ฝึกบอลวันอาทิตย์

ลูกชายผมตั้งใจจะฝึกซ้อมจริงจังมากขึ้น เมื่อปีที่แล้วตอนเรียนอยู่ชั้น ป6 เขาได้รางวัลจากการอัดฉีดโดยผมเอง จากการพยายามสอบพรีเทสของโรงเรียนสวนกุหลาบให้ติดในลำดับ 150 คนแรก เพื่อความชัวร์ว่าเราจะสามารถสอบเข้า ม1 โรงเรียนแห่งนี้ได้ เพราะเป้าหมายของการพยายามสอบเข้าสวนกุหลาบคือการไปสมัครเป็นนักฟุตบอลโรงเรียน เลยต้องสอบเข้าให้ได้ก่อน

ทำไมต้องเป็นนักฟุตบอลที่โรงเรียนสวนกุหลาบ เพราะลูกตั้งใจจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ พ่อกับแม่ก็อยากให้ทดลองพยายามเป็นนักฟุตบอลโรงเรียนระดับมัธยมให้ได้ก่อน และโรงเรียนที่มีชื่อเสียงด้านฟุตบอลก็คือโรงเรียนในเครือจตุรมิตร ซึ่งมีสวนกุหลาบ เทพศิรินทร์ อัสสัมชัญ กรุงเทพคริสเตียน ทุกแห่งเป็นเจ้าพ่อลูกหนังระดับมัธยม ขณะที่ยังมีความสามารถในด้านวิชาการด้วย แต่พ่อชอบสวนกุหลาบมากกว่า หากเข้าทีมโรงเรียนได้ก็แสดงว่าพอจะมีความสามารถในการพัฒนาไปสู่ระดับอาชีพ นั่นทำให้ลูกต้องเข้าสู่โหมดการเรียนรู้ เรียนพิเศษเพื่อสอบเข้า ม1 ให้ได้ และการสอบพรีเทสก็เป็นเรื่องที่ทำเพื่อวัดผลว่าเรามีความพร้อมระดับไหน

ผลการสอบพรีเทสได้ตามเป้าหมาย ลูกชายได้รางวัลเป็นเครื่องเล่นเกมส์ ps5 ตามตกลง เพราะลูกชอบเล่นเกมส์มาก เมื่อได้แล้วก็รอจังหวะยังไม่ซื้อเพราะเกมส์ที่ลูกชอบเล่นนั้นอยู่ในคอมพิวเตอร์เป็นส่วนใหญ่ เครื่องเล่นเกมส์ ps5 ก็เลยชะลอไปก่อน แต่เงินรางวัลได้แล้วก็จะเก็บไว้ใช้อย่างอื่น

ปีนี้ ลูกสอบเข้าสวนกุหลาบได้แล้วได้เรียนในห้องเรียนพิเศษหรือ gate ซึ่งเป็นห้องเรียนที่เข้มข้นมาก การเรียนการสอนหนักมาก การบ้านเยอะมาก แต่ลูกก็ยังพยายามจัดเวลาเพื่อให้ได้ซ้อมฟุตบอลสัปดาห์ละ 4 วันกับอะคาเดมี่ที่เรียนมาตั้งแต่เด็ก จนเมื่อเดือนก่อน ลูกมาบอกว่าขอเงินไปลงทะเบียนเรียนฟุตบอลกับต่างชาติ เป็นเว็บสอนฟุตบอลออนไลน์จากแคนาดา มีคอร์สฝึกต่างๆดูแล้วน่าเชื่อถือ ผมค่อนข้างแปลกใจและไม่ไว้ใจว่าการเรียนฟุตบอลจะทำเป็นออนไลน์ได้ แต่ลูกก็หาข้อมูลมาหลายเดือนแล้ว และตั้งใจจะทดลองเรียนดู ค่าสมัครคอร์สนี้ 700 ดอลล่าร์ แต่ลูกรอจังหวะโปรโมชั่น เมื่อเหลือ 249 ดอลล่าร์ก็เลยขอให้สมัครให้ ขอใช้งบจากเครื่องเล่น ps5 มาซื้อ

