นักเรียนทุนคืออะไร

IMG_20161223_213726_720

ลูกชายถามผมว่า นักเรียนทุนคืออะไร

ก็เลยตอบแบบอธิบายไปว่า นักเรียนที่มีคนออกเงินให้เรียน คนออกเงินไม่ใช่พอแม่ อาจเป็นเงินของคนใจดี เงินของรัฐบาล เงินของบริษัท แล้วส่วนใหญ่เขาก็ให้กับคนที่เรียนดี หรือ คนที่มีความสามารถ

ลูกยังทำหน้าสงสัยอยู่ ก็เลยอธิบายต่อ

พ่อ: คนที่ได้ทุนไปแล้วส่วนมากก็ต้องกลับมาทำงานแลกเปลี่ยน บางคนได้ทุนไปเรียนเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เมืองนอก เรียนจบ ก็กลับมาทำงานที่บริษัทหรือหน่วยงานของเจ้าของทุน แต่บางทุนก็ให้ฟรีๆเลย ไม่ต้องทำงานชดใช้คืน แต่ก็เป็นส่วนน้อย

ขอบฟ้า: แล้วเขาจะให้กับทุกคนเลยเหรอ

พ่อ: เปล่า เจ้าของทุนไม่ได้ให้ทุกคน ทุนมีจำกัด ทุนมีน้อย ไม่ได้มีสำหรับทุกคน คนที่อยากได้เลยต้องแข่งขันกัน คนแจกทุนก็อยากแจกให้กับคนที่จะกลับมาทำประโยชน์ให้กับหน่วยงาน คนที่จะกลับมาทำประโยชน์กับประเทศ ลองนึกเปรียบเทียบดูนะ ว่า คนที่ได้ทุนไปเรียนจบเป็นนักวิทยาศาสตร์แล้วกลับมาเปิดร้านอาหาร กับอีกคนที่ได้ทุนเหมือนกันเรียนจนจบวิทยาศาสตร์เหมือนกัน แล้วก็กลับมาเป็นครูสอนนักเรียน ขอบฟ้าว่าคนไหนสร้างประโยชน์ให้คนอื่นมากกว่ากัน

ขอบฟ้า: คนที่กลับมาเป็นครู

พ่อ: ใช่ คนที่กลับมาเป็นครู กลับมาสอนคนอื่นๆต่ออีกหลายๆคน แบบนี้คือให้ทุนถูกคน แล้วถ้าขอบฟ้าเป็นเจ้าของเงิน ขอบฟ้าจะให้ใคร ระหว่างคนที่กลับมาขายอาหาร กับ คนที่กลับมาเป็นครู

ขอบฟ้า: ให้คนที่กลับมาเป็นครู

พ่อ: เอาใหม่ อีกนิดนึ่ง สมมุติทุนมีแค่ 1 ทุน แต่มีเด็กนักเรียนอยากได้ 10 คน แล้วเราจะให้ใคร จะหาคนที่เหมาะสมกับทุนยังไง

ขอบฟ้า: ส่ายหน้า ไม่รู้

พ่อ: ก็ต้องให้ทุนกับคนรักการเรียนใช่ไหม คนขี้เกียจ กับคนรักการเรียน คนไหนควรได้ทุน

ขอบฟ้า: คนรักการเรียนครับ

พ่อ: ใช่เลย คนรักการเรียน คราวนี้มีคนรักการเรียน 5 คน แล้วเราจะให้ใคร เรามีทุนแค่ 1 ทุน สำหรับ 1 คนเท่านั้น

ขอบฟ้า: ไม่รู้

พ่อ: ก็อาจจะต้องให้คนรักการเรียนที่เรียนดีที่สุดใช่ไหม ถึงจะใช้ทุนคุ้มค่าที่สุด

ขอบฟ้า: ใช่


แล้วก็นิ่งเงียบไปพักนึง

ขอบฟ้า: ทำไมให้ทุนกับคนที่รักการเรียนอย่างเดียวไม่ได้ล่ะ ทำไมต้องเก่งด้วย?

เปลี่ยนแบตเตอรี่ฮอนด้าฟรีด 2563

เปลี่ยนแบตวันที่ 26กันยายน2563 หลักกิโล 253379กม.

IMG_20200926_163243

การเปลี่ยนแบตเตอรี่ในรถฮอนด้าฟรีดรอบนี้มีความตื่นเต้นกว่าครั้งอื่นๆที่ผ่านมา เพราะว่าแบตไปออกอาการหมดที่นอกบ้าน ไปหมดที่ไกลจากบ้านมากๆ บ้านผมอยู่ฝั่งธน แต่วันนี้พาลูกมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ที่รังสิต คลองห้า

IMG_20200926_131803

ระหว่างที่จอดรถรอลูกทำกิจกรรมทั้งวัน ผมก็เลือกจอดรถในที่มีร่มไม้ และนั่งฟังเพลง เล่นเน็ตในรถไปเรื่อยเปื่อย เปิดประตูให้อากาศถ่ายเท และเมื่อเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง มุมแดดก็ค่อยๆเปลี่ยนส่องโดนตัวรถ เลยจะย้ายที่จอด อาการรถก็คือปิดประตูไม่ได้ คาดว่าแบตต่ำจนประตูไม่ทำงาน และสตาร์ทรถไม่ติด แต่อาการไม่ติดรอบนี้ไม่ได้เป็นแบบ แชะ แชะ แชะ แล้วเงียบราวกับไม่มีแบต แต่เป็นแบตที่สตาร์ทไม่ได้ แล้วมีเสียง แต๊กๆๆๆๆๆๆๆ ยาว ซึ่งเสียงแบบนี้ผมไม่เคยได้ยินจากรถเลยตั้งแต่ใช้งานมา

ด้วยความไม่แน่ใจกับอาการเสียงแบบนี้ กลัวว่าจะเป็นอาการไดสตาร์ทเสีย หรือ เครื่องยนต์มีปัญหา ระบบไฟมีปัญหา ก็เลยไปโพสถามในเฟสบุ๊ค กลุ่ม freedloverthailand หลายความเห็นก็ตอบว่าแบตหมด แบตเสื่อม ซึ่งทำให้ผมตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ได้ลองโทรไปที่ศูนย์ฮอนด้านที่อยู่ใกล้ๆรังสิตคลองห้า ทางศูนย์ก็บอกว่า ต้องลากรถเข้าศูนย์ และจะมีคิวตรวจได้วันจันทร์ ซึ่งวันนี้คือวันเสาร์ กว่าจะได้ตรวจแล้วก็รอคิวซ่อมต่อไป ผมก็มึนๆ จะให้ส่งรถที่ศูนย์ย่านรังสิต แล้วกลับบ้าน แล้วกลับมารอผลตรวจ มารอซ่อม เสียเวลาน่าดู

โทรเข้าเบอร์ call center ของฮอนด้าที่ให้บริการช่วยเหลือ 24ชม. โทรแล้วไม่ติด หมดศรัทธาไปพักใหญ่เลย หลังจากที่เพื่อนในเฟสให้ความเห็นว่าแบตเสื่อม แบบนี้ง่ายเลย เพราะโทรหาร้านแบตที่วิ่งส่งวิ่งเปลี่ยนนอกสถานที่ก็จบแล้ว จัดการหาเบอร์โทร แล้ว google ก็หาเบอร์โทรร้านแบตให้ผม โทรไปแจ้งรุ่นรถ และสถานที่ ทางร้านก็บอกขอเวลา 1 ชม. จะส่งคนไปเปลี่ยนให้ ราคาแบต 1500 บาท

