พิมพ์หนังสือพ็อกเก็ตบุ๊ค

รับพิมพ์หนังสือ - 1

หนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คที่พิมพ์ปกด้วยฟอยล์สีทอง จะให้ความแวววาว หากมีมุมสะท้อนแสงที่เหมาะสมเราจะเห็นเป็นสีทองอร่าม

เนื้อหาในหนังสือคือบันทึกความคิดของนักธุรกิจท่านหนึ่ง เป็นข้อความที่โพสท์อยู่ในเพจเฟสบุ๊ค เมื่อครบจำนวน 102 โพสท์ที่เนื้อหาครบถ้วนถูกใจแล้วก็นำมารวมเล่ม เจ้าของหนังสือส่งข้อมูลดิบมาคร่าวๆ โรงพิมพ์นำมาเรียงให้เป็นอาร์ตเวิร์คสำหรับจัดพิมพ์

ในส่วนหน้าปกเดิมทีเป็นการออกแบบคร่าวๆ มีส่วนที่จะเป็นงานปั๊มฟอยล์สีทอง โรงพิมพ์จะนำแบบร่างมาปรับแต่งใหม่ จัดวางภาพและองค์ประกอบสีทองให้สามารถแยกไปทำบล๊อกปั๊มทองได้ เมื่อทุกอย่างลงตัว และเนื้อหาภายในไม่แก้ไขแล้วก็จะทำตัวอย่างเหมือนจริงด้วยระบบดิจิทัลปริ๊นท์ เราจะได้หนังสือเล่มเหมือนจริงออกมาตรวจสอบก่อนพิมพ์จริง

IMG_1822

การพิมพ์จริงใช้เครื่องพิมพ์อ๊อพเซ็ทซึ่งเป็นเครื่องจักรที่เหมาะสำหรับทำงานจำนวนมาก หากเราจะใช้เพียง 10 เล่มก็ใช้ระบบการพิมพ์ดิจิทัลได้ แต่หากจำนวนหนังสือเป็นพันเล่ม ควรจะใช้การพิมพ์แบบอ๊อพเซ็ท เพราะจำทำให้ต้นทุนต่อเล่มถูกกว่า ยิ่งพิมพ์เยอะ ราคาต่อเล่มจะยิ่งถูก หนังสือที่วางขายในห้างจำนวนมากก็จะพิมพ์ด้วยระบบอ๊อพเซ็ทแทบทั้งสิ้น

พิมพ์หนังสือสวดมนต์

ผมได้รับงานให้ออกแบบและจัดพิมพ์หนังสือสวดมนต์ ก็เลยลองทำดู รวบรวมบทสวดที่มีอยู่จำนวนมากมาจัดทำเป็นรูปเล่ม ขนาดกระทัดรัด และได้เลือกภาพที่เคยถ่ายสะสมไว้มาทำเป็นหน้าปก ซึ่งก็โชคดีที่ผมเคยถ่ายภาพเกี่ยวกับพระพุทธศาสนามาอยู่บ้าง สมัยเป็นช่างภาพหัดถ่ายภาพก็มักจะต้องไปเที่ยววัด เที่ยวอยุธยา เมื่อมีโอกาสก็ถ่ายภาพพระพุทธรูปเก็บเอาไว้ จนวันหนึ่งได้ใช้งานจริงๆ เป็นความภาคภูมิใจเรื่องหนึ่งของการถ่ายภาพ

ก่อนจะเลือกภาพนี้ขึ้นปก ก็มีการคัดเลือกไว้หลายภาพ ผมเลือกใช้ภาพถ่ายจริงเป็นภาพขึ้นปก เพราะไม่ได้มีความสามารถในการวาดภาพประกอบแนวฟุ้งๆฝันๆ เลือกภาพถ่ายที่เคยถ่ายจะเข้าทางมากกว่า ภาพเหล่านี้ถูกคัดเลือกมาให้ลูกค้าดู และลูกค้าก็เลือกภาพเศียรพระสีทองภาพนี้เป็นเล่มหลัก

_MG_6858

ภาพอื่นๆก็มาจากหลายโอกาส ทุกภาพที่คัดมาก็ดูแล้วสามารถใช้ทำเป็นปกหนังสือสวดมนต์ได้ ในรอบนี้จะใช้สามปก รอบอื่นๆก็แล้วแต่ลูกค้าว่าจะเลือกใช้ภาพไหน เพราะทางโรงพิมพ์ก็มีภาพสต๊อคที่ถ่ายเองเก็บไว้จำนวนมาก เดี๋ยวจะทะยอยนำออกมาให้เลือกใช้ทำปก หนังสือสวดมนต์ที่มีภาพถ่ายสวยๆก็น่าจะทำให้คนซื้อไปบริจาคไม่รู้สึกจำเจ ใครสนใจก็ทักเข้ามาได้ เรารับผลิตหนังสือสวดมนต์ตามสั่ง ทั้งผลิตเพื่อขาย หรือ เพื่อให้เจ้าภาพซื้อไปบริจาค

