เพราะผมชอบฟังรายการทอล์คที่เสียงชัดๆ เปิดคลื่นเดียวกัน ปรับเสียงทดสอบให้ดังใกล้เคียงกัน แล้วก็เปิดเสียงปิดเสียงเทียบกัน ก็ได้คำตอบสำหรับผมเอง นั่นคือ Tivoli ถ่ายทอดเสียงพูดได้ดีกว่า

2018-02-16_08-24-40

การจัดระบบชุดฟังเพลงให้กับ Tivoli มีความหลากหลายมาก จะวางเดี่ยวๆใช้เป็นเครื่องฟังวิทยุก็ได้ จะจัดให้มันทำงานเป็นเครื่องขยายเสียงสำหรับ ipod ก็ได้ จะจัดให้เป็นเสียง Bluetooth ของ smartphone ก็ได้ หรือแม้แต่จะใช้เป็นแอมป์หูฟัง เพราะ tivoli มีช่องต่อหูฟังด้วย ซึ่งคุณภาพเสียงของภาคขยายหูฟังก็ไม่ธรรมดา ลำพังเพียงแอมป์หูฟังที่แยกขายเพื่อให้ใช้กับหูฟังที่ขับยากๆนั้นก็ราคาหลายพันจนถึงหลายหมื่นก็มีให้เลือกซื้อ ค่าตัวของ Tivoli ตัวนี้ ซื้อแอมป์หูฟังยอดนิยมระดับกลางๆยังไม่ได้เลย

แถมคลิปทดสอบ tivoli model1 bluetooth โดยการเปิดเพลงจาก youtube ใช้ huawei p9 เชื่อมบลูทูธกับ Tivoli แล้วถ่ายวิดีโอด้วย กล้อง DSLR canon รุ่น Eos 6d ติดเลนส์ 50mmf1.4 ใช้ไมค์รับเสียงของ Zoom รุ่น H1 ต่อสายไมค์เข้ากล้องทางช่อง mic in

ทดลองฟังเพลง

ผมใช้คอมพิวเตอร์ต่อกับ usb dac ใช้ชิปถอดรหัสเสียง ESS ES9018K2Mแปลงสัญญาณเสียงเป็นอนาลอกแล้วต่อสาย rca to mini 3.5 ไปเข้ายัง Tivoli model1 ที่ช่อง Aux ก็คือใช้ Tivoli เป็นลำโพงขยายเสียงนั่นเอง เพลงของ norah jones ชุด come away with me เสียงร้องชัดๆ ฟังออกทุกถ้อยคำ เสียงเบสกลมๆเล่นคลอไปกับเปียโน ทุกเสียงได้ยินชัดเจน ตัว tivoli ไม่มีปุ่มปรับทุ้มแหลม เสียงที่ได้ยินจะคงที่สไตล์เดียว คือ ชัดและนุ่ม เสียงโซโล่เบสได้ยินทุกโน้ต อัลบั้มนี้บันทึกเสียงได้ดีน่าฟังทุกเพลง

ฟังอัลบั้มโชว์เสียงร้องผสมกีต้าร์อคูสติกก็ให้ความไพเพราะ เสียงกีต้าร์คลอๆกับเสียงร้องหวาน ใส ชัด อย่างชุด snow rose ที่เป็นเพลง cover จากเพลงฮิตมากมาย เสียงร้องมีความชัดและเรียกร้องความสนใจอยู่มาก เป็นโทนเสียงกลางที่ติดไปทางแหลมเด่นกว่าเสียงย่านต่ำ แต่ไม่ได้ใสกิ๊งราวกับแก้วใสๆ เสียงสูงยังคงด้อยกว่าลำโพงสองทางที่ใช้ทวีตเตอร์อยู่ดี แต่เสียงกลางและเบสนี่เป็นความลงตัวที่น่าใช้มาก

