รีวิวกล้อง nikon v1 กล้องตกรุ่นน่าใช้

รีวิวกล้อง Nikon v1
กล้อง Nikon v1 เป็นกล้องที่ออกสู่ตลาดเมื่อปลายปี คศ 2011 นับถึงวันที่ผมนำมาเขียนมันก็ผ่านมาสองปีกว่า ตกรุ่นไปสองครั้งแล้ว เพราะในปัจจุบันมีกล้อง Nikon v2 และ v3 เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังมีมุมน่าสนใจคือ ยังคงมีกล้องรุ่น v1 วางขายในราคาเคลียร์แล้นด้วยเช่นกัน

v1 เป็นกล้องที่เรียกว่ากล้อง mirrorless หรือกล้องไร้กระจก ซึ่งผมออกจะแปลกใจเล็กน้อยที่ศัพท์คำนี้เป็นศัพท์ยอดฮิต เป็นตัวแทนของกล้องรุ่นใหม่ไปเสียได้อย่างหน้าตาเฉย ทั้งที่โลกของเรามีกล้องถ่ายรูประดับโฮมยูสมาเกือบร้อยปี กล้องตัวแรกๆของโลกก็เป็นกล้องแบบ mirrorless เหมือนกัน แต่ตอนนั้นยังไม่มีใครบัญญัติศัพท์ให้เท่านั้นเอง คงเป็นเพราะกล้องระบบ SLR หรือ Single len reflex เป็นกล้องที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามมาตลอดหลายสิบปี เป็นกล้องที่มีกลไกของกระจกสะท้อนภาพที่บังหน่วยรับภาพอยู่ การเอากระจกชิ้นนี้ออกก็เลยดูเหมือนเป็นการปฏิวัติการออกแบบ ซึ่งจริงๆแล้วเป็นการถอยกลับไปสู่ระบบดั้งเดิมมากกว่า

ผมรู้จักกับ v1 มานานตั้งแต่ที่มันมีการเปิดตัว ติดตามข่าวสารและคำวิจารณ์มาโดยตลอด และมีสิ่งที่เป็นความเชื่อฝังใจส่วนตัวอยู่ว่า กล้อง mirrorless เป็นกล้องที่ยังไม่สุกงอม ยังขาดโน่น ขาดนี่อีกหลายอย่าง ยิ่งผมใช้งานกล้องรุ่นที่ใช้เซ็นเซอร์ fullframe มาตลอดหลายปียิ่งทำให้การแบ่งวรรณะในความคิดผมชัดเจนมาก กล้อง mirrorless ที่เกิดมาก่อน Nikon v1 เป็นกล้องที่ทำงานช้า โฟกัสช้า มี noise มหาศาล mirrorless มีภาพลักษณ์เหมือนเอากล้องคอมแพ็คราคาถูกมาถอดแยกเลนส์ออกจากบอดี้ แล้วจัดชุดขาย โปรโมทว่าเปลี่ยนเลนส์ได้ คุณภาพที่มีจะอยู่ในระดับสมัครเล่น

Untitled
ภาพจาก Fuji x100 ตอนลูกหลับ

ผมใช้กล้อง fullframe มาหลายปี จนกระทั่่งมีลูก แรกๆก็ยังใช้กล้อง Dslr ถ่ายภาพได้อย่างภาคภูมิใจ มีนอกใจไปซื้อกล้องคอมแพ็คตัวอื่นอย่าง fuji x100 มาใช้บ้าง ซึ่ง x100 เป็นกล้องที่ให้ภาพสวย โฟกัสไม่เร็ว แต่มันไม่เป็นปัญหากับผม จนกระทั่งวันหนึ่งที่ลูกเริ่มวิ่งได้ เด็กน้อยน่ารักที่เคยนอนนิ่ง นั่งนิ่งๆกลายเป็นลิงแสนซน Fuji x100 ไม่สามารถจะถ่ายภาพลิงน้อยได้อีกเพราะลูกของผมมันวิ่งเร็วกว่าความเร็วในการโฟกัส ส่วนกล้องโปร fullframe ของผม ก็ยังห้าสิบห้าสิบ คือบางทีก็โฟกัสทัน บางทีก็โฟกัสไม่ทัน ถ้าโฟกัสกลางภาพแล้วขยับกล้องจัดองค์ประกอบ ลูกก็หายไปจากช่องมองภาพแล้ว นี่คือจุดเริ่มต้นของปัญหา คือ กล้องที่มีอยู่ถ่ายภาพลูกไม่ทัน

