รีวิวเม้าส์ Signo WG-902BLK

เม้าส์ Signo เป็นเม้าส์แนว Gaming อีกตัวหนึ่งที่ผมตัดสินใจซื้อมาใช้อย่างฉุกเฉิน เนื่องจากความหงุดหงิดจากการใช้เม้าส์ตัวหนึ่งที่เสียกระทันหันแล้วต้องทำงานแบบไม่มีเม้าส์อยู่หลายวัน จนในที่สุดต้องไปหาซื้อตัวใหม่มาใช้

เม้าส์ตัวนี้เป็นเม้าส์ขนาดใหญ่ปกติ สีดำ มีไฟ RGB ที่โลโก้สามารถเปลี่ยนสีไฟได้ ที่ปุ่มด้านบนสามารถกดเปลี่ยนค่า DPI ได้ถึง 6 ระดับ สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ 3 วิธี คือ

1 เชื่อมต่อผ่านบลูทูธ 
2 เชื่อมต่อผ่านระบบ usb ไร้สาย คลื่นความถี่ 2.4Ghz
3 เชื่อมต่อผ่านสาย usb-c ได้

เม้าส์มีแบตเตอรี่ในตัว สามารถชาร์จไฟผ่านช่อง usb-c แม้ว่าแบตหมดก็สามารถต่อสายเพื่อใช้งานได้ ด้านข้างเม้าส์มีอีก 2 ปุ่มทำหน้าที่ foward และ reverse โดยปุ่มทั้งหมดตั้งค่ามาจากโรงงานให้ใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องลงซอร์ฟแวร์เพิ่มเติม ด้านล่างมีอีก 1 ปุ่มสำหรับกดเปลี่ยนสีไฟภายใน และมีสวิตซ์เปิดปิด ที่ทำหน้าที่เลือกใช้เม้าส์เชื่อมต่อด้วยวิธีไหนก็เลื่อนไปเลย จะใช้ผ่านบลูทูธก็เลื่อนสวิตซ์เปิดไปทางสัญลักษณ์บลูทูธ จะใช้ผ่านการเชื่อมต่อ usb ไร้สาย ก็เลื่อนไปด้าน usb-c. และหากจะใช้งานผ่านสายก็ปรับสวิตซ์อยู่ในตำแหน่งปิด แล้วเสียบสายใช้งานได้เลย

ตัวส่งสัญญาณ usb ไร้สายเป็นตัวเสียบที่สามารถเก็บซ่อนไว้ในตัวเม้าส์ได้ และมีฝาเปิดปิดตัวเม้าส์เพื่อเปิดเข้าไปหยิบตัวเสียบ ฝาเปิดปิดเป็นแม่เหล็กออกแบบได้ดีมาก

จุดที่ประดับใจลำดับแรกคือการเชื่อมต่อที่หลากหลาย ส่วนจุดที่สองที่ชอบมากๆก็คือเราสามารถเปลี่ยนความเร็วของการลากเม้าส์ได้โดยไม่ต้องลงซอร์ฟแวร์เพิ่มเติม เพียงแค่กดปุ่มกลางบนตัวเม้าส์ค่าความไวก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ และมีระดับความไวให้เลือกถึง 6 ระดับ ทำให้มันสามารถปรับความไวให้เหมาะสมกับงานที่ใช้ หรือตามเกมส์ที่เล่นได้

สเป็คจากผู้ผลิต

  • 6 MACRO KEYS
  • 5 BACKLIGHTING MODE
  • HUANO SWITCH TECHNOLOGY (20 MILLION CLICKS)
  • PIXART PMW3325 SENSOR TECHNOLOGY
  • 2.4G+BLUETOOTH+TYPE-C TRI-MODE
  • 10M. WIRELESS RANGE
  • DPI SWITCHING TECHNOLOGY WITH 200-10000 DPI
  • RGB 16.8 MILLION COLORS BACKLIGHTING
  • USB TO TYPE-C INTERFACE
  • CORD LENGTH 1.8 M.
  • PLUG & PLAY

หลังจากใช้งานมาได้ประมาณ 2 สัปดาห์ก็ยังไม่พบอาการผิดปกติ และหวังว่าจะไม่โชคร้ายเหมือนเม้าส์ตัวที่แล้วที่ใช้งานไม่นานก็ต้องส่งเคลม และใช้เวลารอของคืนมาอีกประมาณ 1เดือนกันเลย สิ่งที่ชอบอย่างหนึ่งในเม้าส์ตัวนี้คือเสียงคลิกไม่ดังมาก มีความนุ่มนวลกว่าเม้าส์ของ nubwo เยอะมาก น่าจะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบเสียงดัง รีวิวแบบไม่ตั้งใจ แต่ก็ทำให้พบกับของดีน่าใช้ หวังว่าเม้าส์ตัวนี้จะทนทานมาก เพราะราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ

อัพเดทหลังจากใช้งานนานๆ

ปุ่มมาโครจะต้องตั้งค่าผ่านซอร์ฟแวร์เฉพาะ และเมื่อตั้งค่าเสร็จแล้ว เม้าส์จะจดจำคำสั่งการกดต่างๆไว้ในตัว เราสามารถใช้เม้าส์กับเครื่องอื่นแล้วกดมาโครได้เลยโดยไม่ต้องลงซอร์ฟแวร์ในเครื่องคอมฯที่ใช้งาน นับว่าเป็นความฉลาดในการออกแบบมาก ยกตัวอย่าง ผมตั้งค่ามาโครไว้กับปุ่มตรงนิ้วโป้ง ค่าปกติของปุ่มนี้ทำหน้าที่อะไรจำไม่ได้แล้ว แต่ผมตั้งค่าให้เป็นการเรียกใช้งานเครื่องคิดเลขในระบบปฏิบัติการวินโดส์ เมื่อตั้งค่าเรียบร้อยสามารถกดปุ่มตรงนิ้วโป้งเพื่อเรียกใช้เครื่องคิดเลขได้ทันที และนำเม้าส์นี้ไปใช้กับคอมพิวเตอร์ตัวอื่นที่เป็นวินโดส์ ก็กดปุ่มนิ้วโป้งแล้วเรียกใช้โปรแกรมเครื่องคิดเลขได้เช่นกัน

จุดเด่น
เชื่อมต่อได้ 3 วิธี
มีแบตในตัว
ลูกกลิ้งนุ่ม ไม่มีเสียงตอนคลึงเลย
มีช่องเก็บตัวส่งสัญญาณ​usb-c ไร้สายอยู่ในตัวเม้าส์ และหยิบเข้าออกได้สะดวกมาก
มีไฟ RGB เล้กๆ พอสวยงาม
เปลี่ยนความไว dpi ได้สะดวก
เม้าส์ตัวใหญ่ สำหรับคนชอบเม้าส์ดั้งเดิม
สายแถมเป็นสายถักมีความนิ่ม
มีปุ่ม Macro ที่สามารถตั้งค่าให้ทำงานเฉพาะอย่างได้ และจดจำคำสั่งไว้ใน mouse

จุดด้อย
ยังไม่พบ

ราคา 990 บาท

IMG_20231209_152238

การถ่ายภาพให้สวยทำอย่างไร

ในปัจจุบันที่ใครก็สามารถมีกล้องถ่ายภาพได้ โทรศัพท์ใหม่ๆทุกเครื่องก็มีกล้องถ่ายภาพติดมาด้วย สมาร์ทโฟนที่ใช้สื่อสารกับอินเทอเน็ตก็มีกล้องคุณภาพดีมาให้แล้ว กล้องถ่ายภาพโดยเฉพาะสำหรับมือสมัครเล่น และมืออาชีพก็มีราคาเริ่มต้นไม่แพง ยิ่งหากหาของมือสองมาใช้ก็ยิ่งราคาต่ำ ยุคนี้เครื่องมือคือสิ่งที่นักถ่ายภาพแทบจะไม่ต้องไปสนใจเรื่องสเป็คและคุณภาพอุปกรณ์อีกแล้ว

การถ่ายภาพให้สวยก็จะกลายเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายขึ้น แต่มันก็มีหลักการนิดเดียวที่สามารถนำไปหัดใช้ได้ ผมขอให้แนวคิดเอาไว้ ถ้าเห็นด้วยก็ทดลองฝึกฝนดู “การถ่ายภาพให้สวยเกิดจากการที่เราผ่านการถ่ายแบบไม่สวยไปแล้ว” ให้ลองดูตัวอย่างภาพต่อไปนี้

IMG_6418
ภาพนี้คือต้นตำลึกที่ขึ้นมาเกาะต้นไม้ใหญ่ ใบอ่อนสีเขียวโดนแสงแดดส่อง ช่างภาพมองเห็นก็พอรู้ด้วยประสบการณ์ว่ามุมที่สวยน่าจะถ่ายย้อนแสง แสงแดดที่กระทบใบตำลึงจะทำให้ใบเรืองแสง ฉากหลังที่ไม่โดนแสงจะสีเข้ม ทำให้ใบไม้ยิ่งเด่นขึ้นไปอีก ภาพนี้ถือว่าเป็นภาพสวยสำหรับผมแล้ว ดังนั้น ก่อนจะมาเป็นภาพนี้ จะให้ดูว่าผ่านภาพแบบไหนมาบ้าง

เริ่มจากเดินออกมาที่หน้าบ้านแล้วก็พบว่า ต้นไม้ใหญ่มีใบไม้เกาะอยู่ และมีแดดส่องพอดี และคิดจบในหัวแล้วว่าเราจะต้องถ่ายภาพใบตำลึงในมุมมองที่สวยแปกตา เลยหยิบกล้องถ่ายภาพ เริ่มจากเราเห็นภาพนี้

IMG_6419

หลังจากนั้นเราก็เดินดูรอบๆสิ่งที่น่าสนใจ ผมรู้แล้วว่าผมอยากได้ภาพใบตำลึง ก็เลยเดินดูรอบๆ ไปดูหน้าหน้าก็เห็นภาพนี้