ฟังเพลง jazz ที่เน้นเสียงร้อง ฟังแล้วเคลิ้มทุกเพลง มันชัดถ้อยชัดคำ เหมาะกับงานที่มีเสียงอคูสติกเต็มเพลง ลองกับเพลงในอัลบั้มของ Jennifer Warnes ชุด The Hunter ก็ให้เสียงร้องที่หวานใส เสียงกีต้าร์อคูสติกเล่นเกาโน้ตชัดๆ ยิ่งเป็นเพลงแนวออดิโอไฟล์ก็ยิ่งฟังเพราะ

ลำโพงฟูลเรนจ์ให้เสียงเป็นเอกลักษณ์มาก เสียงทุ้ม กลาง แหลม มันออกมาจากลำโพงดอกเดียว น้ำหนักเสียงสมดุลย์พอดี ไม่มีเบสล้นหรือบางเกินไป การใช้งานเหมาะกับการฟังผ่านๆ หรือเปิดทิ้งไว้ทั้งวันจริงๆ เป็นลำโพงที่อยากเปิดทิ้งไว้ตลอดเวลา

สรุป

Tivoli model1 bluetooth เป็นวิทยุพร้อมลำโพง 1 ดอกที่มีหน้าตาสวยงามสามารถใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ประดับบ้านได้ และให้คุณภาพเสียงการฟังเพลงที่ดีมาก รับวิทยุได้ชัดเจน รับสัญญาณเสียงจากช่อง bluetooth ได้โดยที่มีคุณภาพเสียงที่ดีน่าฟังสูสีกับการใช้สาย และหากใช้สายสัญญาณเชื่อมต่อแหล่งโปรแกรมอื่นๆทางช่องทาง Aux มันก็จะเป็นเครื่องเสียงที่ให้เสียงเป็นกลาง มีสมดุลย์เสียงที่พอดีในทุกย่านเสียง เบส กลาง แหลมมาครบ ความใสของเสียงสูงยังไม่เท่ากับลำโพงสองทางมีทวิตเตอร์ และภาพรวมก็เป็นเสียงร้องเสียงดนตรีที่น่าฟังและสามารถฟังได้นานๆ

ผมทำรีวิวแบบเสียงเอาไว้ให้ฟังด้วย เนื้อหาแตกต่างจากในโพสท์นะครับ

รีวิวหูฟัง vish ของดีราคาถูก

รีวิวหูฟัง vish ของดีราคาถูก

2017-12-18 22.24.52

เมื่อหลายวันก่อนแวะไปซื้อของซุปเปอร์มาเก็ตในห้างโลตัสตอนดึกๆ  เห็นว่าห้างใกล้ปิดแล้ว เลยแวะไปเดินดูมุมอิเล็คทรอนิก  เครื่องเสียง ทีวี ต่างๆ  และได้ดูมุมหูฟัง สายชาร์จ  เหลือบไปเจอหูฟังหน้าตาดี ตัวนึง  มีตัวโชว์ให้เสียบสายลองได้ด้วย  ก็เลยลองฟังดู  เสียบกับ ipod nano6 ที่ติดอยู่กับข้อมือ  ผมใส่ nano6 ใช้เป็นนาฬิกาและเครื่องนับก้าว  และใช้เป็นเครื่องเล่นเพลงด้วยเมื่ออยากใช้

20171222163343_IMG_5867

พอได้ลองฟังกับ ipod เสียงที่ได้ยินก็มาแนวทางเสียงดี เสียงชัด และเบสนุ่มดี ดูราคาแล้ว 459 บาท ซื้อเลยไม่ลังเล  แล้วก็กลับบ้านมานั่งฟังเพลินๆ  แต่เมื่อเอากลับมาแล้ว ใส่ฟังนาทีแรก  ทำไมมันเจ็บหูขนาดนี้

ลักษณะของ vish เป็นหูฟังอินเอีย มีครีบดันหูด้วย  ปกติหูฟังอินเอียร์จะมีจุกยางหลายขนาดให้เลือก  เพื่อให้คนฟังได้เลือกเปลี่ยนจุกยางให้เหมะากับรูหู  เพราะสรีระหูของแต่ละคนไม่เหมือนกัน  จุกยางที่เล็กเกินไปจะทำให้เราได้ยินเสียงเบสบาง  จุกยางใหญ่เกินไปจะเบสหนาล้น  จุกที่พอดีจะให้สมดุลย์เสียงที่ดี

