กล้องติดรถยนต์

กล้องติดรถยนต์เป็นของจำเป็นในยุคอินเทอเน็ต  รถส่งของที่โรงงานก็ตัดสินใจติดเพื่อให้มีพยานหลักฐานตอนที่เกิดอุบัติเหตุ และป้องกันการถูกคุกคามจากคนพาลที่อาจจะหาเรื่องเราได้ตลอดเวลาบนท้องถนน  กล้องที่ผมใช้ก็เลือกจากคนขายที่เขาดูน่าเชื่อถือโดยเลือกซื้อจากโชว์รูมรถยนต์ซูซูกิ สาขาถนนจอมทอง ซึ่งอยู่แถวบ้าน  เขารับบริการติดรถซูซูกิและรถยี่ห้ออื่นๆด้วย  ราคา 2990 บาท

IMG_20170529_102359

IMG_20170526_140134

 

ตัวอุปกรณ์จะเป็นแผ่นกระจกมองหลังที่มีจออยู่ภายใน กล้องถ่ายหน้ารถจะอยู่หลังกระจก นำทั้งชิ้นไปติดทับกระจกมองหลังของรถยนต์ได้เลย  ส่วนกล้องหลังจะเป็นโมดุลให้นำไปติดที่ด้านหลัง บริเวณใกล้ๆป้ายทะเบียน แล้วเดินสายเข้ามายังจอภายในรถ  การติดตั้งทั้งหมดทำที่โชว์รูมเลย  คุณภาพงานติดตั้งก็เรียบร้อยดี เก็บสายภายในได้เรียบร้อยแทบไม่เห็นเลย นอกจากไฟเลี้ยงของกล้องที่ใช้ต่อกับที่จุดบุหรี่ภายในรถยนต์เท่านั้น

IMG_20170529_112036

 

 

คุณภาพของภาพที่บันทึกก็ออกมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มองรู้เรื่อง  กล้องหน้าบันทึกภาพ Fullhd กล้องหลังบันทึกระดับ Dvd   การบันทึกจะเก็บภาพวิดีโอลงบนแผ่น  Micro-sd ขนาดที่แถมมากับกล่องก็คือ 16gb ไฟล์ภาพจะได้สองไฟล์พร้อมกัน คือ ไฟล์ของกล้องหน้า กับไฟล์ของกล้องหลัง เลขไฟล์เดียวกันแต่กล้องหน้าจะมีคำว่า A  กล้องหลังจะมีคำว่า B อยู่ในชื่อ  นอกจากจะได้บันทึกเพื่อป้องกันภัยแล้ว ยังได้ใช้งานเป็นกล้องถอยหลัง เวลาถอยจะได้มองเห็นว่าอะไรอยู่ท้ายรถบ้าง การถอยจอดแบบมีกล้องจะช่วยลดอุบัติเหตุการเฉี่ยวชนลงได้  เป็นความสะดวกของคนขับรถทุกคน  นอกจากรถส่งของแล้ว ก็ยังติดรถส่วนตัวคันอื่นได้ด้วย ในบ้านผมติดไปสามคันแล้ว

 

ภาพจากกล้องหน้า

ภาพจากกล้องหลัง

 

รีวิว nikon fm2n + 35-70 macro ais + fuji c200

กล้อง nikon fm2n เป็นกล้องแมนน่วลโฟกัสรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดโลกและประเทศไทยในยุคของฟิล์ม  ช่างภาพอาชีพในไทยที่อายุระดับ 50+ เป็นรุ่นที่น่าจะเคยจับ เคยใช้ nikon fm2 ตัวนี้มากันทุกคน  โดยเฉพาะสายนักข่าว สายงานพิธีต่างๆ  และกล้องตัวนี้ก็มาอยู่ในบ้านผมเมื่อยี่สิบปีที่แล้วโดยได้มาจากร้านขายกล้องมือสอง วันที่ผมซื้อกล้องตัวนี้เข้าบ้าน เป็นการซื้อให้น้องชายเอาไปเรียนถ่ายภาพที่มหาวิทยาลัย ผมในวันนั้นยังไม่ได้หัดถ่ายรูปเลย  แค่ถามเพื่อนที่รู้เรื่องว่าจะซื้อกล้องไปเรียนต้องซื้อตัวไหน

