ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย

นอกจากจะเป็นเรื่องของคนที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยตอนขับรถแล้ว ยังเป็นการโชว์โง่ของคนบางประเภทอีกด้วย

พาลูกเที่ยวพิพิธภัณฑ์ของเก่าต้องถึงวัยที่เหมาะสม

ขึ้นชื่อว่าพิพิธภัณฑ์จะเป็นสถานที่รวมข้อมูลความรู้เฉพาะทางเอาไว้ เมื่อก่อนตอนลูกเล็กระดับ 3-4 ขวบ พาไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ก็รู้สึกสนุก เพราะเหมือนได้เดินสวนสัตว์ เดินเข้าพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ก็เหมือนเดินดูของเล่น พอพาเข้าพิพิธภัณฑ์ของเก่าลูกก็เหมือนจะไม่เข้าใจ มีแต่พ่อแม่ที่อยากจะเดินดูนานๆ เพราะเด็กในวัยเล็กเกินไปจะยังไม่รู้ว่าสิ่งของโบราณคืออะไร

IMG_0271
IMG_0058
IMG_0050

แต่พอลูกอายุเกิน 10 ขวบ เขาเริ่มมีความทรงจำและความรู้ เริ่มรู้จักถาม เริ่มใช้สิ่งของต่างๆในยุคสมัยปัจจุบัน โทรศัพท์มือถือแบบหน้าจอสัมผัสคือสิ่งที่เขาเห็นมาตั้งแต่เกิด พอมาเจอโทรศัพท์บ้านยุคสามสิบปีที่แล้วก็ถึงกับใช้ไม่เป็น ได้แต่ถามว่ามันใช้ยังไง ตอนนี้นี่เองที่พ่อแม่ได้อธิบายหลักการ วิธีใช้ ทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้ว่า คนสมัยก่อนพยายามอย่างมากที่จะสื่อสารให้ได้ โทรศัพท์บ้านที่ดูแล้วไม่รู้จะกดไปหาใคร ไม่มีหน้าจอแสดงผลทำไมถึงคุยกับคนอื่นได้ คุยข้ามประเทศได้

ไปเจอเครื่องพิมพ์ดีด เด็กก็รู้ทันทีว่านี่คือญาติของคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ พ่อแม่ก็รออธิบาย ว่ามันคือพ่อของคีย์บอร์ดแบบที่เราใช้ทุกวันนี้ มีการเรียงตัวหนังสือเหมือนกัน ตัวหนังสือแถวบนมีเรียงเป็นตัว qwerty เหมือนกัน เด็กยืนมองแต่ก็ยังไม่เข้าใจว่ามีตัวหนังสือบนกระดาษได้ยังไง เลยต้องอธิบายกลไกการทำงาน มีสปริง มีก้านเหล็กที่จะคอยเด้งไปพิมพ์บนกระดาษ เสียดายตรงที่เครื่องพิมพ์ดีดอยู่ในสภาพใช้งานไม่ได้ เด็กเลยยังไม่รู้ว่ากระดาษถูกพิมพ์ได้อย่างไร คงต้องหาคลิปใน youtube ให้ดู

DSC00827
พิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง จ.ระยอง
DSC00819
เครื่องพิมพ์ letterpress แบบมือโยก ปัจจุบันยังมีบางโรงพิมพ์ใช้งานอยู่
แท่นเติมน้ำมัน
DSC00830
ร้านถ่ายภาพติดบัตร กล้องตัวใหญ่ ฟิล์มใหญ่ งานถ่ายภาพด้วยฟิล์มที่นักเรียนปัจจุบันไม่เคยใช้งานแล้ว
DSC00849
เกมส์วินนิ่งเมื่อก่อนมาเป็นโต๊ะเลย
DSC00898
ครกและสาก ปัจจุบันยังคงเดิม ยังใช้งานอยู่ในร้านอาหารทุกแห่ง ร้านส้มตำยังใช้อยู่ และยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
DSC00927
ร้านขายของชำ ต้นแบบเซเว่น
DSC00956
เครื่องเล่นแผ่นเสียงยุคแรก ใช้ไขลาน เสียงอู้อี้แค่พอรู้เรื่อง
เครื่องพิมพ์ดีด พ่อแม่ของคีย์บอร์ด
DSC01002
โทรศัพท์บ้านระบบมือหมุน
DSC01027
โทรศัพท์สาธารณะระบบเสียบบัตร
DSC01014
กระติกเก็บน้ำร้อน ต้นแบบของแก้วเยติ กระติกเก็บอุณหภูมิ

DSC01026

การพาเด็กเที่ยวพิพิธภัณฑ์ในตอนที่เด็กสามารถรับข้อมูลได้ สามารถตั้งคำถามได้ ก็จะเกิดการเรียนรู้ รับรู้อดีต รู้หลักการทำงาน เป็นการเที่ยวพิพิธภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ใครมีลูกอยู่ในวัยประถมปลาย ลองพาเด็กเที่ยวพิพิธภัณฑ์ที่แสดงของเก่าดู ช่วงเวลาแบบนี้จะเป็นจังหวะที่ดี พ่อแม่ได้โชว์ภูมิปัญญาสมัยเก่าที่ส่งต่อมาถึงสมัยใหม่ เด็กก็อยากรู้อยากเห็น พ่อแม่ก็ได้หายคิดถึง ได้เล่าให้ลูกฟัง

