เปลี่ยนมูเล่ย์คอมแอร์ สวิฟท์2012

วันก่อน คุณภรรยาเล่าให้ฟังว่าได้ยินเสียงแกรกๆๆๆๆๆ ที่หน้ารถตอนที่ลงจากรถแล้วมาเปิดประตูเข้าบ้าน ก็เลยไปยืนฟัง สังเกตว่าได้ยินเสียกแกรกๆที่ว่านั้นเป็นจังหวะ คือมีแล้วหาย ไม่ได้มีตลอด

IMG_3418

รถซูซูกิ สวิฟท์ปี 2012 ใช้มา10ปีนิดๆแล้ว อาการเสื่อมของชิ้นส่วนน่าจะทะยอยมาทีละอย่าง และครั้งนี้ก็มาจากส่วนที่เป็นคอมเพรสเซอร์แอร์ เปิดฝากกระโปรงหาที่มาของเสียงก็พบว่าเป็นเสียงมาจากคอมเพรสเซอร์แอร์ แต่ว่าแอร์ยังเย็นอยู่นั่นก็พอจะเดาได้ว่า คอมเพลสเซอร์ยังไม่เสีย แต่ตัวสั่งการคอมเพรสเซอร์หรือคลัทคอมแอร์คงมีปัญหา

แอร์รถยนต์จะทำงานตามการตั้งค่าอุณหภูมิ หากอากาศในรถร้อน แอร์จะทำงานต่อเนื่องไปเรื่อยๆ และเมื่ออุณหภูมิในห้องโดยสารเย็นลงถึงจุดที่ตั้งค่าไว้ คอมเพรสเซอร์แอร์จะหยุดทำงาน ตัวสั่งการให้หยุดทำงานคือคลัทคอมแอร์ หรือบางคนเรียกหน้าคลัท เมื่ออุณหภูมิในรถสูงขึ้นอีกเล็กน้อย คอมเพรสเซอร์แอร์ก็จะกลับมาทำงานอีกครั้ง และจะทำงานสลับหยุดไปเรื่อยๆตลอดการเดินทาง อาการเสียงที่พบจะได้ยินตอนที่คอมเพรสเซอร์หมุนแล้วเข้าสู่การหยุด เสียงแกรกๆๆๆๆ มาทุกครั้งที่คอมเพรสเซอร์เข้าสู่การหยุดหมุนตามในคลิป

ส่งคลิปให้เพื่อนในกลุ่มเฟสบุ๊คดู เพื่อนช่วยกันวิเคราะห์ว่าคลัทคอมแอร์มีปัญหา บางคนเรียกว่ามูเล่ย์คอมแอร์มีปัญหา ก็เลยมั่นใจแล้วว่าจะต้องเปลี่ยนชิ้นนี้ และสืบราคาในศูนย์และนอกศูนย์ก็พบว่ามีหลายราคามาก คลัทคอมแอร์สวิฟท์ 2012 ราคาใน lazada และ shopee ประมาณ 800-900 บาท ส่วนในศูนย์ไม่แจ้งราคา แต่บอกแค่ว่า คลัทกับคอมแอร์มาพร้อมกันไมไ่ด้แยกขาย ดังนั้นถ้าเปลียนในศูนย์จะโดนเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์ด้วย ก็เลยตัดสินใจไม่เข้าศูนย์ ประกอบกับตามอ่านในเฟสบุ๊คพบว่าเพื่อนที่ใช้สวิฟท์แล้วเข้าศูนย์ซ่อมระบบแอร์ ส่วนมากจะจ่ายประมาณ 10000-17000 บาท ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเปลี่ยนอะไรบ้าง

แวะไปอู่เจ้าประจำแถวบ้าน ขับรถไปให้อู่ดู ทีมช่างในอู่แจ้งว่า หน้าคลัทคงมีปัญหา ต้องเปลี่ยนชิ้นนี้ และการเปลี่ยนจะต้องถอดคอมแอร์ออกมาด้วย ทำให้ต้องถ่ายน้ำยาแอร์เก่าออก และต้องเติมน้ำยาแอร์กลับเข้าไปใหม่รวมถึงต้องเติมน้ำมันคอมแอร์ด้วย จะมีค่าใช้จ่ายส่วนน้ำยาแอร์และน้ำมันเพิ่มเติม รวมทั้งหมดแล้วจะมีค่าใช้จ่าย 3500 บาท สุดท้ายผมตัดสินใจทำที่นี่ และทางอู่ใช้เวลา 3 ชม.

