พิมพ์หนังสือพ็อกเก็ตบุ๊ค

รับพิมพ์หนังสือ - 1

หนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คที่พิมพ์ปกด้วยฟอยล์สีทอง จะให้ความแวววาว หากมีมุมสะท้อนแสงที่เหมาะสมเราจะเห็นเป็นสีทองอร่าม

เนื้อหาในหนังสือคือบันทึกความคิดของนักธุรกิจท่านหนึ่ง เป็นข้อความที่โพสท์อยู่ในเพจเฟสบุ๊ค เมื่อครบจำนวน 102 โพสท์ที่เนื้อหาครบถ้วนถูกใจแล้วก็นำมารวมเล่ม เจ้าของหนังสือส่งข้อมูลดิบมาคร่าวๆ โรงพิมพ์นำมาเรียงให้เป็นอาร์ตเวิร์คสำหรับจัดพิมพ์

ในส่วนหน้าปกเดิมทีเป็นการออกแบบคร่าวๆ มีส่วนที่จะเป็นงานปั๊มฟอยล์สีทอง โรงพิมพ์จะนำแบบร่างมาปรับแต่งใหม่ จัดวางภาพและองค์ประกอบสีทองให้สามารถแยกไปทำบล๊อกปั๊มทองได้ เมื่อทุกอย่างลงตัว และเนื้อหาภายในไม่แก้ไขแล้วก็จะทำตัวอย่างเหมือนจริงด้วยระบบดิจิทัลปริ๊นท์ เราจะได้หนังสือเล่มเหมือนจริงออกมาตรวจสอบก่อนพิมพ์จริง

IMG_1822

การพิมพ์จริงใช้เครื่องพิมพ์อ๊อพเซ็ทซึ่งเป็นเครื่องจักรที่เหมาะสำหรับทำงานจำนวนมาก หากเราจะใช้เพียง 10 เล่มก็ใช้ระบบการพิมพ์ดิจิทัลได้ แต่หากจำนวนหนังสือเป็นพันเล่ม ควรจะใช้การพิมพ์แบบอ๊อพเซ็ท เพราะจำทำให้ต้นทุนต่อเล่มถูกกว่า ยิ่งพิมพ์เยอะ ราคาต่อเล่มจะยิ่งถูก หนังสือที่วางขายในห้างจำนวนมากก็จะพิมพ์ด้วยระบบอ๊อพเซ็ทแทบทั้งสิ้น

พิมพ์หนังสือสวดมนต์

ผมได้รับงานให้ออกแบบและจัดพิมพ์หนังสือสวดมนต์ ก็เลยลองทำดู รวบรวมบทสวดที่มีอยู่จำนวนมากมาจัดทำเป็นรูปเล่ม ขนาดกระทัดรัด และได้เลือกภาพที่เคยถ่ายสะสมไว้มาทำเป็นหน้าปก ซึ่งก็โชคดีที่ผมเคยถ่ายภาพเกี่ยวกับพระพุทธศาสนามาอยู่บ้าง สมัยเป็นช่างภาพหัดถ่ายภาพก็มักจะต้องไปเที่ยววัด เที่ยวอยุธยา เมื่อมีโอกาสก็ถ่ายภาพพระพุทธรูปเก็บเอาไว้ จนวันหนึ่งได้ใช้งานจริงๆ เป็นความภาคภูมิใจเรื่องหนึ่งของการถ่ายภาพ

ก่อนจะเลือกภาพนี้ขึ้นปก ก็มีการคัดเลือกไว้หลายภาพ ผมเลือกใช้ภาพถ่ายจริงเป็นภาพขึ้นปก เพราะไม่ได้มีความสามารถในการวาดภาพประกอบแนวฟุ้งๆฝันๆ เลือกภาพถ่ายที่เคยถ่ายจะเข้าทางมากกว่า ภาพเหล่านี้ถูกคัดเลือกมาให้ลูกค้าดู และลูกค้าก็เลือกภาพเศียรพระสีทองภาพนี้เป็นเล่มหลัก

_MG_6858

ภาพอื่นๆก็มาจากหลายโอกาส ทุกภาพที่คัดมาก็ดูแล้วสามารถใช้ทำเป็นปกหนังสือสวดมนต์ได้ ในรอบนี้จะใช้สามปก รอบอื่นๆก็แล้วแต่ลูกค้าว่าจะเลือกใช้ภาพไหน เพราะทางโรงพิมพ์ก็มีภาพสต๊อคที่ถ่ายเองเก็บไว้จำนวนมาก เดี๋ยวจะทะยอยนำออกมาให้เลือกใช้ทำปก หนังสือสวดมนต์ที่มีภาพถ่ายสวยๆก็น่าจะทำให้คนซื้อไปบริจาคไม่รู้สึกจำเจ ใครสนใจก็ทักเข้ามาได้ เรารับผลิตหนังสือสวดมนต์ตามสั่ง ทั้งผลิตเพื่อขาย หรือ เพื่อให้เจ้าภาพซื้อไปบริจาค