IMG_0290

IMG_0425fotogear-r

เลนส์ 35-70 macro ais เป็นเลนส์ซูม คุณภาพดีและทนมาก  เลนส์ตัวนี้จะเป็นโลหะทั้งตัว และค่า f จะเริ่มที่ 3.3-4.5  ซึ่งถ้าเป็นบอดี้พลาสติกที่ดูราคาถูกและบอบบางกว่านี้ ค่า f ประจำตัวเลนส์จะเป็น 3.5-4.5 แต่ตัวที่ผมใช้จะเป็นค่า 3.3 เริ่มต้น และมีคำว่า macro อยู่บนเลนส์ด้วย   ตอนเพื่อนช่วยเลือกก็เลือกตัวแพงให้เลย

IMG_20170423_084444_245

กล้องและเลนส์ตัวนี้อยู่กับน้องชายผม 1 เทอม และก็วางให้ฝุ่นกิน  พอผมตัดสินใจหัดถ่ายภาพ ก็ลองเอามาใช้ และก็ติดตัวมาตลอดจนถึงทุกวันนี้  เนื่องจากเป็นกล้องฟิล์ม เลนส์มือหมุน ทำให้มันเป็นอุปกรณ์ที่คงกระพัน ท้าทายกาลเวลาอย่างมาก  แม้ว่าตอนที่ผมหัดถ่ายภาพจริงๆ จะไปซื้อกล้องออโต้โฟกัสใช้  และตอนรับงานก็ใช้ออโตโฟกัสพร้อมเลนส์เกรดโปรสาย canon ทำงาน  แต่ nikon ชุดนี้ผมก็แอบใช้อย่างสม่ำเสมอ  ยิ่งในตอนที่เดินทางไปเที่ยวแบบเน้นน้ำหนักเบา ก็จะวาง canon ไว้ที่บ้านและพก nikon กับเลนส์สักตัวไปเท่านั้น

IMG_20170424_165503_451

เมื่อฟิล์มเสื่อมความนิยม  และกล้องดิจิทัล DSLR ก็ราคาถูกลงจนทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ ผมก็แทบจะเลิกใช้ เลิกซื้อฟิล์มไปแล้ว  ฟิล์มที่ซื้อไว้ถ่ายงานเมื่อปี 2005 ป่านนี้ยังใช้ไม่หมดเลย  เคยลองเอามาถ่ายในช่วงปี 2016 ก็พบว่าฟิล์มเน่าจนเก็บภาพไม่ได้แล้ว ให้สีสันในภาพได้แย่สุดๆ  ควรจะทิ้งไปจริงๆ  แต่ปีนี้ 2017 ผมได้ลองซื้อฟิล์มมาใหม่  และก็เป็นที่มาของการลองถ่ายเล่นๆในรีวิวนี้

000032

000033

000031

000019

000005

กล้อง nikon fm2n   เลนส์ nikon 35-70macro  ฟิล์ม fuji200  ล้างและสแกนภาพที่ร้าน a&b ย่านลาดพร้าว  ภาพฟูจิออกมาได้โทนสีฟ้า ดูไม่สดใสในแบบที่ผมเคยเห็นสมัยสิบปีที่แล้ว  ยังไม่รู้เหตุผลว่าเป็นการเปลี่ยนบุคลิกสีโดยฟิล์มเองที่เป็นรุ่นใหม่  หรือ เป็นสีของเครื่องสแกน  เพราะเท่าที่เคยจำได้ สีจากฟิล์มฟูจิรุ่นตลาดๆ จะให้สีที่ดูอุ่นและฉูดฉาดกว่านี้

IMG_20170408_105420_647

 

สรุป

เวลาที่ผ่านมาสัก 20 ปี nikon fm2n พร้อมเลนส์ 35-70 ตัวนี้ ยังคงทำงานได้ดี  ในปีหลังๆนี้ เริ่มมีจังหวะชัตเตอร์ติดขัดบ้าง ซึ่งก็แก้ปัญหาด้วยการเปิดฝาด้านล่างแล้วใช้นิ้วเขี่ยกลไกข้างในนิดหน่อย ก็กลับมาเป็นปกติ  อาการนี้นานๆจะเกิดขึ้นสักครั้ง  คาดว่าเป็นเพราะไม่ได้ใช้งานบ่อยๆนั่นเอง  ถ้าใช้เป็นประจำคงไม่เกิดอาการนี้    นอกจากเลนส์ตัวนี้แล้ว ยังสามารถเลือกใช้เลนส์อื่นๆได้อีกมาก ผมยังเคยใช้ 135f2.8 ais ด้วย ภาพจากเลนส์เทเล 135 ตัวนี้ให้ภาพคมชัดในฉากหลังนุ่มละมุนมากๆ  ถ้าไม่ใช่ 135f2.8ตัวนี้ ตัวถัดไปที่จะใช้แทนคือ ef 70-200f2.8L ที่ใหญ่เท่ากระบอกข้าวหลาม

