รีวิว กล้องคอมแพ็คฟิล์ม nikon L35AF

20200131162450_IMG_0410-01

ใครอยากฟังเป็นเสียง ผมทำเป็นคลิปไว้ใน youtube เลื่อนลงด้านล่างแล้วกดฟังได้เลยครับ

กล้องฟิล์มได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงสามปีมานี้ ในงานโฟโต้แฟร์ของปลายปี คศ 2019 ที่เพิ่งผ่านไป ในงานมีมุมของกล้องฟิล์มมือสองที่มีผู้ขายมาออกร้านอยู่จำนวนหนึ่ง แต่สิ่งที่ทำให้ต้องบันทึกไว้ก็คือ คนที่มาดูกล้องฟิล์มมือสองมีจำนวนมากอย่างไม่น่าเชื่อ ปกติงานโฟโต้แฟร์ในช่วงหลังที่มีแต่กล้องดิจิทัลจะมีคนเดินหลวมๆ ดูของสบาย จะมีบางบู๊ทเท่านั้นที่มีคนมุง 2-3 คนเพื่อดูสินค้า แต่กับมุมกล้องฟิล์มกลับมีผู้คนล้นหลาม ถึงขนาดที่คนดูมุงซ้อนกัน จะดูกล้องสักตัวต้องมุดต้องเอื้อมมือแทรกเข้าไปเพื่อขอกล้องตัวที่สนใจมาถือดู ความคึกคักระดับที่ไม่เคยเห็นเลยในงานโฟโต้แฟร์ การรุมดูอย่างบ้าคลั่งราวกับตลาดนัดยี่สิบบาทเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น และที่น่าตกใจก็คือ ราคากล้องฟิล์มขึ้น…. มันเป็นไปได้จริงๆ

กล้องฟิล์มยอดฮิตในช่วงปีนี้จะเป็นกล้องคอมแพ็คเลนส์ฟิกซ์ทั้งสิ้น กล้องที่ได้รับความนิยมจากที่ตามอ่านตามเว็บและกลุ่มเฟสบุ๊คก็จะไม่พ้นกล้องฟิล์มไฮโซหรือกล้องคอมแพ็คเทพทั้งหลาย ที่ติดเป็นดาวค้างฟ้าก็เช่น contax t2, contax t3, leica minilux, nikon 35ti, olympus mju II, canon afm, yashica electro35, canon ql17, และ nikon L35AF ซึ่งตัวหลังนี้จะราคาค่อยข้างถูกกว่าทุกตัว และเป็นที่มาของรีวิวชิ้นนี้

กล้อง Nikon L35AF เป็นกล้องคอมแพ็คฟิล์มระบบออโต้โฟกัสตัวแรกของค่าย nikon ออกวางขายในปี คศ 1983 ติดเลนส์ 35มม. รูรับแสง 2.8 มาให้เลย นับว่าเป็นเลนส์ไวแสงตัวหนึ่งของการถ่ายภาพ รูปร่างเหลี่ยมตามยุคสมัยของทศวรรษที่80 ดูบึกบึนแข็งแรงดี สเป็คเลนส์ที่ดีทำให้มันน่าสนใจมากเมื่อเราเจอกล้องที่สภาพดีและยังคงทำงานได้สมบูรณ์

สเป็คกล้องจากเว็บฝรั่งว่าไว้ตามนี้

  • Produced 1983 – ? Nippon Kogaku K. K., Japan
  • Film type 135 (35mm)
  • Picture size 24mm x 36mm
  • Weight 13.9oz with batteries (394g)
  • Lens Nikon Lens 35mm 1:2.8-? (5 element 4 group?)
  • Filter size 46mm
  • Focal range .8m-infinity (?)
  • Shutter Nikon
  • Shutter speeds ??
  • ASA 100-400*
  • Viewfinder bright frame finder with symbol distance scale
  • Exposure meter lens mounted CdS, +2 backlight compensation lever
  • Battery 2 x AA 1.5v
  • Pop-up flash (automatic when light levels drop out of range)
  • Self-timer
  • Autofocus
  • Auto film advance

