Redmi note7 12M vs 48M pixels

redmi note7

โทรศัพท์ Redmi รุ่น note7 เป็นโทรศัพท์ที่มีจุดเด่นหลายอย่าง หนึ่งในหลายอย่างนั้นคือระบบการถ่ายภาพมีโหมดความละเอียดสูง โดยภาพปกติจะมีขนาด 12Mpixels ส่วน โหมดพิเศษจะสามารถถ่ายภาพที่ความละเอียด 48Mpixels ได้ ซึ่งก็ทำให้เกิดความสงสัยว่า เป็นขนาด 48 M ที่ขยายด้วยซอร์ฟแวร์หรือเปล่า หรือฮาร์ดแวร์มีความสามารถเก็บภาพละเอียดขนาดใหญ่ได้จริงๆ เลยทดสอบดูดังนี้

IMG_20190617_191150

ถ่ายภาพที่มุมเดียวกันในโหมด 12Mp และ 48Mp แล้วเอาทั้ง 2 ภาพมาเปรียบเทียบกัน โดยการขยายขนาดของภาพ 48Mpไปที่ 100 % และขยายภาพจาก 12Mp ให้มีวัตถุในภาพใหญ่เท่ากับ 48Mp

compare 12vs48mpixcels

ด้านซ้ายคือภาพจาก 12Mp ส่วนด้านขวาคือ 48 Mp จะเห็นได้ว่า ตัวหนังสือคำว่า”จำนวนเงิน” ในด้านซ้ายอ่านยากมากเพราะตัวหนังสือติดกันเป็นพรืด ขณะที่คำเดียวกันที่ฝั่งขวาอ่านออกชัดเจน นั่นหมายความว่าด้าน 48Mp มีความคมชัดกว่า นี่น่าจะเป็นข้อยืนยันว่า 48Mp ของ redmi note7 น่าจะเป็น 48Mp จริงๆ เพราะมีรายละเอียดที่คมชัดกว่า 12Mp อย่างชัดเจน

ทดลอง contax T3 เทียบกับกล้องดิจิทัล

กล้อง contax T3 เป็นกล้องคอมแพ็คไฮเอนด์ตัวหนึ่งของวงการถ่ายภาพ น่าจะเป็นตัวที่มีราคาแพงที่สุดในตลาดมือสองที่ซื้อง่ายขายคล่อง จุดเด่นที่ความเล็ก กระทัดรัด และโฟกัสเร็ว วัดแสงแม่น เป็นสิ่งที่ทำให้กล้องตัวนี้คือเครื่องมือชั้นดีในการถ่ายภาพของช่างภาพที่ชอบฟิล์ม

แล้วมันดีจริงไหม มันเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันหรือเปล่า มันเหมาะที่จะไขว่คว้าหามาครอบครองไหม ตอบเลยว่าไม่ได้เหมาะกับทุกคน เพราะราคามันแพงมาก และมีความเสี่ยงว่า ถ้ากล้องพัง จะซ่อมกันยังไง ประวัติการซ่อมกล้องตัวนี้ยังมีน้อย นั่นคือมันยังไม่หมดอายุกันเหมือนกล้องอายุมากตัวอื่น ถ้าเทียบกับ Leica Minilux เจ้า Minilux จะเสียเยอะกว่า แต่ช่างเมืองไทยก็ซ่อมกันเก่งมาก ซ่อมจนชำนาญ เรียกได้ว่า ถ้าจะทำมาหากินกับกล้องฟิล์มในยุค 4g กำลังจะเข้า 5g ช่างต้องซ่อม Minilux ให้ได้ เพราะมันเสียทุกตัว ซ่อมได้ก็แปลว่าจะมีงานมาจากทั่วโลกแน่นอน

กลับมาที่ contax T3 ต่อ ผมใช้กล้องตัวนี้ราวกับเป็นกล้องปัญญาอ่อน เพราะตอนที่ถือกล้องคอมแพ็ค เราจะไม่สามารถปราณีตกับการจัดองค์ประกอบในแบบกล้อง SLR เพราะช่องมองภาพมันไม่ได้เป็นช่องที่มองผ่านเลนส์ แถมระบบวัดแสงอัตโนมัติที่กล้องมีนั้นก็ไม่ใช่ระบบการวัดแสงเฉพาะจุดที่ตอบสนองความคิดของคนถ่ายอย่างความแม่นยำถูกต้องเทียบเท่า SLR รุ่นโปร แต่ถึงแบบนั้นเราก็ยังอยากใช้เพราะมันราคาแพง เพราะมันเท่ห์ เพราะมันเป็นที่ต้องการของตลาดมือสอง และการมีกล้องแพงและหายากใช้งานกับมือมันก็สร้างความรู้สึกดีได้ไม่น้อย

