เรียนรู้การถ่ายภาพดาว เที่ยวอ่างเก็บน้ำ นอนในรถ

การถ่ายภาพดวงดาวเป็นการถ่ายภาพที่มีความยากและต้องทำความเข้าใจมากกว่าการถ่ายภาพแนวอื่น เพราะว่าการถ่ายดาวจะต้องถ่ายตอนมืด เราต้องรอช่วงเวลากลางคืน เลือกสถานที่ที่แสงรบกวนน้อย อุปกรณ์ต่างๆก็ต้องอยู่ในเกรดโปร ทั้งกล้อง เลนส์ ขาตั้งกล้อง ทุกชิ้นต้องดีมากๆ

IMG_20250531_103403470

หากถ่ายโดยใช้ความรู้แบบครูพักลักจำก็จะได้ภาพดาวแบบกระดาษทราย คือเป็นภาพฟ้าดำๆกับดาวเป็นจุดๆ แล้วเราก็จะไม่รู้ว่ามันสวยยังไง ถ่ายกันไปทำไม แต่พอเราเห็นภาพถ่ายดาวจากมือโปรที่ถ่ายเก่งเราก็จะรู้ว่ามันไม่ได้ใช้แค่อุปกรณ์และเวลาเท่านั้น มันยังต้องใช้ความรู้ทางดาราศาสตร์ด้วย แถมยังต้องใช้ซอร์ฟแวร์มาทำงานร่วมด้วยอีกต่างหาก นั่นจึงเป็นที่มาของการลงทะเบียนเรียนรู้กับกิจกรรมของหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฉะเชิงเทรา

1748595443550

การอบรมมีบรรยายโดยผู้รู้ที่ทำงานทางสายวิทยาศาสตร์ และเป็นช่างภาพที่มีประสบการณ์ในการถ่ายภาพดวงดาวและท้องฟ้า เมื่อลงทะเบียนแล้วก็ไปเรียนกันเกี่ยวกับความรู้เบื้องต้นของท้องฟ้าและดวงดาว ทำความเข้าใจกับอุปกรณ์ถ่ายภาพและการตั้งค่าต่างๆ

IMG_20250531_110439167
_DSC1876

เราอบรมกันตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงบ่ายที่หอดูดาวฉะเชิงเทรา เมื่อจบภาคทฤษฎีก็จะเดินทางไปถ่ายภาพในสถานที่จริงที่อ่างเก็บน้ำรัชชโลทร จังหวัดชลบุรี ทีมงานจากหอดูดาวก็จะไปตั้งกล้องให้คำแนะนำในการถ่ายภาพด้วย เราวางแผนว่าจะถ่ายภาพกันตอนกลางคืนและเช้ามืด ดังนั้น เราต้องนอนที่อ่างเก็บน้ำ ทุกคนต้องเตรียมตัวนอนเต๊นท์ด้วย เป็นกิจกรรมแค้มปิ้งที่มีการถ่ายภาพดาวเป็นไฮไลท์

1748866839553
IMG_20250531_172552594

เตรียมเต๊นท์เตรียมเก้าอี้ เตรียมตัวไปนอนแบบกางเต๊นท์ แต่ผมก็ขี้เกียจกางเพราะมาคนเดียวนอนในรถน่าจะสะดวกและเร็วกว่า ก็เลยเตรียมการเรื่องการนอนในรถ โชคดีที่รถผมสามารถปรับเบาะให้ลาดเอียงพอนอนได้ยาวๆทั้งคืน จัดการหาตาข่ายกันยุงมาหุ้มกระจกรถเพื่อเปิดกระจกนอนในรถ

IMG_20250531_172410845

IMG_20250531_172401709

1748866839828

ทุกอย่างเตรียมพร้อม ทีมงานหอดูดาวตั้งกล้องดูดาวราคาแพงให้เราได้ใช้งานรวมถึงเตรียมอาหารมื้อเย็นและมื้อเช้าให้กับทุกคน สุดท้ายตอนค่ำ ฝนเริ่มตก ฟ้าเต็มไปด้วยเมฆไม่สามารถดูดาวหรือถ่ายภาพได้เลย และเป็นอย่างนี้ทั้งคืน เราก็เลยได้นอนเล่นรอฝนหยุดตกโดยพักเรื่องการถ่ายภาพดาวไป

1748866839465

IMG_20250601_053321821

การนอนในรถเป็นเรื่องใหม่ หลังจากปรับเบาะให้ต่อกันแล้วสามารถนอนยืดขาได้ แต่ความไม่เรียบก็ทำให้เรานอนไม่สบายนัก และอากาศไม่ได้เย็นในระดับหนาว ข้างนอกอากาศพอดีไม่ร้อน แต่ในรถอากาศร้อนกว่า ลมพัดเข้ารถได้นิดหน่อยเพราะมีตาข่ายกันยุงดักไว้ นอกจากป้องกันยุงแล้วยังป้องกันลมไม่ให้เข้าเยอะด้วย แทนที่จะนอนหนาวก็หลายเป็นนอนแบบปกติ และมีจังหวะรู้สึกร้อนด้วยในตอนที่ลมไม่พัด