ผมไม่มั่นใจกับเรื่องการเรียนฟุตบอลออนไลน์ คุยกับลูกอยู่นาน แต่มาคิดดู เราก็ควรจะให้เพราะครั้งนี้ลูกขอใช้เงินไปกับการเรียน ไม่ใช่ขอซื้อของเล่นที่ไม่รู้คุณค่า ในชีวิตคนเราต่างก็เคยซื้อหนังสือที่อาจจะไม่ได้อ่าน บางครั้งก็พลาดซื้อหนังสือที่ไม่ได้คุณภาพ ครั้งนี้ก็เลยอนุญาต เลยโอนจ่ายค่าเรียนออนไลน์ให้ มันเป็นการใช้จ่ายไปเพื่อการพัฒนาตัวเอง ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี แต่วัตถุประสงค์ของการใช้เงินครั้งนี้มันมีค่าพอให้ทำ ลูกจะได้รู้ว่าพ่อแม่สนับสนุนทุกการเรียนรู้ ไม่ทำตัวเป็นอุปสรรคเสียเอง

เมื่อจ่ายเงินและลงทะเบียน ติดตั้งแอพในคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์แล้วลูกก็เริ่มเรียน เริ่มอ่านข้อมูลในกลุ่ม มีการอธิบายวิธีใช้โปรแกรม วิธีปฏิบัติตัวกับการฝึกฝน ปรับ mindset หรือทัศนคติเพื่อเริ่มเรียน และบทเรียนก็เริ่มทำงาน เป็นที่มาของคลิปวิดิโอข้างล่างนี้ กับวันแรกๆของการเริ่มต้นเรียนฟุตบอลออนไลน์

ลูกจะติดทีมโรงเรียนหรือไม่ก็เป็นเรื่องของวันข้างหน้า สิ่งที่ดีคือลูกได้ลงมือวางแผนพัฒนาตัวเอง วางแผนเพื่อไปสู่เป้าหมาย เป้าหมายกำหนดวิธีการ และที่สำคัญที่สุดคือได้ลงมือทำตามแผน พ่อกับแม่ก็ทำหน้าที่เป็นกองเชียร์ เป็นคู่ซ้อมที่บ้าน เป็นท่อน้ำเลี้ยง เป็นคนขับรถ เป็นติวเตอร์ในบางวิชาที่เรียนไม่ทัน

ให้ลูกเรียนกีฬาไปทำไม

#ฉันให้ลูกเรียนกีฬาไปทำไม

ได้อ่านบทความของคุณแม่ต่างชาติท่านหนึ่ง ซึ่งเขียนถึงเหตุผลที่เธอทุ่มเทเงินทองและเวลามากมาย เพื่อส่งลูกเรียนกีฬา รู้สึกประทับใจกับแนวคิดของคุณแม่ท่านนี้ จึงอยากมาแชร์กันค่ะ

———————————-

เพื่อนคนหนึ่งของฉันถามว่า

“ทำไมเธอจึงยอมจ่ายเงินตั้งมากมายเพื่อให้ลูกเล่นกีฬา”

อืม มันก็จริง ฉันยอมรับ

แต่ฉันไม่ได้จ่ายเงินเพื่อให้ลูกเล่นกีฬาหรอกนะ

จริงๆ ฉันไม่ได้ให้ความสนใจในกีฬาที่เด็กๆ เล่นเท่าไหร่นักหรอก

อ้าว แล้วถ้าฉันไม่ได้จ่ายเพื่อกีฬา แล้วฉันจ่ายเงินเพื่ออะไรกันล่ะ

.

ฉันจ่ายเพื่อช่วงเวลาที่ลูกจะได้รู้สึกถึงความเหน็ดเหนื่อยจนอยากจะเลิกทำ แต่เขาก็ไม่ล้มเลิก

.

ฉันจ่ายเพื่อวันเวลาที่ลูกๆ ของฉันกลับมาจากโรงเรียนด้วยความเหน็ดเหนื่อยเกินกว่าจะไปซ้อมกีฬา แต่พวกเขาก็ยังไปอยู่ดี

.

ฉันจ่ายเพื่อที่ลูกของฉันจะได้มีวินัย focus และทุ่มเท

.

ฉันจ่ายเพื่อให้ลูกของฉันเรียนรู้ที่จะดูแลร่างกายของเขา,

อุปกรณ์กีฬาและสิ่งของต่างๆ ของเขาเอง

.

ฉันจ่ายเพื่อให้ลูกของฉันเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกับผู้อื่นและเป็นสมาชิกที่ดีของทีม เรียนรู้ที่จะแพ้และถ่อมตัวเมื่อชนะ

.