ส่วนครีบดันหูก็เป็นสิ่งที่เพิ่งเคยเห็นกับหูรุ่นนี้  พอได้ลองใช้แล้วก็เข้าใจว่า การดันหูเป็นสิ่งที่ช่วยให้หูฟังกระชับขึ้น  ไม่หลุดง่าย สามารถใส่หูฟังแล้วออกกำลังกายหนักๆได้โดยที่ไม่หลุดจากใบหู  ก็นับว่าเป็นการออกแบบที่ช่วยแกัปัญหาได้ดี

จุก และ ครีบ ที่ติดมากับ vish นั้น ไม่พอดีสำหรับผม  เบสล้นเกิน และครีบดันหูทำให้เจ็บมาก ใส่ได้ไม่กี่นาทีก็ปวดหู ต้องเปลี่ยนเป็นจุกที่เล็กลง 1 ระดับ  และเปลี่ยนครีบเล็กลง 1 ระดับ  ถึงจะทำให้ใส่ในหูแล้วเสียงสมดุลย์เบสมีน้ำหนักพอดี และครีบไม่ดันหูจนเจ็บ พอเปลี่ยนได้ระดับที่ลงตัวกับหูแล้ว ทั้งหมดก็ใชังานได้ดี

หูฟังเส้นนี้เป็นสมอลทอร์คในตัว  มีไมค์  มีปุ่ม 3 ปุ่ม เอาไว้กดเล่นเพลง หยุดเพลง  และวอลลุ่มเสียงได้ คงออกแบบไว้ใช้กับ iphone   ผมเอาไปฟังกับ android  ก็ใช้ได้แค่ปุ่มกลางปุ่มเดียว  ลองใช้กับ ipod nano ใช้ได้ 3 ปุ่มเลย  ใช้กับ ipad ก็ทำงานได้ 3 ปุ่มเช่นกัน คาดว่าใช้กับ iphone ก็คงได้

น้ำเสียงออกแนวไฮไฟ เสียงไม่บี้  ไม่รู้สึกเสียงอยู่ในกล่อง  สามารถใช้เป็นมอนิเตอร์ฟังเสียง ฟังเพลงได้  คุณภาพเสียงพอๆกับหูฟังราคาสัก 1-3 พันบาท  ถ้าติดแบรนด์ดังๆผมว่าบอกราคา 3-5000 บาทก็พอไหว  การออกแบบของหูฟังตัวนี้เป็นแบบมีไดรเวอร์ข้างละ 2 ตัว เป็นแนวทางการออกแบบหูฟังสมัยใหม่  ที่คิดว่าหูฟังคือลำโพงขนาดเล็ก ต้องมีไดรเวอร์หลายตัวเพื่อครอบคลุมความถี่ให้ครบ  ลักษณะเสียงของมันทำให้รู้สึกเหมือนฟังลำโพงซับแซท คือ ลำโพงฟูลเร้นจ์ 1 ตัวทำงานร่วมกับซับวูฟเฟอร์  การเสริมเสียงเบสของหูตัวนี้ทำงานได้กลมกลืนดี เหมือนซับวูฟเฟอร์ที่จูนเสียงให้ลงตัวกับกลางแหลม ส่วนสายหูฟังเป็นเชือกเกลียว มีข้อดีคือจะไม่ค่อยพันกัน  หรือถ้าขยุ้มเป็นกองเก็บไว้ก็สามารถคลายตัวได้ง่ายกว่าสายธรรมดาที่ทำด้วยพลาสติกหรือยางเนื้อดำ

ในแง่คุณภาพการฟังเพลงมันทำได้ดี สอบผ่าน  รอดูแค่ว่ามันทนทานอยู่ได้นานแค่ไหน ถ้ามันทนได้ไม่ต่างจากหูฟังยี่ห้อดังทั่วไป  ก็เรียกว่าราคานี้คุ้มสุดๆ

