ความสนุกกับการใช้กล้อง mirrorless ยุคใหม่ Sony ZV-1F

จากการฝึกฝนถ่ายรูปมาเกินกว่า 20 ปี กล้องตัวแรกที่ผมใช้เรียนรู้คือกล้องฟิล์ม ซึ่งในวันนั้นเราจะต้องศึกษาเรื่องการวัดแสง ต้องเรียนรู้คำว่าชดเชยแสง ต้องหัดโฟกัสให้ชัด ต้องวัดแสงพอดี ต้องระวังเรื่องความเร็วชัตเตอร์อย่าให้ต่ำเกินไป ต้องหัดใช้งานแฟลช ต้องเรียนรู้เรื่องการชดเชยแสงแฟลชด้วย และนอกเหนือไปจากความรู้ทางเทคนิคเหล่านี้แล้ว เรื่ององค์ประกอบภาพ ความสวยงามทางศิลปะก็ต้องเรียนรู้ด้วย

1719843686273-01
IMG_20240331_220409

ผ่านจากกล้องฟิล์ม ก็เข้าสู่ยุคของกล้องดิจิทัล ช่างภาพที่ฝึกฝนการใช้งานกล้องฟิล์มชนิด SLR มาอย่างจริงจัง ช่างภาพอาชีพที่รับงาน ต่างก็เพิ่มกล้องดิจิทัลอย่าง DSLR เข้าสู่การทำงาน กล้อง DSLR มีวิธีใช้และวิธีคิดเหมือนกล้องฟิล์ม ทักษะที่จำเป็นในการใช้งานกล้องดิจิทัลที่จริงจังก็ยังคงต้องเข้าใจการวัดแสง ชดเชยแสง เรายังคงต้องระวังการถ่ายภาพวัตถุสีขาว เพราะภาพอาจจะออกมามืดเกินไปเหมือนการถ่ายด้วยฟิล์ม ระวังเรื่องการถ่ายภาพย้อนแสง เพื่อไม่ให้ภาพมืดจากการวัดแสงผิดพลาด แต่กล้องดิจิทัลก็พัฒนาเร็วมาก เราสามารถตั้งค่า iso ได้สูงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ความไวชัตเตอร์สูงเพียงพอที่จะถ่ายภาพโดยไม่ให้ภาพสั่น เป็นข้อดีที่เด่นชัดมากเมื่อเทียบกับกล้องฟิล์มที่มีค่าความไวแสงของฟิล์มคงที่ ถ้าเราใช้ฟิล์มความไวแสงต่ำเพื่อความละเอียดของเนื้อภาพ ก็ต้องถ่ายแบบระวังกล้องสั่นจากความไวชัตเตอร์ที่อาจจะน้อยเกินไปตลอดทุกภาพ กล้องดิจิทัลที่ตั้งค่า iso ได้สูงมากทำให้เราจะสามารถถ่ายภาพได้เกือบจะไม่ผิดพลาดเลยหากเราเข้าใจวิธีการตั้งค่ากล้องถ่ายภาพและมีความรู้พื้นฐานอย่างถูกต้อง กล้องดิจิทัลยุคแรกทำความไวแสงไว้ไม่มากแต่ก็สูงเท่ากับฟิล์มไวแสงที่มากที่สุดแล้ว ขณะที่กล้องในยุคปัจจุบันสามารถตั้งค่าความไวแสงได้สูงทะลุฟ้า ซึ่งแทบจะทำให้ถ่ายภาพได้ทุกความสว่างที่ตาคนเราจะมองเห็นได้

DSC01602

เทคโนโยลีการโฟกัสภาพก็พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด การจับโฟกัสวัตถุแม่นยำ กล้องดิจิทัลในปัจจุบันรู้จักวัตถุต่างๆ สามารถโฟกัสติดตามได้แทบจะทุกสิ่งในโลก กล้องรู้จักตัวคน หน้าคน ดวงตาของคน บางรุ่นพัฒนาไปถึงรู้จักสัตว์ ดวงตาสัตว์ รู้จักวัตถุอย่างรถยนต์ จักรยาน ทุกสิ่งที่มีโอกาสถูกถ่ายภาพกล้องดิจิทัลจะมีความสามารถในการรับรู้ว่ามันกำลังถ่ายภาพวัตถุชนิดใดอยู่

1722432860704-01

มาถึงยุค Mirrorless ที่พัฒนาต่อจาก DSLR กล้องเริ่มมีความสามารถสูงขึ้นไปอีก สามารถถ่ายภาพวิดีโอได้อย่างดี ความสามารถของฮาร์ดแวร์ที่รับค่าแสงได้ทุกระดับ การประมวลผลที่ฉลาด ช่างภาพเริ่มไม่ต้องระวังการวัดแสงแล้ว เพราะกล้องมีความสามารถในการเก็บภาพได้ในทุกสภาพแสงที่ตาเห็น และที่น่าตื่นเต้นจนต้องบันทึกไว้ในโพสท์นี้ก็คือ การถ่ายภาพวัตถุสีขาวกล้องสามารถเข้าใจสีและให้ค่าการวัดแสงที่พอดีกับสีขาว ทำให้เราไม่ต้องชดเชยแสงอีกในตอนที่เราถ่ายภาพวัตถุสีอ่อน ดูภาพตัวอย่างที่เป็นถ้วยสีขาว อาหารในถ้วยเป็นสีขาว โต๊ะสีขาว ภาพเหล่านี้ปกติจะทำให้กล้องฟิล์มและกล้อง DSLR วัดแสงผิดมานักต่อนัก แต่กล้องรุ่นใหม่ แบบ Mirrorless กลับให้ค่าการวัดแสงที่พอดี

