mi air purifier 2s เปิดไม่ติด

IMG_20250721_201843880

อยู่ๆเครื่องกรองอากาศก็เปิดไม่ติด อาการคือไฟไม่เข้า เครื่องไม่รับคำสั่งใดๆเลย หน้าจอก็ดับสนิท สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นที่ภาคจ่ายไฟ ก็เลยลองเปิดเครื่องดู โดยพลิกด้านล่างขึ้นมาเราจะเห็นชื่อรุ่นและรายละเอียดของเครื่องนี้ จะมีจุกยางที่ทำหน้าที่เป็นขาปิดรูน็อตอยู่ ต้องแกะจุกยางออกด้วยการงัดด้วยวัสดุบางและแข็งแรงสักหน่อย

IMG_20250713_132302281
IMG_20250721_191827882

Mi Air purifier 2S เป็นเครื่องกรองอากาศทรงยอดนิยม ใช้งานมาหลายปี ตอนนี้เปิดไม่ติดก็คาดว่าเป็นที่ภาคจ่ายไฟ เปิดท้ายเครื่องออกมาก็ลุ้นว่าจะมีฟิวส์ให้เปลี่ยนไหม ปรากฏว่าไม่มี เจอแต่บอร์ดวงจรไฟฟ้า ลองแกะบอร์ดออกมาแล้วดูคร่าวๆ ลักษณะบอร์ดมีไฟเข้า 100-240Vac และมีไฟออกจากบอร์ด 24Vdc 1.7A ก็น่าจะเป็นบอร์ดสำหรับจ่ายไฟให้ตัวเครื่องกรองอากาศ เมื่อลองเอามิเตอร์วัดไฟขาออกปรากฏว่าไม่มีแรงดันใดๆเลย เดาว่าบอร์ดจ่ายไฟน่าจะเสีย

IMG_20250713_132830573
IMG_20250713_132841719
IMG_20250713_130552866
IMG_20250713_132356242
IMG_20250713_130602384

ไปหาในเว็บค้นคำว่า acm4-aa-pw0(f) ซึ่งเขียนอยู่บนบอร์ด ก็จะเห็นขึ้นมาหลายบอร์ดหลายราคา ลองเข้าไปอ่านรายละเอียด ก็เลือกลองสั่งสักอัน ใช้เวลารอสินค้ามาส่งประมาณ 8 วัน เมื่อได้มาแล้วก็จัดการเปลี่ยนแทนของเดิมเลย ผลคือ ทำงานได้ เครื่องกรองอากาศกลับมาทำงานปกติแล้ว

Screenshot 2568-07-21 at 21.55.04

บอร์ดที่ได้มามีขนาดและรูใส่น็อตเท่าเดิม สามารถใส่แทนของเดิมได้ไม่ต้องดัดแปลง สเป็คทางไฟฟ้าที่มากับบอร์ดใหม่จะเป็น ไฟเข้า 100-240Vac ไฟออก 24Vdc 2.0A ซึ่งให้กำลังไฟได้มากกว่าเดิมเล็กน้อย ส่วนคอนเน็คเตอร์เชื่อมต่อก็สามารถใช้กับเครื่องเดิมได้ทันที เปลี่ยนเสร็จแล้วก็ลุ้นกันว่าจะใช้งานได้ยาวนานแค่ไหน

สั่งซื้อบอร์ดภาคจ่ายไฟ mi 2s ที่นี่ https://s.shopee.co.th/1VoO8paW1p

IMG_20250721_191959304

รีวิว Mi True wireless Earphones

Xiaomi ทำอะไรขายบ้างในตอนนี้เราคงไม่สามารถบอกได้แล้ว เพราะมีสินค้าหลากหลายชนิดออกมาในยี่ห้อนี้ นอกจากสินค้าเทคโนโลยีแล้วก็ยังมีสินค้าเครื่องใช้ในบ้านอีกด้วย แต่ละเดือน แต่ละสัปดาห์ที่ผ่านไปเราก็พบสินค้าใหม่ของยี่ห้อนี้อยู่เรื่อยๆ และหูฟังที่ใช้งานกับโทรศัพท์ก็มีทำขายด้วยเช่นกัน มีทั้งแบบสาย และแบบไร้สาย แบบไร้สายก็มีหลายรุ่น และในครั้งนี้เราก็จะทดสอบหูฟังไร้สายรุ่นหนึ่งชื่อว่ารุ่น Mi True Wireless Earphones กัน