IMG_20180324_092648

แถมภาพจากเลนส์ nikon 135f2.8 ais ให้อีกภาพครับ

ในแง่ของความสนุกในการถ่ายภาพ  กล้องชนิด แมน่วล ยังคงเป็นเครื่องมือสำหรับช่างภาพทุกระดับฝีมือ การถ่ายภาพต้องการสมองในการคิดอ่าน และใช้กล้องเพียงแค่ กดชัตเตอร์ด้วยสปีด และรูรับแสงเท่าไหร่ แค่นั้นจริงๆ  กล้องที่ดีที่สุดคือกล้องที่อยู่ในมือเรา  จะถูก จะแพงก็แล้วแต่ความถูกใจของคนซื้อ ส่วนสำคัญของภาพ อยู่ที่หัวคิดของเราเอง  หากจะหากล้องคู่ใจ ติดตัวไปในทุกสภาพอากาศและทุกทริปเดินทาง กล้องแมน่วลแบบ fm2 ให้ภาพได้แน่นอน

 



ลองเล่นกล้องคอมแพ็คไฮเอนด์ contax t3

IMG_20170515_171804_472

IMG_1474contax-t3 กล้องคอมแพ็คเกรดสูงในตลาดเท่าที่นึกออกจะมี leica cm leica minilux ricoh gr1 nikon 35ti และ contax t3 จริงๆอาจมีมากกว่านี้ที่มีคุณภาพสูง แต่ตัวที่ยกขึ้นมาเป็นตัวที่ได้รับความนิยมอย่างมากและมีมือสองให้พอซื้อได้ บางตัวก็แพง บางตัวก็ถูก บางตัวก็มีประวัติว่าอายุสั้นว่าสายแพขาด ซึ่งกล้องคอมแพ็คออโตโฟกัสคงมีปัญหาสายแพรขาดกันทั้งนั้นขึ้นอยู่กับว่าใครเจอก่อน ใครเจอทีหลัง PICT0076 การมีกล้องคอมแพ็คไฮเอนด์สักรุ่นหนึ่งมาติดกระเป๋า เอามาใช้งานในวันที่ไม่เร่งรีบ ในวันที่อยากจะเสียเงินซื้อฟิล์ม เสียเวลาล้างฟิล์ม ทั้งล้างเองหรือหาร้านล้างให้ก็ตาม แถมยังต้องเสียเวลาสแกนฟิล์มเอามาดูเป็นไฟล์ดิจิทัลอีกต่างหาก มันเป็นช่วงเวลาการถ่ายรูปที่ได้รับความสุนทรีย์อย่างที่ดิจิทัลให้ไม่ได้ เสน่ห์มันอยู่ตรงไหนก็ไม่สามารถอธิบายได้ครบถ้วน รู้แค่ว่า อยากมีกล้องฟิล์ม อยากมีกล้องคุณภาพดี อยากพกมันติดตัว และอยากใช้มันถ่ายภาพแค่บางภาพเท่านั้น contax t3 suan - -7 กล้อง contax t3 เป็นกล้องที่ติดเลนส์ 35มม. f2.8 สามารถตั้งรูรับแสงเองได้ สามารถชดเชยแสงได้ มีความเร็วโฟกัสค่อนข้างเร็ว วัดแสงแม่นยำมาก อาจจะเป็นเพราะเราถ่ายมันด้วยฟิล์มขาวดำล้วนๆก็ได้ ภาพจะออกเข้มไปหน่อย อ่อนไปนิด เราก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันเสีย อีกอย่าง เวลาล้างฟิล์มออกมาแล้วก็ต้องเอามาสแกนเพื่อดูบนจอคอมพิวเตอร์ การสแกนก็สามารถปรับความเข้มอ่อนได้เล็กน้อยทำให้เราไม่รู้เลยว่ากล้องถ่ายพลาดหรือไม่ contax t3 suan - -9 ภาพขาวดำที่ออกจากเลนส์ของ contax t3 เป็นภาพที่มีรายละเอียดสูงมาก มีการไล่ระดับตั้งแต่ส่วนมืดไปถึงส่วนสว่างที่กว้างมากและต่อเนื่อง