2023-06-25_01-36-56

รับรถกลับมาบ้านแล้วก็ส่องไฟดู ก็พบว่าส่วนที่เปลี่ยนอะไหล่ไปแล้วทำงานได้ปกติ สภาพใหม่เอี่ยม ไม่มีเสียงแกรกๆๆๆอีก ตอนนี้ก็ไม่แน่ใจว่าตกลงที่เปลี่ยน ผมเปลี่ยนคลัทคอมแอร์ หรือ เปลี่ยนมูเล่คอมแอร์ แล้วสองชิ้นนี้มันเหมือนกันไหม เริ่มสับสน

ไฟเบรคซูซูกิสวิฟท์ดับ เปลี่ยนเองไม่ยาก

IMG_3418

บันทึกไว้เผื่อต้องใช้  ไฟเบรคซูซูกิสวิฟท์ดับ เปลี่ยนเองไม่ยาก

เมื่อพบว่าไฟเบรคไม่ทำงานจึงต้องเปลี่ยนหลอดไฟ  โดย ไฟเบรค + ไฟหรี่ในซูซูกิสวิฟท์ 2012  จะใช้หลอดเดียวร่วมกันสองหน้าที่  หลอดไฟชนิด T20 แบบเขี้ยว  1 หลอด จะมี 2 ไส้  โดยจะมี ไส้สว่างมาก กับ สว่างน้อย   ขั้วที่ท้ายหลอดจะมี 2 ตุ่ม เพื่อส่งไฟเลี้ยงเข้าไป2ไส้ 

ไส้ที่สว่างน้อยทำงานเป็นไฟหรี่

ไส้ที่สว่างมากทำงานเป็นไฟเบรค

1682320035796
1682320035756

ถ้าใส่มั่ว ก็มีโอกาส 50% ใส่แล้วได้ไฟหรี่สว่างมาก ไฟเบรคสว่างน้อย  จะทำให้คนขับรถตามหลังเกิดการเข้าใจผิดได้  และอาจจะเกิดอันตราย  จึงควรใส่ให้ถูกขั้ว หากใส่ผิด ก็ต้องถอดแล้วหมุนหลอดครึ่งรอบแล้วใส่ใหม่

เมื่อใส่หลอดแล้วควรจะทดลองเปิดไฟหรี่ และเหยียบเบรคดู  ต้องเช็คให้แน่ใจว่าไฟเบรคจะสว่างกว่าไฟหรี่  

1682320035422

สั่งซื้อไฟเบรค+ไฟถอย หลอด T20 ขั้วเขี้ยว 2ไส้ ได้ที่นี่ https://shope.ee/5KhQnPv8oT

เครื่องมือแกะโคมไฟท้ายรถจะใช้ประแจบล๊อกเบอร์ 10  หรือ 10mm ฝรั่งจะเรียก socket wrench

ซื้อประแจเบอร์10 ได้ที่นี่ https://shope.ee/6fCoPY9mw0

จริงๆแล้วหลอด T20 มีอีก 1 รูปแบบ คือแบบ 1 ไส้ ท้ายหลอดจะมี 1 ตุ่ม ซึ่งหลอดไส้เดี่ยวแบบนี้ก็ถูกใช้งานในรถซูซูกิสวิฟท์เช่นกัน  และรถยี่ห้ออื่นๆก็มีใช้ด้วย  ลองย้อนไปอ่านการเปลี่ยนหลอดไฟในโพสท์เก่านี้ได้

เปลี่ยนหลอดไฟถอย สวิฟท์2012 t20 ไส้เดี่ยว

ScreenClip

รถยนต์ suzuki swift 2012 เป็นรถ eco car ที่ออกมาขายตั้งแต่ปี 2012 ได้รับความนิยมในประเทศไทยเป็นอย่างมาก รถในบ้านเป็นรถของคุณภรรยา และไฟถอยดับไป 1 ข้าง ก็เลยหาข้อมูลแล้วซื้อเปลี่ยน ค้นในเน็ตเจอชื่อรุ่นว่าเป็น T20 ก็เลยไปซื้อจากร้าน diy แห่งหนึ่ง แล้วก็เอากลับมาเปลี่ยน ปรากฏว่า ใช้ไม่ได้