ถือถ่ายไปสักพักก็รู้สึกอยากเปรียบเทียบ ก็เลยเป็นที่มาของการเปรียบเทียบภาพที่ถ่ายในมุมเดียวกัน หรือใกล้เคียงกัน ลองไล่ดูไปทีละภาพแล้วก็ตัดสินใจเองว่าเราชอบสิ่งที่มันเป็นผลผลิตของกล้อง contax T3 ไหม และความเห็นที่ผมบรรยายก็เป็นเพียงความเห็นส่วนตัว เป็นอคติ เป็นอัตตา เป็นอารมณ์ เป็นเรื่องความชอบที่แต่ละคนมีไม่เหมือนกัน

000006
แพทคาเฟ่ – contax t3 + fuji c200
IMG_5689
แพทคาเฟ่ – eos m + efm 22f2
IMG_5690
แพทคาเฟ่ – eos m + efm 22f2

ภาพแรก ร้านอาหาร แพทคาเฟ่ ตั้งอยู่บนถนนดินสอตัดกับถนนพระสุเมร ใกล้ถนนราชดำเนิน ร้านนี้เป็นร้านอาหารที่มีอาหารให้สั่งเยอะมาก ผมแวะร้านนี้ในเช้าวันอาทิตย์ ดูข้อมูลการถ่ายภาพจากกล้องดิจิทัลก็เป็นช่วงเวลา 7.59 น. วันอาทิตย์ แสงแดดนอกร้านยังไม่แรงมาก โทนแสงแดดยังเป็นสีเหลืองเพราะยังเช้าอยู่ กล้องฟิล์มถ่ายด้วยโหมด P กล้องดิจิทัลถ่ายด้วยโหมด Av ตั้งค่า f2

กล้องดิจิทัลให้ภาพที่ทันใจ มีข้อมูลวันที่ต่างๆครบถ้วน ถ้าไม่มีภาพดิจิทัลที่ถ่ายเก็บไว้ ผมจะไม่รู้เลยว่าผมแวะไปร้านนี้วันไหน ถ่ายตอนกี่โมง เพราะกว่าที่จะส่งฟิล์มไปล้างผมก็ต้องรออีกนานกว่า 2 เดือนกว่าที่จะถ่ายภาพจนหมดม้วนฟิล์ม โทนสีที่สแกนฟิล์มออกมาติดไปทางแดงมากจนเกินพอดี ถ้าสแกนให้ปราณีตกว่านี้ หรือ สแกนด้วยตัวเองก็น่าจะได้สีสันที่ตรงใจมากกว่านี้ แต่ผมไม่มีสแกนเนอร์แล้ว มันเสียไปหลายปีแล้ว และยังไม่อยากซื้อใหม่

000029
IMG_5700

ลองดูภาพอีกมุม หลังจากสั่งอาหารไปแล้วก็นั่งรอ ลูกเบื่อก็เลยขอวาดรูปเล่น พอวาดไปสักพักจนเพลินๆ ผมก็หยิบกล้อง contax T3 ขึ้นมาถ่ายภาพ โดยเจตนาถ่ายให้เหมือนกับเป็นนักท่องเที่ยว คือเปิดกล้อง เล็ง แล้วถ่ายเลย กล้องก็ยิงแฟลชให้ทันที เพราะค่ามาตรฐานของกล้อง T3 จะเป็นแฟลชระบบ auto เมื่อเจอสถานการณ์แสงน้อย หรือ ย้อนแสง กล้องเปิดแฟลชให้เสมอ หากเราไม่ต้องการแฟลช เราจะต้องกดปุ่มปิดแฟลชทุกครั้งที่เปิดกล้อง นี่เป็นจุดน่ารำคาญของกล้อง T3 ซึ่งแม้แต่ Minilux ก็น่ารำคาญยิ่งกว่าเรื่องปิดแฟลช

