เปลี่ยนหลอดไฟหน้า honda freed

หลายวันก่อนได้เห็นว่าไฟหน้าดับไปหนึ่งข้าง ไฟสูงยังติดอยู่ แต่ไฟหน้าต่ำไม่ติดแล้ว ก็เลยหาข้อมูลว่าฮอนด้าฟรีดใช้หลอดไฟรุ่นอะไร ก็ได้คำตอบว่ารุ่น H4 หาในเน็ตหลายที่ก็เจอแต่ราคาขายหลอดไฟ H4 แบบ LED ดูใน lazada ไม่เจอหลอดแบบธรรมดาเลย ในคลับฟรีดก็มีการแนะนำหลายครั้งว่าให้ใช้ LED ของฟิลิปส์ ราคาประมาณ 9xx บาท

IMG_20190506_153259
หลอดเก่าที่ขาดยี่ห้อ philips รุ่น H4 12342 LL 12v60/55w

ผมไม่ชอบ LED ที่ใช้ในรถยนต์ เพราะมีประสบการณ์แย่ๆมาว่าเคยลองเปลี่ยนไฟท้ายเป็น LED แล้ว อายุการใช้งานต่ำมาก ใช้ได้ไม่กี่วันก็พัง จนต้องไปหาหลอดไฟโบราณหรือหลอดไส้ปกติมาใช้ รอบนี้ก็เลยคิดแล้วว่าจะไม่ใช้ LED เลยหาข้อมูลว่ามีใครขายบ้างโดยไปหาใน marketplace ของเฟสบุ๊ค

วิธีการหาก็พิมพ์ว่า หลอดไฟ h4 แล้วก็ดูว่ามีใครขายแบบราคาถูกๆบ้าง ก็จะพบว่ามีราคาตั้งแต่ 100 บาท ไปถึง หลายร้อยบาท ราคาแพงก็เป็น LED ทั้งหมด ส่วนของถูกก็เป็นหลอดโบราณแน่นอน ผมเลือกภาพหลอดฟิลิปส์ และพิมพ์ภาพที่พบของฟิลิปส์ออกมา ให้ลูกน้องขี่มอเตอร์ไซด์ไปซื้อ ปรากฏว่ายี่ห้อนี้ไม่มี มีแต่ osram ราคาหลอดละ 90 บาท เลยให้ซื้อมา 2 หลอด

ดูวิธีเปลี่ยนในเน็ต ไม่มีตัวอย่างตรงกับฟรีด เจอใน youtube ที่เป็นการเปลี่ยนหลอดไฟ honda city 2015 ก็เดาว่าคงเหมือนกัน เลยจำวิธีแล้วจัดการเปลี่ยนเอง

IMG_20190506_153220

ไฟหน้าของฮอนด้าฟรีดข้างซ้ายและขวามีความยากในการเปลี่ยนไม่เหมือนกัน เพราะไฟขวาจะเปลี่ยนง่าย ไฟซ้ายจะเปลี่ยนยาก ผมนับซ้ายและขวาจากมุมมองคนขับนะ ไฟซ้ายมีอุปกรณ์อีกชิ้นหนึ่งบังไว้ แปลว่า มือที่ล้วงเข้าไปหยิบ ไปแกะ ไปจับสิ่งต่างๆต้องใช้ความรู้สึกทั้งหมดเลย เพราะมองเห็นเพียงน้อยนิด หลอดเก่าที่ขาดคือหลอดยี่ห้อ philips รุ่น H4 12342 LL 12v60/55w

IMG_20190506_153213

หลอดใหม่ที่ซื้อมาคือ Osram p43t64193472 12v 60/55w ตัวเลขจะเยอะไปไหน หลังจากล้วงๆแกะๆอยู่พักใหญ่ เหงื่อตกไปหลายหยด โชคดี ผมทำได้ จบการเปลี่ยนไฟหน้าด้วยดวงที่ดี ไม่มีชิ้นส่วนไหนที่แตกหักเสียหาย ไม่มีของทำเกิน สรุปว่า เปลี่ยนไฟหน้าฮอนด้าฟรีด ทำได้ด้วยตัวเอง และหลอดไฟยี่ห้อ osram H4 ราคาหลอดละ 90 บาท ซื้อจากร้านข้างถนน