จุดเด่นที่พบหลังจากได้ลองใช้ก็จะมีดังนี้

L35AF เป็นกล้องที่ใช้ถ่าน AA 2 ก้อน ซึ่งถือว่าเป็นถ่านราคาถูกและหาซื้อได้ง่ายมาก เพราะกล้องตัวอื่นมักจะใช้ถ่านหายากบ้าง ราคาแพงบ้าง เช่น CR2 หรือ CR123 หรือ 2CR5 บางคนได้กล้องมาราคาสามร้อยบาท แต่ต้องซื้อถ่านเพื่อทดสอบราคาสามร้อยบาท ยังมีค่าฟิล์มค่าล้างอีกสำหรับทดสอบความสมบูรณ์ของกล้อง มันเป็นเรื่องหงุดหงิดนิดหน่อยสำหรับกล้องที่ใช้ถ่านราคาแพง

000004

L35AF เป็นกล้องที่ใส่ฟิลเตอร์ได้ ขนาดฟิลเตอร์ 46 มม. ตรงนี้เจ๋งมาก เพราะว่ากล้องคอมแพ็คเทพทั้งหลายใส่ฟิลเตอร์ไม่ได้เลย การถ่ายภาพด้วยฟิล์มหากจะหวังผลปราณีตมากๆ ก็ควรจะมีฟิลเตอร์ที่ตอบสนองความต้องการของช่างภาพ เช่นจะถ่ายขาวดำก็อาจจะต้องใช้ฟิลเตอร์สีเหลือง จะถ่ายฟิล์มสไลด์หรือเน็กกาทีฟที่สีเที่ยงตรงก็ต้องมีการใส่ฟิลเตอร์แก้สี เนื่องจากฟิล์มไม่สามารถเปลี่ยนค่าไวท์บาลานซ์ได้แบบกล้องดิจิทัล เราจึงต้องใส่ฟิลเตอร์เพื่อเปลี่ยนสีของแสงที่วิ่งเข้าสู่ฟิล์มนั่นเอง

Screenshot 2020-02-20 23.17.15

L35AF ออกแบบช่องมองภาพมีสเกลโฟกัส มีเข็มชี้ว่าตอนนี้กำลังโฟกัสไปที่ระยะใด มีระยะ4 ตำแหน่งบอกเรา คือ โฟกัสใกล้ๆเข็มจะชี้ที่ภาพคน1คน ถ้าโฟกัสระยะห่างออกมาประมาณ 2-3 เมตรเข็มก็จะชี้ที่ภาพคน2คน ถ้าโฟกัสไกลอีกหน่อยเข็มก็จะชีที่ภาพสามคน และถ้าโฟกัสไกลมากเข็มจะชี้ที่ภาพภูเขา ระบบออโต้โฟกัสที่แสดงผลเป็นเข็มชี้แบบนี้ช่วยให้เรามั่นใจมากยิ่งขึ้นว่ากล้องทำงานไม่ผิดพลาด และคนใช้งานก็จะโฟกัสไม่พลาด เช่นถ้าเรากำลังถ่ายคนครึ่งตัว เมื่อกดปุ่มถ่ายลงไปครึ่งหนึ่งกล้องจะทำการโฟกัส และเข็มชี้โฟกัสจะชี้ไปตามระยะที่มันทำงานคือชี้ภาพ1คน แต่ถ้ามันบังเอิญไปชี้ที่รูปภูเขา แสดงว่าเราโฟกัสพลาดไม่โดนคน ไปโฟกัสฉากหลัง ภาพก็จะออกมาเป็นคนเบลอ ภูเขาหรือวิวด้านหลังชัด

000010

L35AF เป็น เป็นกล้องที่ตั้งค่า iso ได้เอง กล้องตัวนี้ไม่มีระบบอ่าน DX code เราจะต้องตั้งค่า iso ที่ด้านบนของเลนส์ให้ตรงกับฟิล์มที่เราใช้ แม้จะดูไม่สะดวก แต่มันเจ๋งมากหากเราใช้ฟิล์มประหลาดที่ไม่ได้มาพร้อม DX code ที่ถูกต้อง อย่างเช่น ฟิล์มโหลดชนิดต่างๆ ยุคนี้เรามีฟิล์มประหลาดที่มาแบ่งขายใส่กลักเก่า กลักเก่าจะมี DX code ที่ไม่ตรงกับฟิล์มประหลาดเหล่านี้ หากเราใช้ฟิล์มประหลาด เราต้องใช้กล้องที่ตั้งความไวแสงได้เอง