DSC01633

นอกจากจะไม่ถูกหลอกด้วยค่าความสว่างของสีขาวแล้ว เรื่องความเร็วชัตเตอร็ที่จะทำให้ภาพไม่สั่นก็ปรับสูงขึ้นโดยมีการตั้งค่า iso ให้อัตโนมัติ ความผิดพลาดในยุคของ mirrorless แทบจะเป็นศูนย์เลย มันจึงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นของช่างภาพวัยเก๋าที่ผ่านการเรียนรู้มายาวนาน ตื่นเต้นเพราะต่อไปนี้แทบไม่ต้องระวังสิ่งที่จะทำให้ภาพมีคุณภาพต่ำแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาทำงานและตรวจสอบหลายๆๅเรื่องอย่างการตั้งค่าแสง ความไวชัตเตอร์ และรูรับแสงของเลนส์

ไม่ใช่แค่การเป็นกล้องยุคใหม่ แต่การออกแบบของ ZV-1F ยังเน้นไปที่การออกแบบให้เล็ก กระทัดรัด น้ำหนักเบา เลือกใช้เลนส์ทางยาวโฟกัสเดี่ยวเพื่อให้กล้องมีขนาดเล็กแต่ยังคงมีคุณภาพของภาพที่สูงลิบอยู่ การทำให้ช่างภาพรู้สึกว่ากล้องไม่เป็นภาระในการพกพา และไม่รู้สึกยุ่งยากในการหยิบออกมาถ่าย เหตุผลเหล่านี้จะทำให้กล้องถูกใช้งานได้บ่อย และทำให้ได้ภาพ ก็จะมีโอกาสเกิดเป็นภาพที่ดี

ระบบวิดีโอที่พัฒนามาอย่างดีทำให้ ZV-1F เป็นกล้องวิดีโอที่ให้คุณภาพสูงกว่าการถ่ายวิดีโอด้วยโทรศัพท์มือถือ กล้องสามารถโฟกัสติดตามวัตถุในภาพได้แม่นยำ มีระบบการวัดแสงที่ฉลาดและแน่นอน และปรับโทนสีภาพที่เลือกใช้ได้เหมือนภาพนิ่ง ทำให้เราได้ภาพวิดีโอที่พร้อมใช้งานโดยไม่ต้องปรับแต่งสีในขั้นตอนการตัดต่อ ทำให้เจ้าของกล้องลดเวลาการทำงานลงได้ ผลคือจะทำให้มีคลิปไปใช้งานได้สะดวกรวดเร็วขึ้น

เคยมีคนพูดไว้ว่า กล้องที่ดีคือกล้องที่อยู่ในมือ ประโยคนี้เป็นจริงสำหรับช่างภาพทุกคน และกล้องตัวเล็กกระทัดรัดความสามารถสูงอย่าง ZV-1F ก็ทำให้ประโยคพูดนี้เป็นจริงยิ่งขึ้น เราแค่พกกล้องที่ถูกใจสักตัวออกไปทำงาน ไปเที่ยว ไปกิน ไปเปิดหูเปิดตา แล้วเราก็จะได้ภาพได้คลิปที่นำกลับมาใช้งานได้ จะเขียนบทความเป็น Blog หรือจะบันทึกคลิปทำ Vlog เครื่องมืออย่าง ZV-1F ก็ตอบสนองได้จริงๆ

dpp-IMG_9999

รวมภาพจาก ZV-1f สไตล์ฟิล์ม

กล้องคอมแพ็คของ Sony รุ่น ZV-1f เป็นกล้องที่มีโหมดสี FL หรือ ย่อมาจากคำว่า Film look ซึ่งเป็นสไตล์สีที่ทำเลียนแบบภาพจากฟิล์ม อดีตเวลาเราถ่ายภาพด้วยฟิล์ม หากต้องการจะดูภาพเราก็ต้องอัดภาพมาเป็นกระดาษ และหากจะดูภาพในจอคอมพิวเตอร์หรือในสมาร์ทโฟน เราก็ต้องสแกนฟิล์มเป็นไฟล์ภาพ ซึ่งร้านล้างฟิล์มก็จะมีบริการสแกนฟิล์มด้วย บางคนไม่อัดภาพเป็นกระดาษแล้ว ก็จะส่งฟิล์มไปล้าง+สแกนเลย เราก็จะได้ดูภาพจากฟิล์ม

DSC00378

แต่กว่าจะเสร็จสิ้นขบวนการล้างและสแกน ก็ใช้เวลาหลายวัน หรือแม้แต่การไปส่งฟิล์มแล้วนั่งรอ ก็ต้องลุ้นว่าทางร้านจะล้างฟิล์มให้ได้ในวันเดียวไหม ความไม่สะดวกเรื่องเวลาทำให้กล้องดิจิทัลที่ให้ภาพสไตล์ฟิล์มได้เริ่มน่าสนใจ และก็พบว่าใน ZV-1f มีโหมดภาพสไตล์ฟิล์มมาให้ช่างภาพที่นิยมภาพจากฟิล์มได้มีของเล่นติดตัวชิ้นใหม่

นอกจากภาพสไตล์ฟิล์มแล้ว เรายังสามารถเลือกสไตล์สีแบบนี้ตอนถ่ายวิดีโอได้ด้วย ทำให้เราได้ภาพเคลื่อนไหวที่ดูคล้ายฟิล์มเช่นกัน และมันก็ดูเป็นสีสันที่น่ามอง เหมือนภาพจากโรงหนัง เหมือนภาพงานหนังอาร์ตที่มีสีอมเขียวอมฟ้าเล็กน้อย บางคนใช้กล้องโปรตัวใหญ่ถ่ายคลิปทำงานโปรดักชั่นสุดเนี้ยบแล้วในขั้นตอนสุดท้ายก็ย้อมสีทั้งงานให้เป็นสไตล์หนังอาร์ต ซึ่งแนวสีที่ถ่ายคลิปได้เหมือนหนังอาร์ตมีให้ใช้ตรงๆ เราได้ภาพสีอาร์ตในขั้นตอนการถ่ายเลย จบหลังกล้องจริงๆ

