รีวิวหูฟัง Lenovo H500 Pro 7.1

มีเหตุให้ต้องเอาคอมพิวเตอร์ไปซ่อมที่ฟอร์จูน และเดินผ่านร้านขายสินค้าร้านหนึ่งที่ขาย lenovo ทั้งร้าน มองผ่านๆเจอมุมลดราคาก็เลยเข้าไปดูสินค้าทีละชิ้น ส่วนมากก็เป็นเม้าส์ คีย์บอร์ด และมีหูฟังวางโชว์อยู่ด้วย ดูชื่อรุ่น สเป็คคร่าวๆ สะดุดตากับคำว่า 7.1 ก็เลยสนใจ

IMG_20250831_171248652

หาข้อมูลเพิ่มเติมทันที หูฟัง lenovo H500 pro 7.1 ก็พบว่าเคยมีราคาขายอยู่ที่ 2990 บาทในบางร้านเมื่อหลายปีก่อน มาปีนี้คงเป็นสินค้าที่เก่าเก็บ ขายไม่ออก อาจจะเพราะหูฟังครอบหูไม่ได้รับความนิยม และราคาขายระดับเกือบสามพันบาทก็จะมีคู่แข่งเยอะมาก ไม่แปลกใจถ้าจะขายไม่ดี เพราะชื่อ lenovo ไม่ได้เด่นเรื่องหูฟัง ในแวดวงเครื่องเสียง ยี่ห้อหูฟังมีตัวเลือกอื่นๆอีกเพียบที่ได้รับความนิยมมากกว่า

IMG_20250831_192023210

เห็นคำว่า 7.1 ก็ทำให้สงสัย เลยไปหาข้อมูลเพิ่ม พบว่า H500 มีฮาร์ดแวร์ที่สร้างเสียง 7.1 ได้ในตัวทำให้ไม่ต้องลงไดรเวอร์ เป็นความสะดวกสบายลำดับแรกเลย และที่สำคัญ ใช้กับ mac ก็ได้ ใช้กับ android tv ก็ได้ ตรงนี้น่าสนใจมาก ถ้าเสียงมันดีและได้ระบบ 7.1 มาด้วยสร้างเสียงรอบทิศในการดูหนังก็จะน่าใช้มาก แต่หาอ่านรีวิวในเรื่องของคุณภาพเสียงไม่ได้เลย ก็เลยซื้อมาลองเอง วัดดวงกันว่าจะดีหรือไม่ดี

messageImage_1756647712135

หูฟัง lenovo H500pro 7.1 จะเรียกสั้นๆว่า H500 เป็นหูฟ้งไดรเวอร์ไดนามิคแบบเดี่ยวขนาด 5cm ซึ่งถือว่าใหญ่พอใช้ได้ ตัวหูฟังออกแบบให้เป็นสายเสียบ 3.5มม. แบบ TRRS หรือมีขีดดำ 3 ขีด ขั้วสัมผัสออกแบบมาให้ใช้กับโทรศัพท์มือถือได้ ใช้กับโน้ตบุ๊คที่มีช่องหูฟังแบบ combo ได้ คือหูฟังกับไมค์อยู่ในแจ็คเดียวกัน ขณะเดียวกันก็มีอุปกรณ์อีกชิ้นที่ออกแบบมาให้ใช้คู่กันคือมีซาวน์การ์ดหรือ usb sound พร้อมปุ่มคอนโทรล ด้านหนึ่งเป็นสาย usb เอาไว้เสียบกับคอมพิวเตอร์ อีกด้านเป็น 3.5mm เพื่อใช้เสียบหูฟัง และเราสามารถใช้หูฟังอื่นๆมาเสียบกับ usb sound ตัวนี้ได้ด้วย

messageImage_1756647308499

ที่ปุ่มควบคุมจะมีปุ่มกดดังนี้ ด้านซ้ายเป็นตัวปิดไมค์หรือ mic on/off ด้านหน้าปุ่มบนเป็นปุ่ม 7.1 กดเพื่อใช้งาน กดอีกครั้งเพื่อเลิกใช้ ตอนใช้งานฟังค์ชั่น 7.1 จะมีไฟสีฟ้าเรืองแสงขึ้นมา ปุ่มถัดมาที่ด้านหน้าจะเป็นปุ่ม EQ เอาไว้ปรับโทนเสียง มีให้เลือก 3 แบบ คือ 1 Game, 2 Music, 3 Movie

ทดลองฟัง

อุปกรณ์ที่่ใช้ร่วมทดสอบคือคอมพิวเตอร์เล่นเกมส์ msi claw ultra5 ปิดการทำงานของซอร์ฟแวร์ติดเครื่อง Nahimic ซึ่งเป็นตัวจัดการเสียงของเครื่อง ปล่อยให้เป็นการทำงานของวินโดส์และหูฟัง H500 เท่านั้น ในส่วนของ sound setting ของวินโดส์ก็ปิดการช่วยเหลืออื่นๆด้วย

