เพิ่มคุณภาพเสียงคลิปวิดีโอด้วยไมค์ไร้สาย BOYA LINK

การบันทึกคลิปวิดีโอในปัจจุบันพัฒนาไปจากเดิมมาก เราสามารถใช้กล้องวิดีโอ กล้องถ่ายภาพที่ถ่ายวิดีโอได้ หรือ โทรศัพท์มือถือ อย่างใดอย่างหนึ่งจากสามอุปกรณ์นี้ในการบันทึกภาพเคลื่อนไหว แต่คุณภาพเสียงอาจไม่ดีนัก เพราะกล้องก็จะเก็บทุกเสียงที่เราได้ยิน เสียงรบกวนก็ติดเข้ามาด้วย ยิ่งบันทึกคลิปในที่เสียงดัง อย่างเสียงริมถนน เสียงในห้องประชุมที่มีเสียงก้อง เสียงเครื่องขยายเสียงสารพัดทำให้คุณภาพเสียงในวิดีโอไม่ดี

การเลือกใช้ไมโครโฟนมาบันทึกเสียงพูดโดยเฉพาะจะทำให้คุณภาพเสียงในคลิปวิดีโอมีคุณภาพที่ดี ฟังรู้เรื่องและมีผลทำให้คนอยากดูคลิปเพราะฟังง่าย รู้เรื่อง เป็นที่รู้กันว่าคลิปที่ชัดแต่เสียงแย่จะไม่มีคนดู แต่คลิปที่ภาพไม่ดีมากแต่เสียงดีจะมีคนดู คนจะอยากดูคลิปวิดีโอที่เสียงชัด ดังนั้นการหาไมโครโฟนมาช่วยบันทึกเสียงพูดเป็นสิ่งจำเป็นมากในยุคนี้

ไมค์ไร้สายเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการทำคลิปเพื่อใช้เผยแพร่ในอินเทอเน็ต เพราะใช้งานได้สะดวก แต่เดิมอุปกรณ์ไร้สายจะเป็นสิ่งที่น่าปวดหัว เพราะตัวกล้อง และสมาร์ทโฟนแต่ละชนิดมีช่องรับสัญญาณเสียงไม่เหมือนกัน เวลาเราเลือกอุปกรณ์ไมค์มาใช้กับกล้องก็ต้องเลือกชนิดหรือรุ่นที่มีพอร์ตการเชื่อมต่อแบบเดียวกับกล้องที่เราใช้

ถ้าเราใช้กล้องวิดีโอเราจะมีช่องเสียบไมค์แบบ 3.5มม. หรือ XLR แล้วแต่ชนิดของกล้อง เราก็ต้องเลือกตัวรับสัญญาณไมค์ที่สามารถส่งสัญญาณออกมาเป็นแจ็ค 3.5มม. ได้ แต่ถ้าเราใช้สมาร์ทโฟนยุคใหม่ที่ไม่มีพอร์ต 3.5แล้ว มีเพียงแต่พอร์ตชาร์ทไฟชนิด usb-c หรือ พอร์ต lightningของค่ายแอปเปิ้ล ไมค์ไร้สายที่มีตัวรับ usb-c เมื่อเลือกซื้อมาแล้วก็ต้องใช้กับพอร์ตนี้เท่านั้น จะเอาไปใช้กับกล้องวิดีโอ หรือ กล้องถ่ายภาพไฮบริดที่รับพอร์ต 3.5 มม. ก็ไม่ได้ ปัญหานี้ทำให้คนทำงานอาจจะต้องซื้อไมค์หลายชุด บางชุดใช้กับสมาร์ทโฟน บางชุดใช้กับกล้องใหญ่ แม้แต่สมาร์ทโฟนก็ยังมีสองมาตรฐานเสียอีก