IMG_20241004_135301

_MG_1634Full-ayutthaya-11nov2007

_MG_1576Full-ayutthaya-11nov2007

021-1228x1228

S__29351943
S__29351944

สั่งซื้อหรือสั่งผลิตได้ที่

ขั้นตอนการเข้าเล่มหนังสือ on demand

ในอดีตการสั่งพิมพ์หนังสือสักเล่มด้วยมาตรฐานโรงพิมพ์จะเป็นงานที่ต้องทำจำนวนมาก อาจจะต้องสั่งผลิตสัก 1000 เล่มขึ้นไป เพราะค่าแม่พิมพ์หรือค่าเพลทก็มีราคาสูง การทำหนังสือจำนวนน้อยเป็นเรื่องที่ค่าใช้จ่ายสูงมาก แต่ด้วยเทคโนโลยีทางการพิมพ์ที่พัฒนาไปมาก ทำให้เราสามารถพิมพ์หนังสือจำนวนน้อยเล่มได้ด้วยเครื่องพิมพ์ดิจิทัล

สำหรับคนที่ยังไม่เคยสั่งพิมพ์หนังสือกับโรงพิมพ์โดยตรงขอให้เตรียมข้อมูลดังนี้
1 ภาพหน้าปก ใช้โปรแกรมออกแบบ เช่น illustrator ก็ได้ หรือจะทำภาพในเว็บ canva.com ก็ได้ หากทำในโปรแกรม illustrator ให้ส่งโรงพิมพ์ด้วยไฟล์ Ai แบบมีภาพและฟ้อนต์ที่ใช้งานไปให้ด้วย หากทำด้วย canva ให้ download งานที่เสร็จแล้วเป็นไฟล์ pdf สำหรับโรงพิมพ์ แบบมีตัดตก

2 เนื้อใน หากทำด้วยโปรแกรม microsoft word ก็ให้ export เป็นไฟล์ pdf ส่งโรงพิมพ์

นอกจากไฟล์แล้วให้ส่งข้อมูลอธิบายเป็นข้อความ ระบุ ขนาดงาน จำนวนหน้าให้โรงพิมพ์ด้วย และเมื่อโรงพิมพ์รับไฟล์แล้วก็จะทำการตรวจสอบว่าทำมาขนาดตรงตามสเป็คไหม มีกี่หน้า กระดาษปกหนากี่แกรม เนื้อในหนากี่แกรม หากทุกอย่างไม่มีปัญหาก็จะพร้อมพิมพ์

งานพิมพ์หนังสือแบบ on demand เป็นการพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ดิจิทัล และทำการประกอบเล่มด้วยการไสกาว เครื่องพิมพ์แบบดิจิทัลพิมพ์สามารถพิมพ์ปกกระดาษหนาระดับ 260g ขึ้นไป และเนื้อในที่เป็นสีหรือขาวดำก็ได้ รวมกับการใช้เครื่องไสกาวที่ออกแบบมาสำหรับงานหนังสือ on demandโดยเฉพาะ ก็ทำให้งานพิมพ์จำนวนน้อยสามารถทำได้ เหมาะกับนักเขียนที่อยากมีเล่มตัวอย่าง หรือ ครูอาจารย์ที่ต้องการทำตำราเรียนจำนวนไม่มาก หรือ คนที่มีงานสัมมนาและต้องมีหนังสือประกอบการบรรยาย

เรามาดูวิดีโอสาธิตการเข้าเล่มดิจิทัลกัน

ทำที่คั่นหนังสือ

การอ่านหนังสือที่ชอบหรือแม้แต่การอ่านหนังสือเรียนเพื่อเตรียมสอบก็เป็นสิ่งที่ต้องการความต่อเนื่อง หากเราได้อ่านหนังสือที่ชอบที่มาพร้อมกาแฟสักแก้ว ที่นั่งดีๆ แสงสว่างพอเหมาะ เราก็เหมือนได้อยู่ในสวรรค์ มันเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข และจะต้องการความต่อเนื่อง แต่เมื่อมีธุระหรือจะพักชั่วคราว จะเติมกาแฟ หรือ เข้าห้องน้ำ เราก็ต้องการที่คั่นหนังสือ

IMG_5433

ปกติหนังสือที่ซื้อจากร้าน มักจะได้แถมที่คั่นหนังสือมาด้วย แต่ของแถมก็จะเป็นแค่เศษกระดาษโปรโมชั่น บ้างก็เป็นของแถมจากหนังสือบางเล่มในร้าน ซึ่งมันก็ทำหน้าที่คั่นหนังสือได้ แต่ไม่สวย และดูไม่มีกาลเทศะที่จะให้ใช้เลย และหลายๆครั้งผมก็หาเศษกระดาษใกล้ตัวมาคั่นหนังสือแทน บางครั้งก็หยิบรูปภาพที่อัดเป็นกระดาษเอาไว้มาคั่นหนังสือ การใช้งานที่คั่นหนังสือไม่มีอะไรพิเศษ แค่กระดาษมาวางสอดไว้ แต่มันก็คงดีถ้ามีที่คั่นหนังสือที่เราชอบ หรือ เราทำเอง

