เรื่องน่าคิดของการซื้อไฟล์เพลง

เรื่องน่าคิดของการซื้อไฟล์เพลง

Tape


โลกเรามีแผ่นเสียงมานานเกือบร้อยปี มีเทปคลาสเซ็ท มีแผ่นซีดี ตามมาด้วย แผ่นดีวีดี แผ่นบลูเรย์ แผ่น SACD และเมมโมรี่การ์ด จนมาถึงหน่วยความจำแบบโซลิทสเตทในเครื่องเล่นที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลเพลงเอาไว้ฟัง เราเปลี่ยนรูปแบบของสื่อบันทึกจากสื่ออนาลอกมาเป็นรูปแบบของสื่อดิจิทัล ต่อมาไฟล์ดิจิทัลไม่อยู่บนสื่อแต่อยู่บนอินเทอเน็ตรอให้ดาวโหลด และล่าสุดเราไม่โหลดเป็นไฟล์เก็บไว้ในเครื่องอีกต่อไป แต่จ่ายเป็นค่าฟังแบบสตรีม หรือส่งสัญญาณมาตามอินเทอเน็ต ไฟล์เพลงอยู่บนระบบ cloud มีเป็นล้านเพลงให้ฟัง

IMG_20170131_145346


เมื่อก่อนเราซื้อแผ่นซีดีราคาประมาณ 300-500 บาท สำหรับอัลบั้มเพลงป๊อปและเพลงสากลทั่วไป  ส่วนแผ่นออดิโอไฟล์ที่ผลิตน้อยหรือทำแบบปราณีตกว่าก็จะมีราคาสูงขึ้น พอเครื่องคอมพิวเตอร์เริ่มมีราคาถูก พร้อมกับเทคโนโลยีการบันทึกแผ่นซีดีหรือ cd-recorder มีราคาเหลือแค่หลักพันบาท เราก็พบกับการขายแผ่นเพลง mp3 ที่มีทั้งปั๊มจากโรงงานแผ่นซีดี และ เกิดจากการเขียนแผ่น cd-r การละเมิดลิขสิทธิ์ด้วยการขายและแจกไฟล์ mp3 บุกวงการหนังและเพลงจนทำให้การขายแผ่นซีดีเพลงแท้ๆแทบจะหายไปจากตลาด พอแผ่นขายไม่ได้ค่ายเพลงก็หันไปขายไฟล์แทน มีทั้งไฟล์ mp3 wav และไฟล์ความละเอียดสูง หรือ hi-res ซึ่งก็ได้รับความนิยมกับนักเล่นบางกลุ่ม และดูเหมือนจะเป็นทางออกที่นักเล่นระดับจริงจังเรื่องคุณภาพเสียงจะเลือกใช้วิธีซื้อไฟล์ hi-res ก็เท่ากับว่าเรายังคงก็จ่ายค่าฟังเพลงเท่าเดิม แต่ไม่ได้แผ่นเก็บไว้ ได้เป็นไฟล์ดิจิทัลเลย

ระบบสตรีมก็กำลังคลืบคลานเข้ามา ทั้งหนังและเพลงก็ใช้ระบบสตรีม ให้จ่ายค่าสมาชิกรายเดือนแล้วฟังเท่าไหร่ก็ได้ ดูเท่าไหร่ก็ได้ ซึ่งหลายคนก็พอใจที่จะจ่ายเพียงไม่กี่ร้อยบาทต่อเดือน หากเทียบกับเมื่อยุคซีดีรุ่งเรือง นักฟังก็จ่ายเทียบเท่ากับการซื้อแผ่นเพียง 1 แผ่นเท่านั้น แต่ได้ฟังทั้งค่ายเลย มันก็ดูดีมากๆ แต่เราเคยคิดถึงอีกแง่มุมหนึ่งไหมว่าเรายังคงจ่ายเงินอยู่ แต่สิ่งที่หายไปก็คือ….. สิทธิ์การขายต่อ


