หลบไปเที่ยวแก่งกระจาน

ทริปเร่งด่วน คลายเครียดจากการระบาดครั้งใหญ่ของโควิดสายพันธุ์ใหม่ล่าสุดที่แทบจะทำให้สองปีที่ผ่านมาของการทนสู้กับโควิดในโลกเราอาจกลายเป็นเรื่องสูญเปล่า ไหนๆก็ต้องอยู่กันต่อไป หาโอกาสเที่ยวกันสักหน่อยกับทริปเล็กๆ 1 คืนที่เราพาลูกไปเที่ยวใกล้ๆ

ที่พักแห่งหนึ่งในแก่งกระจานคือปลายทาง แต่ก่อนจะไปถึงแถวนั้นเราก็วางแผนว่าจะพาลูกไปเที่ยวระหว่างทางด้วย ดูไปดูมาแล้ว พาลูกไปเที่ยวเขาวังดีกว่า เราก็เลยได้พาลิงในบ้านเราไปดูลิงที่เขาวัง

IMG_5106

เขาวังมีลิงเยอะกว่านักท่องเที่ยวแล้ว เพราะโควิดทำให้ทุกอย่างซบเซา และทำให้การเดินเที่ยวเขาวังครั้งนี้เป็นเรื่องที่ไม่วุ่นวาย ไม่มีคนมาแย่งกันดู ไม่มีใครมาต่อคิวรอถ่ายรูปที่จุดชมวิว แม้แต่การไหว้พระก็ทำได้ไม่ต้องวุ่นวาย เราได้ไหว้พระหลายท่าทาง ได้ถ่ายรูปเล่นหน้าพระด้วย มันเป็นช่วงเวลาที่คนน้อยเพราะโควิดนั่นเอง

IMG_5136

เที่ยวนี้เราขึ้นลงเขาวังด้วยกระเช้าไฟฟ้า ผมและภรรยาอยู่ในวัยที่ไม่อยากเดินแล้ว เราไม่ได้มีแรงเยอะเหมือนเมื่อก่อน แม้ว่าในตอนที่ผมมาหัดถ่ายรูปเมื่อสิบกว่าปีก่อนจะเดินขึ้นได้ไม่บ่น แต่ทุกครั้งที่มาถ่ายภาพก็จะรู้สึกว่า ไม่อยากเหนื่อยเดินขึ้นลง วันนี้พาลูกมาด้วย ก็ใช้เวลาแบบสบายๆดีกว่า สิ่งหนึ่งที่พบในทริปนี้คือ ลิงบนเขาวังสามารถเปิดฝาเกลียวของขวดน้ำได้ เรื่องนี้เป็นความรู้ใหม่จริงๆ ผมไม่รู้ว่ามันทำได้นานหรือยัง แต่ผมเพิ่งเห็นในทริปนี้

IMG_5142

ลงจากเขาวังเราก็หาของกินในตัวเมือง ได้แวะไปนั่งที่ร้านระเบียงริมน้ำ ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำกลางเมืองเลย ร้านนี้เป็นร้านที่มีชื่อเสียง มีคนอยากแวะมากินเยอะ แม้ว่าจะเป็นยุคของการระบาด แต่คนก็ยังมาแทบเต็มร้านอยู่ดี นึกไม่ออกเลยว่าก่อนโควิดร้านนี้จะแน่นและคิวยาวแค่ไหน บ้านเราได้นั่งโต๊ะที่ไม่ติดริมน้ำ แต่แค่มีให้นั่งก็ดีแล้ว อิ่มมื้อนี้แล้วเราก็จะเดินทางเข้าที่พักที่แก่งกระจานกัน

