ชิมข้าวมันไก่เฉินกง

DSC04091

เฉินกงเป็นชื่อร้านข้าวมันไก่ ในเฟสบุ๊คของร้านแจ้งว่ามีหลายสาขา ผมไปลองกินที่สาขาถนนบางขุนนนท์ ร้านอยู่ริมถนน จอดรถยากมาก เพราะตำแหน่งร้านอยู่ติดทางม้าลาย อยู่ติดกับพื้นที่สีขาวแดง และขาวดำ ก็คือห้ามจอด ประกอบกับถนนบางขุนนนท์มีคนจอดรถแทบจะตลอดถนนในย่านที่มีของกินเปิดขาย ใครขับรถยนต์ไปกินสาขานี้ก็ต้องวัดดวงว่าจะโดนล็อคล้อหรือเปล่า เพราะทีมตำรวจในถนนเส้นนี้หูตาไวมาก น่าชื่นชมที่ขยันทำงานที่ไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักของกรมฯ ผมแวะมากินร้านนี้ในครั้งที่สองด้วยการขับจักรยานมาเพราะต้องการจะกินแบบใจเย็น ไม่ต้องกังวลเรื่องจอดรถ ดูภาพประกอบมีจักรยานอยู่หน้าร้าน นั่นแหละของผมเอง

DSC04083

สภาพร้านคนค่อนข้างน้อย ผมไปนั่งในร้านมีโต๊ะนั่งสบายๆ แต่มีมอเตอร์ไซด์มารอรับของเยอะ น่าจะแทบตลอดเวลา สั่งอาหารไปสักพักต้องรออยู่พอสมควรเลยเพราะว่าคิวของไรเดอร์มีหลายคิว อาหารมีราคาตั้งแต่จานละ 50 บาท ขึ้นไป สิ่งที่ดูในรูปแล้วอยากลองกินก็คือเมนู ไก่สับ ผัก ข้าว น้ำจิ้ม ใส่ถาดมา ดูอลังการและราคาไม่แพง

DSC04078

ไก่สับมีความวาวดูฉ่ำน่ากิน เนื้อนิ่ม ไม่แห้ง ใครชอบของนิ่มน่าจะถูกใจสุดๆ เนื้อนิ่มแบบนี้เด็กและคนแก่น่าจะชอบ ส่วนผักลวกพร้อมซีอิ๊วกระเทียมเจียวก็น่ากิน รสชาติดี ตัวเม็ดข้าวคุณภาพธรรมดาไปหน่อย ข้าวมันไก่เทพๆทั้งหลายมักจะเด่นตั้งแต่ตัวข้าว กินเปล่าๆก็อร่อย แต่ร้านนี้ยังไม่ถึงแบบนั้น น้ำซุปใส่ถ้วยเกรดธรรมดาไม่โดดเด่นให้จดจำ น้ำจิ้มมี 2 อย่าง ทั้งคู่เป็นแบบที่ผมไม่ชอบ แต่ก็กินได้ ผมคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดในร้านนี้คือเนื้อไก่ มันนิ่ม อร่อย จนต้องอ่านใบปลิวโฆษณาบนโต๊ะ เป็นเรื่องราววิธีเลี้ยงของฟาร์มไก่

DSC04085

นอกจากไก่ต้มก็มีไก่ทอด มีข้าวขาหมูด้วยแต่วันนี้ไม่ได้ลองกิน เพราะตั้งใจจะกินข้าวมันไก่ให้หายข้องใจ เมนูไก่สับเสิร์ฟพร้อมข้าวที่คุ้นเคยคือข้าวมันไก่โรงแรมแห่งหนึ่ง หลังจากชิมที่เฉินกงแล้วผมก็สรุปว่าเฉินกงอร่อยกว่า ถูกกว่า แม้ว่าอุปสรรคการจอดรถจะทำให้ไม่น่าแวะ แต่การกินแบบเสิร์ฟเป็นถาดมันดูสวยงามน่ากินมากกว่า คนที่สั่งซื้อใส่ห่อกลับบ้านไม่รู้จะจัดจานได้น่ากินเท่าที่ร้านไหม ถ้าคิดแค่เอาใส่ปากเคี้ยวๆแล้วกลืน ไม่ต้องดูความสวยงามก็คงสั่งไรเดอร์หิ้วไปได้ แต่เชื่อเถอะว่ากินที่ร้านมันน่ากินกว่า