ฉันจ่ายเพื่อให้ลูกของฉันได้เรียนรู้ที่จะรับมือกับความผิดหวัง

เมื่อเขาไม่ได้ตำแหน่งที่เขาต้องการ

แต่เขาก็ยังคงกลับไปฝึกซ้อมวันแล้ววันเล่าอย่างดีที่สุด

.

ฉันจ่ายเพื่อให้ลูกของฉันได้เรียนรู้ที่จะพิชิตเป้าหมาย

.

ฉันจ่ายเพื่อให้ลูกของฉันได้เรียนรู้ไม่เพียงที่จะเคารพตัวเอง

แต่เคารพคู่แข่ง, โค้ชและเจ้าหน้าที่

.

ฉันจ่ายเพื่อให้ลูกของฉันได้เรียนรู้ว่า

ความสำเร็จหรือการเป็นแชมเปี้ยนนั้น

มันต้องแลกมาด้วยการทุ่มเททำงานหนัก

ฝึกฝนวันละหลายๆ ชั่วโมง ปีแล้วปีเล่า

พวกเขาจะเรียนรู้ว่ามันไม่มีความสำเร็จชั่วข้ามคืน

.

ฉันจ่ายเพื่อให้ลูกของฉันได้ภูมิใจในความสำเร็จเล็กๆ

และฝึกฝนเพื่อเป้าหมายใหญ่ของเขา

.

ฉันจ่ายเพื่อให้ลูกของฉันได้มีโอกาสสร้างมิตรภาพที่ยั่งยืน,

ความทรงจำที่มีค่า, และภูมิใจในความสำเร็จของพวกเขา

แบบที่ฉันก็รู้สึกเช่นกัน

.

ฉันจ่ายเพื่อให้ลูกของฉันได้ไปอยู่ในสนามแทนที่จะอยู่หน้าจอ

.

ฉันสามารถเขียนได้อีกยืดยาว แต่ขอสรุปสั้นๆ นะว่า

ฉันไม่ได้จ่ายเพื่อกีฬาหรอก

แต่ฉันจ่ายเพื่อ “โอกาส” ที่กีฬาสามารถให้กับลูกๆของฉันได้

กีฬาช่วยพัฒนาคุณลักษณะที่ดีรอบด้าน

ในการดำรงชีวิตอยู่เพื่อตัวเองและผู้อื่น

จากที่ฉันสังเกต ฉันคิดว่ามันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากๆ ทีเดียว

