ประกันชีวิต อาชีพที่ดูแลคนข้างหลัง

คนส่วนมากเข้าสู่ธุรกิจประกันชีวิตเพราะรายได้  แต่เพ็ญโสภาเข้ามาเพราะประสบกับเหตุการณ์สะเทือนใจของญาติที่สนิทกัน เลยทำให้เห็นคุณค่าของการมีประกันชีวิต

ญาติสนิทที่เหมือนน้องชายมีอาการป่วย เส้นเลือดในสมองแตก ต้องเข้า icu และหมอแจ้งว่าการรักษาต้องผ่าตัด ค่าใช้จ่ายสูง และอาจไม่ตื่น  สุดท้ายอาจต้องนอนติดเตียงเป็นเจ้าชายนิทรา  ญาติตัดสินใจว่าไม่ผ่าตัด  นาทีนั้นก็คิดว่า ถ้าเป็นคนในครอบครัวเรา เราจะยอมไหม เราจะเลือกไม่ผ่าตัดไหม  ครอบครัวนั้นตัดสินใจไม่รับการรักษา และหลังจากนั้นอีก 7 วัน คนป่วยก็จากไป  เสียชีวิตในวัย 36ปี ทิ้งลูกชาย 6 ขวบ ลูกสาว 1 ขวบ กับภรรยาไว้ข้างหลัง  แม่กับลูกสองคนต้องอยู่ต่อไปแบบไม่มีหัวหน้าครอบครัวและไม่มีรายได้  “เงินประกันไม่เคยพอสำหรับหญิงม่ายและลูกกำพร้า”  คำพูดนี้ก้องอยู่ในหัว  ลูกพี่ลูกน้องท่านนี้มีทุนประกัน 1แสน  ซึ่งดีกว่าไม่มี แต่ก็ไม่พอใช้  แม้แต่ค่าจัดงานศพทั้งหมดยังไม่พอเลย

IMG_1560

เพ็ญโสภา  หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยก็เริ่มต้นชีวิตการทำงานที่บางกอกโพสต์  โดยทำงานขายโฆษณาในสื่อสิ่งพิมพ์  ทำอยู่ประมาณปีครึ่งก็ได้เป็นเป็นท๊อปเซลส์  ขายได้ทะลุเป้า  ทำให้มีคนรู้จักหลายคนชวนไปทำงานด้วย  พอมีโอกาสก็ย้ายไปทำงานที่ชินวัตรในตำแหน่งผู้ช่วยผู้บริหาร  ซึ่งตอนนั้นชินวัตรยังอยู่กับธุรกิจขายคอมพิวเตอร์และเริ่มต้นขายโทรศํพท์มือถือไม่นาน  ทำงานชินวัตรอยู่ 10 ปีก็ตัดสินใจลาออกเพราะมีลูก   มีความรู้สึกว่าอยากใช้เวลากับลูกให้นานๆ  รวมถึงที่บ้านสามีมีธุรกิจ  เลยออกมาช่วยธุรกิจของครอบครัว  พอมีลูกคนที่สองก็มาเปิดร้านขายโทรศัพท์มือถือ บริหารอยู่ 2 สาขา  ทำไปสักพักมีคู่แข่งเยอะและมีการตัดราคาจนเริ่มไม่คุ้มค่าที่จะทำต่อ  พอดีเพื่อนชวนไปฟังเรื่องขายประกัน ก็เลยตามเพื่อนไปฟัง  และหลังจากนั้นอีกไม่นานก็เริ่มจับงานประกันชีวิต

ธุรกิจครอบครัวเริ่มไม่ค่อยดี สามีต้องออกจากงานมาดูแล  ทำให้การเงินเริ่มมีปัญหา  และค่าใช้จ่ายในบ้านเริ่มต้องใช้เงินจากการขายประกันชีวิตมาช่วยกันออก  เป็นช่วงเวลาในชีวิตที่ต้องประหยัด  และรู้สึกว่ารายได้จากการเป็นตัวแทนประกันก็ช่วยเหลือครอบครัวได้   ขณะเดียวกันก็เริ่มเห็นความจำเป็นว่าจะต้องมีเงินเก็บเพื่อใช้จ่ายกับการเรียนหนังสือของลูก  ต้องมีค่าเรียนพิเศษเพื่อติวลูกให้เข้าโรงเรียนที่ต้องการ  ลูกคนเล็กไม่ค่อยกินนมแม่ต้องซื้อนมผงราคาแพงให้ลูกกิน  ค่าใช้จ่ายพวกนี้สูงมาก และรู้สึกว่าต้องมีรายได้ทางอื่นมาช่วยรองรับอย่างจริงจัง  