ปล ควรเตรียมไฟฉายไว้ด้วย เพราะพื้นที่ในห้องเครื่องมืด มองยาก ไฟฉายที่ฉายลงไปยังจุดที่ต้องทำงานเป็นสิ่งจำเป็น

ทดสอบความสว่าง led 6 หลอด

DSC_2449

ไปซือหลอดไฟ led ของ Philips มา 6 หลอด มีค่าความสว่างตั้งแต่ 3 วัตต์ ไปถึง 14 วัตต์ เลยเอามาใส่กับโคมดาวน์ไลท์ในห้องน้ำเพื่อเปรียบเทียบความสว่าง โดยจะใช้กล้องถ่ายรูปเป็นตัวช่วยบันทึกภาพ ปรับกล้องให้มีค่าความไวประมาณ iso800 โหมดกล้องปรับเป็น M ใช้สปีดชัตเตอร์ 1/50 วินาที รูรับแสง f2.8 แล้วถ่ายภาพทุกภาพด้วยค่านี้ทั้งหมด

DSC_2442
ภาพแรกเป็นไฟจากหลอดประหยัดไฟหลอดเดิมในห้องน้ำ ตัวเลขกำลังวัตต์ที่หลอดเขียนไว้ว่า 18 วัตต์

ภาพต่อมาเรียงลำดับจากหลอดไฟของ Philips เรียงลำดับจากน้อยไปมาก เริ่มจากหลอด 3 วัตต์ ตามมาด้วย 4 7 9 12.5 14 วัตต์ตามลำดับ

DSC_2443
DSC_2444
DSC_2445
DSC_2446
DSC_2447
DSC_2448

ราคาหลอด ณ วันที่ซื้อ 20jul2014 จากร้านบุญถาวร คือ
3 วัตต์ ราคา 169 บาท
4 วัตต์ ราคา 179 บาท
7 วัตต์ ราคา 209 บาท
9 วัตต์ ราคา 259 บาท
12.5 วัตต์ ราคา 369 บาท
14 วัตต์ ราคา 399 บาท

การเลือกหลอดไฟไม่สามารถเอามาคิดในแง่ความประหยัดต่อวัตต์ได้ เราอยากจะจ่ายน้อยที่สุดเท่าที่เราจำเป็นต้องจ่าย เทียบกับรถยนต์ก็เหมือนเลือกรถที่มีถังน้ำมันเล็กหรือใหญ่ เราอยากได้แค่ขับไปเชียงใหม่ถังเดียว ไม่ต้องแวะเติมกลางทาง ถ้าถังเล็กเกินไปก็ไปไม่ถึง ถังใหญ่เกินไปก็แพงโดยเปล่าประโยชน์ เราอยากได้ถังแค่กลางๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องซื้อถังใหญ่ที่สุด เพราะถังใหญ่สุดมันแพงที่สุด หลอดไฟก็เหมือนกัน เราไม่จำเป็นต้องหากำลังวัตต์ต่อบาท หรือ บาทต่อกำลังวัตต์ แต่เราอยากจะรู้แค่ว่า หลอดไหนที่ให้ความสว่างพอใช้และราคาต่ำสุด ซึ่งคำตอบมันจะไม่ใช่หลอดถูกสุด และหลอดแพงที่สุดอยู่แล้ว แต่หลอดตรงกลางๆนั่นแหละที่จะเป็นคำตอบ ซึ่งในการทดลอง หลอด 9 วัตต์ดูจะเป็นหลอดที่ให้แสงสว่างที่มีคุณภาพตรงความต้องการ โดยวัดจากการมองเห็นสีขาว สีดำ สีน้ำเงินที่แยกสีได้ชัดเจนและให้ความถูกต้องของสีเพียงพอ หลอดสว่างกว่านี้ก็จะให้แสงเยอะกว่านี้ แต่การแยกแยะสีสันก็ไม่ได้ดีขึ้นแล้ว ก็เลยจะสรุปได้ว่าหลอด 9 วัตต์ให้แสงที่มากพอจะแยกแยะสีต่างๆได้ถูกต้อง ในระยะการใช้งานห้องปกติ เพดานสูง 2.5 เมตร และแสงสว่างที่ใช้มองระดับอ่างล้างมือ