IMG_0179
ภาพจาก eos6d เลนส์ 24-105f4 โฟกัสไม่ทัน

การถ่ายภาพเด็กเป็นเรื่องยากมาก ยากกว่าการถ่ายสัตว์เลี้ยง และยากกว่าการถ่ายภาพนกบินเสียอีก ภาพนกนางนวลที่บางปูผมยังสามารถเก็บภาพได้พอสมควร ไม่ว่านกจะบินเร็วแค่ไหน เพราะว่าเราคาดเดาทิศทางการบินของมันได้ สัตว์เลี้ยงก็เดาได้ มันมีจังหวะที่นิ่งให้เราถ่ายได้ไม่ยาก แต่กับเด็กซนๆคนหนึ่งนั้นจะมีความยากคนละเรื่องเลย ระดับความยากผมถือว่ายากที่สุด

IMG_0124
ภาพจาก eos6d เลนส์ 24-105f4 ภาพนี้อาศัยมุมกว้าง และเลือกโฟกัสตรงกลางเพื่อเก็บให้ทัน

ผมเริ่มอยากได้กล้องตัวใหม่ที่จะใช้ถ่ายลูกตัวเองได้ วิเคราะห์แล้วมันก็คงเป็นกล้องคอมแพ็คที่มีความเร็วสูง หยิบใช้ง่าย ถ้า x100 ถูกพัฒนาให้โฟกัสได้เร็วมากๆผมก็คงไม่ต้องซื้ออะไรใหม่ แต่มันก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น และในช่วงเวลาเดียวกันนี้ก็มีกล้อง mirrorless ที่พัฒนากันมาอย่างเต็มที่จนกระทั่งมันเร็วพอ เร็วพอที่จะต่อกรกับกล้อง dslr นั่นคือกล้องของ olympus รุ่น omd-em5 และมันก็เป็นมาตรฐานใหม่ของกล้อง mirrorless ที่มีความเร็วสูง สามารถโฟกัสได้ทันอกทันใจ ซ้ำยังสามารถแตะหน้าจอเพื่อทำการโฟกัสได้ด้วย แตะแล้วโฟกัสแล้วสั่งให้ถ่ายภาพได้เลย มันเป็นความแปลกใหม่ที่แสนสะดวกสบาย มันเร็วจนผมอยากได้ และมันก็เป็นที่มาของการค้นคว้าหาข้อมูลของ Nikon v1 ออกมาอ่านใหม่อีกรอบ

gib-wedding-24nov201-IMG_0074-Full
อีกภาพที่โฟกัสไม่ทัน eos6d เลนส์ 24-105 f4

ช่างภาพส่วนใหญ่ทั่วโลกส่ายหัวให้กับ Nikon v1 ทันทีที่มันเปิดตัว เพราะมันเป็นกล้องเซ็นเซอร์เล็กมากเมื่อเทียบกับกล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ตัวอื่นๆ ความเล็กของเซ็นเซอร์ทำให้มันไม่สามารถให้ภาพชัดตื้นหลังละลายได้เหมือนกล้องเซ็นเซอร์ใหญ่ ช่างภาพส่วนใหญ่ที่มีธงอยู่ในใจว่าจะใช้กล้องโปร fullframe ก็เลยไม่ชอบ อ่านไปอ่านมาจากหลายๆเว็บมันมีข้อเสียแค่ข้อนี้ข้อเดียวจริงๆ ที่เหลือคือข้อดี คือการพัฒนา คือการยกระดับ คือการวางมาตรฐานใหม่ คืออะไรหลายอย่างๆที่กล้องในอุดมคติควรจะมี