จะบอกว่ามีคอนทราสต์สูงก็พอบอกเช่นนั้นได้ เทียบกับกล้องดิจิทัลที่ปรับโหมดขาวดำแล้วถ่ายออกมาเทียบกัน ภาพจากกล้องดิจิทัลก็ยังให้ระดับสีดำแบบนี้ไม่ได้ นอกเสียจากกล้องดิจิทัลตัวนั้นจะมีโหมดขาวดำพิเศษที่เร่งคอนทราสต์ให้แรงขึ้นก็อาจจะพอเทียบเคียงได้ contax t3 v2--12 ด้วยวิธีการใช้กล้องคอมแพ็คฟิล์มมาถ่ายภาพต่างๆ  เราจะต้องเอาตาเล็ง กล้องจะสัมผัสกับหน้าผาก ทำให้กล้องมีความมั่นคงมากเมื่อเทียบกับการยกกล้องดิจิทัลมาถ่ายแบบปัจจุบัน  ทำให้เราสามารถเก็บภาพในที่แสงน้อยได้พอสมควร  สภาพแสงในโรงพิมพ์เป็นตึกมิดชิด มีเพียงแสงจากไฟฟลูออเรสเซ้นต์ที่ติดในโรงงานเท่านั้น  เราก็ยังสามารถถ่ายให้ภาพไม่สั่นได้  แม้ความไวชัตเตอร์จะต่ำไปสักหน่อย ความไวฟิล์มก็ต่ำเพราะเร่ง iso ไม่ได้  แต่การจับถือก็ให้ความมั่นคงเพียงพอ ทำให้เรายังคงเก็บภาพในที่แสงน้อยได้   contax t3 v2--7 การโฟกัสก็ทำได้แม่นยำมาก  แม้จะไม่มีช่องที่มองผ่านเลนส์  แต่เราก็สามารถประมาณด้วยสายตาและเล็งโฟกัสไปยังวัตถุที่เราต้องการได้ง่ายดาย  กล้องล๊อคโฟกัสได้แทบจะทันที และเมื่อกดถ่าย  ภาพก็ถูกบันทึกอย่างคมชัดไว้ในฟิล์มแล้ว   contx t3 scan10dec2013 --3 ในสภาพแสงภายนอก contax t3 ให้ภาพสวยชวนฝันจริงๆ คนที่หลงไหลกับภาพขาวดำน่าจะชอบบุคลิกของกล้องตัวนี้  เพราะสีดำก็ดำสนิท สีโทนกลางๆก็ไล่ระดับต่อเนื่องน่ามอง ส่วนขาวก็ไม่ได้ขาวโพลน  ถ้ามีกล้องดิจิทัลที่สามารถให้ภาพแบบนี้ได้จากการถ่ายด้วยโหมดสำเร็จรูปของกล้องเชื่อว่าน่าจะทำให้กล้องตัวนั้นขายดีมาก   contx t3 scan10dec2013 --2 เลนส์ 35มม. เข้าใกล้วัตถุได้มากพอสมควร  แม้จะไม่ได้ใกล้แบบการถ่ายภาพมาโคร แต่ก็ใกล้จนเห็นรายละเอียด และยังคงให้โทนสีดำที่เข้มลึก  มีน้ำหนัก  พอล้างฟิล์มออกมาแล้วเพิ่งจะได้มานั่งดู  พอดูภาพเสร็จก็อยากจะเก็บกระเป๋าออกเดินทางไปถ่ายรูปเล่นทันทีเลย Untitled การพกพากล้อง contax t3 ทำได้ไม่ยุ่งยาก ตัวกล้องมีซองหนังให้ใส่ดูดี เพื่อเก็บกล้องแล้วสามารถยัดใส่กระเป๋าเป้ กระเป๋าสะพาย กระเป๋าอะไรก็ได้ยกเว้นกระเป๋าสตางค์ กล้องคอมแพ็คฟิล์มจะไม่ต้องพกแท่นชาร์จ เพราะถ่านในตัวสามารถถ่ายรูปได้เกินสิบม้วนฟิล์มอย่างแน่นอน ไม่ต้องมีแบตก้อนที่สองอีกต่างหาก เรียกได้ว่า พกกล้องติดกระเป๋าพร้อมฟิล์มกลักนึงเราอาจจะพกจนลืมไปเลยก็ได้ เพราะกว่าที่ผมจะถ่ายหมดม้วนก็ใช้เวลาหลายเดือน