000009

L35AF มีปุ่มชดเชยแสง +2EV ปุ่มนี้เป็นปุ่มที่ช่วยให้เรื่องวัดแสงเป็นเรื่องง่ายขึ้น ปกติหากเราจะถ่ายภาพแบบปราณีต เวลาถ่ายภาพย้อนแสง กล้องจะวัดแสงผิด หากเราถือกล้องโปร เราก็ควรจะไปตั้งค่าการชดเชยแสงให้กับกล้องก่อนถ่ายภาพจริง ถ้าย้อนแสงเราจำเป็นต้องชดเชยไปทาง + 1 หรือ +2 แล้วแต่ความสว่างของด้านหลัง แต่ในกล้องคอมแพ็คตัวนี้ไม่ต้องคิดเยอะ เขาระบุมาเลยว่า ถ้าถ่ายย้อนแสงให้กดปุ่มพิเศษปุ่มนี้ด้วย มันคือปุ่มชดเชยแสงนั่นเอง

Nikon L35AF +2ev

นักถ่ายภาพมือใหม่บางคนไม่รู้ว่าปุ่มนี้ใช้ทำอะไร แต่ถ้าเคยฝึกฝนการถ่ายภาพอย่างจริงจังจะเข้าใจว่า การมีปุ่มชดเชยแบบสำเร็จรูแบบนี้เป็นสิ่งที่เจ๋งมาก ภาพตัวอย่างดูจากภาพลูกผมนั่งอยู่ในเบาะรถยนต์ แสงสว่างด้านนอกรถยนต์รวมถึงด้านหลังรถเป็นสิ่งที่ทำให้ภาพนี้ถือว่าเป็นภาพย้อนแสง หากเราถ่ายไปตรงๆ ภาพจะมีความมืดที่ตัวนายแบบ แต่หากเรารู้ว่าย้อนแสงและต้องการชดเชยแสงให้มีแสงมากขึ้น เรากดปุ่มชดเชยแสงค้างไว้แล้วโฟกัสภาพถ่ายใหม่เลย กล้องจะรับแสงนานขึ้น ความสว่างจะเพิ่มขึ้นประมาณ 2 สต๊อป นั่นเพียงพอที่จะทำให้เด็กในภาพมีหน้าขาวดขึ้น ภาพดูสว่างขึ้น และรวมถึงฉากหลังก็จะสว่างขึ้นด้วย

2020-02-19_07-55-32

ภาพสะพายกระติกน้ำผมถ่ายที่บริเวณจุดจอดรถรับส่งนักเรียน ผมให้ลูกไปยืนห่างออกไปประมาณสองเมตรแล้วถ่ายภาพแรก แล้วจากนั้นก็กดปุ่มชดเชยแสงค้างไว้แล้วถ่ายภาพซ้ำอีกครั้ง ภาพที่สองจะมีความสว่างบนตัวแบบมากขึ้นทันที จุดนี้เป็นจุดเด่นที่เจ๋งมากๆและหาไม่ได้จากกล้องในปัจจุบัน

IMG_0408

การถ่ายภาพด้วยฟิล์มในยุคปัจจุบัน จะมีความนิยมใช้ฟิล์มสีหรือเน็กกาทีฟ โดยเมื่อถ่ายเสร็จแล้วจะส่งไปล้างและทำการสแกนภาพด้วย มีผู้ให้บริการล้างฟิล์มพร้อมสแกนจำนวนมาก มีทั้งร้านเก่าแก่ที่ยังคงดำเนินงานอยู่ และอีกเกินครึ่งเป็นร้านใหม่ เมื่อได้ภาพสแกนมาแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะเอาไปโพสท์โชว์ในโซเชียลเน็ตเวิร์ค ภาพสแกนจาก nikon L35AF ชุดนี้ได้ภาพมา 37 ภาพ มี 36 ภาพที่โฟกัสเข้าตามที่ตั้งใจไว้หมดเลย ส่วน 1 ภาพที่ไม่ชัดก็เป็นภาพที่หันกล้องมาถ่ายเซลฟี่ตัวผมเอง ซึ่งคาดว่าโฟกัสพลาดเพราะระยะใกล้เกินไป กล้องยุคเก่ามักจะมีระยะโฟกัสใกล้สุดที่มากกว่ากล้องสมัยใหม่ ระยะแขนที่เซลฟี่ตัวเองก็เลยอยู่ในระยะที่กล้องโฟกัสไม่ได้