จุดควรปรับปรุงคือน้ำซุปที่เสิร์ฟตั้งแต่ลูกค้านั่งโต๊ะ สั่งอะไรยังไม่รู้แต่น้ำซุปเสิร์ฟให้แล้ว และกว่าที่อาหารจะมาเพราะต้องรอคิวไรเดอร์หลายคิว วันที่ผมไปกินผมรอเกือบสิบนาที ทำให้น้ำซุปไม่ร้อน ดูชืดและไม่น่ากิน ส่วนที่ซื้อกลับบ้านทำได้ดีกว่า ห่อด้วยกระดาษ ให้น้ำจิ้มพริกและซีอิ๊วดำสำหรับเด็กที่ไม่กินเผ็ดด้วย ตรงนี้ดี

DSC04089

จุดเด่นคือ ไก่นิ่ม อร่อย ผักก็อร่อย
จุดด้อยของสาขาถนนบางขุนนนท์คือ จอดรถยาก ผมต้องไปจอดไกลมากและก็เสี่ยงจะโดนล๊อคล้อ ถนนนี้เขาล๊อคจริง การขับรถไปกินอะไรในถนนบางขุนนนท์ตอนกลางวันให้เตรียมเงินค่าปรับล็อคล้อด้วย สถานีตำรวจอยู่ห่างจากร้านประมาณ 400 เมตร


เริ่มเข้าใจคนญี่ปุ่นทำไมถึงมีนิสัยพูดเบา

วันหนึ่งในช่วงวันหยุดยาว ผมไปธุระที่ห้างแห่งหนึ่ง ทำธุระเสร็จก็หาอะไรกิน เหลือบไปเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวแนวญี่ปุ่นร้านหนึ่งในห้าง ดูการแต่งร้านและลักษณะที่นั่งแล้วก็เป็นคอนเส็บญี่ปุ่นเต็มๆ 

IMG_20231229_181736

ที่นั่งเรียงแถวเหมือนบาร์ ใครมาก็นั่งตามสะดวก เราก็อาจจะต้องนั่งติดกับคนแปลกหน้าบ้าง ภาพร้านอาหารและที่นั่งแบบนี้เห็นบ่อยที่ญี่ปุ่น ในหนัง ในละคร ผมเข้าไปนั่งแล้วก็เลือกสั่งก๋วยเตี๋ยวมากิน 1 ชาม นั่งอ่านข้อมูลในมือถือเพื่อรอเวลา

IMG_20231229_182336

ก๋วยเตี๋ยวเสิร์ฟแล้วก็เริ่มกิน รสชาติอร่อยดี ราคาร้อยกว่าบาท ก็ถือว่าเป็นราคาปกติของอาหารจานเดี่ยวในห้าง กินไปเพลินๆก็สะดุ้งตกใจ อยู่ๆก็มีเสียงพ่อแม่ลูกคุยกัน เขามากันสามคน นั่งอยู่ข้างๆผมเลย รู้สึกไม่คุ้นเคยเล็กน้อย แต่สิ่งที่ทำให้สะดุ้งคือเสียงคุยกัน ตัวพ่อนี่เสียงดังมาก คุยกับลูกที่น่าจะอายุสามขวบ เขาคุยกันเหมือนเด็กมีปัญหาทางการได้ยิน คุยเสียงดังจนต้องหันมอง แล้วก็ก้มหน้ากินต่อ ไม่อยากมีเรื่อง ไม่อยากทะเลาะ แค่รู้สึกรำคาญกับเสียงพูดคุยที่ดังเกินปกติ 

ทำให้นึกถึงนิสัยคนญี่ปุ่นที่มักจะพูดคุยเสียงเบาๆ นั่นคงเป็นเพราะประเทศเขามีคนเยอะ ต้องเดินทางร่วมกัน ต้องกินข้าวร่วมกันกับคนแปลกหน้าในโต๊ะอาหารที่อยู่ชิดกัน จนทำให้เขาไม่กล้าส่งเสียงดัง จะได้ไม่รบกวนคนอื่น เพราะเขาเองก็คงไม่อยากถูกรบกวนเหมือนกัน ผมเริ่มเข้าใจคนญี่ปุ่นแล้วว่าทำไมถึงไม่ส่งเสียงดังในที่สาธารณะ เพราะมันน่ารำคาญแบบไหน ได้สัมผัสเองถึงเข้าใจ