ถ่ายคลิปในที่ลมแรง ต้องมีตัวป้องกันเสียงลม windscreen

การถ่ายคลิปวิดีโอในปัจจุบันเป็นเรื่องง่าย เพราะทุกคนสามารถใช้สมาร์ทโฟนถ่ายคลิปวิดีโอได้อยู่แล้ว และกล้องดิจิทัลก็มีความสามารถในการถ่ายวิดีโอมาตั้งแต่ต้น ปัจจุบันความสามารถในการถ่ายวิดีโอก็สูงขึ้นเรื่อยๆ ความละเอียดมากขึ้น มีระบบกันสั่นที่ดีขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่พัฒนาไม่ทันคือเทคโนโลยีการป้องกันเสียงลม

s-l1600

การบันทึกคลิปวิดีโอจะมีปัญหาทันทีถ้ามีลมแรงพัดผ่านไมโครโฟนบนกล้อง ทั้งลมจากปาก และลมจากสิ่งแวดล้อม ไมโครโฟนจำนวนมากที่ต้องใช้กับปากคนจะต้องมีตัวฟองน้ำหุ้มเอาไว้ เราจะเรียกตัวฟองน้ำนี้ว่า windscreen เพราะเสียงลมจากปากจะทำให้เกิดเสียงพรึ่บพรั่บ

819U9cS8Z+L._AC_SX522_

ไมโครโฟนอีกหลายตัวจะมีตัวป้องกันลมเป็นแบบมีขน คนไทยก็เรียกขนแมว ฝรั่งก็เรียก dead cat ซึ่งมันก็คือ windscreen ชนิดหนึ่งนั่นเอง

กล้อง Sony Zv-1F เป็นกล้องคอมแพ็คที่ออกแบบมาให้ใช้บันทึกวิดีโอเป็นหลัก เน้นการใช้งานวิดีโอ และไมโครโฟนที่ติดอยู่บนกล้องก็เป็นไมค์คุณภาพดี แต่อย่างไรก็ตาม การใช้งานในที่ลมแรงก็จะมีปัญหาเรื่องเสียงเสมอ การป้องกันเสียงลมที่ดีที่สุดยังคงต้องใช้ตัวป้องกันแบบดั้งเดิม คือ ต้องมี windscreen ซึ่งเราก็จะเห็นตัวขนแมวสีขาวติดอยู่บนกล้อง หากไม่ใช้ก็สามารถถอดเก็บได้ ดังนั้น เมื่อเราจะใช้ Zv-1F ถ่ายคลิปวิดีโอก็ควรติดตัวป้องกันเสียงลมไว้เสมอ

ภาพด้านล่าง คลิปแรกจะเป็นการสาธิตการไม่ใช้ตัวป้องกันเสียงลม ส่วนคลิปด้านล่างจะใส่ตัวป้องกันเข้าไปด้วย ลองฟังเสียงคลื่นริมทะเลเปรียบเทียบกัน แล้วจะรู้ได้ว่า เสียงลมกระแทกไมโครโฟน หรือ เสียงพรึ่บพรั่บเป็นอย่างไร

คลิปบันทึกริมทะเล ลมแรง ไม่ใช้ windscreen

คลิปบันทึกริมทะเล ลมแรง ใช้ windscreen

กล้องใหม่เทียบกล้องเก่า

ขึ้นชื่อว่าเป็นอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ จะมีสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับของชนิดนี้คือของใหม่มักจะดีกว่าของเก่า ในแง่ของคุณภาพและประสิทธิภาพ เราจะเห็นได้จากโทรศัพท์ในปีนี้ ดีกว่าโทรศัพท์เมื่อห้าปีที่แล้วแทบจะทุกแง่มุม ยิ่งถ้าเทียบกันระดับ 10 ปี ยิ่งมีควาามแตกต่างกันอย่างมาก

กล้องถ่ายภาพก็อยู่ในวิธีคิดเดียวกัน กล้องที่ผลิตออกมาในปีนี้หรือรุ่นล่าสุด ย่อมดีกว่ากล้องเมื่อสิบปีที่แล้ว ทั้งในด้านของคุณภาพของภาพ และความไวแสงของกล้อง กล้อง DSLR รุ่นแรกๆยุคยี่สิบปีที่แล้ว ถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยภายในบ้านก็ให้ภาพที่แตกยับแล้ว แต่กล้องสมัยใหม่ ถ่ายภาพในห้องนอนแสงน้อยๆ ก็ถ่ายได้หน้าตาเฉย ให้ภาพที่ดีกว่ากันมาก

แม้แต่รายละเอียดของกล้องก็มีให้มากขึ้น จากภาพทดลองถ่ายภาพลูกฟุตบอลในสนามหญ้า ตอนกลางวัน ซึ่งจะเป็นสถานการณ์ที่มีแสงสว่างเพียงพอ คุณภาพของกล้องในด้าน iso จะไม่ต้องเร่ง iso ให้สูง ดังนั้นเราจะเห็นคุณภาพในด้านรายละเอียดได้ชัดเจน ถ่ายภาพแรกด้วยกล้อง DSLR canon Eos6d เป็นกล้องที่เปิดตัวในปี 2012 ติดเลนส์ 24-105F4L ตั้งค่า iso เป็น Auto ถ่ายด้วยโหมด A ให้กล้องเลือกค่าความไวชัตเตอร์ให้เอง

IMG_1745

ส่วนอีกภาพจะเป็นภาพที่ถ่ายด้วยกล้อง Sony ZV-1F เป็นกล้องคอมแพ็คที่เปิดตัวในปี 2022 ตั้งค่า iso Auto ถ่ายด้วยโหมด A รูรับแสง F2 แล้วให้กล้องเลือกความไวชัตเตอร์ให้ โดยเลือกซูมภาพไปที่ 2X บนเลนส์ 20mm