2020-02-24_10-03-59

ข้อมูลทั่วไป

  • ไดรเวอร์ขนาด 7 มม.
  • เชื่อมต่อ Bluetooth 4.2
  • ระบบสัมผัสเพื่อควบคุมการทำงาน
  • กันน้ำ IPX4
  • กล่องมีช่องเสียบสายชาร์จ usb-C , จุกซิลิโคนติดหูฟังมา1 คู่ มีในกล่องอีก 2 คู่ รวมได้ 3 คู่
  • ใช้งานต่อเนื่องได้ 3 ชั่วโมง กล่องเก็บไฟจะชาร์จแล้วใช้ได้รวมเป็น 10 ชั่วโมง
  • ชาร์จไฟเข้ากล่องจนเต็มใช้เวลา 1 ชั่วโมง
  • ใช้ได้ทั้ง iOS / Android
  • น้ำหนัก 5.8 กรัม
IMG_20200226_080923
IMG_0235

ทดลองฟัง

หูฟัง Truewireless ยุคนี้มาพร้อมกล่องชาร์จไฟ การหยิบหูออกจากกล่องทำได้ลำบากมาก เพราะว่าหูฟังมีแม่เหล็กในกล่องดูดเอาไว้เพื่อกันหลุด ทำให้การหยิบออกเป็นเรื่องยาก

IMG_0243

คุณภาพเสียงเมื่อฟังเพลง ทำได้ดีน่าประทับใจมาก เสียงโดยรวมมีความเป็นกลาง ไม่เน้นย่านเสียงใดเป็นพิเศษ เสียงทุ้มจะบางกว่าหูฟังอินเอียร์ทั่วไปอย่างชัดเจน แนวทางเสียงจะไปทางหูฟัง earbud มากกว่า เสียงกลางชัด เสียงสูงใส และไม่เสียดหู ฟังนานๆไม่ล้า ความฉ่ำหวานมีน้อยไปหน่อย หูไร้สายแบบนี้ฟังนานๆสักสองชั่วโมงก็แบตเกือบหมดแล้ว ดังนั้นเราก็จะเหมือนโดนบังคับให้หยุดฟังเพื่อถอดหูไปชาร์จไฟ ทำให้ใส่นานๆไม่ได้อยู่แล้ว

ความสามารถที่น่าทึ่งของหูฟังคู่นี้คือการเชื่อมต่อสัญญาณที่ไม่สะดุดเลย ปกติจากที่เคยลองหูฟัง truewireless คู่ละ 3000 บาท ก็ทำคุณภาพเสียงไว้ได้ดี แต่ที่แย่คือ การเชื่อมต่อมีอาการสะดุดเมื่อผ่านสถานที่ที่มีคนเยอะ แต่ earphones ตัวนี้ไม่มีอาการเสียงหายหรือเสียงขาดตอน จะมีเพียงแค่อาการดีเลย์เล็กน้อยตอนดูคลิปเท่านั้น

กล่องชาร์จไฟสามารถเก็บไฟแล้วทำให้ชาร์จซ้ำใส่ตัวหูฟังได้หลายรอบ ระยะเวลาฟังทั้งหมดที่ใช้ไฟจนหมดกล่องจะได้ประมาณ 10 ชม. ช่องเสียบสายชาร์จไฟของกล่องเป็นชนิด usb-C

IMG_0233

การคุยโทรศัพท์ผ่านหูฟัง Earphones คู่นี้ให้เสียงดีมาก เสียงที่ได้ยินมีความใหญ่และชัด ส่วนปลายทางที่คุยด้วยก็ได้ยินเสียงของเราชัดเจน และแม้จะคุยผ่าน App อย่าง Line ก็ให้คุณภาพการคุยที่รู้เรื่องไม่ต่างกัน สิ่งที่ประทับใจก็คือเสียงเรียกเข้าที่ได้ยินในหูฟังเป็นเสียงกรุ๊งกริ๊งที่ไม่ทำให้สะดุ้ง เสียงดังในหูทำให้เรารู้ตัวแต่ไม่ตกใจ ถือว่าคุณภาพในด้านการใช้เพื่อคุยโทรศัพท์ทำได้ดีมาก

ระบบสัมผัสของหูฟังคู่นี้มีสองข้างที่รับการสัมผัสได้ เคาะสองครั้งที่หูขวาเป็นการเล่นเพลงและหยุดเพลง ส่วนเคาะ 2 ครั้งที่หูซ้าย จะเป็นการเรียก Assistant ขึ้นมา ส่วนการเคาะแบบอื่นๆผมไม่ได้ลองเลย

จุดเด่น

กล่องชาร์จไฟใช้งานรวมได้ 10 ชม.