IMG_20250601_054359248

รุ่งเช้าฝนยังตกปรอยๆแต่ไม่มีลมแล้ว อากาศในรถร้อนเพราะไม่มีพัดลมเนื่องจากไม่ได้เตรียมไว้ ยุงเกาะที่ตาข่ายให้เราดูอย่างชื่นใจว่าตาข่ายกันยุงทำงานได้จริง เสียงนกร้องค่อนข้างเยอะ ตอนแสงเริ่มเยอะขึ้นก็เลยถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้

การนอนในรถยนต์ไม่สบายเลย ถ้าเป็นไปได้ก็ควรจะจัดที่นอนให้ราบเรียบจริงๆ การกางเต๊นท์ยังเป็นทางเลือกที่นอนสบายกว่านอนบนเบาะรถยนต์ อาจจะต้องรอทดสอบการนอนกับรถที่ออกแบบปรับปรุงให้นอนหลับได้จริงถึงจะบอกได้ว่านอนบนรถกับนอนเต๊นท์แบบไหนสบายกว่า ซึ่งเดาว่าเต๊นท์อาจจะนอนสบายกว่า แต่นอนบนรถไม่เสียเวลากางเต๊นท์และเก็บเต๊นท์ เราจะมีเวลาเหลือเยอะขึ้นไปทำอย่างอื่นอีกอย่างน้อยสองชั่วโมง แต่สองชั่วโมงในพื้นที่แค้มปิ้งเราไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้มีงานต้องทำ ไม่ได้มีเรื่องเร่งด่วน คนส่วนมากก็สามารถใช้เวลาเพื่อกางเต๊นท์ได้เพราะการกางเต๊นท์มันเป็นการเล่นชนิดหนึ่งของคนชอบเที่ยว

Screenshot_20250601-054807

ตาข่ายกันยุงทำงานได้จริง ป้องกันยุงได้ ใครสนใจก็คลิกไปสั่งซื้อได้ ราคาไม่แพงเลย

อุดหนุนพิพิธภัณฑ์

จากการไปเดินเล่นในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์งานหนึ่ง และมีพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์มาออกบู๊ท ก็เลยอุดหนุนด้วยการสมัครเป็นสมาชิกหนังสือเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งจะได้ หนังสือ 12 เล่ม และได้สิทธิ์เข้าชมพิพิธภัณฑ์ฟรีตลอดปี ผมสมัครแบบครอบครัวจะมีคนติดตามเที่ยวพิพิธภัณฑ์รวมเจ้าของบัตรเข้าได้ 5 คน วันนี้หนังสือมาส่งแล้ว มาพร้อมบัตรสมาชิก

DSC04164

ในอดีตตอนลูกเล็ก ตอนที่เริ่มพาเที่ยวพิพิธภัณฑ์ได้ ผมซื้อบัตรผ่านเป็นแพ็คเพื่อเข้าพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง ชุดบัตรผ่านชื่อว่า museum pass จ่ายเงินสองร้อยกว่าบาท ได้บัตรเข้า 20 แห่ง มันเป็นราคาที่ถูกแสนถูก ผมพาลูกไปไม่ครบทุกที่หรอก แต่จากบัตรผ่านรอบนั้นทำให้ผมได้ไปรู้จักพิพิธภัณฑ์อื่นๆอีกหลายแห่งนอกจากที่ย่านคลองห้ารังสิต ย่านรังสิตผมพาไปเที่ยวจนครบทุกแห่ง มีไปซ้ำด้วย พิพิธภัณฑ์อื่นๆที่อยู่ฝั่งธนใกล้บ้านผมก็พาไป เท่าที่จำได้ก็มีแถวพุทธมณฑลสายสอง พุทธมณฑลสายสี่ ย่านบางลำพู มิวเซี่ยมสยาม ท้องฟ้าจำลองผมจำไม่ได้ว่าอยู่ในกลุ่มบัตรรวมไหม แต่ก็พาไปหลายครั้ง อวพช ที่ไปเปิดทำการในห้างจามจุรีสแควร์ก็ไปบ่อยแต่น่าจะย้ายออกแล้วไปอยู่ในห้างแถวถนนรัชดา ที่เที่ยวแนวพ่อแม่ลูกก็มีพิพิธภัณฑ์นี่แหละที่เป็นที่เที่ยวคุณภาพ เด็กได้อยู่ในสถานที่ที่ส่งเสริมพัฒนาการ ส่งเสริมการเรียนรู้