DSC_4768
Nikon v1 กับสภาพแสงปกติ ให้ภาพที่ดีน่าพอใจ

การโฟกัสภาพได้ทั้งจอภาพในขณะที่ความเร็วในการโฟกัสยังสูงอยู่ เป็นสิ่งที่ dslr ไม่มี การโฟกัสใบหน้าที่กล้องคอมแพ็คและกล้องในโทรศัพท์มือถือทำได้ดีก็สามารถทำได้ดีมากๆใน v1 ซึ่ง dslr ก็ทำไม่ได้เช่นกัน แค่สองอย่างนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้รูปถ่ายของลิงน้อยของผมโฟกัสชัดตลอดเวลา รวมไปถึงลูกเล่นการถ่ายภาพได้ต่อเนื่องระดับ 60 ภาพต่อวินาทีแล้วบันทึกเป็นภาพให้เราเลือก 5 ภาพ ก็เป็นการการันตีได้เลยว่าเราจะได้ภาพที่ใช้งานได้ ไม่ใช่ว่าโฟกัสชัดแล้วดันเก็บภาพจังหวะลูกหลับตาพอดี การได้มา 5 ภาพ ยังไงก็ต้องมีภาพที่ลืมตาแน่ๆ

2014-03-19-white-v1-DSC_0327
2014-03-19-white-v1-DSC_0326
2014-03-19-white-v1-DSC_0325
2014-03-19-white-v1-DSC_0324
2014-03-19-white-v1-DSC_0323
ห้าภาพที่ได้จากการถ่ายครั้งเดียว แต่ละภาพจะห่างกันเสี้ยววินาที สังเกตที่ปากจะแตกต่างกัน

ในส่วนของการถ่ายวิดีโอก็ดูเหมือนจะเป็นจุดเด่นที่ช่างภาพหลายคนไม่เคยสนใจ อาจจะเพราะไม่เคยคิดว่าจะใช้กล้องถ่ายภาพมาถ่ายวิดีโอก็ได้ อาจจะด้วยความเชื่อเก่าๆ ความเชื่อจากประสบการณ์เก่าๆ ซึ่งความสามารถในการถ่ายวิดีโอของ v1 ต้องยกนิ้วให้ เพราะมันทำหน้าที่ได้ดีกว่า dslr ที่เกิดมาก่อนมันทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นความสามารถแบบมาตรฐานที่ถ่ายวิดีโอระดับ full hd ได้ มันยังถ่ายได้ถึงระดับ 1080i 60 เฟรมต่อวินาทีด้วย และระหว่างถ่ายวิดีโอยังสามารถกดเพื่อเก็บภาพนิ่งได้เต็มความละเอียดของเซ็นเซอร์เสียอีก และยังเพิ่มลูกเล่นการถ่ายภาพสโลโมชั่นเท่ห์ๆระดับ 400 ภาพต่อวินาที และสูงได้ถึง 1200 ภาพต่อวินาที ลูกเล่นเหล่านี้กล้อง dslr ตัวละหลายแสนยังทำไม่ได้เลย


ภาพโยนลูกกอล์ฟแบบสโลโมชั่น 400fps

ผู้ออกแบบกล้อง Nikon v1 น่าจะคิดไว้แล้วว่าจะต้องมีคนเอา v1 ไปถ่ายวิดีโอด้วย เลยเพิ่มความสามารถต่างๆด้านวิดีโอเข้าไป รวมไปถึงการพัฒนา accessory ต่างๆที่ออกมารองรับการทำงานด้านวิดีโอ เห็นได้จากพอร์ตอเนกประสงค์ที่ติดอยู่บนตัวกล้องจะเป็นพอร์ตที่ทำได้หลายหน้าที่ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเอาอุปกรณ์อะไรมาติด มันสามารถติดไฟส่องสว่างแทนสปอร์ตไลท็ มันสามารถติดไมโครโฟน พร้อมมีรูเสียบสาย mic ในตัวบอดี้โดยตรง สามารถติดตัวรับสัญญาณ gps ได้ ถ่ายภาพแล้วจะได้มีตำแหน่งบันทึกเอาไว้ เพราะซอร์ฟแวร์การจัดการภาพสมัยใหม่ล้วนแต่สามารถจัดหมวดหมู่โดยอาศัยตำแหน่งละติจูดและลองติจูดได้แล้ว

2014-03-19-white-v1-DSC_0340

จุดเด่นของระบบ nikon1 ก็คือ เป็นระบบที่ใช้เซ็นเซอร์เล็กกว่าทุกระบบในกล้องที่เปลี่ยนเลนส์ได้ยกเว้นแต่ระบบของ pentax q เท่านั้นที่ใช้เซ็นเซอร์เล็กกว่า ซึ่งการใช้หน่วยรับภาพขนาดเล็กมีผลทำให้ระบบเลนส์ก็สามารถลดขนาดลงไปได้อีกมาก เลนส์ฟิกส์ติดกล้องในระบบของ nikon1 ถือว่ามีความเล็กมาก น้ำหนักก็เบาด้วยเช่นกัน กล้องอย่าง Nikon v1 พร้อมเลนส์ 10f2.8 ก็เป็นชุดคู่ขวัญที่มีขนาดเล็ก สามารถเลือกใช้เคสหรือกระเป๋ากล้องเล็กๆได้อย่างสบายใจ