DSC00672

จะเห็นได้ว่า ภาพมีความสว่างต่างกัน กล้องรุ่นใหม่จะให้รายละเอียดในเงามืดได้มากกว่า สภาพแสงในส่วนที่เป็นเงาจะไม่เข้มเท่ากล้องเก่า ตัวประมวลผลในกล้องรุ่นใหม่จะเน้นให้รายละเอียดได้รับการมองเห็นมากขึ้นกว่ากล้องรุ่นเก่า ภาพลักษณะนี้ถ้าถ่ายด้วยสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ จะยิ่งเก็บรายละเอียดส่วนมืดได้ดีขณะที่ส่วนสว่างก็ยังเห็นรายละเอียด

กล้องยิ่งใหม่ ความสามารถในการเก็บความแตกต่างของแสงยิ่งได้หลายสต๊อปมากขึ้น เราจะเรียกว่ามีไดนามิคเร้นจ์ที่กว้างมาก กล้องรุ่นเก่าไดนามิคเร้นจ์จะต่ำกว่า ต่อให้เป็นกล้องระดับโปรในอดีต ก็ยังเก็บไดนามิคเร้นจ์ได้ไม่เท่ากล้องรุ่นใหม่แม้จะเป็นเพียงกล้องคอมแพ็คหรือสมาร์ทโฟน ดังนั้น ในเรื่องของกล้องดิจิทัลซึ่งเป็นอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ เราควรเลือกกล้องใหม่ เพิ่งออกใหม่ จะดีกว่ากล้องเก่าเสมอ

ออกแบบสติ๊กเกอร์สบู่ แชมพู ครีมนวดผม

โรงแรมแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิทกำลังจะติดตั้งตัวจ่ายสบู่ แชมพู และครีมนวดผมในห้องน้ำ เจ้าของแจ้งว่าตัวอุปกรณ์กำลังจะติดตั้ง จะทำสติ๊กเกอร์คำว่า Soap Shampoo และ Conditioner มาติดที่ด้านหน้าตัวเครื่อง มีเพียงภาพสเป็คจากคนขายให้

281894

ทางโรงพิมพ์ก็เลยให้กราฟิคจัดการวางข้อความและโลโก้ให้ตามที่เจ้าของอยากได้ เอาโลโก้มาจากสิ่งพิมพ์ตัวอื่นที่เคยผลิตให้มาวางร่วมกับคำว่า Soap Shampoo และ Conditioner โดยเมื่อวาดอาร์ตเวิร์ค กำหนดขนาดแล้ว ก็จัดการรีทัชภาพตัวเครื่องให้มีข้อความด้วย จะได้ดูตำแหน่งการติดสติ๊กเกอร์บนของจริงเพื่อให้เข้าใจตรงกัน

Print

การติดสติ๊กเกอร์บนผลิตภัณฑ์ในห้องน้ำควรใช้สติ๊กเกอร์เนื้อพลาสติกที่สามารถโดนน้ำได้ สติ๊กเกอร์จะไม่เปียก ไม่ซึมน้ำ ไม่เปื่อย สามารถติดอยู่บนวัสดุได้นาน เนื้อสติ๊กเกอร์ที่เราเลือกให้คือสติ๊กเกอร์ PP แบบใส พิมพ์ด้วยระบบดิจิทัลเพราะงานมีจำนวนไม่มาก

โรงพิมพ์ของเราสามารถทำงานจำนวนน้อยด้วยราคาไม่แพง และหากจะต้องการผลิตจำนวนมากเพื่อให้ราคาต่อหน่วยถูกลงก็สามารถทำได้

โรงพิมพ์จอมทอง

วิธีใส่ลายเซ็นลงในเอกสาร pdf

เดี๋ยวนี้การสื่อสารผ่านระบบอินเทอเน็ตคือช่องทางหลักของธุรกิจและชีวิตส่วนตัว หลายครั้งที่เราจะต้องเซ็นเอกสารซึ่งต้นทางส่งเอกสารมาเป็นไฟล์ชนิด pdf และเราก็อยากจะเซ็นและส่งกลับไปเลย เมื่อก่อน เราจะต้องพิมพ์เอกสารออกมาเป็นกระดาษ แล้วก็เซ็นชื่อ แล้วก็ถ่ายภาพส่งไฟล์ภาพกลับไป แม้ว่ามันจะใช้งานได้ แต่มันก็ไม่สวย ไม่เรียบร้อย

ถ้าเลือกได้ก็อยากจะเสกลายเซ็นให้ไปโผล่ในเอกสาร pdf ไปเลย แล้วก็ส่งกลับไป ซึ่งถ้าเราใช้คอมพิวเตอร์ของแม็ค เราก็มีวิธีที่จะทำได้ง่าย โดยเราจะอาศัยความสามารถของเครื่องแม็คที่มีกล้องเว็บแคม หรือ โน้ตบุ๊คนั่นเอง และผมเองก็ไม่แน่ใจว่าความสามารถนี้มีมาให้ใช้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ผมทดลองใช้งานด้วยเครื่องแม็คบุ๊คแอร์รุ่นที่ออกจำหน่ายในปี คศ 2010 และทดลองใส่ลายเซ็นในปีนี้ ปี คศ 2022