เมื่อเข้าสู่อาชีพขายประกัน พอทำไปจนหมดปีนั้นก็รู้สึกว่าอยากเติบโต อยากมีตำแหน่งระดับบริหาร ไม่ได้อยากขายไปวันๆ  และตอนนั้นก็มี 2 ทางเลือก คือต้องพยายามให้โตไปเลย กับ ขายไปเรื่อยๆไม่ต้องคิดอะไร   ถ้าหากต้องการขึ้นตำแหน่งก็ต้องพยายามให้มาก  เลยตัดสินใจว่าจะขึ้นตำแหน่ง แล้วก็ประกาศขายกิจการร้านโทรศัพท์สองสาขา  เพื่อที่จะได้โฟกัสกับงานประกันได้เต็มที่   หลังจากนั้นไม่นานก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นระดับหัวหน้าหน่วย

1658309279397-01

ลูกค้าส่วนมากเป็นคนรู้จักที่ประทับใจกัน  ลูกค้าบางคนก็ไม่เคยออมเงิน  การได้ไปคุยกับเพื่อนแล้วอธิบายเรื่องการออม ทำให้เพื่อนได้คิด และได้วางแผนชีวิต  และเพื่อนก็ตัดสินใจทำประกันเพื่อเริ่มต้นออมเงิน  เพื่อนโอนเงินซื้อประกันทันทีเลย 250000 บาท โดยที่ยังขับรถกลับไม่ถึงบ้าน  นั่นทำให้รู้สึกว่าธุรกิจประกันชีวิตมันเป็นธุรกิจที่ดีมาก  เพราะมันดีกับเจ้าของเงิน และดีกับอาชีพตัวแทน

มีเคสหนึ่งที่น่าสนใจ  หลังจากที่มีทีมงาน คนในทีมก็มาเล่าให้ฟังว่าเพื่อนเขาเป็นแม่บ้าน สามีของเพื่อนฐานะดีบริษัทใหญ่โต  เพื่อนใช้ชีวิตสบาย  เลยลองให้ลูกน้องไปขายประกันดู  ต่อมาลูกค้าให้ข้อมูลกลับมาว่าสามีเขามีประกันแล้ว  ทุนประกัน 10 ล้านบาท  ทีมงานเลยไม่ได้ตามต่อ   หลังจากนั้นอีก 3 ปี สามีเพื่อนเสียชีวิต  เลยถามทีมงานเล่นๆไม่ได้คิดอะไรว่า แบบนี้เพื่อนก็ได้ทุนประกัน 10 ล้านเลยสิ  ทีมงานบอกว่า ไม่ได้  เพราะเพิ่งรู้ว่าทุนประกันเป็นประกันอุบัติเหตุ  แต่การเสียชีวิตไม่ใช่เสียเพราะอุบัติเหตุ ทำให้ไม่ได้ประกันตัวที่ทำไว้  สรุปว่าเพื่อนไม่ได้รับเงินชดเชย  เรื่องนี้เป็นสิ่งที่น่าเสียดายมาก  

ถ้ากลับไปบอกได้จะบอกให้ตัวแทนขอนัดเพื่อไปคุยกับเจ้าตัวว่าประกันทีมีอยู่เป็นทำงานอย่างไร  จะไปรีวิวรายละเอียดให้ เพื่อให้เข้าใจตรงกัน  เพราะประกันอุบัติเหตุ 10 ล้าน จะไม่เหมือนประกันชีวิต10ล้าน  การเสียชีวิตจากโรคร้าย จะไม่ได้เงินประกันจากประกันอุบัติเหตุเลย  เนื่องจากประกันชีวิต จะจ่ายเมื่อคุณไม่อยู่   ส่วนประกันอุบัติเหตุ จะจ่ายจากสาเหตุที่เกิดจากอุบัติเหตุเท่านั้น  ดังนั้น การป่วยแล้วเสียชีวิตจะเคลมประกันอุบัติเหตุไม่ได้   