ส่วนภาพจากกล้องดิจิทัล eos m ติดเลนส์ 22f2 โหมดถ่ายภาพตั้งเป็น P กล้องเลือกรูรับแสงที่ f4 ให้ ก็ให้ภาพได้สวยงาม นุ่มนวล เก็บบรรยากาศได้ดี ดูผ่านๆแล้วดีกว่า T3 เสียอีก แน่นอนว่าเป็นเพราะกล้องดิจิทัลออกมาทีหลัง เลนส์ติดกล้องก็เป็นเลนส์ฟิกส์คุณภาพสูง ระหว่างสองภาพนี้ ผมยังรู้สึกว่ากล้องดิจิทัลให้ภาพที่ดีกว่า ชอบภาพจากกล้องดิจิทัลมากกว่า

มุมรับภาพของ T3 เป็นเลนส์ 35มม ส่วนมุมรับภาพของ eos m + 22f2 ก็เทียบเท่ากับ 35 มม. ซึ่งมันเป็นช่วงเลนส์ที่เทียบเท่ากันได้ ยิ่งหากถ่ายด้วยโหมด P ด้วยกันทั้งคู่แล้วจะใช้ตัวไหนก็ได้ จะ T3 หรือ eos m1+22f2 ก็พอกัน ในระยะยาว T3 จะรอวันพัง ส่วน eos m ยังไม่รู้ว่าจะพังเร็วหรือช้า แต่ราคามือสองของ eos m รุ่นแรกหาได้ในงบไม่เกิน 3000 บาท แต่ที่แน่ๆ สามารถอัพเกรดบอดี้ให้ใหม่ขึ้น ความคมชัดของดิจิทัลจะสูงขึ้นไปอีกตามคุณภาพของบอดี้ใหม่ๆ ภาพนี้ดีขึ้น คมชัดมากขึ้น ถ้าเปลี่ยนกล้องเป็น eos m5 ที่ความละเอียดสูงขึ้นและให้ไฟล์ภาพที่ดีกว่าแน่นอน

อีกมุมหนึ่งที่จะใช้เป็นมุมทดสอบได้บ่อยก็คือ การถ่ายภาพลูกกำลังหลับอยู่ที่เบาะแถวสองในรถของผมเอง จังหวะที่ลูกหลับอยู่ แล้วได้จอดรถอยู่นิ่งๆ มีกล้องอยู่ในมือก็จัดการถ่ายภาพเก็บไว้ และวันนี้ก็มีทั้ง contax T3 กับ eos m + 22f2 ก็ลองถ่ายทั้งสองตัว ได้ภาพมาดูตามนี้

000046
contax T3 + fuji c200

IMG_5790
eos m + 22f2

มุมที่รับภาพใกล้เคียงกันมาก ตัวคนในภาพก็มีขนาดสูสีกัน มีเพียงบุคลิกสีเท่านั้นที่แตกต่างกัน จะบอกว่าฟิล์มให้ภาพดีเท่าดิจิทัลก็ได้ หรือดิจิทัลเลียนแบบฟิล์มก็พอไหว มันเกิดจากการพยายามถือกล้องให้นิ่ง และปราณีตกับการโฟกัสให้ตรงจุดที่ต้องการ ส่วนการวัดแสงก็ปล่อยให้ระบบของกล้องทำงานไปตามที่ถูกออกแบบมา สองภาพนี้สำหรับผมถือว่าสมบูรณ์ในแง่การบันทึกภาพ จะให้ใช้ตัวไหนก็ได้รู้สึกเข้ามือทั้งสองตัว ข้อดีของ contax T3 คือ เล็กและเบา ข้อดีของดิจิทัลคือประหยัดเงิน หากคุณจะเลือกใช้ เหตุผลใดสำคัญกว่าก็เลือกไปตามเหตุผลของตัวเอง ใครเน้นประหยัดไปดิจิทัล ใครเน้นเล็กและพกพาแทบไม่เป็นภาระก็ไป contax T3 ได้เลย

