นาฬิกากับเวลา

นาฬิกาข้อมือเคยเป็นอุปกรณ์ติดตัวมายาวนาน แต่พอยุคสมัยของโทรศัพท์มือถือครองเมือง ทุกคนมีโทรศัพท์ติดตัว การดูเวลาก็จะดูจากโทรศัพท์มือถือแทนนาฬิกากันเป็นส่วนมาก แต่ก็ยังมีบางคนที่ยังคงชินกับการดูเวลาจากนาฬิกาอยู่ดี และเมื่อยกนาฬิกาขึ้นมาดูก็พบกว่า นาฬิกาเดินไม่ตรง เพราะเวลาไม่ตรงกับที่โชว์อยู่บนโทรศัพท์

20240613180214_IMG_2392

ก่อนจะมีโทรศัพท์มือถือ เราไม่เคยรู้เลยว่าเวลาในนาฬิกาข้อมือของเราตรงหรือไม่ตรง นาฬิกาในบ้านเป็นแบบใส่ถ่านแล้วก็เดินอย่างนั้นอยู่เป็นปี นาฬิกาข้อมือใส่ถ่านก็เดินแบบนั้นอยู่เป็นปี นาฬิกาออโตเมติก ระบบกลไก อาศัยการสั่นสะเทือนไปเป็นพลังงานในการผลักเข็มนาฬิกาให้เดิน ก็มักจะเป็นนาฬิการะดับหรูหราราคาแพง นาฬิกาพวกนี้ก็ไม่เคยเดินตรง เจ้าของนาฬิกามักจะต้องตั้งเวลาเทียบกับนาฬิกาเรือนอื่นอยู่เสมอ

การหาข้อมูลเวลาที่เที่ยงตรงและแม่นยำแต่ราคาถูกที่สุดคือการเทียบกับเวลาจากอินเทอเน็ต หรือ internet time โดยค่าเวลาจะเป็นนาฬิกาที่แสดงอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอเน็ต internet time จะถือว่าเที่ยงตรงที่สุด เพราะได้รับการดูแลและแก้ไขให้ตรงเสมอ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ดึงเวลาจาก internet มาใช้ตั้งค่าตัวเองก็ถือว่าเที่ยงตรงเช่นกัน โทรศัพท์มือถือก็ดึงเวลาจากเครือข่ายผู้ให้บริการ และผู้ให้บริการก็จะใช้เวลาที่ดึงมาจาก internet time  ส่วนเวลาใน smartwatch จะตรงกับ internet time ตอนที่ถูก ซิงค์กับ app แล้ว แต่พอเวลาผ่านไปสักเดือน หากไม่มีการซิงค์กับคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ เวลาใน smartwatch ก็จะเดินไม่ตรง  ในตัวอย่างคือเดินช้าไปประมาณ 2 นาที ต่อเดือน เพราะไม่ได้ซิงค์มาเป็นเดือนนั่นเอง

IMG_20231104_225755

ดูจากอาการที่เวลาเดินไม่ตรง คลาดเคลื่อนประมาณสองนาทีต่อเดือนนั่นก็หมายความว่า smartwatch น่าจะใช้วงจรกำเนิดความถี่แบบอิเล็คทรอนิกส์  คุณภาพความถี่จะเป็นแบบตามมีตามเกิด คือไม่ได้ใช้ควอตซ์ในการควบคุมความถี่  เพราะความคลาดเคลื่อนของควอตซ์จะประมาณ 1วินาทีต่อเดือน หรือ 12-15วินาทีต่อปี    ส่วนวงจรกำเนิดความถี่แบบอิเล็คทรอนิกส์  จะมีสูตรคำนวณจาก R L C ค่าทางไฟฟ้าของอุปกรณ์ รวมถึงแรงดันไฟที่อยู่ในอุปกรณ์ด้วย ค่าอุปกรณ์ที่ไม่แม่นยำทำให้กำเนิดสัญญาณความถี่ที่ไม่แน่นอน ทำให้วงจรนับสัญญาณนาฬิกานับแล้วไม่ถูกต้อง  จะใช้นาฬิกาแบบนี้อ้างอิงเวลาไม่ได้เลยในระยะยาว  เพราะความถี่มันคลาดเคลื่อนเยอะเกินไป อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ที่ต้องมีเวลาที่แน่นอนก็จะต้องอาศัยการตั้งค่าเทียบกับ internet time อย่างสม่ำเสมอ หรือต้องต่อเน็ตตลอดเวลานั่นเอง