DSC04163

พอบัตรชุดนั้นหมดอายุ ผมก็อยากซื้อเพิ่ม แต่ทางผู้ขายก็แจ้งว่า บัตรผ่านแบบนั้นไม่ได้ทำขายแล้ว ดูเหมือนโครงการบัตรผ่านแบบหลายๆแห่งจะไม่ประสบความสำเร็จ น่าเสียดาย แต่ลูกผมก็ยังคงได้เที่ยวพิพิธภัณฑ์อยู๋ พอโตระดับนึงก็ได้ร่วมกิจกรรมกับพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ ลูกได้ไปสำรวจทุ่งนา ดูสัตว์ในพื้นที่ มีกิจกรรมดูนก ได้เล่นเวิร์คช็อปอีกหลายอย่างจากหลายๆแห่ง

ถ้าเราใส่เงินกับแหล่งการเรียนรู้ ใส่เงินกับจุดที่จะพัฒนาคน มันเกิดประโยชน์กับเด็กและสังคม มันจะเป็นประโยชน์โดยตรงกับนักเรียนที่จะเติบโตขึ้นมา จ่ายเงินค่าสมาชิกได้หนังสือ 12 เล่มต่อปี และได้เข้าพิพิธภัณฑ์ฟรีห้าคน จะหาของดีกว่านี้ได้ที่ไหน

อวพช คือ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ตัวย่อ NSM

พาลูกเที่ยวพิพิธภัณฑ์ของเก่าต้องถึงวัยที่เหมาะสม

ขึ้นชื่อว่าพิพิธภัณฑ์จะเป็นสถานที่รวมข้อมูลความรู้เฉพาะทางเอาไว้ เมื่อก่อนตอนลูกเล็กระดับ 3-4 ขวบ พาไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ก็รู้สึกสนุก เพราะเหมือนได้เดินสวนสัตว์ เดินเข้าพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ก็เหมือนเดินดูของเล่น พอพาเข้าพิพิธภัณฑ์ของเก่าลูกก็เหมือนจะไม่เข้าใจ มีแต่พ่อแม่ที่อยากจะเดินดูนานๆ เพราะเด็กในวัยเล็กเกินไปจะยังไม่รู้ว่าสิ่งของโบราณคืออะไร

IMG_0271
IMG_0058
IMG_0050

แต่พอลูกอายุเกิน 10 ขวบ เขาเริ่มมีความทรงจำและความรู้ เริ่มรู้จักถาม เริ่มใช้สิ่งของต่างๆในยุคสมัยปัจจุบัน โทรศัพท์มือถือแบบหน้าจอสัมผัสคือสิ่งที่เขาเห็นมาตั้งแต่เกิด พอมาเจอโทรศัพท์บ้านยุคสามสิบปีที่แล้วก็ถึงกับใช้ไม่เป็น ได้แต่ถามว่ามันใช้ยังไง ตอนนี้นี่เองที่พ่อแม่ได้อธิบายหลักการ วิธีใช้ ทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้ว่า คนสมัยก่อนพยายามอย่างมากที่จะสื่อสารให้ได้ โทรศัพท์บ้านที่ดูแล้วไม่รู้จะกดไปหาใคร ไม่มีหน้าจอแสดงผลทำไมถึงคุยกับคนอื่นได้ คุยข้ามประเทศได้

ไปเจอเครื่องพิมพ์ดีด เด็กก็รู้ทันทีว่านี่คือญาติของคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ พ่อแม่ก็รออธิบาย ว่ามันคือพ่อของคีย์บอร์ดแบบที่เราใช้ทุกวันนี้ มีการเรียงตัวหนังสือเหมือนกัน ตัวหนังสือแถวบนมีเรียงเป็นตัว qwerty เหมือนกัน เด็กยืนมองแต่ก็ยังไม่เข้าใจว่ามีตัวหนังสือบนกระดาษได้ยังไง เลยต้องอธิบายกลไกการทำงาน มีสปริง มีก้านเหล็กที่จะคอยเด้งไปพิมพ์บนกระดาษ เสียดายตรงที่เครื่องพิมพ์ดีดอยู่ในสภาพใช้งานไม่ได้ เด็กเลยยังไม่รู้ว่ากระดาษถูกพิมพ์ได้อย่างไร คงต้องหาคลิปใน youtube ให้ดู