ในยุคปัจจุบัน ปี พศ 2562 นี้ การยกกล้องฟิล์มขึ้นมาถ่ายใครสักคน คุณจะได้ความสนอกสนใจอย่างเหลือเชื่อ คุยกับเด็ก เด็กก็จะสงสัยกล้องอะไรถ่ายแล้วไม่มีภาพ แต่ก็จะตั้งท่าเป็นนายแบบให้ แล้วถามว่าจะได้ดูภาพตอนไหน เพราะเป็นสิ่งที่เขาไม่คุ้นเคย เด็กยุคนี้โดยเฉพาะเด็กอนุบาลถึงประถมมัธยมจะรู้จักแต่การถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์และกล้องดิจิทัล คุยกับวัยรุ่น วัยที่เพิ่งจบออกมาทำงานเขาก็จะทักว่า เท่ห์ดีนะ คุยกับคนวัยกลางคนหรือคนที่เคยจับฟิล์มเคยใช้กล้องฟิล์มมาบ้างคนกลุ่มนี้ก็จะรู้สึกโอ้โห ยังใช้อยู่เหรอ มันดีกว่าเหรอ เจ๋งดีนะ แต่เปลืองนะ ส่วนคนวัยดึกรุ่นพ่อรุ่นแม่ก็จะสงสัยว่าจะไปล้างฟิล์มที่ไหน เมื่อไหร่จะได้ดูภาพ สรุปว่า แต่ละคนจะมีปฏิกิริยากับการถ่ายภาพด้วยฟิล์มไม่เหมือนกันเลย

ลองกลับไปย้อนอ่านรีวิวกล้อง eos m กับ contax T3

เทียบกล้องโปร กับ กล้องถ่ายเล่น

canon eos 6d กับเลนส์ 24-105F4L is เป็นชุดถ่ายภาพระดับจริงจังของผมเอง ส่วนชุดพกพาถ่ายเล่นในวันเบาๆ ไม่ได้เอาไปรับงานก็จะใช้ eos m กับเลนส์ efm 18-55 is stm มีโอกาสได้ถ่ายภาพเปรียบเทียบกัน จะแตกต่างกันแค่เพียง eos m จะติด cpl ไว้ที่เลนส์ด้วย

IMG_0039
eos 6d + 24-105is F4L
IMG_6094
eos m + 18-55is + cpl


IMG_20190417_122339
huawei p9

ลองถ่ายในมุมคล้ายๆกันในทริปกระบี่ เป็นทะเลที่เกาะรอก น้ำทะเลสวยใส ชายหาดขาวสะอาด แสงแดดจัดแสบตามากหากมองทรายด้วยตาเปล่า

IMG_0041
eos 6d + 24-105is F4L
IMG_6119
eos m + 18-55is + cpl
IMG_0077
eos 6d + 24-105is F4L
IMG_6198
eos m + 18-55is + cpl

IMG_0071
eos 6d + 24-105is F4L
IMG_6188
eos m + 18-55is + cpl

IMG_0073
eos 6d + 24-105is F4L
IMG_6189
eos m + 18-55is + cpl

เปรียบเทียบเลนส์ canon 15-45 กับ 18-55 บน eos m

กล้อง eos m เป็นกล้อง mirrorless ของ canon  ตอนที่เปิดตัวระบบนี้ออกมาจะมีเลนส์ kit ติดกล้องออกมาตัวแรกเป็น EF-M18-55mm f/3.5-5.6 IS STM ภายหลังจากนั้นอีกประมาณ  2-3 ปี ก็มีเลนส์ kit รุ่นที่2 ออกมาเป็นเลนส์ EF-M15-45mm f/3.5-6.3 IS STM ซึ่งติดมากับกล้องรุ่น eos m10  คนที่ชอบถ่ายภาพวิว ภาพแนวท่องเที่ยว จะสนใจเลนส์ตัวนี้มาก เพราะว่ามุมรับภาพถือว่ากว้างมากเมื่อเทียบกับรุ่นเดิม  ภาพต่อไปนี้ก็จะเปรียบเทียบมุมรับภาพของเลนส์ทั้ง2ให้ดูเป็นแนวทาง

IMG_3881

18-55

IMG_3880

15-45

ทั้ง2ภาพ ถ่ายด้วยกล้อง eos m โหมด  ถ่ายโดยการยืนอยู่จุดเดิม ถ่ายเลนส์ตัวแรกเสร็จ ก็ถอดเลนส์เปลี่ยนเป็นตัวที่2  จากภาพตัวอย่างจะเห็นว่า แค่ระยะยืนใกล้ๆ วัตถุที่ถ่ายอยู่ใกล้ๆก็เห็นแล้วว่า 15-45 รับภาพได้มุมกว้างกว่าอย่างมาก ความกว้างตรงนี้เหมาะกับการถ่ายภาพวิวและอาคารบ้านช่องที่ระยะยืนจำกัด  บางภาพเราไม่สามารถถอยหลังไปถ่ายให้ไกลได้ก็ต้องอาศัยเลนส์ที่รับภาพกว้างเป็นหลัก  ส่วนระยะซูมเทเล่นั้น ที่ 55 กับ 45 mm จะให้ผลไม่ต่างกันมาก  เพราะแม้เราจะมีระยะแค่ 45mm แต่เราสามารถเดินเข้าไปใกล้วัตถุได้  ก็จะได้ภาพวัตถุที่ใหญ่ขึ้นนั่นเอง