IMG_3338

ใช้เวลาหลายปีกว่าจะมีอุปกรณ์ไมค์ไร้สายที่ออกแบบมาให้ใช้ได้กับทุกพอร์ตที่นิยมใช้กัน Boya Link เป็นชุดไมค์ไร้สายที่มีตัวรับเสียงสามารถเสียบพอร์ตได้ทุกชนิดโดยการเลือกเปลี่ยนพอร์ต มีทั้งแบบ 3.5 มม. แบบ usb-c และแบบ Lightning ซึ่งทั้งสามชนิดนี้สามารถถอดเปลี่ยนได้ทันที ตัวไมค์ส่งสัญญาณมี 2 ตัว และทั้งหมดสามารถวางไว้ในกล่องใบเดียว ทำให้เราสามารถชาร์จไฟเข้ากล่องแล้วไฟก็จะชาร์จไมค์และตัวรับสัญญาณได้

IMG_3339

ตัวไมค์ที่รับเสียงจากคนพูดจะมีคลิปหนีบ และมีตัวป้องกันเสียงลมเป็นขนฟูที่สามารถติดไปกับไมค์ได้สะดวก สามารถถอดแล้วเก็บในกล่องได้ด้วย เป็นการออกแบบที่เก็บอุปกรณ์ได้ยอดเยี่ยมมาก นอกจากนี้ไมค์รับเสียงยังมีความสามารถในการตัดเสียงรบกวนด้วย เราสามารถเลือกเปิดหรือปิดการตัดเสียงรบกวนได้ สามารถปรับความดังของไมค์แต่ละตัวได้ ใครพูดเบาก็อาจจะเร่งอัตราขยายของไมค์ตัวนั้นให้สูงขึ้น ทำให้การบันทึกเสียงสามารถปรับความดังของคนพูดแต่ละคนให้ใกล้เคียงกันได้

IMG_3348

ตัวรับสัญญาณที่จะต้องเอาไปต่อกับกล้องก็มีความสามารถที่หาไม่ได้จากไมค์อื่นๆคือ สามารถตั้งค่าให้รับเสียงไมค์สองตัวแล้วรวมเป็นเสียงโมโนได้ เสียงพูดในคลิปจะฟังเป็นโมโน ทุกคนจะมีความชัดเท่ากัน หรือตั้งค่าให้รับเสียงเป็นสเตอริโอก็จะทำให้แยกการบันทึกคลิป คนนึงบันทึกไว้ที่เสียงด้านซ้าย อีกคนบันทึกไว้ที่เสียงด้านขวา ทำให้การตัดต่อในภายหลังสามารถแยกปรับเสียงแต่ละคนได้ เป็นลูกเล่นทางเสียงของคนทำคลิประดับมืออาชีพเลย

สเป็คไมค์ตัวรับเสียง และตัวรับสัญญาณดูได้จากตารางด้านล่างนี้ เป็นสเป็คที่อยู่ในเว็บของ boya

ลองฟังเสียงไมค์ที่บันทึกคลิปการพรีเซ้นในห้องประชุม

ตำแหน่งไมค์ติดไว้ที่สูท ห่างจากปากประมาณ 6 นิ้ว เป็นระยะที่รับเสียงได้น่าพอใจที่สุด ใช้กล้อง Sony ZV-1F บันทึกคลิป ตอนตั้งระดับ record level ก็ให้คนพูดทดลองพูดแล้วดูกราฟเสียงเด้งขึ้นลง ตั้ง level ให้กราฟเสียงเด้งได้สูงสุดแต่ยังไม่แตะจุด 100%

คลิปเล่นเปียโน เป็นการใช้ไมค์ 2 ตัว วางตัวนึงไว้ด้านซ้าย อีกตัววางไว้ด้านขวาของเปียโน โดยวางบนเปียโนเลย เจตนาเพื่อให้รับเสียงเปียโน และรับแรงสั่นสะเทือนด้วย เพื่อให้ได้เสียงที่เป็นเสียงเปียโนตรงๆให้มากที่สุด ตั้งค่าตัวรับให้ทำงานเป็นสเตอริโอเพื่อแยกสัญญาณซ้ายและขวา

เด็กประถมทำ vlog ส่งครู

เด็ก ป5 ในยุคอินเทอเน็ตต้องทำงานส่งวิชาภาษาอังกฤษโดยครูให้ทำงานที่เรียกว่า vlog หรือเป็นการบันทึกคลิปวิดีโอเพื่ออธิบายตัวตน หรือสิ่งที่ชอบ