IMG_1425

มีเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่ง  เขาตั้งใจซื้อประกันเพื่อเป็นการออมเงินให้ลูกที่ยังเล็ก  เป็นเงินเก็บระยะยาว ตั้งใจว่าพอลูกจบปริญญาตรีก็จะมีเงินก้อนให้ลูกเอาไว้ทำทุน  เป็นการจ่ายเบี้ย 21 ปี แล้วดูแล 42 ปี  เมื่อลูกอายุ 42 จะได้รับเงินก้อน  หลังจากเริ่มจ่ายไปเรื่อยๆ  ผ่านไป 13 ปี  พบว่าแม่เป็นมะเร็งขั้นสุดท้ายแล้วเสียชีวิตใน 2 ปีต่อมา  ถ้าเป็นการออมเงินในรูปแบบอื่น  โครงการนี้จะหยุดแล้วไม่เหลือเงินก้อนตามที่ต้องการให้กับลูก  หลังจากแม่เสียชีวิตไปแล้ว โครงการประกันก็ยังคงดำเนินไป แต่ บริษัทประกันภัยจะจ่ายเบี้ยให้แทนเหมือนแม่จ่าย  สุดท้ายบริษัทก็เหมือนเป็นแม่บุญธรรม จ่ายเบี้ยแทนจนครบเวลา  ทำให้ลูกยังคงได้รับผลประโยชน์เต็มที่เหมือนแม่ยังคงส่งเบี้ยประกันอยู่  โครงการเก็บเงินให้ลูกก็จะไปถึงเป้าและทำให้ลูกมีเงินก้อนตามที่แม่ต้องการเมื่อครบสัญญา แม้ว่าแม่จะไม่อยู่แล้ว  นี่คือตัวอย่างการใช้ประกันชีวิตช่วยเก็บเงินให้ลูกได้ตั้งตัว

การตัดสินใจเข้าสู่อาชีพประกันก็เพื่อช่วยแนะนำทุกคนให้มีหลักประกันที่เพียงพอสำหรับคนในครอบครัว  คนที่เหลืออยู่จะได้ไม่เดือดร้อนมาก   การประกันชีวิตจะอยู่กับลมหายใจของคนที่เหลือ ไม่ใช่ลมหายใจของคุณเอง  

การทำประกันชีวิตเหมือนเป็นการเอาเงินก้อนเล็กไปสร้างความคุ้มครองให้ครอบครัว  เอาเงินก้อนเล็กไปแลกเงินก้อนใหญ่  

ถ้าหัวหน้าครอบครัวเสียชีวิตไป แล้วใครจะมาส่งเสียดูแลครอบครัว  ก็มีแต่ประกันชีวิตเท่านั้นที่จะทำงานเป็นหัวหน้าครอบครัวต่อไป  การวางแผนส่งเสียเลี้ยงดูลูกและคนในครอบครัวจึงเป็นเรื่องจำเป็น  และประกันชีวิตเป็นเครื่องมือที่จะช่วยดูแลคนข้างหลังแทนเรา

2022-07-20_04-22-57

การวางแผนเรื่องการเงินเป็นเรื่องจำเป็นของทุกคน  สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มชีวิตการทำงาน เด็กเรียนจบใหม่ๆ เมื่อทำงานแล้วขอให้พยายามเก็บเงินก้อนแรกให้สามารถอยู่ได้ 6 เดือน  เพราะจะได้ใช้เมื่อตกงาน หรือมีวิกฤต แล้วเรายังมีเงินใช้จ่าย ค่าอยู่ ค่ากินรวมถึงค่าใช้จ่ายจำเป็นไปอีก 6 เดือน เป้าหมายแรกนี้ขอให้ทำให้สำเร็จก่อน จากนั้นค่อยมาวางแผนเก็บเงินในขั้นถัดไป

รายได้ที่เข้ามาจากการทำงานควรจะนำมาออมเสียก่อน อย่าเพิ่งรีบเอาไปลงทุน  เราควรจัดสรรสัดส่วนการออมให้เป็นลำดับแรก จะออมมากหรือออมน้อยก็แล้วแต่รายได้  แต่ควรจะออมก่อนลงทุน  เพราะการลงทุนต้องใช้ความรู้  ถ้าเรายังไม่มีความรู้เกี่ยวกับการลงทุนทางการเงิน  ให้ออมเป็นหลัก  และเงินออมนี้จะเป็นเงินที่เราไม่คิดจะเอาออกมาก่อนกำหนด  เราถึงเรียกว่าเงินออม