จุดเด่นของ H500 คือ หูฟังมีน้ำเสียงที่สมดุลย์ดี เสียงย่านต่ำ กลาง แหลม มาพอดีกัน ไม่ได้เด่นไปทางใดทางหนึ่ง เป็นสไตล์เสียงของเครื่องเสียงบ้าน ให้เสียงกลางที่เปิดเผย และปลายเสียงสูงที่ลากยาวได้ดี สามารถให้เสียงประกายของเครื่องเคาะโลหะแบบค่อยๆจางหายไป แนวนี้คือเสียงจะใส ความไวของหูฟังค่อนข้างสูง เทียบกับหูฟังมอนิเตอร์ที่มีชื่อเสียงหลายๆตัวที่มักจะกินกำลังขับมาก หากฟังเพลงด้วย H500 ด้วยระดับเสียงที่พอดีแล้ว พอเปลี่ยนไปเป็นหูฟังอย่าง AKG k701 เสียงจะเบาลงมากจนต้องเร่งเสียงเพิ่มขึ้น

จุดเด่นอีกอย่างคือ ระบบเสียงรอบทิศที่ฝังมากับ usb soundcard เลย ทำให้ไม่ต้องลงไดรเวอร์ และทำให้ใช้กับระบบปฏิบัติการอย่าง macos ได้ด้วย เพราะปกติ ระบบเสียงรอบทิศโดยเฉพาะ 7.1 มักจะต้องติดตั้งไดรเวอร์หรือซอฟแวร์พิเศษ และมักจะมีใช้ในระบบปฏิบัติการวินโดส์เท่านั้น ทำให้การฟังเสียงรอบทิศแบบ 7.1 บน macos เป็นเรื่องที่ทำไม่ได้เลย แต่ H500 ให้ระบบเสียงรอบทิศในตัวฮาร์ดแวร์ ทำให้ไม่เลือกระบบปฏิบัติการ

H500 จะสร้างเสียง 7.1 ทำให้การดูหนังได้รับเสียงที่สนุกขึ้น เสียงดีขึ้น เสียงโอบล้อมมากขึ้น H500 สร้างเสียงพูดให้อยู่ด้านหน้าคนฟังได้ทันที พร้อมกับเสียงแวดล้อมอื่นๆที่ห่อหุ้มคนฟังอยู่ การกดปุ่ม 7.1 ระหว่างใช้ กับ ไม่ใช้ ให้เสียงที่ต่างกันมากในแง่ของการโอบล้อมและการเน้นเสียงพูด แต่ไม่เปลี่ยนโทนเสียง การดูหนังแล้วใช้เสียง 7.1 ทำให้หนังสนุกขึ้น แต่ข้อเสียเดียวของ 7.1 ใน H500 คือ เสียงพูดมีความก้องหรือมี echo+reverb มากไปเล็กน้อย เสียงพูดถูกจัดวางไว้ด้านหน้าหรือเสียงที่เลียนแบบลำโพงเซ็นเตอร์นั้นดีมากแม่นยำในตำแหน่งกลาง แต่จะมีความก้องมากไปเหมือนอยู่ในโรงหนังขนาดใหญ่ ถ้าตัวหนังบันทึกเสียงพูดมาเยอะๆ ชัดๆ เราจะรู้สึกว่าเสียงก้องมากเกินไปในโหมด 7.1 แต่ถ้าเป็นหนังพูดน้อย หนังแอ็คชั่นไม่ค่อยพูด เราจะไม่รู้สึกว่ามันมีปัญหา

ปุ่ม 7.1 จะใช้งานได้แค่เพียงลำพัง ไม่สามารถใช้ร่วมกับปุ่ม EQ ได้ ถ้าเราเลือกใช้ปุ่ม EQ เพื่อปรับเสียง เจ้า H500 จะยกเลิกการทำเสียง 7.1 ทันที การฟังด้วยปุ่ม EQ จะเลือกได้ 3 โหมดคือ 1 Game, 2 Music, 3 Movie แต่ละโหมดจะเหมาะสมกับการใช้งานแตกต่างกัน ไม่มีกฏตายตัว ทดลองกดเลือกดู ถูกใจเสียงไหนก็ใช้เสียงนั้น เท่าที่ลองทั้ง 3 โหมด โหมด1จะเพิ่มเสียงเบส โหมด2จะเพิ่มเสียงกลาง โหมด3จะเพิ่มเสียงแหลม แต่หากจะปิด EQ ไปเลย เพื่อฟังเพลงแบบไม่ปรับแต่งก็ทำได้เช่นกัน และผมชอบเสียงแบบไม่ปรับแต่งนี้ที่สุดเมื่อใช้กับหูฟัง H500 แต่ถ้าใช้หูฟังอย่าง K701 กับ usb soundcard ตัวนี้ ผมจะปรับไป EQ1 ซึ่งจะทำให้เสียงเบสเยอะขึ้น เพราะ k701 เป็นหูฟังที่มีแนวเสียงที่เน้นเสียงกลางและแหลม เบสจะบางกว่าหูฟังทั่วไป และกับ K701 เราจะต้องเร่งระดับเสียงเพิ่มขึ้นอีกพอสมควรเลยถึงจะทำงานร่วมกันได้

