เครื่องมือที่ใช้ทำการตลาดแบบบอกต่อ

15 hits

การตลาดแบบบอกต่อเป็นแนวคิดในการทำธุรกิจที่อาศัยการบอกปากต่อปาก แต่จะทำอย่างเป็นระบบคือตั้งใจทำให้เกิดการบอกต่อ โดยการบอกต่อทางธุรกิจจะเกิดขึ้นจากตัวของเรามีความน่าเชื่อถือมากเพียงพอ ซึ่งส่วนมากก็จะเกิดจากการที่เราทำงานมีคุณภาพและเรามีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี โดยสองปัจจัยนี้จะต้องเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ

ในกลุ่มเน็ตเวิร์คที่เราพบปะกันจะมีการพูดคุยแลกเปลี่ยน จับกลุ่มช่วยกันทำธุรกิจ เป็นส่วนหนึ่งของการบอกต่ออย่างมีคุณภาพ คาดหวังผลลัพธ์ได้ เราจะต้องมีเครื่องมือต่างๆต่อไปนื้เพื่อใช้ในการพูดคุย ทั้งการพูดคุยกันเองในกลุ่มเพื่อสร้างตลาดใหม่ และ การพูดคุยกับว่าที่ลูกค้าเพื่อสร้างความมั่นใจและทำให้เราปิดการขายได้

nec-4jun2024-Slide1

เครื่องมือมีดังต่อไปนี้

1 Testimonial
2 ภาพถ่ายสินค้าหรือภาพที่ทำงาน
3 โลโก้ลูกค้าที่เราเคยมี
4 รายชื่อพาร์ทเนอร์หรือคนในทีม
5 คำถามคำตอบเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของเรา
6 รางวัลที่เคยได้รับ
7 บทความที่เกี่ยวกับธุรกิจของเราสินค้าที่กำลังจะออกใหม่
8 โบรชัวร์บริษัท
9 งานที่ทำให้ลูกค้าคิดถึงเรา
10 สินค้าที่เราอยากใช้แนะนำตัว
11 ใบเสนอราคางานเก่าหรือโปรเจ๊คเก่า
12 บทความวิเคราะห์ที่คุณทำเอง


มาลงรายละเอียดกัน

20240120103522_IMG_1136

1 Testimonial คือ จดหมายที่ลูกค้าเขียนให้กับเรา อาจเป็นจดหมายขอบคุณ อาจเป็นข้อความติชม การเล่าเรื่องเกี่ยวกับคุณภาพการทำงานของเราที่น่าเชื่อถือที่สุดคือการเล่าโดยลูกค้า ถ้าลูกค้าชอบงานของเราลองขอให้ลูกค้าช่วยเขียนเป็นข้อความหรือจดหมายทางการแล้วนำมาแสดงไว้ในเว็บไซต์หรือบอร์ดในบริษัท นำมาแสดงให้ทีมขายหรือว่าที่ลูกค้าได้อ่านมันช่วยสร้างความไว้วางใจได้สูงมาก

000046

2 ภาพถ่ายสินค้าหรือภาพที่ทำงาน บริษัทของเราทำอะไร ขายอะไร สร้างอะไร บริการอะไร การมีภาพประกอบด้วยเป็นองค์ประกอบที่ทำให้เกิดความสมบูรณ์ในการเล่าเรื่อง และเป็นการยืนยันตัวตนด้วยว่าเราคือคนทำงานจริง เรามีการผลิตจริง ภาพเหล่านี้ควรอยู่ในสื่อของบริษัท ทั้งเว็บไซต์ และโบรชัวร์

Slide05

3 โลโก้ลูกค้าที่เราเคยมี เป็นการบอกว่าเราได้รับการยอมรับจากใครบ้าง หากเป็นบริษัทที่ใหญ่โตเป็นที่รู้จักเราก็จะยิ่งน่าเชื่อถือ หาโลโก้ของลูกค้ามาใส่ไว้ในสไลด์แนะนำตัว หรือใส่ไว้ในเว็บไซต์ หรือ เอกสาร จดหมายข่าวต่างๆที่ลูกค้าคนอื่นมองเห็นได้ง่าย