IMG_20200926_141606

ช่างขี่มอเตอร์ไซด์มาตามนัดในอีก 1 ชม. ผมถามว่าร้านอยู่ที่ไหนช่างบอกอยู่ดอนเมือง ตรงไหนของดอนเมืองผมก็ไม่รู้จักหรอก แต่ถ้ามาจากสนามบินดอนเมืองก็ไกลน่าดู ช่างจัดการเปลี่ยนแบต ตรวจวัดค่าด้วยมิเตอร์ ตรวจหาไฟรั่ว แล้วสรุปให้ว่า ไฟไม่รั่ว ระบบไฟปกติ ผมเปิดดูข้อมูลการเปลี่ยนแบตครั้งที่แล้ว พบว่า เปลี่ยนไปเมื่อเดือนกรกฎาคมของปีที่แล้ว นับถึงวันนี้ก็ประมาณ 14 เดือน ก็คือปีนิดๆเอง แต่แบตก็เสื่อมแล้ว แล้วแบตรุ่นที่ถูกเปลี่ยนออกก็มีตาแมวให้ดูสภาพแบต ผมดูตั้งแต่ก่อนจะเรียกช่างแล้วก็เป็นสีเขียวซึ่งหมายถึงสภาพปกติ ช่างให้ความรู้ว่า ตาแมวหรือสถานะพวกนี้มันเชื่อไม่ได้ ผมก็ได้แต่สงสัยว่าแล้วเขาจะให้ดูสถานะพวกนี้ทำไม แล้วช่างก็ให้ความรู้ต่ออีกนิดว่า แบตไม่ได้นับเวลาเสื่อม มันเสื่อมตามระยะทางที่ใช้งาน

IMG_20200926_142704

ค่าแบตครั้งนี้ 1500 บาท ยี่ห้อ พานาโซนิครุ่นอะไรผมก็ไม่ได้อ่านรายละเอียด แต่เปลี่ยนแล้วรถก็ทำงานได้ปกติ แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว และก็จัดการโอนเงินให้ร้านแล้วทิปให้ช่างนิดหน่อย

เหตุการณ์ครั้งนี้ได้เรียนรู้หลายอย่างคือ

1 แบตหมดได้ตลอดเวลาถ้าเกิน 1 ปี

2 แบตเสื่อมตามระยะทางที่รถวิ่ง (เพิ่งรู้นะเนี่ย)

3 ศูนย์บริการฮอนด้าที่ติดต่อได้ ไม่สามารถช่วยเหลือรถมีปัญหาบนถนนได้เลย แม้แต่ตรวจซ่อมยังต้องรออีกสองวัน และต้องหารถลากเข้าไปส่งศูนย์ ผมคาดหวังว่าศูนย์จะมีบริการรถลากหรือติดต่อบริษัทรถลากให้แล้วค่อยไปคิดค่าใช้จ่ายให้ลูกค้าจ่ายเองก็ได้ แต่ไม่มีแนวทางที่จะอำนวยความสะดวกใดๆเลย

4 ศูนย์ให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินของฮอนด้า 24 ชม. โทรไม่ติด เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเปลี่ยนเบอร์แล้ว

5 ผมลืมไปว่าผมเป็นสมาชิกแก๊สโซฮอลคลับของบางจาก เป็นมายาวนานมากและในอดีตก็เคยใช้บริการรถลากฟรีด้วย เพราะเป็นสิทธิพิเศษที่สมาชิกจะได้รับนอกจากส่วนลดการเติมน้ำมัน บริการนี้ดีมาก แก้ปัญหารถเสียฉุกเฉินได้จริง

ผมย้อนไปดูหลักกิโลจากการเปลี่ยนแบตครั้งที่แล้ว คำนวณแล้วรถวิ่งไปสามหมื่นกิโล จริงๆคงไม่ถึงกับต้องแบตเสื่อมหรอก แต่ไฟแบตอาจจะอ่อนลงมากแล้วทำให้ไฟไม่พอจะสตาร์ทรถ ในหลายปีที่ผ่านมาผมมีเพาเวอร์แบงค์ที่ใช้จั๊มสตาร์ทติดรถตลอดเวลา แต่ด้วยอายุที่ยาวนานเกือบห้าปี แบตในเพาเวอร์แบงค์มีอาการบวม เลยไม่อยากพก ไม่อยากใช้งานแล้ว ซึ่งถ้ามีแบตจั๊มสตาร์ทผมเชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาไฟอ่อนครั้งนี้ได้ และอาจยังไม่ต้องเสียเงินเปลี่ยนแบตในทันที อาจยืดเวลาการเปลี่ยนออกไปได้อีกหลายเดือน เพราะรถคันนี้ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนแบตตอนที่ครบ 2 ปี

magnus effect ความลับของการเตะบอลแบบไซ้ร์โค้ง

ทริปปีใหม่ ชุมพร ระนอง พม่าเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ

ทริปปลายปีต่อเนื่องถึงข้ามปี จากพศ 2562 ไปสู่ 2563 เป็นทริปที่เลือกใช้วิธีเดินทางด้วยรถยนต์เพื่อลงใต้ไปไกลสุดถึงระนอง จุดหมายปลายทางคือเกาะในทะเลพม่า ซึ่งเราจะต้องไปขึ้นเรือที่ระนอง แต่ด้วยระยะทางที่ไกลมาก เลยวางแผนการเดินทางแบบค่อยเป็นค่อยไปและเลือกพักไปหลายๆจุด แวะเที่ยวไปตามเส้นทางที่ไม่เคยรู้จัก

จากกรุงเทพ เราลากเส้นไปที่ชุมพรเลย เพื่อให้อยู่ห่างจากระนองไม่มากในวันถัดไป ชุมพรอยู่ห่างจากกรุงเทพประมาณ 500กิโลเมตร การเดินทางก็ออกแต่เช้า แล้วแวะพักแวะกินตามทาง ไปถึงชุมพรในรอบบ่ายๆ เข้าพักที่โรงแรมโนโวเทลที่อยู่ริมทะเลย โนโวเทลแห่งนี้มีพื้นที่กว้างใหญ่มาก มีสนามกอล์ฟเป็นของตัวเอง สถานที่สวย ดูแลต้นไม้ได้ดีมาก สิ่งที่ทำให้เริ่มน่าสนใจก็คือที่นี่นกเยอะมาก และในช่วงเวลาที่เที่ยวนี้ขอบฟ้าก็กำลังสนใจเรื่องนก เรื่องอินทรีย์ และเหยี่ยวชนิดต่างๆ นกในชุมพรเยอะอย่างน่าแปลกใจ

IMG_0020

ร้านอาหารที่เป็นร้านแนะนำจากอินเทอเน็ตบอกว่า ให้กินฝั่งตรงข้ามโรงแรม ซึ่งมี 2ร้านให้เลือก เราเลิอกกินร้านแรกที่ดูคนน้อยหน่อย และอาหารก็พอใช้ได้ วิวทะเลก็สวยดี รูปแบบร้านเป็นแนวเรียบง่าย โบราณ ไม่ได้มีการตกแต่งสถานที่ใดๆให้ดูสวยงามเลย

