เปลี่ยนฟองน้ำหูฟัง KOSS Ksc35 เก่าเก็บ12 ปี

IMG_1853

หูฟังรุ่นหนึ่งที่มีขายในประเทศไทยมาเกือบยี่สิบปี นั่นก็คือ Koss รุ่น Ksc35 เป็นหูฟังออนเอียร์ แขวนใบหู คุณภาพเสียงดี เบสหนักแน่น เสียงกลางชัด เสียงสูงใส เป็นหูฟังที่ฟังเพลงได้สนุก จัดว่าเป็นหูฟังที่เสียงดี และที่เหนือชั้นกว่าหูฟังตัวอื่นคือ ใส่ได้นานไม่เจ็บหู ไม่อับ ไม่ร้อน เพราะมันเป็นหูฟังเปิดที่ถ่ายเทอากาศได้ดี ฟังเพลงอยู่แต่ยังได้ยินเสียงคนรอบข้าง เรียกก็ได้ยิน หูฟังตัวนี้ได้รับความนิยมมากในยุคทองของเครื่องเล่น mp3 โดยเฉพาะคนที่ใช้ ipod หลายคนมักจะซื้อไปใช้ร่วมกัน

IMG_20250825_124915181
IMG_20250825_124920581

ผมเองก็หาซื้อมือสองมาใช้ และขณะเดียวกันก็ซื้อมือหนึ่งเก็บไว้ด้วย หูฟังตัวนี้ขายโดยร้านมั่นคงแก๊ดเจ็ทซึ่งเป็นตำนานร้านขายหูฟังระดับจริงจังร้านแรกและยังคงขายอยู่มาถึงปัจจุบัน Ksc35 ที่ซื้อเก็บยาวเมื่อปี 2013 พอจะหยิบออกมาลองฟังก็พบว่า ฟองน้ำเปื่อยยุ่ย ละลายแทบจะหายไปหมดแล้ว ในถุงสีดำที่มาพร้อมหูฟังก็มีแต่ผงสีดำร่วงหล่นอยู่ด้านในราวกับว่าสลายตัวไปพร้อมกับการดีดนิ้วของทานอสเลย

IMG_1856

ก็เลยจัดการซื้อฟองน้ำสำหรับเปลี่ยนใหม่ ร้านมั่นคงขายฟองน้ำ Koss ด้วย 1แพ็คมี 3 คู่ ก็เลยจัดการเปลี่ยนทั้งตัวที่ใช้ประจำซึ่งฟองน้ำยังไม่ละลาย แต่ย้วยยืดจนเกาะหูฟังไม่ได้แล้ว เหมือนกางเกงยางยืดที่หลุดกองกับพื้นเสมอ และเปลี่ยนให้กับตัวเก่าเก็บที่ตั้งใจจะเก็บยาวด้วย พอเปลี่ยนฟองน้ำแน่นๆเด้งๆเข้าไป ก็เหมือนได้หูฟังตัวใหม่ ทั้งตัวมือสองอายุมากก็กลับมาอยู่ในสภาพดีเหมือนใหม่ ทำให้เข้าใจเลยว่าหูฟังใหม่หรือเก่า ถ้าฟองน้ำใหม่ก็จะกลายเป็นความรู้สึกของใหม่ทันที คุณภาพเสียงตัวมือสอง และตัวเก่าเก็บเหมือนกันเป๊ะ ลองย้อนไปอ่านรีวิว Koss Ksc35 ได้ที่นี่

รีวิวหูฟัง Lenovo H500 Pro 7.1

มีเหตุให้ต้องเอาคอมพิวเตอร์ไปซ่อมที่ฟอร์จูน และเดินผ่านร้านขายสินค้าร้านหนึ่งที่ขาย lenovo ทั้งร้าน มองผ่านๆเจอมุมลดราคาก็เลยเข้าไปดูสินค้าทีละชิ้น ส่วนมากก็เป็นเม้าส์ คีย์บอร์ด และมีหูฟังวางโชว์อยู่ด้วย ดูชื่อรุ่น สเป็คคร่าวๆ สะดุดตากับคำว่า 7.1 ก็เลยสนใจ

IMG_20250831_171248652

หาข้อมูลเพิ่มเติมทันที หูฟัง lenovo H500 pro 7.1 ก็พบว่าเคยมีราคาขายอยู่ที่ 2990 บาทในบางร้านเมื่อหลายปีก่อน มาปีนี้คงเป็นสินค้าที่เก่าเก็บ ขายไม่ออก อาจจะเพราะหูฟังครอบหูไม่ได้รับความนิยม และราคาขายระดับเกือบสามพันบาทก็จะมีคู่แข่งเยอะมาก ไม่แปลกใจถ้าจะขายไม่ดี เพราะชื่อ lenovo ไม่ได้เด่นเรื่องหูฟัง ในแวดวงเครื่องเสียง ยี่ห้อหูฟังมีตัวเลือกอื่นๆอีกเพียบที่ได้รับความนิยมมากกว่า

IMG_20250831_192023210

เห็นคำว่า 7.1 ก็ทำให้สงสัย เลยไปหาข้อมูลเพิ่ม พบว่า H500 มีฮาร์ดแวร์ที่สร้างเสียง 7.1 ได้ในตัวทำให้ไม่ต้องลงไดรเวอร์ เป็นความสะดวกสบายลำดับแรกเลย และที่สำคัญ ใช้กับ mac ก็ได้ ใช้กับ android tv ก็ได้ ตรงนี้น่าสนใจมาก ถ้าเสียงมันดีและได้ระบบ 7.1 มาด้วยสร้างเสียงรอบทิศในการดูหนังก็จะน่าใช้มาก แต่หาอ่านรีวิวในเรื่องของคุณภาพเสียงไม่ได้เลย ก็เลยซื้อมาลองเอง วัดดวงกันว่าจะดีหรือไม่ดี

messageImage_1756647712135

หูฟัง lenovo H500pro 7.1 จะเรียกสั้นๆว่า H500 เป็นหูฟ้งไดรเวอร์ไดนามิคแบบเดี่ยวขนาด 5cm ซึ่งถือว่าใหญ่พอใช้ได้ ตัวหูฟังออกแบบให้เป็นสายเสียบ 3.5มม. แบบ TRRS หรือมีขีดดำ 3 ขีด ขั้วสัมผัสออกแบบมาให้ใช้กับโทรศัพท์มือถือได้ ใช้กับโน้ตบุ๊คที่มีช่องหูฟังแบบ combo ได้ คือหูฟังกับไมค์อยู่ในแจ็คเดียวกัน ขณะเดียวกันก็มีอุปกรณ์อีกชิ้นที่ออกแบบมาให้ใช้คู่กันคือมีซาวน์การ์ดหรือ usb sound พร้อมปุ่มคอนโทรล ด้านหนึ่งเป็นสาย usb เอาไว้เสียบกับคอมพิวเตอร์ อีกด้านเป็น 3.5mm เพื่อใช้เสียบหูฟัง และเราสามารถใช้หูฟังอื่นๆมาเสียบกับ usb sound ตัวนี้ได้ด้วย

messageImage_1756647308499

ที่ปุ่มควบคุมจะมีปุ่มกดดังนี้ ด้านซ้ายเป็นตัวปิดไมค์หรือ mic on/off ด้านหน้าปุ่มบนเป็นปุ่ม 7.1 กดเพื่อใช้งาน กดอีกครั้งเพื่อเลิกใช้ ตอนใช้งานฟังค์ชั่น 7.1 จะมีไฟสีฟ้าเรืองแสงขึ้นมา ปุ่มถัดมาที่ด้านหน้าจะเป็นปุ่ม EQ เอาไว้ปรับโทนเสียง มีให้เลือก 3 แบบ คือ 1 Game, 2 Music, 3 Movie

ทดลองฟัง

อุปกรณ์ที่่ใช้ร่วมทดสอบคือคอมพิวเตอร์เล่นเกมส์ msi claw ultra5 ปิดการทำงานของซอร์ฟแวร์ติดเครื่อง Nahimic ซึ่งเป็นตัวจัดการเสียงของเครื่อง ปล่อยให้เป็นการทำงานของวินโดส์และหูฟัง H500 เท่านั้น ในส่วนของ sound setting ของวินโดส์ก็ปิดการช่วยเหลืออื่นๆด้วย

จุดเด่นของ H500 คือ หูฟังมีน้ำเสียงที่สมดุลย์ดี เสียงย่านต่ำ กลาง แหลม มาพอดีกัน ไม่ได้เด่นไปทางใดทางหนึ่ง เป็นสไตล์เสียงของเครื่องเสียงบ้าน ให้เสียงกลางที่เปิดเผย และปลายเสียงสูงที่ลากยาวได้ดี สามารถให้เสียงประกายของเครื่องเคาะโลหะแบบค่อยๆจางหายไป แนวนี้คือเสียงจะใส ความไวของหูฟังค่อนข้างสูง เทียบกับหูฟังมอนิเตอร์ที่มีชื่อเสียงหลายๆตัวที่มักจะกินกำลังขับมาก หากฟังเพลงด้วย H500 ด้วยระดับเสียงที่พอดีแล้ว พอเปลี่ยนไปเป็นหูฟังอย่าง AKG k701 เสียงจะเบาลงมากจนต้องเร่งเสียงเพิ่มขึ้น

จุดเด่นอีกอย่างคือ ระบบเสียงรอบทิศที่ฝังมากับ usb soundcard เลย ทำให้ไม่ต้องลงไดรเวอร์ และทำให้ใช้กับระบบปฏิบัติการอย่าง macos ได้ด้วย เพราะปกติ ระบบเสียงรอบทิศโดยเฉพาะ 7.1 มักจะต้องติดตั้งไดรเวอร์หรือซอฟแวร์พิเศษ และมักจะมีใช้ในระบบปฏิบัติการวินโดส์เท่านั้น ทำให้การฟังเสียงรอบทิศแบบ 7.1 บน macos เป็นเรื่องที่ทำไม่ได้เลย แต่ H500 ให้ระบบเสียงรอบทิศในตัวฮาร์ดแวร์ ทำให้ไม่เลือกระบบปฏิบัติการ