2014-03-19-white-v1-DSC_0158

ภาพที่ได้จากเลนส์เล็กๆรุ่นใหม่เหล่านี้ให้ภาพที่ใสได้อย่างน่าตื่นเต้น เพราะราคาค่าตัวของเลนส์ก็ไม่ได้แพง เพียงแค่ไม่กี่พันก็ซื้อเลนส์ตัวใหม่ได้แล้ว ระบบของ nikon1 เปิดโอกาสให้ผู้ซื้อสามารถเป็นเจ้าของกล้องคุณภาพดี พร้อมเลนส์คุณภาพดี ได้ในราคาประหยัด ซึ่งมีเพียงข้อด้อยคือทำระยะชัดตื้นได้ไม่ดีเท่ากล้องเซนเซอร์ใหญ่ แต่ถ้าแข่งกันถ่ายชัด ถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ ผมเชื่อว่าเอาภาพสองภาพจากกล้อง nikon v1 วางเทียบกับกล้องโปรเซนเซอร์ใหญ่ตัวละแสน ผมว่ามีคนดูไม่ออกแน่นอนว่าภาพไหนจากกล้องตัวเล็ก ภาพไหนจากกล้องตัวใหญ่

2014-03-19-white-v1-DSC_0162

ข้อมูลทางเทคนิค ข้อมูลตัวเลขต่างๆจะขอข้ามไปไม่พูดถึง เพราะผมมีนิสัยไม่สนใจตัวเลขเหล่านี้ ช่วงสิบปีหลังมานี้ เวลาจะหากล้องใช้จะไม่ได้ดูเรื่องตัวเลขอีกแล้ว จะถามคำถามเพียงไม่กี่ข้อคือ มันโฟกัสได้เร็วหรือช้าเมื่อเทียบกับกล้องตัวเก่าที่ผมมี มันต่ออุปกรณ์ภายนอกเพิ่มเติมได้ไหม มีแฟรชในตัวไหม ต่อแฟรชเพิ่มได้ไหม แบตเตอรี่ติดกล้องมาถ่ายภาพได้เกินห้าร้อยภาพไหม ถ้ามันเปลี่ยนเลนส์ได้ เลนส์ตัวอื่นๆมีเลนส์อะไรให้เลือกบ้าง ราคาถูกหรือแพง ในกล้องตัวใหม่จะทำให้เราจะถ่ายภาพลักษณะไหนได้เพิ่มเติมซึ่งทำไม่ได้จากกล้องตัวเก่า คำถามเหล่านี้จะให้คำตอบว่า เราควรซื้อหรือไม่

รีวิวกล้อง nikon v1 กล้องตกรุ่นน่าใช้ ตอนที่ 2



สถานีช่องนนทรี

Untitled by pockethifi
Untitled, a photo by pockethifi on Flickr.

วันนี้ผมไปติดต่อลูกค้า เลือกใช้รถไฟฟ้าแทนการขับรถไปเอง เพราะกรุงเทพรถติดสาหัส ไม่ลืมที่จะพกกล้องที่เพิ่งได้มาใหม่ติดตัวมาได้ Nikon v1 พร้อมเลนส์ 10mm f2.8 ที่รวมร่างกันแล้วใหญ่แค่กล้องคอมแพ็คราคาถูกๆทั่วไป

ครั้งนี้ผมไปยืนถ่ายมุมมหาชนมุมหนึ่งที่ผมมักจะใช้ลองกล้องอยู่บ่อยๆ มุมนี้ถ่ายมาตั้งแต่ยุคของฟิล์ม มีกล้องดิจิทัลกี่ตัวก็ผ่านมุมนี้มาแล้วทุุกตัว