20191231183823_IMG_0055

ปีนี้ขอบฟ้าโตขึ้นมาก พูดจารู้เรื่อง และเป็นเด็กที่เริ่มสนุกกับทุกสิ่งในการท่องเที่ยว รู้จักอดทน รู้จักรอ และสามารถยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงได้มากขึ้น รวมถึงสามารถช่วยพ่อแม่ถ่ายรูปได้แล้ว พ่อกับแม่มีรูปคู่กันเพราะลูกช่วยถ่ายให้ทำให้ทริปนี้เป็นการเดินทางท่องเที่ยวที่สนุกและมีภาพของทุกคน เช้าวันรุ่งขึ้นเราแวะไปจุดชมวิวบนภูเขาใกล้ๆโรงแรม เป็นวิวที่สามารถดูทะเลและแม่น้ำได้พร้อมๆกัน

IMG_0071
IMG_0061

บนจุดชมวิวนี้จะได้พบกับนกนางแอ่นจำนวนมาก บินผ่านไปผ่านมาให้ดูอยู่บ่อยๆ นกบินจนขอบฟ้าต้องมองและสนใจเรื่องนกขึ้นมาทันที และทริปนี้ก็เป็นทริปที่ทำให้เราได้รู้ว่า ชุมพรมีนกอินทรีย์ด้วย ซึ่งพวกเราเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นอินทรีย์หรือเหยี่ยว แต่ความสงสัยเหล่านี้จะได้รับการคลีคลายในช่วงสองสัปดาห์ถัดไป

IMG_0096

ร้านกาแฟแสนสวยบนจุดชมวิวก็มีมุมสวยไม่แพ้กัน แต่พวกเราไปกันเช้ามาก ร้านยังไม่เปิด เลยไม่ได้อุดหนุนกาแฟเลย แต่ก็เก็บภาพวิวสวยๆของร้านกาแฟแห่งนี้กลับมาด้วย แต่ด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าว ถ้าให้นั่งกินกาแฟที่นี่จริงๆ พวกเราก็อาจจะเลือกนั่งในห้องแอร์แทนที่จะเป็นมุมโต๊ะเก้าอี้ภายนอกที่สวยน่ามอง

IMG_0105

กาแฟเป็นผลิตภัณฑ์เด่นอย่างหนึ่งของภาคใต้ โดยเฉพาะชุมพรและระนองต่างก็มีกาแฟเป็นจุดขาย การไม่ได้แวะกินกาแฟสักร้านเลยก็ดูจะเป็นเรื่องน่าเสียดาย และเราก็ไม่ได้แวะจริงๆเพราะด้วยเวลาเช้าแบบนี้ และด้วยโปรแกรมที่อยากจะไปในหลายๆที่ ทำให้เวลาที่จะแวะกินกาแฟไม่ค่อยมีนั่นเอง มุมกาแฟจากจุดชมวิวแบบนี้คงจะยอดเยี่ยมมากถ้าอากาศเย็นและมีขนมอร่อยคู่กับกาแฟ ก็ได้แต่จินตนาการกันไป

2020_0101_103603_004

ที่โรงแรมโนโวเทลชะอำ เราได้ทดลองเล่นกล้องถ่ายภาพใต้น้ำที่หยิบยืมจากเพื่อนมาใช้ มันเป็นกล้อง action camera ราคาไม่แพงยี่ห้อง SJCAM รุ่น SJ4000 ที่เป็นกล้องหน้าตาเหมือนกล้อง gopro และมันมีเคสกันน้ำให้ด้วย ทริปนี้เราได้ลองลงไปถ่ายรูปใต้น้ำ และได้ภาพน่าตื่นเต้นกลับมา ภาพใต้น้ำเป็นสิ่งที่เข้าถึงยากมากในอดีต ส่วนมากกล้องที่ใช้จะต้องมีเคสกันน้ำถึงจะลงไปถ่ายใต้น้ำได้ และตั้งแต่อดีต เคสกันน้ำจะมีราคาแพงจะไม่อยากซื้อ แต่ในยุคปัจจุบัน ปีพศ2562 เราก็มีกล้องดิจิทัลราคาถูกมากให้ใช้ และเคสกันน้ำที่เคยราคาแพงมาก เมื่อมันถูกออกแบบมาให้ใช้กับกล้องราคาถูก มันก็กลายเป็นของถูก และเราก็มีโอกาสได้ลองเล่น

IMG_0134

มาถึงชุมพรก็ต้องแวะไปไหว้ศาลกรมหลวงชุมพรที่หาดทรายรี ซึ่งหาดนี้อยู่ห่างจากโนโวเทลแค่ไม่กี่นาที เราได้ไปดูเรือรบโบราณที่จอดไว้ให้นักท่องเที่ยวดู มีผู้คนจำนวนมากแวะมาไหว้ศาลกรมหลวงแห่งนี้ มีประเพณีการจุดประทัดเสียงดัง และที่นี่เราได้พบนกเหยี่ยวหรืออินทรีย์ก็ไม่แน่ใจเพราะเราดูนกไม่เป็น แยกแยะไม่ออกระหว่างนกอินทรีย์และเหยี่ยว รู้แต่ว่ามันบินอยู่บนยอดเขาของศาลกรมหลวงฯ กางปีกเล่นลม ลอยไปลอยมาดูเท่ห์มากๆ

IMG_0142

นกเหยี่ยวและอินทรีย์ในทริปนี้คือจุดเริ่มต้นความสนใจของนกล่าเหยี่อที่ขอบฟ้าชอบ ปกติขอบฟ้าจะชอบสัตว์ที่มีลักษณะเฉพาะที่สุดยอดสักด้านหนึ่ง อย่างในวัยเด็กขอบฟ้าก็ชอบปลาวาฬสีน้ำเงิน อาจเพราะเป็นสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตอนชอบไดโนเสาร์ก็ชอบตัวที่คอยาวที่สุดและตัวใหญ่ที่สุดในโลก ตอนชอบรถก็ชอบรถเฟอรารี่รุ่นพิเศษที่วิ่งเร็วมากและแพงมาก และในทริปนี้ขอบฟ้าเริ่มให้ความสนใจนกล่าเหยื่อ ก็คืออินทรีย์และเหยี่ยว

วันนี้เราเก็บของออกจากชุมพรเดินทางต่อไปจังหวัดระนองเพื่อจะไปเที่ยวเกาะในพม่า เราจะพักที่โรงแรมฟาร์มเฮ้าส์ ซึ่งเป็นโรงแรมหน้าตาน่ารัก ออกแบบสวย และเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวหลายเชื้อชาติ

IMG_0147

โรงแรมนี้มีชุดของว่างรับแขกเข้าพักเป็นไข่ลวก ถือเป็นเรื่องแปลกเรื่องหนึ่งที่เพิ่งเคยเจอ บางทีเพราะที่นี่ชื่อฟาร์มเฮ้าส์ก็เลยหาผลิตภัณฑ์จากฟาร์มมารับรองแขกก ไข่ลวกก็เลยได้เป็นอาหารว่างมื้อแรกในระนองครั้งนี้ซึ่งถือว่าเป็นการเดินทางมาเที่ยวระนองอย่างเป็นทางการของพวกเรา