DSC02413

4 รายชื่อพาร์ทเนอร์หรือคนในทีม ในกลุ่มเน็ทเวิร์คที่เรามี เราสามารถจับกลุ่มร่วมกันหลายอาชีพเพื่อช่วยกันทำตลาด มีการสร้างทีมงานช่วยกันขาย คนในทีมของเรามีใครบ้าง อาชีพอะไรบ้าง เราต้องจำได้อย่างแม่นยำ สามารถเล่าข้อมูลคนในทีมได้อย่างไม่ติดขัด เวลาที่ลูกค้าของเราต้องการสินค้าบางอย่าง หรือ บริการบางชนิด ที่มีอยู่ในทีม เราสามารถให้ความมั่นใจ เล่าเรื่องเขาเบื้องต้นให้กับลูกค้าได้ทันที

IMG_4105

5 คำถามคำตอบเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของเรา สินค้าและบริการทุกชนิดจะมีข้อมูลถามตอบเสมอ ลูกค้ามักจะถามคำถามอะไรเราจะมีหน้าที่ตอบ ให้เรารวมรวบคำถามและคำตอบมาไว้ด้วยกัน และใช้เป็นข้อมูลบอกเล่าสำหรับว่าที่ลูกค้ารวมถึงใช้สอนคนในทีมขายของเรา เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง สร้างความเชื่อมั่นว่าเราแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้

DSC02895
IMG_1047

6 รางวัลที่เคยได้รับ หรือบทสัมภาษณ์ลงหนังสือ เป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันว่ามีคนมองเห็นคุณภาพงานของเราและยอมรับตัวเราอย่างแท้จริง

IMG_3653

7 บทความที่เกี่ยวกับธุรกิจของเราสินค้าที่กำลังจะออกใหม่ การมีแผนออกสินค้าใหม่เป็นการแสดงออกว่าเรายังอยู่ในธุรกิจ ยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ยังมีแผนการขยายธุรกิจ ส่วนบทความก็จะเป็นการแสดงตัวตนในอีกวิธีหนึ่ง เป็นงานสร้างคอนเท้นท์ที่ให้ผลลัพธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะคอนเท้นหรือบทความจะทำงานเป็นประชาสัมพันธ์และเซลส์ให้เราได้แบบไม่หลับไม่นอน

Slide09

8 โบรชัวร์บริษัท เราขายอะไร เราบริการอะไร โบรชัวร์จะเป็นสิ่งที่ช่วยสื่อสารเล่าเรื่องของเราให้กับลูกค้าฟังโดยตรง ภาพของเราในหัวลูกค้าจะชัดเจนขึ้น และเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้ามีข้อมูลติดต่อเมื่อถึงเวลาที่ต้องการใช้งาน

IMG_0793

9 งานที่ทำให้ลูกค้าคิดถึงเรา อาจเป็นสินค้าระดับเรือธง บริการสุดพรีเมี่ยมที่เราภาคภูมิใจมากจนอยากเล่าให้คนอื่นฟัง งานที่ทำให้เราพัฒนาไปอีกระดับ หรืออาจจะเป็นงานที่เป็นที่รู้จัก ได้รับการยอมรับในวงกว้าง

Slide13

10 สินค้าที่เราอยากใช้แนะนำตัว สินค้าที่เราโฟกัสว่าจะใช้เป็นพระเอกในการทำตลาด บริษัทเราอาจมีสินค้าหรือบริการหลายอย่าง ให้เลือก 1 อย่างมาเป็นตัวแทนในการใช้แนะนำตัว คิดเตรียมไว้ก่อน ตอนที่จะพูดแนะนำตัวจะได้พูดได้คล่อง ไม่ติดขัด