DSC00398

กล้อง ZV-1f มีจอภาพแบบ flip บิดกางออก ปรับหมุนเพื่อถ่ายภาพแนวดิ่ง ภาพก้มลงมองจานอาหารได้สะดวก ทำให้ถ่ายภาพของกินได้มุมมองที่แปลกตามากขึ้น จอภาพที่หมุนได้รอบตัวช่วยให้เราจัดองค์ประกอบภาพได้อิสระมาก แม้แต่การบิดจอเพื่อถ่ายตัวเอง ก็เป็นเรื่องที่ทำได้สะดวก เหมาะกับการทำงานคนเดียว ถือกล้องเอง ดูจอเอง เลือกมุมกล้องเอง ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมให้รุงรัง

DSC00517

การถ่ายคลิปวิดีโอด้วยเฟรมภาพสูงระดับ 120ภาพต่อวินาทีหรือ 120fps แล้วนำมาเล่นกลับในความเร็ว 30 ภาพต่อนาที ก็จะได้ภาพสโลว์ที่สวยงาม เหมาะกับเหตุการณ์ที่มีการเคลื่อนไหวเร็ว และยิ่งมีสไตล์สีที่ดูเป็นโทนหนังอาร์ต ก็ทำให้คลิปดูน่าสนใจมากขึ้น

DSC00631
DSC00627

ด้วยเลนส์ติดกล้องเป็นเลนส์รูรับแสงกว้างระดับ f2 ทำให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยเป็นเรื่องง่าย เพราะความไวแสงของเลนส์และการตั้งค่า iso ที่สูงขึ้นโดยสัญญาณรบกวนน้อยตามสไตล์กล้องยุคใหม่ ภาพบรรยากาศในโรงแรมที่มีแสงไม่เยอะมากก็เก็บภาพได้ เล่าเรื่องด้วยสไตล์สีที่น่ามองได้

DSC00637

เลนส์มุมกว้างเทียบเท่ากับเลนส์ 20มม. เป็นเลนส์ที่ให้ภาพดูยิ่งใหญ่ อลังการ เหมาะกับการถ่ายในที่แคบแล้วเก็บภาพได้เหมือนตาเห็น เรายืนคุยกับใคร มองอะไร เรายกกล้องถ่ายด้วยเลนส์ 20มม. เราจะได้วัตถุที่เรามองเห็นอยู่ในภาพเลย โดยไม่ต้องถอย

DSC00570

สรุป

สไตล์ภาพ FL หรือ Film Look เป็นสไตล์สีที่เลียนแบบภาพจากฟิล์ม ให้โทนภาพอมเขียวอมฟ้าดูคล้ายภาพจากหนังหรือมิวสิควิดีโอที่แต่งสีหรือปรับสีมาแล้ว เป็นการทำสีเสร็จในกล้องเลย ถ่ายเสร็จก็ได้ภาพสีที่ต้องการเลย ไม่ต้องไปเสียเวลาทำต่อในโปรแกรมตัดต่อ เหมาะกับช่างภาพหรือคนที่ต้องการลดขั้นตอนการทำงานให้น้อยที่สุด ทีมงานตัวคนเดียวควรจะมีอุปกรณ์แบบนี้ใช้งาน

DSC02230
DSC02168
DSC01788
DSC01696
IMG_20240331_212007
IMG_20240608_203709
DSC01735
DSC01602
IMG_20240318_104825
1710671844668
DSC02808
DSC02871
DSC02787
DSC02697

สั่งซื้อที่นี่ https://shope.ee/9eyuQHL1zl

รีวิวกล้อง SONY ZV-1F

รีวิวกล้องน่าใช้ Sony ZV-1F.

1707829233240-01

สำหรับช่างภาพที่ฝึกฝนการถ่ายภาพมาระยะหนึ่ง บางคนอาจมีอาชีพเป็นช่างภาพ บางคนอาจมีอาชีพอื่นที่ต้องถ่ายภาพจำนวนมาก ก็จะมีบางเวลาที่ไม่อยากจับกล้องตัวใหญ่ที่ใช้ทำงาน บางครั้งก็อยากได้กล้องตัวเล็กพกง่าย หยิบได้เร็ว เก็บได้เร็ว เอาไว้ถ่ายภาพในวันสบายๆ แต่วันสบายๆนั้นก็ต้องได้ภาพที่ดีซึ่งหมายถึงดีตามมาตรฐานระดับสูงของช่างภาพ ก็คืออยากได้กล้องเล็ก เบา และให้ภาพดีเหมือนกล้องโปรนั่นเอง

IMG_1176

ในยุคสมัยของโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่แสนเฟื่องฟู ตั้งแต่กล้องในโทรศัพท์คุณภาพดีเท่ากับกล้องคอมแพ็คหรือกล้องดิจิทัลตัวเล็กๆ กล้องคอมแพ็คก็โดนแย่งตลาดไป คนส่วนใหญ่ซื้อโทรศัพท์ราคาระดับกลางไปถึงสูงเพื่อให้มีกล้องคุณภาพดีอยู่ในโทรศัพท์และใช้แทนกล้องถ่ายภาพไปเลย พอตลาดมวลชนหันไปใช้โทรศัพท์แทน กล้องคอมแพ็คก็ทะยอยเลิกผลิตกันไป ถ้าเป็นสักห้าปีก่อน บางทีเรานึกไม่ออกเลยว่าจะมีกล้องคอมแพ็คดิจิทัลราคาย่อมเยาให้ซื้อหรือไม่  ตามร้านกล้องในห้างก็ไม่มีวางขายกล้องคอมแพ็คหลักพันบาทแล้ว เหลือแต่หลักหมื่นจนไปเป็นหลายๆหมื่น บางรุ่นก็เป็นแสน