IMG_20241004_135301

_MG_1634Full-ayutthaya-11nov2007

_MG_1576Full-ayutthaya-11nov2007

021-1228x1228

S__29351943
S__29351944

สั่งซื้อหรือสั่งผลิตได้ที่

ทำที่คั่นหนังสือ

การอ่านหนังสือที่ชอบหรือแม้แต่การอ่านหนังสือเรียนเพื่อเตรียมสอบก็เป็นสิ่งที่ต้องการความต่อเนื่อง หากเราได้อ่านหนังสือที่ชอบที่มาพร้อมกาแฟสักแก้ว ที่นั่งดีๆ แสงสว่างพอเหมาะ เราก็เหมือนได้อยู่ในสวรรค์ มันเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข และจะต้องการความต่อเนื่อง แต่เมื่อมีธุระหรือจะพักชั่วคราว จะเติมกาแฟ หรือ เข้าห้องน้ำ เราก็ต้องการที่คั่นหนังสือ

IMG_5433

ปกติหนังสือที่ซื้อจากร้าน มักจะได้แถมที่คั่นหนังสือมาด้วย แต่ของแถมก็จะเป็นแค่เศษกระดาษโปรโมชั่น บ้างก็เป็นของแถมจากหนังสือบางเล่มในร้าน ซึ่งมันก็ทำหน้าที่คั่นหนังสือได้ แต่ไม่สวย และดูไม่มีกาลเทศะที่จะให้ใช้เลย และหลายๆครั้งผมก็หาเศษกระดาษใกล้ตัวมาคั่นหนังสือแทน บางครั้งก็หยิบรูปภาพที่อัดเป็นกระดาษเอาไว้มาคั่นหนังสือ การใช้งานที่คั่นหนังสือไม่มีอะไรพิเศษ แค่กระดาษมาวางสอดไว้ แต่มันก็คงดีถ้ามีที่คั่นหนังสือที่เราชอบ หรือ เราทำเอง

ที่คั่นหนังสือจะมีขนาดพอเหมาะสำหรับใช้งานประมาณ 1.25×8 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดที่ดูแล้วสวยงาม นอกจากจะใช้คั่นแบบปกติแล้วหากจะใช้สอดในหนังสือให้จมหายไปกับเล่มหนังสือ A5 ก็ได้ เพราะหนังสือ A5 จะมีความสูงประมาณ 8.25 นิ้ว นั่งคิดเลือกรูปที่จะนำมาทำ แล้วก็ตัดสินใจว่าจะทำที่คั่นหนังสือที่มีตัวเลขปฏิทินของเดือนปัจจุบันที่ทำที่คั่นหนังสือ ก็เลยไปหาไฟล์ในอินเทอเน็ต ค้นหาคำว่า calendar 2023 vector แล้ว google ก็ส่งลิงค์มาให้ เข้าไปโหลดไฟล์ปฏิทินที่มีแจกฟรี

Screenshot 2566-08-27 at 08.07.28

โหลดไฟล์ตัวเลขปฏิทินชนิด pdf หรือ ai ก็ได้ จากนั้นก็เอาไปวางประกอบกับภาพในโปรแกรม illustrator เพื่อให้ได้อาร์ตเวิร์คที่คั่นหนังสือที่ต้องการ แล้วก็ส่งไปพิมพ์ที่โรงพิมพ์ เลือกกระดาษเนื้อหนามีความสากเล็กน้อย เป็นกระดาษเนื้อปอนด์หนา ปกติกระดาษตัวนี้จะใช้ทำการ์ดแต่งงาน ผมมีเศษกระดาษตัวนี้เหลืออยู่จำนวนมาก ใช้ทำงานตัวอย่างให้ลูกค้า บางทีก็หยิบมาทำตัวอย่างงานอื่น เอามาพิมพ์ภาพถ่ายก็สวย ตอนนี้ก็ใช้ทำที่คั่นหนังสือ

IMG_5458

IMG_20230813_171614_128

เลือกทำที่คั่นหนังสือเป็นปฏิทินเดือนสิงหาคม เพราะเป็นเดือนที่ผมเพิ่งจะเที่ยวทะเลกับครอบครัว และทำที่คั่นหนังสือในเดือนนี้ก็เลยเลือกตัวเลขของเดือนสิงหาคมปีนี้เพื่อให้เป็นที่ระลึกถึงช่วงเวลานี้ ปฏิทินเดือนเดียวก็เป็นปฏิทินได้ เราไม่จำเป็นต้องทำปฏิทินรายปีที่มี 12 เดือนก็ได้ มันเรื่องของเรา

รวมเล่มหนังสือจากบทความที่เขียนสะสม

810837

ผมเขียน content ในบล๊อกแห่งนี้มานานเกิน 10 ปีแล้ว และมีเนื้อหาเกี่ยวกับธุรกิจบางส่วนที่เขียนสรุปย่อเอาไว้ให้อ่านพอเข้าใจ เนื้อหาเกี่ยวกับการตลาดแบบบอกต่อ ซึ่งผมก็ใช้เนื้อหานี้ในการบอกเล่าให้กับเพื่อนนักธุรกิจกลุ่มหนึ่งเป็นประจำ ซึ่งพอผ่านมาหลายปี เนื้อหาก็มีหลายสิบตอน ลองเอามารวมแล้วจัดหน้าบนหน้ากระดาษ A5 ได้เกือบ 200หน้า ก็เลยรวมเป็นเล่มไปเลยดีกว่า