รีวิว mi wifi repeater 2

ปกติการใช้ wifi ในบ้านจะมีปัญหาว่า ใช้ไม่ได้ทุกมุมในบ้าน เพราะสัญญาณ wifi ทะลุทะลวงไม่ค่อยดีนัก ตัว router wifi ปล่อยสัญญาณไว้ที่ชั้นล่างหน้าบ้าน หลังบ้านก็จะสัญญาณหาย ต่อให้ไม่หลุดก็แทบจะเล่นเน็ตไม่ได้ หน้าเว็บค้างเพราะข้อมูลไม่ค่อยมา สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยๆ จนเราปรับตัวว่า เราไม่ควรอยู่ห่าง wifi กลายเป็นอย่างนั้นไป ในบางครั้ง บางตำแหน่งที่สัญญาณเบาบางมากๆ เข้า wifi ได้ แต่เราจะทดสอบ speed ไม่ได้เลย

สัญญาณwifi ต่ำมาก ต่ำจนทดสอบ speedtest ไม่ได้

อาการถึงกับทดสอบ speedtest ไม่ได้ ก็เลยใช้ app ชื่อ wifi analyzer ตรวจสอบดู ก็พบว่า สัญญาณwifi ที่ชื่อ lookmoo นั้นเบาบางมาก

สัญญาณ wifi ต่ำมาก lookmoo

พอดีมีเพื่อนเป็นตัวแทนขายอุปกรณ์ network และผมได้ปรึกษาแล้วว่า จะทำยังไงให้ wifi เล่นได้ทั้งบ้าน คำตอบที่แก้ปัญหาได้ดีที่สุดก็คือ เดินสายแลนไปทุกห้อง แล้วในห้องก็ใช้ wifi router สักตัวมาปล่อยสัญญาณ ซึ่งเป็นคำตอบที่กำปั้นทุบดินมากๆ ในอดีตผมก็ทำแบบนี้แหละ ไม่ได้ใช้ความรู้ ไม่ได้ใช้เทคนิคอะไรเลย ซื้อของ เดินสายแลน แล้วก็ตั้งค่า wifi ในห้องนั้นๆ

wifi-PC_01

ผมใช้ wifi router เสียไปอย่างน้อย 3 ตัวในช่วงเวลาประมา 10 ปี ผมเสีย apple airport express ไปสองตัว เพราะเสียบสายแลนแล้วให้ตัวมันปล่อย wifi โดยไม่ปิดเลย เสียบปลั๊กค้างไว้เป็นปี พออายุสัก 2-3 ปี ก็พัง โดนไปตัวละสามพันกว่าบาท พอพังไป 2 ตัว รู้สึกว่า ไม่ไหวละ ไม่อยากจ่ายทีละสามพันกว่าบาทแล้ว ก็เลยไปซื้อ wifi router ตัวละ 800 บาทมาใช้ ก็ใช้งานได้ปีกว่า ก็พังอีก ก็เสียบค้างไว้ไม่ปิดยังไงก็อายุสั้น พอถึงเวลาต้องหาตัวปล่อย wifi อีกครั้ง ก็เลยปรึกษาเพื่อนว่า มีวิธีไหนใช้เงินน้อยที่สุด ใช้ของยี่ห้ออะไรดีที่ถูกและทน เพื่อนตอบว่าไม่มีของถูกและทน

2017-12-01_10-09-46

เพื่อนแนะนำให้ใช้ repeater ที่ mi ทำขาย เป็นแท่งหน้าตาเหมือนทรัมไดร์ฟ แล้วเอาไปเสียบกับ usb power ก็ตั้งค่าให้เป็น repeater ได้เลย ชื่อของอุปกรณ์ตัวนี้คือ mi wifi repeater 2 และมันมีความสามารถในการดูดสัญญาณ wifi ที่มีอยู่ในบ้าน มาปล่อยสัญญาณ wifi ใหม่ คนที่อยู่ในพื้นที่อับสัญญาณก็จะได้ใช้เน็ตได้อย่างสบายใจ และที่สำคัญ ราคาแค่ 390 บาท ถูกกว่า wifi router ทุกยี่ห้อ และเอาไปใช้กับ usb power ที่มีอยู่เกลื่อนบ้าน จะไม่เกลื่อนได้ไง ใช้มือถือมากี่เครื่อง พอมือถือเสียแต่ที่ชาร์จไม่เสีย เหลือ wall charge เต็มบ้านเลย