11 ใบเสนอราคางานเก่าหรือโปรเจ๊คเก่า หรือใบสั่งซื้อ เป็นการบอกถึงงานที่เราทำ และลูกค้ายอมรับจนเกิดการซื้อขาย เป็นหลักฐานว่าสินค้าของเราได้รับการยอมรับจริงๆ

Slide2

12 บทความวิเคราะห์ที่คุณทำเอง การเขียนบทความหรือคอนเท้นท์ลงในเว็บไซต์ ทั้งการบอกเล่า วิเคราะห์ หรือ การอัพเดทผลิตภัณฑ์ สิ่งต่างๆ ที่ถูกนำเสนอเป็นบทความในเว็บไซต์เป็นการแสดงออกถึงการมีตัวตน มีความสม่ำเสมอ และเป็นการเปิดเผยว่าคุณเป็นคนอย่างไร มีทัศนคติอย่างไร ที่ทำสำคัญ บทความยังเป็นสิ่งที่บอกว่าคุณยังอยู่ในธุรกิจ เป็นความน่าเชื่อถือที่สร้างได้ด้วยตัวเอง ทุกบทความจะทำงานให้เราเหมือนเป็นพนักงานหลายตำแหน่ง เช่น เป็นประชาสัมพันธ์ช่วยเล่าเรื่อง เป็นเซลส์ให้ข้อมูลลูกค้า และฝ่ายดูแลลูกค้าหลังการขายทำงานแก้ปัญหาเบื้องต้นให้กับผู้ซื้อ บทความจะทำงานแทนตัวเราแบบไม่หลับไม่นอน อยากมีทีมขายและทีมประชาสัมพันธ์ใหญ่แค่ไหน ให้เขียนบทความให้เยอะเท่านั้น

การตลาดแบบบอกต่อเป็นเครื่องมีทรงพลังสำหรับการขยายธุรกิจ มันสามารถสร้างยอดขายได้ไม่จำกัด ลงทุนต่ำในแง่ตัวเงิน แต่ต้องใช้เวลา ความอดทน และความจริงใจทดแทนเข้าไปเพื่อสร้างความไว้วางใจให้เกิดขึ้น และเมื่อความไว้วางใจสูงเพียงพอก็จะเกิดการตัดสินใจซื้อได้นั่นเอง


ทำใบปลิวแถม web

ในยุคที่การค้าขายไม่คึกคัก ผู้คนจับจ่ายใช้สอยน้อยลง เศรษฐกิจฝืดเคือง และมีคนทะยอยตกงานหรือต้องเปลี่ยนอาชีพจำนวนมาก เมื่อมองหาช่องทางทำธุรกิจสักตัว หรือ เครื่องมือที่ช่วยทำธุรกิจ การทำเว็บไซต์เพื่อแสดงตัวตนเป็นสิ่งจำเป็นของสินค้าและบริการ หากเราเป็นเพียงธุรกิจขนาดเล็กที่ไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง การทำใบปลิวเพื่อขายสินค้าเป็นสิ่งจำเป็น การมีเว็บไซต์เพื่อรองรับการค้นหาจากอินเทอเน็ตก็เป็นสิ่งที่ช่วยหางานหาลูกค้าเข้ามาได้ และเป็นทางเลือกหนึ่งในการอยู่รอดในยุคอินเทอเน็ต

เราเป็นโรงพิมพ์ที่ทำงานได้หลากหลาย และมีลูกค้าจำนวนหนึ่งที่ต้องการทำสื่อใบปลิวและจำเป็นต้องมีเว็บไซต์เพื่อใช้เป็นหน้าบ้านเอาไว้ให้ลูกค้าอ่านข้อมูลสินค้า รวมถึงอ่านข้อมูลบริษัทด้วย เราก็เลยจัดการทำทั้งสิ่งพิมพ์และเว็บให้ลูกค้าด้วยบริการแบบครบวงจร จบงานกับเรา ลูกค้าได้ใบปลิว 1000ใบ และได้เว็บไซต์ไปลุยงาน และใช้เงินไม่เกิน 15,000 บาท