ก๋วยเตี๋ยวอร่อย แต่มลภาวะจากเสียงคุยที่ดังเกินไปทำให้รู้สึกรำคาญและอยากลุกหนีไปไกลๆ ผมเตือนตัวเองว่าต่อไป อย่าคุยเสียงดังในที่สาธารณะ มันสร้างความน่ารังเกียจอย่างรุนแรง ไม่อยากเป็นคนที่ถูกเกลียด 

สัดส่วนอาหารที่ควรกินในแต่ละมื้อ

ข้อมูลจากนิทรรศการที่เคยไปเดินเล่นเมื่อปลายปี คศ2020 ที่เมืองทองธานี

ปรับปรุงรสชาดแซนวิช

IMG_0004
แซนวิชสำเร็จรูปซื้อจากเซเว่น ดูวันหมดอายุก่อนซื้อด้วย

แซนวิชคือขนมปังสองแผ่นประกบกัน ตรงกลางระหว่างทั้งสองแผ่นจะใส่เครื่องปรุงและสิ่งที่อยากกิน แซนวิชกึ่งสำเร็จรูปในครั้งนี้เราจะกินแซนวิชเนยหน้าตาธรรมดาซื้อจากเซเว่น

IMG_0006
เตรียมเครื่องปิ้งแซนวิช เป็นเครื่องระบบไฟฟ้า

แซนวิชเนยเพียวๆ ไม่มีน้ำตาล ขายอยู่ในเซเว่นราคา 15 บาท สามารถซื้อมาแกะห่อแล้วกินได้เลย ขนมปังกับเนยก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่เราทำให้มันพิเศษขึ้นมาได้ด้วยการดัดแปลงเล็กน้อย

IMG_0008
แกะออกจากซอง ขนมปังฟูดูดีน่ากินตั้งแต่ต้นแล้ว

ปกติขนมปังกับเนย ก็จะใช้วิธีการปิ้ง ในตลาดบางแห่ง มีขนมปังเนยน้ำตาล ปิ้งแล้วราดด้วยนมข้น โรยน้ำตาล ขายเป็นของกินเล่น ร้านกาแฟหลายแห่งก็ทำขนมปังเนยน้ำตาลขายด้วย

IMG_0010
แยกแผ่นบนและล่างออกจากกัน เห็นเนยเยิ้มๆ กระจายทั่วแผ่น

แต่ถ้าเราทำร้อนด้วยการอบด้วยเครื่องทำแซนวิช เราจะได้ขนมปังเนยน้ำตาลอีกรูปแบบหนึ่ง ก่อนจะเริ่มทำให้ร้อน ก็ให้เราใส่น้ำตาลลงไปในเนยเล็กน้อย เพราะขนมปังชิ้นนี้ไม่ได้มีน้ำตาลมาให้ด้วย แต่หากไม่ชอบหวานเราก็ไม่ต้องเติมน้ำตาลก็ได้

IMG_0014
โรยน้ำตาลเพิ่มรสชาด

จัดการอบขนมปังด้วยการวางในเครื่องทำแซนวิช วิธีวางก็วางขวางไปเลย ขนมปังจะถูกแบ่งเป็น 2 ชิ้นในแนวนอน หากเราวางด้วยท่าปกติ รอยแบ่งก็จะเป็นแนวทะแยงมุม ซึ่งวางแบบไหนแล้วแต่คนทำ แต่วางแบบแนวนอนจะได้ขนมปังตอนสุดท้ายดูน่ารักกว่าแบบสามเหลี่ยม

IMG_0015
วางเอียงๆในเตา กะให้รอยกดตรงกลางของเตากดแบ่งแซนวิชกลางตัวเลย
IMG_0017
เสียบปลั๊ก รอเวลา

