ทนายความคบไว้ไม่มีเรื่อง

ทนายความผู้มากความสามารถเป็นที่ปรึกษาทางกฏหมายให้กับนักธุรกิจต่างชาติจำนวนมาก  ทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษที่มาคู่กับความรู้ทางกฏหมายทำให้มีชาวต่างชาติต่อคิวรอใช้บริการอย่างต่อเนื่อง  หลักการของทนายความที่ป้องกันทุกปัญหาให้ลูกค้าด้วยวิธีแสนฉลาดคือทำให้ถูกกฏหมายตั้งแต่ต้น  ไม่ต้องแกว่งเท้าหาเรื่อง ไม่ต้องทะเลาะกับใคร  ลูกค้าบอกต่อจึงเยอะขึ้นเรื่อยๆ

IMG_9446

ทนายพงศ์เป็นคนกรุงเทพ เกิดและเรียนหนังสืออยู่ในกรุงเทพมาตลอด  เรียนมัธยมปลายได้ปีเดียวก็สอบเทียบม.6 ผ่าน ทำให้สามารถสมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้ตั้งแต่อายุ 15   โดยสาขาที่เลือกเรียนคือคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง  ด้วยความมุ่งมั่นว่าอยากจะมีอาชีพที่ดูท้าทายเหมือนในภาพยนต์ที่เคยดูตอนเด็ก   การเรียนเร็วและข้ามชั้นไปหลายชั้นทำให้เรียนจบปริญญาตรีตั้งแต่อายุ  18    จากนั้นก็ไปสอบใบอนุญาตทนายความ  แม้จะสอบผ่านแล้วแต่ยังขึ้นทะเบียนทนายความไม่ได้ เพราะกฏหมายกำหนดไว้ว่าใบอนุญาติทนายความผู้ขอต้องมีอายุ 20 ปี ขึ้นไป  เมื่อยังไม่สามารถประกอบอาชีพทนายความได้ ก็เลยตัดสินใจไปสมัครทหาร  เพื่อที่จะได้ทำหน้าที่ตามกฏหมายให้ครบถ้วน  และเมื่อสิ้นสุดงานทหาร ก็ออกมาเป็นทนายความได้พอดี

IMG_9192

เริ่มงานเป็นลูกจ้างบริษัท  รับงานผ่านบริษัท  รับเงินเดือนบ้าง รับเป็นค้าจ้างบ้าง  รับงานส่งต่อบ้าง  ช่วงแรกของชีวิตการทำงานชอบทำคดีอาญา เพราะติดภาพความเท่ห์มาจากการดูหนัง   การได้ช่วยจำเลยออกมาจากคุกเป็นความรู้สึกที่ท้าทายความสามารถ   แม้ว่าการทำคดีอาญาจะสนุก  แต่ความจริงของการทำงานคือ ส่วนมากแล้วคนก่อคดีอาญามักจะเกิดจากการไม่มีเงิน  พอไม่มีเงินก็เลยทำผิดกฏหมาย  เช่น ลักทรัพย์  ทำร้ายร่างกาย โกงเงิน  ประกอบกับรายได้จากการเป็นพนักงานของบริษัทก็ไม่ค่อยพอใช้   เพื่อนฝูงหลายคนที่เติบโตมาพร้อมกันเริ่มขยายธุรกิจ เริ่มทำงานตำแหน่งใหญ่โตขึ้น     ประกอบกับลูกค้าคดีอาญาส่วนมากจะไม่ค่อยมีเงินจ่ายค่าทำคดี  สุดท้ายก็ทำต่อไม่ไหวจึงเริ่มมองหาแนวทางคดีลักษณะอื่น  อย่างเช่นคดีเกี่ยวกับธุรกิจ  เริ่มรับทำคดีแพ่งและอาญาคู่กัน  สะสมประสบการณ์เป็นลูกน้องในสำนักงานกฏหมายอยู่ประมาณ 10 ปี  พอมีความชำนาญเพิ่มขึ้น ประสบการณ์เยอะขึ้น  ก็เริ่มมีลูกค้าส่วนตัว   ในที่สุดก็ตัดสินใจลาออกมาเปิดสำนักงานกฏหมายของตัวเอง 

