

ลำโพงเสียงดีสักตัวหนึ่งเป็นสิ่งที่หายากมากถ้าพิจารณาเรื่องราคาและฟังค์ชั่นการใช้งานเป็นหลัก ถ้าบอกว่าจะหาลำโพงเสียงดีงบประมาณเท่าไหร่ก็ได้ แบบนี้เดินไปช๊อปที่ห้างหรูแบบคู่ละแสนคู่ละล้านไปเลยก็ได้ แต่คนธรรมดาอย่างเราๆไม่มีปัญญาระดับนั้นหรอกครับ แค่เจียดเงินมาซื้อเครื่องเสียงหนึ่งชุดด้วยเงินสักสามหมื่นหรือห้าหมื่นก็โดนค้อนแล้ว
ภาพลำโพงคู่หนึ่งในจินตนาการของคนทั่วไปจะเป็นลักษณะตู้สี่เหลี่ยม เวลาซื้อมาใช้ต้องซื้อเป็นคู่หรือสองตัว เวลาใช้งานต้องต่อกับเครื่องเสียงสักตัวหนึ่ง คืออาจจะต่อกับเครื่องเล่นซีดีหรือดีวีดี แล้วมีแอมป์ในตัว ต่อสายลำโพงออกมายังลำโพง รูปแบบที่ว่ามาเป็นภาพมาตรฐานที่เรามักจะได้เจอกับบ้านเรือนทั่วไป
ส่วนลำโพงที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ก็จะเป็นก้อนเล็กๆสักคู่ หรือ เป็นชุด 2.1 คือมีลำโพงหลักสองตัวและมีซับวูฟเฟอร์อีก 1 ตัว ลำโพงคู่หลักวางบนโต๊ะส่วนซับวูฟเฟอร์วางไว้ที่พื้น ลำโพงแนวนี้มีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปถึงระดับหลักหมื่น ถ้าพ้นจากลำโพงคอมฯไปแล้วก็จะเป็นลำโพงสำหรับโฮมเธียเตอร์ ราคาก็จะอยู่ในระดับหลักพันไปถึงหลายๆหมื่น
แต่คราวนี้ผมได้ไปเจอลำโพงตัวหนึ่งที่มีหน้าตาประหลาด ดูแล้วคงไม่ค่อยมีใครอยากได้สักเท่าไหร่ มันไม่ใช่ลำโพงแบบที่ว่ามาตั้งแต่ต้นทั้งหมด แต่มันเป็นลำโพงที่ส่งเสียงเพลงได้ดีที่มาพร้อมฟังค์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายและมีจุดเด่นหลายอย่างที่ทำให้น่าสนใจ ผมเดินไปเจอในห้าง ทดลองฟังสักสองเพลงก็ตัดสินใจซื้อมาใช้ทันที เป็นการเลือกซื้อลำโพงที่ใช้อารมณ์เป็นหลัก เหตุผลเรื่องราคาเป็นเรื่องรอง ซึ่งราคาค่าตัวมันก็ไม่ได้สูงเกินไปเสียด้วย

ลำโพงตัวนี้เป็นของ yamaha ออกแบบมาเป็นลำโพงที่เลียนแบบหน้าตามาจากเครื่องเสียงระบบ PA หรือเครื่องเสียงสำหรับงานคอนเสิร์ตหรืองานกลางแจ้ง หรืองานวัดนั่นเอง ดูผิวเผินมันเหมือนลำโพงสำหรับนักดนตรีเอาไว้ใช้บนเวที แต่ว่าตัวจริงมันไม่ได้ใหญ่มาก คงเอาไปใช้ในเวทีคอนเสิร์ตจริงๆไม่ได้ และพลังเสียงก็ไม่ได้ดังระเบิดแบบเครื่องเสียงกลางแจ้ง เป็นเพียงลำโพงที่เอาหน้าตาแบบกลางแจ้งมาใช้ แต่ฟังคฺ์ชั่นและคุณภาพมันตั้งใจให้ใช้ในบ้านมากกว่า
ลำโพงรุ่นนี้คือรุ่น Yamaha PDX-11 ออกแบบมาเป็นลำโพงตู้เดี่ยว มีหูหิ้วเพื่อให้หิ้วย้ายไปย้ายมาได้สะดวก ไม่ต้องใช้สองมือเพื่ออุ้มประคองเหมือนเครื่องเสียงบ้านทั่วไป ตัวลำโพงตั้งใจออกแบบมาให้ใช้กับ iPod เป็นหลักเพราะมีช่องเสียบ iPod Dock อยู่ด้านบน สามารถใช้เป็นแท่นชาร์จไฟให้กับ iPod และ iPhone ได้ในตัว ตอนใช้งานก็แค่เสียบไฟให้กับลำโพงแล้วเอา iPod มาวางบน Dock จากนั้นก็เลือกเปิดเพลงจากใน iPod ได้เลย เสียงจะถูกขยายออกมาทางลำโพง คุณภาพเสียงใช้ได้เลย