ในอดีตผมมีความรู้สึกชอบกล้องคอมแพ็คที่เป็นกล้องฟิล์มอยู่หลายตัว Leica Minilux ก็เป็นกล้องคอมแพ็คใช้ฟิล์มของไลก้าที่ราคาไม่แพงเท่าตัวอื่นของยี่ห้อนี้ ก็มีไว้ใช้อยู่พักหนึ่ง ถ่ายเล่นพอสนุกๆแล้วก็วางเก็บไว้ ถือว่าเป็นกล้องฟิล์มที่มีขนาดตัวเล็กกว่ากล้องระดับโปร ตอนใช้งานก็หยิบขึ้นมากดถ่าย วัดแสงได้แม่นยำ ให้ภาพที่ดี  แต่พอเข้าสู่ยุคฟิล์มแพงและการใช้งานต้องรอล้างฟิล์มและสแกนภาพหลายวันก็เลยไม่ค่อยได้ใช้อีก 

กล้อง Contax T3 ก็เป็นกล้องฟิล์มตัวท๊อปตัวหนึ่ง ให้คุณภาพที่ดีมาก โฟกัสเร็วมาก วัดแสงแม่นมาก ใช้ถ่ายภาพอยู่หลายม้วน หลังๆก็ไม่ค่อยได้ใช้เพราะขี้เกียจรอเวลาส่งฟิล์มล้าง แถมระยะหลังฟิล์มราคาแพงจนไม่น่าคบ ก็เลยวางยาวไว้ในกระเป๋ากล้อง แทบไม่ได้แตะอีกเลย

Nikon L35AF เป็นกล้องคอมแพ็คค่ายญี่ปุ่นที่ออกแบบดี แข็งแรง และคุณภาพดีเช่นกัน เรื่องกล้องผมว่าญี่ปุ่นไม่เป็นรองเยอรมันเลย หามาใช้เพราะได้ข่าวว่าดี ลองใช้แล้วก็พบว่าดีจริงและราคาไม่แพงมาก ทั้งสามตัวที่กล่าวถึงก็จะมีรีวิวเขียนไว้ในเว็บนี้แล้ว ลองหาอ่านดูได้

IMG_0046
ฟิล์มขาวดำที่ผ่านการล้างแล้ว รอนำไปอัดเป็นภาพ

กล้องคอมแพ็คใช้ฟิล์มที่กล่าวถึงนี้ใช้งานได้ดี แต่ก็มีค่าใช้จ่ายเรื่องค่าล้างฟิล์มและการสแกนภาพ ปัจจัยกำหนดคุณภาพของภาพต้องคิดตั้งแต่เลือกฟิล์ม เลือกกล้องเลือกเลนส์ เลือกร้านล้างฟิล์มและสแกน กว่าจะได้ภาพที่ถูกใจต้องเสี่ยงวัดดวงกันหลายอย่าง สุดท้ายเมื่อได้ภาพมาก็ดูภาพสแกนในโทรศัพท์มือถือหรือไม่ก็ในคอมพิวเตอร์ แถมเอาไปโพสท์ในโซเชียลเน็ตเวิร์คก็ส่งดิจิทัลไฟล์ออกไป แทบไม่ได้อัดขยายออกมาเป็นภาพบนกระดาษเลย

พอไม่คิดจะอัดภาพเป็นกระดาษก็เลยมองหากล้องดิจิทัลคอมแพ็คกันอีกครั้งในรอบสิบปี ผมเคยมีกล้องคอมแพ็คตัวเจ๋งอย่าง Fuji x100 ที่ราคาไม่ถูกเลย แต่ก็ใช้อยู่ปีกว่าก็ขายออกไปก่อน เพราะว่าโฟกัสช้า ไม่สามารถถ่ายภาพลูกที่กำลังหัดคลานหัดเดินได้ทัน กล้องดิจิทัลไม่ได้มีอายุการใช้งานนานเหมือนกล้องฟิล์ม เก็บไว้โดยไม่ได้ใช้ก็ดูเป็นทางเลือกที่ไม่ดีนัก มาช่วงนี้ที่ไม่ต้องถ่ายภาพเด็กคลานและเดินแล้ว เพราะลูกโตเปลี่ยนเป็นวิ่งแทน ก็แทบจะเลิกใช้กล้องคอมแพ็คหรือกล้องฟิล์มถ่ายไปเลย ต้องเปลี่ยนไปใช้กล้อง DSLR แทนเพื่อให้ถ่ายภาพตอนเคลื่อนไหวเร็วๆได้ทัน ประกอบกับมีเรื่องของการถ่ายคลิปวิดีโอเพิ่มเข้ามาด้วย กล้องAction camera อย่าง gopro ที่ลงน้ำได้ด้วย ก็ต้องหามาใช้ประกอบกัน  การหากล้องถ่ายภาพมาใช้อีกครั้งก็เลยคิดเผื่อความสามารถเรื่องการถ่ายวิดีโอเพิ่มเติม คืออยากได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอที่ดีในกล้องตัวเดียวกัน