เมื่อก่อนเราซื้อแผ่นซีดี แผ่นหนังดีวีดี หรือบลูเรย์ เราใช้เบื่อแล้ว เราก็เอาไปขายมือสองได้ ซื้อมา 100 บาท ขายต่ออาจจะได้เงินคืนสัก 50 บาท ก็คือเรามีโอกาสขายออกไปได้ เงินเราไม่ได้หายไปทั้งก้อน แต่มันจะเปลี่ยนกลับเป็นเงินได้บางส่วนตามกลไกตลาด ตามความนิยม บางแผ่นเคยซื้อ 150 บาท แล้วมือสองกลายเป็น 500 ก็มี นี่คือจุดดีของการซื้อแผ่นเก็บไว้ ในขณะเดียวกัน หากเราเปลี่ยนวิธีฟังเพลงมาเป็นการฟังแบบออนไลน์ เราจ่ายค่าสมาชิกไปหลายร้อยบาทต่อเดือน แล้วเราได้ฟังก็จริง แต่เราจะเอาไปขายได้ไหม คำตอบคือ ไม่ได้


ไฟล์เพลงที่เราสั่งซื้อมาในราคา 1 เหรียญ ทั้งอัลบั้มราคารวมกัน 10-20 เหรียญ เมื่อฟังจนเบื่อแล้ว เราเอาไปประกาศขายต่อก็คงจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ต่อให้ยังไม่มีใครมาจับ แต่ใครจะมาจ่ายเงินให้เราเป็นค่าไฟล์เพลง  นักเล่นคนอื่นจะจ่ายเงินให้เรา 50% ไหมถ้าเราแบ่งให้เขาโหลดต่อจากเรา มันคงไม่มีใครมาจ่ายเงินให้เราแน่นอน แต่ถ้าเรามีแผ่นแท้ นอกจากการสัมผัส การอ่านปก การดูข้อมูลที่ละเอียดแล้ว มูลค่าตอนขายต่อก็ยังมีราคาอยู่ ไม่ได้เป็นศูนย์ในแบบไฟล์ดิจิทัล แถมคนซื้อต่อก็มั่นใจว่าได้ของคุณภาพเต็มร้อย เพราะตอนเป็นไฟล์ เราก็ไม่แน่ใจว่าไฟล์เพลงที่นักเล่นคนอื่นเอามาขายต่อให้เราจะเป็นไฟล์ที่ละเอียดจริงๆหรือเปล่า


หลายครั้งที่เราเล่นระบบ bit-torrent เราก็มักจะหาโหลดของฟรีมาฟัง แต่ตอนที่ได้มาเราก็ไม่เคยแน่ใจเลยว่ามันเป็นไฟล์ความละเอียดสูงจริงๆ เพราะมันอาจจะเป็นเพียงไฟล์ความละเอียดต่ำ บิทเรทต่ำ แต่มีการอัพแซมปลิ้งให้บิทเรทสูง ซึ่งในความเป็นจริงก็คือ เราไม่สามารถมั่นใจเลยว่าไฟล์ที่โหลดจากใครก็ไม่รู้จะเป็นไฟล์คุณภาพสูง  นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้การขายไฟล์เพลงโดยนักฟังขายให้นักฟังไม่มีวันเกิดขึ้น


การฟังจากระบบสตรีมเป็นทางออกสำหรับนักฟังที่อยากประหยัดเงินระยะยาวและไม่คิดจะสะสม เพราะค่าใช้จ่ายมันถูกกว่าการซื้อแผ่นทุกๆเดือนอยู่แล้ว แต่สำหรับนักเล่นที่ฟังแผ่นฟังเพลงระดับออดิโอไฟล์ นักเล่นที่มักจะเล่นเพลงซ้ำๆ หรือฟังเพลงจากศิลปินที่เราโปรดปราน อัลบั้มคลาสิคขึ้นหิ้งต่างๆ เราสามารถซื้อแผ่นเก็บไว้ได้เลย เพราะมูลค่าไม่หาย ราคาขายต่อก็มีค่าตัว ยิ่งหากเราพอใจกับมาตรฐานของแผ่นซีดี 16bit 44.1kHz อยุ่แล้ว เราก็สามารถซื้อแผ่นเหล่านี้ได้เลย ไม่ต้องไปซื้อเป็นไฟล์  แม้ว่าเราจะไม่มีเครื่องเล่นแผ่นซีดีคุณภาพสูงให้ซื้อใช้อีกแล้ว  เราก็สามารถ rip แผ่นเหล่านี้ด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งการทำเองจะทำให้เราได้ไฟล์คุณภาพสูงที่แท้จริง  สามารถก็อปปี้ไฟล์ไปฟังในระบบเครื่องเสียงยุคใหม่ได้เหมือนเราไปซื้อไฟล์จากอินเทอเน็ตโดยเรามีแผ่นแท้อยู่กับตัวด้วย  วันที่เราอยากขายต่อ  เราขายแผ่นแท้ออกไป ราคาค่าตัวก็มีอยู่  มันขายต่อได้นั่นเอง