ที่คั่นหนังสือจะมีขนาดพอเหมาะสำหรับใช้งานประมาณ 1.25×8 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดที่ดูแล้วสวยงาม นอกจากจะใช้คั่นแบบปกติแล้วหากจะใช้สอดในหนังสือให้จมหายไปกับเล่มหนังสือ A5 ก็ได้ เพราะหนังสือ A5 จะมีความสูงประมาณ 8.25 นิ้ว นั่งคิดเลือกรูปที่จะนำมาทำ แล้วก็ตัดสินใจว่าจะทำที่คั่นหนังสือที่มีตัวเลขปฏิทินของเดือนปัจจุบันที่ทำที่คั่นหนังสือ ก็เลยไปหาไฟล์ในอินเทอเน็ต ค้นหาคำว่า calendar 2023 vector แล้ว google ก็ส่งลิงค์มาให้ เข้าไปโหลดไฟล์ปฏิทินที่มีแจกฟรี

Screenshot 2566-08-27 at 08.07.28

โหลดไฟล์ตัวเลขปฏิทินชนิด pdf หรือ ai ก็ได้ จากนั้นก็เอาไปวางประกอบกับภาพในโปรแกรม illustrator เพื่อให้ได้อาร์ตเวิร์คที่คั่นหนังสือที่ต้องการ แล้วก็ส่งไปพิมพ์ที่โรงพิมพ์ เลือกกระดาษเนื้อหนามีความสากเล็กน้อย เป็นกระดาษเนื้อปอนด์หนา ปกติกระดาษตัวนี้จะใช้ทำการ์ดแต่งงาน ผมมีเศษกระดาษตัวนี้เหลืออยู่จำนวนมาก ใช้ทำงานตัวอย่างให้ลูกค้า บางทีก็หยิบมาทำตัวอย่างงานอื่น เอามาพิมพ์ภาพถ่ายก็สวย ตอนนี้ก็ใช้ทำที่คั่นหนังสือ

IMG_5458

IMG_20230813_171614_128

เลือกทำที่คั่นหนังสือเป็นปฏิทินเดือนสิงหาคม เพราะเป็นเดือนที่ผมเพิ่งจะเที่ยวทะเลกับครอบครัว และทำที่คั่นหนังสือในเดือนนี้ก็เลยเลือกตัวเลขของเดือนสิงหาคมปีนี้เพื่อให้เป็นที่ระลึกถึงช่วงเวลานี้ ปฏิทินเดือนเดียวก็เป็นปฏิทินได้ เราไม่จำเป็นต้องทำปฏิทินรายปีที่มี 12 เดือนก็ได้ มันเรื่องของเรา

หนังสือการตลาดแบบบอกต่อ

IMG_3651

หลังจากที่ได้รู้จักการขยายธุรกิจด้วยเครื่องมือการตลาดชนิดหนึ่งที่ใช้คำว่า การตลาดแบบบอกต่อ หรือ Referral Marketing  ผมก็เปลี่ยนแปลงความคิดตัวเองไปทีละน้อย  จากเดิมที่เคยออกจากบ้านไปหางาน ไปสู่การแย่งชิง หาลูกค้า ขายของ พยายามทุกอย่างเพื่อที่จะได้งาน  และพบว่า เราได้งานบ้าง ไม่ได้งานบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่อยู่กับความรู้สึกตลอดเวลาคือ เราโดดเดี่ยว เหมือนต่อสู้อยู่กับทุกคน

เราเคยออกจากบ้านไปงานเลี้ยงรุ่นศิษย์เก่าด้วยการพกนามบัตรไปเต็มกล่อง คิดว่าจะไปหาลูกค้าจากกลุ่มเพื่อนเก่า  แต่พอไปถึงงานเรากลับรู้สึกอยากพูดคุย ถามไถ่ เราอยากรู้เรื่องราวชีวิตของเพื่อน เราอยากเล่าเรื่องของเราให้เพื่อนฟังบ้าง เราไม่ได้อยากมาขายของ  และตัดสินใจเก็บนามบัตรไว้ ไม่หยิบแจกถ้าไม่มีใครขอ อยู่ในงานเลี้ยงรุ่นด้วยความรู้สึกอยากอยู่กับเพื่อนเก่า อยากนั่งคุยให้นานๆ  ผ่านไปสักสองชั่วโมงก็ค้นพบว่า เราไม่ได้ต้องการเป็นเซลส์ตลอดเวลา เราอยากมีเวลาสนุกสนานกับคนอื่นๆ  เวลาที่ไม่ใช่การของาน  ไม่ใช่การแย่งงาน ไม่ใช่การขอร้องให้เขาซื้อเรา

ความรู้ทางการตลาดแบบบอกต่อ เปลี่ยนให้เรารู้จักกับคำว่าให้  เปลี่ยนประโยคคำถามจากซื้อของเราไหม เป็น ธุรกิจคุณเป็นอย่างไร  เรารู้จักคนอาชีพนี้ เขาจะมีประโยชน์กับคุณไหม  คุณอยากให้เราช่วยอะไรบ้าง  ทุกคำถามไม่ได้ออกมาแบบนกแก้วนกขุนทอง แต่มันค่อยๆหลุดออกจากปากเราในการพูดคุยอย่างมีมารยาทและเชื่อว่าถูกกาลเทศะ  มันดูเหมือนเราเป็นคนผู้กว้างขวาง แต่จริงๆเราก็ยังเป็นคนธรรมดาที่บังเอิญรู้จักคนอีกหลายอาชีพ  และบางอาชีพในแวดวงของเราก็มีประโยชน์กับเพื่อนเก่า  บางคนที่กำลังมีปัญหาบางอย่าง เราก็อาจจะได้แนะนำให้คนที่เรารู้จักอีกกลุ่มหนึ่งมาช่วยเพื่อนเราได้