IMG_1203

ด้วยความชอบสีสันของภาพถ่ายที่มีลักษณะของฟิล์ม ทั้งโทนสีและโทนขาวดำของกล้องฟิล์มมีบุคลิกที่เด่นชัดและยากจะทำเลียนแบบด้วยคอมพิวเตอร์ การค้นหากล้องดิจิทัลที่ให้ภาพคล้ายฟิล์มเป็นเป้าหมายในใจช่างภาพยุคหัดถ่ายฟิล์มมายาวนานหลายปี บางครั้งก็ลองไปปรับแต่งตัวเลขสีในกล้องดิจิทัลทั้งกล้อง DSLR รวมถึงกล้อง mirrorless หลายตัวก็ยังไม่ถูกใจ แต่พอมีข่าวว่า sony ทำกล้องที่สามารถเลือกปรับสีให้ดูเพี้ยนคล้ายภาพจากฟิล์มได้ ก็เลยสนใจ และก็ติดตามอ่านมาเรื่อย จนเกิดเป็นรีวิวกล้อง Sony ZV-1F ตัวนี้

สั่งซื้อที่นี่ https://shope.ee/9eyuQHL1zl

ข้อมูลกล้อง

กล้องอนุกรม ZV ของ Sony เริ่มจาก ZV-1 เป็นกล้องคอมแพ็คเซ็นเซอร์ 1 นิ้ว มาสู่กล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ ZV-E10 เซ็นเซอร์ aps-c ต่อมาก็มี ZV-E1 ที่เป็นกล้องเปลี่ยนเลนส์ขนาดเซ็นเซอร์ Full frame แล้วก็มาสู่ กล้องคอมแพ็ค ZV-1F แล้วก็มาถึงกล้องคอมแพ็ค ZV-1 ii จุดเด่นของตัวกล้องกลุ่ม ZV ก็คือมีไมโครโฟนรับเสียงคุณภาพดี และมีลูกเล่นการโฟกัสสิ่งของหรือ Product show case ที่เอาไว้ใช้กับการ live ขายของ หยิบสินค้าชิ้นเล็กๆขึ้นมาโชว์แล้วกล้องสามารถโฟกัสไปที่สิ่งของแทนหน้าคนขายได้ จุดเด่นสองอย่างนี้ทำให้ ZV ทุกตัวได้รับความนิยมมาก

ZV-1F เป็นกล้องดิจิทัลคอมแพ็ค ติดเลนส์ฟิกซ์ 20f2 ซึ่งเป็นเลนส์เดี่ยวคุณภาพสูง รูรับแสงกว้าง เซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1 นิ้ว เป็นขนาดที่ไม่เล็กมาก สามารถให้ภาพที่มีคุณภาพดีกว่าโทรศัพท์มือถือและกล้องคอมแพ็คทั่วไป การทำงานภายในกล้องถูกออกแบบมาให้เป็นกล้องที่ทำงานได้เร็ว โฟกัสแม่น และถ่ายวิดีโอได้สเป็คบิทเรทที่สูงมาก การออกแบบเป็นเลนส์ฟิกซ์ทำให้กล้องมีขนาดเล็ก เลนส์ติดกล้องไม่มีชิ้นส่วนยื่นเข้าออกตอนเปิดปิด ทำให้ลดโอกาสความเสียหายเรื่องสายแพรเสียหายในระยะยาว และพอไม่มีการยืดตัวของเลนส์ก็ทำให้มันมีขนาดกระทัดรัดที่สุดตอนทำงาน เหตุที่กังวลเรื่องสายแพรเพราะว่ากล้องคอมแพ็คที่มีเลนส์ยื่นเข้ายื่นออกได้จะมีอาการสายไฟในเลนส์เสียหาย ซึ่งกล้องคอมแพ็คฟิล์มที่เคยใช้มีปัญหานี้แทบทุกตัว แม้แต่เลนส์ซูมที่ใช้กับกล้อง DSLR ก็เคยมีปัญหาสายไฟในเลนส์ขาดเช่นกัน

ยังมีจุดเด่นด้านอื่นที่ทำให้กล้อง ZV-1F ตัวนี้น่าสนใจคือ ช่องเสียบสาย usb เป็นชนิด usb-c สามารถชาร์จไฟได้ด้วยทำให้เราไม่ต้องถอดแบตออกมาชาร์จข้างนอก สามารถเสียบชาร์จด้วย powerbank ได้ ซึ่งข้อนี้เป็นข้อดีมากๆ โดยเฉพาะคนที่ต้องเดินทางบ่อยๆ เที่ยวต่างประเทศบ่อยๆ จะมีประโยชน์โดยตรง 

ยังมีลูกเล่นการปรับโทนสีภาพให้ดูสีสวยแปลกตาหลายแบบ อยู่ในเมนู creative look ทำให้เราสามารถปรับโทนสีของคลิปวิดีโอและภาพนิ่งได้ ซึ่งผมเลือกซื้อกล้องตัวนี้เพราะลูกเล่นการการปรับโทนสีโดยเฉพาะเลย 

หลังจากเริ่มใช้งานมาหลายวันก็ทะยอยค้นพบข้อดีเพิ่มขึ้นทีละอย่าง เชื่อว่าทีมพัฒนาโซนี่น่าจะทำแบบสำรวจหรือขอข้อมูลจากผู้ใช้งานจำนวนมากจะปรับปรุงและใส่ลูกเล่นต่างๆมาในกล้องได้อย่างน่าประทับใจ เริ่มจาก