IMG_6408

กล้องในมือก็คือ eos m ติดเลนส์ kit ที่แถมมาพร้อมกับกล้อง เป็นเลนส์ซูม 18-55มม. เป็นกล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ที่ราคาต่ำที่สุด และเลนส์ก็เป็นเลนส์ที่มีแต่คนถอดขายทิ้ง อัพเกรดไปเป็นตัวอื่น แต่ผมชอบเลนส์ตัวนี้เพราะมันคุณภาพพอใช้ได้ และราคาถูก ใช้แบบไม่ต้องระวัง ฟิลเตอร์คุณภาพสูงบางชิ้นยังแพงกว่าเลนส์ตัวนี้ นั่นหมายความว่าผมใช้เลนส์ตัวนี้ไม่ต้องใส่ฟิลเตอร์ที่หน้าเลนส์ก็ได้ เราจะได้คุณภาพที่สูงที่สุดจากเลนส์เพียวๆไม่ใส่ฟิลเตอร์ เพราะมีความเชื่อว่า best filter is no filter มองภาพด้วยตาเปล่าสวยกว่ามองผ่านแว่นตา ถ้าคุณไม่สายตาสั้นหรือยาวผิดปกติ

ลองถ่ายภาพใกล้เข้าไปอีกหน่อย ตัดสิ่งที่ไม่น่าสนใจในภาพด้วยการเลือกถ่ายเฉพาะต้นไม้และใบไม้ ขวดน้ำไม่ได้หยิบออกเพราะว่าสุดท้ายจะเข้าใกล้กว่านี้ เลยไม่จำเป็นต้องหยิบตอนนี้

IMG_6409

แล้วก็ขยับกล้อง พร้อมกับซูมภาพเข้าไปอีกให้เหลือแต่ต้นไม้กับใบไม้ ซึ่งก็ให้ลักษณะภาพที่ดูดีขึ้น ซึ่งภาพใบไม้เกาะต้นไม้ใหญ่แค่ภาพนี้ก็พอจะใช้นำไปเขียนบทความเกี่ยวกับใบตำลึงได้แล้ว

IMG_6410

ลองซูมเลนส์ให้ได้ภาพใหญ่ขึ้น เข้าใกล้มากขึ้นก็จะได้ภาพที่ใบตำลึงเด่นขึ้น แต่การเข้าใกล้มาก ก็จะมีผลตามมาด้วยคือระยะชัดของใบไม้ครอบคลุมไม่ครบทั้งใบ บางส่วนของใบไม่ชัด และรวมถึงมือก็อาจจะสั่นด้วยทำให้ภาพไม่คมชัด

IMG_6411

ผ่านสามภาพนี้ไปเราก็ได้ภาพที่ดูน่าสนใจขึ้นแล้ว แต่จากการที่ดูภาพมานาน และเคยถ่ายภาพต้นไม้ใบไม้มาแล้วเลยลองไปถ่ายจากด้านหลังบ้าง เพราะการถ่ายภาพย้อนแสงก็สามารถให้ภาพที่ดีได้

IMG_6413

ลองถอยออกมาอีกนิด ปรับภาพให้มีใบเรียงตัวกันแนวตั้ง ลองถ่ายมุมที่ห่างออกมาหน่อยก็พบว่าให้ภาพที่สวยขึ้น

IMG_6412

จากนั้นก็ลองเปลี่ยนไปถ่ายภาพแนวนอนบ้าง เพราะอยากจะเก็บเฉพาะใบเดียวเด่นๆไปเลย กล้องอยู่ในมือ เวลาเหลือเฟือ ก็ลองเปลี่ยนลักษณะภาพไปเรื่อยๆ และก็พบว่าภาพมุมนี้ถูกใจตัวเราที่สุด

IMG_6415

จริงๆจะหยุดแค่นี้ก็ได้ ภาพที่พอใจเราถ่ายด้วยรูรับแสง f5.6 ซึ่งเป็นระยะรูรับแสงกว้างสุดของเลนส์ที่ช่วงซูมสูงสุดของเลนส์คือ 55มม. การใช้รูรับแสงกว้างจะทำให้ระยะชัดน้อย อาจจะดีกับบางภาพ แต่ถ้าลองใช้รูรับแสงแคบลงไปหน่อยเพื่อให้ระยะชัดมากขึ้น จะได้ผลที่แตกต่างไปอีกเล็กน้อย กล้องอยู่ในมือ เวลาเหลือเฟือ ก็ลองได้เลย

IMG_6418

ภาพสุดท้ายนี้คือมุมภาพเหมือนเดิมแต่ปรับรูรับแสงให้มากขึ้นเป็น f11 ซึ่งจะทำให้มีระยะชัดมากขึ้น ฉากหลังจะไม่เบลอเท่ารูรับแสงกว้าง เราได้รายละเอียดในส่วนของใบและต้นไม้ใหญ่มากขึ้น ส่วนของลำต้นที่มีรายละเอียดปรากฏให้เห็นทำให้ภาพดูสวยกว่าเดิม ความเบลอที่ทำให้ภาพสวย กับการลดความเบลอแล้วภาพสวย เป็นสิ่งที่ต้องทดลองทำ เห็นภาพถึงจะรู้คำตอบ ดังนั้น กล้องอยู่ในมือ เวลาเหลือเฟือ ก็ทดลองไป