20220409162335_IMG_0238
หลอดซ้ายคือหลอดที่ดับ หลอดขวาคือ T20 ที่ซื้่อมาแต่ขั้วไม่เหมือนกัน

หลอด T20 ที่เป็นหลอดสำหรับใส่ไฟถอยหลัง ไฟเลี้ยว ไฟหรี่ในรถหลายรุ่น T20 จะหลายสเป็ค สเป็คที่เป็นไฟท้ายในรถสวิฟท์จะเป็นขั้วเขี้ยว และจะมีแยกย่อยอีกเป็น สเป็คแรกคือ T20 ไส้เดี่ยว และสเป็คที่สองคือ T20 ไส้คู่ การใช้งานจะแตกต่างกัน ขั้วหลอดไฟก็จะแตกต่างกัน ในเว็บส่วนมากจะบอกแค่ว่า swift 2012 ใช้ไฟถอยชนิด T20 ขั้วเขี้ยว ไม่ได้บอกว่าไส้เดี่ยวหรือไส้คู่ ก็เลยได้ซื้อผิดกันเป็นประสบการณ์ เพราะไม่ได้ถอดหลอดเก่าไปเทียบ คิดว่าแค่ซื้อให้ตรงชื่อก็น่าจะได้แล้ว

20220414120746_IMG_0412
หลอดซ้ายคือหลอดที่ดับ หลอดขวาคือ T20 ไส้เดี่ยว ขั้วเดี่ยว ซื้อรอบสองให้ตรงรุ่น

รอบแรกได้มาเป็นไส้คู่ ก็ใช้ไม่ได้ เลยต้องไปซื้อใหม่ คราวนี้ร้าน DIY ร้านเดิม หรือร้านตลาดนัดทั่วไป ร้านอะไหล่อิเล็คทรอนิกส์ก็ไม่มีหลอดรุ่นไส้เดี่ยว สุดท้ายต้องไปร้านอะไหล่รถยนต์ ถอดหลอดเก่าที่ดับไปให้ดูแล้วก็ซื้อกลับมา แต่การถอดหลอดเดิมก็ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะเหมือนกัน เพราะโคมไฟท้ายรถจะต้องถอดด้วยประแจบล๊อค เบอร์ 10 หรือ 10mm ซึ่งปกติบ้านคนทั่วไปไม่มี เลยต้องซื้อเครื่องมือเพิ่มอีก 1 ชิ้นเอาไว้ถอดน็อตที่ล๊อคโคมออก

IMG_20180813_174713

ถ้ารู้ว่าหลอดไฟมีสองสเป็ค ก็จะหาข้อมูลให้นานขึ้น ก็เลยมาพิมพ์โน้ตไว้ให้อ่านสำหรับคนที่อยากจะเปลี่ยนไฟท้ายรถซูซูกิสวิฟท์ด้วยตัวเอง แม้ว่าเอาเข้าศูนย์จะแก้ปัญหาได้ แต่บางทีเราก็ไม่สะดวกจะแวะ และไม่ได้อยู่ใกล้ศูนย์

ซื้อหลอดไฟถอยสวิฟท์2012 ชนิด T20 ขั้วเดี่ยวได้ที่นี่ https://shope.ee/3AcwDccXlA

ซูซูกิสวิฟท์ 2012 ซ่อมพัดลมแอร์

ซูซูกิสวิฟท์คือรถของคุณภรรยา เป็นรถที่ใช้งานมาประมาณเกือบสิบปีแล้ว นับว่าเป็นรถที่มีคุณภาพที่ดีและน่าใช้งาน เป็นรถที่สมรรถนะดีและประหยัดน้ำมันมาก ตอนนี้อายุรถเยอะเริ่มมีชิ้นส่วนเสียหายต้องเปลี่ยนแล้ว อยู่ๆก็เปิดแอร์ไม่ติด ตอนเช้าเปิดติด ตอนบ่ายบางทีก็ไม่ติด อาการติดบ้างไม่ติดบ้างเกิดขึ้นแบบนี้มาหลายวัน จนกระทั่งระยะหลังๆมักจะเปิดไม่ติดแล้ว