IMG_9986
IMG_9988

โรงแรมที่พักชื่อฟาร์มเฮ้าส์ ร้านกาแฟหน้าโรงแรมชื่อ ก.ไก่ ขายกาแฟและของที่ระลึกหลายอย่าง ของฝากที่ต้องซื้อก็มีครบทุกอย่าง แต่หน้าตาไม่โอท๊อปเลยนะ หน้าตาแพ็คเกจและการออกแบบฉลากก็มาแนวคนเมืองออกแบบสวย และราคาทำให้นึกถึงกรุงเทพ

IMG_9994
IMG_20200101_202140
IMG_9993

ผมชอบกินกาแฟ และชอบเรื่องเล่าที่อยู่ในตัวสินค้า แต่ไม่ชอบราคาเลย แต่ก็เข้าใจว่าเขาเลือกวางตัว ออกแบบภาพลักษณ์ตัวสินค้าเอาไว้ให้เป็นของฝากราคาแพง ซึ่งเขาก็ทำสำเร็จ กาแฟที่คั่วด้วยมือพร้อมเรื่องเล่าผ่านลมปากเป็นของฝากที่เราคิดว่าควรซื้อกลับไป ซื้อเป็นสัญลักษณ์ว่าเรามาถึงระนองแล้ว ส่วนรสชาดเดี๋ยวต้องไปลุ้นกันอีกที

IMG_9996

เช้าวันใหม่เราเตรียมพร้อมเปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำแต่เช้าเลย เรากินมื้อเช้าที่โรงแรมแล้วรอรถตู้มารับไปยังท่าเรือ ท่าเรือที่จะพาเราไปเที่ยวเกาะในพม่า และการเข้าไปเที่ยวพม่าก็ต้องใช้หนังสือเดินทาง และต้องมีการตรวจคนเข้าเมืองเหมือนนั่งเครื่องบินไปญี่ปุ่น สิงคโปร์ แต่คราวนี้เราไปพม่า

IMG_0006
IMG_20200102_091814

เรือจากระนองพาเราเข้าเขตพม่าแล้วไปลอยน้ำเล่นที่เกาะกลางทะเล ทะเลพม่าได้รับการบอกเล่าถึงความสวยงามและความสมบูรณ์สุดๆ ขอบฟ้าชอบดำน้ำดูปลาและปะการัง และทริประนองก็ออกแบบมาเพื่อพาขอบฟ้าไปดูปลาใต้น้ำในเขตพม่านั่นเอง จำนวนคนบนเรือไม่ได้นับ ครึ่งหนึ่งเป็นต่างชาติ และครึ่งหนึ่งเป็นคนไทย ทริปนี้เป็นทริปที่มีคนไทยเยอะขึ้น ซึ่งต่างจากทริปที่เราไปดำน้ำที่กระบี่ ทริปกระบี่เป็นทริปที่มีคนไทยแค่ 5% เท่านั้น

2020_0102_123344_003

กล้องใต้น้ำได้ทำงานจริงแล้ว ภาพนิ่งและภาพวิดีโอต่างๆทะยอยถูกถ่ายออกมาเรื่อยๆ ความทรงจำใต้น้ำเป็นภาพน่ามองเพราะเป็นภาพที่เราไม่เคยเห็น เราได้แวะเกาะต่างๆสองเกาะรอบเช้า แต่ละที่มีปะการังและสัตว์น้ำค่อนข้างเยอะ แต่ก็ไม่มากเท่าที่กระบี่ แต่ก็ถือว่ามีพื้นที่ให้ดำน้ำดูค่อนข้างมาก มีหลายเกาะให้แวะ และเราได้พักกลางวันกินข้าวบนเกาะแห่งหนึ่ง มีอาหารไทยให้กิน แล้วให้เล่นน้ำที่หาดทราย

IMG_0070

เกาะแห่งนี้มีจุดชมวิวที่ยอดเขา สามารถมองลงมาเห็นวิวทะเลจากมุมสูง ภาพที่มองลงมาสวยมากและถ่ายรูปออกมาก็ดูดีเหลือเชื่อ

2020-01-02_10-31-35-01

ภาพจากมุมสูงที่ต้องเดินเท้าขึ้นเขาไปจนเหนื่อย ปกติมุมภาพแบบนี้ใช้โดรนบินขึ้นไปถ่ายได้เลย แต่เมื่อไม่มีโดรนก็ต้องใช้เท้าออกแรงเดินขึ้นไปแทน อากาศที่เกาะค่อนข้างร้อน แสงแดดแสบตา ภาพที่ถ่ายออกมาดูเหมือนไม่มีแดดแต่จริงๆเป็นการใช้เทคนิคการถ่ายภาพและอุปกรณ์ช่วยเหลือ

IMG_0079
2020-01-02_10-34-35-01

ทริปนี้เป็นทริปทะเลที่ตัดสินใจใช้กล้อง eos m เป็นกล้องหลักในวิวทะเล เพราะผมมีฟิลเตอร์โพลาไรซ์ที่ใช้กับเลนส์ kit efm18-55is ของกล้อง eos m ซึ่งการใช้ฟิลเตอร์ตัวนี้เราสามารถหมุนฟิลเตอร์ให้มีมุมโพลาไรซ์ที่เราต้องการ ผมเองเลือกหมุนฟิลเตอร์ ให้ตัดแสงสะท้อนที่ผิวน้ำออกให้หมด ผลก็คือภาพน้ำดูมีความเข้มจนรู้สึกอยากเล่นน้ำเลย กล้องกับเลนส์ที่ใช้เมื่อดูราคาขายมือสองจะพบว่ามันเป็นของถูกมาก เชื่อว่าในพศ.2563 นี้เราคงหาซื้อได้ในราคาประมาณ 5-6พันบาทเท่านั้น ชุดคู่ขวัญนี้ให้คุณภาพพอใช้ได้ ถ้าสถานที่อำนวย สภาพแสงเพียงพอ เราก็ได้ภาพสวยๆจากกล้องราคาประหยัดได้ไม่ยาก ลองกลับไปอ่านรีวิวกล้องกล้อง eos m ได้ที่นี่

2020_0102_151809_001

เราไปพักอาบน้ำล้างตัวและกินมื้อเย็นที่โรงแรมในพม่า สิ่งที่สังเกตุได้ชัดเจนก็คือมีนกอินทรีย์เยอะมาก บินร่อนไปร่อนมาให้เราเห็นอยู่เรื่อยๆ ที่โรงแรมในพม่าก็บินวนโชว์ตัวอยู่แทบตลอดเวลา มีนกเงือกเกาะอยู่บนต้นไม้ที่โรงแรม รู้สึกได้เลยว่าพม่าอุดมสมบูรณ์มาก ทรัพยากรธรรมชาติมีเหลือเฟือ อดคิดไม่ได้ว่า ในช่วงเวลาสักสามสิบปีที่แล้วสมัยที่การท่องเที่ยวยังไม่บูม สมัยที่คนยังไม่ค่อยรู้ข้อมูล สัตว์ป่าจะเยอะขนาดไหน สัตว์ใต้น้ำ ปะการังจะอลังการขนาดไหน ขอจบทริปในพม่าด้วยคลิปวิดีโอชิ้นนี้ และเราเดินทางข้ามแดนกลับประเทศไทย กลับเข้าระนองในตอนสองทุ่ม จบวันแบบหมดแรง