เมื่อได้ยินคำว่า vlog ก็เลยถามลูกว่ารู้ที่มาของคำนี้ไหม เลยถือโอกาสอธิบายให้ลูกฟัง ว่า vlog คืออะไร แล้ว blog คืออะไร มันเหมือน youtuber ไหม ซึ่งต้องขอเราเท้าความยาวสักหน่อย

IMG_9999

ในอดีตยุคก่อนอินเทอเน็ต เวลามนุษย์จะจดบันทึกก็จะใช้กระดาษ กับปากกา หรือดินสอ เขียนบันทึกเป็นข้อความ อดีตที่โบราณกว่านั้นก็จดลงบนใบลาน อดีตที่ไกลยิ่งกว่านั้นก็จะลงบนฝาผนัง จดลงบนดินเหนียวกันเลย กลับมาที่ยุคหลังจากที่เรามีคอมพิวเตอร์ราคาไม่แพงให้ชาวบ้านได้ซื้อใช้ คนเราก็เริ่มเปลี่ยนวิธีจดบันทึกเป็นการบันทึกไว้ในคอมพิวเตอร์ เก็บเป็นไฟล์ดิจิทัล

2019-01-26 07.03.32 1


พอโลกเรามีเว็บไซต์ การทำเว็บก็เป็นสิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจ การจดบันทึกในอินเทอเน็ตเริ่มได้รับความนิยม และเมื่อจดบ้นทึก ก็เริ่มมีการเปิดให้คนอื่นมาอ่านสิ่งที่เราบันทึก การจดบันทึกในคอมพิวเตอร์เราจะมีศัพท์เทคนิคเรียกว่าบันทึก log นั่นทำให้การบันทึกในเว็บถูกเรียกว่า web log ซึ่งพอตัดคำให้สั้นลงเลยเป็นคำว่า blog และคนที่จดบันทึกในเว็บและเปิดให้คนอื่นเข้ามาอ่านได้ เราก็จะเรียกว่า blogger

pexels-mikael-blomkvist-4152562

พอเริ่มมีสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์พกพาเริ่มมีความสามารถมากขึ้น โทรศัพท์มือถือเริ่มถ่ายวิดีโอได้ และเข้าสู่ยุคเปิดตัวไอโฟนที่เราสามารถบันทึกคลิปวิดีโอได้ง่ายมาก การถ่ายวิดีโอด้วยโทรศัพท์มือถือเริ่มเป็นลูกเล่นมาตรฐาน ทำให้การจดบันทึกจากการจดเป็นภาพนิ่งและข้อความก็เริ่มบันทึกด้วยวิดีโอ พูดหรือเล่าเป็นเรื่องราวแล้วถ่ายเก็บเป็นคลิปวิดีโอ และอัพโหลดเข้าสู่อินเทอเน็ต เราเลยมีศัพท์ใหม่เรียกว่า video log และเมื่อรวบคำให้สั้นลง ก็เลยกลายเป็น vlog

IMG_0364

งาน vlog กลายเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยม หลังจากการเปิดตัวเฟสบุ๊ค ผู้ใช้งานส่งภาพและวิดีโอเข้าสู่เฟสบุ๊ค และทำให้คนอื่นเข้ามาดูภาพของเราหรือดูวิดีโอของเราได้ รวมถึงการมีเว็บไซต์อย่าง youtube ก็ทำให้การฝากไฟล์วิดีโอเพื่อแสดงไว้ในอินเทอเน็ตกลายเป็นเรื่องปกติที่ใครๆก็ทำได้ vlog เลยกลายเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม และเกิดเป็นการทำ vlog ทั้งเพื่อความบันเทิงและเพื่อใช้งานทางธุรกิจ