หลังจากได้มีโอกาสใส่ฟิล์มสีไปถ่ายภาพ  ก็ขอเอามาวางให้ดูไว้เป็นข้อมูล

000041

ภาพ selfie ยกกล้องขึ้นเล็งแล้วกดถ่ายเลย  ไม่ได้คิดเรื่องชดเชยแสงแต่อย่างใด  ผมยืนอยู่นอกห้องน้ำที่ได้รับแสงจากหน้าต่าง  ส่วนห้องน้ำได้แสงสว่างจากไฟเพดาน สองสภาพแสงที่ความสว่างไม่เท่ากัน แต่ก็อยู่ในภาพเดียวกันดูกลมกลืนดี

000040

ภาพสองพี่น้อง ยกกล้องขึ้นโฟกัสที่หน้า แล้วจัดองค์ประกอบให้ได้ส่วนที่ต้องการ โหมด P ของกล้องวัดแสงแม่นยำให้ภาพที่สวยพอดี ไม่มืด ไม่สว่างเกินไป

000042

ภาพย้อนแสงค่อนข้างมาก ก็ยังพอได้ภาพที่ไม่น่าเกลียด แม้ดูแล้วจะรู้สึกว่ากล้องวัดแสงผิดพลาด แต่คงเป็นเพราะกล้องพยายามจะทำให้ฉากหลังไม่สว่างเกินไปด้วย  แสงที่หน้าคนเลยไม่มากเท่าที่ควร  แต่มันก็ยังไม่เป็นภาพเสีย

000070

ภาพนักฟุตบอลถือตระกร้าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเร็วมาก  กล้อง T3 อยู่ในมือ รีบเปิดกล้อง แล้วเล็งถ่าย ยอมให้แฟลชขึ้น เพราะต้องการใช้เป็นกล้อง snap โฟกัสเร็วทันแล้ว

000048

ตอนกลางวันแสงดีๆ ถ่ายภาพเด็กในร้านอาหาร แสงหน้าต่าง แสงภายนอกอาหาร ทำให้ภาพแนวนี้ดูสวยได้ง่ายๆเลย

000064

สภาพแสงที่คาดเดายาก เราก็ปล่อยให้กล้องคิดแทนเรา ถ่ายแล้วลุ้นว่าจะถูกใจไหม แล้วก็ได้ภาพที่น่าพอใจเกินคาด

000035

ภาพเด็กกำลังซน ถ่ายในร้านฟาสฟู้ด แสงหน้าต่างเข้าทางด้านซ้าย  ปิดแฟลชถ่าย ระบบวัดแสงทำงานได้แม่นยำน่าพอใจทุกครั้ง

000043

ขอปิดท้ายด้วยภาพ self portrait และ contactsheet ที่ทำด้วยการปริ๊นท์ระบบดิจิทัล

Contax T3

วิธีล้างฟิล์มขาวดำและสแกนไว้ดูในคอมพิวเตอร์ ดูได้ที่นี่  ทดลองล้างฟิล์มขาวดำ

เริ่มต้นขายภาพ online ได้ที่นี่ครับ


polaroid digital camera z340 กล้องโพลารอยด์ยุคใหม่

highres-polaroid-z340-6_1354287054

กล้องดิจิทัลจาก polaroid ในรุ่น z340 เป็นกล้องลูกผสมระหว่างกล้องดิจิทัลความละเอียด 14 ล้านพิกเซล กับ ปริ๊นเตอร์ขนาดเล็กสามารถพิมพ์ภาพขนาด 3×4 นิ้วได้ในตัว  ในส่วนของกล้องดิจิทัลจะใช้แผ่น SD card   แบตเตอรี่ในเครื่องสามารถใช้พิมพ์ภาพได้ 10 ภาพต่อการชาร์จแบต 1 ครั้ง  ส่วนการถ่ายภาพแบบไม่ต้องพิมพ์ภาพ สามารถถ่ายได้กี่ครั้งยังไม่รู้ข้อมูล เดี๋ยวใช้ไปเรื่อยๆคงรู้เอง

polaroid_z340_digital_instant_camera_5

ภาพที่ถ่ายเล่นด้วยกล้องดิจิทัลโพลารอยด์

ตั้งค่าของกล้องเอาไว้ที่ฟิลเตอร์แบบโลโม่  ซึ่งจะมีลักษณะเพิ่มขอบดำให้กับภาพ แล้วก็ถ่ายภาพนี้จากในรถ  โฟกัสภาพไว้ที่กระจกที่มีหยดน้ำเกาะอยู่  วัดแสงไปตามที่กล้องวัดให้ โฟกัสชัดก็กดถ่ายไปเลย