สัญญาณไม่สะดุดในที่คนเยอะ

คุยโทรศัพท์ฟังเสียงได้ชัดมาก และปลายทางก็ได้ยินเสียงเราไม่ติดขัด

คุณภาพเสียงในด้านการฟังเพลงให้น้ำเสียงเป็นกลางไม่เน้นย่านใดเป็นพิเศษ

จุดด้อย

หยิบหูฟังออกจากกล่องยากมาก

สรุป

Mi Earphones เป็นหูฟัง Truewireless ที่มีราคาย่อมเยา แต่มีคุณภาพดี หน้าที่การเป็นหูฟังไร้สายที่ดีก็คือการเชื่อมสัญญาณบลูทูธต้องไม่สะดุด หูฟังตัวนี้ก็ไม่สะดุด แม้จะใส่ไปเดินในห้างที่มีคนเยอะก็ไม่สะดุด แม้จะใส่มือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงก็ตาม น้ำเสียงที่เป็นกลางไม่เน้นย่านใดย่านหนึ่งอาจไม่ถูกใจนักฟังเพลงที่ชอบเพลงที่มีสีสันหรือมีแนวทางที่จัดจ้าน แต่ความเรียบง่ายของเสียงแบบนี้ทำให้เราใส่หูได้นาน สามารถฟังสิ่งที่ต้องการได้นาน

ตัวอย่างภาพ 48 ล้านพิกเซล จาก xiaomi หรือ Redmi note7

โทรศัพท์ Redmi note7 เป็นมือถือรุ่นราคาไม่แพง ให้สเป็คกล้องมาโหดระดับ 48 ล้านพิกเซล ตัวเครื่องมาพร้อมความจุด 128Gb ให้แรม 4Gb จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของมือถือเครื่องนี้ก็คือ มีช่องส่งสัญญาณอินฟาเรดมาด้วย และมี app รีโมทคอนโทรลให้เราสามารถใช้งานกับเครื่องใช้ไฟฟ้าได้หลายชนิด

ในส่วนของกล้องก็มีความจุ 48 ล้านพิกเซล ซึ่งเราจะใช้งานโหมดนี้ต้องปรับตั้งค่าของกล้องให้เป็นโหมด pro เราจึงจะถ่ายที่ความละเอียด 48 ล้านได้ ปกติ กล้องจะตั้งค่าไว้ที่ 12 ล้านเท่านั้น ผลการถ่ายภาพที่ความละเอียดระดับสูงสุดก็ทำได้น่าพอใจ ดูจากภาพตัวอย่างนี้ได้

13.772324,100.470186

และข้อมูลการถ่ายภาพที่ดูจากในมือถือเองก็ระบุความละเอียดไว้ดังนี้

Screenshot_2019-07-01-09-46-43-502_com.miui.gallery

นอกจากความละเอียดที่มากแล้ว ยังมีข้อมูลการถ่ายภาพ มี location ให้ด้วย ใครใช้มือถือถ่ายภาพก็จะติดข้อมูลการถ่ายภาพนี้ไปด้วยเพราะเป็นความสามารถของ smartphone แต่เราก็ตั้งค่าให้ไม่ต้องบันทึก location ก็ได้ แต่ผมชอบให้บันทึกสถานที่เอาไว้ เวลาดูใน app สำหรับแสดงภาพ เราสามารถใช้ประโยชน์ของ location ในการจัดกลุ่มภาพด้วย ทำให้รู้ว่าเราไปที่ไหนมาแล้วบ้างนั่นเอง