สำหรับงานเพลงที่ทำขึ้นในยุคปัจจุบัน มาสเตอร์ของศิลปินเป็นไฟล์ความละเอียดสูงแต่กำเนิด  การฟังไฟล์หรือการซื้อไฟล์ก็เป็นทางเลือกที่ง่าย  แต่ราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ  ค่ายและศิลปินน่าจะยังคงทำแผ่นซีดีหรือแผ่นเสียงออกมาอยู่  หากเราเพิ่มเงินอีกนิดแล้วไปซื้อแผ่นเสียงของศิลปิน  เราก็จะได้แผ่นแท้มาเก็บไว้  ได้แผ่นมาเปิด  และได้แผ่นมา rip ด้วย  แม้ว่าการ rip แผ่นเสียงจะเป็นเรื่องยาก  ต้องใช้ความรู้และงบประมาณกับเครื่องมือเยอะมาก  แต่ถ้าเราเป็นนักเล่นเครื่องเสียง ระดับทุ่มเท ระดับบ้าเข้าเส้น ระดับที่จ่ายเงินค่าอุปกรณ์ทั้งชุดหลักแสนหรือหลักล้านได้  เราก็ลงทุนกับระบบแผ่นเสียงคุณภาพดีได้  เพราะในปัจจุบันระบบของแผ่นเสียงเป็นเพียงระบบเดียวที่ทำสำเนาเพลงระดับ hi-res ได้ โดยไม่ต้อง down sampling   ข้อมูลเสียงบนแผ่นเสียงจะคงคุณภาพของต้นฉบับระดับ hi-res เอาไว้ได้มากกว่าแผ่นที่ต้อง down sampling อย่าง CD และ SACD   แถมแผ่นเสียงยังใช้ฟังกับเครื่องเสียงยุคโบราณได้อีกด้วย  ไม่ต้องคิดเรื่องสเป็คเครื่องคอมพิวเตอร์และการปรับแต่งคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องคิดเรื่องการเลือกใช้ Dac ให้ปวดหัว ซึ่งว่าไปแล้วการเลือกเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อฟังเพลง Hi-res สามารถเขียนเป็นบทความตอนยาวๆได้อีกหลายตอนเสียด้วย

pic01-kind of blue hires 17.99us
pic02-kind of blue LP 14us


ลองดูตัวอย่าง อัลบั้ม Kind of Blue ของ Miles David ผู้ซึ่งเป็นตำนานเพลง Jazz ระดับหัวแถว  ไฟล์ที่มีขายในเว็บระบบ Hires ขายอยู่ที่ 17.99 ดอลล่าร์  ส่วนแผ่นเสียงของอัลบั้มเดียวกัน ขายอยู่ที่ 14ดอลล่าร์   แบบนี้คิดว่าถ้าผมจะซื้อ  ผมก็คงซื้อแผ่นเสียงครับ  

pic03-susanwong-woman in love hires 17.98us
pic04-susanwong-woman in love LP CD 16 35


อีกตัวอย่างหนึ่ง Suasan Wong นักร้องเสียงหวาน ทำเพลง cover เอาไว้เยอะมาก  อัลบั้ม wonman in love ที่ทำในปี คศ 2014 มาสเตอร์เป็น 24/96 ไฟล์นี้วางขายในเว็บขายไฟล์ 17.98 ดอลล่าร์ ส่วนแผ่นซีดีและแผ่นเสียงก็มีวางขายเช่นกัน  ราคาแผ่นเสียง 39.99 ดอลล่าร์  ส่วนราคาแผ่นซีดีเท่าที่หาเร็วๆ ก็เจอเป็นราคาไทย  580.13 บาท  