เช้าวันถัดมาเราเริ่มเที่ยวในระนอง ซึ่งเมื่อก่อนเราก็ไม่รู้ว่าระนองมีอะไรบ้าง แต่พอเริ่มหาข้อมูลท่องเที่ยวก็พบหลายๆจุดที่น่าสนใจ เราไปเดินเล่นที่ภูเขาหญ้า ซึ่งเป็นวิวเนินเขาไม่สูงนักและในช่วงเวลาหน้าฝนหญ้าจะเขียวมากจนทำให้กลายเป็นจุดแวะถ่ายรูปของนักท่องเที่ยว แต่ช่วงที่เราไปก็เป็นช่วงน้ำน้อย หญ้าแห้งไปแล้ว

IMG_0180
ฉูดฉาด
IMG_0262
IMG_0268

บนท้องฟ้าเหนือภูเขาหญ้าที่เราเดินเล่นถ่ายรูปเพลินๆก็มีนกล่าเหยื่อ ผมขอเรียกว่าอินทรีย์ละกันเพราะดูไม่ออก แยกไม่เป็นว่าเหยี่ยวกับอินทรีย์แตกต่างกันอย่างไร ตอนนี้ลูกเริ่มสนใจนกเหล่านี้ และหลายๆครั้งก็แยกแยะนกกับอินทรีย์ด้วยลักษณะของปีก ซึ่งพอจะช่วยแยกได้บ้างแม้จะไม่ถูกต้องทั้งหมด

ออกจากภูเขาหญ้า ขับรถไปอีกไม่กี่นาทีก็ถึงบริเวณบ่อน้ำร้อนพรรั้ง เป็นจุดแวะสำหรับนักท่องเที่ยวอีกเช่นกัน ที่นี่มีน้ำร้อนหลายบ่อ อุณหภูมิแตกต่างกันเล็กน้อย แต่ก็ร้อนๆอุ่นๆ แช่ขาให้รู้สึกสบายได้ บางบ่อก็น้ำไม่ร้อนมาก มีปลาว่ายน้ำเล่นด้วย

IMG_0284

เราแวะกินอาหารร้านดังที่มีรีวิวให้อ่าน ก่อนจะเข้าที่พักของวันนี้ ที่ร้านอาหารตั้งอยู่ติดกับบ่อน้ำร้อนอีกแห่ง ซึ่งบ่อนี้ร้อนจนเห็นเป็นไอน้ำเลย

IMG_0306
IMG_0302
IMG_0312

มีคนพาหมามาเดินเล่นแถวบ่อน้ำร้อน สิ่งที่สะดุดตาก็คือหมามีตาสองสีที่ไม่เหมือนกัน เห็นแล้วก็ต้องขออนุญาตเจ้าของถ่ายภาพเก็บไว้สักหน่อย เจ้าของหมาอธิบายให้ฟังว่าตาสองสีเป็นลักษณะผิดปกติของหมาซึ่งมีอยู่ไม่มาก และราคาค่าตัวก็คงแพงมาก (คิดเอง)

หลังจากได้เข้าพักในวันนี้ที่ บ้านนายหมง เป็นรีสอร์ตที่สร้างห้องพักท่ามกลางต้นไม้ เราก็เดินเล่น ถ่ายภาพเล่นในรีสอร์ต ทริปนี้ขอบฟ้าก็ช่วยถ่ายภาพพ่อกับแม่ได้หลายภาพเลย

IMG_0339
IMG_0399
IMG_0428
IMG_20200104_101243

ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกโดยพนักงานรีสอร์ตช่วยถ่ายภาพครอบครัวให้ แล้วเราก็ขับรถกลับ ออกจากระนองขับมาถึงประจวบฯ แวะเที่ยวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่หว้ากอ ที่หว้ากอมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทยในแง่ของวิทยาศาสตร์ เป็นตำบลที่ รัชกาลที่ 4 เสด็จทอดพระเนตรการเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง โดยท่านคำนวณและประกาศล่วงหน้าว่าจะสามารถดูได้วันไหนเวลาใด และก็มีการเชิญชาวต่างชาติมาร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ชาวโลกรับรู้ว่าประเทศไทยมีนักวิทยาศาสตร์เช่นกัน เป็นการแสดงความมีอารยธรรมให้โลกรู้ เพื่อให้ต่างชาติเกรงใจประเทศไทย ให้เกียรติประเทศไทย และเป็นการวางรากฐานคำว่าวิทยาศาสตร์ให้กับประเทศไปพร้อมกัน และรัชกาลที่4 ก็เป็นบิดาแห่งวงการวิทยาศาสตร์ไทย

IMG_0473

ออกจากพิพิธภัณฑ์แล้วก็แวะกินอาหารที่ร้านครัวชมวาฬ ร้านนี้ผมตั้งใจแวะ เพราะว่าในอดีตช่วงที่เว็บบอร์ดพันทิปห้องบลูแพลเน็ตยุคเริ่มต้น มีคนมาสุมหัวคุยเรื่องท่องเที่ยวและถ่ายภาพ มีสมาชิกเว็บบอร์ดยุคบุกเบิกได้รู้จักกับพี่ชายคนหนึ่ง และเขาก็เปิดร้านอาหารแห่งนี้ ในสมัยนั้นผมก็เคยมีโอกาสได้มากิน ได้มากางเต๊นท์นอนที่สถานที่แห่งนี้ แล้วต่อมา พี่ชายท่านนี้ก็เสียชีวิตจากการถูกยิง เพราะสาเหตุการประท้วงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ เมื่อมีโอกาสก็เลยแวะมาเยี่ยม มาทานอาหาร อย่างน้อยก็ช่วยอุดหนุนคนคุ้นเคยและช่วยต่ออายุธุรกิจครอบครัวของพี่คนนี้

4jan2020-img_ (65)

และเราก็เข้าที่พักย่านหัวหินชื่อ สปริงฟิลด์ ตอนค่ำอย่างหมดแรง จนเช้าวันใหม่เราก็หาของกินที่ตลาดหัวหิน แวะกินร้านดังในตลาด

IMG_0102
IMG_0109

นอนเล่นแช่น้ำอย่างสบายใจ ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพ ปิดท้ายด้วยระยะทางทั้งหมดที่ขับรถสำหรับทริปปีใหม่นี้ ฮอนด้าฟรีดคันเก่า คันเดิมที่พาเที่ยวมาตลอดหลายปี ทริปนี้จบลงที่ระยะทาง 1325.4 กิโลเมตร

IMG_20200105_165450

ภาพสุดท้ายนี้ภรรยาถ่ายให้ เป็นการส่องกล้องเพื่อถ่ายภาพนกด้วยเลนส์ซูมตัวโต น้ำหนักมาก พ่อเลยต้องเป็นขาตั้งกล้องให้ลูก

2020-02-28_11-59-35

เปลี่ยนหลอดไฟหน้า Honda freed อีกครั้ง

สองวันก่อนผมรู้สึกว่าไฟหน้าไม่ค่อยสว่าง และสังเกตว่าไฟด้านขวาอาจจะดับ ก็เลยลองตรวจดู เปิดไฟแล้วเดินลงไปดู พบว่าไฟหน้าขวาดับจริงๆด้วย ผมเรียกไฟฝั่งคนขับว่าด้านขวา ซึ่งทีแรกก็ตั้งใจว่าจะขับไปเปลี่ยนที่ศูนย์ แต่อีกใจก็ลองหาราคาหลอดไฟดูก่อนดีกว่า แล้วก็ค้นหา เริ่มค้นหาคำว่า เปลี่ยน ไฟหน้า ฮอนด้า ฟรีด พิมพ์สี่คำนี้ใน google แล้วก็เจอข้อมูล ซึ่งมันก็เป็นข้อมูลที่ผมเคยโพสท์เอาไว้นั่นเอง ดูจากวันเวลาของโพสแล้ว ก็พบว่าไฟหน้าของผมดับครั้งที่แล้วช่วงเดือนพฤษภาคมปี2562 และวันนี้ กันยายน2563 หลอดไฟที่เปลี่ยนเข้าไปมีอายุการใช้งานประมาณ 16 เดือน
ย้อนกลับไปอ่านโพสท์เก่าได้ที่นี่