IMG_20190623_101303_1

คุณภาพของกล้องก็อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ให้ภาพชัด สีสันสดใส สามารถใช้ถ่ายในสภาพแสงที่ค่อนข้างน้อยได้ดี มีระบบประมวลผลพิเศษช่วยให้ภาพยังคมชัดได้แม้จะสปีดชัตเตอร์ต่ำ ถ่ายภาพแล้วสามารถปรับแต่งต่อได้เลยโดย app ติดเครื่องมาก็สามารถปรับแต่งได้หลากหลายจนน่าทึ่งมาก มีสไตล์สีที่ถูกใจ บางครั้งผมยังใช้ภาพจากกล้อง DSLR ก็อปปี้มาวางในเครื่อง smartphone แล้วใช้ตัวปรับภาพของ Redmi note7 ปรับแต่งสี เพราะสไตล์สีบางอย่างถูกใจผมมาก

เริ่มใช้เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi

IMG_0126

 

Xiaomi air purifier 2s ตัวนี้ผมเพิ่งได้มาหมาดๆในวันนี้เลย  สืบเนื่องมาจากช่วงนี้เป็นช่วงฝุ่นปกคลุมประเทศไทย  และกรุงเทพก็อาการหนักมาก  ฝุ่นชนิด pm2.5 มันปกคลุมซะจนถนนหนทางมองไปเจอแต่ฝุ่นสีขุ่นๆ  เลยอยากได้เครื่องฟอกอากาศสักเครื่องมาใช้งาน

IMG_0128

ติดต่อซื้อกับเพื่อนแล้วก็ได้มาในวันนี้  จัดการรื้อออกจากกล่องแล้วก็เสียบปลั๊กๆ เริ่มต้นใช้งานเครื่องฟอกตัวนี้ก็เลยบันทึกภาพเก็บไว้  เมื่อเริ่มเปิดเครื่องโดยการกดปุ่มเพาเวอร์เพียงครั้งเดียวตัวเลขที่แสดงบนจอภาพก็ขึ้นมาระดับ 104 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร   ระบบการทำงานของ Xiaomi 2s ตัวนี้ถูกตั้งให้ทำงานอัตโนมัติ พัดลมดูดอากาศด้านในจะหมุนเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับปริมาณฝุ่น  กดปุ่มเปิดเครื่องครั้งแรก เครื่องจะทำงานในโหมด Auto ทันที  ถ้าฝุ่นเยอะพัดลมจะหมุนเร็ว ได้ยินเสียงชัดเจน แต่ยังไม่รำคาญมาก  และถ้าเข้าสู่ระดับฝุ่นน้อย ไฟแสดงสถานจะจะเปลี่ยนจากแดงเป็นเขียว  พัดลมก็จะหมุนช้าลง

 

ระดับเสียงของพัดลมตอนทำงานปกติแทบไม่ได้ยินเสียงเลยหากเราใช้งานในห้องแอร์  เพราะแอร์ในห้องจะทำงานเสียงดังกว่า Xiaomi ชัดเจน  ทำให้เราไม่ได้ยินเสียงจากเครื่องกรองอากาศเลย  ส่วนในโหมดเบา ตอนที่ฝุ่นน้อยๆ จะต้องนั่งฟังใกล้ๆถึงจะได้ยินเสียงกว่าเครื่องทำงานอยู่  หากเราอยู่ห่างจากเครื่อง 1 เมตร เราแทบไม่ได้ยินเสียงการทำงานของมันเลย  และหากเรากดให้เครื่องทำงานในแบบ night mode เสียงที่ว่าเบาแล้ว ก็จะเบาลงไปอีกเท่าตัว  ต้องเงี่ยหูฟังใกล้ๆ หรือเอามือไปจ่อด้านบนเพื่อสัมผัสดูว่าลมออกไหม ซึ่งลมก็ยังคงออกอยู่ตลอดเวลา  ดังนั้นในเรื่องของเสียง ถือว่า Xiaomi ทำงานได้เบามาก  เบาที่สุดเมื่อเทียบกับเครื่องกรองอากาศอื่นๆที่ผมเคยใช้งานมา

 