sale2013-IMG_0023


ผมไม่ได้แนะนำให้คุณเลิกซื้อไฟล์ หรือ เลิกฟังสตรีม  แต่เสนอให้ลองพิจารณาซื้อแผ่นที่เป็นอัลบั้มที่ชอบ  ทั้งอัลบั้มที่มีแผ่น CD หรือมีเป็นแผ่นเสียง   มีแผ่นจำนวนมากที่ราคามือสองแพงกว่าราคามือหนึ่ง และทุกแผ่นมีราคาขายต่อที่เปลี่ยนเป็นทุนไปซื้อแผ่นใหม่ได้  อย่ากลัวที่จะซื้อแผ่นมาฟังกับเครื่องของเรา  ยิ่งใครเล่นแผ่นเสียง  มีเครื่องเล่นแผ่นเสียงอยู่แล้ว  ยิ่งมีโอกาสได้ฟังเพลงความละเอียดสูงยุคใหม่ได้ง่ายกว่านักเล่นกลุ่มไฮเทคที่ฟังไฟล์เสียด้วยซ้ำ

แผ่นเสียง P O P และ Boyd

อัลบั้มที่อยู่คู่กับวงการเพลงไทยในรสนิยมของผมเองก็คือ 2 แผ่นนี้  ปกสีขาวคืออัลบั้มของบอยด์ โกสิยพงศ์ ชุด rhythm & Boyd  ส่วนปกสีฟ้าคือ  อัลบั้ม era  ของวง  P.O.P

อัลบั้ม Rhythm & Boyd เป็นอัลบั้มที่ออกในปี 2537 ของค่ายเพลง bekery music ที่เป็นค่ายเพลงน้องใหม่ในเวลานั้นและเป็นตำนานมาตั้งแต่วันนั้นเช่นกัน  คุณบอยด์ได้รับการยกย่องให้เป็นนักแต่งเพลงสุดยอดฝีมือ  เป็นเจ้าพ่อเพลงรัก เพลงโรแมนติก และเป็นแนวเพลงที่มองโลกในแง่ดี  ทุกเพลงในชุดนี้เพราะทั้งหมด  และเพลงเด่นมากๆในอัลบั้มนี้คือ ฤดูที่แตกต่าง  ที่ได้เสียงร้องจากนักร้องหน้าใหม่เสียงหล่อขั้นเทพในแบบที่เมืองไทยไม่เคยมีมาก่อน  ส่งผลให้นักร้องโด่งดังขึ้นมาเช่นกัน  นภ พรชำนิ คือนักร้องที่เห็นหน้าเบลอๆในปกเทป ในปกซีดีของบอยด์ และได้รับการรับเชิญให้ร้องเพลงในค่ายเบเกอรี่อีกหลายเพลง  คอนเสริตท์ต่างๆของค่ายนี้จะมีคนไปรอดู นภร้องเพลง  และหลังจากนั้นอีกไม่นาน นภ ก็มีอัลบั้มเต็มของตัวเอง  ชื่อ era

ในช่วงเวลาของค่ายเบเกอรี่มิวสิคโด่งดัง ผมก็ซื้อแผ่นซีดีของหลายๆวงในค่ายนี้  และยังมี mp3 ให้โหลดอีกมากมาย  แต่ในปี 2014 ซึ่งเป็นยุคที่ซีดีขายไม่ได้ อินเทอเน็ตความเร็วสูง หนังและเพลงถูกโหลดกันเต็มที่ การฟังเพลงผ่านแผ่นซีดีก็เป็นเรื่องที่ทำไม่บ่อย โทรศัพท์กลายเป็นกล้องถ่ายรูปและเครื่องเล่นเพลง  ก็มีนายทุนนำอัลบั้มที่น่าสะสมออกมาทำขายเป็นแผ่นเสียง ผมก็เลยโดนเข้าให้  สองแผ่นนี้รวมเป็นเงินห้าพัน  จะเป็นลม

 

 

 

 