จากประสบการณ์กว่า 20 ปี พบว่าส่วนมากคนทำงานจะมีเป้าหมายการออมหรือการเก็บเงินไม่กี่อย่าง  คือ

1 เงินก้อนสำหรับพ่อแม่  

2 เงินที่จะเป็นทุนการศึกษาของลูก  

3 เงินก้อนตอนเกษียณ  

เป้าหมายที่ 1 การเก็บเงินก้อนสำหรับพ่อแม่เกิดจากเราอยากจะให้เงินพ่อแม่สักก้อนในอีกหลายปีข้างหน้า การออมก็จะทำเพื่อให้มีเงินก้อนนั้น ถ้าเราเกิดเสียชีวิตไปก่อน เงินก้อนก็จะไม่มี  ปลายทางไม่เป็นไปอย่างที่คิด  การออมด้วยการซื้อประกันสะสมก็จะเป็นการออมทีละนิดแต่ได้เป้าหมายแน่นอน  เพราะพ่อแม่จะได้รับเงินก้อนนั้นในเวลาที่กำหนดเสมอแม้เราจะไม่อยู่  เพราะสิ่งที่แน่นอนที่สุดคือเราจะต้องจากไปสักวัน  ซึ่งไม่รู้ว่าวันไหน เป้าหมายการเก็บเงินเพื่อใครสักคนหนึ่งจะเป็นจริงแน่นอนถ้าใช้วิธีซื้อประกัน

เป้าหมายที่ 2 เงินก้อนสำหรับทุนการศึกษาของลูก  เนื่องจากเราจะไปบอกให้ลูกอย่าเพิ่งเรียน รอพ่อแม่เก็บเงินก่อนมันไม่ได้  ดังนั้นควรจะวางแผนเก็บเงินเพื่อเป็นทุนการศึกษาของลูกตั้งแต่รู้ว่าจะมีลูก  ออมระยะสั้นเพื่อใช้เป็นค่าเทอม  ออมระยะยาวเพื่อให้เป็นทุนตั้งตัว   เราเลือกใช้ประกันเป็นเครื่องมือตามวัตถุประสงค์ได้  และคนส่วนมากก็วางแผนที่จะเก็บเงินในระบบประกันชีวิตให้ถึงวันที่ลูกเรียนจบ เพื่อการันตีว่าลูกจะได้เรียนจนจบ 

เป้าหมายที่ 3 เงินออมใช้ตอนเกษียณ  การเก็บเงินระยะยาวยิ่งจำเป็นต้องใช้เครื่องมือที่เหมาะสม ทั้งออมแบบประกัน และการลงทุนทางการเงิน  และถ้าเราบังเอิญไม่ได้อยู่ถึงเกษียณ เงินก้อนจากประกันจะส่งต่อเต็มยอดที่ต้องการให้คนในครอบครัวเรา  คนที่เหลือจะไม่เดือดร้อน   การออมเงินในประกันไม่ใช่การลงทุนเป็นธุรกิจ  เงินในประกันจะเป็นเงินก้อนที่เรารู้ว่าเราจะมีแน่ๆ และใช้ส่งต่อให้คนอื่น ส่งต่อให้คนข้างหลังได้

IMG_1476

ถ้าเรามีเครื่องจักรพิมพ์เงินออกมาได้ เราจะซ่อมบำรุงเครื่องจักรตัวนี้ให้ทำงานตลอดเวลา    เราจะไม่อยากให้เครื่องเสีย  การซื้อประกันก็จะการันตีว่าจะมีเครื่องพิมพ์เงินให้ลูกเราเสมอ  ประกันจะดูแลคนที่เรารัก  ไม่ได้ดูแลเรา  ก่อนเราจะเสียชีวิตเราคือเครื่องพิมพ์เงินให้ลูก ทุกเดือนเราก็จะมีเงินมาให้ลูกใช้จ่าย  และถ้าเราไม่อยู่  ก็เหมือนเครื่องพิมพ์เงินหายไป ลูกและคนในครอบครัวก็จะเดือดร้อน  ประกันเหมือนเครื่องพิมพ์เงินสำรองที่จะสตาร์ทเครื่องแล้วพิมพ์เงินแทนเราทันที ประกันจะอยู่กับลมหายใจของคนที่เรารัก  นี่คือการวางแผนที่รอบคอบ ลองถามคำถามง่ายๆกับตัวเองว่าหากคุณจากไปแล้วใครจะส่งลูกคุณเรียนต่อ ใครจะส่งเงินเลี้ยงพ่อแม่ ถ้าไม่มีคำตอบ คุณควรคุยกับคนขายประกันสักคน