IMG_5150

เราแวะไปพักฟาร์มสเตย์ในพื้นที่อำเภอแก่งกระจาน ชื่อ คะนาเร่ เป็นบ้านพักทรงสามเหลี่ยม มีบรรยากาศต้นไม้ร่มรื่น มีแม่น้ำอยู่หลังรีสอร์ท มีกรงเลี้ยงสัตว์ให้ดู ที่เป็นไฮไลท์ก็คือนกยูง นกยูงที่นี่มีทั้งเดินเล่นนอกกรง และอยู่ในกรง นอกจากนี้ยังมีนกหายากที่เจ้าของกำลังพยายามเพาะพันธุ์อยู่อีกชนิดหนึ่งคือนกทูแคน ซึ่งมีปากใหญ่ดูคล้ายๆนกเงือก

IMG_5224
IMG_0521
IMG_5160

ภายในบ้านสามเหลี่ยม ด้านในเป็นทรงสูง มีการทำเป็นสองชั้น โดยชั้นบนของบ้านเป็นที่นอน 1 ที่ และมีตาข่ายเชือกขึงไว้ให้กลิ้งเล่น เด็กก็ตื่นเต้นกับดีไซน์แบบนี้ แต่ก็แค่นอนเล่น ให้นอนจริงๆก็ยังไม่กล้านอน ผมชอบคำคมที่ติดอยู่บนกระจกในห้องพัก

IMG_5204
“Look deep into nature and then you will understand everything better”
Albert Einstein
IMG_5200

IMG_5201

พื้นที่ด้านหลังรีสอร์ทเป็นวิวแม่น้ำ มีพื้นที่สนามหญ้ากว้างๆให้เดินเล่น มีมุมนั่ง มีชิงช้า ปล่อยให้นักท่องเที่ยวได้นั่งเล่น อ่านหนังสือ นั่งดูน้ำไหล ให้เด็กได้วิ่งเล่น ได้เล่นชิงช้า ได้เล่นน้ำ ทุกอย่างดูสงบและหรูหรามาก

IMG_5187

วิวที่ระเบียงห้องพัก เห็นวิวแม่น้ำอยู่ไม่ไกล เสียงน้ำไหลพอได้ยิน อากาศเย็นสบาย เก้าอี้เหล็ก โต๊ะเหล็กที่ระเบียงมีไว้ให้นั่งเล่นสัมผัสธรรมชาติ กลางโต๊ะมีของที่ลูกผมไม่รู้จัก ลูกคิดว่ามันคือที่วางแก้วทำจากไม้ จริงๆผมก็ดีใจที่ลูกจะตีความมันเป็นที่วางแก้ว แม้มันคือที่เขี่ยบุหรี่ แต่มันไม่ใช่ของสำคัญของชีวิตในครอบครัวผม เราไม่จำเป็นต้องมี เพราะพ่อแม่ไม่สูบ ปู่ย่าตายายลุงป้าน้าอาไม่สูบ ส่วนตัวเขาเองถ้าโตขึ้นแล้วเขาจะสูบบุหรี่ก็คงห้ามไม่ได้ แต่การที่เราต้องเห็นที่เขี่ยบุหรี่ในที่ท่องเที่ยวก็ยังคงตอกย้ำว่า เจ้าของรีสอร์ทยอมให้สูบบุหรี่ในพื้นที่รีสอร์ท โชคดีที่เรายังไม่เจอนักท่องเที่ยวขี้ยาในทริปนี้

IMG_0474
IMG_0692
IMG_0651
IMG_0708
IMG_0560

ร้านอาหารในรีสอร์ทมีมื้อเย็นเป็นอาหารตามสั่ง มีเมนูเนื้อวัวให้สั่งด้วย ราคาก็ไปดูได้ตามเมนู เราได้กินเนื้อชิ้นใหญ่มากในราคาพันกว่าบาท ก็ถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับความเป็นเนื้อวัวและผ่านกระบวนการทำที่ปราณีตดี น้ำซอสสีเขียวที่ราดไว้ข้างๆเนื้ออร่อยมาก