รวมภาพจาก ZV-1f สไตล์ฟิล์ม

กล้องคอมแพ็คของ Sony รุ่น ZV-1f เป็นกล้องที่มีโหมดสี FL หรือ ย่อมาจากคำว่า Film look ซึ่งเป็นสไตล์สีที่ทำเลียนแบบภาพจากฟิล์ม อดีตเวลาเราถ่ายภาพด้วยฟิล์ม หากต้องการจะดูภาพเราก็ต้องอัดภาพมาเป็นกระดาษ และหากจะดูภาพในจอคอมพิวเตอร์หรือในสมาร์ทโฟน เราก็ต้องสแกนฟิล์มเป็นไฟล์ภาพ ซึ่งร้านล้างฟิล์มก็จะมีบริการสแกนฟิล์มด้วย บางคนไม่อัดภาพเป็นกระดาษแล้ว ก็จะส่งฟิล์มไปล้าง+สแกนเลย เราก็จะได้ดูภาพจากฟิล์ม

DSC00378

แต่กว่าจะเสร็จสิ้นขบวนการล้างและสแกน ก็ใช้เวลาหลายวัน หรือแม้แต่การไปส่งฟิล์มแล้วนั่งรอ ก็ต้องลุ้นว่าทางร้านจะล้างฟิล์มให้ได้ในวันเดียวไหม ความไม่สะดวกเรื่องเวลาทำให้กล้องดิจิทัลที่ให้ภาพสไตล์ฟิล์มได้เริ่มน่าสนใจ และก็พบว่าใน ZV-1f มีโหมดภาพสไตล์ฟิล์มมาให้ช่างภาพที่นิยมภาพจากฟิล์มได้มีของเล่นติดตัวชิ้นใหม่

นอกจากภาพสไตล์ฟิล์มแล้ว เรายังสามารถเลือกสไตล์สีแบบนี้ตอนถ่ายวิดีโอได้ด้วย ทำให้เราได้ภาพเคลื่อนไหวที่ดูคล้ายฟิล์มเช่นกัน และมันก็ดูเป็นสีสันที่น่ามอง เหมือนภาพจากโรงหนัง เหมือนภาพงานหนังอาร์ตที่มีสีอมเขียวอมฟ้าเล็กน้อย บางคนใช้กล้องโปรตัวใหญ่ถ่ายคลิปทำงานโปรดักชั่นสุดเนี้ยบแล้วในขั้นตอนสุดท้ายก็ย้อมสีทั้งงานให้เป็นสไตล์หนังอาร์ต ซึ่งแนวสีที่ถ่ายคลิปได้เหมือนหนังอาร์ตมีให้ใช้ตรงๆ เราได้ภาพสีอาร์ตในขั้นตอนการถ่ายเลย จบหลังกล้องจริงๆ

DSC00398

กล้อง ZV-1f มีจอภาพแบบ flip บิดกางออก ปรับหมุนเพื่อถ่ายภาพแนวดิ่ง ภาพก้มลงมองจานอาหารได้สะดวก ทำให้ถ่ายภาพของกินได้มุมมองที่แปลกตามากขึ้น จอภาพที่หมุนได้รอบตัวช่วยให้เราจัดองค์ประกอบภาพได้อิสระมาก แม้แต่การบิดจอเพื่อถ่ายตัวเอง ก็เป็นเรื่องที่ทำได้สะดวก เหมาะกับการทำงานคนเดียว ถือกล้องเอง ดูจอเอง เลือกมุมกล้องเอง ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมให้รุงรัง

DSC00517

การถ่ายคลิปวิดีโอด้วยเฟรมภาพสูงระดับ 120ภาพต่อวินาทีหรือ 120fps แล้วนำมาเล่นกลับในความเร็ว 30 ภาพต่อนาที ก็จะได้ภาพสโลว์ที่สวยงาม เหมาะกับเหตุการณ์ที่มีการเคลื่อนไหวเร็ว และยิ่งมีสไตล์สีที่ดูเป็นโทนหนังอาร์ต ก็ทำให้คลิปดูน่าสนใจมากขึ้น

DSC00631
DSC00627

ด้วยเลนส์ติดกล้องเป็นเลนส์รูรับแสงกว้างระดับ f2 ทำให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยเป็นเรื่องง่าย เพราะความไวแสงของเลนส์และการตั้งค่า iso ที่สูงขึ้นโดยสัญญาณรบกวนน้อยตามสไตล์กล้องยุคใหม่ ภาพบรรยากาศในโรงแรมที่มีแสงไม่เยอะมากก็เก็บภาพได้ เล่าเรื่องด้วยสไตล์สีที่น่ามองได้

DSC00637

เลนส์มุมกว้างเทียบเท่ากับเลนส์ 20มม. เป็นเลนส์ที่ให้ภาพดูยิ่งใหญ่ อลังการ เหมาะกับการถ่ายในที่แคบแล้วเก็บภาพได้เหมือนตาเห็น เรายืนคุยกับใคร มองอะไร เรายกกล้องถ่ายด้วยเลนส์ 20มม. เราจะได้วัตถุที่เรามองเห็นอยู่ในภาพเลย โดยไม่ต้องถอย

DSC00570

สรุป

สไตล์ภาพ FL หรือ Film Look เป็นสไตล์สีที่เลียนแบบภาพจากฟิล์ม ให้โทนภาพอมเขียวอมฟ้าดูคล้ายภาพจากหนังหรือมิวสิควิดีโอที่แต่งสีหรือปรับสีมาแล้ว เป็นการทำสีเสร็จในกล้องเลย ถ่ายเสร็จก็ได้ภาพสีที่ต้องการเลย ไม่ต้องไปเสียเวลาทำต่อในโปรแกรมตัดต่อ เหมาะกับช่างภาพหรือคนที่ต้องการลดขั้นตอนการทำงานให้น้อยที่สุด ทีมงานตัวคนเดียวควรจะมีอุปกรณ์แบบนี้ใช้งาน