รีวิวเครื่องเล่นแผ่นเสียงแบบพกพา Crosley Revolution CR6002A-BK

sale2013-IMG_0026

เครื่องเล่นแผ่นเสียงเป็นสิ่งที่อยู่กับวงการเครื่องเสียงมายาวนานที่สุดในบรรดาอุปกรณ์ต่างๆในแวดวงของนักเล่นเครื่องเสียง รูปทรงก็จะเป็นลักษณะของแป้นหมุนที่มีแขนประหลาดหรือโทนอาร์มติดหัวเข็มที่จิกลงไปบนแผ่นเสียงที่กำลังหมุนอยู่ เครื่องเล่นแผ่นเสียงได้รับความนิยมก่อนสื่ออื่นใดในโลกเพราะมันเกิดก่อน และเมื่อเวลาผ่านไป สื่อที่เกิดใหม่อย่างเทป ซีดี ดีวีดี เอสเอซีดี และไฟล์ mp3 ก็ได้ทำให้โลกของการเล่นแผ่นเสียงซบเซาลง แต่ว่า ยังคงมีกลุ่มนักเล่นกลุ่มเล็กๆที่ยังหลงไหลและใช้งานแผ่นเสียงอยู่

sale2013-IMG_0010

เครื่องเล่นแผ่นเสียงที่หลงเหลืออยู่ในยุคดิจิทัลอย่างปัจจุบันนี้จะมีไม่มาก ไม่แพงไปเลยก็ถูกไปเลย ของแพงก็คือของที่ตั้งใจทำมาให้มีคุณภาพสูง มีหน้าตาดี สามารถเล่นเพลงจากแผ่นเสียงได้คุณภาพสูงมาก คนที่เล่นในกลุ่มนี้จะมีฐานะทางการเงินที่ดี เพราะของมันแพงมาก กับแบบที่ถูกไปเลยก็คือออกแแบบมาเหมือนเป็นของเล่น เป็นของใช้งานแบบแฟชั่นบ้าง แบบใช้งานจริงในชุดเครื่องเสียงราคาถูกบ้าง ซึ่งกลุ่มหลังนี้จะเป็นกลุ่มนักเล่นเครื่องเสียงระดับกลางๆเป็นส่วนใหญ่ รวมไปถึงนักเล่นมือใหม่ที่อยากลองของโบราณอยู่บ้างให้พอรู้รส แต่ไม่อยากจะจ่ายเงินหนักๆ

sale2013-IMG_0019

เครื่องเล่นแผ่นเสียงในภาพนี้เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ออกแบบมาให้เป็นของราคาประหยัด ชื่อรุ่น Crosley Revolution CR6002A-BK ราคาขายค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับอุปกรณ์เครื่องเสียงต่างๆ มันมีค่าตัวแค่ 99ดอลล่าร์ในตลาดต่างประเทศซึ่งราคาระดับนี้เป็นราคาต่ำสุดของเครื่องเล่นที่มีคุณภาพดีและมียี่ห้อที่น่าเชื่อถือ

sale2013-IMG_0002

crosley เป็นยี่ห้อที่เน้นผลิตแต่เครื่องเล่นแผ่นเสียงหน้าตาโบราณเป็นหลัก หากไปดูในเว็บไซต์ของเขาเองจะเห็นว่ามีแต่เครื่องหน้าตาแนววินเทจ เหมาะกับการใช้เป็นของแต่งบ้านเสียงจริงๆ แต่ก็จะมีเครื่องเล่นตัวนี้ที่นำมาทดสอบที่จะอยู่ในข่ายเครื่องเล่นหน้าตาทันสมัยดูโมเดิร์น แต่ก็ดูเป็นของราคาถูกไปพร้อมกัน

sale2013-IMG_0006

เครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่นนี้เป็นเครื่องที่ออกแบบมาให้ใช้พกพา เคลื่อนย้ายได้สะดวก ขนาดเล็กอย่างน่าประหลาดใจ คงเหลือแต่ชิ้นส่วนที่จำเป็นในการเล่นเท่านั้นที่เหลือตัดออกหมดเลย แม้แต่ขนาดก็ยังเล็กกว่าแผ่นเสียงเสียด้วย