ใบปลิวหน้าตาแบบนี้

Screen Shot 2563-03-03 at 13.24.55
Screen Shot 2563-03-03 at 13.25.05

เมื่อใบปลิวข้อมูลนิ่งพร้อมจัดพิมพ์เราก็ดำเนินการผลิต 1000 แผ่น ลูกค้ามีแผ่นพับสำหรับแจก และนำเข้ามูลไปใส่ไว้ในเว็บ โดยมีข้อมูลผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆใส่ไว้ในเว็บด้วยเช่นกัน เพื่อให้คนที่สนใจสินค้าและบริการสามารถค้นหาข้อมูลบริษัทได้บนอินเทอเน็ต เสมือนเป็นหน้าร้านที่เปิด 24 ชม.

เว็บที่เราแถมให้เป็นรูปแบบกึ่งสำเร็จรูป จัดวางอย่างเป็นระเบียบและง่ายต่อการอ่านในคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ เราจัดทำสิ่งพิมพ์และแถมเว็บไซต์ให้กับลูกค้าเพื่อช่วยเหลือให้ลูกค้าสามารถทำธุรกิจได้ในราคาย่อมเยา ตัวอย่างหนึ่งของลูกค้าที่เราทำให้เว็บไซต์หน้าตาเป็นแบบด้านล่างนี้

Screen Shot 2563-03-03 at 13.28.26
Screen Shot 2563-03-03 at 13.29.01

หากสนใจโปรโมชั่น ทำใบปลิวแถมเว็บ กรุณาติดต่อ วุฒิชัย โทร 0819373130 หรือติดต่อ line id : pockethifi

nec13 – educate or sell

20191119072808_IMG_0097

มีอยู่หลายครั้งที่เราจะพบเห็นได้ว่า  คนที่เข้าร่วม networking กับเรา หรือเราไป networking กับใคร จะมีคนพยายามขายของโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ทั้งๆที่วัตถุประสงค์ของการทำ networking แบบ bni นั้นเป็นการทำเพื่อให้เกิดการบอกต่อ  เป็นการพูดคุยเพื่อให้เกิด referral partner

เราควรจะใช้เวลาในการพูดคุยกันเพื่อให้ความรู้ซึ่งกันและกันในบริษัท ในสินค้า ในบริการต่างๆที่เรามี  เป็นการพูดคุยเพื่อให้เพื่อนเรารู้จุดเด่น จุดขายของเรา  เป็นการพูดคุยเพื่อให้เพื่อนรู้ว่าเราชำนาญเรื่องอะไร  ยิ่งเพื่อนเรารู้จักธุรกิจของเราได้ดีมากเท่าไหร่ก็เท่ากับเราประสบความสำเร็จในการทำ networking มากเท่านั้น

ต่อไปนี้เป็นรายการที่เราควรจะทำ  โดยทั้งหมดจะเป็นการ ให้ความรู้กับเพื่อนในกลุ่มเพื่อให้เขาสามารถให้ referral แก่เราได้ ดังนี้

1  บอกเพื่อนให้รู้ว่า referral ในฝันของเราคืออะไร ลูกค้าของเรามีลักษณะอย่างไร ต้องประสบปัญหาอะไรมา  ถ้าเราได้ลูกค้าคนนี้แล้วเราจะปลื้มมาก  พยายามบอกให้ชัด บอกให้เยอะ เพื่อให้เพื่อนเราจำได้ว่าเราชอบแบบไหน

2 ยกตัวอย่างวิธีการแก้ปัญหาของเราให้เพื่อนฟัง  หรือ เล่าให้ฟังว่า ลูกค้าคนปัจจุบันเราทำอะไรให้เขา  เขามาหาเราเพราะอะไร  การบอกให้เพื่อนได้รู้ที่มาที่ไปของแต่ละเคสจะทำให้เพื่อนเข้าใจเรามากขึ้น  และจะทำให้จำง่ายอีกด้วย