H500 จะสร้างเสียง 7.1 ทำให้การดูหนังได้รับเสียงที่สนุกขึ้น เสียงดีขึ้น เสียงโอบล้อมมากขึ้น H500 สร้างเสียงพูดให้อยู่ด้านหน้าคนฟังได้ทันที พร้อมกับเสียงแวดล้อมอื่นๆที่ห่อหุ้มคนฟังอยู่ การกดปุ่ม 7.1 ระหว่างใช้ กับ ไม่ใช้ ให้เสียงที่ต่างกันมากในแง่ของการโอบล้อมและการเน้นเสียงพูด แต่ไม่เปลี่ยนโทนเสียง การดูหนังแล้วใช้เสียง 7.1 ทำให้หนังสนุกขึ้น แต่ข้อเสียเดียวของ 7.1 ใน H500 คือ เสียงพูดมีความก้องหรือมี echo+reverb มากไปเล็กน้อย เสียงพูดถูกจัดวางไว้ด้านหน้าหรือเสียงที่เลียนแบบลำโพงเซ็นเตอร์นั้นดีมากแม่นยำในตำแหน่งกลาง แต่จะมีความก้องมากไปเหมือนอยู่ในโรงหนังขนาดใหญ่ ถ้าตัวหนังบันทึกเสียงพูดมาเยอะๆ ชัดๆ เราจะรู้สึกว่าเสียงก้องมากเกินไปในโหมด 7.1 แต่ถ้าเป็นหนังพูดน้อย หนังแอ็คชั่นไม่ค่อยพูด เราจะไม่รู้สึกว่ามันมีปัญหา

ปุ่ม 7.1 จะใช้งานได้แค่เพียงลำพัง ไม่สามารถใช้ร่วมกับปุ่ม EQ ได้ ถ้าเราเลือกใช้ปุ่ม EQ เพื่อปรับเสียง เจ้า H500 จะยกเลิกการทำเสียง 7.1 ทันที การฟังด้วยปุ่ม EQ จะเลือกได้ 3 โหมดคือ 1 Game, 2 Music, 3 Movie แต่ละโหมดจะเหมาะสมกับการใช้งานแตกต่างกัน ไม่มีกฏตายตัว ทดลองกดเลือกดู ถูกใจเสียงไหนก็ใช้เสียงนั้น เท่าที่ลองทั้ง 3 โหมด โหมด1จะเพิ่มเสียงเบส โหมด2จะเพิ่มเสียงกลาง โหมด3จะเพิ่มเสียงแหลม แต่หากจะปิด EQ ไปเลย เพื่อฟังเพลงแบบไม่ปรับแต่งก็ทำได้เช่นกัน และผมชอบเสียงแบบไม่ปรับแต่งนี้ที่สุดเมื่อใช้กับหูฟัง H500 แต่ถ้าใช้หูฟังอย่าง K701 กับ usb soundcard ตัวนี้ ผมจะปรับไป EQ1 ซึ่งจะทำให้เสียงเบสเยอะขึ้น เพราะ k701 เป็นหูฟังที่มีแนวเสียงที่เน้นเสียงกลางและแหลม เบสจะบางกว่าหูฟังทั่วไป และกับ K701 เราจะต้องเร่งระดับเสียงเพิ่มขึ้นอีกพอสมควรเลยถึงจะทำงานร่วมกันได้

เมื่อลอง usb sound ตัวนี้กับหูฟัง Audio technica ตัวหนึ่งที่เสียงเด่นในด้านเบส พบกว่าการปรับโหมด Eq ไปที่โหมด 3 เพื่อเพิ่มเสียงแหลมก็ให้เสียงโดยรวมของหูฟังมีความไพเราะขึ้น ผมเชื่อว่า Eq เป็นการปรับเสียงที่มีประโยชน์ หากเราใช้ให้ถูกวัตถุประสงค์ เพราะมันช่วยแก้ปัญหาให้กับบางอุปกรณ์ได้ แต่ถ้าหูฟังคุณสมดุลย์อยู่แล้ว ไม่ใช้ Eq ก็เป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน

ปกติหูฟังราคาประมาณ 3000-5000 บาท มักจะมีคุณภาพที่ดีพอใช้งานจริงจังได้อยู่แล้ว เราคาดหวังกับคุณภาพเสียงการฟังเพลงได้ และ H500 ก็มีคุณภาพเสียงที่ดีตามระดับราคาหลักพัน แต่เมื่อลดราคาเหลือหลักร้อยมันเรียกว่าเป็นความคุ้มค่าแบบต้องรีบไปซื้อเลย ลำพังเพียงแค่ usb soundcard ที่ให้มาในชุดนี้ก็คุ้มค่าเต็มที่แล้ว เพราะเราไม่เคยมีอุปกรณ์สร้างเสียงรอบทิศ 7.1 แบบแยกมาให้ใช้ง่ายๆแบบนี้ แถมยังเปลี่ยนไปใช้กับหูฟังอื่นๆใดๆได้ด้วย เท่าที่จำได้ ประมาณห้าปีที่แล้วเรามี usb soundcard ราคาเกือบหมื่นบาทที่สามารถทำเสียง 7.1 ได้ ซึ่งมีแค่เครื่องนะ ไม่มีหูฟัง เรายังต้องซื้อหูฟังอื่นๆมาใช้ร่วมกันอีก

คุณภาพเสียงของ usb soundcard ดีกว่าเสียงที่ได้จาก sound onboard ที่มากับเครื่องคอมฯอย่างชัดเจน ลองบนเครื่องเล่นเกมส์ msi claw ultra5 ที่เป็นเครื่องสมัยใหม่เพิ่งออกไม่เกิน 1 ปี เสียงจาก sound usb มีความชัด ใสและไดนามิคเรนจ์ดีกว่ากันมาก เสียงกลางจะเปิดเผยฟังสบาย เสียงสูงจะมีประกายสดใสที่มากกว่าอย่างชัดเจน เสียงดนตรีต่างๆมีความเป็นธรรมชาติมากกว่า

ลองใช้ H500 กับ macbookair เสียบสาย usb ก็ใช้งานได้ ฟังเพลงเพราะ ดูหนังได้ปกติ และกดปุ่ม 7.1 เพื่อใช้เสียงรอบทิศตอนดูหนังใน macos ก็ทำได้ด้วย ใครชอบดูหนังในคอมพิวเตอร์ควรจะหามาลองใช้ เพราะทำให้เสียงคล้ายกับในโรงหนังได้จริง ระบบ 7.1 จะดันเสียงพูดให้ไปอยู่ด้านหน้าตรงกลาง เสียงลำโพงซ้ายขวาจะถูกผลักให้อยู่ด้านหน้าซ้ายและหน้าขวาไม่ใช่อยู่ข้างหู ส่วนเสียงแอมเบี้ยนส์หรือเสียงแวดล้อมต่างๆของหนังก็จะให้ความรู้สึกว่าเสียงกระจายตัวห่อหุ้มเราอยู่ ความสามารถของ 7.1 แบบหูฟังทำให้ดูหนังสนุกขึ้น ตอนลองใช้ 7.1 ในนาทีแรกๆคุณอาจจะรู้สึกแปลกประหลาด แต่ถ้าคุณใช้ไปสัก 5 นาทีก็จะคุ้นเคยและรู้สึกว่าแบบ 7.1 ใช้ดูหนังสนุกดีเหมือนอยู่ในโรงหนังขนาดใหญ่จริงๆ

H500 ออกแบบ usb soundcard และหูฟังมาให้ทำงานร่วมกันได้พอดี เสียงโดยรวมออกมาดีมาก เป็นการแม็ทกันจากโรงงานมาเลย เปรียบเทียบให้ฟังคร่าวๆดังนี้ ปกติผมจะชอบใช้หูฟัง AKG K701 สำหรับการฟังเพลง และการทำให้ K701 ให้เสียงดีถูกใจที่สุดก็จะต้องต่อกับ headphoneamp ซึ่งจะทำให้มีกำลังขับที่เยอะเพียงพอจะไปสั่งการ K701 ให้มีคุณภาพสูง ส่วนหูฟังอีกตัวอย่าง Hifiman He400se มีเสียงดีมากเมื่อต่อตรงกับ Macbookair M1 หรือต่อกับเครื่องเล่นเพลงกำลังขับสูงๆ การจะใช้งาน H500 ให้ดีที่สุดก็คือใช้กับชุดของมันเอง ซึ่งคุณภาพสูงสุดของ H500 ยังไม่เทียบเท่ากับชุดฟังเพลง แต่ก็ให้โทนเสียงในแนวเดียวกัน

ข้อดี
H500 เสียบแล้วใช้งานได้เลย ไม่ต้องลงซอร์ฟแวร์เพิ่ม ให้โทนเสียงที่ฟังเพลงได้ดี มี EQ ปรับแต่งเสียงกดใช้งานได้ทันที โหมดการดูหนังสามารถเข้าสู่ 7.1 ด้วยปุ่มเดียว พกพาย้ายไปเสียบเครื่องอื่นได้สะดวก พกสาย usb sound ติดกระเป๋าโน้ตบุ๊คได้สะดวกมาก สามารถใช้ร่วมกับหูฟังอื่นๆเพื่อเปลี่ยนแนวเสียงได้ คุณภาพของ usb soundcard ดีกว่าของ onboard ที่ติดมากับคอมพิวเตอร์

ข้อเสีย
ถ้าซื้อในราคาเต็มก็จะต้องเทียบกับอุปกรณ์ระดับราคาเดียวกัน ซึ่งมีคู่แข่งหลายราย คุณภาพเสียงหูฟังไม่ได้ดีที่สุดในย่านราคานี้ น้ำเสียงเมื่อฟังเพลงยังไม่ใกล้เคียงกับเครื่องเล่นเพลงคุณภาพสูง ภาพdacและภาคขยายเสียงในอุปกรณ์ยังไม่เด่นในด้านคุณภาพ

สรุป
ผมซื้อ H500 เพราะต้องการใช้งานระบบเสียง 7.1 ที่ใช้งานง่ายในตอนดูหนัง และสามารถใช้งานได้ใน window และ mac os รวมถึงใช้กับ android box ได้ด้วย คุณภาพเสียงของ usb soundcard กับตัวหูฟังอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ใช้งานได้หลากหลาย ถ้ามีหูฟังชุดเดียว ชุดนี้ใช้ได้ยาวๆ ไม่ต้องกังขาเรื่องคุณภาพ ถ้ามันทนนะ

IMG_1866

สาย usb soundcard ตัวนี้กลายเป็นอุปกรณ์สุดโปรดที่พกพาไปใช้ทุกที่ ใช้กับหูฟังตัวเล็ก ตัวใหญ่ ได้อย่างหลากหลายตามสะดวก เรียกได้ว่าติดกระเป๋าโน้ตบุ๊คเอาไว้เลย เพราะมันเป็นการอัพเกรดคุณภาพเสียงของเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกตัวได้ทันที

ข้อมูลทางเทคนิค
Headphone
Transducer Type Dynamic 50 mm with Neodymium Magnets
Frequency Range 20 Hz – 20 kHz
Impedance 32Ω ± 15% @ 1 kHz
Sensitivity (SPL) 99 ± 3 dB / 1 mW @ 1 kHz
Power Handling Capacity 50 mW
THD 200~3 kHz ≤ 3%

Microphone
Transducer Type Electret Condenser Microphone with Noise-Cancel
Operating Principle Pressure Operated
Polar Pattern Omnidirectional
Nominal Impedance ≤2.2KΩ
Frequency Range 100 Hz – 10 kHz
Sensitivity (SPL) -38 ± 3 dB
Advanced Audio Control Box
7.1 Mode Virtual 7.1 Surround Sound On/Off
EQ 3 Pre-set EQ (Game, Music, Movie)
Volume Control

