หนังสือดี สำหรับคนอยากสร้าง connection

วันนี้ผมได้ค้นพบหนังสือดีเล่มหนึ่งที่น่าใช้เวลาอ่านอย่างมาก เป็นหนังสือที่ได้แถมมาจากการอบรมครั้งหนึ่งของ bni ประเทศไทย โดยหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่แปลมาจากต้นฉบับของ Dr Ivan misner ผู้ก่อตั้้ง BNI หนังสือเล่มนี้ชื่อว่า The Connector Effect

Ivan Misner เป็นผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิสัยทัศน์ขององค์กรเครือข่ายธุรกิจ BNI

บริษัท BNI เป็นบริษัทที่สอนการขยายธุรกิจด้วยเทคนิคการตลาดแบบบอกต่อ ซึ่งผมเป็นสมาชิกของ BNI มาหลายปีแล้ว และก็ได้รับการบอกต่อ แนะนำลูกค้าให้กับธุรกิจของผมเองอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ผมก็แนะนำลูกค้าของผม เพื่อนของผมไปอุดหนุนสมาชิกคนอื่นในกลุ่มด้วย การบอกต่ออย่างมีระบบทำให้การขยายธุรกิจเป็นเรื่องสนุก และเบื้องหลังการบอกต่ออย่างได้ผลก็มาจากองค์ความรู้ที่ BNI รวบรวมเอาไว้และถ่ายทอด สอนให้กับสมาชิกได้ทำตาม

IMG_20211206_192935

เคล็ดลับที่ไม่ลับก็คือ คนจะบอกต่อเพื่อนให้มาอุดหนุนเรา มันต้องเกิดจากความไว้วางใจว่าคนแนะนำเขาเชื่อถือเรา ไว้ใจเรา เขาจึงกล้าแนะนำคนอื่นมาอุดหนุนเรานั่นเอง ความไว้ใจสร้างได้ ความน่าเชื่อถือสร้างได้ และมีตัวอย่างมากมายที่เกิดขึ้นทุกๆวัน ทุกๆสัปดาห์ที่เราไปร่วมประชุมกับกลุ่ม

กรณีตัวอย่างที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้ บางส่วนก็เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับผม เมื่ออ่านมาพบก็รู้สึกว่า การทำให้ผู้คนประทับใจก็เป็นวิธีการสร้างความน่าเชื่อถือได้เช่นกัน กรณีตัวอย่างในนั้นก็คือเรื่องต่อไปนี้

IMG_20211207_074436

สิ่งที่ได้จากการอ่านย่อหน้านี้ไม่ได้ยิ่งใหญ่ ไม่ได้แปลกประหลาด แต่มันเป็นเรื่องเล่าที่จูงใจให้ทำตามถ้ามีโอกาส ความประทับใจในการประกอบอาชีพมันจะดีที่สุดถ้ามีคนชื่นชมเรา และเขาไปบอกต่อคนอื่นในเรื่องราวแนวนี้ ใครทำงานอยู่และกำลังจะขยายธุรกิจ ขอให้ได้ลองมาเข้ากลุ่มกับนักธุรกิจแนวบอกต่อแบบนี้ รับรองว่าจะมีความอยากทำงานมากขึ้นแน่นอน เพราะว่าแนวคิดและองค์ความรู้ของ BNI ทำให้เราอยากมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจของเรา ซึ่งมันเป็นแง่มุมที่ดี มันดีกับตัวเราเอง

เตรียมงาน NEC

ผมและเพื่อนในภาพเป็นสมาชิกในกลุ่มนักธุรกิจกลุ่มหนึ่งที่จะพบปะกันเป็นประจำ และการทำกิจกรรมในที่ประชุมจะมีการพูดในหลายหัวข้อ หัวข้อหนึ่งที่ผมรับผิดชอบเป็นหน้าที่หลักคือการให้ความรู้กับสมาชิก เนื้อหาที่นำมาถ่ายทอดก็จะเป็นองค์ความรู้ที่สะสมมาของกลุ่ม ซึ่งก็คือความรู้เกี่ยวกับการตลาดแบบบอกต่อ หรือ referral marketing