sale2013-IMG_0013

ฟังค์ชั่นทั่วไปที่ควรจะมีในเครื่องเล่นแผ่นเสียงก็มีครบครัน ทั้งการเปิดปิด การเล่นด้วยความเร็วระดับ 33 และ 45 รอบต่อนาทีซึ่งเราสามารถเลือกได้ มีช่องต่อขาออกให้สองชนิด อย่างแรกคือช่อง lineout ที่ให้สัญญาณระดับไลน์ ซึ่งเหมาะสำหรับการเชื่อมต่อกับเครื่องขยายเสียงหรือลำโพงที่มีวงจรขยายในตัวอย่างลำโพงคอมพิวเตอร์ กับอีกช่องหนึ่งคือช่อง headphone ที่เอาไว้เสียบด้วยหูฟังเพื่อฟังส่วนตัวเลย

sale2013-IMG_0008

ฟังค์ชั่นที่เด็ดและมีมากกว่าเครื่องเล่นแผ่นเสียงไฮเอนด์ตัวอื่นมีหลายฟังค์ชั่นมาก ไล่ไปทีละตัว เริ่มจากการมีลำโพงในตัว เครื่องเล่นแผ่นเสียงตัวนี้มีลำโพงในตัวสามารถเปิดแผ่นแล้วฟังเสียงได้เลยทันที หากต้องการคุณภาพเสียงแค่ฟังรู้เรื่อง ฟังได้ยิน มันให้ได้เลย คุณภาพเสียงลำโพงในตัวจะคล้ายๆกับวิทยุราคาถูกที่มีลำโพงเล็กๆบางๆติดตัวมาด้วย เสียงกลางเสียงสูงจะได้ยินครบ แต่เบสไม่ค่อยมี เอาไว้ฟังข่าวฟังก็พอไหว

sale2013-IMG_0011

อีกฟังค์ชั่นหนึ่งที่น่าสนใจและเป็นพระเอกที่หาไม่ได้จากเครื่องเล่นแผ่นเสียงเครื่องอื่นๆอีกแล้วนั่นก็คือฟังค์ชั่นการส่งสัญญาณเสียงผ่านคลื่นวิทยุ fm ได้ในตัว เครื่องเล่นแผ่นเสียงเครื่องนี้มี fm transmitter ในตัว สามารถเลือกความถี่ที่จะส่งคลื่นได้สองความถี่ เราสามารถเปิดแผ่นเสียงแล้วปล่อยสัญญาณ fm ออกไป แล้วใช้เครื่องรับวิทยุในบ้านมาจูนคลื่นให้ตรงกันเพื่อรับสัญญาณเสียงได้ทันที นอกจากวิทยุตั้งโต๊ะแล้ว พวกเครื่องเล่นเพลงพกพาที่รับวิทยุได้ มือถือที่รับวิทยุได้ก็จะสามารถรับคลื่นจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงเครื่องนี้ได้อย่างง่ายดาย ระยะการส่งคลื่นที่หวังผลได้ว่าคุณภาพดีอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 2 เมตร ถ้าระะทางมากขึ้นคลื่นจะเริ่มไม่ชัด เท่าที่ลองฟัง คลื่นวิทยุจะค่อนข้างแรง มันสามารถเบียดคลื่นวิทยุชุมชนที่อยู่ติดกันได้เป็นอย่างดี

อีกฟังค์ชั่นหนึ่งที่เด็ดไม่แพ้นกันและไม่มีในเครื่องเล่นแผ่นเสียงไฮเอนด์อื่นๆนั่นก็คือการเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ด้วยพอร์ต usb ซึ่งฟังค์ชั่นนี้จะเอาไว้ใช้บันทึกแผ่นเสียงลงเป็นไฟล์นั่นเอง นัั่นหมายความว่าเครื่องเล่นแผ่นเสียงตัวนี้สามารถต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ และมันก็มีซอ์ฟแวร์แถมมากับเครื่องเป็นโปรแกรม Audacity ที่เอาไว้บันทึกเสียง ความละเอียดในการบันทึกเป็นไฟล์จะอยู่ที่ระดับ 16bit 44.1k