IMG_9273

การเปิดสำนักงานกฏหมายจะมีความไม่มั่นคงในช่วงต้น  เพราะงานทนายความไม่ได้มีคนมาจ้างงานง่ายๆ   การเปิดสำนักงานแบบไม่มีคนรู้จักก็มักจะอยู่ไม่นาน ธุรกิจไปไม่รอด   เพื่อนร่วมอาชีพหลายคนเปิดสำนักงานแล้วแล้วปิดภายในเวลาไม่กี่ปี  คนที่จริงจังและมีจุดเด่นจริงๆเท่านั้นถึงจะอยู่รอด 

ส่วนมาก คดีแนวธุรกิจมักจะเป็นลูกค้าที่มีรายได้สูง  คนกลุ่มนี้จะไม่ค่อยทำผิดอาญา   อย่างมากก็เป็นเรื่องภาษี  คดีส่วนมากก็จะเป็นคดีแพ่ง  พอทำคดีแพ่งบ่อยขึ้นอัตราการว่าความชนะก็เพิ่มขึ้น   ทำให้มีลูกค้านักธุรกิจเยอะขึ้น  และเกือบทุกคนก็จะมาจากการบอกต่อ  ปัญหาในคดีแพ่งมักจะเกิดขึ้นกับธุรกิจตลอดเวลา จบคดีแรกก็มีคดีถัดไปรออยู่  เมื่อคุ้นเคยกันกับลูกค้า  ลูกค้ากลุ่มธุรกิจนี้จะเริ่มปรึกษาก่อนดำเนินกิจการหรือก่อนจะต้องตัดสินใจทางธุรกิจ  ผลก็คือ  การให้คำปรึกษาก่อนช่วยทำให้ป้องกันผลเสียหายจากการเป็นคดี  ซึ่งลูกค้าก็ชอบผลลัพธ์แบบนี้ งานที่ปรึกษาก็เริ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นงานหลักของสำนักงานไปเลย

IMG_9307

ในประเทศไทยคนเรียนกฏหมายประมาณ 80 เปอร์เซ็นจะไม่ชอบวิชาคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ  ทนายพงศ์เลยเลือกจุดที่ทักษะภาษาอังกฤษของทนายไทยจะไม่ดีนัก ทำการฝึกฝนพัฒนาเรื่องการสื่อสารภาษาอังกฤษให้ชำนาญมากขึ้นเพื่อรองรับตลาดต่างชาติ  และจากประสบการณ์กว่าสิบปีพบว่าถ้าทำงานที่ปรึกษารัดกุมตั้งแต่ต้น ชาวต่างชาติจะไม่มีคดีในไทยเลย  การป้องกันการทำผิดในไทยจะทำให้ชาวต่างชาติมีธุรกิจที่ยั่งยืน  เป็นผลดีต่อทุกฝ่ายทั้งตัวเจ้าของธุรกิจและคู่ค้าคนไทย   ประเทศไทยก็ได้ประโยชน์ด้วย

ส่วนสำนักงานกฏหมายขนาดใหญ่จะไปเข้าหาลูกค้าระดับบนหรือระดับนานาชาติซึ่งค่าใช้จ่ายก็จะสูงไปเลย    ลูกค้าต่างชาติที่ยังเป็นธุรกิจเล็กหรือ sme ก็เลยจำเป็นต้องหาสำนักงานกฏหมายขนาดเล็ก  และสำนักงานเล็กๆทั่วไปก็ไม่ค่อยชำนาญภาษาอังกฤษ ทนายพงศ์จึงได้ทำงานให้ต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเปิดโอกาศให้ทำงานกับต่างชาติได้จริง และต่างชาติก็ชอบที่จะใช้บริการหรือติดต่อกับทนายโดยตรง เนื่องจากไม่ได้อยากติดต่อผ่านล่าม เพราะบางทีการแปลความหมายทางด้านกฏหมายอาจจะไม่ชัดเจน ล่ามไม่ได้มีความเข้าใจในเรื่องกฏหมาย ทนายที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้จึงได้รับโอกาสเหล่านี้