CONNECTIVITY
Dimensions (W x D x H) (mm) : 182 x 210 x 92 (inches) : 7.2″ x 8.3″ x 3.6″
Weight Around 0.7 lbs (320 g)
Headband Structure Self-Adjust Suspension Headband with

Wired Connectivity
Wired via 3.5 mm Audio Jack or USB 2.0
Cable Length
Headset to 3.5 mm : 1 m
USB Advanced Control Box : 1 m

Supported OS*
Windows 10
Windows 8.1
Windows 8
Windows 7
Mac OS X 10.5.x or later
Xbox One™
PlayStation® 4
Nintendo Switch™

Compatibility Matrix
PC : 7.1 Surround via USB,
Stereo via 3.5 mm
PlayStation® 4 : Stereo via 3.5 mm
Xbox One™ : Stereo via 3.5 mm
Nintendo Switch™ : Stereo via 3.5 mm
Apple : Stereo via 3.5 mm
Mobile : Stereo via 3.5 mm

รีวิว Soundpeat Clear

หูฟังสำหรับฟังเพลงและคุยโทรศัพท์เริ่มเป็นแบบไร้สายมาตั้งแต่ apple ทำ airpod ออกมา แต่ราคาก็สูงหลายพันบาท ขณะที่ยี่ห้ออื่นต่างก็ทะยอยทำตามและปรับปรุงพัฒนามาเรื่อยๆ ผ่านมาหลายปีราคาก็ต่ำลงเรื่อยๆ และในปีนี้เราสามารถใช้งานหูฟังคุณภาพดีในราคาต่ำกว่า 1000 บาท และรุ่นหูฟังตัวนี้นี้ยี่ห้อ Soundpeat รุ่น clear ก็ราคาแค่ 799 บาท เท่านั้น

20250113162855_IMG_1550

หูฟัง Soundpeat Clear เป็นหูฟังไร้สายระบบบลูทูธ 5.3 เชื่อมต่อง่าย มีหลายสี กล่องชาร์จก็ทำฝาใสๆให้เห็นดูก็รู้ว่าหูฟังครบไหม หายไหม ผมชอบฝาใสมากกว่าฝาทึบ

ลองดูสเป็คคร่าวๆ ซึ่งทั้งหมดเป็นเพียงตัวหนังสือที่ไม่ได้หมายถึงคุณภาพเสียง เราจะรู้ว่าเสียงดีหรือไม่ดีก็ต้องทดลองฟังเท่านั้น ส่วนเรื่องลูกเล่นต่างๆ หรือแม้แต่ระบบตัดเสียงรบกวนผมก็ไม่ได้สนใจ เพราะอยากจะซื้อใส่เพื่อฟังเพลงและฟังคอนเท้นท์ต่างๆที่ให้ความคล่องตัวไม่ต้องมีสายพะรุงพะรัง

  • 12mm Dynamic Driver for Immersive Sound
  • 7 Hrs Single Playtime & 40 Hrs Full Playtime
  • Clear Call with Dual Mics  (FF+FB Mic) 
  • BT5.3 Faster One-Step Pairing
  • Game Mode & App Control

Bluetooth: Bluetooth5.3

Profiles: HFP/A2DP/AVRCP

Chipset: JL6973D8

Supported Bluetooth Codec: SBC, AAC

Battery Capacity: 400mAh(Case)

Battery Capacity: :38mAh*2(Earbuds)

Earbuds Charging Time: 1.5 hours

Charging Case Charging Time: 2 hours

Charging Port: Type-C

Total Playtime: 40 hours

การพูดคุยโทรศัพท์ทำได้ดี ได้ยินเสียงชัด เราพูดกลับไปปลายทางก็สื่อสารกับเรารู้เรื่อง สามารถคุยได้นาน สามารถแยกใช้แค่ตัวเดียวก็ยังคุยได้ ทำให้เราสามารถยืดเวลาการใช้งานได้ยาวนานขึ้นด้วยการใช้ทีละตัว ส่วนตัวชาร์จมีพอร์ต usb-c เอาไว้ชาร์จไฟ

หูฟังตัวนี้ให้จุกยางมาหลายคู่ เราต้องเลือกขนาดจุกยางให้เหมาะสมกับขนาดรูหูของเรา ถ้าใส่จุกยางเล็กเกินไปเสียงจะบางและน้ำเสียงแย่มาก ถ้าใส่จุกยางขนาดใหญ่เกินไปเสียงจะมีเบสเยอะและทำให้เจ็บหูเมื่อใส่นานๆ รวมถึงน้ำเสียงเน้นเบสมากไปทำให้ฟังแล้วอีดอัด เราควรเลือกขนาดจุกยางให้เสียงถูกใจเราและใส่สบายเป็นหลัก

น้ำเสียงการฟังเพลงทำได้ดีมาก เสียงกลาง เสียงสูงทำได้เหมือนหูฟังราคาแพง ส่วนเสียงต่ำเมื่อใช้จุกที่พอดีกับหูเราแล้วจะให้เสียงเบสที่ใหญ่แต่ไม่ล้น การฟังเพลงด้วยหูฟังตัวนี้ไม่มีระบบการเพิ่มเสียงสิ่งแวดล้อม มันกลับเป็นการกันเสียงอื่นไม่ให้เข้าสู่หูเรามากกว่า การพูดคุยกับคนอื่นรอบข้างขณะใส่หูฟังตัวนี้อาจจะไม่รู้เรื่อง เพราะหูฟังลดเสียงภายนอกลงจนฟังยาก เกือบทุกครั้งที่ผมต้องถอดหูฟังมาถือไว้ในมือเพื่อคุยกับคู่สนทนาที่กำลังคุยกัน

เพิ่มคุณภาพเสียงคลิปวิดีโอด้วยไมค์ไร้สาย BOYA LINK

การบันทึกคลิปวิดีโอในปัจจุบันพัฒนาไปจากเดิมมาก เราสามารถใช้กล้องวิดีโอ กล้องถ่ายภาพที่ถ่ายวิดีโอได้ หรือ โทรศัพท์มือถือ อย่างใดอย่างหนึ่งจากสามอุปกรณ์นี้ในการบันทึกภาพเคลื่อนไหว แต่คุณภาพเสียงอาจไม่ดีนัก เพราะกล้องก็จะเก็บทุกเสียงที่เราได้ยิน เสียงรบกวนก็ติดเข้ามาด้วย ยิ่งบันทึกคลิปในที่เสียงดัง อย่างเสียงริมถนน เสียงในห้องประชุมที่มีเสียงก้อง เสียงเครื่องขยายเสียงสารพัดทำให้คุณภาพเสียงในวิดีโอไม่ดี

การเลือกใช้ไมโครโฟนมาบันทึกเสียงพูดโดยเฉพาะจะทำให้คุณภาพเสียงในคลิปวิดีโอมีคุณภาพที่ดี ฟังรู้เรื่องและมีผลทำให้คนอยากดูคลิปเพราะฟังง่าย รู้เรื่อง เป็นที่รู้กันว่าคลิปที่ชัดแต่เสียงแย่จะไม่มีคนดู แต่คลิปที่ภาพไม่ดีมากแต่เสียงดีจะมีคนดู คนจะอยากดูคลิปวิดีโอที่เสียงชัด ดังนั้นการหาไมโครโฟนมาช่วยบันทึกเสียงพูดเป็นสิ่งจำเป็นมากในยุคนี้

ไมค์ไร้สายเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการทำคลิปเพื่อใช้เผยแพร่ในอินเทอเน็ต เพราะใช้งานได้สะดวก แต่เดิมอุปกรณ์ไร้สายจะเป็นสิ่งที่น่าปวดหัว เพราะตัวกล้อง และสมาร์ทโฟนแต่ละชนิดมีช่องรับสัญญาณเสียงไม่เหมือนกัน เวลาเราเลือกอุปกรณ์ไมค์มาใช้กับกล้องก็ต้องเลือกชนิดหรือรุ่นที่มีพอร์ตการเชื่อมต่อแบบเดียวกับกล้องที่เราใช้

ถ้าเราใช้กล้องวิดีโอเราจะมีช่องเสียบไมค์แบบ 3.5มม. หรือ XLR แล้วแต่ชนิดของกล้อง เราก็ต้องเลือกตัวรับสัญญาณไมค์ที่สามารถส่งสัญญาณออกมาเป็นแจ็ค 3.5มม. ได้ แต่ถ้าเราใช้สมาร์ทโฟนยุคใหม่ที่ไม่มีพอร์ต 3.5แล้ว มีเพียงแต่พอร์ตชาร์ทไฟชนิด usb-c หรือ พอร์ต lightningของค่ายแอปเปิ้ล ไมค์ไร้สายที่มีตัวรับ usb-c เมื่อเลือกซื้อมาแล้วก็ต้องใช้กับพอร์ตนี้เท่านั้น จะเอาไปใช้กับกล้องวิดีโอ หรือ กล้องถ่ายภาพไฮบริดที่รับพอร์ต 3.5 มม. ก็ไม่ได้ ปัญหานี้ทำให้คนทำงานอาจจะต้องซื้อไมค์หลายชุด บางชุดใช้กับสมาร์ทโฟน บางชุดใช้กับกล้องใหญ่ แม้แต่สมาร์ทโฟนก็ยังมีสองมาตรฐานเสียอีก

IMG_3338

ใช้เวลาหลายปีกว่าจะมีอุปกรณ์ไมค์ไร้สายที่ออกแบบมาให้ใช้ได้กับทุกพอร์ตที่นิยมใช้กัน Boya Link เป็นชุดไมค์ไร้สายที่มีตัวรับเสียงสามารถเสียบพอร์ตได้ทุกชนิดโดยการเลือกเปลี่ยนพอร์ต มีทั้งแบบ 3.5 มม. แบบ usb-c และแบบ Lightning ซึ่งทั้งสามชนิดนี้สามารถถอดเปลี่ยนได้ทันที ตัวไมค์ส่งสัญญาณมี 2 ตัว และทั้งหมดสามารถวางไว้ในกล่องใบเดียว ทำให้เราสามารถชาร์จไฟเข้ากล่องแล้วไฟก็จะชาร์จไมค์และตัวรับสัญญาณได้

IMG_3339

ตัวไมค์ที่รับเสียงจากคนพูดจะมีคลิปหนีบ และมีตัวป้องกันเสียงลมเป็นขนฟูที่สามารถติดไปกับไมค์ได้สะดวก สามารถถอดแล้วเก็บในกล่องได้ด้วย เป็นการออกแบบที่เก็บอุปกรณ์ได้ยอดเยี่ยมมาก นอกจากนี้ไมค์รับเสียงยังมีความสามารถในการตัดเสียงรบกวนด้วย เราสามารถเลือกเปิดหรือปิดการตัดเสียงรบกวนได้ สามารถปรับความดังของไมค์แต่ละตัวได้ ใครพูดเบาก็อาจจะเร่งอัตราขยายของไมค์ตัวนั้นให้สูงขึ้น ทำให้การบันทึกเสียงสามารถปรับความดังของคนพูดแต่ละคนให้ใกล้เคียงกันได้