ข้อแนะนำสำหรับคนที่อยากถ่ายภาพให้ดูดี เราควรจะยืนใกล้เหตุการณ์ทีจะถ่ายเพื่อให้วัตถุหรือคนเป็นจุดเด่นที่สุดในภาพ การใช้กล้องคอมแพ็คมักจะให้ภาพไม่แม่นยำเท่ากล้อง SLR การจัดองค์ประกอบที่ซับซ้อน การเล่นเส้นนำสายตา การจัดภาพที่จุดตัดเก้าช่อง ทฤษฎีองค์ประกอบภาพต่างๆอาจทำได้ไม่ชัดนัก สิ่งที่ทำได้คือเน้นให้จุดเด่นเป็นสิ่งที่ใหญ่ที่สุดในภาพ ภาพลักษณะนี้มักจะดูดี

สรุป

Nikon L35AF เป็นกล้องคอมแพ็คฟิล์มคุณภาพดี ให้ภาพที่คมชัด วัดแสงแม่นมาก สามารถโฟกัสวัตถุได้แม่นยำ คุณภาพของภาพที่ล้างแล้วสแกนขึ้นมาดูสูสีกับกล้องเทพอย่าง contax t3 ถ้าไม่ได้เป็นคนถ่ายภาพด้วยตัวเองก็อาจแยกไม่ออกว่าภาพไหนจาก nikon ภาพไหนมาจาก contax ถือว่าเป็นกล้องราคาย่อมเยาที่ให้คุณภาพทัดเทียบกับกล้องแพง ข้อเสียอย่างเดียวของกล้องตัวนี้คือ แฟลชจะเด้งอัตโนมัติเมื่อมีแสงน้อย ทำให้เราไม่สามารถสั่งปิดแฟลชได้ด้วยตัวเอง ทำให้การถ่ายภาพบางสถานการณ์อาจจะไม่เป็นไปดังที่ใจคิด และการไม่มีลูกเล่นระดับ advance อย่างโหมด Av Tv หรือการโฟกัสแบบโซนรวมถึงปรับเป็นแมน่วลโฟกัสไม่ได้ก็อาจจะทำให้ใช้งานไม่ตอบสนองต่อความคิดสร้างสรรค์ที่เรามี แต่มันก็เป็นกล้องที่ออกแบบมาให้พกง่ายถ่ายง่าย ไม่ได้ออกแบบมาให้มือโปรใช้ ดังนั้นข้อจำกัดต่างๆก็ไม่อาจบอกว่าเป็นข้อเสียได้

Nikon L35AF Contax T3 Leica minilux
แถมภาพเปรียบเทียบให้ สามภาพนี้ มาจากกล้อง nikon L35AF Contax T3 และ Leica minilux ใช้ฟิล์ม Fuji c200 เหมือนกัน และล้างอัดพร้อมสแกนฟิล์มร้านเดิมตลอด ทุกภาพต่างกันที่ช่วงเวลาที่ถ่ายเท่านั้น
2020-02-20_11-01-59
แถมภาพเปรียบเทียบกับกล้องดิจิทัล ภาพบนถ่ายด้วย eos m + เลนส์ 22f2 ส่วนภาพล่างเป็นภาพจาก nikon L35AF เอาภาพมาต่อกัน พยายามปรับขนาดให้ตัวเด็กดูใหญ่เท่ากัน

แถมให้อีกนิด L35AF ตอนสั่งกรอฟิล์มกลับเมื่อถ่ายหมดม้วน กล้องจะหมุนฟิล์มย้อนกลับแบบเหลือหางให้ มันดีสำหรับคนที่จะล้างฟิล์มด้วยตัวเอง เพราะจะได้ไม่เสียเวลาดึงหางฟิล์มเอง แต่มันเป็นข้อเสียเมื่อจะต้องส่งฟิล์มไปให้ร้านทำการล้างให้ เพราะฟิล์มที่เหลือหางจะดูเหมือนฟิล์มใหม่ยังไม่ได้ถ่าย หากเราเผลอวางไว้ใกล้กับฟิล์มใหม่ หรือเก็บไว้ในกระเป๋าแล้วลืมว่าถ่ายไปแล้วหรือยัง เราจะแยกไม่ออกเลยว่าฟิล์มม้วนนี้ใช้ถ่ายไปแล้วหรือยัง