ปก การตลาดแบบบอกต่อ_ปกหน้า การตลาดแบบบอกต่อ

ปก การตลาดแบบบอกต่อ_ปกหลัง การตลาดแบบบอกต่อ

เมื่อคิดจะรวมเล่มก็ต้องออกแบบปก เขียนคำนำ สารบัญ ก็ใช้เวลาประมาณ 5 วันในการรวมเนื้อหา เขียนคำนำเพิ่มเติมใช้ความสามารถในการทำ Table of content ของโปรแกรม Microsoft word ช่วยสร้างสารบัญให้ ส่วนออกแบบปกหน้าและปกหลังก็ใช้โปรแกรมจัดหน้า illustrator หยุดยาว 5 วันผ่านไปก็ได้หนังสือมา 1 เล่มที่พร้อมจะแจกจ่ายเป็น e-book ซึ่งตอนนี้กำลังคิดเรื่องหาทางจัดจำหน่ายในระบบของเว็บขายหนังสือด้วย ตั้งใจว่าจะทำเป็นทั้งเวอร์ชั่น E-book และเวอร์ชั่นกระดาษ

810852

งานพิมพ์เร่งด่วน หนังสือที่ระลึกงานศพ

เพื่อนผมมีข่าวร้าย น้องชายเสียชีวิต และจัดงานศพอยู่ต่างจังหวัด เพื่อนผมอยากจะมีหนังสือที่ระลึกแจกให้กับแขกในงาน มีเวลาให้ทำประมาณ 1 วัน พอรู้ว่าจะต้องทำให้เสร็จในเวลาที่จำกัดมากๆ ก็เลยแจ้งกับเพื่อนว่า ผมขอไฟล์หนังสือแบบพร้อมพิมพ์ แล้วก็จะทำหนังสือประมาณ 100-300 เล่ม

IMG_1541

สิ่งที่ทางโรงพิมพ์จะต้องคิดทันทีคือ กระดาษจะสั่งจากโรงงานมาไม่ทันแน่ๆ ต้องใช้กระดาษที่มีสต๊อคอยู่ในโรงพิมพ์ ผมรีบเช็คทันทีว่าหนังสือจะต้องใช้ปกเป็นกระดาษหนา กระดาษ 260g เป็นกระดาษที่นิยมใช้ ส่วนเนื้อในก็มีทางเลือกเป็นกระดาษปอนด์ 70-80g ซึ่งเป็นสเป็คที่นิยมใช้ทำหนังสือ และก็จะมีกระดาษถนอมสายตา 75g ที่นิยมใช้เช่นกัน ผมให้ลูกน้องนับกระดาษทั้งหมดว่า เนื้อในเรามีเท่าไหร่ กระดาษทำปกเรามีเท่าไหร่ แล้วก็เช็คกับไฟล์ข้อมูลของเพื่อนว่า เนื้อในเมื่อทำเป็นหน้าหนังสือแล้วจะมีประมาณกี่หน้า นับหน้า แล้วก็คำนวณออกมา พบว่าเรามีสต๊อคกระดาษพอทำได้ 300 เล่ม

ปก 260g เนื้อใน 40 หน้า เล่มหนังสือประมาณ 5×7 นิ้ว ความหนาของเล่มนี้ก้ำกึ่งมาก ปกติหนังสือจำนวนหน้าไม่มากก็จะเหมาะกับการเย็บแม็กซ์มุงหลังคามากว่าไสกาว 40หน้า หรือ 20 แผ่น อาจจะไสกาวไม่สวย ผมเลยทำตัวอย่างออกมาทั้งสองแบบเพื่อดูว่าเย็บแม็กซ์สวยไหม หรือ ไสกาวสวยไหม กระดาษเกาะตัวกันเป็นเล่มได้ไหมเมื่อไสกาว และพบว่า ไสกาวก็ทำได้ เลยตัดสินใจทำเป็นระบบไสกาว

งานพิมพ์ปกใช้กระดาษ 260g พิมพ์ระบบดิจิทัล เมื่อทำเสร็จแล้วจะตัดแบ่งเป็นชิ้นๆ เพื่อไปทำเส้นพับด้วยเครื่องปั๊มแล้วรอประกอบเล่ม ส่วนตัวเนื้อใน ใช้กระดาษถนอมสายตา 75g พิมพ์ดิจิทัลขาวดำทั้งเล่ม แต่แทรกหน้าสี 1 หน้าในส่วนที่จะเป็นรูปของเจ้าของเรื่อง เพื่อให้หนังสือเล่มนี้มีภาพเจ้าของหนังสือเป็นภาพทางการซึ่งเป็นภาพสี ผมรู้สึกว่าหนังสือที่มีภาพสีธรรมชาติบางภาพเป็นหนังสือที่มีเสน่ห์มากกว่าสีขาวดำทั้งเล่ม เมื่อพิมพ์เนื้อในแล้วก็ตัดปลิวออกมาเรียงหน้า แล้วก็นำไปประกอบเล่ม เข้าเครื่องไสกาว

การไสกาวเราใช้เครื่องไสกาวสำเร็จรูป เครื่องจะหนีบเนื้อในไปวิ่งผ่านตัวไส แล้วจุ่มกาวในราง แล้วเดินไปประกบกับแผ่นปก งานไสกาวเป็นงานที่ทำด้วยเครื่องเสมอ หลังจากออกจากเครื่องไสกาวแล้วเราต้องรอเวลาประมาณ 30 นาทีเพื่อให้กาวแห้งสนิทแล้วจึงตัดเจียนให้จบเป็นหนังสือ งานนี้ พิมพ์ไป ปั๊ม ไสกาว ทำต่อเนื่องกัน และจบด้วยเครื่องตัด ใช้เวลาผลิตรวมประมาณ 8 ชั่วโมง

