การที่ใครคนหนึ่งตัดสินใจเลือกใช้บริการสักอย่างจะเกิดจากการที่เขาไม่ลืมเรา เช่น เดี๋ยวจะไปกินอาหารมื้อเย็น ถ้าให้ลองบอกชื่อร้านอาหารที่อยากไปกันมาคนละ2 ร้าน เราก็คงนึกชื่อที่เราคุ้นเคย บางคนบอกชื่อของร้านอาหารญี่ปุ่น บางคนบอกชื่อของร้านสุกี้ ทั้งๆที่ตลอดชีวิตของเรา เราแวะกินร้านอาหารมากันคนละหลายสิบร้าน บางคนกินมาแล้วเกือบทุกร้านในห้าง แต่ตอนที่เรานึกเร็วๆ ก็จะนึกออกได้แค่ไม่กี่ร้าน นั่นเป็นเพราะว่าเราลืมร้านอื่น ไม่ใช่ร้านอื่นไม่อร่อย แต่เราแค่ลืม
ในทำนองเดียวกัน การบอกต่อหรือการแนะนำงานที่นักธุรกิจบางคนจะเรียกว่าการให้ Referral ก็เป็นการกระทำที่อยู่บนความไม่ลืม หรือ ความจำได้ การรับรู้ว่ามีใครสักคนทำงานนี้ได้ ทำให้เกิดการตัดสินใจบอกต่อ การทำให้ผู้คนไม่ลืมบริษัทของเรา ก็คือการทำให้เกิด visibility มันคือการทำให้ผู้คนรับรู้ว่าเราอยู่ตรงนี้ ให้บริการอยู่ตรงนี้ การมีตัวตนในใจลูกค้า หรือในใจผู้บอกต่อจะทำให้การบอกต่อเกิดขึ้น และนำไปสู่การได้ธุรกิจหรือได้ยอดขาย
ตัวตนของเราในกลุ่ม networking หรือในกลุ่มเพื่อน เพื่อนไม่ว่าจะกลุ่มไหนก็ลืมเหมือนกันถ้าไม่ได้เจอกับเราเป็นเวลานาน ตั้งแต่เรียนจบจนมีครอบครัวถ้าไม่เคยเจอกันเลยรับรองว่าลืม และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครทำอาชีพอะไร สมมุตถ้าเราจะซื้อประกันชีวิต เรานึกออกไหมว่ามีใครในกลุ่มเพื่อนที่เคยเรียนที่เดียวกันจะมีอาชีพขายประกันบ้าง แน่นอนว่าคงมีหลายคนจากหลายร้อยคนที่เรารู้จัก แต่เราก็จะนึกถึงเพียงบางคน นั่นก็เป็นเพราะบังเอิญเรานึกออกแค่เขา หรือแม้แต่จะซ่อมแซมต่อเติมบ้าน เราก็ไม่รู้จะเรียกใคร ทั้งที่เพื่อนในชีวิตที่เคยเรียนที่เดียวกับเราอาจจะมีบางคนทำงานสร้างและต่อเติมบ้านอยู่แล้ว แต่เราก็ลืมเขา บางทีก็เป็นเพราะเราไม่รู้ข่าวของเพื่อนครบทุกคน เลยไม่รู้ว่าใครทำอาชีพอะไร
การเพิ่ม visibility คือการทำบางสิ่งเพื่อทำให้เพื่อนไม่ลืมเรา ทำเพื่อให้คู่ค้าหรือพันธมิตรธุรกิจไม่ลืมเรา ทำเพื่อให้ลูกค้าไม่ลืมเรา เพื่อนในกลุ่ม networking ไม่ลืมเรา นี่จึงเป็นเหตุผลที่กลุ่มธุรกิจบางกลุ่มถึงนัดพบกันทุกสัปดาห์และในการประชุมก็จะมาพูดว่าเราคือใคร ทำอาชีพอะไร ชอบลูกค้าแบบไหน และมองหาอะไร อย่างสม่ำเสมอ ทำซ้ำๆตลอดปี มันเป็นการเพิ่มการรับรู้ที่มีประสิทธิภาพมาก เพราะพูดซ้ำตลอดปี
หากเราเห็นว่าการมีตัวตน หรือการถูกจำได้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อการขยายธุรกิจ สิ่งต่อไปนี้คือสิ่งที่จะช่วยเพิ่ม visibility ให้กับเรา ต่อเพื่อนทุกกลุ่ม ทุกสังคม ที่เราอยู่ด้วย เราลองอ่านไปทีละข้อแล้วเลือกทำบางข้อที่เราสะดวกจะทำ ยิ่งทำมากยิ่งดี ทำบางข้อก็ดีกว่าไม่ทำ ลองไปดูกัน