การฝีกให้เด็กประถมได้หัดทำ vlog เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับคนอายุวัยกลางคนอย่างพ่อแม่ เพราะสมัยพ่อแม่ยังเป็นนักเรียนนั้นไม่เคยมีอุปกรณ์แนวนี้ และไม่มีอินเทอเน็ตให้ใช้ แต่สำหรับเด็กยุคใหม่มันก็คงเป็นเรื่องปกติ และครูก็คงคิดว่าเป็นสิ่งที่เด็กประถมควรจะหัดทำได้แล้ว ผลลัพธ์ก็คือ ผมได้เห็นผลงาน vlog ของลูกตามที่เห็นในด้านบนโพสท์นี้ ได้เห็นการเขียนสคริป ได้เห็นทักษะการใช้งานโปรแกรมตัดต่อในโทรศัพท์มือถือ ได้เห็นการบันทึกเสียงที่พ่อแม่ก็ไม่คาดคิดว่ามันจะง่ายและมีคุณภาพที่ดีขนาดนี้ เครื่องบันทึกเสียงที่เคยซื้อเล่นก็ดูจะไม่จำเป็นอีกเลยสำหรับงาน vlog ในยุคที่โทรศัพท์มือถือคุณภาพสูงมากอย่างปัจจุบัน

ส่วนคำว่า youtuber คือคนที่ทำวิดีโอส่งเข้า youtube เป็นประจำจนเกิดเป็นธุรกิจ มีแฟนคลับติดตามดูจำนวนมาก รายได้ของ youtube จะมาจากสปอนเซอร์ที่โฆษณาอยู่ในคลิปวิดีโอ เป็นการตกลงจ่ายกันตามความพอใจของผู้จ้างและคนทำคลิปวิดีโอ ส่วนรายได้อีกทางของ youtuber ก็จะมาจาก google ที่จ่ายให้เจ้าของคลิปวิดีโอ ยิ่งมีคนดูคลิปเยอะ ยอดวิวสูง รายได้จากคลิปนั้นก็จะสูงตามกัน เนื่องจาก youtube ชอบที่จะให้คนเข้ามาดูเยอะๆเพราะจะสามารถแทรกโฆษณาได้ และรายได้โฆษณาที่ทาง youtube ได้รับก็จะแบ่งบางส่วนมาให้เจ้าของคริปวิดีโอนั่นเอง

โปรแกรมตัดต่อที่ลูกใช้ชื่อ vllo
มือถือระบบปฏิบัติการ android

เบื้องหลังการทำงาน


รีวิวไมค์ Boya BY-MM1

boya-by-mm1-image

ไมค์รูปทรง shotgun เป็นไมค์ที่ออกแบบมาเพื่อรับเสียงด้านหน้า เหมาะกับการทำคลิปที่เน้นการพูดหน้ากล้อง อย่างการทำ vlog ก็เป็นสิ่งที่ควรใช้ไมค์ shotgun ติดบนหัวกล้อง คุณภาพการรับเสียงจะดีเมื่อเราพูดห่างจากไมค์ไม่เกิน 1 เมตร หรือ ระยะเอื้อมถึงนั่นเอง และการใช้งานไมค์ shotgun หากเอาไปใช้ในที่โล่ง ก็ควรจะใส่ตัวป้องกันเสียงลมเอาไว้ด้วย Boya BY-MM1 จะให้ตัวขนแมวสีเทามาด้วย เอาไว้สวมบนกระบอกไมค์ การสวมตัวป้องกันลมไว้จะช่วยลดเสียงลมประทะ ทำให้ฟังเนื้อหาที่พูดได้รู้เรื่อง แต่หากไม่ใส่เราจะได้ยินเสียงลมกระแทกดังจนฟังเสียงพูดไม่รู้เรื่องเลย

ลองดูในคลิปเป็นตัวอย่าง บันทึกด้วยโทรศัพท์มือถือ ต่อไมค์เข้าทางช่อง Aux 3.5 ซึ่งจะต้องเชื่อมต่อด้วยสายแจ๊คที่เป็น TRRS สวนการใช้ไมค์ตัวนี้กับกล้องวิดีโอ กล้องดิจิทัลที่มีพอร์ตไมค์ ก็จะต้องเสียบด้วยสายอีกเส้นหนึ่งที่เรียกว่าสาย TRS ซึ่งทั้งสองเส้นนี้มีแถมมากับไมค์ด้วย ดังนั้นซื้อไปใช้ก็รับรองว่าใช้งานร่วมกับกล้องถ่ายภาพ กล้องวิดีโอ และโทรศัพท์มือถือที่มีช่อง Aux 3.5mm ได้แน่นอน