นอกจากจะถ่ายไปนอกตัวรถแล้ว ลองโฟกัสที่คอนโซลรถบ้าง  สภาพแสงตอนนี้ค่อนข้างน้อยเพราะว่าขับรถอยู่บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี

ภาพศาลตายายถ่ายในโรงพิมพ์  ตั้งค่าเป็นแบบโลโม่เพื่อช่วยให้ภาพมีขอบดำเข้มขึ้น  คุณภาพกล้องคอมแพ็คระดับ 14 ล้านพิกเซลอยู่ในระดับมาตรฐานกล้องทั่วไป  แต่ลูกเล่นเรื่องฟิลเตอร์ต่างๆก็เป็นของเล่นที่น่าเล่น  ภาพที่ได้มีคุณภาพเพียงพอที่จะนำไปโพสท์หรือใช้ในงานสิ่งพิมพ์ได้ไม่มีปัญหา

การถ่ายภาพในห้องนอนก็มีคุณภาพพอใช้  สภาพแสงในห้องมีเพียงไฟฟลูออเรสเซนท์หนึ่งดวง  กล้องพยายามเร่ง iso ขึ้นไปให้สูงที่สุดเท่าที่กล้องจะมีให้ได้  ภาพที่ได้ก็มีรายละเอียดพอใช้ได้  แม้ว่าจะดูมีกลากเกลืื้อนต่างๆอยู่ในผิวคนและทั่วทั้งภาพแต่มันก็ยังคงให้ภาพได้  คือเก็บภาพได้ ไม่สั่นจนเสีย

 

PDSC6479

set2-PDSC0318

2016-104-PDSC0015
PDSC0265
PDSC0042

Pro application need Pro Machine ภาค 1

ผมนึกถึงคำพูดนี้ขึ้นมา เพราะว่าชีวิตผมเริ่มต้องทำงานแบบโปรเฟสชั่นนัลเสียที  ในสมัยที่ยังหาเงินได้ไม่เยอะ  จะซื้อจะหาอะไรมาเล่นหรือใช้งาน ก็มักจะหาของถูก  ของลดราคา หรือแม้แต่ของตกรุ่นมาใช้  ผลก็คือผมมีของใช้งานจริงตามที่ตั้งใจ  แต่ก็แลกมากับข้อจำกัดบางอย่างที่เราก็รู้อยู่แก่ใจ  ถ้าพ่อเป็นนักการเมืองผมก็คงจะเลือกใช้ของที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องสนใจเรื่องตัวเงิน  แต่ว่าชีวิตจริงไม่ได้เป็นแบบนั้น  เงินที่มีอยู่จำกัด เลยต้องใช้แบบจำกัด  เลยต้องพยายามใช้ของถูกเข้าไว้  เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่สาระสำคัญของชีวิตในวันที่ผ่านมา  เพราะผมใช้ของเหล่านั้นเพื่อความเพลิดเพลิน  แต่ระยะหลังงานอดิเรกหลายอย่างสามารถเปลี่ยนเป็นรายรับได้  เลยทำให้เริ่มอยากทำอะไรมากขึ้น เริ่มไปถึงข้อจำกัด และสุดท้ายอยากก้าวให้พ้นข้อจำกัดของถูก หรือ ของที่ยังไม่โปรเฟสชันนัลเสียที

IMG_9021

 