DSC00104_1
ZV-1F ถ่ายด้วยรูรับแสงกว้างสุด ตอนกลางคืน แสงสว่างในห้องนอน

เลนส์ไวแสง 20 f2.0 เป็นเลนส์ที่เหมาะกับการถ่ายภาพในที่แสงน้อย ทำให้มันเหมาะกับการถ่ายภาพแทบทุกสถานการณ์ ประกอบกับการทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์รับแสงขนาดใหญ่ 1 นิ้ว กล้องที่ผลิตในยุคใหม่เป็นกล้องที่มีสัญญาณรบกวนต่ำกว่ากล้องสเป็คเดียวกันในอดีต คุณภาพของภาพตอนถ่ายในที่แสงน้อยจะดูดีกว่ากล้องเมื่อยี่สิบปีที่แล้วอย่างมาก 

06-ZV-1F_top_white

ปุ่มชัตเตอร์และปุ่มถ่ายวิดีโอเป็นปุ่มกดวางแยกกัน ไม่สับสนในการใช้งาน และการจัดวางปุ่มก็เลือกวางได้อย่างเข้าใจ การใช้งานระหว่างสองโหมดนี้ไม่สับสนเลย 

DSC00136

เครื่องพิมพ์ตีธง เป็นเครื่องพิมพ์แบบ letterpress ที่ดัดแปลงไปทำงานปั๊มเจาะรู และทำเส้นปรุได้

ระหว่างที่กำลังเล็งจะถ่ายภาพนิ่ง หากเราอยากเปลี่ยนเป็นถ่ายวิดีโอเราก็กดปุ่มถ่ายวิดีโอ กล้องจะเริ่มบันทึกภาพวิดีโอเลย ตรงนี้เป็นการทำงานที่ไม่ต้องย้ายโหมด ไม่ต้องเปลี่ยนโหมด ไม่ต้องเข้าเมนูใดๆ เป็นความรวดเร็วที่ควรทำได้มาตั้งนานแล้ว แต่ก็เพิ่งพบกับกล้องรุ่นนี้

DSC00164
ภาพใบไม้ถ่ายด้วยเลนส์ 20f2 บนกล้อง ZV-1F
DSC00165
กล้อง ZV-1F กดซูมภาพแบบดิจิทัล 2X

กล้องมีระบบดิจิทัลซูมที่ทำให้เลนส์ฟิกซ์ก็สามารถมีภาพขยายใหญ่เหมือนมีเลนส์ซูมได้ การทำดิจิทัลซูมก็คล้ายกับการคร็อปภาพ ซึ่งหากเลนส์มีคุณภาพ การคร็อปภาพก็จะเหมือนเลนส์มีทางยาวโฟกัสเพิ่มขึ้นนั่นเอง จากเลนส์ 20มม. ก็จะกลายเป็นเลนส์ 40มม. ในทางปฏิบัติแม้จะเป็นการคร็อปภาพ แต่การคร็อปภาพจากภาพที่ใหญ่มาก ก็ยังคงให้ภาพขนาดกลางที่มีคุณภาพอยู่ sony ออกแบบให้ขยายภาพหรือซูมได้ถึง 4เท่า ซึ่งภาพที่คร็อป4เท่า ก็ยังพอใช้งานได้

ซ้อมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาที่สนามฟุตบอล

ระบบการซูมดิจิทัลสามารถตั้งค่าความเร็วในการซูมได้ เราสามารถค่อยๆซูมเข้าไปช้าๆที่ตัวบุคคลเพื่อสร้างมุมมองภาพเหมือนการถ่ายทำสารคดีหรือถ่ายหนัง การซูมอย่างนุ่มนวลให้ภาพวิดีโอที่สวยงามนุ่มนวลไม่กระตุก ลูกเล่นการซูมนี้ช่วยทำให้การถ่ายคลิปวิดีโอเป็นเรื่องสนุก เรามีตัวเลือกซูมช้า ปานกลาง และเร็ว รวมถึงมีปุ่มบนหน้าจอที่ 1x 2x 4x ให้เลือกด้วย กดแล้วได้ระยะซูมที่ต้องการทันทีไม่ต้องรอ ระบบการซูมดิจิทัลแบบนี้ใช้เป็นเครื่องมือสร้างภาพเคลื่อนไหวที่น่าดูได้

DSC00110
ของไหว้เทศกาลตรุษจีน

การที่กล้องมีจอภาพแบบ flip สามารถกางออกมาดูในมุมมองอื่นได้ ทำให้เราสามารถถ่ายภาพเงย หรือก้ม หรือมุมมองแปลกๆได้ ซึ่งกล้อง DSLR ในอดีตการจะถ่ายมุมมองก้มลงอย่างแม่นยำ ก็อาจจะต้องใช้อุปกรณ์เสริมเพิ่ม แต่จอภาพแบบ flip ทำให้การถ่ายภาพทุกองศาการถือกล้องเป็นเรื่องง่าย จัดวางกล้องได้อิสระมาก

DSC00019
ภาพเครื่องพิมพ์ ถ่ายเป็นโหมดขาวดำจบหลังกล้อง

ภาพขาวดำตั้งค่าจากในกล้องเลย ปรับแต่งค่าคอนทราสต์นิดหน่อย เราก็จะได้ภาพขาวดำที่ให้โทนสีดำที่ลึก เข้มข้น เป็นแนวทางใกล้เคียงกับการทำงานขาวดำด้วยฟิล์ม ใกล้เคียงกับการอัดขยายภาพขาวดำบนกระดาษ สไตล์สีขาวดำที่สวยงามต้องเกิดกับคนที่เคยมองภาพขาวดำบนกระดาษอัดภาพจริงๆถึงจะบอกได้ว่าขาวดำแท้จริงเป็นอย่างไร ในอดีตยังไม่เคยมีกล้องดิจิทัลที่ทำภาพขาวดำได้ใกล้เคียงเลย มีตัวนี้แหละที่ดูใกล้ขึ้น และพอยอมรับได้ (ผมยังไม่เคยใช้ Leica monochrome)