3 อธิบายจุดเด่นเล็กๆ หรือ วิธีแก้ปัญหาหลายๆวิธี ค่อยๆปล่อยข้อมูลทีละอย่าง ปล่อยอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์  เพราะพวกเรามีโอกาสพูดกันคนละ 50 ครั้งต่อปี มันเป็นเรื่องดีแน่ๆถ้าเราจะบอก 25จุดเด่น กับ 25 วิธีแก้ปัญหาให้ลูกค้า ดีกว่าจะบอกเพียงว่า เราทำอาชีพอะไรทุกๆสัปดาห์

4 ถามหาหรือมองหาสิ่งที่เราต้องการอย่างเฉพาะเจาะจง เพราะจะทำให้เพื่อนจำได้และมองหาได้ง่ายขึ้น  อย่าบอกว่าอะไรก็ได้  อย่าบอกเพียงแค่ อยากได้ลูกค้า  เพราะการบอกอย่างกว้างๆจะไม่ได้นำพาสิ่งที่เราถูกใจมาเลย

nec96 – สร้าง creditability ให้สูงที่สุด

IMG_7312

การตลาดแบบบอกต่อทรงพลังมาก  ผู้คนจำนวนมากเชื่อถือสิ่งที่ถูกบอกต่อมากกว่าสิ่งที่เห็นในใบโฆษณา  และที่มันยอดเยี่ยมที่สุดก็คือ ต้นทุนที่เราจ่ายในการทำการตลาดแบบบอกต่อ มันถูก มันย่อมเยากว่าการโฆษณามหาศาล 

สิ่งหนึ่งที่เป็นสัจจธรรมก็คือ ไม่มีอะไรฟรี  และ ไม่มีของถูก  การจ่ายเงินน้อยลงกับไปกับการตลาดแบบบอกต่อ  มันไม่ได้น้อยในด้านตัวเงินด้านเดียว  แต่เราจ่ายในรูปแบบอื่นทดแทนเข้าไป นั่นคือเราเอาเวลาและความพยายามจ่ายแทนเงิน  และมันก็หมายความว่า นอกจากเงินค่าประชุมค่าสมาชิกแล้ว ต้องใช้เวลาและความพยายามจากเราด้วย แล้วมันเป็นยังไง เวลาและความพยายาม

การใช้เวลาก็คือการไปประชุม ไปวางแผน ไปแนะนำตัว การวางแผนที่จะทำให้เราเป็นที่รู้จักในการประชุมทุกแห่ง ในกลุ่ม networking ทุกกลุ่ม และในการทำ 1-2-1ด้วย   และ เมื่อมีโอกาสทำงาน เราจะใช้ตัวที่สองก็คือความพยายามในการทำงานนั่นเอง  

IMG_0088

การทำงานแล้วช่วยสร้างความน่าเชื่อถือที่สูงที่สุด  ก็คือการทำงานด้วยมาตรฐานสูงที่สุดเสมอและสูงที่สุดตลอดเวลา  เช่นการนัดหมายต้องตรงต่อเวลา  นัดส่งของก็ส่งของได้ตรงเวลา  ผลิตของก็มีคุณภาพเท่ากับที่รับปากไว้  วัตถุดิบหรือบุคลากรที่ใช้กับงานก็มีคุณภาพสูงเสมอในทุกขั้นตอน

สองปัจจัยนี้ครับ เวลา และ ความพยายาม  ที่จะช่วยสร้าง creditability ให้สูงลิบ สูงที่สุด สูงจนผู้คนจดจำและนึกถึงเราเมื่อต้องการสินค้าและบริการที่เราทำ

nec12 -การทำธุรกิจแบบเน้นความสัมพันธ์

717374983

การทำ networking ไม่ได้หมายถึงการพูดถึงธุรกิจซึ่งกันและกัน และจบด้วยการแลกนามบัตร หากเราคิดเพียงแค่นี้ เรากำลังเข้าใจผิด

 