เรื่องคุณภาพของภาพไม่ได้มีสาระ เพราะกล้องที่ออกมาทีหลังย่อมมีคุณภาพสูงกว่ากล้องเมื่อหลายปีก่อนเสมอ แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ วันนี้ยามไม่มาไล่ผม ไม่มาแจ้งว่าห้ามถ่ายภาพ เหมือนในครั้งก่อนๆที่เคยสะพายกล้องตัวใหญ่ๆดูเอิกเกริกมาถ่าย วันนี้ผมสังเกตุเห็นเพียงแค่ยามเดินมาดููผมแล้วก็เดินจากไป ผมถ่ายภาพเสร็จก็หันกลับมา เห็นหลังคุณยามค่อยๆเดินห่างออกไป คงมาดูแล้วว่าผมเป็นนักท่องเที่ยวมากกว่าจะเป็นช่างภาพที่ยามมักจะเกลียดโดยสัญชาตญาณ ดังเช่นหมาเกลียดคนส่งไปรษณีย์

PDSC0045
ภาพจากกล้อง polaroid z340

000018
neg-bangkok2004-000019
neg-bangkok2004-000020
neg-bangkok2004-000027
ภาพจากฟิล์ม fuji กล้อง canon eos50 lens sigma 24-70 f2.8

อุปกรณ์เก่าเก็บไม่ค่อยได้ใช้

ตั้งแต่หัดถ่ายรูปมา ตอนนี้ก็ครบสิบปีแล้ว มีของที่ทะยอยซื้อหลายชิ้น บางอย่างก็พังไปแล้ว บางอย่างมีขายออกไปบ้าง ตอนนี้ก็เลยเอามาถ่ายภาพเก็บเป็นข้อมูลไว้ เพราะตั้งใจจะทะยอยขายออกไปเหมือนกัน


ตะแกรงล้างฟิล์ม และแท้งค์ล้างฟิล์ม เป็นของคู่บุญกับงานขาวดำ ใครจะถ่ายภาพขาวดำต้องทำเอง ต้องล้างเอง อุปกรณ์พวกนี้เป็นของจำเป็นไม่แพ้กล้องและเลนส์


เลนส์ sigma 24-70 f2.8 เป็นเลนส์ซูมระยะ 24-70 รุ่นแรกของโลก ออกมาก่อนยี่ห้อหลักเสียอีก เป็นเลนส์ที่ได้มือสองมา เคยซ่อมไปครั้งหนึ่ง ถึงทุกวันนี้มันทำเงินได้เกินค่าตัวไปหลายสิบเท่าแล้ว มันเป็นกำลังหลักของการรับงานของผมในสมััยที่ยังใช้ฟิล์มถ่ายภาพอยู่ พอเป็นยุคดิจิทัลก็ไม่ค่อยได้ใช้อีกเลย


เลนส์ซูม 35-70 f3.3-4.5 nikon เป็นเลนส์ซูมตัวเล็กคุณภาพสูง เลนส์ตัวนี้ซื้อมาพร้อมกล้อง สมัยน้องชายเริ่มเรียนถ่ายภาพ ผมพาน้องไปซื้อที่มาบุญครองเอง ตอนซื้อ กล้องหมื่นสอง เลนส์ตัวนี้หกพัน ยุคนั้นไม่มีกล้องดิจิทัล ผ่านมาถึงวันนี้ กล้องฟิล์มแทบจะเลิกใช้ไปแล้ว ทุกวันนี้ก็จับคู่กับกล้องฟิล์มตัวเดิม นานๆเอาออกมาใช้สักที สเป็คเลนส์ตัวนี้จะมีคล้ายๆกันหลายตัว บางตัวเป็นบอดี้พลาสติกน้ำหนักเบา ตัวที่ผมมีอยู่เป็นเหล็กค่อนข้างหนัก เรียกว่าเป็นของดีก็พอได้แหละ เวลาติดอยู่บนตัวกล้องแล้วก็ดูดีเหมือนกัน