IMG_20190506_153259

ของ Philips คือยี่ห้อเก่าที่ติดมาจากโรงงานฮอนด้า และหลอดที่เคยเปลี่ยนที่ศูนย์ก็เป็น Philips ส่วนเมื่อปีที่แล้วที่ผมเปลี่ยนเองแล้วโพสท์ข้อมูลเอาไว้คือหลอดซื้อเองยี่ห้อ OSRAM

IMG_20190506_153220
IMG_20190506_153213

หลอดไฟที่สั่งให้ลูกน้องวิ่งไปซื้อวันนี้ ผมหยิบกล่องเก่าให้ไปเป็นตัวอย่าง แล้วก็ได้กลับมาเป็นยี่ห้อเดิม แต่กล่องมาแบบแปลกๆ สีสันบนกล่องดูเปลี่ยนไป ตัวหนังสือสีดำกลายเป็นสีเทา กล่องคงโดนพิมพ์ออกมาจากคนละแม่พิมพ์ หรือ อาจจะคนละโรงงานเลยก็ได้

2020-09-24_01-47-54
2020-09-24_01-48-07

กล่องทางซ้ายคือกล่องที่ซื้อเมื่อปี 2562 ส่วนกล่องทางขวาตัวหนังสือสีเทาซื้อวันนี้ ปี 2563 รายละเอียดพวกนี้หากเป็นคนที่ทำงานสิ่งพิมพ์จะรู้ว่า ออกจากแม่พิมพ์คนละชิ้นกัน ซึ่งเราก็ไม่อาจจะเดาได้ว่าหลอดไฟที่ซื้อมาครั้งนี้เป็นของจริง หรือ ของปลอม แต่เสียบใช้งานแล้วก็ทำงานได้เหมือนกัน

แถมให้ เมื่อดูกล่องหลอดไฟที่มาจากศูนยบริการ จะอยู่ในกล่องอีกแบบหนึ่ง เป็นกล่องขาวแล้วติดสติ๊กเกอร์ฮอนด้าไปเลย

2020-09-24_02-00-57

สนามหลวงที่จำได้

สนามหลวงเป็นที่ต้องห้าม ห้ามประชาชนเข้าไปใช้งานตั้งแต่เมื่อไหร่ผมก็จำไม่ได้ เพราะในความทรงจำที่จำได้ ผมไปเที่ยวเล่นที่สนามหลวงหลายครั้ง เพราะสนามหลวงเป็นที่ว่างที่เดียวในกรุงเทพที่พอจะให้เราวิ่งเล่น หรือ ไปเล่นกิจกรรมกลางแจ้งได้ อย่างน้อยก็ไปเล่นว่าว ไปจอดรถแล้วเดินไปดูวัดพระแก้ว

neg-sanamluang-img343

สมัย เรียนมัธยม ผมเริ่มเที่ยวเล่นนอกบ้านกับเพื่อน นั่งรถเมล์ไปสนามหลวง ไปดูผู้คนเขาเล่นว่าว มีว่าววางขายเต็มไปหมด เลือกซื้อสักตัวแล้วก็เล่นในสนามหลวง แดดร้อนๆก็ไม่เป็นไรเพราะเด็กๆเล่นอะไรก็สนุก หิวน้ำก็รอคนหาบน้ำมาขาย หรือมีร้านขายน้ำเป็นรถเข็นรออยู่รอบๆสนามหลวงอยู่แล้ว

neg-sanamluang-img347

สมัยทำงานใหม่ๆเริ่มหัดถ่ายรูป ก็แวะไปถ่ายเล่นที่สนามหลวง วัดพระแก้ว การเดินเล่นสนามหลวงสักรอบทำให้เราได้ฝึกฝีมือถ่ายภาพได้หลายบทเรียน จะถ่ายเน้นองค์ประกอบระดับประกวด หรือถ่ายแนวสตรีท หรือถ่ายเรื่อยเปื่อยตามอารมณ์ก็ตามใจเรา สนามหลวงเป็นโรงเรียนถ่ายภาพชั้นดีเลย

neg-sanamluang-img349

บางช่วงเวลา นั่งรถไปดูข้าวที่ทางการเขาหว่านไถในงานแรกนาขวัญ ไปคุ้ยทรายหาเมล็ดข้าวพระราชทาน สนามหลวงใช้เป็นที่ทำนาเรียกขวัญกำลังใจให้เกษตรกร ผมแวะไปดูชาวบ้านคุ้ยข้าวเก็บไว้เป็นที่ระลึก ผมลองหาเองบ้าง ไม่เจอสักเม็ด แต่ชาวบ้านเก็บไว้เต็มมือ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ดีใจด้วยที่ได้กำลังใจกลับไป

11may2009-rice-img_3849
kite02

ปี พศ 2563 ตอนต้นปี สนามหลวงโดนปิดล้อม ห้ามเข้า ห้ามใช้ โดยผมเองก็ไม่ทราบเหตุผล แต่ วันนี้ 22 กันยายน 2563 ได้ข่าวว่าเปิดให้เข้าไปใช้งานได้ มีกลุ่มประท้วง มีม็อบมาแสดงความคิดเห็น ปรากฏการณ์นี้ทำให้เราได้สนามหลวงกลับคืนมา แต่จะกลับมาอย่างถาวรหรือเปล่าก็รอดูกันต่อไป

เลือกภาพทำนามบัตร

มีเพื่อนมาปรึกษาเรื่องการออกแบบนามบัตรเพื่อไปใช้กับธุรกิจ โดยเพื่อนผมทำอาชีพขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับต้นไม้ หลังจากสอบถามพูดคุยกันพักใหญ่ ก็ได้ข้อมูลว่า นาข้าว ต้นข้าวเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักกลุ่มหนึ่งที่เพื่อนอยากจะเจาะตลาด ขณะเดียวกันก็อยากได้สวนผลไม้ สวนดอกไม้อื่นๆด้วย แต่อยากจะโฟกัสกับนาข้าวก่อนเป็นลำดับแรก

“พี่เอาอะไรก็ได้”

เพื่อนผมบอกข้อมูลว่า ทำนามบัตรให้หน่อยสิ ง่ายๆ อะไรก็ได้ ผมก็นึกถึง คำว่า อะไรก็ได้ตอนที่ผู้หญิงเลือกร้านอาหาร อะไรก็ได้ของผู้หญิงบางทีหมายถึง เลือกดีๆนะ อย่าทะลึ่งเลือกผิด เดี๋ยววีน ผมรอให้เวลาผ่านไปสักสองวันแล้วถามเพื่อนท่านนี้อีกครั้ง ว่าจะให้ออกแบบนามบัตรแบบไหน เพื่อนก็ยังคงย้ำกว่าอะไรก็ได้ เอามาเถอะ จะใช้แล้ว