DSC02230
DSC02168
DSC01788
DSC01696
IMG_20240331_212007
IMG_20240608_203709
DSC01735
DSC01602
IMG_20240318_104825
1710671844668
DSC02808
DSC02871
DSC02787
DSC02697

สั่งซื้อที่นี่ https://shope.ee/9eyuQHL1zl

ฟิลเตอร์ปกป้องหน้าเลนส์อาจทำให้ภาพแย่ลง

ปกติเวลาเราซื้อกล้องและเลนส์มาใช้งาน คนขายก็มักจะขายฟิลเตอร์พ่วงให้มาด้วย ด้วยคำแนะนำว่าเอาไว้ปกป้องหน้าเลนส์ ในยุคของการถ่ายฟิล์ม ฟิลเตอร์ติดหน้าเลนส์มีหลายหน้าที่นอกจากปกป้องหน้าเลนส์ คือบ้างก็เป็นฟิลเตอร์ UV ป้องกันแสง UV หรือไม่ก็เป็นฟิลเตอร์ Skylight เพื่อลดผลของแสงสีฟ้าที่จะทำให้ภาพดูจืดลง

ฟิลเตอร์ที่ไม่ลดค่าแสง และอาจจะช่วยเปลี่ยนสีของการถ่ายภาพด้วยฟิล์มเล็กน้อยเหล่านี้กลายเป็นฟิลเตอร์สามัญประจำบ้าน ประจำกล้อง ประจำเลนส์ ทุกคนจะหาฟิลเตอร์ 1 ชิ้นมาติดหน้าเลนส์เสมอ โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือป้องกันหน้าเลนส์จากการขีดข่วน เพื่อรักษาเลนส์ให้ปลอยภัย แต่ฟิลเตอร์หน้าเลนส์เหล่านี้ก็จะมีคุณภาพที่แตกต่างกันไปตามราคา ยิ่งใช้เลนส์แพง ก็ยิ่งจะต้องหาฟิลเตอร์ติดหน้าเลนส์ที่ราคาแพงขึ้นมาใช้ มันมีเหตุผลอยู่

DSC00562
ฟิลเตอร์ uv ติดหน้าเลนส์

ZV1FW
กล้อง Sony ZV-1F ยังไม่ใส่ฟิลเตอร์

IMG_1192
กล้อง Sony ZV-1F ใส่ฟิลเตอร์ UV

ปกติเลนส์จะให้คุณภาพสูงสุดเท่าที่วัสดุที่ใช้ทำเลนส์จะให้ได้ พูดให้เข้าใจง่ายก็คือ ชิ้นแก้วที่กระจอกที่สุดในเลนส์ตัวนั้นคือตัวกำหนดคุณภาพของเลนส์ทั้งชิ้น ยกตัวอย่างเช่น เลนส์หนึ่งกระบอกจะมีชิ้นแก้วภายในสมมุติว่ามี 10 ชิ้น แต่ละชิ้นก็จะทำหน้าที่ส่งผ่านแสงไปเรื่อยๆ ดังนั้นถ้าพูดอีกอย่างว่า คุณภาพชิ้นแก้วในเลนส์ตัวนี้จะมีราคาเฉลี่ยประมาณ 1/10 ของราคาเลนส์ ถ้าเลนส์ราคา3 หมื่น ชิ้นแก้วทั้ง 10 ชิ้น ก็จะมีราคาประมาณ 3000 บาท ดังนั้น ฟิลเตอร์ที่จะนำมาบังหน้าเลนส์ ก็ควรจะมีคุณภาพไม่ด้อยหรือคุณภาพควรจะดีเทียบเท่าวัสดุในเลนส์เป็นอย่างน้อย เพื่อไม่ให้ลดทอนคุณภาพชิ้นแก้วทั้งหมด เราก็ควรหาฟิลเตอร์ที่มีคุณภาพสูงระดับราคาประมาณ 3000 บาทมาใช้ การจะไปซื้อฟิลเตอร์ราคา 100 บาท มาติดหน้าเลนส์ เราคงได้แค่กระจกธรรมดาไม่มีคุณภาพในการส่งผ่านแสงที่ดีเหมือนในชิ้นแก้วในเลนส์

เราจึงเห็นฟิลเตอร์ UV หรือ ฟิลเตอร์ปกป้องหน้าเลนส์ ชิ้นละ 3000-4000 บาท ยี่ห้อมีชื่อเสียง เป็นฟิลเตอร์คุณภาพสูงที่ส่งผ่านแสงได้ดี และไม่สร้างผลเสียกับแสงที่วิ่งผ่านไป อาการแฟลร์จะน้อยลง ความเพี้ยน หรือ ภาพหลอนจะน้อยลง เพราะวัสดุคุณภาพสูง จะได้ไม่ลดทอนเลนส์ราคาแพงที่เราซื้อมาใช้

ลองดูผลของฟิลเตอร์ราคาถูกกันดีกว่า ว่าการซื้อมาปกป้องหน้าเลนส์แล้วมีผลอย่างไร

DSC00561
ภาพตัวอย่างที่ 2 กล้อง Sony ZV-1F ไม่ใส่ฟิลเตอร์
DSC00560
ภาพตัวอย่างที่ 3 กล้อง Sony ZV-1F ใส่ฟิลเตอร์ uv. เพื่อปกป้องหน้าเลนส์