การถ่ายภาพให้สวยเป็นเรื่องของการค้นหา ทดลอง ประสบการณ์คือสิ่งสำคัญที่ทำให้เราได้ภาพสวย และภาพที่สวยจะตามมาหลังจากที่เราถ่ายภาพไม่สวยไปครบแล้ว ดังนั้น การหัดถ่ายภาพต้องถ่ายให้เยอะ ผ่านภาพไม่สวยมาให้ครบทุกแบบเราถึงจะถ่ายภาพได้สวยตามที่คาดหวัง เมื่อเจอสิ่งที่อยากถ่าย ให้ลองมองรอบๆ เดินดู มองหา ทดลองถ่าย เปลี่ยนระยะภาพ เปลี่ยนตำแหน่งที่ยืน กล้องอยู่ในมือ เวลาเหลือเฟือ ทดลองไปเรื่อยๆ จะผ่านไปร้อยรูปก็ไม่ผิด ถ้ารูปสวยจะมาเป็นรูปที่ร้อยหนึ่ง ก็แค่ถ่ายให้ผ่านร้อยภาพที่แตกต่างกัน เรียนรู้ทุกภาพที่ถ่าย เดี๋ยวก็ถึงภาพที่สวยเอง


รีวิวเลนส์ Canon macro 100 mm

การถ่ายภาพด้วยกล้องถ่ายภาพทั่วไปเราจะต้องมีอุปกรณ์คือตัวกล้องและเลนส์ กล้องคอมแพ็คจะเป็นกล้องพร้อมเลนส์ที่ติดเป็นตัวเดียวกัน ถอดแยกไม่ได้ ส่วนกล้องในระดับกึ่งอาชีพหรือระดับอาชีพจะเป็นกล้องที่สามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ ซึ่งทำให้เราสามารถเลือกซื้อเลนส์ที่เหมาะสมกับงานมาใช้ได้ และเลนส์มาโครก็เป็นเลนส์ที่สำคัญตัวหนึ่งของวงการถ่ายภาพ และยี่ห้อ canon ก็มีเลนส์มาโครให้เลือกใช้หลายตัว ตัวที่อยู่ในรีวิวนี้คือตัวที่ผมใช้งานอยู่ในปัจจุบัน

sale2013-IMG_0220

หลักการของเลนส์มาโครก็คือ ต้องเป็นเลนส์ที่เข้าใกล้วัตถุได้ใกล้มาก จนได้ภาพใหญ่เต็มกรอบภาพ เลนส์ปกติที่แถมมากับกล้องจะถ่ายใกล้ได้ระดับหนึ่ง เราไม่สามารถถ่ายภาพเหรียญ 10 บาทให้เต็มเฟรมได้ เพราะว่า เลนส์แถมหรือเลนส์ทั่วไปเข้าใกล้วัตถุมากๆก็จะโฟกัสภาพไม่ได้นั่นเอง แต่กับเลนส์มาโครแท้ๆ จะเข้าใกล้ได้ ทำให้การถ่ายภาพสิ่งของเล็กๆทำได้สะดวก และแม้จะนำไปใช้กับการถ่ายภาพแนวอื่นก็ใช้ได้ด้วย เลนส์มาโครจึงเป็นที่นิยมของคนชอบถ่ายภาพ และมักจะเป็นเลนส์ตัวที่นักถ่ายภาพจริงจังมักจะซื้อ รวมถึงช่างภาพอาชีพที่ต้องทำมาหากิน ต้องถ่ายภาพสินค้าต่างๆก็ต้องซื้อเช่นกัน

IMG_8928

เลนส์มาโครมักจะเป็นเลนส์ที่ซื้อแล้วไม่มีการอัพเกรด เพราะเลนส์มาโครให้ภาพที่คมชัดสวยงามเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว และมันก็เป็นเลนส์ที่ให้รายละเอียดได้สูงมาก แทบจะคมชัดที่สุดในบรรดาเลนส์ที่มีขาย รวมถึงการถ่ายภาพมาโครก็ต้องการความชำนาญที่มากขึ้น นักถ่ายภาพที่ชอบมาโครก็จะมีความสามารถมากกว่าช่างภาพมือใหม่ ทำให้ภาพที่ออกจากเลนส์มาโครมักจะมีคุณภาพที่ดี และมันก็ดีจนหลายคนอยากใช้เลนส์มาโคร

IMG_0149

ของที่ไม่เล็กมาก หรือสิ่งของทั่วไปก็ใช้เลนส์มาโครถ่ายได้ เพราะหากใช้งานในระยะปกติที่ไม่ได้เข้าใกล้วัตถุมากๆ เลนส์มาโครก็คือเลนส์ธรรมดาตัวหนึ่ง ใช้ถ่ายสิ่งของ ถ่ายคน ถ่ายวิว ถ่ายทุกอย่างได้ไม่ต่างกันกับเลนส์ทั่วไป แต่ข้อได้เปรียบในเรื่องความสวยงามจะมีมากกว่า เพราะเลนส์คมกว่า สีสวยกว่า และถูกใช้งานผ่านมือนักถ่ายภาพที่ฝึกฝนมามากกว่านั่นเอง

20210322132629_IMG_0796

ภาพมาโครจะมีเสน่ห์ตรงที่มันเป็นภาพแปลกตา เราไม่ได้เห็นภาพแบบนี้ด้วยตาเปล่า งานสิ่งพิมพ์บางชนิดที่ดูด้วยตาเปล่าเราอาจจะไม่เห็นความน่าสนใจ แต่ถ้าเราใช้เลนส์มาโครถ่าย เข้าไปใกล้ๆกระดาษ เราจะเห็นเนื้อกระดาษที่มีร่องรอย มีพื้นผิวที่ไม่เรียบ มีรอยพิมพ์ที่กดจมเป็นตัวหนังสือ สิ่งเหล่านี้ทำให้ภาพถ่ายมาโคร หรือภาพจากเลนส์มาโครเป็นภาพที่สวยน่ามอง การพกเลนส์มาโครไปถ่ายภาพสารพัดก็เลยทำให้เรามีโอกาสได้ภาพที่สวยมากขึ้น