DSC00029
ภาพเครื่องพิมพ์ถ่ายในโหมด สี ปรับแต่งสีให้เป็นโทนฟิล์ม ทำเสร็จในกล้องเลย

การถ่ายภาพสีในสถานที่ที่แสงไม่แรงมาก หรือแดดไม่จัด หรือถ่ายในที่ร่ม ภาพจะมีความนุ่มนวลโดยธรรมชาติ และหากรวมกับการปรับแต่งฟิลเตอร์สีที่กล้องมีมาให้ ก็จะทำให้เราได้ภาพคล้ายกับงานที่ถ่ายด้วยกล้องฟิล์ม 

DSC00131
บรรยากาศในโรงพิมพ์

ภาพขาวดำที่สวยคือภาพที่มีโทนสีขาว เทา ดำ ครบ และส่วนสีดำที่สุดมีความดำที่ดำสนิท ในทางเทคนิคคือภาพมีคอนทราสต์สูง มีส่วนขาวสุดและส่วนดำสุด แต่โทนเทาจะต้องต่อเนื่องคือไล่อ่อนไปเข้มได้นุ่มนวล

DSC00114
แม่ลูกคู่กัน

โหมดสีแบบฟิล์มกลายเป็นโหมดที่ปรับแต่งทิ้งไว้และใช้โหมดนี้ถ่ายภาพเกือบตลอดเวลา เพราะสไตล์สีแบบฟิล์มเป็นสีที่น่ามอง ดูมีเสน่ห์เมื่อเป็นภาพถ่าย ไม่แปลกใจที่จะมีคนชอบภาพสไตล์อินสตาแกรม หรือ มีคนชอบการปรับสีของ app VSCO ซึ่งโซนี่ก็เอาใจเต็มที่ด้วยการใส่โทนสีพิเศษแนวนี้เข้ามาให้เลือกใช้

DSC00104_1
ลองคร็อปภาพเป็นพาโนราม่า

สิ่งที่ชอบอีกอย่างก็คือระบบ app ที่ทำงานได้รวดเร็ว เชื่อมต่อง่าย สามารถใช้ app เพื่อโหลดไฟล์ได้สะดวก แถมยังมีระบบเก็บภาพบน cloud ให้ใช้ด้วยอีกขนาด 25Gb ซึ่งพอจะใช้เป็นที่แบ็คอัพภาพนิ่งได้ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าระบบ app ที่เชื่อมต่อกับ cloud จะมีปัญหาในภายหลังไหม เพราะระบบอื่นๆจากประสบการณ์ที่เคยใช้มา ส่วนที่เป็น cloud มักจะทำงานดีเมื่อปีแรก และเมื่อเริ่มไม่ได้รับความนิยมของระบบบน cloud ก็มักจะหายไป

DSC00083
ถ่ายภาพโต๊ะทำงาน เลนส์มุมกว้าง 20mm เก็บสิ่งที่มองเห็นครอบคลุมเหมือนสายตาจริงของเรา
DSC00028
ถ่ายระยะใกล้ๆหรือมาโคร รูรับแสง f2 ให้ภาพวัตถุชัดขณะที่ฉากหลังเบลอได้
DSC00125
เก็บภาพมุมกว้างเหมือนตาเห็น เรายืนมองอะไร เราก็ยกถ่ายสิ่งนั้นได้ ไม่ต้องถอย
ระบบดิจิทัลซูม ปรับความเร็วในการซูมไว้ที่ระดับช้า ให้ความนุ่มนวลในการซูมเหมือนมืออาชีพ
บันทึกคลิปได้ไม่ต่างจาก gopro แต่จะได้สีสันตามการปรับแต่งที่กล้องเลย ไม่ต้องไปทำสีอีกครั้งในคอมพิวเตอร์

DSC00177
ภาพสนามฟุตบอล ยืนดูแล้วก็ถ่ายสิ่งที่เห็น ภาพมุมกว้างเหมือนสายตามนุษย์
DSC00162
ทุ่งนาปลูกข้าวกำลังออกรวงสวยงาม 

ข้อจำกัด หรือ อาจจะเรียกว่าเป็นข้อเสียก็ได้

กล้องตัวนี้มีข้อดีเยอะ ขณะเดียวกับก็มีข้อจำกัดที่เยอะเช่นกัน การจะเลือกใช้กล้องตัวนี้ควรจะรู้ว่ามีข้อจำกัดอะไรบ้าง

ด้วยความที่เป็นเซอร์เซอร์ไม่ได้ใหญ่เท่ากับ Full flame หรือเทียบกับ aps-c ก็ยังถือว่าเล็กกว่า มันทำให้กล้องมีสัญญาณรบกวนที่สูงเมื่อเทียบกับเซ็นเซอร์ที่ใหญ่กว่า ผลก็คือภาพจะไม่เนียนใสในแบบที่เคยได้จากกล้อง Fullframe ถ้าเราเทียบกับมุมใกล้เคียงกัน ZV-1F กับกล้อง aps-c เราก็จะเห็นว่าสัญญาณรบกวนของ ZV-1F มีเยอะกว่าอย่างชัดเจน 

มุมรับภาพของเลนส์ 20mm เทียบเท่า Fullflame ทำให้มันเป็นเลนส์ไวด์หรือเลนส์มุมกว้าง เหมาะกับการถ่ายภาพวิว และถ่ายคลิปวิดีโอเสียมากกว่า การเอาไปถ่ายภาพบุคคล ภาพครึ่งตัวแนวพอร์ตเทรดติดฝาบ้าน หรือภาพเฮดช็อตเน้นใบหน้าและไหล่จะไม่เหมาะเพราะเป็นมุมที่ไม่สวย ถ้าต้องการภาพบุคคลอย่างจริงจังควรไปใช้เลนส์ Tele หรือ 85มม. บนกล้อง Fullflame ไปเลยจะเหมาะกับงานมากกว่า