DSC00827
พิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง จ.ระยอง
DSC00819
เครื่องพิมพ์ letterpress แบบมือโยก ปัจจุบันยังมีบางโรงพิมพ์ใช้งานอยู่
แท่นเติมน้ำมัน
DSC00830
ร้านถ่ายภาพติดบัตร กล้องตัวใหญ่ ฟิล์มใหญ่ งานถ่ายภาพด้วยฟิล์มที่นักเรียนปัจจุบันไม่เคยใช้งานแล้ว
DSC00849
เกมส์วินนิ่งเมื่อก่อนมาเป็นโต๊ะเลย
DSC00898
ครกและสาก ปัจจุบันยังคงเดิม ยังใช้งานอยู่ในร้านอาหารทุกแห่ง ร้านส้มตำยังใช้อยู่ และยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
DSC00927
ร้านขายของชำ ต้นแบบเซเว่น
DSC00956
เครื่องเล่นแผ่นเสียงยุคแรก ใช้ไขลาน เสียงอู้อี้แค่พอรู้เรื่อง
เครื่องพิมพ์ดีด พ่อแม่ของคีย์บอร์ด
DSC01002
โทรศัพท์บ้านระบบมือหมุน
DSC01027
โทรศัพท์สาธารณะระบบเสียบบัตร
DSC01014
กระติกเก็บน้ำร้อน ต้นแบบของแก้วเยติ กระติกเก็บอุณหภูมิ

DSC01026

การพาเด็กเที่ยวพิพิธภัณฑ์ในตอนที่เด็กสามารถรับข้อมูลได้ สามารถตั้งคำถามได้ ก็จะเกิดการเรียนรู้ รับรู้อดีต รู้หลักการทำงาน เป็นการเที่ยวพิพิธภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ใครมีลูกอยู่ในวัยประถมปลาย ลองพาเด็กเที่ยวพิพิธภัณฑ์ที่แสดงของเก่าดู ช่วงเวลาแบบนี้จะเป็นจังหวะที่ดี พ่อแม่ได้โชว์ภูมิปัญญาสมัยเก่าที่ส่งต่อมาถึงสมัยใหม่ เด็กก็อยากรู้อยากเห็น พ่อแม่ก็ได้หายคิดถึง ได้เล่าให้ลูกฟัง

new normal ของงานแสดง และพิพิธภัณฑ์

ด้วยความอยากรู้ว่าจะต้องจัดการวางระบบการให้บริการผู้คนอย่างไร ก็เลยไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์เพื่อดูวิธีการจัดการ ที่นี่เป็นศูนย์กลางของวิทยาศาสตร์ของประเทศ การจัดนิทรรศการที่เน้นเรื่องความปลอดภัย ระวังการติดเชื้ออย่างเต็มที่น่าจะได้รับการออกแบบมาอย่างเหมาะสมและน่าเชื่อถือที่สุด

เริ่มจากการลงทะเบียนทางเว็บไซต์ว่าเราจะมาเที่ยว ทางเจ้าของสถานที่น่าจะจำกัดจำนวนคนที่จะลงทะเบียนเข้าชมเอาไว้ว่าไม่เกินจำนวนที่รัฐบาลกำหนด คนที่ลงทะเบียนจากทางบ้าน เมื่อมาถึงสถานที่แล้วก็จะยังเข้าไม่ได้ทันที ต้องผ่านจุดคัดกรอง ตรวจอุณหภูมิ หากต่ำกว่า 37 ก็จะอนุญาตให้ผ่านเข้าไปได้ จากนั้นก็ต้องไปนั่งรอในพื้นที่ที่จัดไว้ เก้าอี้นั่งรอก็จะวางห่างกันประมาณ 1.5 เมตร เมื่อตรวจสอบคนที่นั่งรอกับรายชื่อที่แจ้งไว้เรียบร้อยแล้วก็จะอนุญาตให้เข้าได้ โดยจะติดสติ๊กเกอร์ไว้ที่เสื้อเพื่อเป็นสัญญลักษณ์ว่าผ่านการลงทะเบียนและได้รับอนุญาตให้เข้าแล้ว และเราต้องสแกนแอพไทยชนะด้วยเพื่อ check in

IMG_20200607_094305

ระหว่างทางที่เดินผ่านก็จะเห็นสติ๊กเกอร์ที่พื้นอยู่ตลอดทาง เก้าอี้นั่งพักระหว่างทางก็มีสติ๊กเกอร์เตือนเอาไว้ว่าให้พยายามรักษาระยะห่างของแต่ละคนไว้ อย่าเผลอเข้าใกล้กัน

IMG_20200607_101144

ที่จุดแสดงข้อมูลภายในพิพิธภัณฑ์ ทุกจุดที่อาจจะต้องใช้มือสัมผัสกับสิ่งของหรือหน้าจอ ก็จะมีเจลแอลกอฮอล์วางไว้ข้างๆเลย เมื่อกดเล่นหน้าจอแสดงผลเรียบร้อยแล้วก็ให้กดเจลแอลกอฮอล์เพื่อล้างมือเลย เจลจะถูกวางไว้ทั่วบริเวณ