IMG_3348

ตัวรับสัญญาณที่จะต้องเอาไปต่อกับกล้องก็มีความสามารถที่หาไม่ได้จากไมค์อื่นๆคือ สามารถตั้งค่าให้รับเสียงไมค์สองตัวแล้วรวมเป็นเสียงโมโนได้ เสียงพูดในคลิปจะฟังเป็นโมโน ทุกคนจะมีความชัดเท่ากัน หรือตั้งค่าให้รับเสียงเป็นสเตอริโอก็จะทำให้แยกการบันทึกคลิป คนนึงบันทึกไว้ที่เสียงด้านซ้าย อีกคนบันทึกไว้ที่เสียงด้านขวา ทำให้การตัดต่อในภายหลังสามารถแยกปรับเสียงแต่ละคนได้ เป็นลูกเล่นทางเสียงของคนทำคลิประดับมืออาชีพเลย

สเป็คไมค์ตัวรับเสียง และตัวรับสัญญาณดูได้จากตารางด้านล่างนี้ เป็นสเป็คที่อยู่ในเว็บของ boya

ลองฟังเสียงไมค์ที่บันทึกคลิปการพรีเซ้นในห้องประชุม

ตำแหน่งไมค์ติดไว้ที่สูท ห่างจากปากประมาณ 6 นิ้ว เป็นระยะที่รับเสียงได้น่าพอใจที่สุด ใช้กล้อง Sony ZV-1F บันทึกคลิป ตอนตั้งระดับ record level ก็ให้คนพูดทดลองพูดแล้วดูกราฟเสียงเด้งขึ้นลง ตั้ง level ให้กราฟเสียงเด้งได้สูงสุดแต่ยังไม่แตะจุด 100%

คลิปเล่นเปียโน เป็นการใช้ไมค์ 2 ตัว วางตัวนึงไว้ด้านซ้าย อีกตัววางไว้ด้านขวาของเปียโน โดยวางบนเปียโนเลย เจตนาเพื่อให้รับเสียงเปียโน และรับแรงสั่นสะเทือนด้วย เพื่อให้ได้เสียงที่เป็นเสียงเปียโนตรงๆให้มากที่สุด ตั้งค่าตัวรับให้ทำงานเป็นสเตอริโอเพื่อแยกสัญญาณซ้ายและขวา

ลำโพงสวย เสียงดี Ikea Eneby20

IMG_2954

ลำโพงบลูทูธได้รับความนิยมมาก ทั้งแบบตั้งโต๊ะ ตั้งพื้นและในแบบหูฟังไร้สาย คุณภาพลำโพงในช่วงสิบปีหลังมานี้ดีขึ้นเรื่อยๆ ดีขึ้นจนน่าทึ่งที่ลำโพงดอกเล็กนิดเดียวแต่ให้พลังเสียงที่ยอดเยี่ยมเหมือนลำโพงตัวใหญ่ ในครั้งนี้ก็จะทดสอบใช้งานลำโพงพกพาอีกตัวหนึ่งที่มีขายใน ikea ห้างขายของแต่งบ้านที่มีสาขาในไทย

ลักษณะทั่วไป

eneby20 เป็นลำโพงพกพาที่วางขายใน ikea อยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะหมดและไม่มีขายอีก หน้าตาเป็นทรงสี่เหลี่ยมเหมือนกล่องแบนๆ หน้ากว้าง 20x20cm ลึกประมาณ 8 cm มีหูหิวเป็นเหล็กยึดติดตายตัว ไม่สามารถพับได้ มีหน้ากากลำโพงที่ถอดออกได้ เมื่อถอดหน้ากากแล้วจะพบว่าลำโพงจะมี 2 ตัวขับ คือวูฟเฟอร์ขนาดประมาณ 3.2 นิ้ว และทวีตเตอร์ขนาดประมาณ 1 นิ้ว แหล่งพลังงานของลำโพงตัวนี้จะใช้ได้ทั้งแบบเสียบปลั๊ก รองรับไฟ 100-220v และแบบใช้แบตเตอรี่ ซึ่งจะต้องซื้อเพิ่ม

IMG_2943

ลำโพงมีปุ่มเดียว เป็นปุ่มหมุนได้และกดลงไปได้ เสียบปลั๊กแล้วกดปุ่มลงไปหนึ่งครั้งเป็นการเปิดเครื่อง กดอีกครั้งสั้นๆจะเป็นการปิดเครื่อง เมื่อเปิดเครื่องแล้ว ลำโพงจะเข้าสู่โหมดการจับคู่กับมือถือหรือคอมพิวเตอร์ เมื่อจับคู่ได้แล้วก็ลองเปิดเพลงกันเลย ปุ่มหมุนจะใช้ปรับระดับเสียงดังเบา และถ้ากดปุ่มค้างไว้ประมาณ 3 วินาทีจะเข้าสู่การปรับโทนเสียงทุ้ม กดอีกครั้งสั้นๆจะเข้าสู่การปรับเสียงแหลม และเมื่อปรับเสร็จก็ให้กดปุ่มอีกครั้งเพื่อกลับสู่การใช้งาน ตอนเปิดเครื่องแล้ว หากจะกดให้ยกเลิกการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เก่าให้กดปุ่มค้างไว้ 10 วินาที

คุณสมบัติทางไฟฟ้า
มาตรฐานบลูทูธ 4.2
ถ้าใช้ไฟ 100v จะกินไฟ 640ma
ถ้าใช้ไฟ 220v จะกินไฟ 300ma
เพาเวอร์แอมป์ขับลำโพงวูฟเฟอร์มีกำลังขับ 15 วัตต์
เพาเวอร์แอมป์ขับลำโพงทวิตเตอร์มีกำลังขับ 5 วัตต์
ลำโพงสามารถรับสัญญาณเสียงทางช่อง Aux ได้ ความไวขาเข้า 1.65V
ตอบสนองความถี่ 57-20,000Hz

คุณภาพเสียง

สิ่งที่ได้ยินจากลำโพงตัวนี้ก็คือเสียงกลางแหลมที่ชัด เสียงทุ้มย่านต่ำพอมีให้ได้ยิน ด้านหลังของลำโพงจะเป็นช่องอากาศ ลำโพงถูกออกแบบเป็นลำโพงตู้เปิด รูระบายเสียงเบสที่ด้านหลังจะสะท้อนกับผนังห้องแล้วกลับมาเสริมกับเสียงด้านหน้าเพื่อให้มีเสียงทุ้มที่มากขึ้น เราสามารถเลือกวางลำโพงให้ห่างผนังได้ตามใจ วางชิดเบสจะเยอะ วางห่างผนังเบสจะน้อย เป็นไปตามลักษณะของคลื่นเสียงที่สามารถเสริมกันให้ปริมาณเยอะขึ้นได้

เมื่อวางในระยะที่พอดี เราจะได้เสียงเพลงผ่านลำโพงที่มีย่านเสียงทุ้มกลางแหลมที่พอดี น้ำเสียงมีเบสให้ได้ยินพอสมควร ไม่มีเสียงที่บวมเบลอ เสียงกลางฟังได้ชัดเจน ชัดเหมือนเป็นลำโพงบ้านเลย ส่วนเสียงแหลมก็มีลักษณะที่ใส ไม่กัดหู ฟังดนตรีอคูสติกให้เสียงกลางที่สดน่าฟัง เสียงสะบัดคอร์ดกีต้าร์ให้น้ำเสียงน่าฟัง เพลงกีต้าร์เพราะๆฟังผ่านลำโพงตัวนี้ได้สบายมาก

น้ำหนักเบสไม่มาก เสียงสายกีต้าร์ที่เป็นโน้ตต่ำๆจะไม่ใหญ่โตมาก หากเทียบกับลำโพงตัวโปรดอย่าง fender newport เจ้าตัว eneby จะให้เสียงต่ำที่บางกว่า แม้จะลองปรับทุ้มแหลมช่วยแล้วก็ยังบางกว่า แต่ก็ต้องเข้าใจว่าราคาของ eneby แค่สองพันบาท ไม่มีทางจะไปชนะลำโพงระดับหลักห้าพันหรือหมื่นได้อยู่แล้ว การจัดวางชิดผนังจะทำให้เสียงเบสเยอะขึ้นเป็นเท่าตัว จุดที่ดีที่สุดอาจจะเป็นการวางลำโพงชิดผนังไปเลย

น้ำเสียงออกไปในทางนุ่มฟังสบาย เสียงดีกว่าลำโพงแถมทุกตัวที่เคยได้แถมมา ใช้งานฟังในห้องเล็กๆทำงานได้เป็นอย่างดี ใช้ฟังคนเดียวกำลังดี ระยะที่ให้น้ำเสียงถูกใจคือการฟังห่างประมาณ 2 เมตร เสียงร้องชัดมากจนน่าขนลุก ยิ่งได้ฟังกับเพลงที่บันทึกมาโชว์เสียงร้องเน้นๆยิ่งทำได้ดี โดยรวมแล้วเสียงดีกว่าลำโพงคอมฯทั่วไปเยอะ

ถ้าเปิดอยู่แต่ไม่เสียงส่งไปให้ลำโพงประมาณ 20 นาที ลำโพงจะตัดการทำงานและปิดตัวเองลง ต้องเปิดใหม่เองด้วยการกดปุ่มที่ลำโพง

สรุป

ลำโพง eneby เป็นลำโพงบลูทูธที่พกพาได้ มีหูหิ้ว ใช้พลังงานจากไฟบ้านได้ แต่ถ้าจะใช้แบตเตอรี่ก็ต้องสั่งซื้อแบตเพิ่มมาใส่เอง คุณภาพเสียงเพลงที่ถ่ายทอดออกมาจัดว่าเป็นลำโพงเสียงดี น้ำเสียงเหมือนลำโพงบ้าน ฟังเอาคุณภาพเสียงได้เลย ข้อเสียที่พบคือ เสียงย่านต่ำลึกได้ยินน้อยไปหน่อย แต่ก็เข้าใจได้ว่ามันเป็นของราคาไม่แพง และดอกลำโพงก็ไม่ใหญ่ ฟังเพลงร้องได้ดีมาก ฟังเพลงป๊อปทั่วไปก็ดี ฟังเพลงออดิโอไฟล์กลับยิ่งดี ฟังเสียงพูด รายการทอล์คได้ดี การวางชิดผนังช่วยเพิ่มปริมาณเสียงในย่านต่ำได้เยอะมาก มันอาจเป็นลำโพงวางหิ้งที่ดีมากกว่าจะเป็นลำโพงพกพา