ลักษณะทั่วไปของลำโพงตัวนี้คือ รับสัญญาณเสียงจาก iPod ผ่าน Dock ด้านบน สามารถรับสัญญาณเสียงจากเครื่องเล่น MP3 อื่นๆได้อีกด้วยทางสายสัญญาณที่เสียบเข้าช่อง Aux อยู่ด้านหลังตัวลำโพง ตัวลำโพงมีปุ่มเปิดปิด และมีปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียงมาด้วย แต่ไม่มีปุ่มปรับเสียงทุ้มแหลมใดๆเลย ลูกเล่นอื่นๆที่มีมาให้อีกก็คือมันสามารถควบคุมการเล่นเพลงได้ด้วยรีโมทคอนโทรล ถ้าเราใช้งานร่วมกับ iPod Touch หรือ iPhone เราสามารถใช้รีโมทสั่งการได้หลายคำสั่งมาก ไม่ว่าจะเป็นการข้ามเพลง ย้อนเพลง หรือการเลื่อนเมนูในหน้าจอเพื่อเปลี่ยน playlist ได้เลย และมันใส่ถ่านได้ด้วย ทำให้สามารถใช้งานแบบไม่ง้อปลั๊กไฟได้

เสน่ห์ของลำโพงตัวนี้คือมันออกแบบมาเป็นตู้เดี่ยว เชิดหน้าเลีียนแบบเครื่องเสียงบนเวทีคอนเสิร์ต มีหูหิ้วเป็นโลหะแข็งแรงมาก สามารถหิ้วลำโพงไปไหนมาไหนได้อย่างคล่องตัว สะดวกสุดๆ การใช้งานที่เรียบง่ายแค่เพียงเอา iPod ไปวางบน Dock บนตัวมันเท่านั้น เสียงเพลงก็ถูกขยายออกมาให้ฟังทันที ฟังในบ้านเพลินๆ อยากจะย้ายห้องก็หิ้วไปวางอีกห้องได้เลย อยากฟังในสนามก็หิ้วไปวางได้เลย เพราะ PDX-11 ใส่ถ่านขนาด AA ได้ 6 ก้อน จะใช้ถ่านธรรมดา หรืออัลคาไลน์ หรือ ถ่านชาร์จแบบ Sanyo Eneloop ก็ได้ไม่มีปัญหา ถ่าน 1 ชุดสามารถใช้งานต่อเนื่องได้เกิน 8 ชั่วโมง ถ้านานๆจะหิ้วไปฟังเพลงแบบไม่เสียบปลั๊กสักที เผลอๆถ่าน 1 ชุดอาจจะใช้งานได้เป็นเดือน

ด้านบนตัวลำโพงจะมีปุ่มเพียง 3 ปุ่ม คือปุ่ม power เอาไว้เปิดเครื่องและปิดเครื่อง อีกสองปุ่มคือปุ่มปรับระดับเสียง การมีปุ่มให้กดเพียงเล็กน้อยทำให้การใช้งานเป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องเล็ง ไม่ต้องหา เมื่อคุณคุ้นเคยกับการใช้งานมันแล้ว คุณสามารถกดสั่งการบนปุ่มได้อย่างรวดเร็ว แทบไม่ต้องละสายตามามองเลย การใช้งานกับ iPod หรือ iPhone ตัวลำโพงจะชาร์จไฟให้กับ iPod ด้วยเมื่อลำโพงถูกเสียบปลั๊ก แต่ถ้าใช้พลังงานจากถ่าน ระบบชาร์จไฟเข้า iPod จะไม่ทำงาน ดังนั้น ใครจะใช้ลำโพงตัวนี้เป็นแท่นชาร์จต้องเสียบปลั๊กไฟเสมอ