ลองดูมุมอื่นๆบ้าง

IMG_3895

18-55

IMG_3894

15-45

IMG_3896

18-55

IMG_3897

15-45

สรุปคือ เลนส์ 15-45mm ถ่ายมุมกว้างมาก  ถ้าต้องเลือกเลนส์ kit ติดกล้องสำหรับ eos m ผมจะเลือก 15-45mm แทนที่จะเป็น 18-55mm

==== เพิ่มเติมความเห็น====

เลนส์ ef-m 18-55is stm ตัวนี้มีคุณภาพที่ดีน่าสนใจมากขึ้นเมื่อผมไปถ่ายภาพที่ทริปเที่ยวทะเลกระบี่  นับว่าเป็นของราคาถูกที่ขายมือสองกันแค่ประมาณสองพันบาท  ถ้าจะให้คุณภาพดีกว่านี้ ต้องจ่ายถึงระดับเลนส์ L ด้วยซ้ำไป   ดูภาพตัวอย่างได้จากโพสท์นี้ครับ

เทียบกล้องโปรกับกล้องถ่ายเล่น

ลองอ่านเรื่องการใช้เลนส์ Kit หรือเลนส์ติดกล้องให้ได้คุณภาพที่ดีได้ที่ลิงค์นี้ครับ

ถ่ายรูปลูกที่เก่าเวลาเปลี่ยน

การถ่ายภาพสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะรูปลูกที่เราถ่ายภาพกันแทบจะทุกโอกาส หากมีโอกาสได้ถ่ายในสถานที่แห่งเดิม  เราก็น่าจะเล่นสนุกกันด้วยการถ่ายภาพย้อนร้อย ตามคอนเส็บ “ที่เก่าเวลาเปลี่ยน” เพื่อให้เห็นพัฒนาการการเติบโต  ซึ่งภาพแนวนี้จะน่าดูอย่างมาก เพราะได้เห็นความน่ารักของเด็กและเห็นการเติบโตจริงๆ  และวัยเด็กเป็นวัยที่การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายรวดเร็วมาก เวลาเพียง1 ปี จะมีความแตกต่างของร่างกายชัดเจน  ไม่เหมือนผู้ใหญ่ที่ยังคงดูเหมือนเดิมแม้จะเวลาผ่านไปหลายปี

 

PHOTO_COLLAGE1504571611089

ภาพแรกนี้ถ่ายที่อารีย์การ์เด้น  เป็นพื้นที่กลางเมืองแห่งหนึ่งที่นานๆจะแวะไปสักที  การแวะไปก็พกกล้องถ่ายรูปไปเดินเล่นด้วย ภาพทางซ้ายมือถ่ายเมื่อตอนขอบฟ้าอายุ 1 ขวบ ถ่ายด้วยกล้อง canon eos 6d เลนส์ 24-105f4 ช่วงซูมประมาณ 50mm ถ่ายด้วย f4   ภาพขวามือก็ถ่ายด้วยกล้องและเลนส์ตัวเดิม อาศัยว่าพอจำได้ว่าใช้อุปกรณ์ตัวไหนก็หยิบตัวเดิมออกมาถ่าย ปรับรูรับแสงเป็นค่าเดิม แล้วถ่ายภาพในมุมเดิม แต่ให้ยืนขยับไปทางขวาอีกเล็กน้อย เพื่อให้เอาภาพใหม่ไปต่อกับภาพเก่าเหมือนเป็นภาพเดียวกัน  ภาพขวาถ่ายตอนขอบฟ้าอายุ 5ปี 1 เดือน

 

 

pic20150407002758

 