จุดเด่นของ  Xiaomi air purifier 2s ก็คือ มีปุ่มเปิดเครื่องแค่ปุ่มเดียวด้านบน  กด1 ครั้งเพื่อเปิด  กด 1 ครั้งเพื่อเปลี่ยนโหมด  หากอยากปิดเครื่องให้กดค้างสัก 3 วินาที เครื่องก็จะปิดตัวเองลง  การมีปุ่มเดียวมันเข้าใจง่าย  เครื่องอื่นๆที่เคยใช้งานมีปุ่มจำนวนมาก  การมีปุ่มมากทำให้เกิดอาการมึนงงว่ามันคืออะไรบ้าง  มันอาจจะเอาไว้ใช้ปรับให้ละเอียดตรงกับความต้องการ  แต่ความต้องการจริงๆในการใช้งานเครื่องกรองอากาศคือ กรองอากาศให้ฝุ่นน้อยที่สุด และอย่าส่งเสียงดัง นั่นก็ใช้แค่ปุ่มเดียวก็พอ ถือว่า Xiaomi เข้าใจความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างแท้จริง

 

ลูกเล่นอื่นๆของ Xiaomi 2s ตัวนี้ ก็มีเรื่องหน้าจอแสดงสถานะฝุ่น  pm2.5 และสามารถเชื่อมต่อกับ wifi ในบ้านเพื่อสั่งงานและมอนเตอร์ค่าฝุ่นจาก app  ในโทรศัพท์มือถือได้  แม้ว่าเราจะไม่ใช้อินเทอเน็ต ไม่ได้อยากเชื่อมเข้า wifi เครื่องก็ยังทำงานได้  ยังคงเปิดปิดได้  และยังคงเปลี่ยนโหมดการทำงานด้วยปุ่มกดได้  การมี app เอาไว้สั่งการก็เป็นเพียงทางเลือกอำนวยความสะดวกเท่านั้น

 

ไส้กรองของ Xiaomi เป็นรุ่นที่กรองฝุ่นในระดับ hepa หรืออนุภาคขนาดเล็กได้  ฝุ่น pm2.5 ที่สร้างปัญหาให้กับทั่วโลกก็จะโดนดักเก็บด้วยฟิลเตอร์ตัวนี้ได้  การใช้เครื่องกรองอากาศรุ่นนี้จึงช่วยแก้ปัญหาฝุ่นควันในกรุงเทพได้ดีมาก  หากฝุ่นภายนอกบ้านอยู่ในระดับ ร้อยกว่า  ฝุ่นในห้องนอนก่อนเปิดเครื่องจะอยู่ที่ค่าประมาณ 60-90 หน่วย  และเมื่อเปิดเครื่องทำงาน ภายในเวลาประมาณ 20 นาที ค่าฝุ่นในห้องก็จะลดลงไปเหลือระดับประมาณ 20-30 หน่วย และหากผ่านไปหลายชั่วโมง ค่าฝุ่นก็จะลดลงไปเหลือที่ระดับ 10-20 หน่วย ซึ่งหากเป็นวันที่ฝุ่นด้านนอกน้อย  ค่าฝุ่นในห้องนอนตอนเช้าจะอยู่ระดับไม่ถึง 10 เท่านั้น

 

สรุป

Xiaomi air purifier 2s ทำงานกำจัดฝุ่น pm2.5 ได้จริงในห้องที่ขนาดไม่เกิดสเป็คที่ระบุไว้  แม้จะเอาไปใช้กับห้องที่ใหญ่ขึ้น ปริมาณฝุ่นในห้องก็ลดลงได้เช่นกัน  ก็คือว่าทำงานได้ผลดีมาก  ราคาไม่แพง และเสียงรบกวนของพัดลมเราแทบไม่ได้ยินเลย  นับว่าเป็นของที่ออกแบบมาได้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้อย่างแท้จริง

 

 

อยู่ๆฝุ่นก็หายไปอย่างเหลือเชื่อ และรถวิ่งดีขึ้น

เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2562 ทางโรงเรียนเพลินพัฒนาประกาศหยุดเรียน 7 วัน ให้ผู้ปกครองมารับนักเรียนกลับตั้งแต่เที่ยงวัน ด้วยเหตุผลว่า  ฝุ่น pm2.5 ที่กำลังปกคลุมประเทศไทยอยู่มีค่าสูงขึ้นเรื่อยๆจนน่ากลัว  ผมก็รีบไปรับลูกกลับมาที่บ้าน  ระหว่างที่ไปรับก็ลองเอาตัววัดฝุ่นติดไปด้วย แล้วก็ลองวัดค่าฝุ่นที่โรงเรียนดู  ได้ตัวเลข 64 โรงเรียนของลูกผมอยู่ที่เขตทวีวัฒนา