การเปลี่ยนแปลงทุกครั้งต้องใช้ความรู้

ในชีวิตการทำงาน  เจมส์จะทำงานในบริษัทหลายแห่ง ทั้งแบบที่เป็นลูกน้อง และแบบที่เป็นเจ้าของ  แต่ละครั้งก็จะมีความคาดหวังในตอนต้น  และเมื่อดำเนินกิจการไปเรื่อยๆ  ก็จะเริ่มพบกับปัญหาที่ค่อยๆก่อตัวขึ้น  อย่างเช่นการทำอีเว้น  ก็มีช่วงเวลาที่คึกคัก  และ ช่วงเวลาที่งานน้อยซึ่งมีหลายสาเหตุ  และทุกสาเหตุมันก็คือปัญหาที่ทำให้บริษัทเกิดผลกระทบ  และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง  

ช่วงการทำอีเว้นมีการพบปะผู้คนจำนวนมาก  และโชคดีที่เจมส์เป็นคนเรียนรู้เร็ว  ระหว่างที่อยู่กับออแกไนเซอร์ก็ได้เรียนรู้การทำธุรกิจทีวีไปด้วย  จนในที่สุดบริษัทก็ตัดสินใจรับงานผลิตรายการทีวี  โดยอาศัยคอนเน็คชั่นที่ผู้บริหารรู้จักกับบริษัทใหญ่ที่ซื้อเวลาในสถานีโทรทัศน์ไว้แล้ว  การผลิตรายการใหม่โดยบริษัทยักษ์ใหญ่เป็นเรื่องที่เจ้าใหญ่จะต้องทำเป็นประจำ และบริษัทเล็กๆของเจมส์ก็นำเสนอโปรเจ๊คเพื่อขอทำรายการใหม่  และในที่สุดก็ได้รับโอกาส

Actor in front on the camera in an audition

รายการทอล์คโชว์รายการใหม่จึงได้เกิดขึ้นในการดูแลของทีมงานเจมส์  การเข้าสู่งานสาขาใหม่ทำให้เกิดการเรียนรู้ใหม่อีกหลายอย่าง  การเป็นครีเอทีฟที่ระดมความคิดสร้างสรรค์ทำตัวอย่างสตอรี่บอร์ดไปของานนั้นเป็นสิ่งที่ทำผ่านแล้ว  การได้งานมาทำมันแปลว่าได้รับการยอมรับ  ได้รับความไว้วางใจ  เนื้อหาที่คิดเพื่อนำเสนอผ่านการคัดกรอง ปรับแต่งและออกแบบอย่างดีที่สุด  พอมาถึงโปรดักชั่นหรือการผลิต  มือใหม่อย่างเจมส์ก็จ้างทีมโปรดักชั่นเฮ้าส์มาช่วยกันทำ  มันคือการเรียนรู้อย่างไม่รู้ตัวเกี่ยวกับทีมงานโปรดักชั่น  ซึ่งในภายหลังเจมส์ก็หลงใหลการทำโปรดักชั่นมากขึ้นจนนำไปสู่การออกมาเปิดบริษัทเอง

รายการที่ต้องออกฉายทางทีวีเป็นประจำนับว่าเป็นสิ่งที่ท้าท้ายมาก  การวางสคริปต์  การเช่าโรงถ่าย  การนัดหมายกับทีมแสง  ทีมเสียง การนัดหมายดาราแขกรับเชิญ การตัดต่อ   ทุกอย่างเป็นงานประจำสัปดาห์ที่หนักหนามากสำหรับคนประสบการณ์ระดับเริ่มต้น  การระดมคนดูเข้าโรงถ่ายเพื่อส่งเสียงเชียร์  การกำกับเสียงหัวเราะของคนดูก็เป็นเรื่องใหม่ที่เพิ่งเคยเห็น  แต่ก็ค่อยๆเรียนรู้ไปทีละนิด  จนทำรายการให้ออกมาเป็นประจำได้

พอทำได้พักใหญ่จนสามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างในการผลิตรายการทีวีได้แล้วก็เริ่มนึกถึงรายการใหม่  มองหาเนื้อหาแนวอื่นที่น่าสนใจ  เพราะความอยากทำรายการที่เลือกเองเจมส์กับทีมงานบางส่วนจึงต้องออกมาเปิดบริษัทเอง  เป็นเจ้าของธุรกิจเอง  ลงทุนด้วยเงินตัวเอง  และผลิตงานที่คิดเอง  ย่างก้าวนี้สำคัญมาก ผลของการได้เรียนรู้เรื่องการผลิตรายการทีวีทำให้สร้างบริษัทของตัวเองได้  และโปรเจ๊คใหม่กับรายการตัวใหม่เจมส์เลือกทำแนวสารคดี  งานสารคดีทางดนตรีคือแพสชั่นที่ฝันอยากทำมาตั้งแต่เด็ก  เจมส์เป็นแฟนเพลงที่ซื้อเทปศิลปินที่ชอบ  ถ้ามีโอกาสก็จะต้องทำรายการเกี่ยวกับเพลงให้ได้   เจมส์บอกว่า อยากฝากรอยแผลไว้ในประวัติศาสตร์วงการเพลงไทยว่าเจมส์เคยทำสารคดีทางดนตรีออกทีวี