ยังมีเรื่องราวอีกหลายอย่างที่ได้เรียนรู้ไปกับการทำงานโดยใช้การตลาดแบบบอกต่อ  ได้เรียนรู้การตั้งเป้าหมาย การแบ่งงาน  การทำงานร่วมกันเป็นทีม และที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่ไม่เคยได้จากการทำงานตัวคนเดียวก็คือการได้หัดไว้วางใจในตัวเพื่อนร่วมทีม  เรื่องนี้เป็นเรื่องเข้าใจยาก แต่พอได้สัมผัส ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่เราจะต้องไว้ใจกัน มันเกิดผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม และทำให้เราเรียนรู้ที่จะไว้ใจลูกน้อง  และสุดท้ายมันส่งผลดีต่อบริษัท ส่งผลดีต่อธุรกิจของเราเอง

หนังสือเล่มนี้ค่อยๆเขียนจากประสบการณ์การเป็นคนทำหน้าที่บอกเล่าเรื่องน่ารู้ประจำสัปดาห์ให้กับเพื่อนร่วมงาน ทุกเรื่องที่ผมเคยเล่าก็จะถูกเรียบเรียงเป็นตัวหนังสือไว้ก่อน  ทำความเข้าใจแล้วค่อยๆเล่าให้เพื่อนฟัง  ตัวหนังสือเหล่านี้เลยถูกรวบรวมอีกครั้งให้เป็นเล่ม  เพื่อใช้ส่งต่อประสบการณ์ของการใช้การตลาดแบบบอกต่อในการทำธุรกิจ 

นอกจากความรู้สึกดีที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนในการแก้ปัญหาแล้ว  เรายังได้เรียนรู้ขั้นตอนพิเศษที่หาเรียนได้ยาก นั่นคือการคิดแบบ Growth mindset หรือการมุ่งแสวงหาการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ  หาปัจจัยที่พาธุรกิจของเราให้ก้าวผ่านวิกฤต  การวิเคราะห์หาแนวทางเพื่อเติบโตเป็นสิ่งที่ถูกฝึกฝนให้คิดและทำตลอดเวลา  ผลลัพธ์คือการพัฒนาตัวเอง  ผลลัพธ์ต่อเนื่องคือสร้างการเจริญเติบโตให้กับธุรกิจของเราเองและช่วยให้ธุรกิจของเพื่อนเติบโตไปด้วย 

อีกหนึ่งผลลัพธ์ที่ได้รับจากแหล่งความรู้ในเล่มนี้ก็คือ รู้แล้วอยากออกไปทำงาน  รู้แล้วอยากออกไปแก้ไขสิ่งที่เคยทำไว้ไม่ดีนัก  เป็นความรู้สึกที่แตกต่างไปจากความรู้ประเภทชี้ช่องรวย อ่านวันนี้พรุ่งนี้สำเร็จ  หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่แนวนั้น  เมื่ออ่านจบแล้วเราทุกคนยังคงต้องทำงานหนัก เพื่อพัฒนาคุณภาพงาน พัฒนาธุรกิจของเราเองต่อไป

สำหรับนักอ่าน  ท่านสามารถเลือกอ่านเนื้อหาในเล่มได้ตามสะดวก ไม่จำเป็นต้องเรียงลำดับ จะข้ามไปยังบทที่สนใจเลยก็ได้  เพราะทุกบทเป็นบทที่จบในตัว เชื่อว่าหนังสือเล่มนี้จะช่วยให้เข้าใจการตลาดแบบบอกต่อและใช้เป็นเครื่องมือในการทำธุรกิจของท่านได้

หากสนใจต้องการอ่านเป็นเล่ม ฝากชื่อ อีเมล ที่อยู่จัดส่งและเบอร์โทร ไว้ในแบบฟอร์มนี้ครับ

Go back

Your message has been sent

Warning
Warning
Warning
Warning.

รวมเล่มหนังสือจากบทความที่เขียนสะสม

810837

ผมเขียน content ในบล๊อกแห่งนี้มานานเกิน 10 ปีแล้ว และมีเนื้อหาเกี่ยวกับธุรกิจบางส่วนที่เขียนสรุปย่อเอาไว้ให้อ่านพอเข้าใจ เนื้อหาเกี่ยวกับการตลาดแบบบอกต่อ ซึ่งผมก็ใช้เนื้อหานี้ในการบอกเล่าให้กับเพื่อนนักธุรกิจกลุ่มหนึ่งเป็นประจำ ซึ่งพอผ่านมาหลายปี เนื้อหาก็มีหลายสิบตอน ลองเอามารวมแล้วจัดหน้าบนหน้ากระดาษ A5 ได้เกือบ 200หน้า ก็เลยรวมเป็นเล่มไปเลยดีกว่า