IMG_20200607_095529
IMG_20200607_113606

เมื่อถึงเวลามื้อกลางวัน เราออกจากพิพิธภัณฑ์ก็สแกน qrcode ไทยชนะของพิพิธภัณฑ์เพื่อ check out แล้วไปที่โซนขายอาหารจะล้อมรั้วเอาไว้ มีจุดเช็คอิน มี qrcode ของไทยชนะที่เราต้องสแกนเพื่อ check in ก่อนแล้วค่อยเดินเข้า จะมีเจ้าหน้าที่แจกบัตรติดเสื้อ บนบัตรจะมีตัวเลขบอก เขาใจว่าจำนวนบัตรจะเท่ากับจำนวนคนที่สามารถเข้าโรงอาหารได้ตามข้อกำหนด โรงอาหารแคบก็อาจจะมีจำนวนคนได้รับอนุญาตน้อย ซึ่งเลขที่ติดอยู่บนบัตรจะเรียงลำดับจาก 1 ไปถึงจำนวนที่กำหนด หากบัตรถูกแจกหมด ก็คงจะยังไม่ให้คนใหม่เข้า คนเก่าที่ใช้บริการพื้นที่เสร็จแล้วก็ควรจะรีบออกมา แล้วรีบคืนบัตรให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อนำไปให้คนอื่นได้เวียนใช้

IMG_20200607_113353

โต๊ะนั่งทานอาหารจะเป็นแบบโต๊ะยาว คนนั่งจะนั่งหัวโต๊ะ ไม่หันหน้าเข้าหากัน บน
โต๊ะมีสติ๊กเกอร์ติดไว้เพื่อบกว่าต้องนั่งมุมนี้ โต๊ะ 1 ตัวนั่ง 2 คน การรับบัตรคิวแล้วเข้ามานั่งกินนั่นแปลว่าเราได้ที่นั่งแน่นอน แบบนี้ประเสริฐ

IMG_20200607_114431

IMG_20200607_112539

บนโต๊ะจะมีสติ๊กเกอร์เตือนให้เว้นระยะห่าง และเมื่อเรากินอาหารเสร็จ นำภาชนะไปทิ้งที่ถังขยะกันเอง แล้วตอนเดินออกให้คืนบัตรเลขคิว และสแกน qrcode ไทยชนะของศูนย์อาหารเพื่อ check out

IMG_20200607_114652

หากเราแวะร้านขายของที่ระลึก ก็ต้องสแกน qrcode ของร้านขายของเพื่อ check in ซึ่งตรงนี้เพิ่งจะได้เห็นว่า มีระบุจำนวนคนเอาไว้ด้วย ตัวเลข 28 น่าจะหมายถึงจำนวนคนที่มากที่สุดที่ยอมให้อยู่ในร้านขายของที่ระลึกพร้อมกัน ซึ่งก็ถือว่าไม่มาก ไม่น้อย และเมื่อซื้อสินค้าแล้ว เมื่อออกจากร้านก็ต้องสแกน qrcode อีกครั้งเพื่อ check out

IMG_20200607_114727

IMG_20200607_140431

โต๊ะจัดกิจกรรม จัดตำแหน่งการนั่งทำไว้ที่หัวมุมโต๊ะ โต๊ะละ 2 คน ระยะห่างของสองคนนี้น่าจะประมาณ เกือบ 2 เมตร

IMG_20200607_142512

ที่ห้องน้ำก็มีคำเตือนให้เว้นระยะห่าง และติดสติ๊กเกอร์ไว้ตั้งแต่ในห้องน้ำ แล้วค่อยๆต่อแถวออกมานอกห้อง โดยสติ๊กเกอร์จะติดห่างกันประมาณ1.5-2 เมตร หากคนใช้ห้องน้ำเยอะ ก็คงจะต้องยืนรอที่สติ๊กเกอร์

ตกอยู่ในภวังค์ กับ งานวิจัยของในหลวง

ที่พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า ตั้งอยู่ในรั้วเดียวกับพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ เพิ่งเปิดทำการเมื่อปี พ.ศ. 2562 พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นสถานที่ให้ความรู้ที่หลากหลายและทันสมัย เหมาะกับการพาลูกไปเดินเล่นสักหลายๆชั่วโมง และส่วนหนึ่งในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็จะมีงานแสดงผลงานของในหลวงรัชกาลที่ 9

ผมพาลูกไปเดินดูในพิพิธภัณฑ์หลายครั้ง และมีโอกาสได้หยุดเก็บรายละเอียดนานๆ เพราะพาลูกไปเข้าเวิร์คช็อปทำสิ่งประดิษฐ์ 1 ชั่วโมง เลยได้มีโอกาสอ่านข้อมูลของในหลวงอย่างละเอียด และไปพบกับ โครงการวิจัยตัวหนึ่งชื่อ โครงการแกล้งดิน ซึ่งเป็นชื่อที่แปลกประหลาด แต่ก็ดูลึกล้ำกับแนวคิดมาก