IMG_0718
IMG_0715
IMG_5228

มื้อเช้ามีทั้งแบบข้าวต้มและอาหารฝรั่งจำพวกไข่และขนมปัง มีของหวานแนวตลาดไทยๆให้กินด้วย เสริฟมาในฝาชีแบบเปิดปิดน่ารักดี หลังจากอิ่มแล้วเราก็เดินเล่น เดินดูกรงสัตว์ และเจ้าของก็อนุญาตให้เด็กๆไปให้อาหารนกก่อนออกจากที่พักแห่งนี้

IMG_0719

ขากลับเราแวะกินมื้อเที่ยงที่เส้นทางบางตะบูน เป็นการหาจากในเน็ตแล้วลองไปกินเลย อาหารอร่อย ราคาไม่แพง มีวิวอ่าวให้ดู ชื่อร้าน เจ๊มอญครัวริมอ่าว

IMG_5234

ทริปนี้เป็นทริปที่มีการเดินทางไม่มาก ระยะทางจาก กรุงเทพมาที่พักที่แก่งกระจานตามแผนที่ 168 กิโลเมตร ไปกลับรวมกันก็ประมาณ 340กิโลเมตร เราเติมน้ำมันเต็มถังก่อนวันเดินทาง ไปเที่ยวแล้วกลับถึงบ้านโดยที่น้ำมันยังเหลืออีกมาก สามารถไปทำงานต่อได้อีกสองวัน

เที่ยวแก่งกระจาน กางเต๊นท์นอนที่แค้มป์บ้านกร่าง

ผมกับภรรยาพาลูกเที่ยวรอบนี้ เราพาลูกไปนอนเต๊นท์กันที่แค้มป์บ้านกร่างซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

IMG_20191216_102608

แก่งกระจานผมรู้จักมาตั้งแต่เด็กๆ สมัยเด็กที่เคยได้มาเที่ยวก็แวะมาเที่ยวเขื่อนแก่งกระจานหลังจากที่เที่ยวทะเลชะอำเสร็จแล้ว ส่วนสมัยเรียนหนังสือชั้นมัธยมโรงเรียนก็มีพาไปค่ายนอนพักริมทะเลชะอำแล้วขากลับแวะมาเที่ยวเขื่อนแก่งกระจาน ตอนทำงานเองแล้วนัดกับเพื่อนมาหัดถ่ายรูปทะเลหัวหิน ขากลับก็แวะเที่ยวเขื่อนแก่งกระจาน ตลอดชีวิตที่มีเวลาเหลือเฟือตอนนั้นรู้จักแค่เพียงว่า แก่งกระจานคือเขื่อน รู้แค่นั้นเอง

เพื่อนในกลุ่มถ่ายรูปอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นนักเดินทาง ชอบเที่ยวป่าก็เคยเล่าให้ฟังว่า ที่แก่งกระจานไม่ได้มีแค่เขื่อน มีผีเสื้อให้ดูเป็นล้านตัวแบบที่ไม่มีที่ไหนในประเทศ มีพะเนินทุ่งที่ต้องใช้รถโฟวิลเข้าไปเท่านั้น มีทะเลหมอกด้วย ข้อมูลนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยรู้เลย หลังจากที่ได้ข้อมูลใหม่ก็เลยตั้งใจว่าถ้าลูกโตพอจะพาลูกไปบ้าง และจะไปกางเต๊นท์นอนด้วย เพื่อให้เกิดประสบการณ์ใหม่ๆทั้งพ่อแม่ลูกเลย

20191214125507_IMG_0007
แวะกินมื้อกลางวันที่ร้านอาหารวิโรจน์ ้ ร้านหน้าเขื่อน มีวิวเขื่อนให้ดู