ในการเข้ากลุ่ม networking สิ่งที่ควรจะพูดถึงนั้นมีมากกว่าการคุยกันเรื่องธุรกิจ  การบอกต่อที่อาศัยความสัมพันธ์นั้น ไม่ใช่แค่การพูดว่า ฉันทำอะไร เธอทำอะไร เรามาทำธุรกิจกันเถอะ  แต่สิ่งที่มีมากกว่านั้นก็คือ ความสัมพันธ์ในระดับส่วนบุคคลบนความเหมือนกันบางอย่าง  ซึ่งความสัมพันธ์ที่ว่านี้จะนำไปสู่ธุรกิจที่ใหญ่ขึ้นได้

736279103

ในการเทรนนิ่งบางครั้ง จะมีกิจกรรมการเขียนข้อมูลส่วนตัว  เป็นการระบุ สิ่งที่ชอบ สิ่งที่สนใจ สิ่งที่อยากได้ และเป้าหมายทางธุรกิจ  ใน bni เรียกว่า  GAIN Sheet หลังจากนั้นก็จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลนี้ต่อกันกัน

 

กรณีตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้น

การวิเคราะห์ข้อมูล Gain นี้ทำให้รู้ว่า มีคนสองคนที่มีข้อมูลบางอย่างเหมือนกัน  ซึ่งสองคนนี้อยู่ในกลุ่มและรู้จักกันมาเป็นปีแล้ว แต่ไม่เคยมีธุรกิจถึงกันเลย  สิ่งที่เหมือนกันจาก GAIN ก็คือ เขาทั้งสองคนมีลูกและลูกอยู่ในทีมฟุตบอลซึ่งเขาทั้งสองต่างก็มีส่วนร่วมในกิจกรรมฟุตบอลของลูกเหมือนกัน  หลังจากที่รู้ว่ามีบางอย่างเหมือนกันแล้ว  เขาสองคนนี้ก็ได้พูดคุยกันมากขึ้น และกลายเป็นคู่ที่สนิทกันได้ในเวลาไม่นาน  และได้ร่วมแจมกิจกรรมฟุตบอลของลูกด้วยกัน  หลังจากนั้นสามเดือน  ก็มี referal เกิดขึ้นระหว่างเขาทั้งสองคน

 

ทั้งหมดนี้มันเร่ิมจากการค้นหาความเหมือนกันในบางอย่าง  ความเหมือนกันนี้สามารถพัฒนาเป็น connection ที่ดี และทำให้เกิด referral ได้ ผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ใหญ่ขึ้นก็จะตามมา

ความสอดคล้องระหว่างตัวตนและธุรกิจของเรา

IMG_7357

 

ในการประชุมกลุ่มด้วยกัน หากมีใครสักคนยืนขึ้นเพื่อพูดอธิบายว่าเขาคือใคร ทำธุรกิจอะไร ลูกค้าที่ใช้บริการจะได้อะไร  แต่ถ้าหากสิ่งที่ปรากฏให้เห็น ณ เวลาที่พูด กับสิ่งที่เขาขายนั้นไม่สอดคล้องกัน  มันจะไม่เกิดผลลัพธ์อะไรเลย เช่น

ถ้าเทรนเนอร์การออกกำลังกาย  มีรูปร่างน้ำหนักเกินไปเยอะ  บางคนเรียกว่าอวบระยะสุดท้าย  แล้วใครอยากจะใช้บริการของเขา  ถ้าเรามีเพื่อน เราจะกล้าแนะนำให้เขามาออกกำลังกายกับเทรนเนอร์คนนี้ไหม  คำตอบก็คือไม่กล้าแนะนำ  ดังนั้นเคสนี้ก็ไม่เกิดการแนะนำทางธุรกิจแน่นอน

ถ้าคนขายรถยนต์  ใช้รถเก่า ซ่อมบ่อย เราจะกล้าแนะนำเพื่อนไปซื้อรถจากโชว์รูมเขาหรือไม่  คำตอบก็คือ ไม่กล้าแนะนำ