ภาพตัวอย่างภาพ2 ถ่ายด้วยกล้อง ZV-1F ซึ่งเป็นกล้องคอมแพ็ค ตัวกล้องมีเกลียวสำหรับใสฟิลเตอร์ได้ ถ่ายภาพแรกโดยไม่ใส่ฟิลเตอร์ใดๆ และภาพตัวอย่างที่3 ก็ใส่ฟิลเตอร์ UV 40.5 มม เป็นฟิลเตอร์ราคา 100 บาทยี่ห้ออะไรก็จำไม่ได้ ใส่ไว้เพื่อปกป้องหน้าเลนส์ ลองถ่ายภาพมุมเดียวกัน ซึ่งเป็นมุมที่มีดวงอาทิตย์อยู่ในภาพด้วย ผลก็คือขอบฟิลเตอร์สะท้อนแสงและส่งผลให้เปิดเป็นภาพหลอน ติดอยู่ในภาพ

อาการภาพหลอนจากการสะท้อนแสงขนาดแรงเท่านี้ปกติจะไม่เกิดขึ้นถ้าเราไม่ถ่ายย้อนแสง หรือ แหล่งกำเนิดแสงอย่างดวงอาทิตย์ไม่อยู่ในภาพ คำบอกเล่าของช่างภาพในอดีตจึงมักจะมีคำแนะนำว่าอย่าถ่ายภาพย้อนแสง ซึ่งจริงๆแล้วเป็นการหลีกเลี่ยงแสงแฟลร์ แสงสะท้อน หรือภาพหลอนเหล่านี้นั่นเอง ฟิลเตอร์ติดหน้าเลนส์จะมีผลต่อภาพหลอนเหล่านี้ ดังนั้นหากเราจะต้องถ่ายภาพย้อนแสงตรงๆ หรือ มีดวงอาทิตย์อยู่ในภาพด้วย เราก็ควรจะคิดระวังเรื่องฟิลเตอร์จะสร้างภาพหลอน เราก็ควรจะถอดฟิลเตอร์ถ่ายภาพ เพื่อป้องกันอาการภาพหลอน ภาพเพี้ยนจากการสะท้อนแสงที่ไม่ต้องการ

อีกสาเหตุหนึ่งที่น่าจะมีผลด้วยคือ กล้องสีขาว วัสดุหน้าเลนส์ก็สีขาว ทำให้สะท้อนแสงแรงมาก และสะท้อนไปกระทบฟิลเตอร์ ทำให้เลนส์มองเห็นภาพสะท้อนบนฟิลเตอร์ อาการเหมือนรถยนต์ที่เราวางของอะไรไว้บนคอนโซลรถยนต์ที่เป็นสีอ่อนๆ เราจะเห็นเงาสะท้อนสีอ่อนๆหรือเห็นวัตถุนั้นเลยในกระจก ตาเราก็เหมือนเซนเซอร์ กระจกรถก็เหมือนฟิลเตอร์ คอนโซลรถก็เหมือนวัสดุหน้าเลนส์ ของที่วางก็เหมือนสีขาวที่อยู่หน้าเลนส์

DSC00563

DSC00564
ภาพตัวอย่างที่ 5 กล้อง Sony ZV-1F ถอดฟิลเตอร์

ภาพตัวอย่างที่ 4 คือการถ่ายภาพที่เราจัดให้ดวงอาทิตย์อยู่ที่ขอบภาพด้านซ้ายบน และดูในจอภาพก็เห็นแสงสะท้อนจำนวนมากอยู่ที่ด้านขวาของภาพ มันคือแสงสะท้อนในฟิลเตอร์แล้วเกิดเป็นภาพหลอน พอเห็นว่ามีอาการหลอนแบบนี้ก็เลยถอดฟิลเตอร์แล้วถ่ายภาพใหม่ เราก็จะได้ภาพตัวอย่างที่ 5 ซึ่งไม่มีภาพหลอนแล้ว

การถอดฟิลเตอร์สามารถช่วยแก้ปัญหาภาพหลอนหรือภาพคุณภาพต่ำได้ เพราะฟิลเตอร์ที่นำมาใช้งานเพื่อปกป้องหน้าเลนส์มักเป็นฟิลเตอร์ราคาถูก วัสดุที่ใช้ทำฟิลเตอร์ก็จะมีคุณสมบัติทางแสงที่ไม่ดี กล้องและเลนส์ราคาแพงที่เราซื้อมาหากโดนฟิลเตอร์ราคาต่ำบดบังหน้าเลนส์เอาไว้ คุณภาพของภาพก็จะแย่เท่าฟิลเตอร์ ดังนั้นการเลือกฟิลเตอร์ก็เป็นสิ่งที่ต้องพิถีพิถัน ถ้าเราอยากถ่ายภาพให้มีคุณภาพสูงตลอดเวลา เราควรลงทุนกับฟิลเตอร์ด้วย แต่หากเราคิดว่าฟิลเตอร์ไม่ควรจะซื้อแพง การไม่ใช้ฟิลเตอร์เลยจะให้ผลที่ดีกว่า และดีที่สุดด้วย ดีกว่าฟิลเตอร์ทุกยี่ห้อทุกรุ่น