เพ็ญโสภา  เพียรเจริญ    โทร 083 492 2651

pensopa@gmail.com

อุบัติเหตุ กับ ประกัน

ตั้งแต่ทำประกันอุบัติเหตุมาหลายปี เพิ่งจะได้ใช้สิทธิ์ก็ครั้งนี้ จากการวิ่งเล่นกับลูกที่โรงเรียน มีเด็กอีกกลุ่มอยู่ๆก็กลิ้งยางรถยนต์มาทางด้านหลังของผม ผมกำลังวิ่งไล่จับโดนยางรถยนต์ชนที่ด้านหลัง เลยล้มไปด้านหน้า มือขวาก็ยันพื้นไว้ ข้อศอกรับน้ำหนักจนเกือบหักเลย แขนยกไม่ขึ้น วินาทีนั้นคิดว่าแขนหักไปแล้ว เลยนั่งพักสักห้านาทีแล้วพาลูกกลับบ้าน

Pa aia

ขับรถจากโรงเรียนพาลูกกลับบ้านด้วยมือซ้ายมือเดียว มือขวายกไม่ขึ้น ส่งลูกถึงบ้านแล้วค่อยไปหาหมอ ภรรยาพาไปที่โรงพบาบาลใกล้บ้าน ไปให้หมอตรวจ เอ๊กซเรย์ออกมากระดูกไม่หัก แต่อาการปวดและยกมือไม่ขึ้นจะยังคงอยู่ไปอีกหลายวัน ระหว่างนี้หมอให้กินยาและใส่สายสะพายเอาไว้

Pa aia

บิลค่าใช้จ่ายออกมาสองพันกว่าบาท ประกันจ่าย ตอนมาถึงโรงพยาบาล ทางเจ้าหน้าที่ก็ถามถึงประกันที่มี ผมจำได้แค่ว่าผมมีประกันอุบัติเหตุ แต่ไม่ได้พกบัตร เลยให้บัตรประชาชนกับเจ้าหน้าที่ไปลองเช็คดู ระหว่างนั้นผมก็โทรหาคนขายประกัน ขอรายละเอียดว่าประกันของผมมีชื่อเรียกว่าอะไร เจ้าหน้าที่ก็เลยขอคุยกับคนขายประกันของผม พอรู้เรื่องก็ไปจัดการเรื่องเอกสารและเรื่องระหว่าง โรงพยาบาลกับบริษัทประกันภัย ผมก็รอการตรวจและรับยากลับบ้าน ไม่ต้องจ่ายเงินเอง

ประกันอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่ได้อยากเคลม แต่ถึงเวลาต้องใช้ก็ควรจะสะดวกแบบนี้แหละ ขอบคุณเซลส์ผู้ขายประกันที่ใส่ใจลูกค้าอย่างผม ใครที่กำลังหาประกันภัยของตัวเอง จะประกันชีวิต ประกันสุขภาพ หรือ ประกันอุบัติเหตุ ผมแนะนำให้เลือกซื้อกับคนที่มีนิสัยใส่ใจ รักในการดูแลลูกค้า หากไม่รู้จักโดยตรง เดี๋ยวผมแนะนำให้ ฝากความเห็นไว้ในนี้เดี๋ยวผมให้เบอร์โทรคนขายประกันนิสัยน่ารักให้

compare to the legend

PHOTO_COLLAGE1521369538828

ปี 2561 ผมได้ข่าวว่าเดวิดเบ็คแฮมจะมาพบแฟนบอลชาวไทยโดยเป็นกิจกรรมของ aia  เนื่องจากเบ็คแฮมเป็นพรีเซนเตอร์ของบริษัท aia  เพื่อนที่รู้ว่าลูกของผมชอบฟุตบอลเป็นคนที่ได้สิทธิ์เข้างาน และได้ยกสิทธิ์นั้นให้กับผม  จริงๆต้องบอกว่าให้ขอบฟ้ามากกว่า  ผมมีหน้าที่แค่พาเขาไปร่วมงาน

