วันเสาร์วันหนึ่ง หลังจากกินมื้อเย็นกันอย่างพร้อมหน้าแล้ว ก็เลยเถิดไปเดินเล่น หาของหวานกินกัน พี่สาวเสนอเสาชิงช้า ไปกินนมมนต์ แล้วก็ดูบรรยากาศแถวๆศาลาว่าการฯ
ร้านนี้มันทำบุญด้วยอะไรก็ไม่รู้ คนเยอะได้แทบจะตลอดเวลา ถ้าไฟไหม้ขึ้นมาจะเหยียบกันตายไหมเนี่ย เหน็บด้วยความอิจฉาล้วนๆ
นานๆแม่จะออกมาไกลบ้านซะที พี่สาวกับน้องก็บ้ากล้องอยู่พอตัว แม่ก็ชอบถ่ายรูปมานานแล้วแต่ไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน สิบปีมานี้มีลูกเป็นช่างภาพทำให้มีความทรงจำกับเขาบ้าง เพราะก่อนหน้านี้ รูปถ่ายครั้งล่าสุดระหว่างลูกกับแม่ คือรูปผมตอนเรียน ม.3 ปีนี้ ลูกเพื่อนจะสอบ ม.1 อยู่แล้ว ไม่น่าเชื่อจริงๆ
เดินกินเรื่อยเปื่อย ดูวิว ห่างจากร้านนมมนต์แค่ยี่สิบเมตร ราวกับว่าเมืองนี้เป็นชนบท คนน้อยอย่างน่าประหลาด หรือเป็นเพราะรอดูบอลโลกกันอยู่ที่บ้าน
เสาชิงช้าครั้งที่ยี่สิบ ตั้งแต่ถ่ายภาพมา มีเสาชิงช้าบ่อยมาก มีตั้งแต่กลางวัน เย็น กลางคืน โคตรดึก เสารุ่นเก่า เสารุ่นใหม่ มีครบเลย
เดี๋ยวนี้เขามีให้เช่าจักรยานขับด้วย แต่ไม่รู้ว่าเปิดเช่่าตอนกี่โมง เพิ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้คนเราขี่จักรยานไม่ต้องใช้เบาะนั่งแล้ว ยืนขี่กันหรืออย่างไร
พอกินลมอิ่มแล้วก็กลับ เดินทางด้วยรถ Honda Freed ไม่รู้ว่าเห่อรึเปล่า สองเดือนขับไปหกพันกิโลเมตร
ภาพชุดนี้ใช้กล้อง Eos350 เลนส์ 18-55is เลือกสะพายกล้องตัวนี้แทน Eos5d เพราะว่าต้องการใช้แฟลชติดกล้อง ต้องการความเบา ต้องการอารมณ์สะพายกล้องแบบไม่ต้องกังวล ไม่เป็นภาระมากเกินไป อยากได้ภาพที่ดูสบายๆมากกว่าจะตั้งใจถ่ายภาพจนลืมความจรรโลงใจ