ZV-1F ถ่ายภาพนิ่งได้เป็น jpg เท่านั้น ไม่มีโหมดไฟล์ raw มาให้ใช้ ทำให้เราหมดโอกาสการปรับแต่งในภายหลังอย่างยืดหยุ่น หากเราชินกับการถ่ายภาพที่ผิดพลาดได้บ้าง หรือ ยังลังเลใจในการแต่งภาพ อยากเลือกโทนสีในภายหลัง เราจะอยากถ่ายเป็น raw ซึ่ง ZV-1F ไม่มี บางคนจะไม่ชอบต้องปรับตัวพอสมควร การมาใช้กล้องที่ถ่ายได้แต่ไฟล์ jpg อย่างเดียวจะบังคับให้เราเลือกสไตล์สีตั้งแต่ตอนถ่าย ซึ่งก็ไม่ได้แย่หากเทียบกับการใช้ฟิล์ม เพราะการเลือกสไตล์สีก็เหมือนการเลือกยี่ห้อฟิล์ม เราเพียงแค่ต้องถ่ายโดยวัดแสงอย่างแม่นยำด้วย เพื่อจะได้ไม่ต้องปรับแต่งหลังถ่ายอีก เนื่องจากแก้ไขความสว่างของภาพและสีกับไฟล์ jpg ทำได้ไม่มาก และยิ่งแก้ไขก็ยิ่งสูญเสียรายละเอียดของไฟล์

การถ่ายสิ่งของหรือสินค้าแบบจัดฉากหรือจัดไฟถ่ายจะค่อนข้างลำบาก เพราะเลนส์เป็นเลนส์ไวด์ แม้จะเข้าใกล้วัตถุได้ แต่ก็จะมีสัดส่วนความเพี้ยนสูง ช่างภาพแนวสินค้าหรือโฆษณามักจะไม่ใช้เลนส์มุมกว้าง เลนส์มาโครระดับโปรจะเป็นเลนส์ทางยาวโฟกัสเยอะหรืออยู่ในระยะ Tele กันทั้งสิ้น ส่วนมากเลนส์มาโครจะมีระยะประมาณ 100มม.

อีกข้อหนึ่งที่เป็นข้อเสียที่ใหญ่หลวงเลยก็คือ กล้องมีความเร็วชัตเตอร์ช้าสุดแค่ 1/4 วินาที คือเปิดหน้ากล้องนานกว่านี้ไม่ได้ แค่ 1 วินาทีก็ยังทำไม่ได้ จุดนี้ช็อคพอสมควรเลย การเปิดชัตเตอร์นานไม่ได้มันจะทำให้เราไม่สามารถถ่ายภาพ ด้วยเทคนิค long exposure  การจะเอาไปถ่ายพลุเป็นเส้นทำไม่ได้ เอาไปถ่ายไฟรถยนต์ที่วิ่งเป็นเส้นทำไม่ได้ เอาไปถ่ายน้ำตกให้สายน้ำนุ่มๆ เปิดหน้ากล้องนานๆก็ทำไม่ได้ มีเทคนิคการถ่ายภาพอีกหลายอย่างที่ต้องเปิดหน้ากล้องนานๆหลายวินาที น่าเสียดายมากที่ ZV-1F จะทำไม่ได้ ขนาดกล้องคอมแพ็คฟิล์มตัวอื่นในอดีตที่เคยผ่านมาบางตัวยังถ่ายได้ที่ 4 วินาที หรือ 8 วินาที 

การกดล๊อคค่าแสงหรือ Ae lock หาไม่เจอในเมนูปกติ มันถูกซ่อนอยู่ด้านไหนเมนู ต้องตั้งค่าให้ปุ่มคัสต้อมเพื่อใช้คำสั่ง Ae lock ซึ่งกว่าจะค้นหาจนเจอ ผมต้องพยายามหาอยู่หลายครั้งและเรียนรู้การตั้งค่าปุ่มคัสต้อม ใช้กล้องมาเป็นเดือน บอกตรงๆว่ายังตั้งค่าปุ่ม ตั้งค่าเมนูส่วนตัวในกล้องยังไม่เป็นเลย

สรุป

กล้อง Sony ZV-1F เป็นกล้องคอมแพ็คที่มีเลนส์ 20มม. ไวแสง เลนส์คุณภาพสูงมาก ให้ภาพใสกริ๊ง สามารถถ่ายภาพได้เหมือนตาเห็น สามารถใส่สีให้ดูคล้ายโทนภาพจากฟิล์ม ใช้ถ่ายวิดีโอได้คล่องตัว ใส่สีสันในวิดีโอให้ดูเป็นหนังอาร์ตได้ไม่ยาก จบหลังกล้องได้ไม่ต้องไปย้อมสีในโปรแกรมตัดต่อ แต่ก็มีลูกเล่นที่บันทึกไฟล์สำหรับตัดต่อได้แบบโปรด้วย ใช้เป็นกล้องไลฟ์ขายของแสดงสินค้าตัวเล็กๆแล้วกล้องโฟกัสสินค้าเล็กๆได้ นับว่าเป็นกล้องสารพัดประโยชน์ที่ราคาไม่แพงเลย 

ไปดูตัวอย่างภาพจากกล้อง ZV-1F เพิ่มเติมได้ที่นี่

สนใจสั่งซื้อได้ที่นี่ https://shope.ee/5V7Q4wN5Mx

หรือที่นี่ https://shope.ee/9eyuQHL1zl