ผมก็เลยเริ่มลงมือออกแบบนามบัตรอะไรก็ได้ ง่ายๆ สิ่งที่ต้องมีอยู่ในนามบัตรก็คือ ชื่อ นามสกุล เบอร์โทร ช่องทางติดต่อต่างๆที่อยากให้ลูกค้าทราบ และข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจเล็กน้อย คือดูนามบัตรแล้วพอเดาออกว่าเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอะไร และโจทย์เพิ่มเติมก็คือ ลูกค้าผมต้องส่งสินค้าด้วยไปรษณีย์หรือขนส่งเอกชน จะต้องมีการเขียนชื่อที่อยู่ผู้ส่งด้วย ผมก็เลยคิดว่านามบัตรที่จะพิมพ์นี้ก็ควรจะใช้ติดไปบนแพ็คเกจเพื่อระบุผู้ส่งไปเลย

ให้วิศวกรออกแบบมันก็จะทื่อๆหน่อย แต่ก็ได้ใจความครบ แก้ปัญหาได้ เกาถูกที่คัน มีทุกอย่างยกเว้นความสวยงาม นี่คือสิ่งที่วิศวกรจะทำให้ได้ ผมเป็นวิศวกรที่พอจะมีภาพถ่ายสต๊อคไว้ขายก็เลยเลือกหยิบภาพที่ขายมาใช้กับงานของเพื่อน

ภาพต้นข้าวเป็นภาพที่ผมนึกถึง และภาพต้นข้าวผมก็เคยถ่ายไว้ในอดีตชุดใหญ่เลย ภาพเหล่านี้เป็นการถ่ายนาข้าวในหลายๆรูปแบบ หลายช่วงเวลา ในตอนนั้นที่ถ่ายภาพข้าวก็เป็นโจทย์ว่าอยากจะโปรโมทปุ๋ยใส่นาข้าวนั่นเอง และวันนี้ โุจทย์ของเพื่อนก็คล้ายๆกันคือโปรโมทธุรกิจขายปุ๋ยใช้กับต้นไม้ เน้นนาข้าว ที่เพิ่มเติมคืออะไรก็ได้

717296133
rice2-down-600w-452874925

ผมเลือกภาพจากสต๊อคแล้วใช้ในงานออกแบบ วางตัวหนังสือ วางโลโก้ วาง qr code ของโปรแกรม line ของลูกค้า ได้ออกมาเป็นภาพนี้ แต่ที่พิเศษกว่าปกติเล็กน้อยก็คือ นามบัตรชุดนี้เป็นแผ่นสติ๊กเกอร์ เมื่อใช้เป็นนามบัตรก็หยิบแจกไปตรงๆไม่ต้องลอก แต่ถ้าจะใช้ติดกล่อง ติดซอง ก็แกะสติ๊กเกอร์ออกจากแผ่นรองหลัง แล้วแปะลงไปบนซองหรือแพ็คเกจได้เลย ลูกค้าชอบไอเดียนี้ เลยผลิตด้วยสติ๊กเกอร์ทันที

IMG_20200918_121121

ภาพรวงข้าวภาพนี้เป็นตัวแทนของภาพสต๊อคเกี่ยวกับนาข้าวที่ผมชอบที่สุด ภาพรวงข้าวจากชัยนาททิ้งตัวโค้งๆสวยงาม อยู่ในสภาพแสงนุ่มนวลของวันที่ไปถ่ายภาพ ภาพนี้ผมอัดขยายใส่กรอบ ทำเป็นโปสการ์ดแจกเล่น รวมถึงเคยทำเป็นปฏิทินด้วย เอามาใช้อีกครั้งในนามบัตรก็ดูแล้วไม่ขี้เหร่

การถ่ายภาพด้วยฟิล์มกับการใช้แสงแฟลช

การถ่ายภาพด้วยฟิล์มได้กลับมานิยมกันอีกครั้งในยุค พศ.2563 แต่การหวนกลับมาของฟิล์มครั้งนี้มาพร้อมค่าใช้จ่ายที่แพงมหาศาล แต่คนก็ยังเหนียวแน่นกับการถ่ายภาพแบบลองผิดลองถูก ถ่ายทุกม้วนลุ้นทุกเฟรม การใช้แฟลชกับกล้องฟิล์มก็ดูจะมีบางกลุ่มที่ชอบใช้ เพราะลักษณะภาพแตกต่างไปจากมือถือ แตกต่างไปจากภาพจากกล้องดิจิทัล บทความนี้จะแนะนำการใช้แฟลชในบางรูปแบบเปรียบเทียบให้ดูว่า ช่างภาพยุคโบราณใช้แฟลชด้วยแนวคิดอย่างไร และอาจจะไม่เหมือนยุคนี้ทั้งหมด แต่หลักการจะสามารถนำไปใช้สร้างสรรค์ผลงานภาพได้

000037

ภาพที่1 ถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์ม เปิดแฟลชด้วย โดยใช้โหมด P บนกล้อง SLR ของ canon ลักษณะภาพจะได้แสงแฟลชพอดีบนตัวแบบ และฉากหลังค่อนข้างดำมืด นั่นเป็นเพราะว่าเมื่อเราเปิดโหมด P พร้อมด้วยเปิดใช้งานแสงแฟลช กล้องจะเลือกค่ารูรับแสง f4 และ ความไวชัตเตอร์เป็นค่าสูงๆประมาณ 1/60 วินาทีสำหรับที่แสงน้อย และอาจจะเลือกเป็น 1/125 วินาทีในที่แสงจัด กล้องจะคิดแทนเราว่าเราต้องการภาพไม่สั่น รูรับแสงน้อยเท่าที่เลนส์จะมีให้ได้ โดยฉากหลังจะมืดก็ไม่สนใจ เพราะตัวแบบจะได้รับแสงแฟลชที่เพียงพออยู่แล้ว ภาพจึงออกมาตามภาพคือตัวแบบได้แสงพอดี ส่วนฉากหลังจะดำเกือบมืดนั่นเอง

000038

ภาพที่ 2 เป็นภาพที่ตั้งใจปรับกล้องอีกแบบหนึ่ง เลือกการตั้งค่าให้เป็นโหมด AV พร้อมเปิดแฟลช ในโหมด Av บนกล้อง canon เมื่อเลือกรูรับแสง f4 กล้องจะเลือกค่าสปีตชัตเตอร์ให้เป็นค่าที่วัดแสงฉากหลังได้พอดี ซึ่งสปีดอาจจะต่ำลง ภาพแนวนี้ถ้าเป็นในอาคารจะใช้ขาตั้งด้วยเพื่อป้องกันการสั่นไหว นั่นจึงทำให้ฉากหลังของภาพที่ 2 นี้ ดูสว่างขึ้นกว่าภาพที่ 1 ส่วนตัวแบบจะได้แสงสว่างจากแฟลชและแสงในอาคาร แต่แสงหลักๆที่ทำให้ตัวแบบสว่างก็คือแสงแฟลช โดยรวมก็คือ ภาพที่1และ2 ตัวแบบจะได้แสงจากแฟลชเป็นแสงหลักและเป็นค่าแสงแฟลชที่สว่างพอดีบนตัวแบบ แต่ฉากหลังจะต่างกันตามโหมด P และ Av ที่กล้องคิดไม่เหมือนกัน