IMG_20190121_130525

 

พอกลับมาถึงที่ทำงานของผมก็ลองวัดค่าดูอีกครั้ง  ตำแหน่งทีทำงานของผมคือ เขตจอมทอง  วัดค่าฝุ่นได้สูงมากถึง 133 เป็นตัวเลขที่น่าตกใจมาก

IMG_20190121_141030

 

แล้วค่าฝุ่นก็ค่อยๆสูงขึ้นและอยู่ในระดับร้อยกว่าไปอีกตลอดวันเลย  แม้แต่ตอนค่ำๆ ตอนกลางคืนก็ยังสูงมาก  ไปจนถึงตอนเช้ามืดของวันที่ 22 มกราคม 2562 ที่ผมมีธุระไปประชุมแต่เช้า  ผมไปถึงที่ประชุมประมาณ  6.11 น. และได้ลองวัดค่าดู  ตัวเลขออกมา 83

IMG_20190122_061149

 

และผมอยู่ที่นี่ประมาณ 4 ชั่วโมง  และได้เดินออกจากขึ้นรถอีกครั้ง  ที่ลานจอดรถผมมองเห็นท้องฟ้าดูสดใสดี ฟ้าเป็นสีฟ้า ด้วยความที่เป็นช่างภาพเราก็จะรู้สึกว่าภาพนี้ถ้าถ่ายฟ้าต้องสวยแน่ๆเลย และก็ถ่ายภาพออกมามันก็สวยจริงๆ  พอเห็นภาพผมก็คิดถึงค่าฝุ่นทันทีเลยว่าตอนนี้ฝุ่นเท่าไหร่  ทำไมท่ามกลางมลภาวะฝุ่นที่กำลังระบาดถึงมีฟ้าสวยๆแบบนี้

IMG_20190122_114646

 

ลองวัดค่าฝุ่นออกมาก็ได้ 19 ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประหลาดใจมาก มันเป็นตัวเลขที่ต่ำระดับห้องนอนชั้นดีที่อากาศบริสุทธิ์เลย  นี่ผมกำลังวัดค่าบนลานจอดรถในย่านพระรามเก้าเลยนะ

IMG_20190122_114252

 

ตั้งแต่ได้ซื้อมิเตอร์วัดฝุ่นตัวนี้มา ผมก็ลองวัดไปหลายสถานที่ หลายสถานการณ์  ตัวเลขที่ต่ำกว่า 20 ที่เคยวัดได้ผมจะต้องใช้เครื่องฟอกอากาศช่วยกำจัดฝุ่นในห้องเป็นเวลาหลายชั่วโมง ตัวเลขของเครื่องวัดถึงจะต่ำได้ขนาดนี้  แต่นี่ผมวัดกลางแจ้ง วัดที่ลานจอดรถ วันนี้มีเหตุการณ์อะไรทำให้ฝุ่นน้อยลงขนาดนี้

IMG_20190122_124720

และได้ขับรถกลับมาที่ทำงาน ระหว่างทางผมรู้สึกว่ารถของผมมีความลื่น มีกำลังที่ดีกว่าเมื่อเช้าอย่างรู้สึกได้  มันเป็นความรู้สึกคล้ายๆกับเราเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง  เครื่องมันลื่นขึ้น ทำงานกระฉับกระเฉงขึ้น  ซึ่งความรู้สึกแบบนี้จะพบได้ทุกครั้งที่เราเพิ่งเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง  รถของผมคือฮอนด้าฟรีด ปี 2010 ที่ใช้งานมาแล้วสองแสนกว่ากิโลเมตร

 

เมื่อกลับมาถึงที่ทำงาน ผมก็ลองวัดค่าอีกครั้งก็ได้ตัวเลข 30 ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยอยู่ดี  ในตำแหน่งการวัดครั้งนี้เป็นตำแหน่งเดียวกับเมื่อวานที่ฝุ่นลงหนาแน่นมากจนโรงเรียนประกาศหยุดเรียน เมื่อวานผมวัดได้ 133 เลย

 