เราเริ่มต้นตอนเช้าที่ย่านบางขุนนนท์ ใช้เส้นทางบรมราชชนนีไปทางพุทธมณฑลสาย4 แล้วไปออกมหาชัย ไปต่อที่ถนนพระราม2 และไปเรื่อยๆตามทาง ไปเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเพชรเกษม ขับไปถึงจังหวัดเพชรบุรี เลี้ยวขวาเพื่อเลี้ยวเข้า อำเภอท่ายาง แล้วขับตามป้ายแก่งกระจาน สุดท้ายเรามาถึงเขื่อนแก่งกระจาน บริเวณที่ทำการอุทยาน หาข้าวมื้อกลางวันกินแถวนี้ แล้วก็ขับรถต่อไปยัง แค้มป์บ้านกร่างซึ่งเป็นจุดที่เราจะกางเต๊นท์ รอบนี้ผมยังไม่ไปพะเนินทุ่ง เพราะไม่มีรถโฟวิล ผมขับรถฮอนด้าฟรีด ไม่เหมาะจะลุยไปตามทางป่าหรือทาง offroad

20191214144707_IMG_0042
IMG_20191214_221659

เราถึงแค้มป์บ้านกร่างประมาณบ่ายสองโมง ที่ทางเข้าเราจ่ายค่าธรรมเนียมค่าบริการต่างๆ แล้วเจ้าหน้าที่จะให้กรอกแบบฟอร์มใบหนึ่งสำหรับคนที่จะมากางเต๊นท์ แบบฟอร์มนี้ระบุชื่อและจำนวนคน จากนั้นเมื่อเราเข้าไปถึงที่ทำการหน้าแค้มป์เราก็ไปยื่นแบบฟอร์มให้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่คงเก็บแบบฟอร์มเอาไว้เพื่อคอยเช็คจำนวนคนว่ามาสามแล้วกลับสาม ออกไปครบคนไหม น่าจะเป็นจุดประสงค์เรื่องความปลอดภัย เพราะอุทยานแห่งชาติก็คือป่านั่นเอง ระหว่างทางที่ขับไปก็ผ่านถนนสวยๆ ผ่านอุโมงค์ต้นไม้ เราแวะถ่ายรูปกันอยู่สองจุด มีป้ายบอกตลอดทางให้ระวังสัตว์และระวังเรื่องทางชัน การขับรถขึ้นเขาต้องใช้เกียร์รถยนต์ให้เป็น ต้องรู้จักใช้เกียร์ต่ำในการขับขึ้นทางชัน รถเก๋งสามารถผ่านไปได้ไม่ยาก แต่ต้องเข้าใจการเปลี่ยนเกียร์เล็กน้อย

20191214160435_IMG_0068
เต๊นท์พ่อแม่ลูกที่ได้รับความช่วยเหลือจากนักท่องเที่ยวข้างๆกัน

ขั้นตอนการกางเต๊นท์เองก็เป็นเรื่องมึนงงสำหรับคนไม่เคยทำ ผมเคยกางเต๊นท์เองเมื่อปีก่อน เป็นเต๊นท์ที่ยืมมาจากเพื่อน รอบนี้ก็ยืมเพื่อนเหมือนเดิม เพราะในอดีตไม่เคยเที่ยวแบบกางเต๊นท์ ส่วนใหญ่ผมจะเที่ยวแบบนอนสบายมากกว่า พ่อแม่ลูกกางเต๊นท์กันช้ามาก จนกลุ่มที่กางเต๊นท์อยู่ข้างๆมาช่วย ทำให้เสร็จเร็วขึ้น และเต๊นท์ของเราก็กางสำเร็จ จัดของวางของพร้อมที่จะทำอาหารเย็นแล้ว

20191214163953_IMG_0142
ลานกางเต๊นท์ติดกับจุดจอดรถ ขนของสะดวกมาก

ในแค้มป์บ้านกร่างเป็นจุดกางเต๊นท์ที่มีลานจอดรถไม่ห่างจากลานกางเต๊นท์ และมีลำธารอยู่ข้างที่กางเต๊นท์เลย ทางไปลำธารจะมีโป่งดินที่มีผีเสื้อมาเกาะเยอะมาก ในเวลาฤดูร้อนจะมีผีเสื้อมหาศาล สวนหน้าหนาวอากาศเย็นผีเสื้อแทบไม่มีเลย ที่เห็นด้วยตาน่าจะไม่ถึง 100 ตัว และผีเสื้อตัวใหญ่ๆสีสวยๆก็ไม่มีให้เห็นเลย