IMG_20200607_134108

การแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นสิ่งที่พระมหากษัตริย์ไทยพระองค์นี้ได้ทำด้วยเวลาเกือบทั้งชีวิตของท่าน พระมหากรุณาธิคุณสูงลิบจนไม่น่าจะมีใครทุ่มเทเพื่อคนอื่นได้เท่านี้อีกแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่เวลาที่มอบให้กับประชาชน แต่คุณภาพของงานก็อยู่ในระดับสูง งานวิจัยหลายงานแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านได้อย่างฉลาดล้ำ จะมีกษัตริย์ที่ไหนที่เป็นนักคิด นักประดิษฐ์ และนักวิทยาศาสตร์ ที่เพียบพร้อมขนาดนี้

IMG_20200607_134055

ผมอ่านแนวคิดของโครงการแกล้งดินแล้วก็ตกอยู่ในอาการทึ่ง และรู้สึกภาคภูมิใจไปพร้อมกัน ในฐานะประชาชน งานนี้แก้ปัญหาได้อย่างฉลาดและทรงคุณค่า ในฐานะของคนที่เคยเรียนวิศวะ และ วิทยาศาสตร์ ผมถามตัวเองว่า งานวิจัยแบบนี้เราจะคิดได้ไหม จะริเริ่มได้ไหม จะคิดนอกกรอบแบบนี้ได้ไหม วันหนึ่งข้างหน้า เมื่อลูกผมต้องทำงานวิจัยทางวิชาการ ผมจะพาเขามาอ่านบทความนี้ ที่พิพิธภัณฑ์นี้อีกครั้ง หวังว่างานแสดงผลงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 จะไม่ถูกปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปเสียก่อน เพราะตอนนี้ลูกผมอายุยังไม่ถึงแปดขวบเลย

IMG_20200607_133944
IMG_20200607_133835_1
IMG_20200607_133915
IMG_20200607_133924
IMG_20200607_133841
IMG_20200607_133852
IMG_20200607_133857
IMG_20200607_133934

ขอบฟ้าเพลินๆ 28jan2018

ขอบฟ้าเพลินๆ 28jan2018
สัปดาห์ที่ผ่านมา ขอบฟ้าได้ดูอเมริกันฟุตบอลหลายครั้ง เป็นกีฬาที่แม่ชอบดู ขอบฟ้าเลยดูตาม  และก็สนุกกับการวิ่งหลบไปหลบมา  สนุกกับการเตะบอลให้ลอยสูงๆ  ตอนสุดสัปดาห์พาขอบฟ้าไปเดินเล่นที่พิพิธภัณฑ์มิวเซี่ยมสยาม  มีลานกว้างๆก็ยังอุตส่าห์ไปวิ่งเล่น ชวนพ่อวิ่งเหมือนแข่งอเมริกันฟุตบอล  และก็ยังหาของมาเตะเล่นให้ลอยสูงๆอีกด้วย

IMG_6262

ในพิพิธภัณฑ์มีเรื่องราวของไทยๆที่อยู่ใกล้ตัวพวกเรามานาน  ความทรงจำของพ่อเป็นประวัติศาสตร์ของขอบฟ้าไปเสียแล้ว  คำว่าเกิดไม่ทันคือการพาลูกไปดูอดีตของตัวเอง

IMG_6246

ขอบฟ้ารู้จักม้วนเทปคาสเซ็ท  รู้ว่ามันมีอยู่ในห้องทำงานพ่อ  และขอบฟ้ารู้ว่าข้างในจะมีเส้นเทปที่ดึงออกมายาวๆได้  ขอบฟ้าบอกว่า เคยเห็นอยู่ในหนังเรื่องวอลอี wall-e ซึ่งเป็นหนังการ์ตูนฝรั่งที่ตัวเองชอบของเก่า และมีม้วนเทปวิดีโอเอาไว้เปิดดูภาพ  มันคือม้วนเทปเหมือนกัน แต่เป็นเทปวิดีโอ ส่วนม้วนเทปที่เจอในพิพิธภัณฑ์คือเทปเพลง

IMG_6231

2018-02-05 07.55.22 1

รีวิว พิพิธภัณฑ์เด็ก

ในสมัยเด็กๆ คำว่าพิพิธภัณฑ์เป็นของไกลตัวมาก รู้จักเพียงพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติแถวสนามหลวง ซึ่งตอนอยู่ประถมเคยไปเพียงครั้งเดียว และมาถึงวันนี้วันที่ผมมีลูกอายุ 4 ขวบผมก็จำไม่ได้แล้วว่าในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาตินั้นมีอะไรบ้าง