ภาพหัวจ่ายน้ำดับเพลิง ขอบฟ้าทางซ้ายถ่ายไว้เมื่อประมาณอายุ 1ปี 5 เดือน  ส่วนภาพทางขวาประมาณ 2 ปี 9 เดือน   ภาพขาวดำจำได้ว่าเป็นการลองถ่ายด้วยฟิล์มขาวดำ ใช้กล้อง nikon fm2n ใช้เลนส์ 50มม ปรับรูรับแสงกว้างสุดที่ f1.8  ในภาพจะใส่เสื้อกันหนาวด้วยทำให้จำได้ว่าเป็นช่วงอากาศเย็นเป็นช่วงเดือนธันวาคม ส่วนภาพขวา ถ่ายตอนเดือนเมษายน2558 ที่รู้วันเวลาก็เพราะภาพดิจิทัลมีข้อมูลการถ่ายเก็บไว้  ผมใช้กล้อง canon eos 6d เลนส์ 24-105f4 เลือกปรับซูมไปที่ประมาณ 50มม.เพื่อให้เท่าภาพซ้าย  แล้วเลือกระยะยืนให้วัตถุในภาพมีขนาดใกล้เคียงกัน แล้วบอกให้ขอบฟ้าไปยืนอีกด้านของหัวจ่ายน้ำ  เมื่อได้ภาพมาแล้วก็มาต่อกันโดยปรับให้หัวจ่ายน้ำมีขนาดใกล้เคียงกันและวางต่อกันเหมือนเป็นภาพเดียวกัน  ก็เลยได้ภาพเปรียบเทียบน่าจดจำแบบนี้

 

1393125_10152871646439214_370674310464713509_n

ภาพเมื่อเดือน 11 ปี 2013  เทียบกับ เดือน 11 ปี 2014

 

10389181_10152869773699214_7024483808344103047_n

ภาพเมื่อเดือน 11 ปี 2013  เทียบกับ เดือน 11 ปี 2014

 

สิ่งที่ช่วยให้การถ่ายภาพ ที่เก่าเวลาเปลี่ยน ทำได้สะดวกคือการเก็บภาพไว้อย่างเป็นระเบียบ มีการจัดการภาพที่แม่นยำ สามารถเรียกหาภาพตามช่วงเวลาที่ต้องการออกมาได้ การจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบแบบนี้เป็นสิ่งที่ช่างภาพควรทำ  จะทำเองด้วยฮาร์ดดิสก์ในบ้านและตั้งชื่อโฟลเดอร์ให้หาง่าย หรือ ใช้ซอร์ฟแวร์การจัดการภาพช่วยเหลือก็แล้วแต่ความถนัด  ส่วนผมเลือกใช้วิธีเก็บภาพในระบบ cloud ของเว็บ flickr.com ซึ่งเป็นเว็บการเก็บภาพที่ดีที่สุดในโลก  ผมสามารถหาภาพในช่วงเวลาที่ต้องการได้รวดเร็วมาก  ลูกเล่นและความสะดวกเหล่านี้ควรหัดใช้ให้เป็นครับ  โดยเฉพาะคนที่มีภาพจำนวนมาก

 

 

 

วันที่ยอดขายรวม shutterstock แซง youtube

ผมเริ่มส่งภาพขายใน shutterstock มาตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2559  และในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ผมก็ไปตั้งค่าใน youtube เพื่อขอรับค่าโฆษณาจากคลิปของลูกชายที่ผมเคยถ่ายไว้และพบว่ามีคนดูเยอะมาก  หลังจากช่วงเดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา รายได้จากทั้งสองแหล่งก็ค่อยๆเพิ่มขึ้น

Screenshot_2017-02-07-14-32-04

ผ่านไปหลายเดือน ยอดตัวเลขรายได้จาก youtube แค่คลิปเดียว ทำเงินเยอะกว่ารายได้จาก shutterstock อยู่พอสมควร  และไม่มีทีท่าว่า shutterstock จะมีรายได้แซง youtube ไปได้  โดยสาเหตุน่าจะเป็นเพราะจำนวนรูปใน shutterstock ยังไม่เยอะมาก  ซึ่งถ้าวัดกันที่ระยะเวลาประมาณ 6 เดือนที่ผมพยายามใส่ภาพเข้า shutterstock เรื่อยๆ จะมีภาพอยู่ประมาณ 4ร้อยกว่าภาพ  รายได้ก็ยังไม่แทรงคลิปใน youtube เพียงคลิปเดียวที่ทำเงินให้ตลอดเวลาโดยเราไม่ได้ทำอะไรกับ youtube เลย   ซึ่งผมเคยเขียนบันทึกไว้แบบนี้ shutterstock VS youtube

 