ตรวจสอบเบื้องต้น ลองสตาร์ทรถ แล้วเปิดแอร์ดู พัดลมหม้อน้ำทำงาน คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงาน เพราะว่าตอนเปิดแอร์ก็รู้สึกได้ว่าเครื่องยนต์หน่วงลงตามปกติของการเปิดแอร์ รอบเครื่องตกลงเล็กน้อยซึ่งเป็นสัญญาณปกติของการเปิดแอร์ แต่ที่ผิดปกติคือไม่มีลมออกมา ก็เลยสันนิษฐานว่าพัดลมแอร์ภายในรถน่าจะมีปัญหา

เข้าไปหาข้อมูลต่อใน youtube ก็ได้ความรู้มาว่า ตัวควบคุมการหมุนของแอร์ในรถจะถูกสั่งการผ่านวงจรไฟฟ้าในแอร์ และสัญญาณไฟฟ้าจะวิ่งมาผ่านตัวรีซีสแตนท์ก่อนแล้วค่อยต่อไปยังพัดลม ไฟควบคุมพัดลมจะถูกสั่งให้หมุนแรงหรือหมุนเบา ไฟจะวิ่งผ่านตัวต้านทานรีซีสแตนท์ตัวนี้ก่อน ดังนั้น ถ้าพัดลมไม่หมุน ก็เป็นไปได้ว่า พัดลมพัง หรือ รีซีสแตนท์พัง ถ้าจะเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยนทั้งสองตัวเลยเพราะมันก็เก่าไปตามอายุรถ ราคาพัดลมแอร์ในศูนย์ 1388 บาท ราคารีซีสแตนท์ในศูนย์ก็ 1220 บาท ราคานี้ได้มาจากการเอารถเข้าศูนย์ให้ช่วยตรวจเช็คว่าแอร์ไม่ติดเพราะอะไร ซึ่งศูนย์ก็ทำงานได้ดี ตรวจเช็คระบบแอร์ และแจ้งอาการ ทำใบเสนอราคามาให้ด้วย เลยได้รู้ราคาของแต่ละชิ้น

IMG_20220301_180747

เพียงแต่ศูนย์สั่งเปลี่ยนหลายชิ้นเหลือเกิน รวมอะไหล่ รวมค่าแรง จะจบที่ราคาประมาณ 9พันกว่าบาท ซึ่งผมรู้สึกว่าราคาแรงเกินไป แต่ก็เข้าใจว่าศูนย์ต้องเปลี่ยนตัวที่เกี่ยวข้องกับอาการแอร์ไม่เย็นหลายตัว และค่าแรงการทำงานก็เป็นหลักสองพันบาท ดังนั้น ผมก็เลยไม่ทำในศูนย์ จ่ายค่าแรงตรวจเช็ค 250 บาทเอารถออกแล้วหาอะไหล่เปลี่ยนเองดีกว่า เพราะว่า ระหว่างที่ช่างเช็ค ผมก็อ่านในเว็บ ดู youtube ไปหลายคลิปเลย เลยพอจะรู้คร่าวๆแล้วว่าพอเปลี่ยนเองได้ ต้องขอบคุณศูนย์และขอโทษที่ไม่ได้อุดหนุนศูนย์ด้วย

อาการหนึ่งที่ทำให้แน่ใจว่าพัดลมมีปัญหาแค่อย่างเดียวโดยที่ตัวควบคุมความเร็วอย่างรีซีสแตนท์ไม่น่าจะเสียเพราะว่า พัดลมติดบ้าง ไม่ติดบ้าง ถ้าติดก็จะทำงานได้ปกติและสามารถปรับแรงลมได้ด้วย ดังนั้น พัดลมน่าจะเสียแค่ตัวเดียว และรวมกับในคลิป youtube ก็มีแนะนำว่า ถ้าพัดลมมีฝุ่นจับทำให้มอเตอร์หมุนไม่สะดวก ถ้าเจออาการไม่หมุนให้ลองเอามือตบไปใกล้ๆพัดลมดู ซึ่งพัดลมจะอยู่ตรงกับช่องใส่ของหน้ารถด้านข้างคนขับ ให้ลองเคาะหรือตบที่ช่องใส่ของแรงๆดู แรงสั่นสะเทือนจะไปช่วยให้ใบพัดหมุนได้ ซึ่งลองทำแล้วก็เป็นจริงตามนั้น เลยมั่นใจว่าพัดลมหมุนไม่คล่องจริงๆ และน่าจะเสียแค่ตัวนี้ตัวเดียว