Specifications:

Frequency Response: 35-18KHz +/-3dB

Sensitivity: -42dB +/-1dB / 0dB = 1V/Pa, 1KHz

Signal to Noise Ratio: 76dB SPL

Jack : 3.5mm

TRS & TRRS Connector

Weight: 50g

อุปกรณ์ในชุด

1x Windshield

1x Shock Mount

1x สายต่อ 3.5 แบบ TRRS (สมาร์ทโฟน)

1x สายต่อ 3.5 แบบ TRS (กล้อง)

1x ถุงผ้า

หากสนใจ ก็สั่งซื้อได้ที่นี่ https://s.lazada.co.th/s.Q4Pr0?cc

ถ่ายคลิปวิดีโอด้วยกล้อง Eos m รุ่น 1

อุปกรณ์ที่ใช้คือกล้อง Eos M รุ่น 1 ที่ออกมาเมื่อประมาณปี คศ 2014 และใช้เลนส์ efm 22f2 ซึ่งเป็นเลนส์ฟิกซ์ตัวแรกของระบบกล้อง M Series ของค่าย Canon พร้อมด้วยไมโครโฟนชนิด Shotgun ยี่ห้อ Takstar SCG598

IMG_0010

ไมโครโฟนตัวนี้จะเป็นไมค์ชนิด shotgun ซึ่งจะเป็นไมค์ที่รับเสียงด้านหน้าได้ไวมากกว่าปกติ และไม่รับเสียงด้านข้างและด้านหลัง ตัวไมค์จะมีช่องใส่ถ่าน AA 1 ก้อน และมีปุ่มเปิดปิดไมค์ มีปุ่มเพิ่มระดับเสียง +10dB ได้ด้วย ซึ่งในการถ่ายทดสอบนี้จะยกระดับเสียงเอาไว้ เพื่อให้เสียงที่บันทึกลงไปในคลิปมีความดังมากขึ้นกว่าปกติ

IMG_0344

การถ่ายคลิปในครั้งนี้ทดลองถ่ายโดยการตั้งค่ากล้องให้เป็น MF เนื่องจากเคยลองถ่ายแบบ AF แล้วมีปัญหาว่า กล้องจะปรับโฟกัสตลอดเวลา และทำให้หลายจังหวะมีอาการภาพเบลอ ซึ่งเป็นปัญหาประจำรุ่นของกล้องรุ่นนี้ สาเหตุเกิดจากระบบโฟกัสอัตโนมัติยังทำงานได้ไม่รวดเร็วพอ เป็นเทคโนโลยีที่ค่าย canon ยังพัฒนาไปไม่สุดนั่นเอง หากสนใจอ่านรีวิวกล้องตัวนี้ย้อนกลับไปอ่านได้ที่นี่

ระยะทางที่ถ่ายคลิป ตัวกล้องห่างแบบประมาณ1 เมตรเท่านั้น เพื่อให้ไมค์ไม่ห่างจากแบบเกินไป ตั้งค่าส่วนอื่นๆของกล้องให้มีค่า iso = 100 และปรับรูรับแสงเป็น F2 ปรับสปีดชัตเตอร์ให้ได้ค่าการวัดแสงที่โอเวอร์ประมาณ 1/2 สต๊อป ผลก็คือกล้องไม่โฟกัสวืดวาดอีกแล้ว เลยได้คลิปตามที่เห็น

ข้อมูลที่ให้ลูกอ่านก็คือ รายชื่อนักฟุตบอลที่เลือกมาอยู่ในทีม เป็นการเล่นจัดทีมออกมาแข่งกัน ต่างคนต่างเลือกผู้เล่นที่ชอบ แล้วก็จดใส่กระดาษไว้ ตอนถ่ายคลิปก็ขอให้ลูกช่วยอ่านแต่ละตำแหน่งออกมา สคริปต์การอ่านไม่ได้จดไว้ มีแต่รายชื่อที่เขียนลงในกระดาษ และแผนผังการจัดตำแหน่งเท่านั้น

2020-04-13_10-30-14