Cinematography Elements Template

บริษัทผลิตรายการทางดนตรีดำเนินไปอย่างดี  เจมส์ได้ทำรายการที่คิดเอง  ประสบการณ์การทำงานโปรดักชั่นก็เก่งกล้ามากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันการลงทุนในเครื่องมือก็มากขึ้นเช่นกัน  พอทำอะไรได้ ก็ซื้ออุปกรณ์ไว้ทำเอง  อุปกรณ์กล้อง ไมโครโฟน เครื่องตัดต่อ คอมพิวเตอร์ตัวแรงๆ  ทุกอย่างที่รายการทีวีต้องใช้เจมส์ซื้อหมดเลย   รายการเดิมกำลังผลิตและฉาย รายการใหม่ก็ต้องคิดไปนำเสนอช่อง  พอผ่านไปเรื่อยๆทุกสิ่งเริ่มไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้

รายได้จากการทำรายการลดลง  เพราะสถานีที่เป็นผู้ว่าจ้างให้งบน้อยลง  แต่ค่าตัวทีมงานและเงินเดือนลูกน้องสูงขึ้น  อุปกรณ์ก็ต้องอัพเกรดลงทุนเพิ่มตลอดเวลา  รายได้ที่ลดลงสวนทางกับรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการทำสารคดีทางดนตรีที่เจมส์อยากทำงานในระดับมาสเตอร์พีช คือใส่ให้สุดทุกอย่าง  อย่างเช่น การได้สัมภาษณ์บุคคลสำคัญในวงการเพลง  แต่คิวนัดหมายไม่ลงตัว  แขกรับเชิญอยู่ต่างประเทศจะกลับเมืองไทยเดือนหน้า  กว่าจะรอนัด  ถ่ายทำ ตัดต่อ แล้วส่งออกฉายต้องใช้เวลารวมกันสามเดือน   ผลคือรายได้เข้าช้าไปหลายเดือน  แต่เงินเดือนลูกน้องจ่ายทุกเดือน  จึงเป็นเหตุผลที่ต้องรับงานเล็กๆ  งานโฆษณา  งานวิดีโอโพรไฟล์ของบริษัทต่างๆมาช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในบริษัท

ตอนนี้เจมส์เริ่มรู้แล้วว่าทำรายการทีวีอย่างเดียวไม่พอ  เพราะรายการทีวีเคยเป็นลูกค้าทีละ 12 ตอน  เหมือนมีลูกค้าประจำที่ซื้อ 12 ครั้ง  ต้องเปลี่ยนมารับงานบริษัทเล็กๆรับเงินทีละโปรเจ๊คทีละครั้ง  ปัญหานี้ค่อยๆเกิดขึ้น  นานวันเข้าก็ค่าใช้จ่ายสูงกว่ารายรับ  ในที่สุดมันกลายเป็นปัญหาที่ใหญ่โตจนทำให้บริษัทต้องปิดตัวลง  ปิดตัวแบบเป็นหนี้ด้วย

ในแง่ของบริษัทแม้จะเป็นหนี้  แต่ในแง่ผลงานนั่นเป็นเลิศ  เพราะเจมส์ทำงานแบบลงเต็มที่ ใส่สมองกับทุกรายละเอียด   การทำงานที่ปราณีตทำให้มีลูกค้าหลายรายเห็นความสามารถ  และก็มีโอกาสใหม่ๆเกิดขึ้น  หนึ่งในโอกาสที่ดีที่สุดคือการได้ทำมาเก็ตติ้งให้กับคอนเสิร์ต  ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ได้เรียนรู้เรื่องใหม่  คำว่ายิงโฆษณา  คำว่า ดิจิทัลมาเก็ตติ้ง  คำว่าเข้าถึงผู้คน  หลายคำเหล่านี้คือเรื่องราวใหม่ๆ

Beautiful shot of a live concert performance with a yellow light show and a big crowd cheering

เจมส์ลงทุนบินไปดูคอนเสิร์ตที่จัดเต็มรูปแบบที่ประเทศอังกฤษ  และผู้จัดงานในไทยก็ตั้งใจจะนำเข้าคอนเสิร์ตนี้มาจัดให้คนไทยได้ดู  คนที่ชอบวงการเพลงอย่างเจมส์ย่อมไม่พลาดที่จะเก็บประสบการณ์ครั้งนี้  นี่เป็นเหตุการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ความชอบนำไปสู่ธุรกิจ  การลงมือบริหารจัดการทีมงานเพื่อขายตั๋วให้ได้ตามเป้าเป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้  เทคโนโลยีในมือมีอะไรบ้าง เราจะเข้าถึงคนฟังเพลง จะเข้าถึงคนชอบคอนเสิร์ตด้วยวิธีการไหน ช่องทางไหน  ทุกโจทย์คือเรื่องใหม่ของคนทำโปรดักชั่น  เจมส์เริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับการยิงโฆษณา การสร้างแบรนด์  การทำดิจิทัลมาเก็ตติ้ง    ขณะเดียวกันในด้านคอนเท้นท์เจมส์มีทุนสำรองในสมองอยู่แล้วว่าวงการเพลงและสื่อชอบคอนเท้นท์แบบไหน  การยิงโฆษณาที่ตรงจุดคือสิ่งที่กำหนดรายได้ในโจทย์นี้ 