Repeater mi2 กระจายสัญญาณให้ lookmoo
ทดสอบ speedtest ผ่าน mi2

ผมก็เลยจัดการลอง mi repeater2 โดยการเสียบมันไว้กับ powerbank ก่อน แล้วก็ตั้งค่าให้มันเชื่อมต่อกับ wifi เดิม และผมสามารถใช้ wifi จาก mi repeater2 ได้เลย ความเร็วจากจุดที่นั่งทดสอบ ก่อนจะมี repeater จะไม่สามารถทดสอบความเร็วได้ ซึ่งแปลว่า speed ต่ำมาก ต่ำเกินกว่าจะใช้งาน ซึ่งทำให้การใช้งานอินเทอเน็ตได้บ้างไม่ได้บ้าง ดู youtube บางทีก็เงียบหายไปเลย ไม่รู้สาเหตุ บางทีเข้าหน้าเว็บแล้วก็รอข้อมูล ข้อมูลไม่ค่อยวิ่ง แต่พอใช้ผ่าน repeater ก็ได้ความเร็วสูงขึ้นมาถึงระดับ 4.37 Mbps ซึ่งเป็นระดับที่เล่นเน็ตได้ค่อนข้างลื่น และดู youtube ได้ราบรื่น ก็นับว่าเป็นวิธีการเพิ่มความเร็ว wifi ที่ใช้เงินน้อยที่สุดและได้ประสิทธิภาพที่สูงเพียงพอเพื่อให้ใช้งานอินเทอเน็ต เมื่อทดสอบพอใจแล้ว ก็ย้าย repeater ไปเสียบ wall charge ใช้งานถาวร

ในบางมุมที่ทดสอบ บางครั้ง wifi เดิมในบ้านเราแทบจะ connect ไม่ได้เลยเพราะสัญญาณเบาบางมากๆ ซึ่งการใช้ repeater ดูด wifi อ่อนๆ มาปล่อยเป็น wifi แรงๆ ก็ทำได้สะดวกมาก การใช้งาน repeater ช่วยทำให้การนั่งใช้งานอินเทอเน็ตในจุดต่างๆในบ้านหรือในที่ทำงานเป็นเรื่องที่ทำได้แทบจะทุกพื้นที่ วิธีนี้ประหยัดกว่าการเดินสายเพิ่ม และ การตั้งค่าก็ไม่ยาก ไม่ซับซ้อนเลย

ลองฟังคลิปเสียงที่ทำเพิ่มเติมให้ครับ สำหรับคนที่อยากฟังแบบไม่ต้องอ่าน ไม่ต้องมอง

แบบดู(ฟัง) ด้วย youtube

อัดเดทรีวิวเพิ่มเติม

หลังจากที่ใช้งานมาเป็นปี บางช่วงเวลาก็เลิกใช้ เพราะว่ามีการอัพเกรด router ตัวใหม่จากค่าย ais ทำให้สัญญาณอินเทอเน็ตค่อนข้างดีขึ้นมาก ก็เลยไม่ได้ใช้ repeater อีกเลย แต่ว่า ในที่สุด เมื่อสมาชิกในบ้านทุกคนเริ่มใช้โทรศัพท์มือถือมากขึ้นในการดูทีวี ดู netflix มี smart tv กันทุกห้อง และลูกหลานเริ่มเรียน online ทำให้สัญญาณอินเทอเน็ตถูกใช้งานอย่างหนักหน่วง เป็นผลให้ wifi ที่เคยพอใช้ กลายเป็นว่าใช้งานติดขัด บางครั้งก็โหลดข้อมูลไม่ได้ บางครั้งก็เข้า wifi ไม่ได้ ต้องปิดแล้วเปิด router ใหม่เพื่อให้กลับมาใช้งานได้ปกติ และอาการใช้งานเน็ตไม่ได้ก็เกิดขึ้นแทบทุกวัน เลยตัดสินใจ ใช้ repeater มาช่วยขยายสัญญาณอีกครั้ง และการเลือกใช้ครั้งนี้ ก็ลืมวิธีการเบื้องต้นไปแล้ว รู้แต่ว่า เสียบ repeater 2 เข้ากับ อแด๊ปเตอร์ อุปกรณ์ก็ทำงาน เชื่อมตัวเองเข้ากับwifi เดิมในบ้าน แล้วก็ขยายสัญญาณในห้องที่อับคลื่นได้ ในบ้านก็จะมีwifi 2 ชื่อ คือชื่อเดิม กับ ชื่อเดิม_plus และผมมี repeater 2 จำนวน 2 ตัว เลยใช้ในห้องที่ห่างจาก router 2 ห้องเลย