1 เข้าร่วมกิจกรรมการประชุมหรือ ร่วมงาน networking ต่างๆที่เราสามารถเข้าได้ ทั้งการประชุมในอาชีพแบบเดียวกัน หรือ งานแสดงสินค้า งานโชว์ หรือการประชุมศิษย์เก่า และไม่ลืมที่จะติดนามบัตรของเราไปด้วย เพราะเราไปร่วมงานในโหมดการแสดงตัวตน ไปปรากฏตัวให้ผู้คนรับรู้ถึงตัวเรา
2 เข้าร่วมกับสภาอุตสาหกรรม สมาคมวิชาชีพเดียวกับคุณ ไปร่วมประชุม สัมมนา หรือลงเวิร์คช็อป เพื่อไปหาเพื่อนใหม่ ทำความรู้จักกับคนในแวดวงเดียวกัน เพื่อขยายคอนเน็คชั่น คนกลุ่มนี้จะเข้าใจอาชีพของเราได้ง่าย บางทีเราอาจจะได้ซัพพลายเออร์ หรือ ได้เพื่อนร่วมอาชีพที่ช่วยเป็นแบ็คอัพให้ธุรกิจเราได้ อย่าเพิ่งคิดว่าเขาอาชีพเดียวกับเราแล้วจะแย่งลูกค้ากัน ส่วนมากที่พบจะเป็นผู้ช่วยแก้ปัญหาให้เราเสียมากกว่า คือ มีข้อดีมากกว่าข้อเสียในการรู้จักคนอาชีพเดียวกันหรืออาชีพใกล้เคียงกัน
3 สร้างตัวตนในฝั่งออนไลน์หรือบนอินเทอเน็ต เริ่มด้วยการมีเว็บไซต์จะเป็นแบบส่วนตัวหรือของบริษัทก็ได้ มีโซเชียลเน็ตเวิร์คประจำตัว การมีโพรไฟล์ในอินเทอเน็ตจะทำให้มีคนเห็นเราเพิ่มขึ้นอีกหลายร้อยเท่า และเราควรต้องอัพเดทข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ โพสท์เนื้อหาที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ หรือเล่าเรื่องของตัวเราอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับความเชี่ยวชาญของเรา พยายามเขียน story หรือเรื่องเล่า ยาวบ้าง สั้นบ้าง แล้วส่งเข้าโซเชียลเน็ตเวิร์คทุกตัวที่เราใช้งาน
4 สร้างแบรนด์ประจำตัวเราให้ชัดเจน สื่อสารเรื่องราวที่มีคุณค่า นำเสนอความสามารถในทางบวกของเราออกสู่โลก แสดงให้เห็นว่าเรามีความเชี่ยวชาญเรื่องอะไร เล่าเรื่องวิธีการแก้ปัญหาให้ลูกค้าโดยอาศัยความชำนาญของเรา วางตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญและทำตัวให้น่าเชื่อถือ ทุกอาชีพมีเรื่องเล่ามีความน่ารู้ที่คนอาชีพอื่นไม่รู้แน่นอน หรือแม้แต่การโพสท์โชว์ว่าเราไปทำงานอะไรในแต่ละวันก็เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างการรับรู้ได้ดีมาก บางคนแค่โพสท์ว่าไปส่งของให้โครงการก่อสร้าง ส่งของทุกวันก็โพสท์ทุกวัน คนที่เห็นก็จะจำได้ว่า คนโพสท์อาชีพอะไร ถึงวันที่จะใช้ของเดี๋ยวเขาก็จะถามกลับมาเอง
5 มองหาโอกาสที่จะช่วยเหลือผู้อื่น แบ่งปันข้อมูลหรือทรัพยากรของเราที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ให้คำแนะนำหรือข้อมูลในเชิงลึก อธิบายความรู้ทางเทคนิคถ้ามีโอกาส การให้ความช่วยเหลือผู้อื่นในรูปแบบต่างๆจะเพิ่มการรับรู้ให้คนที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ และไม่ลืมที่จะบันทึกเป็นเรื่องเล่าว่าเราช่วยเหลือคนอื่นอย่างไร ทั้งหมดจะช่วยทำให้การมีตัวตนภายในเแวดวงหรือกลุ่มเพื่อนหรือกลุ่มนักธุรกิจของคุณเด่นชัดมากยิ่งขึ้น