ปก การตลาดแบบบอกต่อ_ปกหน้า การตลาดแบบบอกต่อ

ปก การตลาดแบบบอกต่อ_ปกหลัง การตลาดแบบบอกต่อ

เมื่อคิดจะรวมเล่มก็ต้องออกแบบปก เขียนคำนำ สารบัญ ก็ใช้เวลาประมาณ 5 วันในการรวมเนื้อหา เขียนคำนำเพิ่มเติมใช้ความสามารถในการทำ Table of content ของโปรแกรม Microsoft word ช่วยสร้างสารบัญให้ ส่วนออกแบบปกหน้าและปกหลังก็ใช้โปรแกรมจัดหน้า illustrator หยุดยาว 5 วันผ่านไปก็ได้หนังสือมา 1 เล่มที่พร้อมจะแจกจ่ายเป็น e-book ซึ่งตอนนี้กำลังคิดเรื่องหาทางจัดจำหน่ายในระบบของเว็บขายหนังสือด้วย ตั้งใจว่าจะทำเป็นทั้งเวอร์ชั่น E-book และเวอร์ชั่นกระดาษ

810852

งานพิมพ์เร่งด่วน หนังสือที่ระลึกงานศพ

เพื่อนผมมีข่าวร้าย น้องชายเสียชีวิต และจัดงานศพอยู่ต่างจังหวัด เพื่อนผมอยากจะมีหนังสือที่ระลึกแจกให้กับแขกในงาน มีเวลาให้ทำประมาณ 1 วัน พอรู้ว่าจะต้องทำให้เสร็จในเวลาที่จำกัดมากๆ ก็เลยแจ้งกับเพื่อนว่า ผมขอไฟล์หนังสือแบบพร้อมพิมพ์ แล้วก็จะทำหนังสือประมาณ 100-300 เล่ม

IMG_1541

สิ่งที่ทางโรงพิมพ์จะต้องคิดทันทีคือ กระดาษจะสั่งจากโรงงานมาไม่ทันแน่ๆ ต้องใช้กระดาษที่มีสต๊อคอยู่ในโรงพิมพ์ ผมรีบเช็คทันทีว่าหนังสือจะต้องใช้ปกเป็นกระดาษหนา กระดาษ 260g เป็นกระดาษที่นิยมใช้ ส่วนเนื้อในก็มีทางเลือกเป็นกระดาษปอนด์ 70-80g ซึ่งเป็นสเป็คที่นิยมใช้ทำหนังสือ และก็จะมีกระดาษถนอมสายตา 75g ที่นิยมใช้เช่นกัน ผมให้ลูกน้องนับกระดาษทั้งหมดว่า เนื้อในเรามีเท่าไหร่ กระดาษทำปกเรามีเท่าไหร่ แล้วก็เช็คกับไฟล์ข้อมูลของเพื่อนว่า เนื้อในเมื่อทำเป็นหน้าหนังสือแล้วจะมีประมาณกี่หน้า นับหน้า แล้วก็คำนวณออกมา พบว่าเรามีสต๊อคกระดาษพอทำได้ 300 เล่ม

ปก 260g เนื้อใน 40 หน้า เล่มหนังสือประมาณ 5×7 นิ้ว ความหนาของเล่มนี้ก้ำกึ่งมาก ปกติหนังสือจำนวนหน้าไม่มากก็จะเหมาะกับการเย็บแม็กซ์มุงหลังคามากว่าไสกาว 40หน้า หรือ 20 แผ่น อาจจะไสกาวไม่สวย ผมเลยทำตัวอย่างออกมาทั้งสองแบบเพื่อดูว่าเย็บแม็กซ์สวยไหม หรือ ไสกาวสวยไหม กระดาษเกาะตัวกันเป็นเล่มได้ไหมเมื่อไสกาว และพบว่า ไสกาวก็ทำได้ เลยตัดสินใจทำเป็นระบบไสกาว

งานพิมพ์ปกใช้กระดาษ 260g พิมพ์ระบบดิจิทัล เมื่อทำเสร็จแล้วจะตัดแบ่งเป็นชิ้นๆ เพื่อไปทำเส้นพับด้วยเครื่องปั๊มแล้วรอประกอบเล่ม ส่วนตัวเนื้อใน ใช้กระดาษถนอมสายตา 75g พิมพ์ดิจิทัลขาวดำทั้งเล่ม แต่แทรกหน้าสี 1 หน้าในส่วนที่จะเป็นรูปของเจ้าของเรื่อง เพื่อให้หนังสือเล่มนี้มีภาพเจ้าของหนังสือเป็นภาพทางการซึ่งเป็นภาพสี ผมรู้สึกว่าหนังสือที่มีภาพสีธรรมชาติบางภาพเป็นหนังสือที่มีเสน่ห์มากกว่าสีขาวดำทั้งเล่ม เมื่อพิมพ์เนื้อในแล้วก็ตัดปลิวออกมาเรียงหน้า แล้วก็นำไปประกอบเล่ม เข้าเครื่องไสกาว

การไสกาวเราใช้เครื่องไสกาวสำเร็จรูป เครื่องจะหนีบเนื้อในไปวิ่งผ่านตัวไส แล้วจุ่มกาวในราง แล้วเดินไปประกบกับแผ่นปก งานไสกาวเป็นงานที่ทำด้วยเครื่องเสมอ หลังจากออกจากเครื่องไสกาวแล้วเราต้องรอเวลาประมาณ 30 นาทีเพื่อให้กาวแห้งสนิทแล้วจึงตัดเจียนให้จบเป็นหนังสือ งานนี้ พิมพ์ไป ปั๊ม ไสกาว ทำต่อเนื่องกัน และจบด้วยเครื่องตัด ใช้เวลาผลิตรวมประมาณ 8 ชั่วโมง

