เริ่มเข้าใจคนญี่ปุ่นทำไมถึงมีนิสัยพูดเบา

วันหนึ่งในช่วงวันหยุดยาว ผมไปธุระที่ห้างแห่งหนึ่ง ทำธุระเสร็จก็หาอะไรกิน เหลือบไปเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวแนวญี่ปุ่นร้านหนึ่งในห้าง ดูการแต่งร้านและลักษณะที่นั่งแล้วก็เป็นคอนเส็บญี่ปุ่นเต็มๆ 

IMG_20231229_181736

ที่นั่งเรียงแถวเหมือนบาร์ ใครมาก็นั่งตามสะดวก เราก็อาจจะต้องนั่งติดกับคนแปลกหน้าบ้าง ภาพร้านอาหารและที่นั่งแบบนี้เห็นบ่อยที่ญี่ปุ่น ในหนัง ในละคร ผมเข้าไปนั่งแล้วก็เลือกสั่งก๋วยเตี๋ยวมากิน 1 ชาม นั่งอ่านข้อมูลในมือถือเพื่อรอเวลา

IMG_20231229_182336

ก๋วยเตี๋ยวเสิร์ฟแล้วก็เริ่มกิน รสชาติอร่อยดี ราคาร้อยกว่าบาท ก็ถือว่าเป็นราคาปกติของอาหารจานเดี่ยวในห้าง กินไปเพลินๆก็สะดุ้งตกใจ อยู่ๆก็มีเสียงพ่อแม่ลูกคุยกัน เขามากันสามคน นั่งอยู่ข้างๆผมเลย รู้สึกไม่คุ้นเคยเล็กน้อย แต่สิ่งที่ทำให้สะดุ้งคือเสียงคุยกัน ตัวพ่อนี่เสียงดังมาก คุยกับลูกที่น่าจะอายุสามขวบ เขาคุยกันเหมือนเด็กมีปัญหาทางการได้ยิน คุยเสียงดังจนต้องหันมอง แล้วก็ก้มหน้ากินต่อ ไม่อยากมีเรื่อง ไม่อยากทะเลาะ แค่รู้สึกรำคาญกับเสียงพูดคุยที่ดังเกินปกติ 

ทำให้นึกถึงนิสัยคนญี่ปุ่นที่มักจะพูดคุยเสียงเบาๆ นั่นคงเป็นเพราะประเทศเขามีคนเยอะ ต้องเดินทางร่วมกัน ต้องกินข้าวร่วมกันกับคนแปลกหน้าในโต๊ะอาหารที่อยู่ชิดกัน จนทำให้เขาไม่กล้าส่งเสียงดัง จะได้ไม่รบกวนคนอื่น เพราะเขาเองก็คงไม่อยากถูกรบกวนเหมือนกัน ผมเริ่มเข้าใจคนญี่ปุ่นแล้วว่าทำไมถึงไม่ส่งเสียงดังในที่สาธารณะ เพราะมันน่ารำคาญแบบไหน ได้สัมผัสเองถึงเข้าใจ

ก๋วยเตี๋ยวอร่อย แต่มลภาวะจากเสียงคุยที่ดังเกินไปทำให้รู้สึกรำคาญและอยากลุกหนีไปไกลๆ ผมเตือนตัวเองว่าต่อไป อย่าคุยเสียงดังในที่สาธารณะ มันสร้างความน่ารังเกียจอย่างรุนแรง ไม่อยากเป็นคนที่ถูกเกลียด 

ลองปรับภาพให้ได้โทนเท่ห์ๆแบบฝรั่ง

ภาพนี้เป็นภาพสมัยที่ลูกผมอายุ 3 ขวบ และบ้านเราก็หอบหิ้วกันไปเที่ยวญี่ปุ่น ลูกตัวเล็กน่ารัก กำลังนั่งมองการ์ตูนในแท็บเบล็ตที่เราพกไว้สำหรับใช้ถ่วงเวลา เวลาที่งอแงหรือกินอะไรยากเย็น แสงสว่างตอนเช้าส่องเข้าที่หน้าต่าง แดดยังไม่แรง ความสว่างในระยะเริ่มต้นวันใหม่กำลังสวย เลนส์ efm 22f2 เป็นเลนส์ที่ใช้อยู่บนกล้อง canon eos m1 ซึ่งเป็นกล้อง mirrorless รุ่นแรกของ canon

ผมถ่ายภาพนี้ด้วย setting แบบ jpg+raw และตั้งค่าการถ่ายเป็น Av f2 ตั้งค่าให้กล้องไม่ต้องชดเชยขอบมืด เพราะเจตนาอยากได้ภาพที่ขอบมืดเล็กน้อย กลางภาพสว่างจะดูเด่นขึ้น ส่วนค่า White balance ก็ตั้งไว้ที่ Auto ซึ่งกล้องก็ทำงานได้ภาพที่ดี รูรับแสง F2 ทำให้นายแบบดูคมชัดและด้านหลังที่เป็นกำแพงก็ดูเบลอไปเล็กน้อย ชัดตื้นระดับแค่คนชัดข้างหลังเบลอเป็นลักษณะภาพที่สวยและต้องการอุปกรณ์ที่ดีระดับหนึ่ง เพราะหากเป็นเลนส์ที่รูรับแสงไม่กว้างมากก็ยากที่จะได้ภาพที่มีความเบลอด้านหลังแบบนี้