sale2013-IMG_0023

คุณภาพเสียงของเครื่องเล่นแผ่นเสียงจะขึ้นอยู่กับคุณภาพแผ่นเป็นหลัก ถ้าได้แผ่นสภาพดี ฝุ่นน้อยมาฟังก็จะได้คุณภาพที่สูงพอสมควร บางแผ่นที่ทดสอบฟัง ผมใช้แผ่นซื้อใหม่ ก็ให้คุณภาพเสียงที่ดี บางแผ่นเป็นแผ่นมือสองที่เคยซื้อสะสมไว้เกือบสิบปี ก็มีเสียงฝุ่นปนๆออกมา มีครอกแครกให้รำคาญใจอยู่ แล้วน้ำเสียงจริงๆของมันถ้าแผ่นสภาพดีมันจะดีกว่า mp3 ไหม ข้อนี้ผมยังตอบไม่ได้ เพราะว่าระบบการเล่นแผ่นเสียงแบบสำเร็จรูปแบบที่ผมลองนี้ยังไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นมารตรฐานการเล่น เราเล่นเพื่อจะรับรู้ว่าอรรถรสการเล่นแผ่นเสียงนั้นเป็นอย่างไรมากกว่า ไฟล์เพลง mp3 และไฟล์ระดับไฮเรสต่างๆในระบบที่ผมมีอยู่ให้คุณภาพที่ดีกว่าเครื่องเล่นแผ่นเสียงเครื่องนี้ทั้งสิ้น สิ่งที่แผ่นเสียงให้ได้มากกว่าระบบไฟล์ดิจิทัลในบางมุมก็คือ บางแผ่นที่เป็นแผ่นเก่า ยุคเก่า เป็นยุคที่ยังไม่มีระบบซีดี ระบบการบันทึกเสียงยังเป็นอนาลอกอยู่ เมื่อเราฟังเพลงเหล่านั้นผ่านแผ่นเสียง มันคือรสชาดแท้ๆของอัลบั้มนั้นๆ และบางครั้ง บางอัลบั้มก็ไม่มีผลิตออกมาในรูปแบบของแผ่นซีดี การฟังจากแผ่นเสียงจึงเป็นทางเลือกเดียว

ข้อดีของการมีระบบ usb ก็คือ เราสามารถใช้เครื่องเล่นแผ่นเสียงต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อบันทึกแผ่นเสียงไปเป็นไฟล์ดิจิทัลได้อย่างง่ายดายกว่าแต่ก่อน ผลจากการลอง rip เป็นเสียงไปเป็นไฟล์ดิจิทัล ส่วนใหญ่ให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าที่คาดไว้

sale2013-IMG_0037

ลองต่อกับลำโพงเพื่อจัดเป็นชุดฟังเพลงบ้าง ผมต่อเครื่องเล่นแผ่นเสียงเข้ากับลำโพงคอมพิวเตอร์ยี่ห้อ elephant ที่มีราคาขาไม่กี่ร้อยบาท เป็นลำโพงขนาดเล็กที่ให้เสียงเบสลึกได้ลึกจริงๆ และสามารถถ่ายทอดเสียงเบสออกมาได้อย่างน่าฟัง เมื่อต่อเป็นชุดฟังเพลงแล้วก็จัดแจงหาแผ่นเพลงที่ชอบมาลองเปิดทันที มีทั้งแผ่นใหม่และแผ่นเก่าสลับกันฟังเต็มไปหมด

sale2013-IMG_0047

พอลองต่อฟังก็รู้สึกประทับใจดี จัดเป็นชุดอนาถาไฮเอนด์ หน้าตาของทั้งชุดเมื่อวางบนหิ้งก็ออกมาแบบนี้ มันก็ให้ความเพลิดเพลินได้ดี ข้อดีของการฟังเพลงจากแผ่นเสียงก็คือเราได้ดูปก ได้ดูรายละเอียดที่พิมพ์ไว้ในแผ่นหรือในซอง ก็คือได้อ่านข้อมูลคร่าวๆของอัลบั้มนั่นเอง มันเหมือนสมัยก่อนตอนที่ฟังเพลงจากม้วนเทป เราซื้อเทปมาก็จะดูปก ดูรายชื่อคนทำงานเบื้องหลัง ได้รู้ว่าศิลปินมันจะต้องขอบคุณพ่อแม่พี่น้องโคตรเง่าศักราชเต็มไปหมด กับแผ่นเสียงก็คล้ายๆกัน เราได้เสพข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือไปจากดนตรี

sale2013-IMG_0054

ส่วนข้อเสียก็มีอีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการยกหัวเข็มวางก็ต้องระวัง เมื่อเล่นหมดแผ่นก็ต้องยกเก็บเอง เปิดทิ้งไว้ให้มันเล่นซ้ำเฉพาะเพลงหรือเล่นซ้ำทั้งแผ่นก็ไม่ได้ แถมคุณภาพเสียงก็ยังไม่ดีมากเพราะมีเงินจ่ายแค่ของราคาเด็กเล่น ไอ้ของแพงๆระดับไฮเอนด์ราคาเท่ารถยนต์ก็เอื้อมไม่ถึง รวมไปถึงข้อเสียที่สำคัญที่สุดก็คือ ราคาแผ่นเสียงแพงกว่าแผ่นซีดีอย่างน้อยสามเท่า เพลงฝรั่งของนอร่าโจนส์ชุดแรก ซีดีสามร้อยกว่าบาท แต่พอเป็นแผ่นเสียงแผ่นละหนึ่งพัน แพงกว่า เล่นยากกว่า แต่ก็น่าแปลกที่ยังมีคนพยายามจะเล่น

รักแรกพบ

ไม่ค่อยอยากจะเชื่อตัวเองสักเท่าไหร่ว่าทำไมเป็นคนใจง่ายปานนี้  อยู่ดีๆก็มีเรื่องให้เสียเงิน  แต่เป็นการเสียที่เต็มใจและดีใจอย่างมาก  หากพูดคำว่า “แผ่นเสียง” ก็คิดไว้แล้วว่าเก่า เชย  แต่มันคลาสิคมากสำหรับผมเอง  ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงทำให้คิดแบบนี้  อาจจะเป็นความเท่ห์  เท่ห์ที่เรามีของสะสมที่คนอื่นๆสวนใหญ่เขาไม่สนใจกัน  ผมซื้อแผ่นเสียงเก็บไว้บ้างเป็นบางแผ่น  ซึ่งมักจะได้มาจากร้านขายของเก่า  เป็นแผ่นที่ต้องไปคุ้ย ไปรื้อ ฝุ่นจับ มือเปื้อน  หลายแผ่นที่ได้มาก็อยู่ที่บ้านเพื่อน  เพราะได้มาแล้วไม่มีเครื่องจะเปิดเล่น  เลยฝากเพื่อนไว้  

วันนี้เดินเล่นในห้าง บังเอิญไปเจอร้้านขายแผ่นเสียงเปิดใหม่  ร้านขายแผ่นเสียงเปิดตัวขึ้นในห้างไอที  ห่างจากร้านไปยี่สิบเมตรเป็นร้านขาย mp3 ซีดีเถื่อน  มันดูเป็นปรากฏการณ์ที่น่าประหลาดใจ  ใครหนอช่างคิดช่างมั่นใจ  ผมยังไม่กล้าคิดเลยว่าธุรกิจแผ่นเสียงจะเกิดขึ้นในสถานที่แบบนี้ ณ พศ นี้  แต่มันก็มีให้เห็นจริงๆ  แล้วในร้านก็มีเครื่องเล่นแผ่นเสียงขายเสียด้วย  ปกติเครื่องเล่นแผ่นเสียงจะราคาแพงมาก  แพงกว่าเครื่องเล่นดีวีดีที่ดีที่สุดในโลกเสียอีก  นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมได้แต่ฝันว่าสักวันคงใจถึง มีเงินเยอะพอจะซื้อได้  แต่วันนี้ดันมีของถูกมาวางขาย  จะลังเลให้คนอื่นตัดหน้าไปทำไม  เลยตัดสินใจอุ้มกลับบ้านแล้วก็เอามาเปิดกับแผ่นที่สะสมไว้  ตอนหยิบแผ่นออกจากซอง แล้วค่อยๆวางลงไปให้มันได้ตำแหน่ง  ยกหัวเข็มมาวางบนแผ่นที่กำลังหมุน  แค่ตั้งท่าก็รู้สึกดีแล้ว  แต่คุณภาพเสียงที่ได้ก็ผิดหวังเล็กน้อย  แต่ทำใจได้เพราะว่ามันเป็นของถูก  ข้อด้อยเลยกลายเป็นข้อจำกัด  ข้อจำกัดคือสิ่งที่เรายอมรับ  ก็ยอมรับตั้งแต่แรกเห็นไปแล้ว  รักแรกพบนะเออ……..