หลังจบงานคอนเสิร์ต  เจมส์เริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับการโฆษณาในเฟสบุ๊คอย่างจริงจัง  ในวงการเฟสบุ๊คและดิจิทัลมาเก็ตติ้งมีคอร์สอะไรบ้างเจมส์หาที่เรียนไปหลายแห่ง  จนไปเจอกับครูคนหนึ่งที่ตอบคำถามหลายอย่างได้ดีนั่นคือครูมิ้น  เมื่อได้เรียนร่วมกับครูมิ้นแล้ว เจมส์ถามครูมิ้นตรงๆว่าอยากเก่งแบบครูต้องทำอย่างไรบ้าง  ครูตอบว่า ไปสอบเอาใบ cerificate ของเฟสบุ๊คที่ชื่อว่า เฟสบุ๊คบลูปริ๊นท์ให้ได้  แล้วเดี๋ยวจะเก่งขึ้น

ตอนนี้ก็งงแล้ว เฟสบุ๊คบลูปริ๊นท์คืออะไร  พอหาข้อมูลประกอบก็พอเข้าใจ  แล้วก็ลงทะเบียนสอบเลย  ผลคือ ไม่ผ่าน  พอสอบไม่ได้ก็มาสะสมความรู้ใหม่  อ่านหนังสือใหม่ ดูวิดีโอคอนเท้นท์ที่สอนเกี่ยวกับการทำโฆษณาในเฟสบุ๊ค ลงเรียนคอร์สอีกหลายอย่าง คอร์สไทยก็เรียน คอร์สต่างประเทศเรียนทางออนไลน์ก็เรียน สะสมความรู้ไปอีก 1ปี และระหว่างนี้บริษัทโปรดักชั่นที่เคยเปิดไว้ก็ตัดสินใจเลิกทำ เปลี่ยนธุรกิจมาเป็นการรับจ้างทำดิจิทัลมาเก็ตติ้ง หนี้สินที่มีอยู่ก็เจรจา ประนอมหนี้ ค่อยๆจ่าย  

เจมส์มีคติชีวิตอยู่อย่างหนึ่งที่เคร่งครัดคือ ต้องใช้ชีวิตให้ถูกต้อง  ซื่อสัตย์กับผู้คนและลูกค้า มีหนี้ก็ต้องใช้  แต่ดีเลย์ได้  แม้ชีวิตจะมีปัญหาแต่เราก็เลือกอยู่ในเส้นทางที่แก้ปัญหาได้  เจมส์วางแผนไว้ว่าจะต้องพัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็นดิจิทัลเอเจนซี่  แล้วรับจ้างยิงโฆษณาให้ลูกค้า  แล้วเมื่อมีรายได้เพิ่มขึ้นก็ค่อยทะยอยใช้หนี้   ตอนรับจ้างยิงโฆษณาในเฟสบุ๊คก็พบกับโอกาสใหม่อีกเรื่องหนึ่งที่ต่อเนื่องกันคือ ลูกค้าไม่เข้าใจการโฆษณาในเฟสบุ๊คและการทำธุรกิจออนไลน์  นั่นจึงเป็นที่มาว่า เจมส์ต้องสอนยิงโฆษณาเฟสบุ๊คด้วยเพื่อให้ลูกค้ารู้ว่าการคิดและการวางแผนโฆษณาในเฟสบุ๊คต้องคิดอย่างไร ทำอย่างไร เจ้าของธุรกิจควรเข้าใจคำศัพท์ทุกคำที่เกี่ยวข้องกับการยิงโฆษณาออนไลน์  ตอนนี้ลูกค้าจ้างยิงโฆษณา กับลูกศิษย์เรียนยิงโฆษณาช่วยทำให้รายได้ของบริษัทดีขึ้น  และในที่สุดก็ครบปี เวลาสำคัญก็มาถึง  เจมส์สอบผ่านเฟสบุ๊คบลูปริ๊นท์ได้ในที่สุด

ข้อมูลโดย
James 062 394 9265

https://www.facebook.com/GoldfingerDigital

ทำหนังสือจบไปอีกเล่ม

หนังสือ The power of dreams เป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่ได้ทำตั้งแต่ต้นจนจบ ถือว่าเป็นผลงานของสำนักพิมพ์ที่ทำครบวงจร โดยขั้นตอนการทำงานมีดังนี้

20220324122839_IMG_0120_1


1 เราจัดอาร์ตเวิร์คจากเนื้อหาของเจ้าของเรื่องตามโครงร่างเก่าที่มีอยู่ แต่ใช้ภาษาอังกฤษทั้งเล่ม โดยเจ้าของหนังสือใช้บริการผู้เชี่ยวชาญเรื่องการแปลหนังสือจากไทยเป็นภาษาอังกฤษ และส่งข้อมูลการแปลให้สำนักพิมพ์

2 เราทำเรื่องขอเลขทะเบียนอิเล็คทรอนิกส์ ISBN จากหอสมุดแห่งชาติ และลงรายละเอียดในหน้าบรรณานุกรมให้ถูกต้องตามมาตรฐาน และหนังสือเล่มนี้จะจัดจำหน่ายในร้านหนังสือเอเซียบุ๊คส์

3 ออกแบบปกใหม่ จัดทำบาร์โค้ดสำหรับพิมพ์บนปกหนังสือ

4 เมื่อจัดวางเสร็จแล้วก็ส่งตรวจความถูกต้องโดยจัดทำเป็นหนังสือตัวอย่างขนาดเหมือนจริง จำนวนหน้าเท่าจริง