20191214161251_IMG_0085
ลำธารเย็นๆ กับแสงแดดตอนสี่โมง เป็นช่วงเวลาแสงสวยที่สุดของวันนี้เลย

แม่กับลูกเดินเล่นน้ำในลำธาร อากาศเย็นมากสำหรับช่วงเวลาที่เราเลือกมาเที่ยวที่แค้มป์แห่งนี้ ตลอดหลายวันที่ผ่านมากรุงเทพก็อากาศเย็นมาก เย็นจนเหมือนไปเดินเที่ยวญี่ปุ่น อุณหภูมิเฉลี่ยของกรุงเทพ 7 วันที่ผ่านมา กลางวัน 25องศา ตอนเช้ามืด 17องศา ส่วนที่แค้มป์บ้านกร่าง ก็เย็นกว่ากรุงเทพ ตอนกลางคืนน่าจะประมาณ 15 องศา

20191214161856_IMG_0124
แดดสี่โมงเย็นกับลำธาร และแนวต้นไม้ด้านหลังที่รับแสงพอดี

เรารีบอาบน้ำกันก่อนจะค่ำ เพื่อไม่ให้อากาศเย็นเกินไป เพราะแค่นี้ก็เย็นมากแล้ว ลูกผมใจแข็งมากสามารถอาบน้ำได้ตลอดรอดฝั่ง ตอนผมอาบเองเพิ่งจะรู้ว่าน้ำเย็นแค่ไหน ตอนยังไม่โดนน้ำเราก็หนาวกันอยู่แล้ว ยิ่งโดนน้ำยิ่งหนาว ทีแรกนึกว่าจะเหมือนกรุงเทพเหมือนตอนอยู่บ้านที่ว่าเวลาอาบน้ำเย็น ถ้าเราโดนน้ำต่อเนื่องสักพักร่างกายเราจะทนความเย็นได้และจะอาบน้ำได้ไม่รู้สึกหนาว แต่ที่แค้มป์นี้ตรงกันข้าม น้ำเย็นมาก โดนเมื่อไหร่ก็หนาวเมื่อนั้น พอหยุดอาบก็จะหนาวน้อยลง ไม่มีคำว่าร่างกายชิน สรุปว่าอาบให้จบเร็วแล้วรีบเช็ดตัวรีบใส่เสื้อผ้าจะได้ไม่หนาวมาก

20191214175620_IMG_0165

อาหารเย็นวันนี้เราเตรียมเตาแก๊สปิ๊กนิกเอาไว้ มีของสดและมาม่าติดมาทำกินกัน สอนลูกต้มน้ำ ต้มมาม่า ใส่ลูกชิ้น ใส่ปูอัด ใส่สิ่งที่อยากกิน มีลูกชิ้นปิ้งด้วย ทุกอย่างอร่อยและสนุก อาจจะเป็นเพราะหิวด้วย อาจจะเป็นเพราะทำเองด้วย พวกเรานั่งกินนั่งคุยนั่งเล่นกันถือเป็นช่วงเวลาที่ดีมาก มันเป็นเวลาคุณภาพจริงๆ

20191214180605_IMG_0175
20191214180613_IMG_0176
กินอย่างสบายอารมณ์ เด็กที่ซนเป็นลิงสามารถนั่งนิ่งๆได้ เดาว่ากำลังสบายใจสุดๆ