เมื่อลอง usb sound ตัวนี้กับหูฟัง Audio technica ตัวหนึ่งที่เสียงเด่นในด้านเบส พบกว่าการปรับโหมด Eq ไปที่โหมด 3 เพื่อเพิ่มเสียงแหลมก็ให้เสียงโดยรวมของหูฟังมีความไพเราะขึ้น ผมเชื่อว่า Eq เป็นการปรับเสียงที่มีประโยชน์ หากเราใช้ให้ถูกวัตถุประสงค์ เพราะมันช่วยแก้ปัญหาให้กับบางอุปกรณ์ได้ แต่ถ้าหูฟังคุณสมดุลย์อยู่แล้ว ไม่ใช้ Eq ก็เป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน

ปกติหูฟังราคาประมาณ 3000-5000 บาท มักจะมีคุณภาพที่ดีพอใช้งานจริงจังได้อยู่แล้ว เราคาดหวังกับคุณภาพเสียงการฟังเพลงได้ และ H500 ก็มีคุณภาพเสียงที่ดีตามระดับราคาหลักพัน แต่เมื่อลดราคาเหลือหลักร้อยมันเรียกว่าเป็นความคุ้มค่าแบบต้องรีบไปซื้อเลย ลำพังเพียงแค่ usb soundcard ที่ให้มาในชุดนี้ก็คุ้มค่าเต็มที่แล้ว เพราะเราไม่เคยมีอุปกรณ์สร้างเสียงรอบทิศ 7.1 แบบแยกมาให้ใช้ง่ายๆแบบนี้ แถมยังเปลี่ยนไปใช้กับหูฟังอื่นๆใดๆได้ด้วย เท่าที่จำได้ ประมาณห้าปีที่แล้วเรามี usb soundcard ราคาเกือบหมื่นบาทที่สามารถทำเสียง 7.1 ได้ ซึ่งมีแค่เครื่องนะ ไม่มีหูฟัง เรายังต้องซื้อหูฟังอื่นๆมาใช้ร่วมกันอีก

คุณภาพเสียงของ usb soundcard ดีกว่าเสียงที่ได้จาก sound onboard ที่มากับเครื่องคอมฯอย่างชัดเจน ลองบนเครื่องเล่นเกมส์ msi claw ultra5 ที่เป็นเครื่องสมัยใหม่เพิ่งออกไม่เกิน 1 ปี เสียงจาก sound usb มีความชัด ใสและไดนามิคเรนจ์ดีกว่ากันมาก เสียงกลางจะเปิดเผยฟังสบาย เสียงสูงจะมีประกายสดใสที่มากกว่าอย่างชัดเจน เสียงดนตรีต่างๆมีความเป็นธรรมชาติมากกว่า

ลองใช้ H500 กับ macbookair เสียบสาย usb ก็ใช้งานได้ ฟังเพลงเพราะ ดูหนังได้ปกติ และกดปุ่ม 7.1 เพื่อใช้เสียงรอบทิศตอนดูหนังใน macos ก็ทำได้ด้วย ใครชอบดูหนังในคอมพิวเตอร์ควรจะหามาลองใช้ เพราะทำให้เสียงคล้ายกับในโรงหนังได้จริง ระบบ 7.1 จะดันเสียงพูดให้ไปอยู่ด้านหน้าตรงกลาง เสียงลำโพงซ้ายขวาจะถูกผลักให้อยู่ด้านหน้าซ้ายและหน้าขวาไม่ใช่อยู่ข้างหู ส่วนเสียงแอมเบี้ยนส์หรือเสียงแวดล้อมต่างๆของหนังก็จะให้ความรู้สึกว่าเสียงกระจายตัวห่อหุ้มเราอยู่ ความสามารถของ 7.1 แบบหูฟังทำให้ดูหนังสนุกขึ้น ตอนลองใช้ 7.1 ในนาทีแรกๆคุณอาจจะรู้สึกแปลกประหลาด แต่ถ้าคุณใช้ไปสัก 5 นาทีก็จะคุ้นเคยและรู้สึกว่าแบบ 7.1 ใช้ดูหนังสนุกดีเหมือนอยู่ในโรงหนังขนาดใหญ่จริงๆ