IMG_8995
dpp-japan2015t-IMG_8995

ในตอนเดินทางเราพบเหตุการณ์อะไร มีอะไรน่าสนใจ เราก็ถ่ายภาพเก็บไว้เรื่อยๆตลอดทริป และทริปนี้ก็เป็นทริปที่ผมพกกล้องและเลนส์ไปตัวเดียว ชุดเดียวถ้วน ไม่มีสำรอง ไม่มีเลนส์เปลี่ยน เนื่องจากการเดินทางข้ามประเทศพร้อมลูกเล็กและรถเข็นเด็กก็ทำให้มีข้าวของพะรุงพะรัง ทำให้ไม่อยากพกอุปกรณ์กล้องไปเยอะ ผมไม่มีแม้แต่กล้องสำรอง คิดเพียงว่าถ้ากล้องพัง กล้องเสีย หรือ กล้องหาย ก็ซื้อใหม่ที่ญี่ปุ่นไปเลย

เมื่อกลับมาเมืองไทย และเวลาผ่านไปสักพัก ผมก็เปิดดูภาพชุดนี้อยู่เรื่อยๆ และหลายปีต่อมา ก็ทดลองเอามาปรับสีเล่นเพื่อให้ดูคล้ายๆกับแนวทางของช่างภาพเมืองฝรั่งดูบ้าง เพราะภาพแนวสตรีทหรือแนวชีวิตผู้คนก็มักจะมีโทนสีหม่นๆ หรือ อมเขียว อมฟ้าอย่างบอกไม่ถูก กำแพงห้องที่เป็นสีโทนขาว ในหนังอาร์ต หรือหนังฮอลีวู้ดบางเรื่องก็ถ่ายออกมาอมเขียวรุนแรงมาก ผมก็เลยคิดว่า ถ้าเราปรับโทนของภาพ ให้โทนขาวเทาดำมีความเจือปนสีเขียวเล็กน้อยจะเป็นอย่างไร ก็เลยออกมาเป็นภาพเหล่านี้

ภาพโทนอมฟ้าอมเขียวเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมมากขึ้นตามกระแสกล้องฟิล์มที่ฮิตมากอย่างน่าประหลาดใจในช่วงหลายปีก่อน ฟิล์มที่ไม่มีคนสนใจเริ่มถูกซื้อไปถ่ายเล่น กล้องเก่าเริ่มขายดี ฟิล์มถ่ายภาพจากม้วนละไม่ถึงหนึ่งร้อยบาท กลายเป็นสองร้อย สามร้อย และในปีนี้ คศ 2023 ฟิล์มสีม้วนละ 550 บาทไปแล้ว การลองย้อนไปถ่ายฟิล์มเพื่อให้ได้โทนสีแบบฟิล์มก็ดูจะเป็นเรื่องสิ้นเปลืองอยู่ไม่น้อย ดังนั้น ดิจิทัลที่นอนนิ่งอยู่ในคอมพิวเตอร์ก็ลองเอามารับเล่นดูดีกว่า เลยเกิดเป็นภาพอมเขียว อมฟ้า เล็กน้อยแบบนี้

โพสท์แบบ compare

ภาพที่ขายได้

Screen Shot 2565-02-11 at 08.57.18

ภาพนี้เป็นภาพลูกของผมตอนที่ไปเที่ยวเมือง nikko ประเทศญี่ปุ่น ตอนนั้นผมพกกล้องไปตัวเดียวคือ eos m รุ่น1 ติดเลนส์ตัวเดียวตลอดทริปคือเลนส์ 22f2 การเดินทางที่ญี่ปุ่นกับลูกเล็กวัย 3 ขวบ เป็นการเดินทางที่ต้องเตรียมรถเข็น เตรียมอุปกรณ์ของเด็กพอสมควร พ่อกับแม่ต้องช่วยกันยก ช่วยกันอุ้มในหลายสถานการณ์เพราะการเดินทางหลักๆของทริปคือรถไฟ

เลนส์ 22f2 ผมใช้ค่ารูรับแสงที่ f2 ตลอดทริปเลย เพราะต้องการความชัดตื้นที่ละลายหลังให้เบลอดูสวยงาม และต้องการให้มันรองรับสถานการณ์แสงได้ดีหลากหลายสถานที่ และส่วนมากเราก็จะถ่ายภาพในอาคาร ในที่ร่ม การใช้เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมมาก

กล้อง eos m เป็นกล้องที่มีหน้าจอด้านหลังระบบสัมผัส สามารถใช้มือแตะเพื่อให้กล้องทำการโฟกัสและลั่นชัตเตอร์ได้ด้วย มันทำให้เกิดความสะดวกในการใช้งานบางโอกาส เช่นโอกาสเด็กกำลังสนใจกับภาพในจอ มีแสงตอนเช้าเข้ามาทางหน้าต่าง แสงหน้าต่างมักจะสร้างผลลัพธ์ที่ดีกับภาพถ่ายเสมอ ผมเห็นองค์ประกอบนี้ก็รีบหยิบกล้องมากดเปิดกล้องแล้วแตะโฟกัสเพื่อถ่ายเลย แล้วเราก็เก็บวินาทีสวยๆได้ตามที่ตาเห็น ทั้งทริปผมแทบจะไม่ได้ปิดฝาหน้าเลนส์เลย เพราะอยากให้กล้องพร้อมใช้ตลอดเวลา แม้ว่าเลนส์อาจจะเสี่ยงต่อการเสียหายหรือเป็นรอยขีดข่วนบ้าง แต่ผมก็ใช้วิธีติด Hood เหล็กไว้ที่เลนส์ ทำหน้าที่เป็นที่บังแสง และเป็นกันชนให้กับเลนสได้ระดับนึง ภาพลูกผมฝากขายในเว็บ Eyeem.com ครับ

IMG_0338

กล้องดี เลนส์ดี ราคาประหยัดมาก

กล้องและเลนส์สักคู่หนึ่งที่ทำงานร่วมกันแล้วได้ภาพถูกใจจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่บ่อย  ถ้าบังเอิญได้พบและใช้งานจะรู้ด้วยตัวเองเลยว่ามันเกิดมาคู่กันจริงๆ  กล้อง canon eos m รุ่น1 กับเลนส์ efm 22f2 เป็นคู่หูที่เกิดมาเพื่อกัน และมันทำหน้าที่ได้ไร้ที่ติ. ในแง่คุณภาพของภาพและความสะดวกในการพกพา

หลายคนจะติเรื่องความสามารถในการโฟกัสของ eos m รุ่น 1 กันถ้วนหน้า ผมก็เคยรีวิวไว้เช่นกันว่ามันถ่ายอะไรที่มีขาไม่ค่อยทัน  แต่ว่ามันก็ไม่ใช่เหตุผลที่เราจะเมินหน้าหนี แล้วทิ้งมันไปอย่างไม่ใยดี  ราคามือสองหรือมือสิบของกล้องรุ่นนี้อยู่ที่ประมาณ 3พัน เลนส์อยู่ที่ 3-4พัน เป็นการใช้เงินประมาณ 7 พันบาทที่ให้คุณภาพระดับสูงมาก  ผมยังคงไม่พบคู่หูหรือกล้องคอมแพ็คค่าตัวมือสองที่ราคาต่ำกว่านี้และให้คุณภาพได้ดีกว่านี้.

2018-03-17 11.23.55 3

สถานีรถไฟในญี่ปุ่นในช่วงเวลาเย็น แสงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า eos m + 22f2 + vsco

ภาพทริปญี่ปุ่นในปี 2015 ของผมทั้งทริปเป็นภาพที่ใช้กล้อง eos m และเลนส์ 22f2 เท่านั้น เพราะทั้งทริปผมไม่ได้พกเลนสและกล้องตัวอื่นไปเลย มีเพียงแค่คู่หูคู่นี้กับแบตสองก้อน  ปรับเลนส์ไว้ที่ f2 แล้ว iso auto แล้วก็ใช้ค่านี้ถ่ายไปตลอดทริปเลย ไม่ว่าจะกลางวัน กลางคืน แดดออก แดดร่ม กลางแจ้ง ในห้าง ในสถานีรถไฟทั้งบนดินและใต้ดิน จบที่อุปกรณ์และค่า setting ค่าเดียวกันทั้งหมด

2018-03-17 11.23.55 2

ไอศครีมข้างทาง เป็นภาพแนวท่องเที่ยวที่จบในตัว การเดินทางคือกินเที่ยวนอน eos m + 22f2 + vsco

2018-03-17 11.24.01 2

ให้คนอื่นช่วยถ่ายให้ก็ไม่ยาก ยังคงวัดแสงและโฟกัสได้ง่ายสำหรับคนทั่วไป eos m + 22f2 + vsco

การที่กล้องมีระบบ touch focus เอามือแตะที่หน้าจอเพื่อให้กล้องโฟกัสได้เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากสำหรับการท่องเที่ยว  แถมยังเลือกได้ด้วยว่าจะแตะเพื่อโฟกัสเพียงอย่างเดียว หรือ แตะแล้วโฟกัสแล้วถ่ายภาพเลย ซึ่งเป็นวิธีที่มีประโยชน์มากในการขอให้คนอื่นช่วยถ่ายภาพให้. ช่างภาพก็จะได้มีตัวตนอยู่ในภาพบ้าง