ด้านหลังลำโพงเป็นช่องเสียบสายสัญญาณ Aux เอาไว้ใช้กับเครื่องเล่นเพลงอื่นๆที่ไม่มีพอร์ตแบบ iPod สายสัญญาณที่แถมมากับลำโพงเป็นแบบ 3.5 มม. เส้นเล็กๆบางๆ ข้างๆช่องเสียบสัญญาณ Aux จะเป็นช่องเสียบไฟแบบ 12VDC ตัวลำโพงจะแถมอแด๊ปเตอร์แปลงไฟจาก 110-220 Volt เป็น DC 12V มาให้ด้วย กำลังไฟที่ลำโพงระบุไว้ต้องการไฟเลี้ยง 12V 1.5a


คุณภาพการประกอบเครื่องอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก ตัวลำโพงออกแบบมาแข็งแรง ดูจะเน้นให้หิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสบายใจ จะหยิบจะวางก็สบายใจได้ว่าไม่ทำให้ลำโพงหลุดมือหรือแตกหักเสียหายได้ง่ายๆ ตระแกรงด้านหน้าลำโพงเป็นโลหะพ่นสีสวยงาม โลโก้ Yamaha ดูเด่นเป็นสง่า ภายใต้ตะแกรงเป็นดอกลำโพงสองดอก ดอกแรกเป็นวูฟเฟอร์คาดว่ามีขนาดประมาณ 4 นิ้ว พร้อมด้วยทวิตเตอร์อีก 1 ดอกขนาดไม่เกิน 1 นิ้ว


ลำโพงมีหน้าที่สร้างคลื่นเสียงโดยการขยับกรวยลำโพงเพื่อผลักอากาศ การผลิตคลื่นเสียงเป็นเรื่องทางฟิสิกส์ การผลักอากาศให้เกิดเป็นความถี่ต่างๆต้องใช้พื้นที่หน้าตัดของลำโพงค่อนข้างมาก การทำลำโพงที่ดีจึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถลดลดขนาดให้เล็กลงได้ถ้ายังคงต้องการคณภาพที่ดีอยู่ ดังนั้นลำโพงที่ออกแบบมาให้มีคุณภาพเสียงที่ดีมักจะมีขนาดใหญ่โต ลำโพงเล็กๆที่แถมมากับคอมพิวเตอร์ทั่วไปจะไม่สามารถสร้างคลื่นเสียงความถี่ต่ำได้ในระดับที่เพียงพอต่อการฟังเพลงแบบไพเราะ ดูจากรูปร่างของ PDX-11 ตัวนี้แล้วจะพบว่านอกจากหน้ากว้างตามขนาดดอกลำโพงแล้ว ยังมีความลึกของตัวตู้อีกที่ช่วยสร้างคลื่นความถี่ต่ำให้มีคุณภาพ มั่นใจได้เลยว่า เจ้าลำโพงติดหูหิ้วขนาดอ้วนป้อมตัวนี้ถูกออกแบบมาให้เป็นลำโพงเสียงดีตั้งแต่เกิด
การใช้งานกับ iPod ทั่วไปทำงานได้ดีไม่มีปัญหา ถ้าใช้กับ iPod touch หรือ iPhone หรือ iPod nano จะสามารรถควบคุมการเล่นได้จากรีโมทคอนโทรล แต่ถ้าเราใช้กับ iPod รุ่นเก่าๆ ตั้งแต่ iPod Video ย้อนลงไปถึงตัวที่เก่ากว่านั้น เราจะไม่สามารถใช้รีโมทเพื่อสั่งเล่นหรือข้ามเพลงได้ จะสั่งผ่านรีโมทได้แค่ระดับเสียง และเปิดปิดตัวลำโพงเท่านั้น

การใช้งานลำโพงตัวนี้กับ iPod nano ดูจะเป็นสิ่งที่ลงตัวที่สุด เพราะขนาดที่เล็กของ iPos nano ทำให้มันติดอยู่กับ Dock ได้อย่างแน่นหนา สามารถหิ้วลำโพงพร้อม iPod nano ที่เสียบคาไว้ไปไหนต่อไหนได้โดยไม่หลุดจาก Dock มันดูเหมือนจะกลมกลืนเป็นระบบเดียวกันไปเลย