ภาพจากเว็บ ikea

ทดสอบการกันลมของไมโครโฟน

boya-by-mm1-show-image
ไมโครโฟนโดนลมโดยตรง

boya-by-mm1-image
มีตัวหุ้มไมค์เป็นขนปุย

รีวิว Hifiman HE400se

ในยุคที่โทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์ที่มากกว่าแค่การใช้สื่อสาร หลายคนใช้โทรศัพท์ถ่ายรูป ใช้ฟังเพลง ใช้ดูหนัง สิ่งที่แถมมากับโทรศัพท์นอกจากที่ชาร์จแล้วก็มีหูฟัง คนส่วนใหญ่ในโลกจึงมีหูฟังติดตัวอยู่แล้วอย่างน้อยคนละ 1 เส้นหรือ 1 ชุด แม้ว่าระยะหลังโทรศัพท์บางยี่ห้อจะไม่แถมที่ชาร์จและหูฟัง แต่ผู้ใช้งานก็ยังคงดิ้นรนหาซื้อหูฟังมาใช้อยู่ดี

หูฟังแถมมากับโทรศัพท์ หรือ แม้แต่การซื้อเพิ่มเติมเองส่วนมากคนจะนิยมใช้หูฟังตัวเล็ก และโดยมากก็จะเป็นหูฟังชนิด in-ear หรือยัดเข้าไปในหูได้เลย รวมไปถึงบางคนก็ใช้หูฟังไร้สายขนาดเล็ก หรือ true wireless ทำให้ปัจจุบันหูฟังตัวใหญ่ขายได้น้อย แต่ก็ยังมีบางคนที่พยายามหาหูฟังตัวใหญ่มาใช้ นั่นเป็นเพราะหูฟังตัวใหญ่เสียงดีกว่าตัวเล็ก ตามธรรมชาติของการออกแบบ

พูดถึงหูฟังตัวใหญ่ เราจะพบว่าส่วนมากเป็นหูฟังแบบครอบหู มีสายคาดบนหัว หูฟังชนิดนี้ยังได้รับความนิยมในห้องบันทึกเสียง มักจะถูกใช้งานในระดับอาชีพ และพบได้บ่อยในกลุ่มของนักเล่นเกมส์ และพบในกลุ่มนักฟังเพลงจริงจัง การเลือกใช้หูฟังเพื่อฟังเพลง เราจะเรียกหูฟังครอบหูว่า Full size ซึ่งมีหลายยี่ห้อที่ผลิตออกมาขาย โดย Hifiman ก็เป็นหนึ่งในยี่ห้อเหล่านั้นที่ทำหูฟังขนาดใหญ่ขาย และรุ่นที่สร้างชื่อเสียงให้บริษัทก็คือหูฟังขนาดใหญ่หรือ Full size ที่ใช้ระบบการสร้างคลื่นเสียงแบบ Plana Magnetic

DSC03527

หูฟัง Hifiman HE400se เป็นหูฟังแบบ plana magnetic ที่อาศัยตะแกรงสนามแม่เหล็กช่วยขยับไดอะแฟลมเพื่อสร้างคลื่นเสียง หูฟังชนิดนี้จะมีจุดเด่นที่ความฉับไว ตอบสนองต่อสัญญาณไฟฟ้าได้รวดเร็ว และมักเป็นเทคนิคที่อยู่ในหูฟังระดับท๊อป หรือรุ่นสูงๆเท่านั้น แต่ HE400se เป็นหูฟังระดับล่างสุดของกลุ่ม Fullsize ราคาขายนับว่าถูกมาก

DSC03531

HE400se ตอบสนองความถี่ 20-20,000Hz มีความต้านทาน 25 โอห์ม ซึ่งถือว่าไม่สูงมาก แต่มีความไวหรือ Sensitivity เพียงแค่ 91dB ซึ่งค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับหูฟังทั่วไป เพราะหูฟังแถมหรือหูฟังขนาดเล็กมักจะมีความไวเกิน 100dB ไปเยอะ นั่นก็หมายความว่า HE400se เป็นหูฟังที่ให้เสียงค่อนข้างเบา ต้องใช้เครื่องเล่นเพลงที่มีพละกำลังที่มากพอถึงจะทำงานร่วมกันได้อย่างดี หากนำไปใช้กับเครื่องเล่นเพลงยุคเก่าอย่างipod หรือ วอล์คแมนโบราณ ก็อาจจะได้เสียงที่ไม่เต็มประสิทธิภาพ แต่กับเครื่องเล่นยุคใหม่ โทรศัพท์รุ่นใหม่หลายๆรุ่นก็ทำได้พอใช้ได้ ใช้กับคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊คสมัยใหม่ก็ทำงานได้ดี เพราะอุปกรณ์ยุคใหม่มักจะมีสเป็คที่สูงขึ้นมากและสามารถส่งกำลังไฟฟ้าออกมาได้มากกว่านั่นเอง

DSC03530

หูฟังออกแบบให้สามารถเปลี่ยนสายได้ ทำให้เรามีช่องทางในการอัพเกรดหากต้องการ สายหูฟังที่แถมมาเป็นสายขนาด 3.5มม. แบบ TRS หากนำไปใช้กับโทรศัพท์จะไม่มีไมโครโฟน ทำให้ใช้คุยโทรศัพท์ไม่ได้ แต่คนที่ใช้หูฟังตัวนี้กับโทรศัพท์เชื่อว่าเป็นคนที่ไม่ได้ต้องการคุยงานใดๆผ่านหูฟังตัวนี้อยู่แล้ว

20240807155626_IMG_2793

คุณภาพเสียง

ทดลองฟังเพลงผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ เปิดไฟล์ wav ด้วยโปรแกรม iTune ระบบ windows และต่อ external dac เข้ากับ แอมป์หูฟัง แล้วต่อออกมายัง HE400se กับอีกระบบหนึ่งที่เป็นแบบพกพาคือเล่นผ่านเครื่องเล่นเพลง Aune M1 ที่เป็น wav player สัญญาณเสียงต่อตรงเข้า HE400se

น้ำเสียงที่ฟังในนาทีแรกก็รับรู้ได้ถึงเสียงกลางที่ชัด เสียงเบสอิ่ม โดยเฉพาะเสียงเบสที่ห่อหุ้มเพลงทั้งเพลงไว้แสดงตัวได้เด่นชัดมาก จะเรียกว่าเบสหนาก็ได้ แต่เบสไม่กลบเสียงกลางเลย ยิ่งเป็นเพลงที่โซโล่เบสยิ่งน่าฟัง เบสที่ขึ้นไว กระชับ คึกคัก เป็นจุดเด่นของหูฟังตัวนี้เลย เพลงช้าก็ฟังอบอุ่น เพลงเร็วก็สนุก

ทุ้มกลางแหลมออกมาพอดีๆ แต่ละเพลงมีสมดุลย์เสียงที่น่าฟัง กลางที่ร้องชัดๆไม่ได้เด่นไปกว่าย่านเสียงอื่น เสียงกลองสแนร์ฟาดก็ได้ยินชัดโดยไม่มีอาการคมแข็งเลย ส่วนเสียงย่านสูงก็มีให้พอดี แต่ไม่ได้เด่นมาก ไม่ได้ใสกริ๊งแบบทอดประกายยาวๆ อาจจะรู้สึกเสียงย่านสูงประกายน้อยไปหน่อย

เสียงกลางที่ชัดและเบสที่ฉับไว ย่านสูงที่ไม่กัดหู ทำให้เพลงฟังสนุก ติดตามเนื้อเพลง ติดตามเสียงร้องได้อย่างเพลิดเพลิน เสียงหายใจ เสียงลูกคอยังไม่ชัดมากเท่ากับหูฟังอย่าง AKG K701 แต่ความอิ่มหนาของเสียงเพลงทำให้ฟังสนุกกว่า เปรียบเทียบแล้วก็เหมือนเอา K701 มาเติมซับวูฟเฟอร์

สไตล์เสียงของ HE400se เป็นสไตล์ลำโพงบ้านเสียงดี เราจะไม่ได้ยินเสียงแบบนี้จากลำโพงคอมพิวเตอร์ใดๆเลย และจะไม่ได้ยินเสียงแบบนี้กับลำโพงในชุดสเตอริโอระดับตลาดราคาประหยัดแน่นอน ลำโพงบ้านที่ให้น้ำเสียงโทนแบบนี้น่าจะมีราคาแพงระดับหลายหมื่นบาทและต้องใช้งานคู่กับแอมป์ที่ดีด้วย ซึ่งทั้งหมดนั้น HE400se ทำงานภายใต้เครื่องเสียงพกพาตัวเดียวก็ได้ มันเป็นความคุ้มค่ามากๆที่ค่าตัวเพียงสองพันกว่าบาทเมื่อรอจังหวะลดราคาแรงๆ แต่กลับให้เสียงที่ดีทัดเทียมกับชุดเครื่องเสียงบ้านหลักหมื่นได้ ราคาเต็มของหูฟังตัวอยู่นี้อยู่ที่ 99 ดอลล่าร์

DSC03538

หูฟังขนาดใหญ่ มีแรงบีบหัวค่อนข้างมาก ฟองน้ำหนาช่วยทำให้ไม่รู้สีกเจ็บ แต่ก็รู้สึกว่าบีบแน่นเกินไป ส่วนฟองน้ำจะหุ้มหนังเทียมเอาไว้ทำให้ส่วนที่สัมผัสกับหัวจะรู้สึกร้อนเมื่อใส่เป็นเวลานาน ความสบายในการใส่ยังถือว่าต่ำ แต่ก็ทนใส่ได้เพราะคุณภาพเสียงที่ดี

หูฟังตัวนี้ไม่ใช่หูฟังมอนิเตอร์ มันฟังเพลงอะไรก็เพราะ ถ้าจะใช้ทำมาสเตอร์หรือมอนิเตอร์การบันทึกเสียงที่เน้นเรื่องการปรับโทนเสียงให้ไพเราะจะไม่เหมาะเลย ควรไปใช้หูฟังที่จืดกว่านี้ หรือเปิดเผยมากกว่านี้ อย่างเช่นหูฟังแบบ AKG K701 ซึ่งจะเหมาะกับงานมากกว่า

สรุป

Hifiman HE400se เป็นหูฟัง Full size ที่ให้น้ำเสียงน่าฟัง เหมาะสำหรับการฟังเพลง ไม่เหมาะกับการเป็นมอนิเตอร์ในงานบันทึกเสียง เสียงทุ้มกลางแหลมที่พอดี เสียงมีความอิ่มปนหวาน เหมาะที่จะฟังเพลงป๊อป เพลงอคูสติก จริงๆต้องบอกว่าเหมาะกับการฟังเพลงแทบทุกประเภท โดยเฉพาะเพลงที่บันทึกเสียงเบสมาดีๆยิ่งทำให้เสียงเพราะขึ้น น้ำหนักค่อนข้างมากอาจจะทำให้รู้สึกไม่สบายหัวหากฟังนานๆหลายชั่วโมง ถ้าต้องเลือกตัวเดียวสำหรับการฟังเพลงเป็นหลัก เพิ่มการดูหนังบ้าง ตัวนี้ก็น่าเลือกที่สุด