6 หาโอกาสขึ้นพูดในบนเวที พูดในงานสัมมนา หรือแม้แต่การพูดในห้องประชุม การพูดจะทำให้คนรู้จักคุณดีขึ้น การแบ่งปันความรู้บนเวทีจะทำให้ผู้คนรับรู้ในความเชี่ยวชาญ สร้างความน่าเชื่อถือได้สูงมาก ยิ่งอธิบายความรู้เชิงลึกในอาชีพของคุณได้ยิ่งทำให้ผู้คนให้ความเชื่อถือมากยิ่งขึ้น อย่ากลัวที่จะแสดงออก แม้ว่าครั้งแรกๆจะทำได้ไม่ดี ไม่มั่นใจ แต่ให้จำไว้อย่างหนึ่งว่า การได้รับเกียรติให้พูดบนเวทีในเรื่องราวอาชีพของเรา นั่นเป็นเพราะเรามีความสามารถมากพอ เชี่ยวชาญในอาชีพของเรามากพอ จนสามารถแบ่งปันให้คนอื่นได้ และยิ่งทำซ้ำ พูดซ้ำ จะยิ่งพูดได้ดีขึ้น จนในที่สุดจะไม่มีคำว่า ตื่นเวทีอีกเลย
7 ลองทำงานร่วมกับผู้อื่น สร้างทีมทำโปรเจ็คใหม่ร่วมกัน รวมศักยภาพของเรากับของเพื่อนเพื่อสร้างงานใหม่ๆ ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้ถ่ายเทลูกค้าซึ่งกันและกัน วิธีนี้จะได้รับการมองเห็นเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็วเพราะเราจะได้ไปปรากฏตัวในแวดวงของเพื่อน ขณะที่เพื่อนก็จะได้มาแสดงตัวในแวดวงของเรา ในภาษาทางธุรกิจบางองค์กรจะเรียกว่าการสร้างเพาเวอร์ทีมหรือ Powerteam
8 ติดตามเพื่อนใหม่เพื่อความต่อเนื่อง หลังจากกิจกรรมเครือข่ายหรือการประชุม เราจะได้พบคนใหม่ รู้จักเพื่อนใหม่ ให้ติดตามผลกับทุกคนที่คุณเคยพบ อาจจะทำโดยการส่งข้อความหรืออีเมลไปทักทาย ถ้าคุณเป็นเจ้าภาพและเพื่อนใหม่มาเป็นแขกก็ให้ส่งคำขอบคุณในวันถัดมาหลังจากได้พบ จะดีมากถ้าเราเพิ่มคนใหม่เป็นเพื่อนในโซเชียลเน็ตเวิร์คด้วย จะทำให้เขารับรู้ถึงตัวตนของเรามากยิ่งขึ้น และถ้าเป็นไปได้ให้วางแผนนัดพบกันในครั้งถัดไปทันทีภายในเวลาไม่เกิน 2เดือน ถ้าเพื่อนใหม่เป็นคนที่น่าจะมีโอกาสส่งต่อธุรกิจซึ่งกันและกัน
9 เข้าร่วมการพบปะหรือร่วมประชุมด้วยความรู้สึกที่คึกคัก กระตือรือร้น มีสมาธิในการ ฟัง ถาม ตอบ มีส่วนร่วมในการประชุมอย่างเต็มที่ อยู่กับปัจจุบัน ใช้เวลาในห้องประชุมอย่างคุ้มค่า ไม่ฟังอย่างขอไปที เพราะทุกสิ่งที่กล่าวมาจะช่วยเพิ่มการมองเห็นและความน่าเชื่อถือของคุณ
10 ใช้ประโยชน์จากการรีวิวของลูกค้า เราอาจจะขอให้ลูกค้าเขียนบทความสั้นๆเพื่อชื่นชมการบริการของเราหากลูกค้ารู้สึกพอใจ และนำรีวิวเหล่านี้ไปแสดงบนเว็บไซต์หรือโพสท์ในโซเชียลเน็ทเวิร์คของเรา การชื่นชมคุณภาพการทำงาน เป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากในการสื่อสารแบบปากต่อปาก และจะทำให้การรับรู้ของเราต่อคนอื่นเป็นไปในทิศทางที่เพิ่มขึ้นและเป็นบวก และสุดท้ายจะพาโอกาสที่ดีเข้ามาหาเราได้แน่นอน
โปรดจำไว้ว่าการสร้างการรับรู้ในภาคธุรกิจต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างเข้มข้น และต้องมีความสม่ำเสมอเป็นพื้นฐานสำคัญ ให้พยายามมีสมาธิกับการพัฒนาการรับรู้หรือ Visibility อย่างจริงจังเพื่อขยายธุรกิจของเรา