ฝุ่น pm2.5 ยังไม่แย่เท่าควันบุหรี่

 

กรุงเทพ ประสบภาวะฝุ่น pm2.5 ปกคลุมจนถึงขนาดทัศนวิสัยการมองเห็นบนถนนลดลงมาเหลือไม่ถึง 100 เมตร  นั่นคือเรามองหาตึกสูงไกลๆไม่ไม่เจอแล้ว  และประชาชนก็ตื่นตระหนก หวาดกลัวกับอันตรายของฝุ่น pm2.5 จนทำให้หน้ากากป้องกันฝุ่นชนิดนี้ขาดตลาด  การคาดการของผู้เชี่ยวชาญบอกว่าฝุ่น pm2.5 จะอยู่กับประเทศไทยไปอีกเป็นเดือน อาจถึง 2 เดือน นั่นก็ยิ่งทำให้เกิดการตื่นตัวสุดขีด

 

แน่นอนว่าพวกเรากลัวฝุ่นตัวนี้  แต่รู้หรือเปล่าว่า สิ่งที่มันอันตรายยิ่งกว่าฝุ่นตัวนี้ก็คือควันบุหรี่  วันนี้เราก็เลยเอาตัววัดคุณภาพอากาศของ Xiaomi มาลองวัดให้ดู  ด้วยการพ่นควันเข้าไปให้กับเครื่องวัด แล้วก็รอดูผลว่ามันวัดออกมาได้เท่าไหร่ ตัวเลขน้อยคืออากาศดี ตัวเลขมากคืออากาศแย่  ไฟสีเขียวคืออากาศดี  ไฟสีแดงคืออากาศแย่  เห็นควันและเลขขึ้นไปเต็ม 600 หน่วย มันแย่สุดๆ

 

นอกจากเราจะต้องป้องกันฝุ่น pm2.5 ให้มันน้อยลง ด้วยวิธีการต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว  ลดการใช้น้ำมันดีเซล  อธิษฐานให้โรงงานอุตสาหกรรมที่ปล่อยฝุ่น pm2.5 ย้ายโรงงานออกนอกเมืองให้ไกลที่สุด  สิ่งต่างๆเหล่านี้ช่วยลด pm2.5 ได้  แต่เรายังไม่มีวิธีลดการสูบบุหรี่เลย  เราคงไม่สามารถคาดหวังจากรัฐบาลได้ เพราะรัฐบาลผลิตบุหรี่ขายเอง  สุดยอดไหมล่ะ ประเทศไทย

 

เราควรกลัวควันบุหรี่ยิ่งกว่ากลัวฝุ่น pm2.5 นะครับ

 

 

จัดแสงในรถเพื่อถ่ายภาพสินค้า

ผมมักจะต้องการถ่ายภาพสิ่งของหรือสินค้า หรือ ชิ้นงานบางอย่างอยู่บ่อยๆ  ถ้ามีเวลาก็จะใช้กล้องและชุดไฟและเต๊นท์ถ่ายภาพสินค้าเพื่อหวังผลให้ภาพสวยงามดังใจ  ซึ่งอุปกรณ์ทั้งหมดของผมก็อยู่กระจัดกระจาย กล้องอยู่ในรถ  ไฟแฟลชใหญ่อยู่ที่บ้าน  กล่องหรือเต๊นท์ถ่ายภาพอยู่ที่บ้าน  หากผมอยู่ที่โรงพิมพ์หรือที่ทำงาน ผมก็จะไม่ได้ใช้ชุดไฟที่ใช้ประจำ

 

ผมมีไฟชุดเล็กที่ใช้แฟลช nikon sb26 เป็นแฟลชเพื่อใช้ถ่ายสินค้า  พร้อมด้วยอุปกรณ์ trigger หรือตัวส่งสัญญาณยิงแฟลชไร้สาย  ซึ่งแฟลชและทริกเกอร์ผมก็พกติดอยู่ในกระเป๋ากล้อง ส่วนกล้องก็ติดเลนส์มาโครไว้แล้ว กล้องผมใช้ eos 6d เลนส์มาโครใช้ macro 100f2.8

 

ด้วยความอยากจะรีบถ่ายของชิ้นหนึ่งแล้วไม่อยากรอกลับบ้าน  ก็เลยจัดวาง จัดแสงในรถเสียเลย