5 เริ่มขั้นตอนการพิมพ์ พิมพ์ในโรงพิมพ์ของเราเอง

6 เมื่อพิมพ์เสร็จเรียบร้อยก็จัดส่งให้เจ้าของหนังสือ

7 จัดส่งตัวหนังสือเล่มตัวจริงให้หอสมุดแห่งชาติเก็บไว้ด้วย

2022-03-31_10-31-54

ระหว่างที่เริ่มพิมพ์งานบนเครื่องพิมพ์ ทางทีมกราฟิคก็จัดรูปแบบของเนื้อหาภาษาอังกฤษให้อยู่ในรูปแบบของ e-book เพื่อใช้ส่งไปฝากขายในเว็บของ amazon และเจ้าของหนังสือจะต้องไปสมัครใช้ paypal เพื่อเอาไว้รับเงินจากต่างประเทศ เจ้าของหนังสือยังเล่าให้ฟังว่าเขามีแผนจะนำไปแจกในงานบรรยายของเขาเอง และการบรรยายบางครั้งก็จะเป็นการบรรยายภาษาอังกฤษ นั่นทำให้หนังสือภาษาอังกฤษเล่มนี้ได้ถูกวางแผนการแจกจ่าย ฝากขาย และขายหน้างานสัมมนาด้วย

ข้อดีของการทำหนังสือเพื่อวางขายก็คือ

1 ได้รวบรวมความคิดความรู้ของเราที่ตกผลึกแล้ว มีคุณค่าพร้อมจะถ่ายทอดให้ผู้อื่น การจัดทำเป็นหนังสือคือการจัดระเบียบและจัดเก็บในรูปแบบที่ใช้งานง่ายเข้าถึงได้ง่าย

2 ทำเอง ส่งขายเอง ลิขสิทธิ์เป็นของเราเอง รายได้จะไม่ต้องแบ่งใคร พิมพ์ซ้ำ หรือ พิมพ์แจก ก็เป็นสิทธิ์ของเราเอง

3 ใช้แจก ใช้เป็นของขวัญ เป็นคุณค่าที่มอบให้ผู้รับในวันสำคัญต่างๆ สวัสดีปีใหม่ด้วยหนังสือของตัวเอง เท่ห์สุดยอด

4 ได้รับการยอมรับระดับสูง เพราะการทำหนังสือขายน่าเชื่อถือกว่าการโพสท์โฆษณาในฝั่งออนไลน์แต่เพียงอย่างเดียว

การทำหนังสือสักเล่มหนึ่งไม่ใช่เรื่องยาก สิ่งที่ยากกว่าทุกขั้นตอนคือ การตัดสินใจที่จะเริ่มแบ่งปันความรู้ และเมื่อพร้อมที่จะเริ่มทำแล้วขั้นตอนที่เหลือเป็นสิ่งที่หาคนช่วยทำได้ทุกขั้นตอน

S__2072603

S__2072604

พิมพ์หนังสือสำหรับวางขายในร้านหนังสือ

เมื่อประมาณสองเดือนที่แล้วผมได้รับการติดต่อให้จัดพิมพ์หนังสือเพื่อใช้วางขายในร้านหนังสือ และบางส่วนแบ่งไว้แจกในงานสัมมนา นักธุรกิจท่านนี้เป็นคนที่มีความสามารถทางด้านการพูดและการสื่อสาร มีผลงานความสำเร็จในอาชีพของตัวเองระดับสูงสุดในสายงาน และผมก็ได้รับความไว้วางใจให้ดูแลการผลิตและจัดส่งไปวางขายในร้านหนังสือชั้นนำ

20210522224349_IMG_0034

หนังสือพ็อกเก็ตบุ๊ค พิมพ์ 4 สี เนื้อหาประมาณเกือบสองร้อยหน้า เมื่อได้ต้นฉบับมาแล้วทางโรงพิมพ์ก็จะทำเล่มตัวอย่างด้วยระบบดิจิทัลออกมาเพื่อตรวจสอบว่าหนังสือทั้งหมดเมื่อพิมพ์บนกระดาษจริงจะหนาสักเท่าใด เพื่อจะได้ปรับขนาดของปกเผื่อความหนาของสันปกให้พอดีกัน และเมื่อตรวจเล่มตัวอย่างดิจิทัลแล้วก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการพิมพ์จริง

IMG_20210524_173508

การพิมพ์หนังสือ 4 สีทั้งเล่มระบบอ๊อพเซ็ท จะใช้เวลาค่อนข้างมากสำหรับเครื่องพิมพ์ขนาดที่เรามี ดังนั้นต้องจัดคิวงานของลูกค้าท่านอื่นๆให้ดี รีบโยกคิวงานสั้นทั้งหลายมาอัดให้จบเร็วที่สุด เพื่อเคลียร์คิวเครื่องพิมพ์ให้พร้อมทำงานหนังสือต่อเนื่องหลายๆวัน งานที่พิมพ์เสร็จเราก็ทะยอยจัดส่งบางส่วนให้ลูกค้า เพราะจะใช้แจกในงานสัมมนาต่างๆ ส่วนหนังสือกองใหญ่ที่เหลือก็จะเป็นส่วนที่จะจัดส่งให้กับสายส่งร้านหนังสือ ซึ่งเราเลือกใช้บริการจัดจำหน่ายของบริษัทอัมรินทร์ปริ๊นติ้ง ซึ่งจะวางขายตามร้านหนังสือหลายยี่ห้อ และ ร้านหนังสือนายอินทร์