เด็กที่ซนมากอย่างขอบฟ้า ชอบเล่น ชอบออกกำลัง หยิบจับสิ่งของรวดเร็วและไม่ระวัง แต่ก็มีเวลานั่งนิ่งๆดูวิวต้นไม้ อากาศเย็นสบาย ใส่เสื้อผ้าอบอุ่น กินไปจนหมดชาม เป็นชั่วโมงที่พ่อกับแม่ดีใจมากที่ประสบการณ์นี้เป็นประสบการณ์ที่ลูกชอบ จากการสอบถาม ขอบฟ้าชอบลำธาร ชอบป่า ชอบอากาศเย็น จบจากมื้อเย็นเราเก็บล้างและเข้าเต๊นท์เล่นเกมส์เศรษฐีกันอีกเป็นชั่วโมง จนค่ำๆอากาศเย็นลงเรื่อยๆ เราเตรียมถุงนอนมาคนละใบ ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้นอนขดในถุงนอนได้ตลอดคืน

20191214191956_IMG_0181
IMG_20191215_024807
อากาศเย็นมาก ดูอุณหภูมิจากมือถือที่แสดงค่าของพื้นที่นี้ประมาณ 18องศาตอนเข้านอน ส่วนกลางดีกไม่ได้ดูแล้วแต่หนาวมากยิ่งกว่าตอนเข้านอนเยอะ
20191214184846_IMG_0180
เต๊นท์ที่พร้อมจะนอน ไฟในเต๊นท์เป็นตะเกียง LEDที่แขวนไว้ในเต๊นท์

ภาพเต๊นท์ตอนใกล้ๆค่ำ สภาพจริงๆคือแสงกำลังจะหมด มองด้วยตาทุกอย่างกำลังจะสีดำ มีเพียงแสงจากเต๊นท์และตะเกียงจากเต๊นท์อื่นๆ ผมตั้งกล้องบนก้อนหิน ปรับจุดโฟกัสไว้ที่เต๊นท์ ตั้งให้กล้องวัดแสงอันเดอร์ 1 สต๊อปเพื่อให้โทนภาพสีเข้ม แต่ยังไม่มืดดำจนไม่เห็นรายละเอียด ถ่ายภาพกลางคืนต้องพยายามทำให้รายละเอียดฉากหลังยังมีอยู่ หากดำเกินไปภาพจะดูขาดบรรยากาศ ตอนกลางดึกผมปลุกลูกขึ้นมาเข้าห้องน้ำ กลางดึกนี้หนาวสุดๆ ถ้าให้เดาน่าะสัก 15องศา

20191215073936_IMG_0185

เช้าวันใหม่กับอากาศเย็น 18องศา เราออกไปเดินเล่นที่ลำธารอีกครั้ง ลำธารใกล้ๆตอนเช้าไม่มีคนเลย ขอบฟ้าอยากไปดูน้ำ เราก็ไปนั่งเล่นถ่ายรูปเล่นกัน มีนกตัวใหญ่ๆเกาะอยู่ให้มอง แสงแดดเริ่มส่อง ต้นไม้ใบไม้เริ่มแสดงสีสันของตัวเองบรรยากาศตอนเช้าดีสุดๆ

IMG_20191215_210919
IMG_20191215_184837
20191215081214_IMG_0230
20191215080252_IMG_0218

ตอนเช้าในลานกางเต๊นท์มีแต่กาแฟและควันจากเตาไฟจางๆ ควันลอยขึ้นไปโดนแสงแดดที่ส่องทะลุใบไม้ลงมาเกิดเป็นภาพแสงยามเช้าที่ดูเหือนภาพวาดในนิทาน ช่างภาพที่มีกล้องอยู่ในมือก็เก็บภาพมาตามสัญชาตญาณ แสงแบบนี้นี่เองที่ต้องมีอยู่ในภาพยามเช้า

20191215082223_IMG_0248

แสงเช้าที่ส่องผ่านใบไม้ มองไปทางไหนก็มีมุมน่าสนใจให้ถ่ายภาพ การถ่ายภาพธรรมชาติเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น เพราะเราคาดเดาไม่ได้ว่าเราจะเห็นอะไรสวยบ้าง คนที่ถ่ายภาพชีวิตลูกมายาวนานหลายปี ไม่ค่อยมีเวลามองธรรมชาติอย่างผมก็รู้สึกดีกับสิ่งที่เห็นในอุทยาน ฟ้าใส แดดสวย ต้นไม้มีชีวิตชีวา ป่าเราสมบูรณ์และน่าหวงแหนมาก