IMG_4368

เลนส์ทุกตัวจะมีจุดที่ชัดที่สุดคือจุดที่เลนส์ปรับโฟกัสไว้ หลายครั้งเราก็เรียกว่าเลนส์มาโครมีลักษณะชัดตื้นเป็นหลัก คือส่วนที่ชัดมีนิดเดียว ส่วนที่อยู่นอกจุดโฟกัสจะค่อยๆเบลอ และจะยิ่งเบลอมากขึ้นเรื่อยๆ มันทำให้ภาพถ่ายมีความน่ามอง แต่เราก็มีวิธีทำให้ช่วงชัดมีมากขึ้น หรือมีระยะชัดลึกเพิ่มขึ้นด้วยการหรี่รูรับแสงลงไป หรือปรับรูรับแสงให้เป็นตัวเลขมากๆนั่นเอง อย่างเช่น การถ่ายอาหารให้ชัดทั้งจานอาจจะต้องใช้ค่ารูรับแสงประมาณ f16 หรือ f22 ภาพแหวนที่อยากให้ชัดทั้งเกือบทั้งวงอาจต้องใช้ค่า f 32 ก็ได้

IMG_8401
IMG_0186

เลนส์มาโครนิยมนำมาถ่ายสิ่งของโดยเน้นบางส่วนของสิ่งของเหล่านั้น เป็นลักษณะการจัดองค์ประกอบแบบหนึ่งในทฤษฎีถ่ายภาพ ซึ่งเป็นแค่แนวทาง ไม่ใช่กฏตายตัว เราเลยได้เห็นภาพมาโครของสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะดอกไม้ เจ้าของเลนส์มาโครที่นำไปถ่ายดอกไม้ อย่างน้อย จะต้องมีภาพเกสรดอกไม้เก็บไว้

IMG_8926
IMG_8933
2019-12-04_03-53-59

เรายังสามารถใช้เลนส์มาโครถ่ายภาพคนได้ด้วย ด้วยความที่เลนส์มีลักษณะพิเศษคือ มีความคมชัดสูง ให้รายละเอียดได้สูง เราจะบอกว่าเลนส์มาโครเป็นเลนส์ที่ใกล้เคียงอุดมคติก็ได้ การถ่ายภาพให้ชัดเป็นเรื่องที่ดี การถ่ายคนด้วยเลนส์มาโครก็จะได้ภาพคมชัดมาก รายละเอียดบนหน้า เส้นผม ขนตา ร่องรอยต่างๆเห็นชัดทั้งหมดหากถ่ายอย่างถูกต้องและจัดแสงอย่างเหมาะสม แต่ก็มีผู้หญิงอีกหลายคนเคยให้ความเห็นว่า ถ่ายด้วยเลนส์มาโครนั้นชัดเกินไป สิวฝ้า รอยกระรอยด่างก็เห็นทั้งหมดเลย กลายเป็นข้อเสียของสาวๆไป แต่นั่นก็เป็นเครื่องยืนยันว่าเลนส์มาโครให้รายละเอียดในภาพได้ดีมากนั่นเอง สามารถดูวิธีการถ่ายภาพเด็กครึ่งตัวได้ที่นี่

IMG_4387

เลนส์ในค่าย canon มีเลนส์มาโครสำหรับเม้าท์ EF หรือกล้องฟิล์ม อยู่ 3 ตัว ตัวแรกที่เป็นตัวยอดนิยมมายาวนานคือ macro100mm เป็นเลนส์ทางยาวโฟกัส 100 มม. รูรับแสงกว้างสุด 2.8 หากใช้ถ่ายภาพโดยการปรับให้เข้าใกล้วัตถุมากที่สุดจะได้อัตราขยาย 1:1 ก็คือของใหญ่เท่าไหร่ ก็จะเกิดเป็นภาพบนฟิล์มใหญ่เท่ากัน นั่นเป็นเหตุผลที่บอกไว้ในตอนต้นว่า เลนส์มาโครแท้ๆหรือเลนส์ที่ให้ขนาดภาพได้ถึง 1:1 จะถ่ายเหรียญ 10 บาทได้เต็มเฟรมนั่นเอง ซึ่ง ในภายหลังช่วงไม่กี่ปีนี้ก็ได้มีการปรับปรุงเลนส์ macro100 ตัวนี้ให้เป็นรุ่น 2 โดยมีสเป็คเหมือนเดิมแต่เพิ่มส่วนของ IS หรือ image stabilizer เข้ามาด้วย