2021-10-07_10-06-39

หลังจากจัดส่งไปสักหลายสัปดาห์ ประเทศไทยก็มีประกาศล็อคดาวน์ ห้างปิด ร้านอาหารปิด กว่าจะได้เห็นว่าหนังสือถูกจัดวางบนชั้นวางในร้านหนังสือก็ผ่านไปเกือบสองเดือน พอรู้ว่าหนังสือมีการขายแล้ว มียอดขายติดอันดับแล้วในร้านหนังสือบางแห่งบางยี่ห้อ ก็ทำให้เรารู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการทำหนังสือเล่มนี้ สำหรับโรงพิมพ์อื่นอาจจะเคยชิน ทำประจำอยู่แล้ว แต่สำหรับโรงพิมพ์ของผมเองนับว่าเป็นเรื่องใหม่ที่ท้าทายมาก และผลของการทำงานจนเสร็จสิ้นก็ทำให้เรารู้สึกภูมิใจ

2021-10-07_10-05-13

ขอบฟ้าอ่านหนังสือ

12มิถุนายน2562
13ตุลาคม2562
13พฤศจิกายน2562

ทำสมุดโน้ตจากผลงานของลูก

วันหนึ่งที่ลูกเริ่มหัดเขียนหนังสือ ความรู้สึกของคนเป็นพ่อแม่ก็ปลาบปลื้มที่ลูกเราเริ่มเข้าสู่การเรียนรู้ทีละเล็กละน้อย  ลายมือวันแรก เป็นอย่างไรอยากจะเก็บไว้เป็นความทรงจำ  คำแรก ประโยคแรก ทุกสิ่งทุกอย่างถ้าไม่เก็บไว้ มันก็คงเป็นเพียงเศษกระดาษที่กลายไปเป็นขยะ แล้วก็หายไป

IMG_20170210_110033

ความรู้สึกอยากเก็บผลงานของลูกมีอยู่ตลอดเวลา แต่ก็หาวิธีเก็บที่แสนสนุกยังไม่ได้  เพราะไม่ว่าเราจะเก็บอะไร เมื่อเก็บเข้าตู้ เข้าลิ้นชัก มันจะอยู่แบบนั้นจนแทบลืมไปเลย  บางทีเมื่อเวลาผ่านไปสักยี่สิบปี วันที่ลูกมาหาเอกสารสำคัญของบ้าน  วันนั้นก็อาจจะเจอกับกองกระดาษที่มีลายมือยึกยือของเด็กน้อยวัยสี่ขวบ  แต่ผมก็คิดว่า ร่องรอยและสิ่งของที่ถูกขีดเขียนในวัยเด็กอาจจะไม่โชคดีขนาดนั้น  เพราะมีกระดาษหลายใบ หรือ เป็นเล่มที่ขีดๆเขียนๆแล้วฉีกทิ้ง ปล่อยให้กลายเป็นเศษกระดาษรอเก็บลงขยะ

IMG_20170210_100843

ก็เลยนึกถึงวิธี่การทำสมุดโน้ตขึ้นมา  ถ้าเราทำสมุดโน้ตที่ใช้ลวดลายที่เป็นผลงานของลูกมาเป็นส่วนประกอบก็น่าจะดูเท่ห์และน่ารัก ว่าแล้วก็ลองดูเลย

ทำปกสมุด

กระดาษที่เขียนด้วยลายมือ ก.ไก่ ถึงฮ.นกฮูก เขียนจนครบทุกตัวในหน้าเดียว  เห็นแล้วก็ต้องเอามาทำปกนั่นเอง  เลยถ่ายภาพแล้วพิมพ์ออกมาใหม่ เพื่อไม่ทำลายต้นฉบับ  เอาใบใหม่มาหุ้มบนกระดาษแข็งหนาประมาณ 2มม. แล้วก็เอาไปทำเป็นเล่ม ร่วมกับเนื้อในที่เป็นกระดาษธรรมดา ทั้งกระดาษปอนด์สีขาว กระดาษน้ำตาล กระดาษสีอื่นๆปนๆกัน ตั้งใจว่าถ้าลูกขอ ก็จะให้ลูกเอาไปเขียนเล่น  แต่ลูกไม่ขอ ก็เก็บไว้ใช้เอง

ทำปกสมุด

พอทำเล่มแรกเสร็จก็สนุกไม่เลิก ไปลองทำเล่มที่สองต่อเลย  คราวนี้เอากระดาษที่ลูกระบายสีน้ำมาทำบ้าง  ขั้นตอนเหมือนเดิมคือ ถ่ายภาพเอาไว้ แล้วเอาภาพปริ๊นท์มาทำแทน เพื่อให้ต้นฉบับยังอยู่

ทำปกสมุด
ทำปกสมุด

 

 

และในที่สุดภารกิจทำสมุดที่มีลวดลายเฉพาะเพียงเล่มเดียวในโลกก็เสร็จสิ้น  หนังสือสมุดโน้ตจากฝีมือการขีดเขียนของลูกน่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้คนเป็นพ่อแม่รู้สึกประทับใจอย่างมาก