H500 ออกแบบ usb soundcard และหูฟังมาให้ทำงานร่วมกันได้พอดี เสียงโดยรวมออกมาดีมาก เป็นการแม็ทกันจากโรงงานมาเลย เปรียบเทียบให้ฟังคร่าวๆดังนี้ ปกติผมจะชอบใช้หูฟัง AKG K701 สำหรับการฟังเพลง และการทำให้ K701 ให้เสียงดีถูกใจที่สุดก็จะต้องต่อกับ headphoneamp ซึ่งจะทำให้มีกำลังขับที่เยอะเพียงพอจะไปสั่งการ K701 ให้มีคุณภาพสูง ส่วนหูฟังอีกตัวอย่าง Hifiman He400se มีเสียงดีมากเมื่อต่อตรงกับ Macbookair M1 หรือต่อกับเครื่องเล่นเพลงกำลังขับสูงๆ การจะใช้งาน H500 ให้ดีที่สุดก็คือใช้กับชุดของมันเอง ซึ่งคุณภาพสูงสุดของ H500 ยังไม่เทียบเท่ากับชุดฟังเพลง แต่ก็ให้โทนเสียงในแนวเดียวกัน

ข้อดี
H500 เสียบแล้วใช้งานได้เลย ไม่ต้องลงซอร์ฟแวร์เพิ่ม ให้โทนเสียงที่ฟังเพลงได้ดี มี EQ ปรับแต่งเสียงกดใช้งานได้ทันที โหมดการดูหนังสามารถเข้าสู่ 7.1 ด้วยปุ่มเดียว พกพาย้ายไปเสียบเครื่องอื่นได้สะดวก พกสาย usb sound ติดกระเป๋าโน้ตบุ๊คได้สะดวกมาก สามารถใช้ร่วมกับหูฟังอื่นๆเพื่อเปลี่ยนแนวเสียงได้ คุณภาพของ usb soundcard ดีกว่าของ onboard ที่ติดมากับคอมพิวเตอร์

ข้อเสีย
ถ้าซื้อในราคาเต็มก็จะต้องเทียบกับอุปกรณ์ระดับราคาเดียวกัน ซึ่งมีคู่แข่งหลายราย คุณภาพเสียงหูฟังไม่ได้ดีที่สุดในย่านราคานี้ น้ำเสียงเมื่อฟังเพลงยังไม่ใกล้เคียงกับเครื่องเล่นเพลงคุณภาพสูง ภาพdacและภาคขยายเสียงในอุปกรณ์ยังไม่เด่นในด้านคุณภาพ

สรุป
ผมซื้อ H500 เพราะต้องการใช้งานระบบเสียง 7.1 ที่ใช้งานง่ายในตอนดูหนัง และสามารถใช้งานได้ใน window และ mac os รวมถึงใช้กับ android box ได้ด้วย คุณภาพเสียงของ usb soundcard กับตัวหูฟังอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ใช้งานได้หลากหลาย ถ้ามีหูฟังชุดเดียว ชุดนี้ใช้ได้ยาวๆ ไม่ต้องกังขาเรื่องคุณภาพ ถ้ามันทนนะ

IMG_1866

สาย usb soundcard ตัวนี้กลายเป็นอุปกรณ์สุดโปรดที่พกพาไปใช้ทุกที่ ใช้กับหูฟังตัวเล็ก ตัวใหญ่ ได้อย่างหลากหลายตามสะดวก เรียกได้ว่าติดกระเป๋าโน้ตบุ๊คเอาไว้เลย เพราะมันเป็นการอัพเกรดคุณภาพเสียงของเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกตัวได้ทันที

ข้อมูลทางเทคนิค
Headphone
Transducer Type Dynamic 50 mm with Neodymium Magnets
Frequency Range 20 Hz – 20 kHz
Impedance 32Ω ± 15% @ 1 kHz
Sensitivity (SPL) 99 ± 3 dB / 1 mW @ 1 kHz
Power Handling Capacity 50 mW
THD 200~3 kHz ≤ 3%

Microphone
Transducer Type Electret Condenser Microphone with Noise-Cancel
Operating Principle Pressure Operated
Polar Pattern Omnidirectional
Nominal Impedance ≤2.2KΩ
Frequency Range 100 Hz – 10 kHz
Sensitivity (SPL) -38 ± 3 dB
Advanced Audio Control Box
7.1 Mode Virtual 7.1 Surround Sound On/Off
EQ 3 Pre-set EQ (Game, Music, Movie)
Volume Control

CONNECTIVITY
Dimensions (W x D x H) (mm) : 182 x 210 x 92 (inches) : 7.2″ x 8.3″ x 3.6″
Weight Around 0.7 lbs (320 g)
Headband Structure Self-Adjust Suspension Headband with

Wired Connectivity
Wired via 3.5 mm Audio Jack or USB 2.0
Cable Length
Headset to 3.5 mm : 1 m
USB Advanced Control Box : 1 m