เดวิดเบ็คแฮมเก่งแค่ไหนผมก็ไม่ได้รู้ละเอียด  รู้แค่ว่าเป็นนักเตะอังกฤษที่มีชื่อเสียงที่สุด รวยที่สุด เตะฟรีคิกแม่นที่สุด และเป็นนักเตะที่หน้าตาดี เมียสวย แถมยังประสบความสำเร็จกับหลายสโมสร โดยเฉพาะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด  วันที่เขาเก่งและครองแชมป์มากมายกับแมนยูฯ ผมเป็นแค่คนไม่ดูทีวี  เลยไม่ได้รับรู้ความเก่งของนักเตะคนนี้ในช่วงที่เขาพีคมากๆ

พอมีลูก และลูกเริ่มสนุกกับฟุตบอล ผมก็ทำหน้าที่พ่อที่หาข้อมูลน่าสนใจให้ลูก  เพื่อให้ลูกมีแรงบันดาลใจ อย่างน้อย  ถ้าลูกอยากเป็นนักฟุตบอลผมก็ควรจะกรุยทางหรือวางแผนการเติบโตให้เขาว่าเขาควรจะเล่นบอลอย่างไร และไปเล่นให้กับทีมไหนในช่วงอายุต่างๆ  และการหาแรงบันดาลใจที่ผมพอทำได้คือ เอาประวัตินักฟุตบอลเก่งๆมาเล่าให้ลูกฟัง

เดวิดเบ็คแฮมมีประวัติน่าสนใจ  ในวัยเด็ก เขาจะเล่นฟุตบอลกับพ่อสม่ำเสมอ  และการฝึกซ้อมกับทีม เบ็คแฮมจะฝึกมากกว่าเพื่อนร่วมทีมวันละ 2 ชั่วโมง  แม้ว่าเพื่อนจะพักแล้ว เบ็คแฮมยังฝึกอยู่  นั่นเป็นเหตุผลที่เบ็คแฮมมีฝีเท้าที่โดดเด่นกว่าคนอื่น  และการฝึกเพียงคนเดียวก็ทำให้เขาได้ฝึกเตะฟรีคิกซ้ำๆ  เกิดเป็นความแม่นยำเกินคนอื่น   และลูกยิงแจ้งเกิดของเบ็คแฮมคือลูกยิงครึ่งสนามที่แม่นยำยิ่งกว่าลูกยิ่งอื่นๆของวงการฟุตบอลในอดีตก่อนหน้านั้น  มันเป็นลูกยิงที่มาจากความฉลาดที่มองเห็นโอกาสและคิดออกว่าจะทำประตูอย่างไร   และเขาสามารถทำได้เพราะฝึกเตะอย่างหนักในช่วงที่ซ้อม

นี่เป็นประวัติคร่าวๆที่พอจะหาได้  และผมคิดว่า เด็กคนหนึ่งที่ชอบฟุตบอล อาจจะต้องมีเหตุการณ์บางอย่างในชีวิตให้เขาได้สัมผัสเองเพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจระยะยาว การพาไปพบนักฟุตบอลเก่งๆก็เป็นสิ่งที่ผมคิดว่าควรทำสักครั้ง

ในอดีต เมซซี่ในวัยเด็ก ก็เป็นเด็กที่เดินจูงมือมาราโดน่าเข้าสนาม  มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของนักเตะระดับโลก

วันจริงกับ David Beckham

IMG_20181103_093203

ผมให้ลูกแต่งตัวนักฟุตบอลมาร่วมงาน ในกำหนดการบอกว่าเป็นกิจกรรม football clinic จะมีผู้ฝึกสอนจากสโมสรท็อตแน่มฮ็อตสเปอร์ในอังกฤษมาให้คำแนะนำนักเตะ  แต่ aia กำหนดเงื่อนไขนักเตะว่าจะต้องเป็นลูกหลานพนักงาน และในสนามก็มีนักเตะที่อยู่ในเงื่อนไขเหล่านั้นประมาณ 200-400 คน  ซึ่งทั้งหมดจะต้องเตะให้ผู้ฝึกสอนดูแล้วผู้ฝึกสอนจะให้คำแนะนำ …..  ไม่ต้องขนาดให้คำแนะนำหรอกแค่โค้ชยิ้มให้นักฟุตบอลเยาวชนคนละ 1 ครั้งก็หมดเวลาแล้ว