พิมพ์หนังสือเพื่อวางขายในห้าง

วันนี้เป็นอีกวันที่จบงานพิมพ์หนังสือที่ผมมีโอกาสได้ทำงานครบทุกขั้นตอนของการพิมพ์หนังสือเพื่อวางขาย ก่อนจะมาเป็นหนังสือเวอร์ชั่นนี้ทางโรงพิมพ์ก็ได้มีโอกาสพิมพ์เล่มก่อนหน้านี้มาแล้วครั้งหนึ่งแต่เป็นในรูปแบบของภาษาไทย และจัดวางขายในร้านหนังสือชั้นนำไปแล้ว เล่มนี้เป็นอีกเวอร์ชั่นหนึ่งที่ทำเป็นภาษาอังกฤษ

ต้นฉบับภาษาไทยถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษ เราจัดวางอาร์ตเวิร์คเลียนแบบเล่มภาษาไทย พร้อมด้วยการออกแบบปกใหม่เพื่อให้ดูไม่ซ้ำกัน และการจัดจำหน่ายเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษก็จะจัดไปขายที่ร้านหนังสือ Asiabooks ซึ่งเป็นร้านหนังสือที่เน้นการขายหนังสือภาษาอังกฤษ หลังจากเปลี่ยนปก และทำรูปเล่มด้วยระบบดิจิทัลเพื่อตรวจสอบแล้ว เรายังทำการขอเลขทะเบียน isbn ให้กับลูกค้าด้วย เมื่อได้เลขประจำตัวหนังสือแล้ว เราก็เริ่มผลิตงาน และจบเป็นเล่มตามภาพที่เห็นนี้

2022-03-31_10-31-54

ส่วนเนื้อหาภาษาอังกฤษเรายังได้เรียบเรียงใหม่ ปรับรูปแบบหน้าเสียใหม่ให้เป็นเวอร์ชั่นที่เหมาะกับการอ่านผ่านหน้าจออเล็คทรอนิกส์ เมื่อได้ต้นฉบับไฟล์ E-book ออกมาแล้วก็เตรียมส่งขายในระบบของ Amazon ไปด้วยเลย การแสดงผลในระบบ e-book จะเป็นการเรียงตัวหนังสือคอลัมภ์เดียว เพราเครื่ออ่านจะต้องสามารถปรับตัวหนังสือให้ใหญ่หรือเล็กได้ตามที่คนอ่านต้องการ คล้ายกับการแสดงผลในหน้าเว็บที่ตัวหนังสสือจะถูกสั่งให้มีขนาดเล็กหรือใหญ่ก็ได้ การเปลี่ยนขนาดตัวหนังสือได้ตามใจ ตัวข้อมูลจะต้อตัดคำใหม่ ปรับย่อหน้าใหม่ได้เสมอ ดังนั้นการเรียงหน้า การจัดหน้าจะต้องอยู่ในแบบคอลัมภ์เดียวนั่นเอง

ทำหนังสือจบไปอีกเล่ม

หนังสือ The power of dreams เป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่ได้ทำตั้งแต่ต้นจนจบ ถือว่าเป็นผลงานของสำนักพิมพ์ที่ทำครบวงจร โดยขั้นตอนการทำงานมีดังนี้

20220324122839_IMG_0120_1


1 เราจัดอาร์ตเวิร์คจากเนื้อหาของเจ้าของเรื่องตามโครงร่างเก่าที่มีอยู่ แต่ใช้ภาษาอังกฤษทั้งเล่ม โดยเจ้าของหนังสือใช้บริการผู้เชี่ยวชาญเรื่องการแปลหนังสือจากไทยเป็นภาษาอังกฤษ และส่งข้อมูลการแปลให้สำนักพิมพ์

2 เราทำเรื่องขอเลขทะเบียนอิเล็คทรอนิกส์ ISBN จากหอสมุดแห่งชาติ และลงรายละเอียดในหน้าบรรณานุกรมให้ถูกต้องตามมาตรฐาน และหนังสือเล่มนี้จะจัดจำหน่ายในร้านหนังสือเอเซียบุ๊คส์

3 ออกแบบปกใหม่ จัดทำบาร์โค้ดสำหรับพิมพ์บนปกหนังสือ

4 เมื่อจัดวางเสร็จแล้วก็ส่งตรวจความถูกต้องโดยจัดทำเป็นหนังสือตัวอย่างขนาดเหมือนจริง จำนวนหน้าเท่าจริง

5 เริ่มขั้นตอนการพิมพ์ พิมพ์ในโรงพิมพ์ของเราเอง

6 เมื่อพิมพ์เสร็จเรียบร้อยก็จัดส่งให้เจ้าของหนังสือ

7 จัดส่งตัวหนังสือเล่มตัวจริงให้หอสมุดแห่งชาติเก็บไว้ด้วย

2022-03-31_10-31-54

ระหว่างที่เริ่มพิมพ์งานบนเครื่องพิมพ์ ทางทีมกราฟิคก็จัดรูปแบบของเนื้อหาภาษาอังกฤษให้อยู่ในรูปแบบของ e-book เพื่อใช้ส่งไปฝากขายในเว็บของ amazon และเจ้าของหนังสือจะต้องไปสมัครใช้ paypal เพื่อเอาไว้รับเงินจากต่างประเทศ เจ้าของหนังสือยังเล่าให้ฟังว่าเขามีแผนจะนำไปแจกในงานบรรยายของเขาเอง และการบรรยายบางครั้งก็จะเป็นการบรรยายภาษาอังกฤษ นั่นทำให้หนังสือภาษาอังกฤษเล่มนี้ได้ถูกวางแผนการแจกจ่าย ฝากขาย และขายหน้างานสัมมนาด้วย