20210327170149_IMG_0071

เลนส์มาโครอีกตัวหนึ่งที่เป็นของ canon ก็คือ macro50mm ทางยาวโฟกัส 50 มม. เป็นเลนส์มาโครเช่นกัน เข้าใกล้วัตถุได้เช่นกัน แต่ก็ไม่ได้ใกล้มาก ให้ภาพใหญ่ได้เพียง 1:2 หรือให้ภาพได้ใหญ่แค่ครึ่งเดียวของ macro100 แต่หากจะใช้ถ่ายภาพให้ได้ภาพระดับ 1:1 ก็จะต้องใช้อุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม เพื่อทำให้เลนส์สามารถเข้าใกล้วัตถุได้มากกว่าสเป็ค แต่การใช้งานก็จะยุ่งยากกว่าเล็กน้อย

ยังมีเลนส์มาโครอีกตัวหนึ่งแต่เป็นตัวไม่ฮิตมาก ให้ภาพได้ใหญ่มากระดับ 5:1 นั่นคือเลนส์ MP-E65 แต่ก็จะเป็นเลนส์ที่ใช้ถ่ายภาพทั่วไปไม่ได้เลย เพราะระยะโฟกัสจะออกแบบมาใกล้มาก ทำให้ถ่ายภาพบุคคลหรือภาพวิวไมไ่ด้ มีแต่นักถ่ายภาพระดับจริงจังบ้าบิ่นเท่านั้นที่จะใช้เลนส์มาโครเฉพาะทางตัวนี้ ภาพที่ออกจากเลนส์ตัวนี้ก็จะเป็นภาพแนว ตาแมลงวัน ขาแมลง รูสอดเส้นด้ายของเข็มเย็บผ้า อัตราขยายระดับนี้เป็นเรื่องเฉพาะทางมากๆ

ข้อดีของเลนส์ macro 100 รุ่น 1

ใช้ถ่ายมาโครได้ 1:1

ให้สีสันสวยงาม สีสวยมาก รายละเอียดสุดยอด

ใช้ถ่ายภาพจากฟิล์มสไลด์ เพื่อทดแทนเครื่องสแกนฟิล์ม

ข้อเสีย

จริงๆต้องบอกว่าไม่มี แต่ถ้าจะให้หามาเปรียบเทียบก็ต้องคุยกันเรื่องราคา เพราะปัจจุบัน macro100 รุ่น 1 ไม่มีขายแล้ว ราคาเคยมีตั้งไว้ระดับหมื่นปลายๆ แต่พอหมดรุ่น แล้วปรับมาเป็นรุ่น 2 ราคาก็เพิ่มขึ้นไปอีกเกือบเท่าตัว ทำให้ราคาแพงมาก

20210327142015_IMG_0027

ถ้าจะต้องพกเลนส์ตัวเดียวเพื่อถ่ายอเนกประสงค์ โดยไม่เน้นว่าต้องเป็นภาพมุมกว้าง การเลือกใช้เลนส์มาโครก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะใช้ถ่ายภาพบุคคลก็ได้ ใช้ถ่ายภาพมาโครก็ได้ เราสามารถหาเลนส์ macro 100 มือสองได้ในราคาไม่แพง เพราะความนิยมของกล้องดิจิทัลแบบ Full frame ไม่ค่อยสูง นักถ่ายภาพรุ่นใหม่ๆจะไปเริ่มกับระบบกล้อง mirrorless ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์รับภาพที่เล็กกว่า นั่นก็ทำให้มีเลนส์มาโครที่ออกแบบมาเฉพาะของระบบเซ็นเซอร์เล็กด้วย และเลนส์ในกลุ่มนี้ก็จะมีราคาซื้อขายที่แพงกว่าเลนส์ตัวเก่าที่ไม่นิยม เป็นเรื่องน่าแปลกใจที่ราคามือสองของเลนส์ macro100 เม้าท์ EF เท่ากันหรือถูกกว่าเลนส์ macro60 เม้าท์EFS ที่เป็นของระบบเล็ก ใครหาเลนส์มาโครใช้ก็ไปช้อนซื้อเลนส์ macro100 ไว้ได้เลย ของดีราคาที่โลกเมิน คุ้มค่ารีบสอย

20210323162351_IMG_0815

20210327212516_IMG_0025

20200906175953_IMG_4321

IMG_0428

IMG_20191203_201814

IMG_0086

2018-10-14 08.28.52 2

การถ่ายดอกไม้

IMG_0149

ภาพดอกไม้เป็นภาพธรรมชาติที่ดูสวยงามสดใส สามารถถ่ายได้ไม่ยาก ไม่ลำบาก อยู่บ้านก็ถ่ายดอกไม้ในสวนได้ เข้าป่าก็มีดอกไม้หลายอย่างให้เลือกถ่าย การถ่ายภาพดอกไม้ให้สวยงามควรจะใช้เทคนิคการถ่ายที่ปราณีต ดังนี้

1 ดอกไม้ต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ไม่พัง ไม่เหี่ยว ไม่ช้ำ

2 จัดองค์ประกอบให้ดอกมีความเด่น มีขนาดในภาพค่อนข้างใหญ่ มองเห็นชัดเจนว่าเราตั้งใจถ่ายดอกไหนเป็นพระเอกของภาพ

3 สภาพแสงที่สว่างเพียงพอจะทำให้สีสันของดอกสดใส ถ้ามีแดดส่องต้องระวัง อย่าให้แดดตกลงบนดอกแค่เพียงบางส่วน ถ้าแดดโดนดอกไม้ ต้องโดนทั้งดอก ถ้าดอกไม่โดนแดดเลยก็ต้องไม่โดนทั้งดอก