วางขนมปัง ปิดฝาเตา เปิดไฟเข้าไป รอสามนาทีโดยประมาณ ถ้าเป็นเครื่องทำแซนวิชไฟฟ้าก็มักจะมีระบบจับเวลามาให้ในตัว พอไฟเขียวสว่างก็แปลว่าครบเวลาแล้ว ขนมปังในเตาจะร้อนกรอบและมีสีเกรียมน้ำตาลอ่อนๆพอดีดูน่ากิน ขอบขนมปังจะเชื่อมตัวเองเป็นแซนวิช แต่ตรงกลางยังฟูป่องอยู่ ไมได้แฟบเป็นแซนวิชแบนๆ

IMG_0033
ครบ 3 นาที ไฟเขียนติด ดึงปลั๊กออก
IMG_0036
เปิดฝาดู ขนมปังเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลอ่อน

อาหารที่ร้อนมักอร่อย อาหารจำพวกขนมปังทำร้อนๆก็มักจะอร่อยกว่าของอุณหภูมิห้อง และการอบด้วยความร้อนก็จะทำให้ผิวด้านนอกมีความกรอบ ด้านในร้อนนุ่ม หยิบออกจากเตารอให้พอหายร้อนหยิบด้วยมือได้ ก็กินได้เลย อร่อยกว่าเดิมเยอะ ถ้าจะให้ดีขึ้นไปกว่านี้อีก การใส่ไส้ที่ต้องการก็น่าสนใจ จะใส่ชีสเพิ่ม ใส่ผัก ใส่ถั่ว ไส่อะไรก็ได้ที่อยากกิน อาหารอร่อยคืออาหารที่เราอยากกินซ้ำ

แซนวิชอร่อยจากเซเว่น

ปกติเวลาแวะซื้อของในร้านสะดวกซื้อผมก็มักจะซื้อกาแฟ หรือ เครื่องดื่มเย็น แล้วก็นมกล่องของลูก จนเมื่อสักเดือนก่อนไปเจอคลิปวิดีโอที่เขาทำแซนวิชกินแล้วอยากลอง เลยไปซื้อแซนวิชที่เซเว่นกิน เป็นแซนวิชที่ต้องอบร้อนก่อน ซึ่งมีหลายอย่างให้เลือกกิน

รสชาดแซนวิชที่คุ้นเคยเป็นพวก มายองเนส ปูอัด แฮม หมูหยอง มันก็แทบไม่ต่างกันกับแซนวิชทั่วไป จะเป็นระดับอุตสาหกรรมทำขายทั่วประเทศ หรือ เป็นแซนวิชบ้านๆขายในตลาดก็รสชาดไม่ต่างกันมาก เรียกได้ว่า แซนวิชในความทรงจำของผมจะเป็นของกินกันตาย ไม่เคยพบว่ามีแซนวิชแบบไหนที่อร่อยจนอยากกินซ้ำเลย

แต่วันดีคืนดี ไปลองกินสิ่งที่มันเป็นอาหารประเภทกึ่งสำเร็จ มันแขวนอยู่เต็มตู้แช่ในเซเว่น ผมลองหยิบสองอย่าง คือซื้อกลับมาทำเองที่บ้าน ก็มีห่อหนึ่งอร่อย อีกห่อธรรมดา ขนาดตอนฉีกซองมาทำกินยังไม่ได้อ่านเลยว่าแบบไหนทำก่อน แบบไหนทำทีหลัง รู้ตัวอีกทีว่ามีแบบที่อร่อยอยู่ 1 อย่าง ก็เลยไปเหลือบดูที่ถังขยะว่าเราทิ้งแซนวิชอะไรไปบ้าง จำชื่อไว้แล้ววันพรุ่งนี้ค่อยไปซื้อมาลองใหม่

วันใหม่ผมซื้อแซนวิชที่เป็นรุ่นเดียวกับที่ไปหาจากถังขยะเมื่อวาน มันคือแซนวิชชีสเพียวๆ หรือชื่อเต็มหน้าห่อเขียนว่าชีสโทสแซนวิช ซึ่งเป็น 1 ใน 2 อย่างที่ผมได้ลองกิน และลองซื้อตัวนี้มาซ้ำ แล้วก็ทดลองทำกินก็พบว่ามันคืออันที่ผมรู้สึกอร่อยนั่นเอง จะให้ดูภาพเต็มของห่อนี้

