สิ่งที่อยากได้จากระบบ conference

IMG_20200408_112504

จากปัญหาการระบาดของไวรัส ทำให้โรงเรียนต้องเตรียมการสอนแบบทางไกล ในอดีตเรามีโรงเรียนทางไกล เรียนกับโทรทัศน์ ในที่สุด ปี พ.ศ. 2563 เราก็ได้ใช้ในการเรียนการสอนทุกระดับ ไม่เว้นแม้แต่ระดับประถม และบางแห่งอาจจะต้องสอนตั้งแต่อนุบาล

แต่การเรียนการสอนในยุคนี้จะทำผ่านอินเทอเน็ต ระบบ meeting online ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือหลัก ลูกผมก็เป็นเด็กประถมที่ต้องเตรียมการกับเทคโนโลยีพวกนี้ พ่อแม่ก็เตรียมอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ หูฟัง ลำโพง ไมโครโฟน กันเต็มที่ และเมื่อได้ทดลองเรียนไป 1 ครั้ง ลูกก็มีประสบการณ์การใช้งาน และได้ออกความเห็นไว้น่าฟัง ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราผู้ใหญ่ไม่มีวันเข้าใจเลย แต่เมื่อได้ฟังแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ว่า เด็กน้อยเขาคิดกันแบบนี้ และเราเห็นด้วยอย่างยิ่ง

ทุกเสียงที่พูดหน้าคอมพิวเตอร์จะถูกส่งไปยังคุณครู นี่คือสิ่งที่เด็กทุกคนรู้ และรู้สึกว่ามันเป็นการรบกวนจิตใจเล็กๆ เด็กยังไม่รู้ว่ามีระบบปิดเสียงไมโครโฟนได้ สิ่งนี้สอนไม่ยาก ในที่สุดจะปิดเสียงเป็น แต่มันยังไม่ใช่จุดที่เด็กรู้สึกสบายใจ

สิ่งที่เด็กต้องการ ลูกผมให้ข้อมูลว่า เขาอยากได้วิธีการคุยกับเพื่อนที่ครูไม่ได้ยิน เขาอยากถามเพื่อนเบาๆ กระซิบเบาๆ เหมือนอยู่ในห้องเรียน แล้วครูไม่ได้ยิน ผมฟังแล้วอึ้งไปเลย และรู้สึกเลยว่านี่คือความเป็นห้องเรียนที่เด็กอยากให้มีอยู่ ผมอยากจะส่งความเห็นนี้ไปให้ผู้พัฒนาซอร์ฟแวร์จริงๆเลย ว่าน่าจะมีช่องทางพิเศษสำหรับส่งเสียงคุยระหว่างให้นักเรียนบางคนได้โดยที่เจ้าของวิชาหรือครูไม่รู้ ไม่ได้ยิน หรือ คนอื่นไม่ได้ยิน ให้ได้ยินกันสองคนเท่านั้น

จริงๆแล้วซอร์ฟแวร์การประชุมก็มีระบบ chat ให้คุยกันเป็นรายบุคคลได้ หรือแม้แต่เปิดโปรแกรม line เพื่อคุยส่วนตัวกับใครก็ได้ แต่เด็กไม่รู้จักลูกเล่นเหล่านี้ ไม่รู้จักวิธีใช้ line เพราะเขายังเด็กเกินไป เด็กเกินกว่าจะทำงานบนโปรแกรมหลายๆชนิดพร้อมกัน นักเรียนที่โตหน่อย หรือ เด็กมหาวิทยาลัย หรือคนทำงานคงสามารถสื่อสารหลายโปรแกรมหลายช่องทางได้ เพราะประสบการณ์การใช้เครื่องมือสูงกว่า แต่เด็กประถม1หมาดๆ ไม่รู้เรื่องพวกนี้

ผมรู้สึกดีใจที่ลูกสามารถสื่อสารสิ่งที่ต้องการได้อย่างตรงประเด็น กำลังอมยิ้มกับรายละเอียดที่เด็กสัมผัสกับเทคโนโลยี ขอให้ผู้ผลิตซอร์ฟแวร์ได้อ่านข้อความนี้ และช่วยทำสิ่งที่เด็กต้องการแล้วใส่มาในโปรแกรมด้วยนะครับ