2021-01-31_11-54-25

เมื่อเข้า app ชื่อ mi home ก็จะเห็นอุปกรณ์ของ xiao mi ทุกตัวในบ้าน เลยเข้าไปตรวจสอบแต่ละตัว แล้วทำการ setting เพิ่มเติมเป็นโหมดการขยายสัญญาณ wifi แบบ roaming ผลก็คือ ตัว repeater จะขยาย wifi ตัวหลัก ในชื่อเดียวกับตัวหลัก ทำให้อุปกรณ์ในบ้านสามารถมองเห็น wifi ชื่อเดียว และอุปกรณ์ต่างๆในบ้านจะเลือกเชื่อมเข้า wifi ตัวเดิมตลอด แต่เราจะไม่รู้หรอกว่า มือถือเราเชื่อมเข้า wifi หลัก หรือตัวที่ repeat เพราะมันชื่อเดียวกัน ทำให้การใช้งานอินเทอเน็ตทำงานได้ราบลื่น แก้ปัญหาอุปกรณ์(มือถือและทีวี)เข้าเน็ตไม่ได้ในบางช่วงเวลา

2021-01-31_11-53-02

ชุดเครื่องเสียงพกพาของผม

เครื่องเสียงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมเลยก็ว่าได้  ตั้งแต่เด็กๆ ผมก็ชอบของเล่นอิเล็คทรอนิกส์ โตขึ้นสมัยเรียนก็ชอบเดินเล่นบ้านหม้อ ซื้อหนังสือเกี่ยวกับการต่อวงจรไฟฟ้ามาอ่านเล่น  การฟังเพลงก็เป็นความชอบที่ตามมาจากความชอบตัวเครื่อง  นิสัยชอบเปิดเพลงเป็นนิสัยที่ค่อยๆก่อตัวขึ้น ทั้งเพลงเพราะ ทั้งเครื่องเสียงใช้งานสนุกๆ  ได้ทั้งฟังเพลง ได้ทั้งเล่นของเล่น  ก็ทำให้มีเครื่องเสียงในครอบครองหลายชิ้น

บรรดาเครื่องเสียงที่เคยซื้อใช้เอง  มีไม่กี่ตัวที่เป็นตัวโปรดปราน ระดับที่ ผ่านไปกี่ปีก็ยังปลาบปลื้ม  และหาเหตุผลที่จะอยู่กับมันอย่างไม่ค่อยสนใจโลกที่ก้าวหน้าไปเรื่อยๆ  หนึ่งในเครื่องเสียงตัวโปรดตัวหนึ่งก็คือ ipod shuffle ซึ่งเป็นผลผลิตของ apple ที่ทิ้งไว้ให้กับนักฟังเพลง  เจ้า ipod shuffle นี้เป็นเครื่องเล่นเพลงพกพาเครื่องแรกที่ไม่มีหน้าจอ  เป็นเครื่องเล่นพกพาราคาแพงที่สุดเครื่องหนึ่งในวันที่มันเปิดตัว  เครื่องเล่นเพลงจากจีนคุณภาพต่ำ วางขายกันกลาดเกลื่อนด้วยค่าตัวหลักร้อยไปถึงพันกว่าบาท  แต่ ipod shuffle ตัวนี้เปิดตัวด้วยราคาไทย 2990 บาท  แล้วก็มีคนบ้าอย่างผมไปอุดหนุน