ใครที่ชอบฟังรายการวิทยุ online ทั้งจากโปรแกรม Tune in หรือฟังจากเว็บ หรือ รายการเสียงอะไรก็ตามที่วิ่งมาทางอินเทอเน็ต การใช้ลำโพงตัวนี้ร่วมกับ iPod Touch จะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด เพราะคุณสามารถเปิดฟังได้ทั้งวันโดยที่ไม่ต้องพะวงเรื่องการชาร์จไฟให้กับ iPod Touch ของคุณเลย แถมยังได้ฟังค์ชั่นอื่นๆมาอีกหลายอย่าง ทั้งการสั่งการผ่านรีโมทคอนโทรล และการหิ้วไปไหนต่อไหนได้ สามารถใช้งานนอกสถานที่ได้ด้วยพลังงานจากถ่าย AA เพียง 6 ก้อน และที่ถูกใจยิ่งกว่านั้นก็คือ เราสามารถใช้งานลำโพงตัวนี้ด้วยมือเพียงข้างเดียว คือหยิบ iPod ไปเสียบ แล้วก็กดเลือกฟังสิ่งที่ต้องการ ใช้มือเดียวจริงๆ ถ้าเป็นระบบอื่นๆที่เป็นลำโพงแยกชิ้น ไม่มี Dock ติดมาให้ เราต้องเสียบสายสัญญาณ Aux เราต้องเสียบสายขาร์จที่ ipod การถอดเสียบสายเหล่านี้ต้องใช้สองมือเท่านั้น แล้วใช้งานสองมือแล้วมันยากเย็นตรงไหน มันก็ไม่ยากหรอก แต่ถ้าเราถือของอยู่ หรืออุ้มลูกอยู่ เหลือมือว่างแค่มือเดียว เรายังเปิดเพลงจาก iPod ได้ นั่นเป็นสิ่งที่ผมค้นพบตอนที่อุ้มลูกครับ.

ในส่วนของคุณภาพเสียง จะบอกว่าลำโพงตัวนี้ให้เสียงเป็นกลางก็พอได้ มันมีน้ำเสียงเหมือนลำโพงบ้านทั่วไป ไม่ได้มีวงจรชดเชยหรือปรับแต่งเสียงพิเศษมาช่วยใดๆเลย ถ้าเราเคยฟังลำโพงอย่าง Bose companion2 ตัวนั้นจะเป็นลำโพงที่มีตัวประมวลผลมาช่วยเหลือ เสียงเบสลึกจากลำโพง Bose จะผ่านวงจรช่วยเหลือให้เกิดเสียงดังได้ราวกับเป็นลำโพงใหญ่ อาศัยระบบ DSP มาสร้างเสียงเบสให้กับระบบ แต่กับ Yamaha pdx-11 จะเป็นคนละทางกัน สัญญาณมายังไงมันขยายไปอย่างนั้น ไร้เทคโนโลยีใดๆ ผลก็คือ ถ้าเราเปิดฟังในระดับที่เบา เราจะไม่ค่อยได้ยินเสียงเบสต่ำสักเท่าไรนัก เพราะว่าหูคนเราจะไม่ค่อยไวกับเสียงเบส เราต้องเปิดระดับการฟังให้ดังได้ระดับที่เหมาะสม น้ำหนักเสียงเบสจะมีปรากฏให้พอดีกับกลางและแหลม ซึ่งเป็นลักษระเดียวกับลำโพงบ้านทั่วไป หมายความว่าการฟังลำโพง Yamaha ตัวนี้ ขอให้เปิดได้ดังถึงระดับหนึ่งเราจะได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุดจากมัน และที่ระดับการฟังที่เหมาะสมตรงนี้มันทำให้ลำโพงนี้มีเสน่ห์น่าใช้อยู่พอตัว มันสามารถทดแทนชุดเครื่องเสียงตามห้างทั่วไปได้โดยไม่ต้องสงสัย เสียงกลางที่สุด เบสที่ลึกมากจะแสดงออกมาได้จนรู้สึกว่า ค่าตัวสี่พันกว่าบาท ไม่แพงเลย
แต่อย่าเอามันไปเทียบกับ Bose Soundlink ที่ออกแบบมาให้เป็นลำโพงเดี่ยวเน้นการพกพาเช่นเดียวกัน เพราะ soundlink มันให้เทคโนโลยีที่สูงกว่า ดอกลำโพงมีสมรรถนะที่ดีกว่า คุณภาพเสียงดีกว่า แบตเตอรี่ที่ฝั่งมาในลำโพงก็ให้พลังงานได้มากกว่า และ มันราคาแพงกว่ากันสามเท่า ดังนั้นอย่าเทียบกัน
ลำโพงสำหรับ ipod ที่เท่ห์ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าด้วยนะเนี่ย