เครื่องเล่นเพลงต่างๆที่ผมเคยใช้มา  สมัยเด็กๆ  ผมใช้เครื่องเล่นซีดีที่ราคาต่ำที่สุดในท้องตลาด เครื่องขยายเสียงหรือแอมป์ก็รุ่นเล็ก  แค่ได้ใช้งานแผ่นซีดีเพลงก็รู้สึกยอดเยี่ยมแล้ว  รู้ว่ามีของราคาแพงกว่านี้เป็นสิบเป็นร้อยเท่า แต่ผมก็พอใจกับเครื่องเล่นซีดีที่ผมพยายามเก็บเงินซื้อ และทนใช้จนเรียนจบ  วันที่ผมเริ่มเที่ยวเล่นไปตระเวณฟัง  ไปดูการทำงานในห้องบันทึกเสียง ผมก็เริ่มจะเข้าใจว่าเสียงที่ดีกว่าเครื่องเล่นซีดีถูกๆของผมนั้นเป็นอย่างไร  ผมฟังออกรับรู้ทุกอย่าง  แต่ก็ทำใจบอกว่า เราไม่จำเป็นต้องใช้ขนาดนั้น  ทำไมเครื่องเล่นซีดีในห้องบันทึกเสียงถึงต้องแพงเหยียบแสน  เครื่องเล่นซีดีของนักทดสอบเครื่องเสียงหลายๆคนราคาแพงอย่างไม่น่าเชื่อ  สิ่งที่แตกต่างก็คือมันให้เสียงที่ดีกว่า  ตอบสนองย่านความถี่กว้างกว่า  ให้เสียงที่ชัดกว่า  ผมถามตัวเองว่าแล้วมันมีประโยชน์กับเราไหม  ผมมีคำตอบให้ตัวเองว่า เราฟังเพื่อความเพลิดเพลิน  ไม่ได้ฟังเพื่อวิจารณ์ทดสอบ เราไม่ต้องใช้ขนาดนั้นก็ได้  แต่ถ้าวันหนึ่งที่ผมจะต้องวิจารณ์เครื่อง หรือวิจารณ์เพลง  ผมก็คงจะเลือกซื้อเครื่องแพงๆเหล่านั้นเอาไว้ใช้เป็น “เครื่องมือ” สำหรับทำงาน  โชคดีที่วันนี้ผมยังไม่ต้องวิจารณ์เครื่องเสียง

IMG_1378

 

กล้องถ่ายรูปก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ชัดเจนที่สุด  ผมหัดถ่ายภาพด้วยกล้องราคาประหยัด ฟังค์ชั่นพอใช้ได้  และเลือกใช้เลนส์อเนกประสงค์  คุณภาพเป็นอย่างไรช่างมัน  เอาซูมช่วงกว้างเยอะๆเข้าไว้  จะถ่ายอะไรก็สามารถเลือกซูมภาพได้ตามใจ  ผมเลือกใช้เลนส์ช่วงซูม 28-200 ยี่ห้อแทมรอน  เป็นเลนส์ที่ผมเรียนรู้หลักการถ่ายภาพและเที่ยวเล่นไปพร้อมๆกัน  มันทำงานให้ผมได้ตรงตามความต้องการ  คือจะถ่ายมุมกว้างก็ได้  ถ่ายซูมใกล้ๆก็ได้  สิ่งที่ผมรู้ในวันนั้นก็คือ  ไม่เห็นจะต้องใช้ของแพงเลย  เลนส์ที่แพงกว่าผมห้าเท่า  แต่ซูมแคบกว่ามากๆ ไม่เห็นจำเป็นเลย  สองปีผ่านไปเลนส์อเนกประสงค์ของผมก็เริ่มมีอาการรวน และสุดท้ายมันเสียหายไม่สามารถใช้การได้  มันอาจจะเป็นเรื่องปกติที่จะมีของเสียหาย  รวมไปถึงกล้องถ่ายภาพที่เริ่มรวนบ่อยขึ้นเรื่อยๆ  ซึ่งเป็นเพราะผมใช้งานมันอย่างหนัก  ปีแรกเอาไว้หัดถ่าย ปีที่สองเป็นต้นมาผมเริ่มรับจ้างถ่ายภาพ

_MG_6346

 