หากพิจารณาเฉพาะเรื่องคุณภาพเสียงแล้ว  เจ้า ipod shuffle ตัวนี้เป็นเครื่องเล่นเพลงชนิด mp3 ที่เสียงดีที่สุด ตั้งแต่ apple เคยทำมา  แม้ว่า ipod ตัวใหญ่ที่เก็บเพลงได้เป็นหมื่นเพลงจะได้รับความนิยมไปทั่วโลก  บางรุ่นได้รับการแนะนำว่าเสียงดีเป็นพิเศษ  แต่ทุกตัวที่เสียงดี ต่างก็แพ้เจ้า shuffle ตัวนี้ทั้งหมด  ซึ่งผมเองก็ได้มีโอกาสฟังเปรียบเทียบอยู่บ้าง  นั่นเป็นที่มาของความปลาบปลื้มว่าเราได้ครอบครองของคุณภาพสูงชิ้นสำคัญของวงการเครื่องเสียง

นิสัยการฟังเพลงที่เอาแน่นอนไม่ได้ของผม บางทีก็ฟังผ่านหูฟัง บางทีก็ฟังผ่านลำโพง บางทีก็เอาไปต่อสายฟังในรถยนต์  ทำให้ ipod shuffle และ ipod ตัวอื่นๆที่ผมมี ถูกหยิบเข้าออก ย้ายไปย้ายมาระหว่างบ้าน ห้องนอน และรถยนต์อยู่บ่อยครั้ง  ความรุ่มร้าม ความพะรุงพะรังทำให้ผมคิดอยากจะทำให้มันเรียบร้อย  เลยได้โอกาส เอา shuffle ตัวขาวนี้ไปมัดไว้กับลำโพงพกพาอีกตัวหนึ่ง  ซึ่งมันก็คือลำโพง jbl go ที่ออกแบบมาเป็นลำโพงตัวเล็ก เสียงใหญ่ และเน้นให้ใช้กับโทรศัพท์ผ่านการเชื่อมต่อแบบ bluetooth

IMG_0608

jbl go เสียงดี และ shuffle ก็เสียงดี มันก็เลยถูกนำมาใช้งานร่วมกัน แต่ shuffle ไม่มี bluetooth ก็เลยต้องใช้วิธีเชื่อมต่อด้วยสาย  และเพื่อให้สะดวกในการหยิบจับก็เลยจัดการมัดรวมกันด้วยริสแบนด์เส้นนึง  ผลก็คือภาพลำโพงกับ ipodมีตัวติดกัน มีสายไฟพันอยู่นิดหน่อย ดูราวกับเป็นระเบิดเวลาที่ใช้ก่อการร้ายเลย

การจับคู่กันทำให้ผมได้ภาพน่ารักของมันเก็บไว้  ชุดเครื่องเสียงพกพาในยุคดิจิทัลนี้ ผมว่ามันน่ารักดี  และหยิบไปวางที่ไหนก็มีแต่คนสงสัยปนตลก  และเมื่อได้ยินเสียงมันทำงานร่วมกันก็จะเข้าใจว่า ทำไมผมถึงมัดมันไว้ด้วยกัน

เครื่องเสียงยุคดิจิทัลพอเพียง เหลือแค่นี้

หูฟัง harman/kardon ใครใส่ก็หล่อ ยิ่งถูกพบในร้านกาแฟแพง ความหล่อจะคูณสิบ หน้าตาหลายหมื่น แต่ราคาหลักพัน

Ipod nano gen6 เป็นเครื่องเล่นเพลงที่ดีที่สุดของ apple ในวันที่มันเปิดตัว และทุกวันนี้ apple ยังไม่มีเครื่องที่น่าใช้กว่านี้ เพราะนอกจากจะเล่นเพลงแล้ว ยังติดสายเพื่อใช้เป็นนาฬิกา  ใช้นับก้าวบอกแคลอรี่ได้  ฟังวิทยุได้  บันทึกเสียงได้  โชว์รูปที่อยากดูได้

IMG_20180127_091842
IMG_20170508_154805
IMG_20170508_154642