รีวิว วิทยุพกพา Rysamton

เครื่องรับวิทยุเป็นแหล่งบันเทิงราคาประหยัดที่สุดในยุคอินเทอเน็ต และเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่อดีต เราสามารถฟังเพลง ฟังรายการพูดคุย ฟังข่าวสาร ได้รับข้อมูลทางเสียงโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่ต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอเน็ต ในประเทศที่มีภัยธรรมชาติรุนแรงอย่างประเทศญี่ปุ่นก็ยังคงมีวิทยุขาย เพราะเป็นอุปกรณ์จำเป็นสำหรับการสื่อสารกับประชาชนในตอนที่ระบบไฮเทคมีปัญหานั่นเอง

20240229223252_IMG_1465

เครื่องรับวิทยุได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เป็นอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ที่ยังคงถูกใช้งานอยู่ทุกมุมโลก จากการรับคลื่นวิทยุด้วยระบบมือหมุนแบบอนาลอก ก็พัฒนาไปสู่การรับคลื่นด้วยวงจรเลือกสถานีแบบดิจิทัล ใช้วงจรอิเล็คทรอนิกส์ทันสมัยมารับคลื่นความถี่อนาลอก ทำให้มีความแม่นยำ และมีคุณภาพเสียงที่ดี รวมกับการพัฒนาชิพไอซีต่างๆที่มีความสามารถสูงขึ้น หน่วยความจำมากขึ้นในราคาที่ถูกลง ทำให้การใส่ลูกเล่นต่างๆลงในเครื่องรับวิทยุเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายดาย

20240229223137_IMG_1463

รูปลักษณ์ภายนอก

Rysamton เป็นเครื่องรับวิทยุ สามารถรับคลื่น FM AM และ SW มีการควบคุมการรับด้วยระบบดิจิทัล มีหน้าจอขนาดใหญ่ มีไฟสีส้มเรืองแสงให้ดูได้ง่ายในตอนกดใช้งาน ไฟจะสว่างอยู่ประมาณ 2 วินาทีแล้วดับทุกครั้งที่มีการกดปุ่มใดๆบนเครื่อง ด้านหน้าเครื่องเป็นปุ่มกดจำนวนมาก มีปุ่มเปิดปิดอยู่ด้านขวาบน ปุ่มปรับระดับเสียงอยู่ใต้ปุ่มเปิดปิด ที่เหลือปุ่มด้านหน้าทั้งหมดเอาไว้สแกนคลื่นความถี่ เปิดเครื่อง ดึงเสาให้ยืด แล้วกดปุ่ม scan เครื่องจะสแกนความถี่ที่รับได้ในพื้นที่นั้นแล้วบันทึกไว้ทั้งหมด กดเลือกบันทึกสถานีที่ชอบมากๆได้ 3 สถานี โดยจะอยู่ในปุ่มแยกพิเศษ CH-01 CH-02 CH-03 เลือกฟังสถานีที่บันทึกไว้ทั้งหมดได้ผ่านทางปุ่ม M+ และ M-

20240229223338_IMG_1466

ด้านข้างของตัวเครื่องเป็นปุ่มหมุนเพื่อเปลี่ยนคลื่น เป็นลูกกลิ้งที่หมุนขึ้นหรือจะหมุนลงได้อิสระ ไม่มีสิ้นสุด การหมุนจะทำให้เครื่องเปลี่ยนความถี่ที่จะรับไปทีละ 0.1 MHz เราก็เพียงแค่หมุนปุ่มหาคลื่นไปเรื่อยๆจนเจอสถานีที่อยากฟัง การสั่งเปลี่ยนคลื่นแบบมือหมุนแต่เป็นการทำงานแบบดิจิทัลทำให้การเลือกรับคลื่นทำได้แม่นยำ ชัดเจน และเครื่องรับวิทยุเครื่องนี้ก็มีคุณภาพการรับคลื่นที่ไวมาก แม่นยำมาก สถานีที่รับยากที่เคยลองใช้กับเครื่องรับวิทยุมือหมุนอื่นๆเครื่องนี้ก็รับได้ดีกว่า ถัดจากปุ่มหมุนหาเคลื่อนแล้ว ก็มีช่องเสียบไฟ 3V dc ทำให้เราสามารถใช้อแด๊ปเตอร์ได้นอกเหนือจากการใส่แบตเตอรี่ และมีช่องเสียบหูฟัง 3.5มม. ซึ่งเสียงในช่องนี้จะส่งออกมาเป็นสเตอริโอ ฟังเพลงเพราะใช้ได้เลย

20240229223414_IMG_1467

ด้านหลังมีเสารับสัญญาณสามารถยืดออกมาได้ยาวมากเพื่อช่วยรับคลื่น มีช่องใส่ถ่านหรือแบตเตอรี่ขนาด AA จำนวน 2 ก้อน ใช้แบตอัลคาไลน์ได้ ใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จเครื่องก็ทำงานได้ แต่ยังไม่ได้ลองว่าถ้าเสียบไฟเลี้ยง 3V แล้วจะชาร์จไฟในตัวได้ไหม และด้านหลังก็ยังมีขาตั้งอีก 1 จุด เอาไว้กางออกมาเพื่อจัดวางวิทยุให้อยู่ในมุมเอียง เพื่อใช้วางบนโต๊ะแล้วตั้งแบบเอียงวิทยุเข้าหาคนฟังได้ เป็นการออกแบบที่ดีมากสำหรับการใช้งานในบ้าน

คุณภาพการใช้งาน
เครื่องรับวิทยุที่สั่งการด้วยระบดิจิทัลจะให้ความแม่นยำในการเลือกสถานีได้มากอยู่แล้ว และเสียงที่ได้ยินแต่ละสถานีที่รับชัดก็จะมีน้ำเสียงน่าฟัง ลำโพงบนเครื่องจะเน้นเสียงกลางและเสียงสูง แต่ถ้าใช้หูฟังเสียบช่อง 3.5มม. เสียงที่ได้ยินในหูฟังจะมีน้ำเสียงที่อิ่ม ใส ความถี่เสียงย่านต่ำจะถูกถ่ายทอดออกมาอย่างชัดเจนในหูฟัง ถ้าเราใช้หูฟังที่มีขนาดใหญ่ น้ำเสียงในหูฟังจะมีความนุ่มนวลน่าฟังมาก

สรุป
นับว่าเป็นเครื่องรับวิทยุราคาไม่แพงอีกเครื่องหนึ่งที่เหมาะกับการใช้งานประจำวัน สามารถพกพาได้ง่าย ใส่ถ่าน AA ได้ ทำให้การใช้งานนอกสถานที่หรือย้ายที่วางเป็นเรื่องสะดวก และหากจะใช้งานยาวๆในบ้านก็สามารถเลือกเสียบไฟเลี้ยงได้ ทำให้ประหยัดค่าถ่านไปได้อีกมาก คุณภาพเสียงดีเพียงพอสำหรับการฟังข่าวและเพลง เสียงจะดีขึ้นเมื่อต่อหูฟัง สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับเครื่องรับวิทยุเครื่องนี้คือการหมุนรับคลื่นด้วยแป้นหมุน มันเป็นการปรับคลื่นความถี่ที่ถูกจริตกับมือคน คนใช้งานวิทยุจะชอบการหมุนหาคลื่นมากกว่าการกดปุ่ม เพราะคนที่เคยใช้วิทยุจะโตมากับการหมุนหาคลื่น ลองหามาใช้แล้วจะพบว่า ฟังวิทยุก็ดีเหมือนกัน


ถ้าสนใจก็ซื้อตามลิงค์นี้ได้เลย https://s.lazada.co.th/s.mHdlF


เล่าเรื่อง แผ่นซีดี Clair marlo แผ่นเทพแห่งวงการเครื่องเสียง

ก็แค่อยากฟังเพลง

P_20151228_132107

เราจำความรู้สึกตอนที่อินเทอเน็ตยังไม่มีเพลงให้ฟังได้ไหม เราไปเดินผ่านร้านขายเทปหรือ แผ่นซีดีในห้าง มีแผ่นโชว์เต็มไปหมด เรามีวงดนตรีที่เราสนใจ หรือ ชอบบางเพลง หรือ เคยได้ยินเพลงของเขาในรายการวิทยุ แล้วเราก็หยุดดูที่แผงแล้วเราก็หยิบวงที่เราอยากฟัง จ่ายเงิน เทปม้วนละ 85-100บาท หรือถ้าเป็นแผ่นซีดีเพลงก็จะประมาณ 350-500 บาท พอได้แผ่นแล้ว เราก็อยากจะรีบกลับบ้านไปนั่งฟัง 

ถึงบ้าน แกะเทป เปิดปกเทปอ่านชื่อทีมงาน อ่านชื่อคนแต่งเพลง อ่านชื่อโปรดิวเซอร์ อ่านข้อความที่ศิลปินเขียนบรรยายขอบคุณใครหลายคน อ่านเบื้องหลังการทำงาน ดูภาพที่เรียงอยู่บนปกเทป หรือ ปกซีดี แล้วเราก็เปิดเพลงฟัง สนุกอยู่กับเพลงทั้งอัลบั้ม อีก 1 ชั่วโมง เราก็ออกจากภวังค์ เราได้ลิ้มรสเพลงที่เรารอคอย ดีบ้าง เฉยๆบ้าง สิบเพลงอาจมีเพลงถูกใจเราสัก 3 เพลง และก็คงเปิดซ้ำไปซ้ำมาอีกหลายเดือน