IMG_20170309_223838

ความรู้ที่นำเสนอจะผลัดเปลี่ยนแต่ละคนไปนำเสนอ เรื่องราวต่างๆที่บอกเล่า ปีละประมาณ 50 ครั้ง 50 เรื่อง เนื้อหาที่เยอะขนาดนี้เราเลยต้องเตรียมงานกันอย่างจริงจังหน่อย และเนื้อหากส่วนมากที่เราเตรียมก็จะพบได้ในหนังสือเล่มนี้ มันคือหนังสือของ bni ที่พิมพ์ขายทั่วโลก

IMG_20180124_101324

ความสำเร็จที่หนังสือเล่มนี้จะมีให้เราไม่ใช่ความร่ำรวย ไม่ใช่การเป็นเศรษฐีหรืออิสรภาพทางการเงิน แต่เป็นการได้พบกับว่าที่ลูกค้า ซึ่งยังไม่เป็นลูกค้า แรงบันดาลใจที่ได้จากหนังสือเล่มนี้คือ อ่านจบแล้วเราอยากออกไปทำงาน อยากออกไปพูดคุยกับผู้คน ส่วนจะได้งานหรือเปล่า ได้เงินหรือเปล่า ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของว่าที่ลูกค้า และสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนตัวเราไปตลอดการก็คือ เมื่อก่อนเราจะไปหาคนไม่รู้จักแล้วถามเขาว่าอยากซื้อของเราไหม แต่เมื่อผ่านหนังสือและได้รับแนวคิดในการทำตลาดแบบบอกต่อ เราจะเปลี่ยนประโยคคำถามไปเป็น “ธุรกิจคุณต้องการลูกค้าแบบไหน ผมมีลูกค้าแบบนี้ใช้ได้หรือเปล่า?” แนวคิดนี้มันประหลาดแต่ไม่ผิดปกติ และมันเกิดผลลัพธ์ด้วย

การช่วยเหลือคนอื่นทำธุรกิจ เป็นเรื่องของการให้ ถ้าสังคมเราตั้งท่าจะรับ เราก็จะพบว่าไม่มีใครให้และสุดท้ายจะไม่มีใครได้รับ

แต่ถ้าเราตั้งท่าจะให้ เราจะพบว่ามีคนได้รับแน่นอน

NEC pocket05

การทักทายในโหมดนักธุรกิจ
IMG_8375

สวัสดีครับ คนไม่รักสันโดษ

เวลาเราไปเจอใครก็ตามที่ถามทุกข์สุขกัน คำถามที่มักจะเจอก็คือ  เป็นไงบ้าง  งานเยอะไหม  มีอะไรน่าสนใจรึเปล่าและเราก็มักจะตอบกันแบบเคยชิน  ก็ดี  เรื่อยๆ  ยุ่งมาก  คำตอบแนวนี้จะทำให้คนตอบไม่ค่อยคึกคักเท่าไหร่ คนฟังก็เหมือนกัน คือฟังแล้วไม่อยากทำงานต่อ  ฟังแล้วเนือยๆ เปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า  แทนที่คนถามจะส่งต่อลูกค้าให้เรา  พอเจอเราตอบว่า ยุ่งมาก  เขาก็ไม่กล้าส่งลูกค้าให้ซะแล้ว

สิ่งที่เราควรทำก็คือ ตอบคำถามให้สร้างสรร  ตอบคำถามให้นำไปสู่งานใหม่  คำตอบควรจะพาธุรกิจเข้ามา ไม่ใช่ปฏิเสธธุรกิจ

เรามีคำตอบดีๆให้ลองเอาไปปรับเล็กน้อยเพื่อใช้กับธุรกิจของทุกท่านครับ

ช่วงนี้เป็นไง

แทนที่จะตอบว่า ก็ดี  ยุ่งมาก  ลองเปลี่ยนเป็น

A1  ชีวิตตอนนี้เยี่ยม  ผมกำลังจะจบงานลูกค้ารายใหญ่

A2  ผมกำลังสนุกมาก  เพราะผมกำลังขยายแฟรนไชน์

มันอธิบายว่าคุณงานเยอะ  แต่คุณยังมองหาความก้าวหน้าและงานที่มากขึ้น

 

 

งานเยอะไหม

แทนที่จะตอบว่า เรื่อยๆ  งานเยอะทำไม่ทันเลย

A1 ปีนี้ผมมีลูกค้าใหม่ 8 รายแล้ว แต่ผมตั้งเป้าไว้ที่ 20

A2 ยอดขายเพิ่มขึ้น 50% และผมวางแผนจะเพิ่มคนงาน

A3 ช่วงที่ผ่านมายอดขายเป็นไปตามเป้า  เรากำลังวางแผนเพิ่มเป้า และเพิ่มลูกค้า

 