ข้อดีของการทำหนังสือเพื่อวางขายก็คือ

1 ได้รวบรวมความคิดความรู้ของเราที่ตกผลึกแล้ว มีคุณค่าพร้อมจะถ่ายทอดให้ผู้อื่น การจัดทำเป็นหนังสือคือการจัดระเบียบและจัดเก็บในรูปแบบที่ใช้งานง่ายเข้าถึงได้ง่าย

2 ทำเอง ส่งขายเอง ลิขสิทธิ์เป็นของเราเอง รายได้จะไม่ต้องแบ่งใคร พิมพ์ซ้ำ หรือ พิมพ์แจก ก็เป็นสิทธิ์ของเราเอง

3 ใช้แจก ใช้เป็นของขวัญ เป็นคุณค่าที่มอบให้ผู้รับในวันสำคัญต่างๆ สวัสดีปีใหม่ด้วยหนังสือของตัวเอง เท่ห์สุดยอด

4 ได้รับการยอมรับระดับสูง เพราะการทำหนังสือขายน่าเชื่อถือกว่าการโพสท์โฆษณาในฝั่งออนไลน์แต่เพียงอย่างเดียว

การทำหนังสือสักเล่มหนึ่งไม่ใช่เรื่องยาก สิ่งที่ยากกว่าทุกขั้นตอนคือ การตัดสินใจที่จะเริ่มแบ่งปันความรู้ และเมื่อพร้อมที่จะเริ่มทำแล้วขั้นตอนที่เหลือเป็นสิ่งที่หาคนช่วยทำได้ทุกขั้นตอน

S__2072603

S__2072604

ไสกาวหนังสือ 500 หน้า

วันนี้มีลูกค้าที่ได้รับการแนะนำจากลูกค้าเก่ามาท่านหนึ่ง โทรคุยกันเรื่องการไสกาวหนังสือความหนาประมาณ 500 หน้า ลูกค้าไปถ่ายเอกสารหรือพิมพ์เป็นงานกระดาษ A4 ความหนา 80g แต่ว่าร้านนั้นไม่สามารถเข้าเล่มงานที่มีความหนาประมาณ 3.5cm ได้ ซึ่งความหนาระดับนี้ควรจะต้องทำเป็นงานไสกาวเท่านั้น และการทำงานไสกาวก็จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรเฉพาะทาง

ทางโรงพิมพ์มีเครื่องไสกาวที่สามารถทำงานได้ความหนาระดับ 5cm ซึ่งโรงพิมพ์ก็ยังไม่เคยได้ลองทำงานที่หนาระดับนี้ แต่กับงานลูกค้าท่านนี้ 3.5cm เราก็คิดว่าน่าจะทำได้ แต่ก่อนจะยืนยันว่ารับงานทางโรงพิมพ์ก็ทดลองทำด้วยการใช้เสษกระดาษมาลองเข้าเล่มดู โดยกะประมาณความหนาของเศษกระดาษให้ใกล้เคียงงานจริง จากนั้นก็ทดลองไสกาวดู และเมื่อพบว่าทำได้ ก็แจ้งกับลูกค้า ลูกค้าก็ยืนยันให้ทำได้เลย

เครื่องจักรที่เราใช้ก็ดูได้จากในคลิปวิดีโอได้เลย ผลการทำงานก็ประสบความสำเร็จ ลูกค้าให้ทางโรงพิมพ์ด้วยพิมพ์ปกให้ด้วย เรารับไฟล์งานปกหนังสือจากลูกค้า จากนั้นปรับแต่งให้ปกมีความหนาของสันหนังสือเท่ากับเนื้องานตัวจริงด้วย เมื่อทุกอย่างพร้อม ก็เริ่มทำงาน

หนังสือที่ไสกาวเสร็จแล้ว รอเวลาแห้งตัวสัก 3 ชม. แล้วก็ทดลองถือแบบในคลิปดู พบกว่า หนังสือมีความแข็งแรง และไม่หลุดร่อน ก็ถือว่าจบงานได้เรียบร้อย

IMG_20220318_100231

IMG_20220318_100420

ลองทำหนังสืออ่านเล่น

หลังจากที่ได้เขียนบล๊อกแห่งนี้มาประมาณสิบปี มีบทความหลากหลายชนิด ก็เลือกบางอย่างมารวมเป็นเป็นเล่ม แล้วลองจัดวางออกแบบให้เป็นหนังสือ เนื้อหาที่เลือกมาจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอวกาศและดวงดาว เป็นการรวมเรื่องมาใส่หนังสือทันทีเลย ยังไม่ได้ปรับแต่ง หรือดัดแปลงสิ่งที่เขียน เพราะอยากรู้ว่า เนื้อหาเกี่ยวกับดวงดาวที่เคยเขียนนั้นจะเยอะพอไหมสำหรับการรวมเล่มเป็นหนังสือ