IMG_20210308_194010
IMG_4855

คุยเล่นเรื่องเลนส์ canon EF35 F2

เลนส์ canon EF 35 F2 เป็นเลนส์ไวด์ทางยาวโฟกัสเดียว 35 มิลลิเมตร หน้าเลนส์ขนาด 52 มิลลิเมตร รูรับแสงกว้าง F2 ซึ่งไวแสงกว่าเลนส์ซูมเกรดโปรที่ขายกันสี่ห้าหมื่นบาทไทย แต่ราคาขายของเลนส์ 35F2 ตัวนี้อยู่ที่ระดับหมื่นกว่าบาท เลนส์ตัวนี้ผมได้มาเกือบสิบปีแล้ว เป็นเลนส์ที่ทำให้การถ่ายภาพมีความสนุกมากขึ้น คนที่สนใจเลนส์ตัวนี้มักจะเป็นคนที่ได้เคยใช้เลนส์ซูมมาแล้ว การได้ลองเลนส์เดี่ยวไม่ว่าช่วงทางยาวโฟกัสใดก็ตามมักจะให้ความสวยงามและความสนุกมากกว่าเลนส์ซูม

ขอยืมภาพเลนส์จาก Wikimedia Commons

(ภาพถ่ายที่เหลือทั้งหมดผมถ่ายเอง)

slide-img087

kodak extractor 100 + ef35f2

รูรับแสงกว้างทำให้มันเหมาะกับสภาพแสงที่ไม่มากเท่าไร อย่างเช่นแสงในอาคาร ในห้องต่างๆ แต่เมื่อเอาไปใช้กับสภาพแสงธรรมชาติ วันท้องฟ้าแดดสวย เลนส์ตัวนี้ก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่าเราถ่ายภาพเก่งขึ้นได้เองโดยที่ใช้ความพยายามเท่าเดิม การถ่ายภาพต่างๆด้วยเลนส์รูรับแสงกว้างๆเราจะได้ภาพที่มีความนุ่มนวล มีช่วงชัดเพียงเล็กน้อยแล้วสิ่งที่อยู่นอกระยะโฟกัสก็จะค่อยๆเบลอออกไปเรื่อยๆ

slide-img104

fuji velvia 50 ef35f2

นักถ่ายภาพหลายๆท่านน่าจะเคยมีความคิดที่จะพกอุปกรณ์เพียงน้อยนิดที่สุดเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวที่คล่องตัว ผมก็เป็นกลุ่มที่อยากจะพกของเบาๆโดยยังคงมีคุณภาพสูงอยู่ เลนส์เ้ดี่ยวสักตัวเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด แต่ว่ามันก็มีเลนส์ให้เราเลือกกันเยอะแยะไปหมด ถ้าให้นึกตอนนี้ก็จะนึกถึงเลนส์ 50 35 28 24 20 มม.

slide-img105

fuji velvia 50 ef35f2

เลนส์ 50 มม. เป็นเลนส์ที่สว่างที่สุดในบรรดาเลนส์ต่างๆ เพราะจะมีรูรับแสงประมาณ 1.8 ไปจนถึง 1.4 สำหรับราคาตลาดที่พอจะให้ชาวบ้านได้ซื้อมาใช้ อย่าไปคุยถึงเลนส์ F1.0 ที่ราคาขายเป็นแสน เพราะมันสูงเกินไป เลนส์ 50 มม. มีคุณภาพดีเกินราคา แต่มันไม่เหมาะกับการท่องเที่ยวแบบพกเลนส์ตัวเดียว เพราะมันค่อนข้างจะใช้งานยากในที่แคบ และไม่สามารถจะถ่ายภาพวิวได้ตามที่ต้องการ แม้ว่ามือโปรหลายๆคนจะบอกว่ามันถ่ายได้ ผมก็ไม่เถียง แต่ผมรู้สึกว่ามันลำบากเกินไป