พิพิธภัณฑ์เด็ก4sep2016-IMG_3678

ในช่วงสิบปีนี้พิพิธภัณฑ์เกิดขึ้นเยอะมาก เป็นเรื่องน่ายินดีที่สังคมไทยของเรามีคนเห็นความสำคัญของการศึกษาจนสามารถสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ขึ้นมาได้ มีทั้งแบบที่ทำดีน่ายกย่องไปจนถึงทำกันแบบเรียบง่ายลงทุนไม่เยอะ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความพยายาม

พิพิธภัณฑ์เด็ก4sep2016-IMG_3674

พอลูกเกิด และเริ่มโต เราก็เริ่มเที่ยวพิพิธภัณฑ์กัน  ตอนผมหนุ่มๆผมก็ไปแค่ พิพิธภัณฑ์ของแปลกที่พัทยา  believe it or not ซึ่งไปแวะแบบฆ่าเวลา ไม่ได้ตั้งใจจะเดินจริงๆด้วยซ้ำ  การพาลูกไปเที่ยวเล่นตามห้างนั้นครอบครัวผมก็ทำกันบ่อยๆ แต่ในใจลึกๆก็อยากจะให้การเที่ยวเล่นมีคุณภาพ มีการเรียนรู้ มีประสบการณ์บางอย่างให้ลูกได้ซึมซับบ้างทีละเล็กละน้อย  การไปเที่ยวสวนสัตว์ก็ไปกันจนครบแล้วในรัศมี 200 กิโลเมตรจากกรุงเทพ  พิพิธภัณฑ์จึงเป็นทางเลือกที่ยังมีอยู่มากมาย

พิพิธภัณฑ์เด็ก4sep2016-IMG_3672

พิพิธภัณฑ์เด็กตั้งอยู่ที่ ถนนกำแพงเพชร2 ใกล้สวนจตุจักร  ทางเข้าออกจะรถติด รถเยอะ และมีรถจอดกันอย่างเห็นแก่ตัวอยู่โดยรอบ  แต่ในตัวพิพิธภัณฑ์เองนั้นมีพื้นที่จอดรถพอประมาณ และ รปภ ผู้คุมประตูจะไม่ยอมให้รถเข้ารั้วเด็ดขาดถ้าในรถคันนั้นไม่มีเด็กเล็กมาด้วย  เหตุผลคงเป็นเพราะระแวกนั้นมีคนมาซื้อของและเดินเล่นสวนจตุจักรเยอะมาก ที่จอดรถทุกที่เต็มหมด ลามไปจอดบนถนนกันเลย  ความเห็นแก่ตัวและมักง่ายของคนเที่ยวจตุจักรทำให้พิพิธภัณฑ์ต้องเข้มงวดกับการขับรถเข้าพื้นที่ ต้องมองหาเด็กเล็กในรถทุกคันเพื่อจะได้มั่นใจว่า ไม่โดนพวกมักง่ายมาแย่งที่จอดรถของเด็กและผู้ปกครอง

พิพิธภัณฑ์เด็ก4sep2016-IMG_3713

ภายในพิพิธภัณฑ์เด็กเหมือนเป็นที่รวมของพิพิธภัณฑ์หลายๆแห่งไว้ด้วยกัน  เพราะในนั้นมีไดโนเสาร์ มีบ่อทราย มีอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ มีสนามเด็กเล่น  มีห้องเรียนรู้สารพัดอาชีพ มีห้องเด็กเล็ก  ถ้าหากเราไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์อื่นๆ เราอาจจะต้องตระเวณสักห้าแห่งเพื่อให้ได้ประสบการณ์ครบถ้วนดังเช่นที่ได้จากที่นี่

พิพิธภัณฑ์เด็ก4sep2016-IMG_3724

ในพิพิธภัณฑ์เด็ก ไม่มีร้านขายน้ำและอาหาร ต้องเตรียมไปเองหรือเดินออกมาซื้อนอกรั้ว ซึ่งจะมีร้านรถเข็นของพ่อค้าแม่ค้าย่านจตุจักรคอยให้บริการอยู่  แม้ผมจะไม่ค่อยชอบการเอารัดเอาเปรียบ การยืดที่บนทางเท้าไว้ขายสินค้าของแม่ค้าย่านจตุจักร แต่เราก็ต้องอุดหนุนอาหารและน้ำจากเขาอยู่ดี เพราะไม่มีร้านขายใกล้ๆเลย  การเตรียมอาหารและเครื่องดื่มไปเองจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดและน่ารักมากสำหรับการใช้เวลาร่วมกันในครอบครัว