เราขายอะไร เราก็ควรจะเป็นพรีเซนเตอร์สิ่งนั้นอย่างเต็มภาคภูมิ เป็นตัวอย่าง เป็นผู้ชี้นำที่ดูน่าเชื่อถือในสินค้าเหล่านั้น  ยกตัวอย่าง คนทำออโตเมชั่น ที่บ้านหรือในรถก็ควรมีของแบบนี้ใช้งานเอง  คนขายเครื่องเขียนก็ควรใช้สิ่งที่ตนขาย อย่าเผลอใช้ยี่ห้ออื่นให้เห็น  รายละเอียดเหล่านี้จะทำให้คนฟัง คนที่ร่วมประชุมด้วยเกิดความเชื่อถือ

ความสอดคล้องของสินค้าและบริการ กับ ตัวตนของเจ้าของธุรกิจนั้น เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในการพบปะผู้คน  หากเรายังไม่สามารถทำให้มันสอดคล้องกันได้  ก็ต้องอย่าทำให้มันขัดแย้งกัน เพื่อให้คนที่พบเราเชื่อว่าเราเป็นตัวจริงในธุรกิจนั้นๆ

 

 

NEC pocket05

การทักทายในโหมดนักธุรกิจ
IMG_8375

สวัสดีครับ คนไม่รักสันโดษ

เวลาเราไปเจอใครก็ตามที่ถามทุกข์สุขกัน คำถามที่มักจะเจอก็คือ  เป็นไงบ้าง  งานเยอะไหม  มีอะไรน่าสนใจรึเปล่าและเราก็มักจะตอบกันแบบเคยชิน  ก็ดี  เรื่อยๆ  ยุ่งมาก  คำตอบแนวนี้จะทำให้คนตอบไม่ค่อยคึกคักเท่าไหร่ คนฟังก็เหมือนกัน คือฟังแล้วไม่อยากทำงานต่อ  ฟังแล้วเนือยๆ เปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า  แทนที่คนถามจะส่งต่อลูกค้าให้เรา  พอเจอเราตอบว่า ยุ่งมาก  เขาก็ไม่กล้าส่งลูกค้าให้ซะแล้ว

สิ่งที่เราควรทำก็คือ ตอบคำถามให้สร้างสรร  ตอบคำถามให้นำไปสู่งานใหม่  คำตอบควรจะพาธุรกิจเข้ามา ไม่ใช่ปฏิเสธธุรกิจ

เรามีคำตอบดีๆให้ลองเอาไปปรับเล็กน้อยเพื่อใช้กับธุรกิจของทุกท่านครับ

ช่วงนี้เป็นไง

แทนที่จะตอบว่า ก็ดี  ยุ่งมาก  ลองเปลี่ยนเป็น

A1  ชีวิตตอนนี้เยี่ยม  ผมกำลังจะจบงานลูกค้ารายใหญ่

A2  ผมกำลังสนุกมาก  เพราะผมกำลังขยายแฟรนไชน์

มันอธิบายว่าคุณงานเยอะ  แต่คุณยังมองหาความก้าวหน้าและงานที่มากขึ้น

 

 

งานเยอะไหม

แทนที่จะตอบว่า เรื่อยๆ  งานเยอะทำไม่ทันเลย

A1 ปีนี้ผมมีลูกค้าใหม่ 8 รายแล้ว แต่ผมตั้งเป้าไว้ที่ 20

A2 ยอดขายเพิ่มขึ้น 50% และผมวางแผนจะเพิ่มคนงาน

A3 ช่วงที่ผ่านมายอดขายเป็นไปตามเป้า  เรากำลังวางแผนเพิ่มเป้า และเพิ่มลูกค้า

 

 

มีอะไรใหม่ มีอะไรน่าสนใจไหม

แทนที่จะตอบว่าตอนนี้ว่างๆ  ไม่มีอะไรใหม่

A1 ผมกำลังเทรนพนักงานขายคนใหม่ คนนี้ท่าทางขายเก่ง

A2 ผมให้สัมภาษณ์หนังสือไปเล่มหนึ่ง  คาดว่าจะได้วางแผงเร็วๆนี้

A3 ตอนนี้ผมกำลังลงเรียนคอร์สการลดขั้นตอนการบริหารงานขาย

 