 

มีอะไรใหม่ มีอะไรน่าสนใจไหม

แทนที่จะตอบว่าตอนนี้ว่างๆ  ไม่มีอะไรใหม่

A1 ผมกำลังเทรนพนักงานขายคนใหม่ คนนี้ท่าทางขายเก่ง

A2 ผมให้สัมภาษณ์หนังสือไปเล่มหนึ่ง  คาดว่าจะได้วางแผงเร็วๆนี้

A3 ตอนนี้ผมกำลังลงเรียนคอร์สการลดขั้นตอนการบริหารงานขาย

 

นี่เป็นตัวอย่างการตอบคำถามที่เรามักจะต้องตอบในชีวิตประจำวัน  เราควรจะเตรียมคำตอบเหล่านี้เอาไว้ในใจตอบให้ขึ้นใจ  เพื่อจะให้มันดีกว่าการตอบว่า เรื่อยๆ  หรือ ยุ่งมาก เพราะถ้าคุณตอบว่ายุ่งมาก  เพื่อนคุณที่กำลังจะส่งลูกค้ามาให้อาจจะเปลี่ยนใจไม่กล้าส่ง

อย่าลืมว่า เราพบกันใน bni เพราะเราอยากได้ธุรกิจใหม่  อยากได้ลูกค้าใหม่

NEC pocket04

วันนี้เราจะมายกตัวอย่างการส่ง ref ที่เป็นธุรกิจต่อเนื่องให้สมาชิกในทีมนะครับ

IMG_0205

เริ่มต้นจาก  มีนักอสังหาฯ ไปรับงานขายบ้านเดี่ยวหลังหนึ่ง  ลูกค้าของเขาเป็นเศรษฐี  แต่ไม่มีเวลาประกาศขายเองจึงเลือกใช้บริการนักอสังหาริมทรัพย์หรือตัวแทนขายบ้าน  นักอสังหาฯ เริ่มงานบริการของเขากับลูกค้า  สิ่งที่ตามมาก็คือ  นักอสังหาฯ มีประสบการณ์สูง  รู้ว่าบ้านสะอาดมีโอกาสขายได้สูงกว่าบ้านสกปรก  ก็เสนอบริการทำความสะอาดเพิ่มเข้าไป   นักอสังหาฯ รู้ว่า ภาพถ่ายบ้านสวยๆ จะทำให้ลูกค้าสนใจมากกว่าภาพถ่ายคุณภาพต่ำ  ก็เสนอบริการถ่ายภาพเพิ่มให้  ขั้นตอนการขายยังดำเนินไปถึงการสั่งพิมพ์ป้ายแบนเนอร์อีกด้วย จะเห็นได้ว่า  การติดต่อลูกค้าหนึ่งครั้งจะไม่จบแค่เพียงหนึ่งบริการ แต่เอเจ้นสามารถยิงคำถามไปยังลูกค้าเพื่อถามหาบริการอื่นๆที่เขามองหา  ทั้งบริการที่ลูกค้าอยากได้โดยตรง  และบริการต่อเนื่องที่เราสามารถคอนซัลให้กับลูกค้าได้ เพื่อนำธุรกิจส่งต่อให้กับทีม

การถามเพื่อชี้นำลูกค้าเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราสามารถส่งลูกค้าเข้าสู่สมาชิกท่านอื่นๆได้  หลังจากวันนี้  ให้ท่านลองดูนะครับ  เมื่อท่านบริการลูกค้าของท่านเสร็จแล้ว  ให้ลองถามถึงสิ่งที่เขาต้องการเพิ่มเติม  หรือ ให้ท่านลองวิเคราะห์ลูกค้าของท่าน แล้วเสนอสิ่งที่ลูกค้าควรจะใช้หรือสิ่งที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าของท่านเพื่อนำพาลูกค้ามาใช้บริการอื่นๆในทีมของท่าน  ถ้าคุณเป็นมืออาชีพเพียงพอ  ถ้าลูกค้าไว้ใจคุณอยู่แล้ว  การแนะนำ การคอนซัลใดๆของคุณ  หรือการนำเสนอเซอร์วิสอื่นๆของทีม  คุณจะทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ  และลูกค้าไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียด  ตราบใดที่คุณหาของดี หรือ บริการดีๆให้ลูกค้า