2018-03-17 11.23.52 2

ตื่นนอน ขอดูการ์ตูนก่อน eos m + 22f2 + vsco

ในห้องพัก ตอนเช้าตรู่  แสงเข้าทางหน้าต่างส่องมาที่เตียงนอน  เด็กคนนึงกำลังนั่งดูการ์ตูน ไม่รู้ตัวว่าพ่อกำลังแอบถ่ายภาพ หยิบกล้องมาเปิด จัดองค์ประกอบ แตะที่หน้าแล้วกล้องก็ทำการโฟกัส วัดค่าแสงพอดี แล้วก็ลั่นชัตเตอร์ จบในการขยับนิ้วแค่ครั้งเดียว เลนส์มีความไวแสงระดับ f2 ทำให้ภาพหน้าชัด หลังเบลอ โชว์ความเบลอสวยๆให้เห็น เลนส์แพงทำได้ เลนส์ถูกก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน

2018-03-17 11.24.00 2

เติมพลังก่อนเดินทาง canon eos m + 22f2 + vsco

แม่ลูกกำลังกินอาหารเช้าก่อนเดินทางไปเที่ยวต่อ เป็นอาหารเช้าที่เจ้าของโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ลูกค้า. อากาศภายนอกประมาณ 10 องศา อากาศภายในเย็นสบาย ใส่เสื้ออุ่นๆคนละ 2 ชั้น  มาเที่ยวแล้วนอนโรงแรม บันทึกภาพการกินในแต่ละมื้อก็เป็นภาพชุดที่ห้ามพลาด ห้ามลืมถ่าย

2018-03-17 11.23.49 1

หนาวไหมครับแม่  eos m + 22f2 + vsco

อากาศภายนอกหนาวเย็นระดับเลขตัวเดียว การกอดกันก็อุ่นสบาย ที่จุดกลางทางแวะดูสะพานไม้สีแดงของนิกโก้ เป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวมักจะต้องแวะถ่ายภาพ ลำพังเพียงสะพานอย่างเดียวยังไม่มีอะไรโดดเด่น จังหวะบังเอิญพอดีที่แม่ลูกกำลังคุยกัน ขอบฟ้าเอามือไปจับหน้าแม่เพื่อถามว่าหนาวไหม  กล้องอยู่ในมือก็ยกขึ้นมาเล็งอัตโนมัติ บทจะต้องโฟกัสให้เร็วสุดชีวิตมันก็ทำได้นะในบางจังหวะ  แม้ว่าคนค่อนโลกจะบ่นเรื่องโฟกัสช้า  แต่ถ้ากล้องอยู่ในมือช่างภาพที่พร้อมถ่าย ก็ไม่มีข้ออ้างใดๆ จังหวะที่ดีที่สุด กล้องทุกตัวทำได้อยู่แล้ว

2018-03-17 11.23.55 1

อากาศเย็น แดดออก ใบไม้ร่วงยังสวย  eos m + 22f2 + vsco

ภาพนี้ถ่ายที่ด้านหลังสถานนีรถบัส เป้นจุดแวะขอข้อมูลเดินทางและจุดขึ้นรถลงรถที่ทะเลสาบนิกโก้. ท้องฟ้ามีแดด อากาศเย็นสบาย กล้องถ่ายรูปถ้าจะถ่ายแบบเดาแสง ผมจะถ่ายด้วย f11 เพราะแดดชัด เงาชัดและไม่แสบตามาก  ภาพที่ถ่ายมาแล้วย้อนไปดูว่ากล้องเลือกค่าแสงไว้ให้เท่าไหร่ ก็ใกล้เคียงกับสิ่งที่คิดครับ กฏ sunny 16 เป็นกฏง่ายๆที่เอาไว้ช่วยเดาค่าแสงได้ดี

2018-03-17 11.23.53 1

แม่กับลูกริมทะเลสาบชูเซนจิ  eos m + 22f2 + vsco

ภาพริมทะเลสาบ แสงสวย วิวสวย เลนส์ที่ใช้เป็นเลนส์สว่าง f2 ถ้าเปิดกว้างสุด iso ต่ำสุด กล้องยังเลือกความไวชัตเตอร์ให้สูงลิบ เพราะสภาพแสงจริงนั้นสว่างมาก ภาพนี้โชคดีที่กล้องใช้สปีด 1/4000 ให้. เพราะถ้าแดดแรงกว่านี้ หรือ เลนส์สว่างกว่านี้เช่น f1.4 ความไวชัตเตอร์จะขึ้นไประดับ 1/8000 วินาที. ซึ่ง eos m รุ่นนี้ให้ไม่ได้ การใช้บอดี้กล้องระดับกลางที่ความไวขึ้นได้แค่ 1/4000 วินาที เราต้องเลือกเลนส์ f2 ไว้ก่อน มันเป็นข้อจำกัดที่เหมาะสมซึ่งกันและกันระหว่างเลนส์และกล้อง  เพราะกล้องและเลนส์ทุกตัวถูกออกแบบมาให้ถ่ายภาพได้ดีในเวลากลางวัน  ส่วนเทคนิคการถ่ายที่ไม่ปกติ หรือสภาพแสงที่น้อยนิด หรือถ่ายภาพกลางคืน อะไรที่ไม่ปกติ มักจะต้องการอุปกรณ์ที่แพงกว่านี้