ความชอบของคนฟังเพลงคือการได้ฟังเพลงจากวงดนตรีที่เราสนใจ หรือ ได้ฟังอัลบั้มที่ชอบ หรือ ได้ฟังเพลงรวมฮิตในแผ่นรวมฮิตที่ทุกเพลงดังอยู่แล้ว การได้ยินได้ฟังคือความบันเทิงของคนฟัง และถ้าเพลงมันดีถูกใจก็ถือว่ากำไรในด้านความรู้สึก ตลอดเวลาก่อนอินเทอเน็ตจะมีเพลงให้ฟังเราก็ใช้เงินหลายร้อยบาทสำหรับเพลง 1 อัลบั้ม และเราเป็นอย่างนี้อยู่เป็นสิบปี มีเแผ่นซีดีในบ้านอยู่นับร้อยแผ่น มีเทปอยู่ร้อยกว่าม้วน นี่คือนิสัยคนชอบฟังเพลงแต่ไม่ค่อยมีเงิน ไม่ต้องเทียบกับเพื่อนบางคนที่มีรายได้เยอะกว่า มีค่าขนมเยอะกว่า อาจมีเทปและแผ่นซีดีรวมกันเลยหลักพันชุด

photo

ที่เล่ามายืดยาวก็จะเข้าเรื่องว่าวันนี้ได้เครื่องเล่น ipod touch ตัวเก่ามาตัวหนึ่ง เป็น ipod touch gen3 เปิดตัวครั้งแรกปี คศ 2009 ที่บรรจุเพลงไว้ประมาณ 64Gb มีเพลง 9300 เพลง ipod อายุ 14 ปี กับเพลงที่ติดมากับเครื่อง สภาพใช้งานได้ เปิดเพลงฟังได้ เป็นความคุ้มค่าในราคามือสอง จ่ายไปแค่หนึ่งพันบาท ลองเปิดรายชื่อศิลปิน รายชื่ออัลบั้มพบว่ามีหลากหลาย มีวงที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก มีเพลงน่าฟังเยอะมาก ฟังอีก 1 ปี ก็ฟังไม่ครบ เหมือนเราได้แผงเทปหรือเหมาร้านขายแผ่นซีดีเอาไว้ในบ้าน ผมมั่นใจว่าจำนวนแผ่นซีดีที่จะเทียบกับสิ่งที่อยู่ใน ipod ตัวนี้น่าจะต้องใหญ่กว่าร้านเล็กๆตามซอกหลืบในห้าง ทำให้นึกถึงร้านขายแผ่นซีดีขนาดใหญ่อย่าง Tower record หรือ Quark record ซึ่งเป็นร้านที่ทำให้คนฟังเพลงรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อได้ไปเดินเล่นภายในร้าน และชาตินี้คงไม่พบร้านแนวนี้อีกแล้ว เพราะระบบการฟังเพลงเปลี่ยนไปเป็นการฟังผ่านอินเทอเน็ตกันหมดแล้ว ไม่มีร้านขายแผ่นซีดีให้เห็นแล้ว และที่บ้านก็ไม่มีเครื่องเปิดแผ่นซีดีแล้วด้วย

IMG_0308napa

การครอบครองเครื่องเล่นเพลงเป็นความสุขส่วนตัว เปิดฟังได้ทุกที่ ไม่มีอินเทอเน็ตก็มีเพลงฟัง ยิ่งมีเกือบหนึ่งหมื่นเพลงติดตัว ยิ่งทำให้สนุกกับการค่อยๆฟังเพลงไปเรื่อยๆ เพราะเพลงที่เราไม่เคยฟัง หรือเพลงดีที่ไม่ได้ฟังนานแล้ว มันก็คงหลบอยู่ในหนึ่งหมื่นเพลงนี้ แค่เปิดหน้าจอเลื่อนดูรายชื่อเพลง ก็มีความสุขแล้ว ใครที่ชอบฟังเพลง ลองหาของมือสองราคาไม่แพงเหล่านี้ไปฟังดู ลำโพงติดคอมพิวเตอร์สามารถใช้งานร่วมกับเครื่องเล่น ipod ได้แน่นอน แล้วคุณจะได้สัมผัสความสนุกจากการฟังเพลงอีกครั้ง โดยเราไม่ต้องไปสนใจคำว่า สตรีม ไฮเรส digital audio lossless dsd wav mp3 หรืออะไรที่เป็นศัพท์เทคนิคของระบบคอมพิวเตอร์ เราแค่เสียบลำโพงหรือหูฟังตัวโปรดแล้วเปิดเพลงฟัง แล้วก็อยู่กับดนตรีที่ปลดปล่อยออกมา

รีวิวเครื่องรับวิทยุพกพา Sony srf-18

การฟังสื่อในยุคปัจจุบันผู้คนส่วนมากก็จะใช้งานอยู่บนสมาร์ทโฟน หรือโทรศัพท์มือถือ ทั้งการดูคลิปวิดีโอและการฟังเพลงต่างๆ แม้แต่รายการข่าวหรือรายการทีวีก็จะดูผ่านอินเทอเน็ต อย่างการดู youtube ซึ่งให้คุณภาพที่ดีมาก แต่ก็ยังมีบางคนที่ยังรับสื่อจากอุปกรณ์โบราณ และใช้งานอยู่เป็นประจำอยู่ เพราะความโบราณยังคงมีจุดเด่นบางอย่างที่ยังน่าใช้งานอยู่

IMG_7705

เครื่องรับวิทยุยังคงเป็นอุปกรณ์ที่มีคุณค่าอยู่แม้การสื่อสารผ่านอินเทอเน็ตจะเฟื่องฟูสุดขีดแล้วก็ตาม เพราะวิทยุยังคงเป็นสื่อที่มีข้อมูลข่าวสารที่ทันสมัยและต้นทุนต่ำมากอย่างหาตัวเทียบได้ยาก และยิ่งหากดูในแง่ของความเสถียรแล้ว คลื่นวิทยุดูจะคงกระพันและหนังเหนียวตายยากที่สุดเสียด้วย

IMG_7706

ในแง่มุมเรื่องความสะดวกก็มีประเด็นให้สะดวกกว่า นั่นก็คือเปิดแล้วได้ยินเสียงทันที ไม่ต้องต่ออินเทอเน็ต ไม่ต้องลงโปรแกรม ไม่ต้องตั้งค่าอะไรให้วุ่นวาย เลื่อนสวิตซ์เปิดแล้วฟังได้เลย สถานีต่างๆก็จะมีข้อมูลแตกต่างกันไป ใครชอบเพลงก็เลื่อนไปสถานที่ที่เปิดเพลงเยอะหน่อย ใครชอบรายการข่าวก็เลื่อนไปฟังรายการสถานทีที่เน้นข่าว ไม่ต้องสนใจคำว่าเน็ตหมด เน็ตล่ม ไวไฟหาย ต่อไม่ติด และไม่มีคำว่ามือลั่นเปลี่ยนคลื่นเปลี่ยนสถานีด้วย

เครื่องรับวิทยุมีราคาหลากหลายตั้งแต่หลักร้อยบาทไปจนถึงเป็นหมื่นบาท แต่ละระดับราคาก็จะมีความสามารถและคุณภาพไม่เท่ากัน ยิ่งราคาสูงยิ่งมีความสามารถในการรับคลื่นได้ดี มีลูกเล่นอำนวยความสะดวก และมีคุณภาพเสียงที่ดีกว่าเพราะใช้วัสดุที่คุณภาพสูง แต่ก็ใช่ว่าของราคาต่ำจะไม่ดี ในการทดสอบครั้งนี้เราได้พบเครื่องรับวิทยุคุณภาพดี เสียงดี และราคาถูกด้วย นั่นก็คือ Sony srf-18

IMG_7708

Srf-18 เป็นเครื่องรับวิทยุขนาดเล็ก ใส่ถ่าน AA 2ก้อน สามารถพกพาใส่กระเป๋ากางเกง พกติดตัวได้ไม่ลำบาก ขนาดกระทัดรัด มีระบบการรับคลื่นเป็นอนาลอก ปรับจูนความถี่ด้วยปุ่มมือหมุน รับคลื่นได้ทั้ง FM และ AM. มีวอลลุ่มเร่งเสียงดังเบา มีช่องเสียบหูฟัง มีลำโพงในตัวสองดอก มีช่องรับสัญญาณเสียง Aux สามารถนำเครื่องเล่นเครื่องอื่นมาต่อเข้ากับตัวมันเพื่อใช้ srf-18 เป็นตัวขยายเสียงได้ ราคาขายในห้างอยู่ที่ 790 บาท

คุณภาพการรับคลื่น

IMG_7709

ทดลองฟังคลื่นระบบ FM ฟังสถานีส่วนใหญ่ได้ชัดเจน สถานีที่รับชัดจะสามารถรับเสียงเป็นสเตอริโอได้ เมื่อรับชัดและเป็นสเตอริโอจะมีไฟสีแดงสว่างขึ้นด้วย คุณภาพเสียงจากลำโพงในตัวจะไม่ดีมาก เพราะเป็นลำโพงขนาดเล็กและน้ำหนักเบา เราจะได้ยินเสียงกลางและแหลมเป็นส่วนใหญ่ แต่หากเราเสียบหูฟังก็จะพบว่าเสียงในหูฟังเป็นเสียงที่ดีมาก เมื่อปรับให้รับคลื่นชัดเจนแล้ว เสียงจะฟังสบาย มีความเป็นธรรมชาติ น้ำหนักเสียงมีทุ้ม มีแหลม มีมวลเสียงกลางเหมือนเป็นระบบเครื่องเสียงคุณภาพดี

IMG_7710

การปรับความถี่ใช้ระบบมือหมุน แต่ละสถานีที่ปรับเปลี่ยนจะมีระยะการหมุนที่ค่อนข้างแคบ สถานีที่อยู่ชิดกันมาก บางทีก็โดนข้ามไป ลักษณะการปรับหมุนแบบนี้เป็นวิธีการปรับแบบต้นทุนต่ำ ราคาไม่แพง และอุปกรณ์เครื่องรับวิทยุราคาประหยัดก็จะใช้วิธีการหมุนคลื่นแบบนี้ ในสถานีที่รับได้ Sony srf-18 มีความสามารถในการรับที่ชัดเจนดีมาก ทำให้หลายสถานีเราก็เลือกฟังได้ไม่ยาก

จุดเด่น

รับคลื่นได้ชัดเจน 

เสียงจากช่องหูฟังเสียงดี มีคุณภาพเหมือนเป็นเครื่องเล่นเน้นคุณภาพ

ราคาประหยัด

ใส่ถ่าน AA ได้

จุดด้อย

ระบบหมุนหาคลื่นมีระยะการหมุนแต่ละสถานีค่อนข้างแคบ ทำให้ข้ามบางสถานีไป

ไม่มีช่องต่อไฟเลี้ยง ต้องใส่ถ่านเท่านั้นทำให้มีความสิ้นเปลือง

ลำโพงให้เสียงธรรมดาค่อนข้างไปทางคุณภาพต่ำ

ถ้าฟังนานๆแล้วลืมปิดจะทำให้เปลืองถ่านมาก

ถ้าลืมถ่านไว้ภายในนานเกินไป อาจจะมีอาการถ่านเยิ้ม แล้วทำให้ตัวชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ภายในเสียหายได้

ไม่มีขาตั้งสำหรับจัดวางมุมเอียงเพื่อเชิดหน้าขึ้น

สรุป

Srf-18 เป็นเครื่องรับวิทยุคุณภาพดี สามารถครับคลื่นได้ชัดเจน แม้การปรับหมุนจะทำยากกว่าระบบเครื่องรับดิจิทัล แต่หากหมุนจนได้ค่าที่ชัดเจนแล้วจะให้เสียงที่ดีมาก และหากได้ต่อวิทยุเข้ากับหูฟัง จะทำให้เราได้ยินเสียงที่ดียิ่งขึ้น จะซื้อใช้เองก็ไม่แพง ซื้อแจกเป็นของขวัญก็ไม่น่าเกลียด เพราะมันเป็นของที่มีคุณภาพ