พิพิธภัณฑ์เด็ก4sep2016-IMG_3697

เครื่องเล่นกางแจ้งขนาดใหญ่เป็นเครื่องเล่นที่เด็กต้องปีนป่าย มุด กระโดด วิ่ง ถ้าเด็กเล็กเกินไปก็ดูจะเป็นอันตรายอยู่ พ่อแม่ควรจะติดตามทุกฝีก้าว แต่ถ้าโตหน่อยก็ไม่เป็นไร แค่บอกลูกว่าอย่าไปวิ่งชนเด็กเล็กก็คงจะเพียงพอแล้ว  ส่วนของลานน้ำพุก็กว้างพอใช้ได้ เด็กสัก 20-30 คนเล่นกันก็ดูไม่แน่เกินไป  น้ำพุจะเปิดเป็นรอบ แต่ละรอบจะนานประมาณ 1 ชม. เด็กที่เล่นในลานน้ำพุจะต้องใส่เสื้อกางเกงครบ  ถอดรองเท้าเล่น ผู้ใหญ่ที่จะเข้าไปเล่น หรือ เข้าไปยืนในลานน้ำพุก็ต้องถอดรองเท้าเช่นกัน

พิพิธภัณฑ์เด็ก4sep2016-IMG_3708

ห้องไดโนเสาร์เป็นห้องที่ได้รับความสนใจจากเด็กทุกคน และลูกผมเองก็ชอบมากด้วย  ไดโนเสาร์ที่นี่ไม่ได้ใหญ่โตแบบที่เราเห็นในพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่คลองรังสิต แต่ก็มีมุมกิจกรรมการเลือกอาหารให้ไดโนเสาร์ที่ลูกผมชอบมาก คือการวางใบไม้ปลอม กับ เนื้อปลอม หน้าไดโนเสาร์ ถ้าวางถูกชนิด ถูกลักษณะว่าตัวไหนกินเนื้อ ตัวไหนกินผัก ไดโนเสาร์ก็จะผงกหัว  ถ้าวางผิดก็จะส่ายหัว แค่นี้ลูกก็ตื่นเต้นแล้ว เล่นซ้ำแล้วซ้ำอีกหลายเที่ยวเลย

พิพิธภัณฑ์เด็ก4sep2016-IMG_3683

บ่อทรายสำหรับขุดกระดูกมีพื้นที่กว้างมาก สามารถเล่นพร้อมๆกันได้เกิน 20 คนแน่ๆ  อุปกรณ์การขุดทั้งพลั่วและแปรงปัดทรายมีให้อย่างเพียงพอ  มีส่วนสำหรับล้างมือล้างเท้าที่ดี  ซึ่งทำให้พ่อแม่สบายใจกล้าจะให้ลูกเล่นทรายได้ตามใจ  ห้องน้ำทุกห้องก็ออกแบบมาเป็นอย่างดี มีโถฉี่ของเด็กติดตั้งทุกห้อง ซึ่งถือว่าเป็นความใส่ใจอย่างมากที่คำนึงถึงเด็กขนาดนี้  ไม่เหมือนสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง ที่ไม่เคยคิดว่าเด็กก็ปวดฉี่ปวดอึเหมือนผู้ใหญ่ได้  อยากฝากผู้ที่เกี่ยวข้องกับดอนเมืองและสุวรรณภูมิว่ากรุณามาดูงานที่นี่  ถ้าไม่ว่าง มาไม่เป็น ลองไปดูเซ็นทรัล  ลองไปดูปั๊มน้ำมันบางจากที่ใหญ่ๆ  การทำส้วมเด็ก โถฉี่ของเด็ก ไม่ต้องใช้เงินเยอะ แต่ใช้หัวใจและความใส่ใจเป็นตัวนำ

การเดินทางมาพิพิธภัณฑ์ ควรจะมาถึงสักประมาณ 10.00 น. แล้วทะยอยเล่นไปทีละอย่าง  ถ้าลูกมีนิสัยต้องนอนกลางวัน ก็ควรจะทำให้จบกิจกรรมภายในเวลา 14.00 น. เพราะว่า พอเด็กเล่นมาเหนื่อยๆ แล้วได้นอนตอนบ่าย จะหลับง่ายมาก แค่ขึ้นรถห้านาทีก็หลับแล้ว

พิพิธภัณฑ์

 

พิพิธภัณฑ์สยามมิวเซียม  สถานที่สวยงาม คลาสิค เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดที่เคยไปเดินดู  เรื่องราวความเป็นไทยตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์  ความเกี่ยวข้องเชื่อมโยง  พัฒนาการ  ไปเดินเล่นสักสามชั่วโมงเหมือนได้อ่านบทคัดย่อวิทยานิพนธ์ของไทยที่ต่อเนื่องยาวนานหลายร้อยปี  ฝรั่งคนไหนมาเที่ยวเมืองไทย พามันมาเดินเล่นในนี้ แนะนำ แนะนำ