นาฬิกาที่ควบคุมเวลาด้วยระบบควอตซ์จึงเป็นนาฬิกาที่เดินตรงที่สุดในโลกเพราะผิดพลาดน้อย ไม่นับนาฬิกาอะตอมที่ใช้ในห้องแล็ป ส่วนนาฬิกาออโตเมติก ระบบสั่นสะเทือนแล้วสะสมพลังงานไปผลักเข็ม แบบของหรู ของแพงทั้งหลาย เป็นระบบที่ไม่เที่ยงตรง เพราะคลาดเคลื่อนมากไม่ต่างกับนาฬิกาตามมีตามเกิด

แต่นาฬิกาออโตเมติกเลือกที่จะเอาจุดขายเรื่องอื่นมาทำตลาดคือ เป็นนาฬิกาที่เสถียรที่สุด  เพราะว่ามันทำงานได้อย่างน้อย 5 ปี ก่อนจะต้องส่งถึงมือช่างซ่อมบำรุง  ส่วนนาฬิกาควอตซ์ทำงานได้ประมาณ 2 ปีแล้วต้องส่งไปเปลี่ยนถ่านกับช่าง  อุปกรณ์ที่ห่างมือช่างได้นานกว่าก็ถือว่าเสถียรกว่านั่นเอง นาฬิกาในโลกนี้เลยมีจุดขาย2 อย่าง คือ เสถียร  กับ แม่นยำ  ต่างคนต่างมีตำแหน่งทางการตลาดของตัวเอง

อยากได้นาฬิกาที่เดินตรงให้ซื้อนาฬิการะบบควอตซ์ อยากได้นาฬิกาที่เดินได้ยาวนาน โอกาสเสียน้อยให้ซื้อนาฬิกาออโตเมติก แต่ต้องยอมรับกับการเดินไม่ตรงและต้องอาศัยกันตั้งเวลาเทียบกับโทรศัพท์มือถือแทบจะทุกวัน ส่วน smartwatch ก็เที่ยงตรงถ้าตั้งค่าให้ซิงค์กับโทรศัพท์ทุกวัน

ลดน้ำหนักง่ายๆแบบคนขี้เกียจ ตอนที่4 เตรียมของ

เรามาเริ่มต้นกันดีกว่า เวลาที่เหมาะที่สุดที่จะเริ่มลดน้ำหนักก็คือ เวลากินข้าวมื้อถัดไป เราสามารถเริ่มต้นการลดน้ำหนักได้ทันที ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเลย แต่เรามีสิ่งของบางอย่างที่ควรเตรียมเอาไว้เพื่อให้การลดน้ำหนักของเราเป็นไปอย่างต่อเนื่องและได้ผล เราควรจะมีสิ่งต่อไปนี้

2017-03-06_06-00-11

1 เครื่องชั่งน้ำหนัก จะเป็นเครื่องชั่งระบบเข็มหรือระบบดิจิทัลก็ได้ แต่แนะนำให้ใช้ระบบดิจิทัล โดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปซื้อเครื่องชั่งราคาแพง เราจะใช้เครื่องชั่งเพื่อชั่งน้ำหนักประจำวันเท่านั้น ซึ่งเครื่องชั่งที่มีขายทั่วไปก็ทำงานได้อย่างดี ส่วนเครื่องชั่งราคาแพง เครื่องชั่งไฮเทค เครื่องชั่งที่เชื่อมต่อกับ application ในมือถือก็แล้วแต่ศรัทธา แต่สำหรับผม ผมไม่ใช้ครับ มันเกินความจำเป็น และราคามันก็ไม่ถูก ส่วนเครื่องชั่งระดับหลายพันที่วัดค่ามวลกระดูกได้ แสดงผลค่า BMI ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ครับ เพราะเราจะลดน้ำหนักเท่านั้น ตัวเลขอื่นๆเป็นตัวเลขรบกวนจิตใจ แต่ถ้ามีเครื่องชั่งไฮเอนด์อยู่แล้วก็ใช้ได้ครับ ไม่ผิด