IMG_20220301_183218

เริ่มหาอะไหล่ พัดลมแอร์ หรือ โบรเวอร์ หน้าตาเป็นพัดลมทรงกระบอก ดูในเว็บช็อปปิ้ง ราคาอยู่ที่ประมาณ 750-1200 บาท แน่นอนว่าผมก็เลือก 750 แล้วเลือกร้านที่ได้คะแนนรีวิวสูงๆ ส่วนรีซีสแตนท์ผมไม่ได้สั่งซื้อ เพราะว่าคาดว่ายังไม่พัง จะเปลี่ยนพัดลมก่อน ซึ่งจริงๆแล้วพัดลมก็ยังไม่พังจริงๆ แค่หมุนไม่สะดวกเพราะมีฝุ่นไปจับทำให้แกนหมุนมีความฝืด ถ้าอยากประหยัดจริงๆก็สามารถถอดพัดลมออกมาทำความสะอาดได้ แต่ผมเลือกจะถอดเปลี่ยนเลย เพราะไหนๆก็รื้อออกมาแล้ว และราคาพัดลมก็ไม่ได้แพงมาก แล้วยังทำเองไม่เสียค่าแรงอีก ก็เปลี่ยนเลยดีกว่า

GX012078_1646134031628

พัดลมแอร์อยู่ด้านในใกล้ๆกับที่ใส่กรองแอร์ พัดลมจะติดกับช่องลมด้วยน็อต 3 ตัว ต้องใช้ไขควง 4 แฉกในการไข และควรเป็นไขควงที่สั้นที่สุดเท่าที่หาได้ เพราะตำแหน่งการหมุนน็อตออกนั้น อยู่ในส่วนที่แคบ อยู่ใกล้กับพื้นรถ ดังนั้นไขควงยาวๆจะแหย่เข้าไปไม่ได้ ซึ่งในที่สุดผมก็ไปหาซื้อไขควงก้านสั้นมาใช้จนได้ เลยถอดออกมาได้อย่างง่ายดาย หลายคันใน youtube ที่ถอดพัดลมออกมาแล้วจะพบกับเศษฝุ่น เศษกระดาษ เศษใบไม้อยู่ด้วย ซึ่งก็ไม่แปลกใจที่จะทำให้หมุนลำบาก

พัดลมตัวใหม่ถูกแทนที่เข้าไป แล้วทดลองเปิดแอร์ดู แอร์ทำงานได้ปกติตั้งแต่การสั่งเปิดครั้งแรก นั่นแสดงว่าพัดลมตัวเก่ามีปัญหาจริงๆที่อยู่ดีๆก็ไม่หมุน ผลการเปลี่ยนพัดลมแอร์ด้วยตัวเองประสบความสำเร็จ ประหยัดเงินไปได้เกือบหมื่นบาท

IMG_20220305_124142

ภาพนี้คือพัดลมตัวเก่าที่เรื้อใบพัดออกมาดู ภายในมีแต่ฝุ่นจับ ซึ่งจริงๆแล้วใบพัดควรจะเป็นสีขาว ฝุ่นดำพวกนี้คือผงถ่านที่หลุดออกมาจากมอเตอร์ แสดงให้เห็นถึงการใช้งานที่ยาวนาน นานๆไปชิ้นส่วนแปรงถ่านในมอเตอร์ก็จะสึกและหลุดกระจายออกมาจนในที่สุดมอเตอร์ก็จะไม่หมุน ดังนั้น รถอายุเยอะระดับเกือบสิบปี ถ้าเปลี่ยนได้ก็เปลี่ยนเลย ไม่ต้องรอให้เสียกระทันหัน

ผมหาลิงค์เดิมที่สั่งซื้อไม่เจอแล้ว
หาให้ใหม่ที่นี่ https://shope.ee/504aQ4mdOL