แฟลช vivitar เป็นแฟลชยี่ห้ออิสระ ออกแบบมาให้ใช้กับกล้องได้ทุกยี่ห้อ เป็นแฟลชระบบแมน่วล และมีอ้อโต้สองระดับ เวลาจะใช้ต้องคำนวณระยะทาง ความไว รูรับแสงควบคู่กัน กว่าจะได้ค่าแสงที่พอดีต้องคิดเยอะมาก แต่สมัยใหม่มีแฟลชระบบไฮเทคที่ช่วยให้การใช้แฟลชง่ายกว่าเดิม แต่ก็ยังไม่ได้ระดับแสงที่ต้องการจริงๆเท่ากับระบบแมน่วล การใช้งานแฟลชเป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้ และต้องใช้เวลามากกว่าการหัดใช้กล้องเสียอีก ไม่ว่าจะเป็นแฟลชกระจอกระดับไหนก็ตาม ทักษะการใช้แฟลชเป็นเรื่องที่ต้องฝึกฝน หนังสือเกี่ยวกับการใช้งานแฟลชหายากมาก หนังสือที่ดีที่สุดที่ผมเคยอ่านตอนนี้ไม่สามารถหาซื้อได้แล้ว จากวันที่เริ่มเรียนรู้แฟลชจนผ่านมาสิบปี ไม่มีหนังสือเกี่ยวกับแฟลชที่ดีให้เห็นอีกเลย ไม่รู้ว่าเพราะไม่มีคนคิดจะเขียน หรือ เป็นเพราะไม่มีใครอยากอ่านเลยไม่มีใครอยากจะเขียน


เลนส์ nikon 135 f2.8 เป็นเลนส์แมน่วลเทเลโฟโต้ราคาประหยัด คุณภาพดีมาก ได้มือสองมาจากร้านแถวเจริญกรุง ใช้กับฟิล์มได้สนุกมาก อารมณ์ถ่ายภาพด้วยฟิล์มเป็นอารมณ์ที่หาทดแทนไม่ได้จากระบบดิจิทัล การได้เลนส์และฟิล์มดีๆจะทำให้ภาพออกมาดีเลิศเลอน่าหลงไหล เลนส์ตัวนี้ให้ภาพสวยที่สุดเท่าที่กล้องแมน่วลจะมีให้ได้ ของที่ดีกว่านี้ก็มี แต่ว่าราคามันก็จะสูงขึ้นมาหลายเท่า ถ้าจำกัดงบ เลนสตัวนี้จะกลายเป็นเดอะเบสท์ และด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่โต สามารถใช้กระเป๋ากล้องสำหรับ SLR แบบที่เล็กที่สุดได้ไม่มีปัญหา

Pro application need Pro Machine ภาค 1

ผมนึกถึงคำพูดนี้ขึ้นมา เพราะว่าชีวิตผมเริ่มต้องทำงานแบบโปรเฟสชั่นนัลเสียที  ในสมัยที่ยังหาเงินได้ไม่เยอะ  จะซื้อจะหาอะไรมาเล่นหรือใช้งาน ก็มักจะหาของถูก  ของลดราคา หรือแม้แต่ของตกรุ่นมาใช้  ผลก็คือผมมีของใช้งานจริงตามที่ตั้งใจ  แต่ก็แลกมากับข้อจำกัดบางอย่างที่เราก็รู้อยู่แก่ใจ  ถ้าพ่อเป็นนักการเมืองผมก็คงจะเลือกใช้ของที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องสนใจเรื่องตัวเงิน  แต่ว่าชีวิตจริงไม่ได้เป็นแบบนั้น  เงินที่มีอยู่จำกัด เลยต้องใช้แบบจำกัด  เลยต้องพยายามใช้ของถูกเข้าไว้  เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่สาระสำคัญของชีวิตในวันที่ผ่านมา  เพราะผมใช้ของเหล่านั้นเพื่อความเพลิดเพลิน  แต่ระยะหลังงานอดิเรกหลายอย่างสามารถเปลี่ยนเป็นรายรับได้  เลยทำให้เริ่มอยากทำอะไรมากขึ้น เริ่มไปถึงข้อจำกัด และสุดท้ายอยากก้าวให้พ้นข้อจำกัดของถูก หรือ ของที่ยังไม่โปรเฟสชันนัลเสียที

IMG_9021

 