รีวิวหูฟัง หูฟัง QKZ X HBB

เมื่อพูดถึงหูฟังผมจะนึกถึงหูฟังทรง earbud ที่ใส่สบาย พกง่าย เป็นรูปแบบที่คุ้นเคยตั้งแต่สมัยเด็ก และอีกรูปแบบคือหูฟังทรงครอบหูหรือ Full size ที่ดูใหญ่โต และบีบหัว เสียงอาจจะดีมากแต่ก็ใหญ่เกินกว่าจะพกพา ใส่เดินเล่นนอกบ้านก็คงดูแปลกตา

IMG_5494

ความชอบในหูฟังที่มีมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เวลามีข่าวว่าหูฟังอะไรได้รับความนิยม หรือ มีหูฟังตัวไหนเสียงดีก็จะพยายามหามาฟัง มีบางครั้งที่ทดลองเสี่ยงซื้ัอโดยไม่ได้ลองฟังก็มีทั้งผิดหวังและสมหวัง แต่ส่วนมากจะผิดหวัง เพราะเสียงไม่ดีอย่างที่คาดหวัง

หูฟังชนิด inear เป็นหูฟังพกพาอีกรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมขึ้นมาในช่วงสิบกว่าปีนี้ หูฟังที่เริ่มแถมมากับโทรศัพท์ก็เปลี่ยนมาเป็นหูฟัง in ear กันหมดแล้ว ไม่มีใครแถม earbud อีกแล้ว และแทบไม่มีคนขายหน้าใหม่ที่ทำหูฟัง earbud ออกมาเลย 90% ในตลาดจะเป็นหูฟังแบบ inear

IMG_5480

หูฟัง inear เคยมีราคาสูง แต่ก็ค่อยๆมีราคาต่ำลง คงเป็นเพราะผลิตเยอะมากจนราคามันต่ำลงได้ และหูฟังจากประเทศจีนก็ทำตลาดในเมืองไทยได้เยอะมาก มีหูฟังยี่ห้อจากจีนเข้ามาให้คนไทยซื้อหลายยี่ห้อ และหนึ่งในหลายยี่ห้อที่ราคาถูกอย่างน่าประหลาดใจก็คือยี่ห้อ QKZ ซึ่งมีที่มาอย่างไรผมก็ไม่ได้หาข้อมูลเพิ่ม ผมเห็นว่ามีคนพูดถึงก็เลยลองสั่งมาทดลองใช้ดู แล้วก็พบว่ามันก็ดีน่าใช้

หูฟัง QKZ X HBB เป็นหูฟัง inear ส่วนมาก QKZ ที่พบจะราคาไม่ถึง 100 บาท แต่ตัวที่ทดลองนี้ราคาอยู่ที่ 469 บาท ซึ่งถือว่าแพงกว่าตัวอื่นเกือบห้าเท่า แต่ก็ยังราคาถูกอยู่ดีเมื่อเทียบกับหูฟังเสียงดีในอดีตที่ผ่านมา สายหูฟังเป็นพลาสติกมีรอยหยักเกลียวเล็กน้อย ทำให้สายไม่พันกันเวลาเก็บยัดๆไว้ในเป้ สายหูฟังถอดเปลี่ยนได้ มีไมโครโฟนมาด้วย สามารถใช้คุยโทรศัพท์ได้ ส่วนฟังเพลงทำได้อยู่แล้วและค่อนข้างดีเสียด้วย

qkzhbb-in1

คุณภาพเสียง

หูฟัง QKZ X HBB ให้น้ำเสียงที่มีเสียงกลางชัด เบสลึก และมีปริมาณที่เยอะแต่ยังไม่ล้นบวม เสียงในย่านทุ่มมีพลัง แต่ก็ต้องอาศัยการใส่หูฟังให้ได้มุมที่เหมาะสมกับหูด้วย เพราะจะช่วยทำให้เสียงเบสมีความคมชัดมากขึ้น เสียงสูงมีประกายที่ชัดและลากยาวได้ไกล ไม่ทึบ ไม่ห้วน ถือว่าเป็นเสียงทุ้มกลางแหลมที่มาครบทุกเสียงและมาแบบพอดีน่าฟังด้วย

ส่วนไมค์ที่ติดอยู่บนสายก็พบว่ามีอาการเสียงเบาเกินไป คู่สนทนาไม่ค่อยได้ยินเสียงของเราที่พูดเข้าไป อาจจะเป็นอาการเสียเฉพาะตัวที่บังเอิญอยู่ในหูฟังเส้นนี้ก็ได้

จุกยางที่แถมมาพร้อมหูฟังมีหลายขนาด ให้ลองเปลี่ยนขนาดที่เหมาะกับหูของเราดู เพราะผมต้องเปลี่ยนขนาดจุกยางถึงจะได้เสียงที่พอใจ ถ้าขนาดจุกยางเล็กเกินไปเสียงจะเล็กบาง เบสหาย ถ้าจุกยางใหญ่เกินไปเบสจะล้นไม่น่าฟัง ดังนั้นจุกที่ให้เสียงพอดีเราต้องทดลองเปลี่ยนดูเพื่อหาขนาดที่ให้เสียงที่เราชอบ

ระบบสายหูฟังที่เป็นแบบต้องแขวนคล้องใบหูก็เป็นการออกแบบที่เน้นให้หูฟังไม่หลุดออกจากหู แต่ก็ทำให้ถอดใส่ยากไปหน่อย

ทดลองฟังเพลง I can’t hide ของ Jennifer warn เป็นเพลงช้าโชวเสียงร้อง เสียงกลองหลายแบบ มีทั้งกลองใหญ่ทุ้มลึก และ เสียงเคาะขอบสแนร์ที่คมชัดหนักแน่น เบสที่เล่นประคองก็โอบล้อมเพลงให้ความรู้สึกอลังการ ทุกเสียงถ้าได้ยินผ่านลำโพงวางพื้นในห้องฟัง คงต้องเดาราคาว่าหลายหมื่น

ลองฟังเพลง Enter sandman ของวง Metalica. อัลบั้ม Black อินโทรเสียงกลองที่เป็นเอกลักษณ์ขึ้นมาก็รู้สึกสนุกทันที เสียงกลองใหญ่โต และมีขอบเขตที่ชัดเจน ไม่ได้ดังอื้ออึงฟังไม่รู้เรื่อง แต่ละเสียงขึ้นและจบในพื้นที่ของมันเอง เสียงกีต้าร์ไฟฟ้าเล่นเพาเวอร์คอร์ด แผดขึ้นมาไม่เสียดหู เสียงสแนร์ เสียงฉาบ มีเนื้อละเอียด ทอดยาว ไม่ทึบ หูฟังตัวนี้ให้เสียงผู้ดีมากๆ คือฟังทุกเสียงแล้วไม่แสบหูเลย

ไม่ว่าจะฟังเพลงโชว์เสียงร้อง หรือ เสียงกีต้าร์อคูสติก ทุกเสียงเหล่านี้จะมีมิติคมชัด เสียงร้องฟังออกเลยว่ามีเทคนิคการร้องยังไง ลองฟังเพลงเธอคือของขวัญ ของสิงโต นำโชค ผมว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่สิงโตทำได้ดีที่สุดเลยสำหรับความไพเราะ และคุณภาพการบันทึกเสียง

สามเพลงที่ยกมาเป็นตัวอย่างผมฟังจากไฟล์ที่ริบจากแผ่นต้นฉบับเก็บไว้ฟังเอง แผ่นก็ยังอยู่ แต่ไม่มีเครื่องเล่นซีดีแล้ว อาศัยเปิดเพลงด้วยคอมพิวเตอร์ โปรแกรมเปิดเพลงใช้ music ในเครื่อง Macbookair M1

สิ่งที่น่าประทับใจก็คือการให้โฟกัสเสียงที่นิ่งและแม่นยำ ปกติหูฟังคุณภาพต่ำจะให้เสียงไม่คมชัด คือเสียงหูซ้ายและขวาไม่ทับซ้อนกันในตำแหน่งที่เหมือนกัน ทำให้เสียงร้องเหมือนมีสองเสียง ส่วนหูฟังคุณภาพดี จะให้โฟกัสเสียงร้องที่ทับกันพอดี คมชัด ระบุตำแหน่งได้ชัดเจน QKZ HBB ตัวนี้ให้เสียงชัดเป๊ะ มิติเสียงร้องอยู่กลางหัวเลย ดนตรีแต่ละชิ้นที่จัดวาง ซ้ายบ้าง ขวาบ้าง ใกล้ ไกล แยกแยะ จัดวางได้ตำแหน่งต่างๆอย่างแม่นยำ ไม่มีเงาเสียงซ้อนกันเลย

b1e9715b-2803-479f-9c1c-23ced183a56d

ข้อดี

ราคาถูกแต่ให้เสียงดี โฟกัสเสียงคมชัด ตำแหน่งของเสียงต่างๆเป๊ะมาก

ข้อเสีย

หูฟัง QKZ X HBB มีรูปทรงที่อ้วนใหญ่ เป็น inear ที่มีบอดี้ของตัวมันค่อนข้างใหญ่ การใส่ inear ตัวใหญ่เข้าไว้ในหูนานๆจะทำให้ปวดหูได้ ถ้าจะใส่เล่นเกมส์ดูหนัง ก็อย่าใส่นานเกินไป 2-3 ชม. ก็รู้สึกอยากจะถอดออกแล้ว ความอึดอัดเป็นความรู้สึกส่วนตัว แต่ละคนไม่ได้รู้สึกเหมือนกัน ให้ทดลองใส่เองดู

สรุป

หูฟัง QKZ X HBB เป็นหูฟัง inear ที่ให้น้ำเสียงน่าฟัง แนวเสียงไฮไฟ ให้มิติเสียงต่างๆคมชัด ใช้ฟังดนตรีก็เพลิน ใช้เล่นเกมส์ก็ได้ แต่ต้องเลือกจุกยางให้เหมาะสมกับหูของเราซึ่งแต่ละคนจะมีความเหมาะสมไม่เหมือนกัน หูฟังตัวนี้ใส่นานๆแล้วรู้สึกอึดอัด อาจจะเพราะบอดี้ของหูและจุกยางที่ใหญ่เกินไป เพราะตอนใส่หูเราต้องทำให้จุกยางดันหูเล็กน้อยเพื่อปิดรูหูให้มิด เบสจะได้มีเยอะตามที่ต้องการ คิดว่าใช้งานฟังเพลงเพลินๆสัก 1-2 ชม. ก็พอทนถือว่าทำงานได้ดี คุ้มราคาค่าตัว ส่วนเรื่องไมค์รับเสียงในตัวผมว่าไม่ผ่าน เสียงเบาเกินไป แต่อาจจะเป็นความเสียหายเฉพาะเส้นนี้ก็ได้