IMG_20181103_093036

กิจกรรมจัดที่สนามฟุตบอลในร่มของเมืองทองยูไนเต็ด  ผมก็ให้ขอบฟ้าแวะถ่ายรูปกับป้าย และย่องไปเดินเล่นในสนามใหญ่ พาลูกไปดูสนามบอลจริงๆเป็นอย่างไร  แม้ว่าสนามแห่งนี้จะไม่ได้ใหญ่โตแบบสนามกีฬาแห่งชาติ แต่ก็ใหญ่พอจะเปิดหูเปิดตาเด็ก 6 ขวบอย่างลูกผม  ซึ่งลูกผมไม่ผ่านเกณฑ์อายุนักเตะที่จะร่วมกิจกรรม  และไม่ใช่นักเตะวรรณะลูกหลาน aia เลยได้แต่ยืนเกาะขอบสนาม เพราะทีมงานกำหนดไว้แค่นี้  คนที่ได้เข้าสนามคือลูกหลานเยาวชน คน aia เท่านั้น

IMG_4391
IMG_20181103_112757

ตอนยืนก็แทบไม่เห็นกลางสนาม  แฟนคลับที่เล่นเกมส์ ชิงโชค มีชื่อว่าได้รางวัลอยู่ในเฟสบุ๊คเป็นกลุ่มที่จะได้สิทธิ์ยืนเกาะขอบสนามดู  ตำแหน่งการยืนก็ตากแดดตั้งแต่ 10 โมงจนถึงเที่ยงกว่า  เดวิดเบ็คแฮมมาถึงสนาม 11.50 น.  ผมอุ้มขอบฟ้าดูให้เห็นตัวเป็น  สัก 15 นาทีก็ขอลาก่อน    คนที่ได้อยู่ใกล้เบคแฮมในระยะ 1 เมตรคือ เยาวชน aia  เรียกว่าเป็นวรรณสัมผัส  น่าจะมีเด็กไม่เกิน 5 คน วรรณะนี้ได้ขึ้นเวทีถ่ายรูปร่วมกับเบ็คแฮม  วรรณะถัดมาคือวรรณะดมกลิ่น ได้นั่งดูกิจกรรมห่างหน้าเวทีประมาณ 3-5เมตร วรรณะนี้ประมาณ 200-400 คน  ที่เพิ่งเตะเทรนนิ่งพร้อมกันทั้งหมดในสนามฟุตบอลในร่มไปเมื่อชั่วโมงที่ผ่านมา

IMG_4441

เบคแฮม มาในชุดสีดำ เสื้อดำ กางเกงดำ รองเท้าดำ แต่ใจไม่ดำ พยายามยิ้มและมองคนทั่วสนาม  แต่ทีมงานเจ้าภาพก็บริหารให้ได้แค่ได้ถ่ายรูปกับวรรณะสัมผัสแค่ไม่กี่คน  ที่เหลือก็มองอยู่ไกลๆ  วรรณะที่ผมกับลูกสิงสถิตย์ขอเรียกว่าวรรณะขอบสนาม  เกาะรั้ว เกาะขอบสนามดู  พร้อมแดดหน้าหนาวที่อากาศไม่หนาวเลย

อย่างไรก็ตาม ผมขอขอบคุณ aia ที่พาเบ็คแฮมมาเยี่ยมเยาวชนนักเตะไทย  ถ้าไม่มีคุณลูกผมก็จะไม่รู้ว่าเบคแฮมตัวจริงหน้าตาเป็นยังไง  ส่วนกิจกรรม football clinic  1 ชั่วโมง เด็ก 200-400 คน ผมคิดว่ามันไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย  aia น่าจะสงเสริมฟุตบอลเยาวชนด้วยวิธีอื่น  ลูกผม 6 ขวบ ดูคนอื่นเตะบอลแล้วบอกผมว่า  เตะบอลแล้ววิ่งตามแบบนี้ไม่ได้เรียกว่าเลี้ยงลูกหรอก  ผมก็ตอบ อื้ม … พ่อก็คิดอย่างนั้น