เครื่องเล่นเพลงต่างๆที่ผมเคยใช้มา  สมัยเด็กๆ  ผมใช้เครื่องเล่นซีดีที่ราคาต่ำที่สุดในท้องตลาด เครื่องขยายเสียงหรือแอมป์ก็รุ่นเล็ก  แค่ได้ใช้งานแผ่นซีดีเพลงก็รู้สึกยอดเยี่ยมแล้ว  รู้ว่ามีของราคาแพงกว่านี้เป็นสิบเป็นร้อยเท่า แต่ผมก็พอใจกับเครื่องเล่นซีดีที่ผมพยายามเก็บเงินซื้อ และทนใช้จนเรียนจบ  วันที่ผมเริ่มเที่ยวเล่นไปตระเวณฟัง  ไปดูการทำงานในห้องบันทึกเสียง ผมก็เริ่มจะเข้าใจว่าเสียงที่ดีกว่าเครื่องเล่นซีดีถูกๆของผมนั้นเป็นอย่างไร  ผมฟังออกรับรู้ทุกอย่าง  แต่ก็ทำใจบอกว่า เราไม่จำเป็นต้องใช้ขนาดนั้น  ทำไมเครื่องเล่นซีดีในห้องบันทึกเสียงถึงต้องแพงเหยียบแสน  เครื่องเล่นซีดีของนักทดสอบเครื่องเสียงหลายๆคนราคาแพงอย่างไม่น่าเชื่อ  สิ่งที่แตกต่างก็คือมันให้เสียงที่ดีกว่า  ตอบสนองย่านความถี่กว้างกว่า  ให้เสียงที่ชัดกว่า  ผมถามตัวเองว่าแล้วมันมีประโยชน์กับเราไหม  ผมมีคำตอบให้ตัวเองว่า เราฟังเพื่อความเพลิดเพลิน  ไม่ได้ฟังเพื่อวิจารณ์ทดสอบ เราไม่ต้องใช้ขนาดนั้นก็ได้  แต่ถ้าวันหนึ่งที่ผมจะต้องวิจารณ์เครื่อง หรือวิจารณ์เพลง  ผมก็คงจะเลือกซื้อเครื่องแพงๆเหล่านั้นเอาไว้ใช้เป็น “เครื่องมือ” สำหรับทำงาน  โชคดีที่วันนี้ผมยังไม่ต้องวิจารณ์เครื่องเสียง

IMG_1378

 

กล้องถ่ายรูปก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ชัดเจนที่สุด  ผมหัดถ่ายภาพด้วยกล้องราคาประหยัด ฟังค์ชั่นพอใช้ได้  และเลือกใช้เลนส์อเนกประสงค์  คุณภาพเป็นอย่างไรช่างมัน  เอาซูมช่วงกว้างเยอะๆเข้าไว้  จะถ่ายอะไรก็สามารถเลือกซูมภาพได้ตามใจ  ผมเลือกใช้เลนส์ช่วงซูม 28-200 ยี่ห้อแทมรอน  เป็นเลนส์ที่ผมเรียนรู้หลักการถ่ายภาพและเที่ยวเล่นไปพร้อมๆกัน  มันทำงานให้ผมได้ตรงตามความต้องการ  คือจะถ่ายมุมกว้างก็ได้  ถ่ายซูมใกล้ๆก็ได้  สิ่งที่ผมรู้ในวันนั้นก็คือ  ไม่เห็นจะต้องใช้ของแพงเลย  เลนส์ที่แพงกว่าผมห้าเท่า  แต่ซูมแคบกว่ามากๆ ไม่เห็นจำเป็นเลย  สองปีผ่านไปเลนส์อเนกประสงค์ของผมก็เริ่มมีอาการรวน และสุดท้ายมันเสียหายไม่สามารถใช้การได้  มันอาจจะเป็นเรื่องปกติที่จะมีของเสียหาย  รวมไปถึงกล้องถ่ายภาพที่เริ่มรวนบ่อยขึ้นเรื่อยๆ  ซึ่งเป็นเพราะผมใช้งานมันอย่างหนัก  ปีแรกเอาไว้หัดถ่าย ปีที่สองเป็นต้นมาผมเริ่มรับจ้างถ่ายภาพ

_MG_6346

 