slide-img229e

kodak extractor 100 + ef35f2

เลนส์ 20 มม. เป็นเลนส์ที่เอามาถ่ายวิวได้ดีมาก เก็บภาพได้เต็มตา เหมาะกับของใหญ่ๆที่เราต้องการเก็บทั้งหมด แต่มันจะไม่สวยเลยเมื่อเอาเลนส์ตัวนี้ไปถ่ายชีวิตผู้คน เพราะมันมุมกว้างเกินไป และมันก็จะเห็นขอบเบี้ยวๆตามธรรมชาติเ้ลนส์อย่างเด่นชัด สั้นๆก็คือถ่ายวิวสวยแต่ถ่ายชีวิตผู้คนไม่ถูกใจ และข้อด้อยอีกอย่างหนึ่งของเลนส์ระยะนี้ก็คือมักจะมีรูรับแส่ง 2.8 ซึ่งไม่ได้สว่างเลยเมื่อเทียบกับเลนส์ช่วงอื่น เพราะเลนส์ซูมเกรดโปรก็มีรูรับแสง 2.8 เหมือนกัน ถ้าให้พก ขอพกเลนส์ซูมจะน่าสนใจกว่า

slide-img227

kodak extractor 100 + ef35f2

เลนส์ 24 มม. น่าจะเป็นเลนส์ที่พกไว้ท่องเที่ยวได้เกือบดี เพราะว่ามันกว้างพอจะเก็บภาพวิวที่เรามองเห็นได้ไม่แพ้เลนส์ 20 มม. และการเอาไปถ่ายสิ่องของเน้นๆหรือชีวิตผู้คนก็เกือบดี มันน่าพกกว่าเลนส์ 20 มม. แต่ก็ยังตะขิดตะขวงใจถ้าต้องถ่ายภาพคน และความสว่างของเลนส์ก็มักจะอยู่ที่ 2.8 เช่นกัน ยังไม่ถือว่าสว่าง เลนส์ 28 มม. เป็นช่วยทางยาวโฟกัสที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม ไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร ขอผ่าน เลนส์ 35 มม. อันนี้เป็นเลนส์ไวด์นิดๆ คือสามารถใช้ถ่ายวิวได้บ้าง ถ่ายชีวิตผู้คนได้บ้าง และรวมไปถึงการถ่ายสิ่งของใกล้ๆก็ทำได้เช่นกัน มันทำได้อย่างละนิดละหน่อย ความเบี้ยวก็ไม่มาก มันเป็นการประณีประนอมกันระหว่างภาพมุมกว้างกับภาพช่วงปกติ มีจุดเด่นอีกอย่างตรคงที่รูรับแสงกว้างระดับ F2.0 ซึ่งถือว่าไวแสงระดับหนึ่ง ทำให้การถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยยังคงทำได้ การพกเลนส์ตัวเดียวผมคิดว่า เลนส 35f2 คือคำตอบที่ดีในหลายๆสถานการณ์

slide-img430

kodak extractor 100 + ef35f2

หากเราอ่านข้อมูลเกี่ยวกับช่างภาพแนวสตรีท แนวข่าว  แนวพกเลนส์ตัวเดียวถ่ายทุกอย่าง เราก็จะเจอกับเลนส์ 35มม บ่อยที่สุด  ซึ่งเลนส์ระยะนี้ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ได้รับความนิยมไปในหลายๆสายอาชีพ  แม้แต่ผมเองก็ปลาบปลื้มกับเลนส์ระยะนี้  กล้องคอมแพ็คตั้งแต่ยุคของฟิล์มที่ทำออกมาเกรดไฮเอนด์ ก็จะใช้เลนส์ 35 กันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น contax t3   fuji klasse  nikon 35ti ซึ่งลามไปถึงกล้องดิจิทัลคอมแพ็คเทพ อย่าง sony rx1  และ leica q  คอมแพ็คเทพระดับรองที่ใช้เซ็นเซอร์เล็กแบบ aps-c ก็ใช้เลนส์ประมาณ 22mm หรือ 23mm เพื่อให้มุมรับภาพใกล้เคียงกับ 35mm บนเซ็นเซอร์ full frame

slide-img671

fuji sensia 100 + ef35f2

เลนส์ ef 35f2 อยู่กับผมมานาน และใช้งานบ่อยมากในยุคของฟิล์มรุ่งเรือง  และใช้งานแบบสมบุกสมบัน ไม่ค่อยดูแลสักเท่าไหร่  ในที่สุดเลนส์ก็หมดสภาพ โทรม และ ใช้งานไม่ได้ ซ่อมไปสองครั้ง ก็ยังคงเสียอีก  เลยต้องยอมปล่อยให้มันกลายเป็นที่ทับกระดาษไป

slide-img673

fuji sensia 100 + ef35f2

IMG_0273dppr
EF35f2 + Eos5d

img_1149r
EF35f2 + Eos5d
IMG_0252
EF35f2 + Eos5d