4 ถ่ายภาพต้องโฟกัสชัดที่กลางดอก หรือเกสรของดอก ความชัดลึกของภาพต้องมากเพียงพอที่จะชัดครบทั้งดอก ถ้าระยะชัดน้อย ให้เลือกชัดที่เกสรดอกไม้ หากชัดที่ขอบดอกแล้วกลางดอกไม่ชัดมักเป็นภาพที่ไม่สวย รูรับแสงที่เลนส์ควรใช้รู้รับแสงแคบไว้ก่อนเพื่อคุณภาพของภาพที่คมชัดเพียงพอ

5 ควรใช้ขาตั้งกล้องเพื่อให้ภาพคมชัดไม่สั่นไหว

6 ดอกไม้ต้องไม่โดนลมพัด เพราะการขยับเพียงนิดเดียวก็ทำให้ภาพไม่ชัด บางครั้งเราอาจต้องใช้มือช่วยจับก้านดอกไว้ หรือให้เพื่อนช่วยจับก้านดอก หรือแม้แต่ยืนบังลมก็อาจต้องทำ เวลาถ่ายคนเดียวผมเคยอยากได้เชือกมาผูกดอกไม้เอาไว้ไม่ให้ขยับด้วย แต่ยังไม่เคยทำจริง

7 ถ้ามีละอองน้ำหรือหยดน้ำในภาพด้วยจะช่วยเพิ่มความสวยงามได้ บางคนพกป๊อกกี้ไปฉีดละอองน้ำเองเลยก็มี

8 เลนส์ถ่ายภาพมักจะเป็นเลนส์มาโครซึ่งสามารถเข้าใกล้ดอกไม้ได้ตามที่ต้องการ ช่วยให้เราปรับขนาดภาพที่จะปรากฏในรูปได้ตามใจสั่ง เลนส์ซูมระยะกลางๆก็อาจจะใช้ถ่ายได้บ้างกรณีที่เราถ่ายดอกไม้ขนาดใหญ่ หากชอบงานถ่ายดอกไม้และวัตถุเล็กๆจริงๆ ควรซื้อเลนส์มาโครไว้ใช้โดยตรง เลนส์ซูมที่ใช้งานร่วมกับท่อหรือ tube เพื่อให้โฟกัสระยะใกล้ได้ก็พอใช้ได้ แต่ไม่สะดวก และมักได้ขนาดภาพที่ไม่ได้ดังใจ

การสแกนฟิล์มด้วยเลนส์มาโครและกล่องไฟ

การถ่ายภาพด้วยฟิล์มในยุคดิจิทัลยังเป็นสิ่งที่มีลมหายใจอยู่  เมื่อก่อนในวันที่เป็นยุคทองของฟิล์ม เราถ่ายภาพ แล้วส่งล้างอัด แล้วก็ได้ภาพมาดูเป็นเล่ม  มันสะดวกมากสำหรับฟิล์มสี  ส่วนฟิล์มขาวดำก็ต้องล้างฟิล์มแล้วสั่งอัดภาพ  แต่การอัดภาพด้วยร้านถ่ายภาพสีทั่วไป ภาพสีขาวดำก็จะออกมาดูไม่น่ามอง  ภาพขาวดำที่ีสวยก็ต้องเป็นการอัดภาพลงบนกระดาษขาวดำแท้ๆเท่านั้น

แต่บางคนก็ไม่สามารถอัดภาพได้เอง  ต้องอาศัยวิธีสแกนภาพแล้วดูในคอมพิวเตอร์  หรือ ดูในมือถือแทนโดยไม่ต้องอัดบนกระดาษจริง  ยิ่งยุคนี้เป็นยุคโซเชียลเน็ตเวิร์ค อยากมีภาพเป็นไฟล์เพื่อส่ง เพื่อแชร์ให้เพื่อนดูกันทั้งนั้น  การเอาภาพจากฟิล์มขาวดำก็ต้องใช้วิธี สแกน  ร้านถ่ายภาพทั่วไปก็มีบริการรับสแกน  แต่ค่าใช้จ่ายก็แพงขึ้นกว่าเดิม  ไหนๆเราก็มีกล้องดิจิทัลกันอยู่แล้ว ก็ลองใช้อุปกรณ์ของเราสแกนฟิล์มเลยดีกว่า ซึ่งกล้องดิจิทัลที่มีเลนส์มาโครหรือเลนส์ถ่ายใกล้ๆได้จะสามารถนำมาใช้สแกนฟิล์มได้  วิธีนี้ ประหยัด ไม่เสียเงินซักบาท  แต่อาจเสียเงินซื้อเลนส์มาโครแทน