นี่เป็นตัวอย่างการตอบคำถามที่เรามักจะต้องตอบในชีวิตประจำวัน  เราควรจะเตรียมคำตอบเหล่านี้เอาไว้ในใจตอบให้ขึ้นใจ  เพื่อจะให้มันดีกว่าการตอบว่า เรื่อยๆ  หรือ ยุ่งมาก เพราะถ้าคุณตอบว่ายุ่งมาก  เพื่อนคุณที่กำลังจะส่งลูกค้ามาให้อาจจะเปลี่ยนใจไม่กล้าส่ง

อย่าลืมว่า เราพบกันใน bni เพราะเราอยากได้ธุรกิจใหม่  อยากได้ลูกค้าใหม่

NEC pocket04

วันนี้เราจะมายกตัวอย่างการส่ง ref ที่เป็นธุรกิจต่อเนื่องให้สมาชิกในทีมนะครับ

IMG_0205

เริ่มต้นจาก  มีนักอสังหาฯ ไปรับงานขายบ้านเดี่ยวหลังหนึ่ง  ลูกค้าของเขาเป็นเศรษฐี  แต่ไม่มีเวลาประกาศขายเองจึงเลือกใช้บริการนักอสังหาริมทรัพย์หรือตัวแทนขายบ้าน  นักอสังหาฯ เริ่มงานบริการของเขากับลูกค้า  สิ่งที่ตามมาก็คือ  นักอสังหาฯ มีประสบการณ์สูง  รู้ว่าบ้านสะอาดมีโอกาสขายได้สูงกว่าบ้านสกปรก  ก็เสนอบริการทำความสะอาดเพิ่มเข้าไป   นักอสังหาฯ รู้ว่า ภาพถ่ายบ้านสวยๆ จะทำให้ลูกค้าสนใจมากกว่าภาพถ่ายคุณภาพต่ำ  ก็เสนอบริการถ่ายภาพเพิ่มให้  ขั้นตอนการขายยังดำเนินไปถึงการสั่งพิมพ์ป้ายแบนเนอร์อีกด้วย จะเห็นได้ว่า  การติดต่อลูกค้าหนึ่งครั้งจะไม่จบแค่เพียงหนึ่งบริการ แต่เอเจ้นสามารถยิงคำถามไปยังลูกค้าเพื่อถามหาบริการอื่นๆที่เขามองหา  ทั้งบริการที่ลูกค้าอยากได้โดยตรง  และบริการต่อเนื่องที่เราสามารถคอนซัลให้กับลูกค้าได้ เพื่อนำธุรกิจส่งต่อให้กับทีม

การถามเพื่อชี้นำลูกค้าเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราสามารถส่งลูกค้าเข้าสู่สมาชิกท่านอื่นๆได้  หลังจากวันนี้  ให้ท่านลองดูนะครับ  เมื่อท่านบริการลูกค้าของท่านเสร็จแล้ว  ให้ลองถามถึงสิ่งที่เขาต้องการเพิ่มเติม  หรือ ให้ท่านลองวิเคราะห์ลูกค้าของท่าน แล้วเสนอสิ่งที่ลูกค้าควรจะใช้หรือสิ่งที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าของท่านเพื่อนำพาลูกค้ามาใช้บริการอื่นๆในทีมของท่าน  ถ้าคุณเป็นมืออาชีพเพียงพอ  ถ้าลูกค้าไว้ใจคุณอยู่แล้ว  การแนะนำ การคอนซัลใดๆของคุณ  หรือการนำเสนอเซอร์วิสอื่นๆของทีม  คุณจะทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ  และลูกค้าไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียด  ตราบใดที่คุณหาของดี หรือ บริการดีๆให้ลูกค้า