IMG_20211020_072459

เมื่อลองพิมพ์เป็นเล่มออกมาก็ได้หนังสือความหนาประมาณ 65หน้า โดยมีรูปประกอบอยู่บ้าง ด้วยความที่มีเครื่องพิมพ์ดิจิทัลใช้งานอยู่ การพิมพ์หนังสือแค่เพียง 1 เล่มเพื่อทำเป็นตัวอย่างก็เป็นเรื่องง่าย แถมยังมีเครื่องไสกาวอีกด้วย ทำให้หนังสือแบบพ็อกเก็ตบุ๊คเข้าเล่มไสสันทากาวแบบนิตยสารก็ทำได้ไม่ยากเลย

ลองเอาหนังสือให้ลูกอ่าน ลูกก็อ่านแล้วยิ้มๆ บางตอนเป็นเนื้อหาที่พ่อคุยกับลูกในตอนที่เขาอายุสัก 6 ขวบ พอมาอ่านตอน 9 ขวบ บางตอนก็ทำให้เขาหันหน้าขึ้นมายิ้ม แล้วถามกลับมาว่า วันนั้นพ่อหลอกเขาเหรอ ผมก็บอกเปล่า บางเรื่องตอนนั้นต้องเล่าแบบนั้น งานเขียนต้องเลือกเขียนสิ่งที่น่าอ่าน งานเล่าต้องเล่าสิ่งที่น่าฟัง มารยาของช่างภาพก็ต้องทำให้ภาพสวย มารยาของนักเขียนก็ต้องชักจูงให้คล้อยตาม บรรยายให้เห็นภาพ งานหนังสือเป็นงานศิลปะการเล่าเรื่อง

เนื้อหาในหนังสือตามภาพคือเรื่องนี้

พิมพ์หนังสือสำหรับวางขายในร้านหนังสือ

เมื่อประมาณสองเดือนที่แล้วผมได้รับการติดต่อให้จัดพิมพ์หนังสือเพื่อใช้วางขายในร้านหนังสือ และบางส่วนแบ่งไว้แจกในงานสัมมนา นักธุรกิจท่านนี้เป็นคนที่มีความสามารถทางด้านการพูดและการสื่อสาร มีผลงานความสำเร็จในอาชีพของตัวเองระดับสูงสุดในสายงาน และผมก็ได้รับความไว้วางใจให้ดูแลการผลิตและจัดส่งไปวางขายในร้านหนังสือชั้นนำ

20210522224349_IMG_0034

หนังสือพ็อกเก็ตบุ๊ค พิมพ์ 4 สี เนื้อหาประมาณเกือบสองร้อยหน้า เมื่อได้ต้นฉบับมาแล้วทางโรงพิมพ์ก็จะทำเล่มตัวอย่างด้วยระบบดิจิทัลออกมาเพื่อตรวจสอบว่าหนังสือทั้งหมดเมื่อพิมพ์บนกระดาษจริงจะหนาสักเท่าใด เพื่อจะได้ปรับขนาดของปกเผื่อความหนาของสันปกให้พอดีกัน และเมื่อตรวจเล่มตัวอย่างดิจิทัลแล้วก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการพิมพ์จริง

IMG_20210524_173508

การพิมพ์หนังสือ 4 สีทั้งเล่มระบบอ๊อพเซ็ท จะใช้เวลาค่อนข้างมากสำหรับเครื่องพิมพ์ขนาดที่เรามี ดังนั้นต้องจัดคิวงานของลูกค้าท่านอื่นๆให้ดี รีบโยกคิวงานสั้นทั้งหลายมาอัดให้จบเร็วที่สุด เพื่อเคลียร์คิวเครื่องพิมพ์ให้พร้อมทำงานหนังสือต่อเนื่องหลายๆวัน งานที่พิมพ์เสร็จเราก็ทะยอยจัดส่งบางส่วนให้ลูกค้า เพราะจะใช้แจกในงานสัมมนาต่างๆ ส่วนหนังสือกองใหญ่ที่เหลือก็จะเป็นส่วนที่จะจัดส่งให้กับสายส่งร้านหนังสือ ซึ่งเราเลือกใช้บริการจัดจำหน่ายของบริษัทอัมรินทร์ปริ๊นติ้ง ซึ่งจะวางขายตามร้านหนังสือหลายยี่ห้อ และ ร้านหนังสือนายอินทร์

2021-10-07_10-06-39

หลังจากจัดส่งไปสักหลายสัปดาห์ ประเทศไทยก็มีประกาศล็อคดาวน์ ห้างปิด ร้านอาหารปิด กว่าจะได้เห็นว่าหนังสือถูกจัดวางบนชั้นวางในร้านหนังสือก็ผ่านไปเกือบสองเดือน พอรู้ว่าหนังสือมีการขายแล้ว มียอดขายติดอันดับแล้วในร้านหนังสือบางแห่งบางยี่ห้อ ก็ทำให้เรารู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการทำหนังสือเล่มนี้ สำหรับโรงพิมพ์อื่นอาจจะเคยชิน ทำประจำอยู่แล้ว แต่สำหรับโรงพิมพ์ของผมเองนับว่าเป็นเรื่องใหม่ที่ท้าทายมาก และผลของการทำงานจนเสร็จสิ้นก็ทำให้เรารู้สึกภูมิใจ

2021-10-07_10-05-13