Cr. บทความ Trevlyn Mayo Palframan🙏

Cr. บทความ Trevlyn Mayo Palframan

IMG_1290
dpp-footballป5-IMG_9025

ได้อ่านบทความของคุณแม่ต่างชาติท่านหนึ่ง
ซึ่งเขียนถึงเหตุผลที่เธอทุ่มเทเงินทองและเวลามากมาย
เพื่อส่งลูกเรียนกีฬา
รู้สึกประทับใจกับแนวคิดของคุณแม่ท่านนี้จังเลย
จึงอยากจะแปลเพื่อนำมาแชร์กันนะคะ
.
เพื่อนคนหนึ่งของฉันถามว่า
“ทำไมเธอจึงยอมจ่ายเงินตั้งมากมายเพื่อให้ลูกเล่นกีฬา”
อืม มันก็จริง ฉันยอมรับ
แต่ฉันไม่ได้จ่ายเงินเพื่อให้ลูกเล่นกีฬาหรอกนะ
จริงๆ ฉันไม่ได้ให้ความสนใจในกีฬาที่เด็กๆ เล่นเท่าไหร่นักหรอก
อ้าว แล้วถ้าฉันไม่ได้จ่ายเพื่อกีฬา แล้วฉันจ่ายเงินเพื่ออะไรกันล่ะ
.
ฉันจ่ายเพื่อช่วงเวลาที่ลูกจะได้รู้สึกถึงความเหน็ดเหนื่อยจนอยากจะเลิกทำ แต่เขาก็ไม่ล้มเลิก
.
ฉันจ่ายเพื่อวันเวลาที่ลูกๆ ของฉันกลับมาจากโรงเรียนด้วยความเหน็ดเหนื่อยเกินกว่าจะไปซ้อมกีฬา แต่พวกเขาก็ยังไปอยู่ดี
.
ฉันจ่ายเพื่อที่ลูกของฉันจะได้มีวินัย focus และทุ่มเท
.
ฉันจ่ายเพื่อให้ลูกของฉันเรียนรู้ที่จะดูแลร่างกายของเขา,
อุปกรณ์กีฬาและสิ่งของต่างๆ ของเขาเอง
.
ฉันจ่ายเพื่อให้ลูกของฉันเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกับผู้อื่นและเป็นสมาชิกที่ดีของทีม เรียนรู้ที่จะแพ้และถ่อมตัวเมื่อชนะ
.
ฉันจ่ายเพื่อให้ลูกของฉันได้เรียนรู้ที่จะรับมือกับความผิดหวัง
เมื่อเขาไม่ได้ตำแหน่งที่เขาต้องการ
แต่เขาก็ยังคงกลับไปฝึกซ้อมวันแล้ววันเล่าอย่างดีที่สุด
.
ฉันจ่ายเพื่อให้ลูกของฉันได้เรียนรู้ที่จะพิชิตเป้าหมาย
.
ฉันจ่ายเพื่อให้ลูกของฉันได้เรียนรู้ไม่เพียงที่จะเคารพตัวเอง
แต่เคารพคู่แข่ง, โค้ชและเจ้าหน้าที่
.
ฉันจ่ายเพื่อให้ลูกของฉันได้เรียนรู้ว่า
ความสำเร็จหรือการเป็นแชมเปี้ยนนั้น
มันต้องแลกมาด้วยการทุ่มเททำงานหนัก
ฝึกฝนวันละหลายๆ ชั่วโมง ปีแล้วปีเล่า
พวกเขาจะเรียนรู้ว่ามันไม่มีความสำเร็จชั่วข้ามคืน
.
ฉันจ่ายเพื่อให้ลูกของฉันได้ภูมิใจในความสำเร็จเล็กๆ
และฝึกฝนเพื่อเป้าหมายใหญ่ของเขา
.
ฉันจ่ายเพื่อให้ลูกของฉันได้มีโอกาสสร้างมิตรภาพที่ยั่งยืน,
ความทรงจำที่มีค่า, และภูมิใจในความสำเร็จของพวกเขา
แบบที่ฉันก็รู้สึกเช่นกัน
.
ฉันจ่ายเพื่อให้ลูกของฉันได้ไปอยู่ในสนามแทนที่จะอยู่หน้าจอ
.
ฉันสามารถเขียนได้อีกยืดยาว แต่ขอสรุปสั้นๆ นะว่า
ฉันไม่ได้จ่ายเพื่อกีฬาหรอก
แต่ฉันจ่ายเพื่อ “โอกาส” ที่กีฬาสามารถให้กับลูกๆของฉันได้
กีฬาช่วยพัฒนาคุณลักษณะที่ดีรอบด้าน
ในการดำรงชีวิตอยู่เพื่อตัวเองและผู้อื่น
จากที่ฉันสังเกต ฉันคิดว่ามันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากๆ ทีเดียว
Cr. บทความ Trevlyn Mayo Palframan

ตัวอย่างการเรียน online

2020-05-08_10-55-29

โรงเรียนของขอบฟ้าเริ่มให้มีการเรียน online กันแล้ว โดยไม่รอเวลาเปิดเทอม เพราะอยากจะให้มีการเตรียมความพร้อมกันก่อน เพื่อให้เด็กมีความคุ้นเคยกับเครื่องมือที่ใช้เรียน และสามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ได้ด้วยตัวเอง จากวันเรียนปกติ 5 วันต่อสัปดาห์ พอปรับมาเป็น online โรงเรียนจัดตารางเป็น 6 วันต่อสัปดาห์ โดยในแต่ละวันจะมีการ online ครั้งละ 45 นาที เช้า 1 ครั้ง บ่าย 1 ครั้ง และระหว่างวันก็จะมีหลักสูตรประจำชั่วโมงให้ไปทำกันเอง แล้วมาสรุปผล มาเล่าให้ฟังในช่วง online โดยรวมก็คือเด็กยังใช้เวลากับโรงเรียน 8.00-16.00 น. เหมือนเดิม แต่เป็นการเรียนจากที่บ้าน หรือที่ทำงานพ่อแม่นั่นเอง

หมายเหตุ

กำหนดการเปิดเทอมก่อนมีโควิดจะเป็นวันที่ 18 พค 2563

กำหนดการที่รัฐบาลสั่งเลื่อนเปิดเทอมหลังโควิด คือเปิดวันที่ 1 กค 2563

โรงเรียนให้เริ่มเรียน online ตั้งแต่วันที่ 5 พค 2563