Supported OS*
Windows 10
Windows 8.1
Windows 8
Windows 7
Mac OS X 10.5.x or later
Xbox One™
PlayStation® 4
Nintendo Switch™

Compatibility Matrix
PC : 7.1 Surround via USB,
Stereo via 3.5 mm
PlayStation® 4 : Stereo via 3.5 mm
Xbox One™ : Stereo via 3.5 mm
Nintendo Switch™ : Stereo via 3.5 mm
Apple : Stereo via 3.5 mm
Mobile : Stereo via 3.5 mm

รีวิว soundcard Epos gsx300

เมื่อประมาณเกือบสองปีก่อนผมได้มีโอกาสได้รีวิวหูฟังตัวนึง เป็นหูฟังสำหรับเล่นเกมส์ เป็นหูฟังครอบหูและมีไมค์โครโฟนสำหรับสื่อสาร ในตอนนั้นได้ลองเล่นแล้วก็ได้ค้นพบความสามารถบางอย่างของระบบที่ใช้ในหูฟัง นั่นคือระบบเสียง 7.1 ซึ่งเป็นระบบเสียงรอบทิศชนิดหนึ่งที่มีใช้ในวงการหูฟัง และดูเหมือนจะได้รับความสนใจในวงการเกมส์อย่างมาก

IMG_20220208_203654

หูฟังตัวนั้นคือ Sennheiser Gsp350 ซึ่งเป็นหูฟังแบบครอบหู เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ทางพอร์ต usb โดยตัวมันเองมี usb soundcard ในตัว และไม่สามารถใช้ฟูฟังตัวนี้กับพอร์ต 3.5มม. ได้ เพราะตัวมันไม่มีแจ็คชนิดนี้ สิ่งหนึ่งที่ประทับใจกับหูฟังตัวนี้คือระบบเสียงรอบทิศที่มีตราสัญลักษณ์ของดอลบี้ปรากฏอยู่บนสาย มีคำว่า Dolby Audio อยู่ด้วย และวงจรเสียงรอบทิศที่จำลองในหูฟังตัวนี้ก็น่าจะจัดการโดยเทคโนโลยีของบริษัท Dolby และผลการใช้งานก็ยอดเยี่ยม หูฟังสามารถให้เสียงใกล้เคียงกับการดูหนังในโรงหนังมาก เสียงพูดอยู่ตรงกลางด้านหน้าเหมือนมีลำโพงเซ็นเตอร์ เสียงซ้ายและขวาถูกดันไปอยู่ด้านหน้าคล้ายลำโพงคู่หลักของระบบเสียงโฮมเธียเตอร์จริงๆ มันเป็นประสบการณ์การฟังเสียงรอบทิศในหูฟังที่น่าตื่นเต้นมาก เพราะมันสมจริงทั้งตำแหน่งและอรรถรสการดูหนัง

ในช่วงเวลานั้นผมสนใจที่จะหาคำตอบต่อว่า ถ้าผมไม่ใช้หูฟังตัวนี้ แล้วผมอยากจะใช้ระบบเสียงรอบทิศกับหูฟังตัวอื่นที่ชอบได้หรือไม่ หลังจากที่ได้ลอง gsp350 จบไปแล้ว หลายเดือนต่อมาผมก็ได้ทดลองซื้อหูฟังราคาไม่แพงที่มีคำว่า 7.1 อยู่บนกล่อง และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ด้วยพอร์ต usb มาลองใช้ ก็พบว่า มันไม่เหมือนกับ gsp350 เลย ไม่มีความใกล้เคียงเลย เหมือนไม่ได้ใช้เทคโนโลยีเดียวกัน แสดงว่า 7.1 มีแบบไม่ได้เรื่องด้วย

IMG_0581

ในใจก็ยังคงหาวิธีการต่อไป จนได้มาพบกับ Gsx300 ซึ่งเป็นซาวการ์ดตัวหนึ่งที่เป็นรุ่นเล็กของอนุกรม gsx โดยแปะยี่ห้อ EPOS ทำให้เข้าใจได้ว่า EPOS คือบริษัทในเครือเดียวกับ Sennheiser ที่เน้นทำตลาดวงการเกมส์ เพราะปกติ Sennheiser จะมีชื่อเสียงในวงการออดิโอวิดีโอ ระบบไมค์ ระบบหูฟัง ระดับมืออาชีพ Gsx300 เป็นน้องเล็ก มีรุ่นกลางเป็น Gsx1000 และ มีรุ่นใหญ่เป็น Gsx1200