2018-03-17 11.23.52 1

ทะเลสาบชูเซนจิ  eos m + 22f2 + vsco

ถ่ายภาพทะเลสาบแบบมีเนื้อหาสาระ ก็นึกถึงว่าต้องมีวิวระยะใกล้ มีวิวไกลๆ ก็เลยจะเป็นภาพที่เห็นพื้น เห็นน้ำ ภูเขา ท้องฟ้า เลยจัดองค์ประกอบแนวตั้งซะหน่อย  การถ่ายภาพวิวควรจะชัดเต็มที่เพราะไม่มีจุดสนใจอะไรให้เด่นที่สุด มันควรจะเด่นทั้งภาพ. การใช้รูรับแสงแคบก็เป็นไอเดียแรกที่จะต้องมี. รูรับแสงที่เลือกใช้ประมาณ f11 ซึ่งก็ตรงกับข้อมูลของกฏ sunny16 ที่แดดแรงใช้ค่า f11 ที่ iso 100 ความไวชัตเตอร์สัมพันธ์กับ iso. ข้อมูลการถ่ายภาพนี้ออกมาที่ f11 1/100วินาที และ iso100 เป๊ะตามโพยเลย.

2018-03-17 11.24.00 1

หลับปุ๋ยเย็นๆ  eos m + 22f2 + vsco

ทริปพ่อแม่ลูก กว่าจะหอบกันขึ้นมาบนทะเลสาบแห่งนี้  ใช้พลังงานเยอะ และในช่วงบ่ายของวันก็เป็นช่วงเวลาที่จะต้องนอนของเด็กสามขวบ  ผลก็คือหลับคารถเข็นเลย  แต่พ่อแม่ก็ต้องถ่ายรูปขอบฟ้ากลับไปให้ได้  เพราะอุตส่าห์พามาแล้ว ยังไงต้องมีรูปอยู่กับน้ำตก  เราถ่ายภาพนี้ที่จุดชมวิว

2018-03-17 11.23.57 1

น้ำตกและใบไม้สีสวย  eos m + 22f2 + vsco

นั่งรถออกจากทะเลสาบออกไปสักสามสิบนาทีจะไปพบกับน้ำตกที่เป็นน้ำตกเล็กๆ  มีคนดูสักสองร้อยคน ที่ยืนก็หายาก มุมจะใช้ขาตั้งกล้องก็ยาก เพราะมีแต่คนเดินไปเดินมา ได้ยืนนิ่งๆถ่ายรูปก็บุญแล้ว  การถ่ายน้ำตกแบบพิมพ์นิยมคือต้องถ่ายให้ได้น้ำเป็นสาย สปีดชัตเตอร์ช้าไว้ก่อน  ซึ่งในทางปฏิบัติของสถานที่นี้ เวลานี้ ไม่สามารถทำได้  สิ่งที่พอทำได้ก็คือ ถ่ายภาพด้วยสปีดต่ำกว่าปกติ แต่ไม่ต่ำมาก แล้วไปลุ้นเอาว่าภาพจะชัด น้ำตกจะเป็นสาย ผมถ่ายภาพนี้ไปหลายสิบรูป เลือกสปีดที่ต่ำมาก  เลยไปลุ้นเอาว่าคงมีสักภาพที่ดูเหมือนไม่สั่น  ได้เป็ฯภาพนี้ออกมา

2018-03-17 11.23.54 1

ตู้ไปรษณีย์ eos m + 22f2 + vsco

เมื่อก่อนเวลาไปเที่ยวไหนก็จะต้องพยายามถ่ายภาพจุดที่เป็นแลนมาร์ค หรือสถานที่เด่นๆที่เป็นตัวแทนของพื้นที่ แต่บางทีก็ถ่ายตู้ไปรษณีย์ซะเลยก็ได้จะได้รู้ว่าไปไหนมา ถ้าเป็นเมืองไทยเราก็อ่านออก พอเป็นญี่ปุ่นก็ไม่รู้ว่าตัวหนังสือที่เห็นบนตู้มันอ่านว่าอะไร ถ่ายแค่นี้แล้วคนดูภาพทีหลังจะรู้ไหมว่ามันคือที่ไหน ถ้าให้เดา มันน่าจะหมายถึงตู้ไปรษณีย์ หรือสำหรับส่งจดหมาย แต่ไม่น่าจะบอกสถานที่

2018-03-17 11.23.51 2

ป้ายรถเมล์ท่ามกลางแสงแดดและแมกไม้ eos m + 22f2 + vsco

การรอป้ายรถเมล์ที่สนุกสนานจะต้องเป็นป้ายรถเมล์ที่อากาศเย็นระดับสิบองศาเท่านั้น ถ้าร้อนแบบเมืองไทยอย่าหวังว่าจะได้เห็นรอยยิ้มที่หน้าป้ายรถเมล์ รถเมล์ญี่ปุ่นตรงเวลามาก ตรงอย่างไม่น่าเชื่อ. แสงตกกระทับเป็นหย่อมๆดูสวยงามเป็นธรรมชาติ เวลถ่ายภาพแนวนี้มีโอกาสที่กล้องจะวัดแสงผิดได้ง่ายมาก  ภาพนี้ผมไม่ได้ชดเชยแสง ประเมินแล้วว่าภาพด้านหลังเป็นแนวต้นไม้สีเข้ม กล้องน่าจะเลือกค่าการถ่ายที่โอเว่อร์นิดๆเมื่อวัดแสง  ซึ่งก็บังเอิญว่ามันเป็นอย่างที่คิด