IMG_9500

คดีที่ทำบ่อยก็มักเป็นคดีพิพาทระหว่างต่างชาติด้วยกันแต่เป็นความผิดที่เกิดขึ้นในไทย  ทนายพงศ์ก็ดำเนินการให้  งานแนวนี้ไม่ซับซ้อน  ทนายก็ทำตามรูปแบบที่ต้องทำ ถูกผิดก็ว่าไปตามหลักฐาน เอกสาร ส่วนมากก็จะเจรจาไกล่เกลี่ยปิดคดีได้ ไม่ต้องเสียเวลาฟ้องร้อง ไม่ต้องขึ้นศาล หากจะให้แนะนำนักธุรกิจต่างชาติก็จะขอบอกว่า ให้ทนายดูแลทางกฏหมายก่อนจะเกิดปัญหา  เป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับนักธุรกิจต่างชาติในไทย เพราะการไม่มีเรื่องนั้นดีที่สุด

อีกหลักการหนึ่งที่สำคัญมากสำหรับการทำงานกับกลุ่มนักธุรกิจต่างชาติก็คือ ทนายความจะพยายามไม่เป็นข่าว  ไม่ออกสื่อ เพราะถ้าเกิดเป็นข่าว หรือ มีการจับตาจากสังคม จะทำให้คดีหรืองานที่ทำอยู่โดนจับตามอง อาจมีปัญหา  และลูกความก็ไม่สบายใจที่ทนายของเขาเป็นคนดัง  เนื่องจากส่วนมากลูกค้าธุรกิจมักจะมีปัญหาพิพาท เพราะลูกความก็กลัวจะโดนขุดคุ้ย

IMG_9455

งานที่ทำบ่อยในช่วงปีนี้คือการเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทต่างชาติ พอปรึกษาก็จะมีงาน ขอวิซ่า ขอเวิร์คเพอมิทที่ต้องช่วยบริการตามมา หลังวิกฤตโควิดชาวต่างชาติเริ่มมองหาการเปิดบริษัทในประเทศไทยมากขึ้น การมองหาทนายในก้าวแรกของธุรกิจในไทยถูกมองว่าเป็นสิ่งจำเป็น

ปัจจุบัน ทนายพงศ์ เปิดเพจให้ความรู้สำหรับชาวต่างชาติที่จะตั้งใจมาทำธุรกิจในประเทศไทย รวมถึงความรู้ทางกฏหมายทั่วไปที่ประชาชนอาจเข้าใจผิดก็จะรวบรวมมาเล่าเรื่องในเพจ อย่างเช่น

IMG_9507

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการขับรถ    ถ้าเราขับรถไปเกิดอุบัติเหตุ มีคนมาชน แล้วเราไม่มีใบขับขี่  หลายคนจะบอกว่าไม่มีใบขับขี่จะเป็นฝ่ายผิด  ความจริงแล้ว ต้องแยกข้อหา  ขับรถไม่มีใบขับขี่ผิด 1ข้อหา  แต่ขับแล้วเกิดอุบัติเหตุ จะเป็นอีกข้อหา  

การที่ชาวต่างชาติจะทำธุรกิจในประเทศไทย ควรเริ่มต้นด้วยการทำทุกอย่างถูกกฏหมาย ควรได้รับการแนะนำอย่างตรงไปตรงมาโดยนักกฏหมาย เพราะการทำทุกสิ่งอย่างถูกต้องคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการทำงานระยะยาว

พงศ์ประพันธ์ มินสาคร
Pongprapan Minsakorn
Bangkok Law Firm
Mobile +66 86 604 2330
bangkok.lawfirm@hotmail.com

BNI คืออะไร

BNI คือองค์กรที่เป็นที่รวมกลุ่มของนักธุรกิจเพื่อทำธุรกิจร่วมกัน นักธุรกิจแต่ละคนจะเข้าเป็นสมาชิกในกลุ่มแล้วทุกคนจะช่วยกันหาลูกค้าให้เพื่อนสมาชิกด้วยกัน เราหาให้เพื่อน เพื่อนหาให้เรา เปรียบไปก็เหมือนเรามีเซลส์ช่วยขายเท่ากับจำนวนสมาชิกในกลุ่มของเรา และอาจจะมีเซลส์มากขึ้นหากเราติดต่อกับเพื่อนกลุ่มอื่นๆ ซึ่งสมาชิกในประเทศไทยมีอยู่ประมาณ 1933 คน สมาชิกทั่วโลกมีอยู่ 227,000 คน (ข้อมูลปี คศ.2019)