ในเว็บ EPOS ให้ข้อมูลไว้ว่า GSX1200 และ Gsx1000 จะมีกำลังขับที่มากกว่า และเป็นอุปกรณ์ที่มีอินเทอเฟสบนตัวเครื่องที่มากกว่า สามารถสั่งการเปลี่ยนโหมดได้โดยตรง และสามารถชื่อต่อกับหูฟังและไมโครโฟนได้หลากหลายกว่า แต่สิ่งที่เหมือนกันกับ Gsx300 ก็คือ ทุกตัวมีระบบเสียง 7.1 คุณภาพเดียวกัน นั่นทำให้ผมสนใจ Gsx300 และเป็นที่มาของรีวิวนี้

gsx300back

ข้อมูลผลิตภัณฑ์

General
USB standard USB 2.0
Total harmonic distortion < 0.01%
Cable length 1200 mm
Connector plugs
3.5 mm headset socket
3.5 mm microphone socket
Micro USB
Compatibility PC
Warranty 2 years, international
Supported sample rates Main Audio 24 bit 96 kHz 7.1 @ 16 bit 48 kHz with EPOS Gaming Suite
Audio outputs Headphones
Recommended headphone impedance 25 – 75 Ω
Packaging Dimension of product packaging (L x W x H) 168 x 144 x 57 mm
Package weight (incl. complete product and packaging) 309 g
Dimension of master carton (L x W x H) 350 x 310 x 310 mm
Units in distributor master carton 20
Languages English, German, French, Spanish, Russian, Chinese Content of delivery
What’s in the box USB cable, Quick Start Guide, Safety Guide

Gsx300 เป็น external soundcard ที่เชื่อมต่อเข้าคอมพิวเตอร์ด้วยพอร์ต usb บนตัวมันมีช่อง micro usb 1 ช่อง มีช่องเสียบหูฟัง 3.5mm ชนิด TRS และช่องเสียบไมค์ 3.5 มม. อีก 1 ช่อง มีปุ่มหมุนวอลลุ่มอยู่ด้านหน้า มีปุ่มโหมดอีก 1 ปุ่มเอาไว้เปลี่ยนโหมดการทำงาน ทั้งหมดมีเท่านี้ วงจรภายในทำงานยังไง ใช้ชิปเสียงอะไรก็ไม่ได้บอกไว้ แม้แต่กำลังขับก็หาไม่เจอว่ามีกี่วัตต์ รู้แค่มันถอดรหัสเสียงได้ระดับ 24bit 96K ในแบบสเตอริโอ และทำงานได้ที่ 16bit 48k ในแบบเสียงรอบทิศ

13337_0

Gsx300 ออกแบบมาสำหรับการใช้งานกับคอมพิวเตอร์เท่านั้น และซอร์ฟแวร์ที่ประมวลผลละเอียดที่ต้องลงเพิ่มก็จะทำงานบนวินโดน 10 และ 11 เท่านั้น ไม่มีซอร์ฟแวร์สำหรับ osx และวินโดส์เก่าๆเลย หมายความว่าถ้าจะใช้ระบบเสียง 7.1 จาก Gsx300 ต้องใช้บนระบบปฏิบัติการวินโดส์ 10 หรือ 11 เท่านั้น ส่วนถ้าจะต่อคอมฯแล้วไม่ลงซอร์ฟแวร์เฉพาะทาง คือจะใช้แค่ไดรเวอร์กลางๆ เราก็สามารถใช้มันเป็น soundcard usb ได้ และสามารถใช้กับคอมพิวเตอร์ทั่วไปได้เลย มันทำงานได้บนวินโดส์ 7 ทำงานได้กับโทรศัพท์มือถือ android และคาดว่าจะใช้กับ osx ได้ หากใช้แค่ไดรเวอร์พื้นฐาน

ทดลองฟัง

ผมต่อ Gsx300 เข้ากับคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ windows11 และทดลองฟังเพลง ทดลองดูหนัง ทดลองระบบเสียง 7.1 รวมถึงไปลองต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ windows7 ด้วย ซึ่งเป็นเครื่องทำงานหลักตัวหนึ่งที่ใช้ดูข้อมูลในเว็บ ดูภาพ และฟังเพลง ซึ่งการต่อกับ windows7 จะไม่สามารถลงซอร์ฟแวร์เฉพาะทางได้ และผมก็ตั้งใจจะใช้ฟังเพลงเป็นหลักอยู่แล้ว

กับการฟังเพลง Gsx300 ให้เสียงที่กระฉับกระเฉง เสียงคมชัด เบสใหญ่ กลางชัด แหลมเพราะ ทุกอย่างดีกว่าการฟังผ่านช่องแบบออนบอร์ด เสียงเพลงสวิงขึ้นลง ดังและเบาในช่วงที่กว้างยิ่งกว่าเดิม คอนทราสต์ของเสียงมีน้ำหนักที่จะแจ้งอย่างมาก เสียงฟาดกลอง เสียงดีด เสียงเคาะ ทุกเสียงเหล่านี้มีความฉับไว มีความเร็วที่สมกับธรรมชาติของเครื่องดนตรี ซึ่งหาไมไ่ด้กับเสียงชนิด on board ที่ติดกับกับเครื่อง การอัพเกรดระบบเสียงในคอมพิวเตอร์ด้วย Gsx300 เป็นช่องทางที่ให้เสียงดีในทันที ความแตกต่างรับรู้ได้ชัดเจนมาก