2018-03-17 11.24.01 1

รถไฟฉึกฉัก หลับได้เหมือนกัน eos m + 22f2 + vsco

รถไฟในญี่ปุ่น นอกจากรถไฟฟ้า รถไฟชินคังเซ็นแล้ว รถที่วิ่งระหว่างเมืองในความเร็วปกติก็มีใช้งานอยู่. ภาพในตู้รถไฟก็คล้ายๆกับบ้านเรา เป็นที่นั่งสองเบาะหันหน้าเข้าหากัน เด็กจะนอนก็นอนพาดยาวไปเลย โชคดีที่คนไม่มาก  การถ่ายภาพเด็กหลับเป็นสิ่งที่ง่ายดายที่สุด เสียอย่างเดียวคือต้องระวังไม่ให้กล้องสั่น เพราะเรากำลังเล็งภาพบนรถไฟที่วิ่งอยู่  แต่รถไฟญี่ปุ่นสะเทือนน้อยกว่าที่เคยคิดไว้มาก  ภาพถ่ายได้ออกมาชัดเกือบทุกรูป

2018-03-17 11.23.48 1

ยามเย็นแม่กับลูก eos m + 22f2 + vsco

ภาพแนวสตรีทแม่กับลูก บนถนนที่พลุกพล่านที่สุดของโตเกียว สถานีรถไฟที่นี่ใหญ่มากและวุ่นวายซับซ้อนมาก เวลาเย็นก่อนแสงจะหมด เลนส์ f2 ช่วยให้เก็บภาพนี้ได้ด้วยสปีดชัตเตอร์ที่ไม่ต่ำเกินไป แม่กับลูกอยู่ในจังหวะยิ้มที่พอดีสุดๆ  ผมรอจังหวะให้ลูกยกของเล่นเพื่อไม่ให้ของเล่นบังหน้า แล้วก็ถ่าย รอยยิ้มยังอยู่ ของเล่นไม่บังหน้า ย่อตัวถ่ายเสร็จแล้วรีบเดินต่อ เพราะคนเยอะมาก

2018-03-17 11.23.58 1

เล่นซ่อนหา eos m + 22f2 + vsco

เวลาไปห้างก็จะมีจังหวะลูกซน วิ่งเล่น และหยุดดูโน่นนี่นั่น รวมถึงไปยืนในที่แคบๆ ไปแอบผู้คน ห้างสำหรับแม่และเด็กในญี่ปุ่นคงไม่ถือสา  เลนส์ f2 กับภาพในร่ม ในอาคาร เป็นหน้าที่โดยจรงของรูรับแสงกว้างๆเลย สปีดชัตเตอร์เท่าไหร่ผมก็ลืมไปแล้ว รู้แค่ โฟกัสให้ตรงหน้า แล้วถ่ายเลย  องค์ประกอบภาพแนวนี้ มีให้เราถ่ายแค่2 วินาที นานกว่านี้เด็กจะวิ่งแล้ว

2018-03-17 11.23.58 2

ถูกใจ eos m + 22f2 + vsco

เมื่อถูกใจของเล่นชิ้นไหน แววตาและสีหน้าของเด็กก็เต็มไปด้วยประกายแวววาว วินาทียิ้มแฉ่งพร้อมกับสายตาที่มองมันเป็นจังหวะที่ต้องอยู่ในภาพ ของเล่นต้องอยู่ในมือมันถึงจะเจ๋ง  กล้องอย่าง eos m แม้จะโฟกัสช้า แต่ผมโฟกัสรอไว้แล้ว รอจังหวะแค่ ได้ดาบขยับไม่บังหน้า ส่วนรอยยิ้ม ลูกผมยิ้มยาวเฟื้อยนานหลายวินาทีเลย

2018-03-17 11.23.56 1

พาเรดเรือประดับไฟ eos m + 22f2 + vsco

เรือประดับไฟสวยงามเป็นส่วนหนึ่งในพาเรดตอนดึกของสวนสนุกแห่งนี้. เม็ดไฟ led ที่ประดับเต็มลำเรือเห็นเป็นภาพสวยงามให้ความสว่างมากสำหรับการถ่ายภาพ. ภาพแสงไฟหากเราถ่ายที่ค่าแสงพอดี ไม่ได้ชดเชยแสง เราจะได้แสงสว่างสวยในภาพ ส่วนฉากหลังจะมืด ซึ่งหากเป็นตอนมืดอยู่แล้ว ฉากจะมืดไปกว่าเดิมก็ไม่เสียหาย วัดแสงพอดีแล้วถ่ายเลยง่ายและเร็ว