IMG_0018

มันอร่อยจริงๆ เพราะหลังจากที่ผมจำได้แล้วว่าตัวนี้อร่อย อีก 5 ครั้งที่เดินเข้าเซเว่นเพื่อไปซื้อ ก็ของหมดไป 4 ครั้ง เดาว่ามันคงขายดีมาก แม้ราคาจะแพงกว่ารสชาดอื่นนิดหน่อย แต่มันก็คงได้รับความนิยมจริงๆ ภาพที่ผมเจอในเซเว่นหลายครั้งคือแซนวิชตัวนี้ไม่อยู่บนชั้นวาง

IMG_20190608_181704_1

ให้สังเกตช่องที่ว่าง มันเป็นช่องที่ของหมด นั่นคือ ชีสโทสที่หมดบ่อยมาก และในบางครั้งที่ตั้งใจเข้าร้านไปซื้อ อยากจะได้สักหลายๆซอง บางทีก็ได้ซองเดียว ซึ่งร้านเซเว่นมีอยู่มากมายหลายสาขา ผมแวะเกือบทุกสาขาที่ขับรถผ่าน ทั้งที่ทำงาน และที่บ้าน รวมไปถึงในปั๊มน้ำมันด้วย มันหมดไวมากจริงๆ

ด้วยความสนใจในแซนวิชตัวนี้เลยลองหาข้อมูลหลายๆด้านทั้งเรื่องบริษัทที่ทำขายและการทำแซนวิชหลายๆแบบ ก็พบว่า บริษัทที่ทำอาหารตัวนี้มียอดขายปัจจุบันประมาณ 1พันล้านบาท จากจุดเริ่มต้นที่ลองทำเล็กๆเมื่อหลายปีก่อน คงเป็นเพราะรสชาดที่ดีและมีบริการอบร้อนในร้านให้ด้วยทำให้ได้รับความนิยม และสร้างยอดขายได้มหาศาล

ส่วนการทำแซนวิชก็พบวิธีทำมากมาย หลายสูตรอาหาร ส่วนใหญ่แซนวิชจะเป็นอาหารมื้อเช้าของคนที่ไม่ค่อยมีเวลา เพราะใช้เวลาทำไม่นาน และยิ่งมีแซนวิชกึ่งสำเร็จรูปให้ซื้อมาทำก็ยิ่งประหยัดเวลาไปมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นอาหารนิยมทำกินในการเที่ยวแคมปิ้งเดินป่า การเตรียมตะแกรงปิ้งแซนวิชติดรถเข้าไปเที่ยวนอนเต๊นท์ ไปทำอาหารกินในป่าเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้การชงกาแฟแบบดริปกลางป่า นักเที่ยวแนวนอนกลางดินกินกลางทรายจะมีหม้อสนาม เตา อุปกรณ์จุดไฟ และเมนูทำกับข้าวง่ายๆแต่น่าสนุก

แซนวิชมีความคล้ายแฮมเบอเกอร์ แต่จะมีความร้อนที่ทำให้ขนมปังเกรียมร่วมด้วย การทำก็มีหลักการคล้ายๆกันคือ เอาเนื้อสัตว์ ผัก เนย ชีส อะไรก็ตามที่อยากกินไปแทรกอยู่ระหว่างขนมปัง แล้วก็เอาไปทำให้ร้อน ขนมปังร้อนจนเกรียมก็จะกลายเป็นแซนวิชกรอบนอกนุ่มใน

Screenshot_20190610-094004

เตาปิ้งแซนวิชมีวางขายในห้างเกือบทุกที่ จะเป็นเตาไฟฟ้า ราคาไม่กี่ร้อยบาท แทบจะเป็นของขวัญจับฉลาก ของแจกปีใหม่ของหลายๆคน ส่วนตะแกรงปิ้งแซนวิชแบบพกพาเข้าป่าได้ก็มีราคาที่สูงกว่าแบบไฟฟ้า เป็นสิ่งที่เหลือเชื่อว่าของที่ไม่มีระบบไฟฟ้ากลับมีราคาแพงกว่าเตาปิ้งสำเร็จรูป แต่มันก็คงเป็นเพราะตะแกรงปิ้งมันผลิตมาน้อยกว่าทำให้ราคาต่อหน่วยมันแพงกว่า

Screenshot_20190610-094034