000031

ภาพที่ 3 เป็นโหมด Av ที่ปิดแฟลช เป็นการวัดแสงพอดีทั้งภาพ ตัวแบบจะได้แสงพอดีจากการวัดแสงจริงๆในโหมดนี้ และฉากหลังหากโดนแสงภายนอกส่องเข้ามาพอๆกับแบบ เราก็จะได้ภาพแบบและฉากหลังที่สว่างเหมือนกัน นั่นคือแสงพอดีเหมือนกันตั้งแต่หน้าถึงหลัง สถานการณ์นี้ขาตั้งกล้องจำเป็นมาก เพราะการถ่ายภาพในอาคาร วัดแสงพอดี ด้วยฟิล์มความไวต่ำ ความไวชัตเตอร์จะต่ำมาก หากถือด้วยมือเปล่าภาพจะสั่นแน่นอน

การใช้แฟลชถ่ายภาพมีเทคนิคการคิดหลายชั้น ค่อยๆฝึกถ่ายไปทีละบทเรียนก็จะมีความเข้าใจทีละน้อย สะสมความรู้ไปเรื่อยๆเราก็จะมีเทคนิคที่หลากหลายไปใช้ออกแบบรูปถ่ายของเรา ช่างภาพที่ดีก็คือช่างภาพที่เข้าใจแสงและอุปกรณ์ เส้นทางนี้ไม่มีทางลัด ต้องค่อยๆเรียนกันไป

กำจัดรังต่อ

ตัวต่อมาทำรังที่หลังคาบ้าน ประมาณหกเดือนที่แล้วขนาดที่เห็นประมาณลูกมะพร้าว ผู้รู้หลายคนบอกว่า บางทีเดี๋ยวมันก็จะหลุดเอง หรือ มันอาจจะไม่ได้โตขึ้น เพราะอาจจะย้ายที่ หรือฝนตกแรงก็จะหลุดได้

การกำจัดรังต่อเป็นเรื่องอันตราย เคยมีคนตายมาแล้วจากการไปตีรังต่อแล้วโดนตัวต่อรุมต่อยจนตาย มีบางข่าวก็มีคนตายเพราะรังต่อตกลงมาแล้วแตกอยู่ข้างที่นอน โดนตัวต่อต่อยหนียังไงก็โดนรุมต่อย แล้วก็ตาย ดังนั้น งานกำจัดรังต่อต้องปล่อยให้มืออาชีพจัดการ ชาวบ้านทั่วไปอย่าประมาททำเองเด็ดขาด

IMG_4360

รอมา6เดือน จากลูกมะพร้าวกลายเป็นกาละมัง ใหญ่จนยาวกว่าท่อนแขนผู้ใหญ่ เลยจัดการติดต่อเจ้าหน้าที่ดับเพลง โทร 199 ให้มาช่วยกำจัดหน่อย เจ้าหน้าที่รับเรื่องแล้ววันถัดมาก็เข้ามาดูและจัดการในตอนค่ำ

เจ้าหน้าที่ให้ความรู้ว่า การจะเอารังต่อออก ต้องเผาด้วยไฟ และจะต้องทำตอนกลางคืน ปิดไฟบ้าน ไฟทาง เพื่อไม่ให้ตัวต่อมองเห็นง่ายๆ การเผาด้วยไฟจะทำให้สิ่งปลูกสร้างอย่างหลังคามีรอยไฟไหม้ อย่าวเลวร้ายคืออาจต้องซ่อมหรือรื้อหลังคาทำใหม่ซึ่งเจ้าหน้าที่จะอธิบายถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น เจ้าบ้านอย่างผมก็ยอมอยู่แล้ว เพราะตัวต่อฆ่าคนได้

เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วก็จัดการเผา เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะเตรียมถังดับเพลิง สายยางฉีดน้ำ รอเอาไว้ เผื่อไฟลาม เจ้าหน้าที่ใส่ชุดป้องกันรัดกุม น้ำมันเบนซินผสมน้ำมันดีเซลเจ้าหน้าที่เตรียมมาเอง ตอนเผาก็จะมีการแงะให้รังแตกออกมาด้วย มีรังร่วง ตัวต่อร่วงระนาวลงพื้น พอเผารังหมด ก็มาจัดการตัวที่ร่วงลงมาบนพื้นต่อด้วยการฉีดยาฆ่าแมลงซ้ำเข้าไป เพื่อให้มันใจว่าตัวต่อตายสนิททุกตัว

เช้าวันรุ่งขึ้นก็เลยไปดูเศษซากต่างๆที่ร่วงอยู่บนพื้น มีรังต่อที่มีรูและมีตัวอ่อนแทรกอยู่จำนวนมาก บางชิ้นตัวอ่อนยังไม่ตาย มีการขยับอยู่ในรังด้วย ดูน่ากลัวมาก

IMG_4387

สรุปวิธีการจัดการรังต่อ

1 กำจัดรังให้เร็วที่สุดอย่าให้รังโตขึ้นเรื่อยๆ

2 ใช้บริการเจ้าหน้าที่ดับเพลิง โทร 199 แจ้งขอให้มากำจัดรังต่อ บอกที่อยู่ ให้ชัดเจน

3 นัดหมายเจ้าหน้าที่ วัน เวลา เจ้าหน้าที่จะทำการจุดไฟเผาเมื่อฟ้ามืด

4 น้ำมันจุดไฟเจ้าหน้าที่เตรียมมาเอง เป็นน้ำมันเบนซินผสมดีเซล

5 ไม่มีค่าใช้จ่าย

แม้จะไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ผมก็อยากให้รางวัลเป็นสินน้ำใจเล็กๆน้อยๆ เพราะเจ้าหน้าที่ทำงานอันตรายจริงๆ

วันต่อมาหลังจากรังพังไปแล้ว

รังต่อที่เป็นเศษซากตกหล่นที่พื้นจำนวนมาก มีตัวอ่อนติดคาอยู่ในรัง บางส่วนยังไม่ตายทันที ถึงมีคลิปวิดีโอที่ถ่ายเก็บไว้ได้ ตอนเย็นสังเกตุเห็นกบมาเดินเล่นไปมาใกล้ๆเศษรัง และในวันที่สองหลังจากเผาก็เห็นกบหลายตัวมาเดินเล่นแถวซากรัง เข้าใจว่าจะมาหาตัวอ่อนกิน เพราะกบพวกนี้ไม่เคยเจอว่ามาเดินในพื้นที่แถวนี้ คงเป็นกบที่หลบซ่อนอยู่ในสวนหลังบ้านแล้วมาหาอาหารที่ซากรังต่อ

ชุดนักเรียน ป1

IMG_0370

ถ่ายภาพสมัยเรียน ป1 เก็บไว้ วันที่วิ่งเล่นที่โรงเรียนตอนเย็น ถอดรองเท้าวิ่ง เมื่อจะกลับบ้านก็เอาเท้ายัดรองเท้าในท่าเหยียบส้นซะเลย รองเท้าผ้าใบสีขาวเปื้อนง่ายมาก ที่น่าคิดก็คือ ทำไมกฏของโรงเรียนถึงเลือกรองเท้านักเรียนให้เป็นสีขาว เพราะหน้าที่ของรองเท้าก็คือการเหยียบพื้น ติดดิน ติดกับฝุ่น สัมผัสความสกปรกบนพื้นตลอดเวลา การเลือกรองเท้าสีดำให้นักเรียนใส่น่าจะดูเป็นทางเลือกที่เหมาะกับการใช้งานมากกว่า คิดแต่ไม่ได้ถาม