2018-03-17 11.23.50 1

รอเครื่องบิน eos m + 22f2 + vsco

จบทริปญี่ปุ่นที่สนามบินฮาเนดะ เป็นสนามบินที่มีการตกแต่งสวยงาม ใหญ่  ทุกอย่างเร็ว ทันสมัย มีจุดชมวิวดูเครื่องบิน มีพิพิธภัณฑ์เครื่องบินให้ดู  สภาพแสงในสนามบินก็สว่างเพียงพอ กล้องอะไรก็ถ่ายสวย eos m กับเลนส์ f2 ทำงานจนนาทีสุดท้าย ภาพในทริปไม่มีวัดแสงพลาดเลย

IMG_0337

นี่คือกล้องกับเลนส์ที่เล่ามาครับ eos m กับเลนส์ efm22f2.

กระเตงลูกเที่ยวญี่ปุ่น ตอนที่ 2 นิกโก้ สูงๆหนาวๆ

กระเตงลูกเที่ยวญี่ปุ่น ตอนที่ 1 โยโกฮาม่า นิกโก้

กระเตงลูกเที่ยวญี่ปุ่น ตอนที่ 2 นิกโก้ สูงๆหนาวๆ

กระเตงลูกเที่ยวญี่ปุ่น ตอนที่ 3 นิกโก้ โตเกียว

เราเดินทางจากพื้นราบของนิกโก้ขึ้นสู่ภูเขาด้วยรถเมล์  เป็นรถสาธารณะเพียงอย่างเดียวที่มีให้นักท่องเที่ยวใช้ ที่นี่ไม่มีแท็กซี่ ไม่มีรถไฟ ไม่มีกระเช้าจากพื้นราบ การเดินทางก็คล้ายๆกับภูเขาอินทนนท์ของไทย คือขับรถเลี้ยวไปเลี้ยวมาไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ  ด้านบนจะมีทะเลสาปและน้ำตกให้ดูหลายแห่ง  อากาศด้านบนหนาวมากแถมลมแรง และยิ่งมีละอองน้ำมีฝนตก อุณหภูมิในเดือนตุลาคมน่าจะเกือบๆศูนย์องศา

IMG_9071

 

IMG_9074

 

IMG_9079

 

IMG_9099

 

กล้องถ่ายรูปตัวเดิมตัวเดียวเลนส์ตัวเดียว 22f2 บนกล้อง eos m ทำงานไปเรื่อยๆ หนาวก็ไม่กลัว ไม่แสดงอาการอะไรให้เห็น ภาพจากรูรับแสง f2 ให้ความชัดที่ตัวแบบได้โดดเด่นมาก และทิ้งด้านหลังให้นวลๆเบลอๆดูเป็นภาพที่น่ามอง  สีสันของภาพก็ให้แนวธรรมชาติไม่ได้ฉูดฉาดเกินจริง  ยิ่งถ่ายก็ยิ่งเพลิน  อาจจะมีเพียงบางโอกาสที่แดดจ้าจนทำให้เรามองหน้าจอด้านหลังไม่ค่อยเห็น ต้องอาศัยการกะเดาไปเองว่าองค์ประกอบเป็นอย่างไร  แต่สถานการณ์ที่มองจอหลังลำบากก็ไม่ได้พบบ่อย

 

IMG_9103

IMG_9104

 

ภาพตัวอย่างมุมนี้ภาพบนเป็นการปรับรูรับแสงให้แคบเพื่อความชัดลึกของภาพสูงสุด โดยปรับไปที่ f11 ซึ่งคาดหวังว่าจะให้ระยะชัดตั้งแต่ไกลสุดมาจนถึงพื้นระยะใกล้ประมาณ 1 เมตร พอถ่ายค่า f แคบๆไปแล้วก็เปลี่ยนไปถ่ายค่า f2 กันบ้าง เพื่อเก็บเป็นตัวอย่างเอาไว้เปรียบเทียบว่ารูรับแสงแคบและกว้างนั้นให้ผลต่างกันอย่างไร IMG_9117

 

IMG_9155

 

IMG_9121

 

วิวทะเลสาปแสนสวยถ่ายรูปสนุก ผมเคยชินกับวิวน้ำและเรือ และต้นไม้พอสมควร เพราะในช่วงเวลาที่เคยว่างเวลาเหลือเฟือก็อาศัยถ่ายภาพตามสวนสาธารณะอยู่บ่อยๆ สวนลุม บ่อน้ำ เรือ ต้นไม้ ล้วนเป็นของคุ้นเคย มีเพียงอากาศหนาวเย็นเท่านั้นที่หาไม่ได้จากเมืองไทย