Screenshot_2017-02-07-13-16-07

แต่แล้วในที่สุด วันนี้ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560 นับเป็นเวลาประมาณ 7 เดือนเศษ รายได้จาก shutterstock ก็สะสมและแซงหน้ารายได้จาก youtube ไปแล้วอย่างน่าตื้นตัน  ผลของการอดหลับอดนอนเพิ่มภาพเข้าระบบอย่างสม่ำเสมอ เริ่มมียอดขายที่เยอะขึ้นในแต่ละเดือน  เป็นสิ่งที่ให้กำลังใจคนทำงานได้เป็นอย่างดี  ทำให้เรามั่นใจได้ว่า เราสามารถฝากความหวังรายได้ที่เป็นกอบเป็นกำไว้ที่ shutterstock ได้

Screenshot_2017-02-07-14-31-46

ทั้งหมดนี้บันทึกจากคนเริ่มต้นทำธุรกิจขายภาพ  ในประเทศไทยและในโลกใบนี้ มีคนที่ร่ำรวยจากการขายภาพอีกมากมาย  ตัวเลขที่ผมบันทึกไว้เป็นแค่รายได้หนึ่งนาทีของคนบางคนเท่านั้น  หนทางยังอีกยาวไกล  บันทึกนี้ทำไว้เพียงแค่ยืนยันว่าผมเดินไม่ผิดทางครับ

ใครอยากเริ่มขายภาพเริ่มที่ลิงค์นี้เลยครับ


เปรียบเทียบภาพจาก latest polaroid vs antique polaroid

ทดลองเปรียบเทียบภาพถ่ายที่ปริ๊นลงกระดาษจากกล้องสองตัวที่เทคโนโลยีต่างกันเกือบร้อยปี  ด้านซ้ายคือภาพจากกล้อง polaroid z340 ที่เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกล้องดิจิทัลรวมกับปริ๊นเตอร์ขนาดเล็ก ส่วนด้านขวาเป็นภาพจากฟิล์ม fuji instax บนกล้อง fuji instax mini8

การถ่ายภาพแล้วได้ภาพแทบจะทันทีเป็นสิ่งที่บริษัท polaroid ได้มอบไว้ให้แก่โลกเรามานานแล้ว  แต่ในปัจจุบัน polaroid หันไปสู่ดิจิทัลเต็มตัว  ส่วนเทคโนโลยีมรดกโลกกลับกลายเป็น fuji ที่รับระบบอนาลอกของ polaroid มาใช้อย่างจริงจัง และทำตลาดจนกลายเป็น instax mini ที่ฮิตกันมากในปัจจุบัน และนอกจากฟูจิแล้ว ยังมีผู้ผลิตกล้องอย่าง  leica ที่ลงมาเล่นตลาดนี้ด้วยการส่งกล้องใช้ฟิล์มโพลารอยด์ออกมาขายด้วย  และ ยังมีค่ายอินดี้อย่าง Mint ที่ออกกล้องใช้ฟิล์มแบบนี้ออกมาอีก

ข้อดีของ z340 คือ มีไฟล์ดิจิทัลเก็บไว้ด้วย สามารถเลือกภาพเพื่อพิมพ์หรือไม่พิมพ์ก็ได้  แต่แบตเตอรี่ในกล้องจะใช้พิมพ์ภาพได้ไม่เกิน 10 รูปในการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ตามสเป็ค ถ้าแบตหมดจะต้องกลับบ้านมาเสียบสายชาร์จเท่านั้น

Instax mini8 ของ fuji ดีตรงที่สามารถถ่ายภาพได้ 100 ภาพ ด้วยถ่านอัลคาไลน์ AA 2 ก้อน   แต่ต้องพิมพ์ทุกภาพที่ถ่าย เลือกไม่ได้

ภาพที่ได้จากการพิมพ์จากสองระบบให้คุณภาพแค่พอใช้ได้ ดูรู้เรื่อง ให้อารมณ์มากกว่าคุณภาพ  การชมภาพที่ไหลออกมาจาก z340  เทียบกับการรอภาพค่อยๆปรากฏขึ้นของฟูจิ ใช้เวลารวมไม่ต่างกัน  เราจะอยู่กับระบบไหนก็ได้  มันสนุกเหมือนกัน  แต่ฟูจิจะมีข้อดีกว่าตรงที่ ไม่ต้องกลัวแบตหมด  ถึงหมดก็ซื้อสำรองไปใส่ได้ไม่ยาก ร้านสะดวกซื้อทั่วไปก็มีแบตขาย

image