สองปีผ่านไปกล้องกลับเลนส์ทำงานหนักมาก จนในที่สุดก็เสีย  และมันดันเสียวันที่ผมกำลังรับจ้างทำงาน  นาทีนั้นถ้าเสกได้  ผมจะเสกกล้องกับเลนส์รุ่นท๊อปมาใช้เลย  โดยเหตุผลประการเดียวคือความทนทาน   ซึ่งมันหมายถึงผมไว้ใจมันได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นว่ามันสามารถอยู่กับผมจนงานจบ  นั่นทำให้ผมเริ่มเข้าใจช่างภาพอาชีพที่เขาใช้ของระดับโปร ราคาสูงกว่าผม  กล้องของเขาไว้ใจได้ว่าทนกว่ากล้องระดับสมัครเล่น  เลนส์ของเขาแต่ละคนมีอายุไม่น้อย บางคนห้าปี  บางคนสิบปี  แต่ผมกลับต้องทิ้งเลนส์ตัวเองในปีที่สามเท่านั้น  ผมต้องซื้อกล้องตัวใหม่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งตัว  ซื้อเลนส์ตัวใหม่อีกหนึ่งตัว  ซึ่งผมดันคิดงกกับตัวเองคือไม่ยอมซื้อเลนส์แพงๆเกรดดีมาใช้  อีกปีต่อมาผมก็ต้องทิ้งเลนส์แล้วซื้อตัวใหม่อีกเหมือนเดิม  แบบนี้เขาเรียกว่าเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย

_MG_2847

 

ในที่สุดวันหนึ่งที่ผมต้องซื้อเลนส์อีกครั้ง  ผมเลือกซื้อเลนส์เกรดโปรราคาแพงที่สุดที่ผมเอื้อมถึง  แล้วมันก็ทำงานให้ผมได้อย่างยอดเยี่ยม  คุณภาพดีกว่าเลนส์ราคาถูกอย่างไม่ต้องเทียบ  ภาพสวยจากเลนส์แพงๆมันเป็นอย่างไรผมก็ได้สัมผัส  และสิ่งที่ตามมามากกว่านั้นคือมันไว้ใจได้ มันทนมาก  หยิบออกมาใช้งานผมไม่เคยต้องกังวลว่ามันจะมีปัญหาอะไร  สามปีผ่านไปมันยังทำงานได้เหมือนวันแรก  ไม่มีอาการโทรมให้เห็นเลย  เป็นกรณีตัวอย่างที่ดีสำหรับผม  ทำให้ผมมั่นใจว่าคิดไม่ผิด

IMG_20170408_100658

 

ในงานถ่ายภาพ นอกจากเลนส์ก็มี แฟรชอีกตัวหนึ่งที่เข้าข่ายเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่ายเหมือนกัน  ผมเริ่มต้นด้วยของถูก  ถูกมากๆ  แล้วมันก็เสียบ้าง  ไม่สามารถใช้งานได้ในบางสถานการณ์บ้าง  คุณภาพที่ได้จากแฟรชก็ไม่ดีเท่าของเกรดโปร  ลูกเล่นและความสามารถพิเศษที่สามารถเนรมิตภาพได้ทันจินตนาการก็ต่ำตามงบประมาณ  ผมใช้ของถูกหลายตัว  เพราะมันทำบางอย่างไม่ได้ เลยต้องมีหลายตัว  สุดท้ายผมซื้อของถูกรวมๆกันใช้เงินแพงกว่าซื้อของดีแค่ตัวเดียว  วันดีคืนดี  แฟรชที่ใช้งานอยู่เกิดเสีย  ตัวอื่นๆที่มีอยู่ก็ไม่มีฟังค์ชั่นที่ผมต้องการใช้  หมายความว่าผมไม่มีแฟรชสำรองให้ใช้เลย  วันนั้นผมต้องถ่ายรูปงานรับปริญญาของลูกค้าคนหนึ่ง  ผมคงจะไม่หงุดหงิดสักเท่าไรถ้าลูกค้าคนนั้นไม่ใช่อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  แม้เขาจะเป็นคนธรรมดา แต่ในใจผมก็อยากจะมีผลงานที่ผมถ่ายคนดังเก็บไว้  แฟรชเสียขณะกำลังจะถึงเวลานัดพบ  ผมต้องอาศัยขอความช่วยเหลือจากเพื่อนให้ไปซื้อแฟรชตัวใหม่ให้ทันที แล้วรีบเอามาให้ผมให้เร็วที่สุด  และแน่นอนที่สุด  ผมให้เพื่อนช่วยซื้อรุ่นท๊อปมาให้  ของถูกอยู่กับผมสองปี เสียหนึ่งครั้ง  ของแพงอยู่กับผมปีที่สี่แล้ว ยังไม่เสียเลย  มันเป็นเรื่องที่อดคิดไม่ได้ว่าของเกรดโปร ดีกว่าจริงๆ