IMG_20191215_185505

หลังจากกินมื้อเช้ากันเรียบร้อยแล้วเราก็ทะยอยเก็บเต๊นท์ ขอบฟ้าช่วยเก็บเต๊นท์อย่างตั้งใจ ความกระตือรือร้นที่จะมีส่วนร่วม ตั้งแต่การยกของ จัดเต๊นท์ ทำอาหาร จนถึงเก็บทุกอย่างเป็นนิสัยการเดินทางท่องเที่ยวที่ดี มีนกกระยางแวะมารอกินอาหารเหลือๆจากเต๊นท์ต่างๆ ขอบฟ้าวิ่งไล่จับอยู่นานเลย

20191215102828_IMG_0276

ขอบฟ้าขอกล้องไปถ่ายเล่น ขอบฟ้าอยากได้ภาพนกมาก แต่ก็ไม่สามารถถ่ายได้อย่างถูกใจ ผมอธิบายให้ลูกฟังว่าการถ่ายภาพนกเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับคนที่ไม่เคยถ่าย และแม้ว่าจะเคยหัดถ่ายแล้วก็ต้องใจเย็นด้วย ยิ่งเราใจร้อนวิ่งตามนกเราจะไม่ได้ภาพเลย ขอบฟ้ายังไม่เข้าใจ ผมเลยเล่าให้ฟังว่าผมเคยถ่ายมาแล้ว เดี๋ยวจะพาไปถ่ายภาพนกที่บางปู ที่นั่นมีนกเยอะและมีให้ขอบฟ้าหัดถ่ายอย่างเหลือเฟือ

IMG_20191215_103645
IMG_20191215_194313

เราออกเดินทางจากแค้มป์บ้านกร่างประมาณ 11 โมง และขับรถกลับไปที่เขื่อนเพื่อไปเที่ยวที่สันเขื่อน บนเขื่อนแก่งกระจานจะมีสันเขื่อนให้ขับรถขึ้นไปได้ และเราสามารถชมวิวและถ่ายรูปได้ตามใจ เขื่อนแห่งนี้เป็นเขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และใช้ผลิตไฟฟ้าด้วย เราถ่ายรูปกันสักพักก็ลงมากินมื้อเที่ยง แล้วเดินทางกลับกรุงเทพ

IMG_20191215_115153
IMG_20191215_203449
IMG_20191215_203435

บันทึกการเดินทางด้วยรถยนต์ด้วย ผมเติมน้ำมันที่ปั๊มแถวบ้าน แล้วตั้งระยะทางเป็น 0 เมื่อมาถึงจุดจอดรถที่แค้มป์บ้านกร่าง หลักกิโลในหน้าจอแสดงผลไว้ที่ 228.3 กิโลเมตร และเมื่อขับรถกลับมากรุงเทพจอดรถในบ้าน หลักกิโลเมตรแสดงตัวเลข 452.9 กิโลเมตร ระยะทางขาไป กับขากลับ เกือบจะเท่ากันเลย รถฮอนด้าฟรีด เติมน้ำมัน e20 อัตราสิ้นเปลืองหน้าจอแจ้งไว้ 13.6 กิโลเมตรต่อลิตร