Watch Smart watch Calories นับก้าว

2 อุปกรณ์นับก้าว จะเป็นตัวนับในรูปแบบของสายรัดข้อมือ หรือ นาฬิกาไฮเทคอย่าง smartwatch ก็ได้ เลือกได้ตามกำลังเงิน ผมใช้ ipod nano รุ่นที่มีระบบนับก้าวแล้วซื้อสายข้อมือมาติดตัวมันเพื่อให้มันกลายเป็นนาฬิกา และตั้งให้นับก้าวตั้งแต่ตื่นนอนไปจนหมดวัน เดี๋ยวนี้มีอุปกรณ์สายรัดข้อมือราคาหลักร้อยให้ใช้ ก็น่าซื้อใช้เช่นกัน เราขอให้เป็นตัวที่สามารถนับก้าวและแสดงค่าแคลอรี่ที่เราเผาผลาญจากการเดินไปได้ก็พอ แล้วพวกโปรแกรมนับก้าวในโทรศัพท์มือถือล่ะ ใช้แทนได้ไหม ก็ขอบอกว่าไม่ได้ครับ เพราะมือถือไม่ได้ติดตัวเราไปตลอดเวลา ในระหว่างวันเราอาจวางมันไว้เฉยๆบนโต๊ะ ผู้ชายอาจจะมีมือถือติดตัวไปเกือบทั้งวัน แต่ผู้หญิงไม่มีใครหนีบมือถือไว้กับตัวตลอดเวลา

IMG_0879

3 กล้องถ่ายรูป เราใช้โทรศัพท์มือถือแทนได้ เดี๋ยวนี้มือถือถ่ายรูปได้หมดแล้ว เราจะใช้ถ่ายภาพตัวเลขบนเครื่องชั่งน้ำหนักในแต่ละวัน ใครไม่ถนัดถ่ายรูป จะใช้จดในสมุดก็ได้ ไม่ว่ากัน หากใครเลือกใช้การจด กล้องถ่ายรูปก็ไม่จำเป็น

IMG_0275

4 ขวดน้ำ ใส่น้ำเปล่า หรือกระติกน้ำ สิ่งนี้จำเป็นมาก ไม่มีไม่ได้ จะเป็นขวดน้ำพลาสติกที่กินแล้วเอามาเติมใช้ซ้ำก็ได้ ไม่มีอะไรเสียหาย ขอขวดขนาดประมาณ 600cc อย่าเล็กกว่านี้ อย่าใหญ่ระดับขวดลิตร เพราะเราจะพกขวดน้ำ ขวดนี้ควรอยู่ใกล้มือและมีน้ำเต็มตลอดเวลา

IMG_0284

5 กล่องข้าว กล่องพลาสติก เอาไว้ใส่ของที่กินเหลืออีกครึ่งหนึ่ง เพื่อเก็บไว้กินมือต่อไป ข้อนี้ไม่มีก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีจะเจ๋งและช่วยเราประหยัดเงินได้

IMG_b0218packaging

6 แก้วใส่กาแฟร้อน สำหรับคนชอบกาแฟ กาแฟร้อนจะอยู่กับเราในโต๊ะทำงาน โต๊ะกินข้าว และบนรถ ข้อนี้ไม่บังคับ มีก็ดีกว่าไม่มี แต่คนชอบกาแฟยังไงก็น่าจะมี ไม่ใช่เรื่องยาก

IMG_0186

7 หนังสติ๊ก เอาไว้รัดถุง รัดขนมถุงที่ฉีกแล้ว ได้ใช้แน่นอน รับรอง

ในขั้นตอนต่างๆที่เราจะลดน้ำหนัก เราจะพบเจอกับหลายเหตุการณ์ อุปกรณ์เหล่านี้จะมีบทบาทมากบ้างน้อยบ้าง แต่ได้ใช้ทุกชิ้น