 

20181124171630_IMG_0221

 

รถฮอนด้าฟรีด เปิดท้ายรถออกมาจะเป็นช่องว่างขนาดใหญ่  เบาะหลังแถว3 หากพับที่พิงให้ราบไปกับเบาะนั่งก็จะได้ที่วางราวกับเป็นโต๊ะทำงาน  ผมเอากระเป๋ากล้องขนาดใหญ่ที่ผมซื้อเอาไว้ขนอุปกรณ์ถ่ายภาพวางบนเบาะ  เพื่อใช้วางสินค้าที่จะถ่าย  ส่วนแสงแฟลชผมก็ติดทริกเกอร์ไร้สาย  ตัวส่งสัญญาณติดอยู่บนกล้อง eos 6d ตัวรับสัญญาณเอาไปติดที่ sb26 แล้วก็หันหน้าแฟลชให้ยิงแสงขึ้นเพดานรถ ตั้งใจจะใช้แสงแฟลชสะท้อนกับเพดานรถสีเทา แล้วสะท้อนลงมายังของที่ต้องการถ่ายภาพ

20181124171622_IMG_0220

 

เลนส์มาโครตั้งค่า f เอาไว้ที่ประมณ f8 – f11 ความไวของกล้องตั้งไว้ที่ iso 800  ส่วนกำลังไฟของแฟลชผมตั้งไว้ที่ 1/4 ด้วยเหตุผลว่า ผมไม่อยากให้แฟลชยิงเต็มกำลัง  เพราะถ้าแฟลชยิงเต็มกำลังไฟจะหมดเกลี้ยง แล้วต้องรอเวลาหลายวินาทีกว่าที่แฟลชจะสะสมกำลังไฟขึ้นมาใหม่เพื่อยิงแสง  การยิงแสงแฟลชที่ 1/4 ของกำลังสูงสุด ทำให้เราสามารถยิงแฟลชต่อเนื่องได้ 4 ครั้งก่อนที่ไฟจะหมดแล้วต้องสะสมขึ้นมาใหม่  มันทำให้เราทำงานได้สะดวกขึ้น  เพราะการถ่ายภาพสินค้าบางครั้งเราก็ถ่ายภาพติดต่อกันหลายครั้ง  ถ้าการถ่ายทุกครั้งต้องรอแฟลชสะสมไฟหลายวินาทีก็จะเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดมาก

 

การถ่ายวัตถุสีดำบนพื้นดำเป็นสิ่งที่เราจะคาดคะเนค่าแสงได้ยากมาก  เพราะภาพที่ถ่ายออกมาจะเป็นโทนสีดำออกเทา  ถ้ารับแสงมากก็เป็นเทาอ่อน  ถ้ารับแสงน้อยก็เป็นเทาเข้มเกือบดำ  ภาพของดำบนฉากดำก็จะออกมาเป็นแนวลึกลับ หรือ low key ก็แล้วแต่จะเรียก  ตอนเลือกค่าแสง ผมตัดสินใจใช้กระดาษขาวรองไว้ใต้สินค้า เพื่อให้ปรับรูรับแสงให้ได้ค่าแสงที่เหมาะสมจริงๆ  เพราะถ้าเราถ่ายภาพส่วนสีขาวให้ขาวเพียงพอแต่ยังไม่ล้นไปทางขาวโพลน  สิ่งของสีดำก็จะได้สีดำที่พอดี

 

20181124164519_IMG_0206

 

เมื่อได้ค่าแสงที่ต้องการแล้วก็เอากระดาษขาวรองพื้นออก ปล่อยให้สินค้าวางอยู่บนพื้นผิวกระเป๋าสีดำ แล้วก็เริ่มถ่ายภาพด้วยองค์ประกอบที่ต้องการ  ซึ่งโจทย์การถ่ายของผมในวันนี้คือไม่มีโจทย์  ขอให้เลือกค่าแสงแฟลชที่ให้แสงโดนวัตถุสีดำแล้ววัตถุยังดูเป็นสีดำอยู่  สุดท้ายก้ได้ผลงานออกมา

20181124171606_IMG_0219

สินค้าในโพสท์นี้ก็คือ หูฟังบลูทูธสำหรับการฟังเพลงและคุยโทรศัพท์ Xiao mi