epos-soft-3

Gsx300 สามารถขับหูฟังได้หลากหลาย หูฟังเกือบทุกตัวที่ผมมีก็ได้ทะยอยนำมาลองไปทีละตัว Hifiman re400a , Audio Technica Ath-250m, Koss Ksc35, Akg K701 หูฟังเหล่านี้ทำงานได้ดีกับ Gsx300 เหมือนกับว่า Gsx300 เป็น Dac-amp ที่มาอัพเกรดระบบเสียงให้กับคอมพิวเตอร์เลย ซึ่งจริงๆมันก็คือ Dac-amp นั่นเอง เสียงย่านความถี่ต่ำบนหูฟังตัวใหญ่ๆอย่าง Akg K701 ทำให้ประทับใจมาก การส่งเสียงกลองกระเดื่องอย่างทรงพลังยังคงมีให้อยู่อย่างชัดเจน ไม่จม ไม่หลบ ไม่ผ่อนกับเสียงเลย คุณภาพเสียงใกล้เคียงกับการต่อผ่าน Headphone amp ที่ใช้อยู่อย่างมาก แต่จะเปิดดังมากเหมือนแอมป์หูฟังก็จะไม่ได้ เพราะแอมป์หูฟังที่ผมใช้อยู่เป็นแอมป์ทำเอง ใช้ไฟเลี้ยงสูงกว่า usb นั่นทำให้แอมป์หูฟังแบบ Diy ให้เสียงสวิงขึ้นลงได้มันส์กว่า

20220205181547_IMG_0607

สัญญาณรบกวนในวงจรของ Gsx300 อยู่ในระดับต่ำ สามารถใช้กับหูฟังความไวสูงได้โดยไม่ได้ยินเสียงซ่า หูฟังเล็กๆทั้งหลายก็จะสามารถใช้งานร่วมกันได้ไม่ต้องทนฟังเสียงซ่า บางเพลงที่มีเสียงเครื่องดนตรีความถี่ต่ำ Gsx300 ก็ผลักดันหูฟังตัวใหญ่อย่าง Akg K701 ให้ส่งเสียงย่านต่ำได้ไม่คลุมเครือ เราติดตามโน้ตต่ำๆ หรือเครื่องดนตรีย่านต่ำได้อย่างสนุกสนานน่าฟัง นับว่ามันสามารถใช้งานเป็นอุปกรณ์ฟังเพลงตัวหลักของระบบเครื่องเสียงได้เลย สเป็คแบบนี้ หากเป็นสักสิบปีก่อน เราอาจจะต้องจ่ายเงินกัน 5000-10000 บาท สำหรับ Dac-amp ที่ขับหูฟังใหญ่ๆได้ แต่ในวันนี้มันอยู่ในอุปกรณ์ตัวเล็กๆน่ารักแต่คุณภาพไม่ธรรมดาเลย

ลองฟังเสียง 7.1

การฟังเสียงรอบทิศผมฟังจากการดูหนังผ่าน netflix และ ดูจากไฟล์ Mkv ที่เคยโหลดเก็บไว้โดยเปิดผ่านโปรแกรมเล่นไฟล์ VLC พบกว่า เสียงรอบทิศแบบ 7.1 ให้คุณภาพเสียงที่ดี ไม่มีอาการเฟสเสียงแปลกๆหลอนหูในแบบที่เคยได้ยินกับโปรแกรมเสียง 3d แบบเกือบยี่สิบปีก่อน ในเว็บและในคู่มือ ไม่ได้บอกว่าการถอดรหัสเสียงของ Gsx300 ใช้ซอร์ฟแวร์หรือตัวถอดรหัสเสียงรอบทิศของใคร เพราะไม่ได้มีคำว่า Dolby Digital หรือ Dts ในซอร์ฟแวร์และในกล่อง ในคู่มือในเว็บ ไม่มีบอกเลย เข้าใจว่าการถอดรหัสเสียงรอบทิศ 7.1 ของ Gsx300 จะเป็นถอดรหัสตามใจ EPOS เอง ก็คือออกแบบระบบการจำลองเสียงเองไม่ได้อ้างอิงมาตรฐาน dolby