ดูผีเสื้อที่บ้านกร่าง

ทริปนี้เป็นทริปสำรวจเกี่ยวกับการดูผีเสื้อที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จุดดูผีเสื้ออยู่บริเวณแคมป์บ้านกร่าง เดินทางจากกรุงเทพก็จะใช้เส้นทาง ถ.พระราม2 ไปเพชรบุรี เลือกเส้นทางคลองโคน เพื่อไปกินมื้อเช้าที่ร้านอาหาร ยุ้งเกลือ เป็นร้านที่มีนาเกลือสวยๆให้ดูด้วย จากร้านอาหาร ขับออกถนนเพชรเกษม ผ่านตัวเมืองเพชรบุรี มุ่งหน้าไปทาง อ.ท่ายาง แล้วเลี้ยวไปในอ.ท่ายาง ดูป้าย อุทยานแก่งกระจาน ไปเรื่อยๆแล้วก็แยกเข้าบ้านกร่าง ถ้าจะตั้งหาเส้นทางใน googlemaps ก็ค้นคำว่า แคมป์บ้านกร่างได้เลย ขากลับจะไปแวะร้านขนมไทยลูกเจี๊ยบ ร้านของฝากที่มีขนมดูน่าตาดี รสชาดโอเค และเพื่อให้สะดวกไปดูแผนที่ด้านล่างสุดที่ตั้งเส้นทางแวะทั้ง 4 จุดไว้แล้ว

จุดดูผีเสื้ออยู่ที่แคมป์บ้านกร่าง ที่นี่เป็นจุดกางเต๊นท์ มีร้านอาหาร สามารถขับรถเก๋งเข้าถึงแคมป์ได้เลย จุดจอดรถ จุดกางเต๊นท์ จุดดูผีเสื้อ ทั้งหมดห่างกันประมาณ 1 นาทีเดินเท้าเท่านั้น มีเต๊นท์และอุปกรณ์เครื่องนอนให้เช่า สัญญาณโทรศัพท์ AIS คลื่นเต็มเล่นเน็ตได้ดี ค่าเข้าพื้นที่อุทยาน ผู้ใหญ่คนละ 100 บาท เด็ก 40 บาท นอกจากผีเสื้อแล้ว ก็สามารถดูนกได้ด้วย มีช่างภาพแบกกล้องพร้อมเลนส์ยาวเท่าแขนเดินอยู่ให้เห็นเรื่อยๆ

อาหารที่แค้มป์บ้านกร่างราคาถูกมาก อาหารจานเดียวอย่างกระเพราหมูไข่ดาวจานละ 35 บาท น้ำอัดลมกระป๋องแช่เย็นกระป๋องละ 20 บาท รถยนต์เข้าออกได้สะดวก เส้นทางจากถนนสายหลักเข้าถึงแคมป์ลาดยางเรียบร้อย ไม่มีจุดที่เป็นลูกรังเลย ณ วันที่ไปสำรวจ มีถนนสายหลักของอำเภอท่ายางเองที่กำลังปรับปรุง มีส่วนทางเบื่ยงที่ต้องไปเจอลูกรังอยู่ประมาณ 500 เมตร แต่พอเข้าสายเล็กๆที่วิ่งอยู่บนภูเขาแล้วถนนดีตลอดทาง ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำมีพร้อมสำหรับคนกางเต๊นท์ เจ้าหน้าที่บอกว่าน้ำเหลือเฟือเพราะใช้น้ำจากป่า ส่วนไฟ ตอนกลางคืนจะเป็นการปั่นไฟ

บันทึกวันที่ 15พค2562

สร้างเป็นโปรแกรมเดินทาง

1 แวะกินข้าวมื้อเช้าที่ ร้านอาหารยุ้งเกลือ แถวคลองโคน เป็นร้านที่มีวิวนาเกลือสวยๆให้ดู

2 เดินทางไปเขื่อนแก่งกระจาน

3 ต่อไปยังแค้มป์บ้านกร่างเพื่อดูผีเสื้อ

4 ขากลับแวะซื้อของฝากที่ตัวเมืองเพชรบุรี ร้านขนมไทยลูกเจี๊ยบ

https://goo.gl/maps/6n5YS8jN1TsCVTC76

แถมรายการอาหารที่ครัวบ้านกร่าง

ครัวบ้านกร่างแคมป์