สองปีผ่านไปกล้องกลับเลนส์ทำงานหนักมาก จนในที่สุดก็เสีย  และมันดันเสียวันที่ผมกำลังรับจ้างทำงาน  นาทีนั้นถ้าเสกได้  ผมจะเสกกล้องกับเลนส์รุ่นท๊อปมาใช้เลย  โดยเหตุผลประการเดียวคือความทนทาน   ซึ่งมันหมายถึงผมไว้ใจมันได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นว่ามันสามารถอยู่กับผมจนงานจบ  นั่นทำให้ผมเริ่มเข้าใจช่างภาพอาชีพที่เขาใช้ของระดับโปร ราคาสูงกว่าผม  กล้องของเขาไว้ใจได้ว่าทนกว่ากล้องระดับสมัครเล่น  เลนส์ของเขาแต่ละคนมีอายุไม่น้อย บางคนห้าปี  บางคนสิบปี  แต่ผมกลับต้องทิ้งเลนส์ตัวเองในปีที่สามเท่านั้น  ผมต้องซื้อกล้องตัวใหม่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งตัว  ซื้อเลนส์ตัวใหม่อีกหนึ่งตัว  ซึ่งผมดันคิดงกกับตัวเองคือไม่ยอมซื้อเลนส์แพงๆเกรดดีมาใช้  อีกปีต่อมาผมก็ต้องทิ้งเลนส์แล้วซื้อตัวใหม่อีกเหมือนเดิม  แบบนี้เขาเรียกว่าเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย

_MG_2847

 

ในที่สุดวันหนึ่งที่ผมต้องซื้อเลนส์อีกครั้ง  ผมเลือกซื้อเลนส์เกรดโปรราคาแพงที่สุดที่ผมเอื้อมถึง  แล้วมันก็ทำงานให้ผมได้อย่างยอดเยี่ยม  คุณภาพดีกว่าเลนส์ราคาถูกอย่างไม่ต้องเทียบ  ภาพสวยจากเลนส์แพงๆมันเป็นอย่างไรผมก็ได้สัมผัส  และสิ่งที่ตามมามากกว่านั้นคือมันไว้ใจได้ มันทนมาก  หยิบออกมาใช้งานผมไม่เคยต้องกังวลว่ามันจะมีปัญหาอะไร  สามปีผ่านไปมันยังทำงานได้เหมือนวันแรก  ไม่มีอาการโทรมให้เห็นเลย  เป็นกรณีตัวอย่างที่ดีสำหรับผม  ทำให้ผมมั่นใจว่าคิดไม่ผิด

IMG_20170408_100658

 

ในงานถ่ายภาพ นอกจากเลนส์ก็มี แฟรชอีกตัวหนึ่งที่เข้าข่ายเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่ายเหมือนกัน  ผมเริ่มต้นด้วยของถูก  ถูกมากๆ  แล้วมันก็เสียบ้าง  ไม่สามารถใช้งานได้ในบางสถานการณ์บ้าง  คุณภาพที่ได้จากแฟรชก็ไม่ดีเท่าของเกรดโปร  ลูกเล่นและความสามารถพิเศษที่สามารถเนรมิตภาพได้ทันจินตนาการก็ต่ำตามงบประมาณ  ผมใช้ของถูกหลายตัว  เพราะมันทำบางอย่างไม่ได้ เลยต้องมีหลายตัว  สุดท้ายผมซื้อของถูกรวมๆกันใช้เงินแพงกว่าซื้อของดีแค่ตัวเดียว  วันดีคืนดี  แฟรชที่ใช้งานอยู่เกิดเสีย  ตัวอื่นๆที่มีอยู่ก็ไม่มีฟังค์ชั่นที่ผมต้องการใช้  หมายความว่าผมไม่มีแฟรชสำรองให้ใช้เลย  วันนั้นผมต้องถ่ายรูปงานรับปริญญาของลูกค้าคนหนึ่ง  ผมคงจะไม่หงุดหงิดสักเท่าไรถ้าลูกค้าคนนั้นไม่ใช่อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  แม้เขาจะเป็นคนธรรมดา แต่ในใจผมก็อยากจะมีผลงานที่ผมถ่ายคนดังเก็บไว้  แฟรชเสียขณะกำลังจะถึงเวลานัดพบ  ผมต้องอาศัยขอความช่วยเหลือจากเพื่อนให้ไปซื้อแฟรชตัวใหม่ให้ทันที แล้วรีบเอามาให้ผมให้เร็วที่สุด  และแน่นอนที่สุด  ผมให้เพื่อนช่วยซื้อรุ่นท๊อปมาให้  ของถูกอยู่กับผมสองปี เสียหนึ่งครั้ง  ของแพงอยู่กับผมปีที่สี่แล้ว ยังไม่เสียเลย  มันเป็นเรื่องที่อดคิดไม่ได้ว่าของเกรดโปร ดีกว่าจริงๆ