scan-bw-IMG_0205

ให้จัดการเซ็ทอัพอุปกรณ์ตามนี้  ใช้กล่องพลาสติกขนาดใหญ่ หรือ เล็กก็ได้ แต่ในภาพของผมจะใช้กล่องใหญ่เพราะตั้งใจจะใช้ถ่ายฟิล์มทั้งม้วนเลย  โดยการเอากล่องขาวขุ่นมาวางพื้น แล้วเอาฟิล์มบางบนกล่อง  หาของทับฟิล์มให้เรียบแนบไปกับกล่อง  กล่องขาวขุ่นนี้ผมซื้อจากร้านขายอุปกรณ์แต่งบ้าน มันถูกขายเป็นถังขยะสีขาว ผมเห็นแล้วก็ถูกใจเลยสอยมาใช้  ส่วนแสงสว่างที่ส่องในกล่อง ผมใช้แฟลชเก่าๆตัวนึงที่ทำงานได้ แล้วต่อชุดส่งสัญญาณแฟลชไร้สาย หรือ ไวเลสทริกเกอร์  โดยตัวส่งสัญญาณจะเสียบอยู่กับกล้องถ่ายภาพ  ตัวรับสัญญาณจะต่อกับแฟลช  เมื่อเรากดถ่ายภาพ แสงแฟลชก็จะทำงาน ส่งผลให้กล่องเรืองแสง

IMG_0198

ดูใกล้ๆก็จะเป็นแบบนี้  เราถ่ายภาพฟิล์มขาวดำด้วยกล้องดิจิทัลโดยตรงได้เลย  ภาพที่ได้ก็จะเป็นภาพแบบที่ตาเห็น คือ เป็นภาพดูไม่ค่อยรูัเรื่อง สีสันก็เป็นแบบตรงกันข้าม   หากเราจะสแกนภาพจากฟิล์มแค่บางภาพ เราก็ถอดฟิล์มจากซองมาวางบนกล่อง แล้วใช้เลนส์มาโครถ่ายภาพซะเลย

DSCF7049

ถ้าเราจะสแกนฟิล์มขาวดำทั้งม้วน โดยให้เรียงตัวสวยๆเหมือนภาพ คอนแท็คปริ๊นท์ หรือcontact print ก็ใช้ใช้วิธี วางซองฟิล์มทั้งซองบนกล่องขาวขุ่นนี้เลย นี่คือเหตุผลที่ผมเลือกใช้กล่องขนาดใหญ่ เพราะต้องการถ่ายภาพฟิล์มทั้งม้วน ซึ่งใช้พื้นที่ใหญ่พอสมควร กล่องใหญ่ก็จะได้เปรียบคือทำงานคอนแท็คปริ๊นท์ได้นั่นเอง

DSCF7210

ภาพฟิล์มทั้งม้วนที่ถ่ายด้วยกล่องไฟจะเป็นแบบนี้  เมื่อถ่ายภาพได้แล้ว ก็เอาภาพ jpg ที่ได้มา ไปปรับค่าต่อในโฟโต้ช็อป โดยการสั่ง invert เพื่อกลับภาพจากดำเป็นขาว และ ขาวเป็นดำ  และทำการปรับระดับสีดำ และสีขาวให้สมจริง เราก็จะได้ภาพสีปกติออกมา

 

DSCF7210-contactsheet 20jul2012

แค่นี้เราก็ได้ภาพคอนแท็คปริ๊นท์ที่ดูคลาสิคมากออกมา  เราสามารถปริ๊นท์ภาพนี้เก็บไว้เป็นภาพโชว์ได้เลย  ขนาดภาพของคอนแท็คปริ๊นท์ในอดีตจะใหญ่เท่าจริง คือฟิล์มเรามาใหญ่แค่ไหน คอนแท็คปริ๊นท์แท้ๆก็จะใหญ่เท่านั้น

คราวนี้เราจะมาสแกนบางภาพที่เราต้องการบ้าง  บางภาพที่เราต้องการนี้ก็อาจจะเป็นภาพที่เราตั้้งใจจะโพสท์หรือตั้งใจจะเอาไปอัดขยายให้ใหญ่  เราก็จะทำการถ่ายฟิล์มที่ต้องการแค่ภาพเดียว ซึ่งการถ่ายฟิล์มแค่ภาพเดียวเราจะต้องใช้เลนส์มาโคร เพื่อให้สามารถถ่ายภาพฟิล์ม 1 ภาพให้ใหญ่เกือบเต็มเฟรมของกล้องดิจิทัล

IMG_0284

ภาพที่ถ่ายได้จากเลนส์มาโครจะทำให้เราได้ชิ้นฟิล์มค่อนข้างใหญ่  จริงๆเราสามารถใช้เลนส์มาโครระดับ 1:1 เพื่อถ่ายชิ้นฟิล์มได้ใหญ่กว่านี้  แต่ผมชอบภาพที่เห็นรูหนามเตยของฟิล์ม เพราะทำให้ภาพดูน่ามอง ดูเท่ห์กว่า  ก็เลยถ่ายแบบให้เห็นขอบฟิล์มเยอะหน่อย   จากนั้นก็เอาภาพมากลับสีด้วยคำสั่ง invert ในโปรแกรมโฟโต้ช็อป ซึ่งถ้าใครถนัดโปรแกรมอื่น หรือ ถนัดใช้ app ในมือถือ ก็แล้วแต่สะดวก  เมื่อกลับสีแล้วก็จัดการปรับค่าดำ ค่าขาว ในภาพให้ดูสมจริง ดูเป็นภาพขาวดำปกติ

IMG_0284bw

ออกมาได้แบบนี้เลย  ภาพลูกชาย วันแรกที่เกิด  ฟิล์ม lucky กล้องไลก้า minilux ล้างฟิล์มเอง สแกนเอง ภูมิใจเอง