ลองไปอ่านข้อมูลของ BNI กลาง http://www.bni.com/
ส่วน BNI ประเทศไทยก็ที่นี่ http://bnithailand.com/en-TH/index

BNI มาจากอเมริกา เข้ามาในไทยเมื่อปี คศ 2006 โดยคุณ Mr. Kollakit Thalerngnawachart ในไทยมีกลุ่มของ BNI อยู่หลายกลุ่ม แต่ละกลุ่มจะมีจำนวนสมาชิกไม่เท่ากัน บางกลุ่มขนาดใหญ่มีคนเยอะ บางกลุ่มขนาดเล็กเพราะคนยังไม่มาก กลุ่ม Heritage เป็นกลุ่มแรกที่เกิดขึ้นพร้อมกับ BNI ประเทศไทย

IMG_7312

กิจกรรมในกลุ่มมีมากมาย แต่วัตถุประสงค์หลักก็คือการรวมตัวกันทำธุรกิจ ต่างคนต่างช่วยเพื่อนทำธุรกิจ แนะนำลูกค้าให้เพื่อน สมาชิกในกลุ่มจะมีธุรกิจไม่ซ้ำกัน ลูกค้าของแต่ละคน อาจจะใช้สินค้าและบริการจากหลายแหล่ง การส่งต่อลูกค้าของเราให้ไปซื้อสินค้าและบริการอื่นๆที่เราไม่ได้ทำจากเพื่อนในกลุ่มเป็นการช่วยเพื่อนทำธุรกิจ เราส่งลูกค้าเราให้เพื่อน เพื่อนส่งลูกค้าให้เรา เรากับเพื่อนไม่ได้แย่งกันขายของเพราะธุรกิจคนละอย่างกัน ทุกคนได้ประโยชน์ร่วมกัน เรากับเพื่อนได้ธุรกิจ ลูกค้าของเราได้สินค้าและบริการที่หลากหลาย

2018-09-25 12.48.31 1

สมาชิกในกลุ่มจะประชุมร่วมกันสัปดาห์ละ 1 ครั้ง กลุ่ม heritage จะประชุมวันอังคาร 7.00 น. ในการประชุมจะมีการแจ้งข่าวสาร และให้สมาชิกพรีเซ้นธุรกิจของตัวเอง 1 นาที ผู้ที่เข้าประชุมจะประกอบไปด้วยสมาชิก และ Visitor ซึ่ง visitor จะเป็นคนที่สนใจอยากมาเข้าร่วมเพื่อเป็นสมาชิก หรือ มาเพื่อช็อปปิ้งสินค้าและบริการจากสมาชิกในกลุ่ม ซึ่งผู้เป็น Visitor ก็จะได้รับสิทธิ์ที่จะพูดเพื่อขายของหรือพรีเซ้นธุรกิจของตนเองเช่นกัน ผมเองก็เป็นสมาชิกในกลุ่ม Heritage เข้ามาในกลุ่มด้วยธุรกิจโรงพิมพ์

ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ก็จะพอเข้าใจภาพรวมของกลุ่มธุรกิจ BNI ว่ามีที่มาที่ไปและทำอะไรกัน หากท่านอยากใช้สินค้าและบริการในกลุ่ม Heritage ก็ลองติดต่อสมาชิกในกลุ่มดูสักคน หากท่านอยากช็อปปิ้งแบบมาครั้งเดียว เจอซัพพลายเออร์เต็มไปหมดเลย ซึ่งเป็นการประหยัดเวลา ก็ขอเชิญมาเป็น Visitor ในการประชุมประจำสัปดาห์ ครับ แต่ว่า เราจะประชุมกันตอนเช้า 7.00 น. วันอังคาร เช้ามาก ตื่นลำบาก แต่มันมีข้อดีคือ เราประชุมเสร็จ เราแยกย้ายกลับไปทำงาน ไปดูแลบริษัทตัวเองต่อได้ครับ ไม่เสียงาน

ติดต่อทีมงานของผม ฝากชื่อและอีเมลไว้ได้ครับ

Go back

Your message has been sent

Warning
Warning
Warning
Warning

Warning.