สิ่งพิมพ์ที่กำลังจะหายไป

 

กองกระดาษในโรงพิมพ์ ภาพนี้เป็นภาพแรกๆที่ขายออก แล้วก็มีขายซ้ำบ้าง กองกระดาษสีประหลาดนี้เป็นกระดาษสีหลายสีที่เรียงตัวกันอยู่ในงานใบเสร็จรับเงิน กระดาษแต่ละชั้นจะทำหน้าที่เป็นต้นฉบับ เป็นสำเนาหลายชุด และมีใบติดเล่มด้วย การซื้อขายในอดีตใช้แบบฟอร์มใบเสร็จรับเงินรูปแบบนี้ ใช้ปากกาเขียน ใช้มือฉีกเป็นชุดออกมา แต่ยุคใหม่ๆหลายคนหันไปใช้แบบฟอร์มต่อเนื่อง สั่งพิมพ์ผ่านคอมพิวเตอร์ กระดาษต่อเนื่องมาเป็นกล่อง ต้องใช้เครื่องพิมพ์หัวเข็มในการพิมพ์เพื่อให้เกิดสำเนาในชั้นที่ 2 3 4 5 จะมีกี่ชั้นก็ตามที่บริษัทต้องการ แต่ที่แน่ๆ ระบบกระดาษแบบมือฉีก เขียนด้วยปากกาจะค่อยๆหายไป และแบบฟอร์มต่อเนื่องก็จะหายไปตามกันในที่สุด ด้วยการมาของอินเทอเน็ตที่ระบบจัดส่งใช้มือถือจดบันทึก จ่ายเงินโดยการโอนเข้าบัญชี ใบเสร็จรับเงินอาจไม่ต้องใช้อีก เพราะมีแบ็คอัพอยู่ในรูปแบบอิเล็คทรอนิกส์แล้ว

เครื่องเข้าเล่ม ไสกาว ของเล่นคนชอบทำหนังสือ

การทำหนังสือจะต้องมีการเย็บเล่ม รูปแบบการเย็บเล่มแบบธรรมดาที่สุดคือการเย็บด้วยแม็กซ์ ซึ่งบางคนเรียกว่าเย็บมุงหลังคา อีกรูปแบบหนึ่งที่นิตยสารต่างๆนิยมใช้กันก็คือการไสกาว

การไสกาวเป็นการทำงานที่ต้องอาศัยเครื่องมือเยอะกว่าเครื่องเย็บด้วยแม็กซ์ และเครื่องมือก็ค่อนข้างแพง ถ้าจะทำหนังสือสักพันเล่มก็คงจะต้องลงทุนเครื่องเข้าเล่มไสกาวสักแสนกว่าบาท มันถึงจะทำงานได้ทัน แต่ถ้าจะทำแค่ไม่กี่เล่ม จำพวกหนังสือออนดีมาน หรือโฟโต้บุ๊ค หรือสมุดโน้ตจำนวนน้อยๆ การลงทุนระดับแสนกว่าบาทก็ดูจะเป็นเรื่องที่หนักเกินไป

แต่เดี๋ยวนี้ถือว่าการการทำเล่มไสกาวเป็นเรื่องที่ไม่ยาก และไม่แพงเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เพราะมีเครื่องมือราคาย่อมเยาออกมาให้ใช้ มันก็คือเครื่องตัวนี้แหละ สามารถทำเล่มไสกาวได้ทีละหนึ่งเล่ม ใช้เวลาต่อเล่มประมาณ 1-3 นาที ขึ้นอยู่กับความชำนาญของผู้ใช้งาน

การมีเครื่องนี้ใช้งานร่วมกับเครื่องพิมพ์ดิจิทัลทำให้สามารถรับงานหนังสือได้จริง สามารถทำงานจบได้ในที่เดียว ไม่ต้องไปส่งให้ร้านอื่นทำต่อ สามารถควบคุมคุณภาพได้ เร่งเวลาได้ แม้จะช้ากว่าโรงงานเข้าเล่มจริงๆ แต่ถ้าแข่งกันทำ 10 เล่ม ผมว่าเครื่องนี้เสร็จก่อน และงานเรียบร้อยกว่า