แต่ก็มีบางกรณีที่เราจำเป็นต้องใช้ฟิลเตอร์ เพราะเราอาจต้องการผลลัพธ์บางอย่างจากฟิลเตอร์ ยกตัวอย่างภาพด้านล่างนี้ แสงสะท้อนเป็นวงกลมที่เกิดขึ้นในภาพเป็นสิ่งที่ช่วยให้ภาพนี้ดูมีเรื่องราว มีชีวิตชีวามากขึ้น การใช้ฟิลเตอร์เพราะคิดแล้วว่าอยากได้ผลลัพธ์อะไรเป็นสิ่งที่ใช้ได้เพราะคิดก่อนใช้

IMG_20191215_185505
ภาพที่ 6 แสงสะท้อนดวงอาทิตย์ กล้อง Canon EOS 6D เลนส์ 24-105L ฟิลเตอร์ UV ใช้ฟิลเตอร์เพื่อสร้างภาพหลอนวงกลม

สรุป

ฟิลเตอร์ปกป้องหน้าเลนส์จะทำลายคุณภาพของภาพถ่ายหากเราใช้ฟิลเตอร์คุณภาพต่ำ การไม่ใช้ฟิลเตอร์จะให้คุณภาพดีที่สุด นอกเสียจากเราต้องการใช้ฟิลเตอร์เพื่อสร้างผลลัพธ์บางอย่างที่เราต้องการ การศึกษาทำความเข้าใจอุปกรณ์เป็นสิ่งจำเป็น ทำให้เราพัฒนาฝีมือการถ่ายภาพให้สูงขึ้นได้ และช่วยให้เราประหยัดเงินได้ แค่เราไม่ซื้ออุปกรณ์ที่ทำให้ภาพไม่สวย ก็ประหยัดเงินได้มากแล้ว

แต่เคสภาพหลอนหน้าเลนส์ครั้งนี้อาจมีสาเหตุมาจากกล้องเป็นสีขาว วัสดุหน้าเลนส์เป็นสีขาว และมีส่วนที่ดูเป็นโลหะสีเงิน ซึ่งน่าจะสะท้อนแสงแดดแล้วไปเกิดภาพหลอดบนกระจกฟิลเตอร์ ทำให้เซ็นเซอร์รับภาพหลอนที่ชัดเจนมาก การเลือกซื้อกล้องจึงไม่ควรเลือกสีขาว โดยเฉพาะวัสดุที่อยู่หน้าเลนส์ก็ไม่ควรมีสีขาวเลย

แล้วก็ถ้าจะจำว่า อย่าถ่ายภาพย้อนแสงก็เป็นคำแนะนำที่ไม่ผิด ไม่แย่ ช่วยให้เราได้ภาพที่มีคุณภาพได้ แต่จะขอให้คำแนะนำเพิ่มเติมใหม่ใช้จำไปใช้ได้ทุกสถานการณ์ อย่าให้เลนส์โดนแสงอาทิตย์ตรงๆ มันก็คือการป้องกันแสงสะท้อนที่ไม่พึงประสงค์นั่นเอง การป้องกันไม่ให้เลนส์โดนแสง เราสามารถทำได้ตั้งแต่ ไม่ถ่ายภาพย้อนแสง หรือ หาอะไรมาบังทำหน้าที่เป็นฮู้ดบังแสง เพื่อไม่ให้แสงจากดวงอาทิตย์กระทบกับชิ้นเลนส์โดยตรง เพราะ Best filter in no filter.

รีวิว วิทยุพกพา Rysamton

เครื่องรับวิทยุเป็นแหล่งบันเทิงราคาประหยัดที่สุดในยุคอินเทอเน็ต และเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่อดีต เราสามารถฟังเพลง ฟังรายการพูดคุย ฟังข่าวสาร ได้รับข้อมูลทางเสียงโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่ต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอเน็ต ในประเทศที่มีภัยธรรมชาติรุนแรงอย่างประเทศญี่ปุ่นก็ยังคงมีวิทยุขาย เพราะเป็นอุปกรณ์จำเป็นสำหรับการสื่อสารกับประชาชนในตอนที่ระบบไฮเทคมีปัญหานั่นเอง

20240229223252_IMG_1465

เครื่องรับวิทยุได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เป็นอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ที่ยังคงถูกใช้งานอยู่ทุกมุมโลก จากการรับคลื่นวิทยุด้วยระบบมือหมุนแบบอนาลอก ก็พัฒนาไปสู่การรับคลื่นด้วยวงจรเลือกสถานีแบบดิจิทัล ใช้วงจรอิเล็คทรอนิกส์ทันสมัยมารับคลื่นความถี่อนาลอก ทำให้มีความแม่นยำ และมีคุณภาพเสียงที่ดี รวมกับการพัฒนาชิพไอซีต่างๆที่มีความสามารถสูงขึ้น หน่วยความจำมากขึ้นในราคาที่ถูกลง ทำให้การใส่ลูกเล่นต่างๆลงในเครื่องรับวิทยุเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายดาย

20240229223137_IMG_1463

รูปลักษณ์ภายนอก

Rysamton เป็นเครื่องรับวิทยุ สามารถรับคลื่น FM AM และ SW มีการควบคุมการรับด้วยระบบดิจิทัล มีหน้าจอขนาดใหญ่ มีไฟสีส้มเรืองแสงให้ดูได้ง่ายในตอนกดใช้งาน ไฟจะสว่างอยู่ประมาณ 2 วินาทีแล้วดับทุกครั้งที่มีการกดปุ่มใดๆบนเครื่อง ด้านหน้าเครื่องเป็นปุ่มกดจำนวนมาก มีปุ่มเปิดปิดอยู่ด้านขวาบน ปุ่มปรับระดับเสียงอยู่ใต้ปุ่มเปิดปิด ที่เหลือปุ่มด้านหน้าทั้งหมดเอาไว้สแกนคลื่นความถี่ เปิดเครื่อง ดึงเสาให้ยืด แล้วกดปุ่ม scan เครื่องจะสแกนความถี่ที่รับได้ในพื้นที่นั้นแล้วบันทึกไว้ทั้งหมด กดเลือกบันทึกสถานีที่ชอบมากๆได้ 3 สถานี โดยจะอยู่ในปุ่มแยกพิเศษ CH-01 CH-02 CH-03 เลือกฟังสถานีที่บันทึกไว้ทั้งหมดได้ผ่านทางปุ่ม M+ และ M-

20240229223338_IMG_1466

ด้านข้างของตัวเครื่องเป็นปุ่มหมุนเพื่อเปลี่ยนคลื่น เป็นลูกกลิ้งที่หมุนขึ้นหรือจะหมุนลงได้อิสระ ไม่มีสิ้นสุด การหมุนจะทำให้เครื่องเปลี่ยนความถี่ที่จะรับไปทีละ 0.1 MHz เราก็เพียงแค่หมุนปุ่มหาคลื่นไปเรื่อยๆจนเจอสถานีที่อยากฟัง การสั่งเปลี่ยนคลื่นแบบมือหมุนแต่เป็นการทำงานแบบดิจิทัลทำให้การเลือกรับคลื่นทำได้แม่นยำ ชัดเจน และเครื่องรับวิทยุเครื่องนี้ก็มีคุณภาพการรับคลื่นที่ไวมาก แม่นยำมาก สถานีที่รับยากที่เคยลองใช้กับเครื่องรับวิทยุมือหมุนอื่นๆเครื่องนี้ก็รับได้ดีกว่า ถัดจากปุ่มหมุนหาเคลื่อนแล้ว ก็มีช่องเสียบไฟ 3V dc ทำให้เราสามารถใช้อแด๊ปเตอร์ได้นอกเหนือจากการใส่แบตเตอรี่ และมีช่องเสียบหูฟัง 3.5มม. ซึ่งเสียงในช่องนี้จะส่งออกมาเป็นสเตอริโอ ฟังเพลงเพราะใช้ได้เลย

20240229223414_IMG_1467

ด้านหลังมีเสารับสัญญาณสามารถยืดออกมาได้ยาวมากเพื่อช่วยรับคลื่น มีช่องใส่ถ่านหรือแบตเตอรี่ขนาด AA จำนวน 2 ก้อน ใช้แบตอัลคาไลน์ได้ ใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จเครื่องก็ทำงานได้ แต่ยังไม่ได้ลองว่าถ้าเสียบไฟเลี้ยง 3V แล้วจะชาร์จไฟในตัวได้ไหม และด้านหลังก็ยังมีขาตั้งอีก 1 จุด เอาไว้กางออกมาเพื่อจัดวางวิทยุให้อยู่ในมุมเอียง เพื่อใช้วางบนโต๊ะแล้วตั้งแบบเอียงวิทยุเข้าหาคนฟังได้ เป็นการออกแบบที่ดีมากสำหรับการใช้งานในบ้าน

คุณภาพการใช้งาน
เครื่องรับวิทยุที่สั่งการด้วยระบดิจิทัลจะให้ความแม่นยำในการเลือกสถานีได้มากอยู่แล้ว และเสียงที่ได้ยินแต่ละสถานีที่รับชัดก็จะมีน้ำเสียงน่าฟัง ลำโพงบนเครื่องจะเน้นเสียงกลางและเสียงสูง แต่ถ้าใช้หูฟังเสียบช่อง 3.5มม. เสียงที่ได้ยินในหูฟังจะมีน้ำเสียงที่อิ่ม ใส ความถี่เสียงย่านต่ำจะถูกถ่ายทอดออกมาอย่างชัดเจนในหูฟัง ถ้าเราใช้หูฟังที่มีขนาดใหญ่ น้ำเสียงในหูฟังจะมีความนุ่มนวลน่าฟังมาก

สรุป
นับว่าเป็นเครื่องรับวิทยุราคาไม่แพงอีกเครื่องหนึ่งที่เหมาะกับการใช้งานประจำวัน สามารถพกพาได้ง่าย ใส่ถ่าน AA ได้ ทำให้การใช้งานนอกสถานที่หรือย้ายที่วางเป็นเรื่องสะดวก และหากจะใช้งานยาวๆในบ้านก็สามารถเลือกเสียบไฟเลี้ยงได้ ทำให้ประหยัดค่าถ่านไปได้อีกมาก คุณภาพเสียงดีเพียงพอสำหรับการฟังข่าวและเพลง เสียงจะดีขึ้นเมื่อต่อหูฟัง สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับเครื่องรับวิทยุเครื่องนี้คือการหมุนรับคลื่นด้วยแป้นหมุน มันเป็นการปรับคลื่นความถี่ที่ถูกจริตกับมือคน คนใช้งานวิทยุจะชอบการหมุนหาคลื่นมากกว่าการกดปุ่ม เพราะคนที่เคยใช้วิทยุจะโตมากับการหมุนหาคลื่น ลองหามาใช้แล้วจะพบว่า ฟังวิทยุก็ดีเหมือนกัน


ถ้าสนใจก็ซื้อตามลิงค์นี้ได้เลย https://s.lazada.co.th/s.mHdlF