ใบไม้เปลี่ยนสีในญึ่ีปุ่นจะมีช่วงเวลาทอง น่าจะเป็นกลางเดือนตุลาคมที่จะเปลี่ยนสีกันให้สะใจ ในช่วงเวลาต้นเดือนตุลาเราจะเห็นเพียงสัญญาณการเริ่มเปลี่ยนสี ต้นไม้บางส่วนเริ่มเปลี่ยนสี แต่อีกกว่าครึ่งยังเขียวขจี ต้องอาศัยการเลือกมุมถ่ายภาพเล็กน้อยเพื่อให้คนอื่นดูภาพแล้วจินตนาการว่าเรามาเที่ยวดูต้นไม้เปลี่ยนสีได้สมดังใจ สิ่งที่เราไม่ได้ทำในทะเลสาปบนภูเขาสูง 1800 เมตรก็คือการนั่งเรือแล้วพายให้สะบายใจ ด้วยเหตุผลว่าลูกยังเล็กยังไม่อยากเสี่ยงลงเรือเพราะเราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น

IMG_9183

 

ร้านค้าริมทะเลสาปก็จะเป็นร้านอาหาร เครื่องดื่ม กาแฟเยอะมาก  ร้านขายของที่ระลึกนิดหน่อย  เดินผ่านเห็นคุณลุงกำลังแกะไม้อย่างตั้งใจ เราก็อุดหนุนลูกข่างเล็กๆกลับมาอันนึง จากทะเลสาปเรานั่งรถเมล์อีกครั้งเพื่อไปยังน้ำตกใกล้ๆ เป็นน้ำตกที่มีคนแวะเยอะมาก ลงรถแล้วเดินจากริมถนนเข้าไปไม่มากก็ได้พบกับน้ำตกและจุดชมวิวที่มีคนพลุกพล่าน จะหาตำแหน่งถ่ายภาพสวยๆก็ยากเต็มที แถมยังไม่ได้พกขาตั้งกล้องเสียอีก การถ่ายภาพน้ำตกโดยมากจะใช้สปีดต่ำเพื่อให้สายน้ำดูนุ่มนวลกว่าที่ตาเห็น พอไม่มีขาต้งก็ต้องอาศัยวางกล้องไว้กับรั้ว วางกล้องไว้ติดเสาเพื่ออาศัยเสาและรั้วในการพยุงกล้องให้ไม่สั่นไหว เพราะสปีดการถ่ายภาพน้ำตกที่พอจะสวยนั้นจะต้องใช้สปีดต่ำระดับ 1/4 – 1/15 วินาที IMG_9257

 

IMG_9282

 

ออกจากน้ำตกเราก็นั่งรถเมลกลับลงมายังพื้นราบและผ่านสถานีรถไฟแห่งเดิมที่เราเพิ่งใช้งานมาเมื่อวาน หาของกินตามร้านก็ไม่ทันแล้วเพราะที่นี่ห้าโมงเย็นก็เริ่มมืดและร้านค้าก็เริ่มปิดกัน คงเหลือแต่ซุปเปอร์มาเก็ตที่เปิดดึกหน่อย เราก็เลยได้ฝากท้องไว้กับอาหารกล่องจากซูปเปอร์มาเก็ตริมถนน กินกันอิ่มก็เตรียมตัวเข้านอน อากาศเย็นๆแบบนี้ใส่เสื้อผ้าหนาๆพร้อมผ้าห่มกองใหญ่ก็พออุ่นได้ ดูการ์ตูนก่อนนอนอีกนิดนึง

IMG_9287

 

IMG_9289

IMG_9291

กระเตงลูกเที่ยวญี่ปุ่น ตอนที่ 1 โยโกฮาม่า นิกโก้

กระเตงลูกเที่ยวญี่ปุ่น ตอนที่ 2 นิกโก้ สูงๆหนาวๆ

กระเตงลูกเที่ยวญี่ปุ่น ตอนที่ 3 นิกโก้ โตเกียว

japan14-19jul2011Full -DSCF2504



japan14-19jul2011Full -DSCF2504, originally uploaded by pockethifi.

บทคัดย่อของญี่ปุ่นเรื่องอนุภาคนิวทริโน่ที่ได้รางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์

นี่คือ ภาพบทคัดย่อของคนญี่ปุ่นที่เป็นงานวิจัยเกี่ยวกับอนุภาคนิวทริโน่ งานชิ้นนี้ได้รับรางวัลโนเบล ภาพนี้ถ่ายที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ที่โอซาก้า เมื่อหลายปีก่อน เป็นหลักฐานว่า ironman ก็มีหัวใจ…. ไม่ใช่ เป็นหลักฐานว่าญี่ปุ่นเจริญมาก และวงการศึกษาของไทยคงห่างจากญี่ปุ่นสักร้อยปี++ โนเบลชิ้นแรกของไทยจะมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ อาจจะศตวรรษนี้ หรือ ศตวรรษหน้า

และอีกแรงจูงใจที่ทำให้ตัดสินใจเก็บไว้ก็คือ บทคัดย่อนี้ ไม่ได้เขียนด้วยฟ้อนต์ อังสนา ขนาด16 ไม่ได้เว้นหน้า 1 นิ้ว เว้นหลัง 1 นิ้ว ไม่ได้พิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ ลายมืออ่านยาก มีรอยขีดแก้ไข แต่ก็ไม่ได้ลดคุณค่าของกระดาษที่จะเปลี่ยนแปลงโลกของเรา