กับการดูหนัง เสียงพูด เสียงที่ควรจะอยู่กับลำโพงเซ็นเตอร์ในโรงหนัง ก็ให้เสียงที่อยู่ตรงกลางหัว ดันออกไปด้านหน้าเล็กน้อย ไม่ได้ผลักออกไปอยู่ไกลแบบที่เคยได้ยินใน Gsp350 ซึ่งถ้าให้สิ่งที่เคยได้ยินนั้นเทียบเป็น 100% เสียงรอบทิศของ Gsx300 จะดันเสียงออกไปได้ระดับประมาณ 70-80% เท่านั้น ตรงนี้น่าเสียดายมากที่ไม่สามารถทำได้เท่าระบบของ Dolby Audio ความแตกต่างของ 7.1 ใน Gsx300 จะต่างกันที่ความรู้สึกของตำแหน่งลำโพงหน้า คือหน้าซ้าย หน้าขวา และลำโพงเซ็นเตอร์เป็นหลัก ส่วนเสียงแวดล้อม หรือ แอมเบี้ยนส์ ที่โอบล้อมคนฟังนั้นมีครบถ้วน ถือว่าทำได้ดีเลย เสียงแวดล้อมมันทำให้บางครั้งเราต้องหันหลังกลับไปมองว่ามันเป็นเสียงคนเดินในห้องหรือเป็นเสียงในหูฟัง

ท่ามกลางเสียงโอบล้อม แล้วมีเสียงพูด เสียงหลักที่เหมือนจะออกมาจากลำโพงหน้า มันผสมเสียงกันอย่างลงตัว เสียงพูดลอยเด่นท่ามกลางเสียงโอบล้อม มันปล่อยเสียงออกมาอย่างกลมกลืน ถือว่าการจำลองเสียงรอบทิศแบบ 7.1 จาก Gsx300 ทำได้ดีสมราคาคุย และดีเกินราคาไปมากเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีที่หยิบยื่นให้ ดูเหมือนพลังการประมวลผลเสียงรอบทิศที่อยู่ใน Gsx300 จะมีความสามารถสูงลิบ คงเป็นเพราะฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่มันทำงานได้รวดเร็วและไร้รอยต่อ ประสบการณ์การฟังเสียงสามมิติในอดีตที่เคยลองใช้ วันนี้มันเปลี่ยนไปหมดเลย

ผมไม่ได้เป็นคนเล่มเกมส์ แต่อาศัยลองเปิด youtube ในคลิปที่เป็นเกมส์แนว fps และ openworld ซึ่งจะเป็นคลิปทดสอบเสียงรอบทิศในเกมส์ เข้าใจว่าเสียงในเกมส์จะไม่ได้รองรับระบบเสียง 5.1 แบบหนังทั่วไป คือเสียงรอบทิศที่ไม่ใช่ dolby digital ไม่ใช่ dts มันน่าจะเป็นเสียงรอบทิศแบบตัวใครตัวมัน อย่างมากก็คล้ายๆ dolby surround หรือ binaural recording ซึ่งผมก็ไม่ได้รู้รายละเอียดในเกมส์มากนัก แต่ฟังเสียงคลิปทดสอบแล้ว การแยกแยะทิศทางทำได้พอใช้ เสียงโอบล้อมและความกระหึ่มของเสียงนั้นจัดเต็มและฟังสนุกมาก พอฟังคลิปเกมส์แล้วรู้สึกได้เลยว่าเสียงในเกมส์มันโอบล้อมยิ่งกว่าเสียงจากหนังฮอลีวู้ดเสียอีก เหมือนกับว่ามันเสกเสียงดีๆแน่นๆให้เราฟังกันเลย เสียงฝีเท้าชัดขึ้นเมื่อเทียบกับเสียงออนบอร์ด ความแม่นยำในการเดาทิศทางนั้นทำได้ง่ายขึ้น เสียงปืนยิงแล้วมีเบส มีน้ำหนักของการระเบิดที่คมชัด ถ้าเปิดดังมากๆอาจจะตกใจได้

20220205181227_IMG_0592

สรุป

Gsx300 เป็น external soundcard ที่มีคุณภาพเสียงที่ดีมาก สามารถส่งสัญญาณความละเอียดสูงระดับ 24bit 96kHz ออกมาได้ ใช้เป็น Dac-amp สำหรับหูฟังได้ดีมาก หากทำงานในแบบ 7.1 หรือระบบเสียงรอบทิศก็ให้ความกลมกลืนของเสียงรอบทิศและเสียงหลักของหนังได้ดี หากย้อนไปสักสิบปีที่แล้ว การจะหา Dac+Amp ที่ใช้งานกับหูฟัง เน้นคุณภาพระดับ 24bit 96K จะต้องใช้เงินหลายพันหรือเป็นหมื่นบาทเลยก็มี ซึ่ง Dac เหล่านั้นจะเน้นแค่การแปลงเสียงสำหรับฟังเพลงเท่านั้น ไม่ได้มีการรับสัญญาณไมค์ และ ไม่ได้มีเสียงรอบทิศให้ใช้ Gsx300 เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่หน้าตาน่ารักและใช้งานได้คุณภาพ เป็นของที่น่าใช้อีกชิ้นหนึ่งจริงๆ

หากต้องการซื้อ เชิญที่นี่ครับ
https://shope.ee/99wMP5U8Pw?share_channel_code=6